แชร์

พบหน้า

ผู้เขียน: lianlian
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-05 07:50:58

โบราณว่า "พบศัตรูบนทางแคบ" ไม่ว่าจะเกลียดคนผู้นั้นมากเพียงใดจะหลบเลี่ยงเพียงไหนก็ยังมีโอกาสพบเจอ แล้วประสาอะไรกับฉางซื่อหลางที่ตอนนี้ยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายของนาง

"คุณหนู คุณชายฉางมาขอพบเจ้าค่ะ" เด็กสาวผูกมวยผมสองข้างหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูเดินเข้ามาในบ้านด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก นางคือ หลินหลาง สาวใช้ที่บิดาของนางซื้อตัวมาในขณะหลินหลางคุกเข่าข้างศพมารดา ประกาศตนว่าจะขอขายตัวเป็นข้ารับใช้หรือเป็นม้าเป็นวัวจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ทั้งนางและหลินหลางสนิทสนมรักใคร่ราวกับพี่น้องร่วมอุทรก็ไม่ปาน

ทว่าหลังจากที่หานฉงหรงถูกเรียกตัวมายังเมืองหลวง ในระหว่างที่นางตั้งครรภ์ซื่อหลางจึงเรียกหลินหลางมาเพื่ออยู่ปรนนิบัติรับใช้นางระหว่างตั้งครรภ์ แต่ใครจะคาดคิดว่า วันหนึ่งของการตั้งครรภ์ในเดือนที่ห้า หลินหลางกลับมาที่ห้องด้วยสภาพที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ หลังจากที่หานฉงหรงคาดคั้นอยู่นานนางจึงยอมสารภาพว่า ฉางซื่อหลางเมามาย องค์หญิงเวินอี๋สุขภาพมิสู้ดีไม่ยินยอมปรนนิบัติ ส่วนนางตั้งครรภ์มิอาจร่วมอภิรมย์บนเตียงได้ ซื่อหลางจึงฉุดคร่านางเข้าห้อง ใช้กำลังบังคับนางด้วยแรงกำหนัดกล้าโดยที่หลินหลางมิยินยอม ตอนนั้นฉงหรงหมายไปเอาเรื่องแต่ถูกอีกฝ่ายห้ามเอาไว้ทั้งน้ำตาเพราะไม่อยากให้สองสามีภรรยาต้องมีนางเป็นต้นเหตุของความบาดหมาง จากนั้นไม่นานนักหลินหลางก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่บ่อน้ำหลังจวน โดยที่นางยังไม่ได้พูดคุยกับซื่อหลางที่จะเลื่อนหลินหลางขึ้นเป็นเผยฝาง (เผยฝาง (陪房) หมายถึงสาวใช้ของภรรยาเอกที่ติดตามมาและช่วยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงให้ฝ่ายชายตามคำสั่งของภรรยาเอก)

นั่นคือฉากหน้าที่นางล่วงรู้...

หลังจากรู้ว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน นางสงสัยมาพักหนึ่งแล้วว่า ตัวนางตอนที่อยู่ในจวนราชบุตรเขยระมัดระวังเรื่องหยูกยาและอาหารการกินแทบทุกอย่างจนแทบเข้าขั้นหวาดระแวง ไฉนนางถึงยังได้ถูกลอบวางยาพิษจนอาการป่วยทรุดหนักเช่นนั้น

นอกจากจะมีเกลือเป็นหนอน...

"คุณหนูเจ้าคะ" น้ำเสียงหวานใสของหลินหลางดังขึ้นอีกครั้ง

ครานี้หานฉงหรงจึงขานรับเบาๆ ทีหนึ่ง ท่าทางเกียจคร้านอย่างยิ่ง "ซื่อหลางมาหรือ ก็ให้เขามาสิ"

หลินหลางเลิกคิ้วท่าทางประหลาดใจ ปกติเวลาที่นางมารายงานคุณหนูของนางว่าฉางซื่อหลางมาหา ยังมิทันได้เห็นหน้าฉงหรงก็ยิ้มกว้างเสียยิ่งกว่ากว้าง ตั้งหน้าตั้งตารอคอยด้วยใจจดจ่อ ไม่มีทางมีท่าทีเช่นนี้ให้เห็นมาก่อนเด็ดขาด

