แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: กานเฟย
เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนจ้องมองที่ขวดยาของเธอ หลิงอวี๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

การเปิดเผยในคราวนี้ นางใคร่ครวญมาอย่างดีแล้ว

ขอเพียงแค่ทำให้เซียวหลินเทียนตกตะลึงก่อนเท่านั้น นางจึงจะมีโอกาสช่วยเฮยจื่อได้!

ขณะที่หลิงหยูเงยหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ทันใดนั้น มือของเธอก็ว่างเปล่า ขวดยาถูกชิวเฮ่าแย่งไปแล้ว

ชิวเฮ่าวิ่งกลับไปที่ด้านข้าง เซียวหลินเทียนเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก่อนจะส่งขวดยาให้อย่างภาคภูมิใจ

"ท่านอ๋อง ข้าได้รับยาลับมาแล้ว รีบไปช่วยเฮยจื่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"

เซียวหลินเทียนยิ้มเย้ยหยันออกมา หยิบมันขึ้นมาและมอบให้กับหมอในตำหนัก ไป๋สือที่ติดตามเขามาหลายปี

เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจะเข้าไปในห้อง หลิงอวี๋ก็กัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ยาลับสามารถห้ามเลือดของเฮยจื่อได้เท่านั้น แต่ข้าได้ยินมาว่า ซี่โครงของเฮยจื่อหัก และเสียบเข้าไปในปอดของเขา ถ้าไม่ดึงซี่โครงออกมา เขาก็ยังคงตายไปอยู่ดี!”

“หมอของพวกเจ้าจะช่วยได้หรือ? ถ้าไม่ ข้าจะรอเจ้ามาขอร้องข้า! เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะเจรจาเงื่อนไขด้วย!”

“เฮยจื่อ เป็นเพราะเจ้าที่ทำร้ายเขา… เจ้ายังกล้าเจรจาข้อตกลงกับท่านอ๋องของพวกเราอีกหรือ?”

“ถ้าเจ้าอยากตาย ข้าจะช่วยเอง!”

ชิวเฮ่าเหวี่ยงดาบออกไปอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะพุ่งเข้าไป

ครั้งนี้หลิงอวี๋ถือว่าฉลาดขึ้น ไม่รอให้เขาเข้าใกล้ก็ร้องตะโกนออกมา

“เซียวหลินเทียน แม่น้ำยังไม่ทันได้ข้ามไป ท่านก็จะรีบเร่งทำลายสะพานแล้วรึ?”

“หรือว่าท่านกับน้องสาวของเขาจะวางแผนการกัน! ก็เลยปล่อยให้เขาฆ่าข้าเสีย เพื่อที่จะได้ส่งเสริมคู่ชายชั่วหญิงเลวอย่างพวกท่าน?”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนก็เปลี่ยนเป็นดำคล้ำ

องครักษ์ทั้งหมดพากันมองไปที่ชิวเฮ่าด้วยสายตาแปลกประหลาด

ชิวเฮ่าหยุดลงทันที กัดฟันอย่างโกรธจัดแล้วเอ่ยอธิบายออกมา

"เจ้าอย่ามาพูดเรื่องไร้สาระ ทำลายชื่อเสียงของท่านอ๋องและเหวินซวง! เจ้าคิดว่าทุกคนจะไร้ยางอายเหมือนกับเจ้ารึ?"

หลิงอวี๋หัวเราะเยาะออกมา จากนั้นค่อย ๆ นั่งลงบนพื้น โดยไม่สนใจคำพูดของชิวเฮ่า เพียงแต่หยิบผ้าก๊อซออกมาพันแขนตน

เซียวหลินเทียนจ้องมองนาง รับรู้ได้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ

หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนราวจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง!

ก่อนหน้านั้นนางที่เคยโง่เขลาและหุนหันพลันแล่น ไม่เคยดูสงบเท่านี้มาก่อน

หากว่าไม่เห็นแผลเป็นที่น่าเกลียดบนใบหน้าที่คุ้นเคยของนางแล้ว เขาคงคิดว่าเป็นใครที่ปลอมตัวมา

“ท่านอ๋อง ให้คุณชายกินยาลับแล้ว เลือดหยุดไหลแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

“แต่ซี่โครงที่หักยังคงแทงอยู่ที่ปอด กระหม่อมไม่ทราบว่าจะจัดการอย่างไร..!”

