สองวันต่อมาเซียวตั๋วก็เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงจวินได้พบกับพี่ชายคนโตของเซียวซา เขาเป็นคนที่สนุกสนานร่าเริงไม่ถือตัว อีกทั้งยังรักใคร่น้องชายอย่างเซียวซาเป็นอย่างมาก
อีกทั้งความสัมพันธ์กับเย่ซวงผู้เป็นภรรยาก็ดีไม่น้อยเลย เซียวตั๋วดูจะรักใคร่เย่ซวงไม่น้อย
เซียวตั๋วอยู่ที่บ้านเซียวต่ออีกสามสี่วันเขาก็ต้องเดินทางกลับกองทัพ ครั้งนี้บ้านเซียวต้องไปส่งดอกไม้ในเมืองพอดี จึงถือโอกาสนี้ให้คนงานขับรถไปส่งเซียวตั๋วด้วย ด้านเย่ซวงเมื่อสามีกลับไปเธอก็รู้สึกเงียบเหงาไม่น้อย
บ่ายแก่ๆ ของวันนั้นเจียงเป่าก็มีไข้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เจียงจวินพยายามเช็ดตัวให้เท่าไรไข้ก็ไม่ลดละ อีกทั้งเจียงเป่ายังไม่ยอมกินอาหารและดูอ่อนแรงอีกด้วย ตอนนี้คนในบ้านเซียวต่างไปที่สวนกันหมด ส่วนเซียวซาก็คงจะไปที่ร้านสุราอีกตามเคย เจียงจวินจึงเดินมาหาเย่ซวงก่อนจะเอ่ยถาม
“พี่เย่ซวงคะ พอดีว่าน้องสาวฉันมีไข้ ฉันจะไปบอกป้าเซียวเสียหน่อย รบกวนฉันฝากน้องสาวเอาไว้กับพี่สักครู่ได้ไหมคะ”
เย่ซวงปรายตามองเจียงจวินอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพูดออกมาอย่างไร้น้ำใจ
“น้องสาวเธอ เธอก็ดูเองสิ ไม่ใช่หน้าที่ฉันเสียหน่อย แล้วอีกอย่างนะ เธอเป็นแม่ครัวมาเรียกฉันว่าพี่ได้ยังไงกัน ฉันไม่ใช่ญาติส่วนไหนของเธอเลยด้วยซ้ำ ต่อไปเรียกฉันว่าคุณเย่ซวง อย่ามาทำตัวตีเสมอกับฉัน!!!”
เจียงจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย คนเราจะแล้งน้ำใจกันขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอเจียงจวิน”
ยังไม่ทันที่เจียงจวินจะได้พูดอะไรต่อ ก็พบว่าเซียวซากำลังเดินเข้ามาในบ้าน ในมือของเขาถือของบางอย่างติดมาด้วยคล้ายจะเป็นห่อขนม เขาจ้องมองเธอก่อนจะเอ่ยถาม
“ว่ายังไง เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“คือว่าเจียงเป่ามีไข้น่ะค่ะ ฉันจะต้องพาไปหาหมอ ไข้ไม่ลดลงเลย”
เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจไม่น้อย จึงรีบเอ่ยกับเจียงจวิน
“ตอนนี้ที่บ้านไม่มีรถเลย เอาไปส่งของในเมืองแล้ว เหลือเพียงจักรยาน ร้านหมอก็อยู่ไกลออกจากหมู่บ้านไปมาก แต่ไม่เป็นไร ฉันจะปั่นจักรยานพาเธอกับน้องไปหาหมอเอง”
เจียงจวินไม่มีเวลาให้คิดแล้ว เธอเป็นห่วงเจียงเป่ามาก จึงรีบตอบตกลงทันที ก่อนจะไปยังนำเงินติดไปด้วยหนึ่งร้อยหยวน นี่เป็นเงินที่ป้าเซียวจ่ายค่าแรงล่วงหน้าให้ เดิมทีเธอไม่อยากจะรับ แต่ป้าเซียวกลับบอกว่าให้เธอเก็บเอาไว้ใช้
เจียงจวินอุ้มเจียงเป่าเอาไว้ ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายจักรยานของเซียวซาไปในทันที เขาพยายามปั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใช้เวลาจนถึงยามเย็นก็มาถึงร้านหมอ โชคดีที่หมอยังเปิดร้านอยู่
หลังจากตรวจแล้วและได้ยากินทันที เจียงเป่าก็ไข้ลดลงแต่ยังคงนอนหลับอยู่ เจียงจวินโล่งใจไม่น้อย ก่อนจะหันมาพูดกับเซียวซา
“ขอบคุณคุณมากนะคะ ลำบากคุณมาจ่ายค่ายาให้น้องสาวของฉันอีก”
เซียวซามองดูใบหน้างดงามของเจียงจวินที่ยามนี้มีเม็ดเหงื่อผุดซึมขึ้นมาก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อให้เจียงจวินอย่างอ่อนโยน เจียงจวินชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะมองผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น นั่นมันคือผ้าเช็ดหน้าของเธอนี่
เซียวซามองตามสายตาของเจียงจวิน ก่อนจะรีบชักมือกลับและเก็บผ้าเช็ดหน้าเอาไว้แล้วจึงพูดขึ้นมา
“ไม่คืนให้หรอก น้องเจียงจวินห้ามทวง”
เจียงจวินหมดคำจะเอ่ย เขาช่างดูเหมือนเด็กหนุ่มขี้เล่นเสียเหลือเกิน แต่ว่าบางเวลาแววตาของเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่แสนอบอุ่น
บางครั้งนิสัยของเซียวซา เจียงจวินก็คาดเดาไม่ออก
“หิวหรือไม่ กินสิ พี่ไปซื้อมาให้”
เขาแกะห่ออาหารออก ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบอาหารและยื่นมาที่ริมฝีปากของเธอ เจียงจวินชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมา
“ฉันกินเองดีกว่าค่ะ”
“ได้ยังไงกัน เดี๋ยวเจียงเป่าก็ตื่นหรอก ดูสิกำลังนอนหลับสบายอยู่บนตักเธอเลย หากเธอขยับแล้วเจียงเป่าตื่นขึ้นมาร้องไห้จะทำยังไง เธอไม่สงสารน้องสาวเหรอ”
“คือ...”