หานฉงหรงเมินท่าทีของหลินหลาง พลางโบกมือเบาๆ ให้เด็กสาวไปพาอาคันตุกะคนใหม่เข้ามา หลินหลางทำตามคำสั่งอย่างคล่องแคล่วว่องไว ปล่อยให้หานฉงหรงจมจ่อมกับความคิดตนเอง

ปลายเล็บสีชมพูอ่อนจากน้ำคั้นดอกเทียนบ้านเขี่ยขอบถ้วยชาเบาๆ จนเกิดเสียงก้องกังวานใส คล้ายต้องการให้เสียงนั้นทำให้นางจิตใจสงบลง

ก่อนที่นางจะกลับมายังอดีต เทพเซียนที่ทำให้นางสมความปรารถนาถามย้ำกับนางครั้งหนึ่งว่านางทำใจที่จะเผชิญหน้ากับฉางซื่อหลางโดยไม่กระโดดเข้าบีบคออีกฝ่ายด้วยความโกรธแค้นได้หรือไม่

นับว่าเป็นโอกาสดีที่จะทดสอบตนเอง

เนื่องจากหลินหลางบอกนางเพิ่มว่าวันนี้เป็นวันหยุดของฉางซื่อหลาง ทำให้หานฉงหรงได้เห็นอีกฝ่ายในชุดธรรมดาสามัญที่มิใช่ชุดมือปราบเหมือนที่เคยเห็นในทุกๆ วัน ชายหนุ่มสวมชุดหลันผาวสีน้ำเงินเข้ม พร้อมหมวกสีดำครอบมวยเรียบร้อยเหมาะสมเข้ากับหน้าตาหล่อเหลาสะอาดสะอ้าน ที่เอวประดับด้วยถุงหอมปักลายนกสาลิกาเคียงกิ่งหลานฮวาที่หานฉงหรงมอบให้เพื่อสื่อถึงความรักที่หอมหวานสดชื่นของพวกนาง

แต่ในยามนี้นางอยากตีมือคู่นี้ของตนให้หัก ฐานไม่รักดีไปนั่งหลังขดหลังแข็งปักถุงหอมให้ชายชั่วตรงหน้าพรรค์นี้ทำไมกัน!

แม้ในใจจะคิดเช่นนี้ แต่คำพูดที่เอ่ยออกมาหลังจากลอบถอนหายใจยาวเหยียดกลับเป็นคำพูดที่แฝงเร้นด้วยความปีติยินดีพร้อมทั้งใบหน้างามที่ปรับเป็นแช่มชื่นหลังจากที่งอง้ำไม่น่าดู “ซื่อหลาง เจ้ามาแล้วหรือ”

“ข้าเองก็มาหาเจ้าก่อนไปทำงานทุกวัน ยังทำท่าดีอกดีใจถึงปานนี้ ยังไม่คุ้นชินอีกหรือ” ซื่อหลางจับมือหานฉงหรงพลางดุเสียงอ่อน แต่ก็จับได้ถึงความรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องที่มีหญิงรอคอยเขาอย่างใจจดใจจ่อเช่นนี้

“เจ้าอย่าได้ดุข้านักเลย ข้าดีใจที่เจอเจ้าทุกวัน จะให้ทำอย่างไรก็ไม่คุ้นชินหรอก” หานฉงหรงตอบเสียงอ่อนหวานพร้อมชักมือตนเองกลับคืนโดยไม่ลืมลอบเช็ดมือของตนกับกระโปรงสีฟ้าอ่อนปักลายปุยดอกหลิ่วพลิ้วพรายพร้อยไปทั้งผืน ทว่าพอทิ้งมือของตนตกลงข้างตัว ฉางซื่อหลางก็รีบคว้ามือนางไปอีกครั้งพร้อมกับของบางอย่างในมือ

เมื่อฉงหรงยกมือขึ้นมองก็พบว่าในมือนางเป็นปิ่นอวิ๋นเหยาทำจากเงินแท้มากราคาประดับด้วยพลอยและหยกเม็ดจิ๋ว ดูกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักน่าเอ็นดูอย่างยิ่ง