หมอประจำตำหนัก ไป๋สือรีบออกมารายงานอย่างหมดหนทาง

เซียวหลินเทียนจ้องมองที่หลิงอวี๋แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา "เลือดหยุดไหลแล้ว ก็จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตใช่หรือไม่? เจ้าจะจัดการอะไรก็ทำไปเช่นนั้น!"

ไป๋สือรู้สึกละอายใจ "ก่อนหน้านั้นมีคนไข้ที่กระหม่อมกับอาจารย์ได้พบ ก็มีซี่โครงเสียบเข้าไปในปอดเหมือนกับคุณชายน้อย คนคนนั้นเลือดไหลไม่หยุดตลอดคืน จนกระทั่งเสียชีวิตในกลางดึก!"

“แม้ว่าเลือดของคุณชายน้อยจะหยุดไหลแล้ว แต่กระหม่อมเกรงว่า... หากดึงซี่โครงออก คุณชายน้อยจะเลือดไหลไม่หยุดจนสิ้นชีพได้...”

คิ้วหนาของเซียวหลินเทียนขมวดขึ้นทันที

ไป๋สือลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า "ในเมื่อพระชายามียาวิเศษ พระชายาจะต้องรู้วิธีช่วยเฮยจื่อ ให้พระชายาลองดูดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"

"นางไม่รู้ทักษะทางการแพทย์อันใด จะต้องพูดเพ้อเจ้อเพียงเพราะไม่รู้ว่ายาลับนี้ได้มาจากที่ใด ท่านอ๋องอย่าเชื่อนางดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ!" ชิวเฮ่าเอ่ยออกมาอย่างกระวนกระวายใจ

“ใช่แล้ว ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าพระชายาจะมีทักษะทางการแพทย์ โป้ปดแล้ว! เมื่อครู่นี้พระชายาเพิ่งจะร้องขอพ่อบ้านให้ช่วยตามหมอมาดูเสี่ยวเมา หากว่ารู้ทักษะการแพทย์แล้ว จะต้องร้องขอพ่อบ้านด้วยเหตุใดเล่า?”

หญิงสาวผู้หนึ่งยืนถือถาดอยู่ที่ประตู แต่ไม่รู้ว่านางมาตั้งแต่เมื่อใด

ชิวเหวินซวง?

หลิงอวี๋มองไปยังใบหน้าของนาง ในหัวก็เกิดภาพการทะเลาะกับนางขึ้นมา...

อ๋องอี้กลับเมืองหลวงมาครึ่งปี หลิงอวี๋ได้รับความสูญเสียจากชิวเหวินซวงทั้งในที่ลับและที่แจ้งมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

หลิงอวี๋ถูกอ๋องอี้และคนรับใช้ในตำหนักเกลียดชังขึ้นเรื่อย ๆ หญิงผู้นี้ต้องมีส่วนที่ทำให้เกิดความเกลียดชังนี้เป็นแน่

หลิงหลานเคยกล่าวไว้ว่า ชิวเหวินซวงรักเซียวหลินเทียน ถึงได้ลอบทำความลำบากให้พวกนางทั้งในที่ลับและที่แจ้ง แต่หลิงอวี๋ก่อนหน้านั้นประมาท มิได้เอาคำพูดเหล่านี้มาใส่ใจ!

ในเวลานี้ เมื่อมองเห็นชิวเหวินซวงสวมใส่อาภรณ์งดงาม

กลางดึกดื่น ยังคงทาแป้งแต่งหน้าเช่นนี้...

ในใจของหลิงอวี๋ก็เชื่ออย่างแน่แท้แล้วว่า คำที่หลิงหลานเอ่ยมานั้นเป็นความจริง

ที่หญิงผู้นี้เป็นก็คือโสเภณีในยุคสมัยใหม่!

หญิงผู้นี้จะต้องหลงรักเซียวหลินเทียนเป็นแน่!

จะต้องคิดที่จะนั่งในตำแหน่งของพระชายา!