“กินเถิด พี่จะป้อนเธอเอง”
เจียงจวินไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร จึงอ้าปากกินอาหารที่เขาป้อนให้ด้วยท่าทีประหม่า เซียวซายิ้มออกมาเล็กน้อย เจียงจวินที่เห็นแบบนั้นจึงเอ่ยถามเขา
“คุณไม่กินเหรอ”
“ใช้เงินจ่ายค่ายาไปหมดแล้ว เหลือเพียงไม่กี่หยวน พอซื้ออาหารได้สองห่อ พี่ไม่หิว เธอกินเถอะ”
เจียงจวินรู้สึกผิดเล็กน้อย เขามาส่งเธอแท้ๆ แต่กลับไม่ได้กิน เมื่อคิดเช่นนั้นเธอจึงเอ่ยกับเขา
“ฉันพอมีเงินเหลืออยู่ คุณเอาไปซื้อดีไหม”
“ไม่ต้องหรอก เธอเก็บเงินไว้ใช้เถอะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ หากยังพูดอีกดอกเบี้ยจากสัญญากู้ยืมเงินจะเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะ”
เจียงจวินที่ได้ยินเซียวซาพูดก็ถลึงตาใส่เขาทันที
เหลือเกินจริงๆ ขึ้นดอกเบี้ยตามใจชอบ!!!
เธอกินข้าวต่ออีกสองสามคำก็รู้สึกอิ่มแล้ว
“ฉันอิ่มแล้ว คุณกินด้วยกันสิ”
“อิ่มแล้วหรือ”
“อืม”
“อิ่มจริงๆ นะ”
“จริงค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่เกรงใจแล้วนะ”
เขายิ้มตาหยี ก่อนจะตักข้าวขึ้นมากินคำใหญ่ พร้อมกับพูดขึ้นมา
“ได้กินช้อนเดียวกับน้องเจียงจวิน อาหารอร่อยขึ้นมากเลย”
เจียงจวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย
ตลอดเวลาที่ได้รู้จักกัน เธอเองก็เริ่มรู้ว่าเซียวซาก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด บางครั้งเขาก็เป็นคนที่พึ่งพาได้
แต่การที่เขาเมาหัวทิ่มทุกวันมันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย
เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำแล้ว เซียวซาจึงพาเจียงจวินและเจียงเป่ากลับมาที่บ้านเซียว เมื่อมาถึงก็เลยเวลาอาหารเย็นไปแล้ว เพราะเจียงจวินไม่อยู่ ป้าเซียวจึงทำอาหารกินเองหนึ่งวัน อีกทั้งเมื่อรู้ว่าเจียงเป่าป่วยก็ไม่ได้ตำหนิเธออีกด้วย บอกให้เธอรีบไปดูแลเจียงเป่าให้หายดี ทางนี้ไม่ต้องเป็นกังวล
เย่ซวงเบ้ปากเล็กน้อย เธอคีบอาหารเข้าปากก่อนจะหันมาพูดกับแม่สามี
“เป็นแม่บ้านเแท้ๆ กลับให้เจ้านายไปส่งหาหมอ หน้าที่ตนเองไม่รู้จักรับผิดชอบ แย่จริงๆ คุณแม่ดูสิคะ ไปไหนไม่บอกสักคำ ใช้ได้ที่ไหนกัน”
เซียวซาหันมามองเย่ซวง ก่อนจะยิ้มออกมา แต่ทว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาจากปากของเขาไม่ได้มีความอ่อนโยนอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ก่อนไป เจียงจวินก็บอกแล้วว่าเจียงเป่าไม่สบายมาก พี่สะใภ้ใหญ่ก็ได้ยินกับหู แต่ไม่บอกแม่ของผมสักคำ กลับมาต่อว่าคนอื่นไปเรื่อย ใครกันแน่ครับที่มีนิสัยแย่น่ะ”
เย่ซวงที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าเสีย รู้สึกอับอายไม่น้อย ยิ่งได้มองดูพ่อแม่สามีที่ไม่คิดจะออกหน้าปกป้องเธอก็ยิ่งโมโห วางตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทันที ป้าเซียวถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
เวรกรรมใดกัน เธอจึงมีสะใภ้เช่นนี้มาอยู่ร่วมบ้านด้วย!!!