แม้จะรู้สึกอยากขว้างไปให้พ้นตาไม่ต่างจากปิ่นของหมั้นที่นางโยนทิ้งอย่างไม่แยแสอยู่ในห้อง แต่หานฉงหรงเองก็ต้องทำหน้าซาบซึ้งเหมือนจะร้องไห้ “งดงามยิ่ง เจ้าซื้อมาเพื่อข้าเช่นนั้นหรือ”

ฉางซื่อหลางส่ายหน้า “ไม่ใช่ของที่หาซื้อได้จากตลาด หากแต่เป็นของที่สั่งทำเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ”

ถึงในใจจะนึกเคลือบแคลง แต่หานฉงหรงก็จำใจเล่นไปตามน้ำ ตรงเข้าสวมกอดฉางซื่อหลางอย่างอ่อนโยน “ซื่อหลาง เจ้าดีกับข้ายิ่ง ข้าโชคดีนักที่จะได้แต่งงานเป็นภรรยาของเจ้า”

ฉางซื่อหลางคลี่ยิ้มอ่อนโยนก่อนกอดตอบหญิงสาวอย่างเปี่ยมรัก ทว่าในชั่วเสี้ยววิบตานั้นหานฉงหรงกลับเห็นความผิดปกติอย่างหนึ่ง

หลินหลาง...สาวใช้ของนางกำลังทำหน้าบึ้งตึงคล้ายไม่รู้สึกยินดี มือบอบบางยกขึ้นขยำสาบเสื้อแน่นจนสิ่งที่ซ่อนอยู่โผล่แพลมออกมา เป็นโลหะเงินแวววาวลายเมฆขดแบบเดียวกับปิ่นอวิ๋นเหยาที่หานฉงหรงเพิ่งได้รับมา...หานฉงหรงเห็นดังนั้นจึงอดลอบถอนใจอย่างสมเพชไม่ได้

ตัวบัดซบฉางซื่อหลาง...แท้จริงของที่สั่งทำนั้นมิใช่เพื่อข้าโดยเฉพาะ...

นอกจากข้าแล้ว แม้แต่สาวใช้ หญิงชาวบ้านร้านตลาด หรือแม้แต่นางคณิกาในย่านเริงรมย์ คงมีปิ่นอวิ๋นเหยาแบบเดียวกันนี้ประดับเรือนผมทั่วเมืองแล้วกระมัง...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   นายหญิงของจวนเป่ยหนานที่แท้จริงคือ...2

    น้ำเสียงที่พยายามควบคุมให้สุขุมสมวัยดังมาจากด้านหลังของหานฉงหรง เมื่อชายหนุ่มเงยหน้ามองก็เห็นว่าเป็นบุคคลที่คุ้นเคย“...หานปั๋วซื่อ”“เมื่อครู่กระหม่อมเห็นท่านเหวินซิ่วกำลังตามหาตัวrพระองค์ดูร้อนรนอย่างยิ่ง ท่าทางจะมีเรื่องสำคัญต้องการรายงาน กระหม่อมคิดว่าพระองค์รีบเสด็จไปพบเขาเถิดพ่ะย่ะค่ะ” จากนั้นหานเซี่ยงอวิ๋นจึงหันไปเอ่ยกับบุตรสาวที่ยังตกตะลึงไม่หาย “หรงเอ๋อร์ พวกเราเข้าบ้านกันเถิด อย่ารบกวนท่านอ๋องอีกเลย” แล้วจึงจับจูงมือของหานฉงหรงเข้าไปในเรือนโดยไม่รอให้นางตอบรับอวิ๋นรุ่นนั่งอยู่ที่ศาลาน้อยอยู่ครู่หนึ่ง จึงเห็นเหวินซิ่วกำลังเดินมาหาเขาด้วยท่าทางประหลาดใจ “ท่านอ๋อง ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่เล่าพ่ะย่ะค่ะ”“...” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบเขา เพียงเงยหน้ามองคนสนิทของตนพลางเอ่ย “ไม่ใช่ว่าเจ้ามีรายงานด่วนต้องรายงานข้าทันทีเลยตามหาข้าเสียให้วุ่นหรอกหรือ”เหวินซิ่วกลับทำหน้าเหมือนได้ยินเรื่องพึลึกพิลั่น “วันนี้เป็นวันหยุดของหน่วยงานต่างๆ กระหม่อมจะมีเรื่องอันใดต้องรีบรายงานพระองค์ล่ะพ่ะย่ะค่ะ ช่วงนี้จึงว่างอย่างยิ่ง ตั้งใจว่าจะไปหาซื้อปูขนสดๆ มาให้ห้องครัวต้มเป็นมื้อเย็นสักหน่อย ช่วงสารทฤดูเช่นนี้ทั