ชิวเฮ่าถึงได้กล้าลงมือกับเสี่ยวหลัวโปด้วยการเตะอันโหดร้าย แถมยังต้องการฆ่าตนเอง ทั้งหมดนี่ก็เพื่อปูทางให้ชิวเหวินซวงได้แต่งงานกับเซียวหลินเทียนมิใช่หรือ?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2602

    ขณะที่ฉีเต๋อกำลังยืนเฝ้าอยู่อย่างสง่าผ่าเผย จู่ ๆ เขาก็เหลือบไปเห็นสตรีผู้หนึ่งกำลังจ้องมาที่ตนมิวางตาฉีเต๋อปรายตามองไปแล้วหันไปทางอื่นอย่างมิสนใจ แต่หลังจากนั้น ฉีเต๋อกลับหันกลับมาอีกครั้ง แล้วจ้องมองสตรีผู้งดงามนางนั้นอย่างมิอยากจะเชื่อสายตาใบหน้าของสตรีผู้นั้นแย้มยิ้มละมุน และกำลังมองเขาอย่างอบอุ่นและแฝงไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู“ฮองเฮา… องค์จักรพรรดิ…”เมื่อฉีเต๋อเห็นใบหน้าของหลิงอวี๋ได้ชัดเจน ต่อจากนั้นก็เห็นเซียวหลินเทียนด้วย เขาจึงมิรีรอรีบพุ่งไปคุกเข่ากลางถนนทันที น้ำเสียงเขาสะอื้นไห้ และน้ำตาไหลรินจนเต็มใบหน้าหนึ่งปีกว่าแล้ว!พวกเขาทั้งหมดต่างก็เงยหน้ารอคอยองค์จักรพรรดิและฮองเฮาที่ในที่สุดก็กลับมาอย่างปลอดภัยอย่างมีความหวัง!“ฮองเฮา… หนึ่งปีกว่าแล้ว บ่าวยังคิดว่าท่าน… ท่าน...”ฉีเต๋อตื้นตันเสียจนพูดมิออกเหล่าองครักษ์กองทัพหลวงที่อยู่ด้านข้างก็ต่างพากันมองไปทางขันทีเสี่ยวฉีที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์รัชทายาทกำลังคำนับให้บุรุษสตรีคู่หนึ่งรู้สึกตื้นตันจนพูดมิออกเช่นกันกระทั่งองครักษ์กองทัพหลวงเหล่านั้นพินิจพิจารณาหลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนทันทีที่มองไป พวกเขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2601

    ภายใต้การชี้แนะของท่านลุงหลี่ หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนจึงได้เห็นชลประทานขุดใหม่ที่เรียงรายอย่างดีเป็นระเบียบ และเป็นประโยชน์ให้ราษฎรที่ทำการเกษตรได้จริง ๆทั้งสองคนพูดคุยกับครอบครัวของท่านลุงหลี่อยู่อีกสักพักใหญ่ จึงได้รู้ข่าวจากคนในครอบครัวของท่านลุงหลี่ว่าในราชสำนักมิได้เกิดเรื่องใหญ่ใด ๆ ขึ้น ทุกอย่างล้วนดำเนินไปตามแผนพัฒนาที่หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนวางไว้ก่อนหน้านี้อย่างเรียบร้อยทั้งสองคนรู้สึกปลื้มใจยิ่งนัก จากนั้นก็กล่าวลาครอบครัวท่านลุงหลี่ และจ่ายเงินซื้อม้าสองตัวกลับเมืองหลวง“ข้ามิคาดคิดเลยจริง ๆ ว่าในราชสำนักจะสงบสุขเช่นนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกก่อนหน้านี้เพื่อที่จะแย่งชิงบัลลังก์กัน เหล่าองค์ชายต่างก็วางแผนหลอกลวงกัน และต่อสู้กันเองภายในเดิมทีเซียวหลินเทียนคิดว่า เมื่อตนและหลิงอวี๋มิอยู่ในราชสำนัก อาศัยท่านอดีตเสนาบดีและท่านอ๋องเฉิงก็คงมิอาจควบคุมพวกคนชั่วร้ายเหล่านั้นได้ไหนเลยจะคิดว่าแม้ตนจะมิอยู่ ในราชสำนักก็สามารถสงบเรียบร้อยได้เช่นกันหลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกไป “แม้ใจคนจะยากแท้หยั่งถึง แต่พวกเราก็ต้องเชื่อว่าคนส่วนใหญ่เป็นคนใจดีเพคะ ดังเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2600