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   นายหญิงของจวนเป่ยหนานที่แท้จริงคือ...1

    หานลู่สนทนากับหานฉงหรงต่อจากนั้นอีกครู่หนึ่งก็ผละไปหาหย่งเยี่ยที่กำลังเล่นว่าวอยู่บริเวณลานกว้าง ท่าทีสนุกสนานร่วมไปกับเด็กชายช่างผิดกับท่าทีเมื่อครู่ราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ นางส่ายหน้า ก่อนกลับไปยังเรือนของตน หยิบเกาลัดกองใหญ่ที่ให้ข้ารับใช้เก็บมาสดๆ นำมาแกะเปลือกนอกต้มจนสุกแล้วค่อยแกะเยื่อเปลือกเพื่อทำเกาลัดเชื่อมเพิ่มเติมเกาลัดต้มสุกเปลือกนิ่มแกะได้ง่าย เพียงใช้มีดเล็กผ่าเล็กน้อยก็ได้เนื้อเกาลัดสีเหลืองอร่ามจำนวนหนึ่ง ขณะที่กำลังหยิบเกาลัดลูกใหม่มาปอก ก็เห็นมือข้างหนึ่งมาหยิบเกาลัดแกะเปลือกกินก่อนนั่งลงข้างๆ หานฉงหรงเอ่ยโดยไม่ได้หันมามอง “ท่านอ๋องเสวยเกาลัดเชื่อมมากขนาดนั้นแล้วยังมาเสวยเกาลัดนี้อีกหรือเพคะ”“ของในจวนข้า ข้าอยากกินเมื่อใดก็ย่อมได้” เขาว่าอย่างอวดดื้อถือดี และตอกย้ำความคิดนั้นด้วยการเอาเกาลัดเข้าปากอีกเม็ด นางทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ถ้าหานลู่ผู้นั้นมาเห็นท่าทีเยี่ยงอันธพาลน้อยของเขาในตอนนี้ยังจะชมชอบลงอีกหรือไม่ “องค์หญิงเสด็จกลับแล้วหรือเพคะ”อวิ๋นรุ่นพยักหน้า “กลับไปเสียได้ก็ดี”หานฉงหรงกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ อึดใจหนึ่งจึงถามต่อ “วันนี้ลมอันใดหอบนางมาเล่

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 4

    หานฉงหรงเดินมาได้ระยะหนึ่งจึงเอ่ย “เวินหมัวมัว ข้าทำเกินไปหรือไม่”ถึงแม้นางจะไม่พอใจที่ถูกว่าร้ายลับหลัง ทว่าการตัดปลายลิ้นนั้นแม้ไม่ได้ทำให้เป็นใบ้ เพียงพูดจาอ้อแอ้ไม่ได้ศัพท์ แต่การเสนอโทษนี้ออกไปก็นับว่าเกินไปมากทีเดียว โดยเฉพาะอวิ๋นรุ่น อีกฝ่ายจะมองว่านางเหี้ยมโหดทำเกินกว่าเหตุหรือไม่เวินหมัวมัวส่ายหน้าน้อยๆ “คุณหนูไม่ต้องกังวล ฮวาหลันทำเรื่องสามหาวเช่นนี้กับท่านลับหลังนั้นมิใช่ครั้งแรก อีกทั้งมีความคิดไม่เหมาะไม่ควรกับท่านอ๋อง ท่านอ๋องทรงทราบเรื่องนี้มาตลอด แต่ที่แล้วมาไม่ได้สั่งลงโทษเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องนองเลือดในจวนโดยไม่จำเป็น แต่เรื่องในวันนี้นับว่าเป็นฟางเส้นสุดท้าย ลงโทษนางเช่นนี้นับว่าไม่เกินกว่าเหตุ ท่านอ๋องไม่ถือโทษท่านหรอกเจ้าค่ะ”หานฉงหรงเบิกตา ใบหน้าเป็นสีระเรื่อคล้ายเด็กน้อยที่ถูกผู้ใหญ่จับได้ว่าแอบกินขนมหวาน “ข้า...ข้าไม่ได้คิดเรื่องนั้น”เวินหมัวมัวยิ้มพลางถอนใจ “ที่ข้าน้อยมาอยู่ข้างกายท่านในวันนี้นอกจากจะลงโทษบ่าวโอหังผู้นั้นแล้ว ท่านอ๋องยังให้ข้าน้อยมาดูแลท่าน วันนี้องค์หญิงมาที่นี่โดยพาสาวงามมาด้วยถึงสองคน ถ้าไม่คิดจะมาระรานท่านเหมือนที่เคยทำ ก็คงเกี่ยวข้อ

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 3

    ที่แท้เป็นเวินหมัวมัว แม่นมของอวิ๋นรุ่นที่อยู่ในจวนมานาน นับว่าเป็นคนเก่าคนแก่ผู้หนึ่ง ใบหน้าของนางเรียบเฉยดุจรูปปั้นขณะที่เอ่ยด้วยวาจาสั้นกระชับ “พวกเจ้าเป็นเพียงบ่าวมีสิทธิ์อันใดนินทาเจ้านายกัน ไปหาพ่อบ้านรับโทษเฆี่ยนคนละสิบทีเสีย”“เจ้าค่ะ” ทั้งสองรับคำด้วยใบหน้าซีดเผือด ทำท่าจะผละออกไปอย่างนอบน้อม ทว่าสายตาคมกริบพลันตวัดไปยังนางกำนัลปากแดงนางนั้น “ส่วนฮวาหลัน เจ้ามานี่”นางกำนัลปากแดงนามฮวาหลันห่อไหล่ทำตามอย่างว่าง่าย ท่าทางหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ทันที่จะกล่าวอันใด ฝ่ามือขาวเนียนของหมัวมัวผู้นั้นก็ตวัดใส่พวงแก้มใสทั้งซ้ายขวา การกระทำนั้นทั้งรวดเร็วทั้งดุดันจนไม่ทันตั้งตัว ไม่นานสองแก้มของนางกำนัลผู้นั้นก็แดงเถือก ซ้ำยังมีรอยเล็บจางๆ ที่เริ่มมีเลือดซึมออกมา พร้อมกับคำพูดของเวินหมัวมัวที่ยังเอ่ยด้วยวาจาเชือดเฉือน “ความเจ็บปวดตอนถูกโบยคราวที่แล้วมันมิได้ซึมลึกถึงนิสัยของเจ้าเลยใช่หรือไม่ บัดนี้จึงยังคงประทินโฉมฉูดฉาดอีกทั้งยังนินทาว่าร้ายผู้อื่น” นางว่าขณะเชยคางของอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วใช้นิ้วถูเช็ดไปที่ริมฝีปากของหญิงสาวแรงๆ “สีแดงเช่นนี้มีแต่ผู้สูงศักดิ์ที่สามารถใช้ได้เท่านั้น ข้ารับ