    เมื่อได้ยินหลิงอวี๋เอ่ยถามเช่นนั้น ลูกสะใภ้ของท่านลุงหลี่ซึ่งเป็นสตรีซื่อ ๆ คนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา แล้วจับมือหลิงอวี๋ไว้พร้อมทั้งเอ่ยถามว่า “น้องหญิง เจ้าเลี้ยงวัวเลี้ยงแกะเป็นหรือไม่?”“เย็บปักถักร้อยเล่า เป็นหรือไม่?”“หมู่บ้านตระกูลหลี่ของพวกเรามีโรงงานอยู่หลายแห่งทีเดียว ทั้งหมดล้วนเหมาะให้สตรีไปทำงานทั้งนั้น!”“ขอเพียงเจ้ามิเกียจคร้านและขยันทำงาน มินานก็จะมีชีวิตอยู่อย่างราบรื่นในหมู่บ้านตระกูลหลี่แน่นอน!”ลูกชายของท่านลุงหลี่ก็เข้ามาเช่นกัน เขาเอ่ยก็กับเซียวหลินเทียนว่า “ดูเจ้าท่าทางมีการศึกษา หากทำไร่นามิไหว ขอเพียงรู้ตำรา ข้าก็สามารถแนะนำเจ้าให้ไปเป็นครูที่หออักษรในหมู่บ้านได้นะ!”เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ตกตะลึง เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนตนเคยมาหมู่บ้านตระกูลหลี่ หมู่บ้านนี้ไม่มีแม้แต่หออักษรเนื่องด้วยความยากจนข้นแค้นนี่เขาเพิ่งจากไปเพียงปีกว่า ไหนจึงจัดตั้งหออักษรได้แล้วเล่า?“ท่านลุง ข้าจำได้ว่าเมื่อก่อนเคยมาที่นี่ หมู่บ้านของพวกท่านแร้นแค้นยิ่ง แค่จะมีกินให้อิ่มท้องก็ยังเป็นปัญหา แล้วไหนมิได้มาสักพักใหญ่ เหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงไปมากถึงเพียงนี้หรือ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามออกไปอย่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2599

    สิบสองนักษัตร สิบสองประตู หากด้านในมีความรู้ที่ล้ำสมัยทั้งหมด เช่นนั้นเมื่อเรียนรู้และนำมาใช้อย่างถูกทางก็สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติได้แต่หากพบเจอคนเช่นอูอวี๋หลานหรือหลงหมิง เมื่อคนเช่นนั้นได้เรียนรู้แล้วก็อาจกลายเป็นหายนะต่อผู้คนในใต้หล้าได้!การที่เจ้าของตำหนักใต้ดินตั้งนาฬิกาทรายเอาไว้ บางทีอาจจะเป็นเพราะคิดว่าในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ คนที่มีวาสนาได้เข้ามาในตำหนักใต้ดินสามารถเรียนรู้ได้เท่าใดก็ตามนั้นไปเถิด!หลิงอวี๋คิดถึงขั้นที่ว่า บางทีการจะได้เรียนรู้สิ่งใด ก็อาจขึ้นอยู่กับโชคชะตาของแต่ละคนด้วย“พวกเรากลับกันเถิดเพคะ!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิอยากจากตำหนักใต้ดินไปเช่นนี้ แต่นางก็รู้ดีว่าโชคชะตาของตนและเซียวหลินเทียนกับตำหนักใต้ดินได้สิ้นสุดลงแล้วต่อให้พวกเขาจะอยู่ที่นี่ต่อและใช้ความพยายามอย่างหนัก ก็มิอาจเปิดประตูบานนี้ได้หากตำหนักใต้ดินแห่งนี้ยังมีโอกาสในการเปิดครั้งสุดท้าย ก็ให้เป็นโอกาสของผู้มีวาสนาคนอื่นเถิด!“ไปกันเถิด!”ภายใต้คำชี้แนะของหลิงอวี๋นั้นทำให้เซียวหลินเทียนคิดได้เช่นกัน เขาจึงจูงมือหลิงอวี๋ แล้วทั้งสองก็เดินลงจากภูเขาไปด้วยกัน“อาอวี๋ เจ้าคิดว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2598