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 2

    องค์หญิงเวินอี๋เสด็จมายังจวนเป่ยหนานแต่เช้าตรู่โดยมีเหล่านางกำนัล ข้ารับใช้ และพ่อบ้านแห่งจวนเป่ยหนานตั้งแถวต้อนรับอย่างสมเกียรติ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีท่าทีนบนอบเกินพอดีจนเกรงว่าจะหายใจแต่ล่ะครั้งก็ไม่กล้าหายใจแรงเสียด้วยซ้ำหานฉงหรงมองสตรีสูงศักดิ์ที่เยื้องกรายผ่านนางไปอย่างไม่คิดจะเหลือบแลนางแม้แต่น้อย องค์หญิงเวินอี๋ยังคงเป็นองค์หญิงเวินอี๋ที่ชวนให้ผู้คนหมั่นไส้ชิงชังไม่เปลี่ยนโดยที่บาดแผลกลางหลังไม่ได้ช่วยทำให้นางสงบเสงี่ยมมากขึ้นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหานฉงหรงเองก็มิได้สะทกสะท้าน อีกฝ่ายไม่อยากมองนาง นางเองก็มิได้อย่างจะเปลืองสายตามองเช่นกันแน่นอนว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาของหานฉงหรงมิใช่องค์หญิงที่แสนเย่อหยิ่งผู้นั้น กลับเป็นคุณหนูตระกูลผู้ดีที่ติดตามนางมาต่างหากผู้หนึ่งใบหน้ารูปหัวใจ องคาพยพทั้งห้างามล้ำจนเรียกได้ว่าเป็นโฉมสะคราญ รูปร่างบอบบาง สวมเสื้อผ้าที่ตัดจากผ้าไหมหยุนจิ่น [2] อันเลอค่าของซูโจว ซึ่งผ้าไหมหยุนจิ่นมีกรรมวิธีที่ซับซ้อน แต่ละปีผลิตได้ไม่ถึงร้อยพับ จึงมักถูกส่งเป็นของบรรณาการให้กับทางราชสำนัก แสดงให้เห็นว่าสตรีนางนั้นมีฐานะไม่ธรรมดา ส่วนอีกคนหนึ่งมีใบหน้ารูปหัวใจ หน้าตา

  • ย้อนเวลามากำจัดสามีสับปลับกับองค์หญิงบัวขาว   เวินหมัวมัว 1

    หานฉงหรงก้าวเร็วๆ เพื่อให้ถึงห้องส่วนตัวก่อนที่น้ำค้างที่เกาะตามกลีบดอกไม้จะระเหยเหิดจนสุราเสียรสชาติ นางวางดอกไม้ก่อนคว้ากรรไกรมาตัดกิ่งและริดกลีบเลี้ยงจนเหลือเพียงดอกสีเหลืองเกลี้ยงเกลา ซึ่งทุกอย่างต้องทำอย่างรวดเร็วเพื่อแข่งกับเวลา ทว่านางตัดไปได้เพียงครึ่งหนึ่งก็วางกรรไกรลงก่อนยกมือปิดหน้าเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำดั่งแต้มชาด จนเสี่ยวมี่ที่กำลังดับเทียนเมื่อเห็นว่าท้องฟ้าข้างนอกสว่างแล้วเอ่ยถาม “พี่สาว ท่านไม่สบายตรงไหนหรือเจ้าคะ หน้าของท่านแดงมากเลย”หญิงสาวเอาหลังมือแตะแก้มของตนเองก่อนยิ้มบาง “พี่สาวไปเก็บดอกไม้ตั้งแต่เช้ามืด คงต้องน้ำค้างกลับมาจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายเล็กน้อยเท่านั้น”“เช่นนั้นให้ข้าไปบอกท่านหมอฟู่ดีหรือไม่เจ้าคะ” นางเอ่ยถึงหมอที่ประจำอยู่ที่จวนเป่ยหนานทำหน้าที่รักษาทุกคนในจวนโดยไม่แบ่งแยก“ไม่เป็นไร ประเดี๋ยวหมักเหล้าเบญจมาศนี้เสร็จก็ว่าจะนอนพักสักครู่ แล้วค่อยไปทำเกาลัดเชื่อมของโปรดของพวกเจ้า”เสี่ยวมี่พยักหน้า เช่นนั้นข้าช่วยท่านตัดดอกไม้นะเจ้าคะ” ว่าพลางจะหยิบกรรไกรที่บนโต๊ะมา ทว่าหานฉงหรงกลับจับมือนางไว้เอ่ยเสียงนุ่ม “เดี๋ยวทางนี้ข้าจัดการเอง เจ้าไปบอกพ่อบ้านให้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status