    “เซียวหลินเทียน เมื่อครู่ท่านบอกว่าเห็นว่ามีคนเข้าไป ท่านรู้ได้อย่างไร?”เดิมทีหลิงอวี๋ยังคิดว่าตนกับเซียวหลินเทียนคือคนแรกที่เข้าไปในตำหนักนี้ มิคาดคิดว่าจะมีคนเข้าไปก่อนหน้าแล้วทันใดนั้น นางก็นึกถึงก้อนหินลึกลับก้อนนั้นของอูอวี๋หลาน หรือว่าก่อนหน้านี้อูอวี๋หลานจะเคยเข้ามา?ภายในห้องที่ตนเข้าไปมิพบหินเช่นนั้น บางทีเซียวหลินเทียนอาจจะพบหรือ?“ศพหนึ่งศพ!”“ศพ?”หลิงอวี๋ตกใจจนเอ่ยออกไปโดยมิรู้ตัว “เช่นนั้นก็แสดงว่ามีคนเคยเข้ามาก่อนหน้าเราจริง ๆ หรือ?”“เขาตายอย่างไรเพคะ? หรือว่าเพราะอยู่เกินเวลาจนออกมามิได้ จึงถูกขังอยู่ด้านในจนตาย?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วแล้วตอบออกไป “ข้าตรวจดูแล้ว เป็นศพบุรุษ ใบหน้าดำคล้ำ ดูจากลักษณะแล้วถูกพิษจนตาย!”“แต่ร่างกายของเขาคงสภาพดีมาก น่าจะเป็นดังที่เจ้าว่า เป็นเพราะอากาศที่พิเศษภายในตำหนักจึงเป็นเช่นนั้น!”เซียวหลินเทียนพูดแล้วก็หยิบแหวนพระสุเมรุและหยกที่นำมาจากศพยื่นให้หลิงอวี๋“เมื่อครู่ตอนอยู่ด้านในข้าไม่มีเวลาตรวจดูให้ละเอียด เจ้าลองดูหยกนี้ที บนหยกสลักมังกรไว้ด้วย!”“หรือว่าเขาจะเป็นคนของตระกูลหลง?”หลิงอวี๋รับหยกมา จี้หยกทำมาจากหยกเนื้อด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2597

    หลิงอวี๋สงบจิตใจแล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวทั้งเจ็ดก็เห็นว่าดวงดาวทั้งเจ็ดนั้นประเดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็นเรียงแถวกัน ประเดี๋ยวก็เคลื่อนไหวอีกในตอนนี้หลิงอวี๋ยังมิสามารถเข้าใจความหมายของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ แต่ก็ยังคงพยายามจดจำรูปแบบการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อย่างเต็มที่กระทั่งดวงดาวทั้งเจ็ดมิเปลี่ยนแปลงแล้ว หลิงอวี๋จึงได้พบว่าเวลาผ่านไปมากแล้วนางจึงรีบวิ่งออกมาแล้วเข้าไปในประตูปีกุนภายในห้องนี้มีเมล็ดพันธุ์วางอยู่จำนวนมากและมีหลากหลายชนิด​ ทำให้คนที่มิคุ้นเคยด้านการเกษตรนักเช่นหลิงอวี๋มิสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเมล็ดอะไรบ้างแต่นางก็มิได้สนใจแล้วเช่นกัน นางคว้าเมล็ดเหล่านั้นหลายกำใส่ไปในกระเป๋าเดิมทีนางคิดจะเก็บเข้าไปในมิติ แต่นางพบว่าในตำหนักใต้ดินนี้มิสามารถใช้มิติได้นางรู้สึกกังวลขึ้นมา​ นี่น่าจะเป็นเขตกำบังที่เจ้าของตำหนักติดตั้งไว้กระมัง มิฉะนั้นด้วยหยกหล้าสุขาวดีในตัวของตน ก็เพียงพอที่จะย้ายตำหนักใต้ดินแห่งนี้เข้าไปได้เลยทีเดียวเมื่อหลิงอวี๋กำลังจะไปสำรวจประตูที่สาม ในนาฬิกาทรายก็เหลือทรายอยู่เพียงเล็กน้อยแล้วหลิงอวี๋รู้สึกค่อนข้างเสียดาย จึงรีบเปิดประตูมะแมเข้าไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status