ระยะนี้เซียวตั๋วอาการดีขึ้นมาก แม้ขาจะเดินกะเผลกๆ แต่เขาก็ทำงานหลายอย่างได้มากขึ้น เซียวซาและเจียงจวินเองก็ไม่เอาเปรียบพี่ชายพี่สาว หากขายได้เยอะก็แบ่งกำไรให้เสมอ กลายเป็นเซียวตั๋วและเซียวหยี่ที่เกรงใจคนทั้งสองเจียงจวินมองดูภายในร้าน คิดว่าอาจจะต้องจ้างคนมาเพิ่ม หลายวันก่อนเยี่ยนอิงมาเยี่ยมเธอพร้อมกับเยี่ยนชาง คนทั้งสองบอกว่ามีที่ดินผืนหนึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาล เป็นที่ของคุณปู่เขาเอง หากเธออยากซื้อเขาขายให้สามพันห้าร้อยตำลึง เป็นที่ดินผืนไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก เดิมทีอยากจะลดราคาให้ แต่ที่ผืนนั้นราคาดี ไม่อาจที่จะลดราคาได้มากกว่านี้แล้ว เจียงจวินเองขอปรึกษากับเซียวซาเสียหน่อย เพราะราคาที่ว่านั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย แต่เซียวซากลับบอกว่าแล้วแต่เธอ หากเธออยากซื้อเขาเองก็ไม่คัดค้านอะไรวันนี้คนในร้านค่อนข้างที่จะมากอยู่ ผู้คนต่างเข้ามาในร้านจนกระทั่งถึงเวลาเย็น บะหมี่ก็ขายดีจนหมด แม้กระทั่งสุราของเซียวซาก็ไม่เหลือ ในขณะที่กำลังจะเก็บร้านกันอยู่นั้น ก็มีหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาในร้าน "เจียงจวิน นั่นเธอใช่ไหม"เจียงจวินที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการคิดบัญชีรายรับรายจ่ายเมื่อได้ยินแบบนั้นจึงเ
โรงพยาบาลใหญ่"ดีใจด้วยนะครับ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้ว"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปจนทำอะไรไม่ถูก ราวกับสติของเขาหลุดลอยไปไกลแล้ว เขาทั้งยิ้มทั้งทำหน้าตาเหมือนคนมึนงง จนเซียวตั๋วต้องพูดขึ้นมา"อาซา เมียแกท้องแล้ว!!!"อาซาพลันได้สติขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยถามหมอด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ"ปะ แปดสัปดาห์คืออะไรเหรอครับคุณหมอ"เขามึนงงไปหมดแล้ว สมองตอนนี้คิดหรือนึกภาพอะไรไม่ออกเลย หมอที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ท่าทีของคุณพ่อมือใหม่ก็เป็นแบบนี้กันทุกคน"สองเดือนครับ""สองเดือน""ครับ""ขอบคุณครับหมอ ผมต้องดูแลเธอยังไงบ้างครับ""คุณพ่อใจเย็นนะครับ ตอนนี้ไม่ต้องทำอะไร แค่ให้เธอนอนพักให้มากๆ กินอาหารมีประโยชน์ ช่วงนี้อย่าเพิ่งให้เธอทำงานหนักก็พอครับ""ครับๆ ผมจะทำตามที่คุณหมอบอกครับ""ครับ อย่างนั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ"หมอยิ้มให้เซียวซาอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป เซียวซาหันมามองเซียวตั๋ว ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ"พี่ใหญ่ เมียผมท้องแล้ว"เขาโผเข้ากอดเซียวตั๋วด้วยความดีใจ หลัวจื่อชิวมองภาพตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยครั้งนี้เขาควรตัดใจจากเธอแล้วจริงๆ สินะ ดูแล้วเธอก็คงมีความสุขดีกับค
เช้าวันต่อมาเจียงจวินและเซียวซาตื่นแต่เช้า สองสามีภรรยาเตรียมจะเข้าเมืองเพื่อไปทำความสะอาดร้าน วันนี้เธอพาเจียงเป่าและเจ้าแมวเป่าเป้ยไปด้วย เจียงเป่าค่อนข้างตื่นเต้นเหลือเกิน ส่วนเจ้าแมวเป่าเป้ยก็รู้สึกว่าวันนี้ตนจะได้ไปเปิดหูเปิดตาเสียทีหลังจากที่เอาแต่เฝ้าบ่อน้ำมานานพวกเขายังพาเซียวหยี่และเซียวตั๋วไปด้วย จะได้พากันไปเปิดหูเปิดตา เพราะไม่อยากให้พี่ชายต้องอยู่แต่ในบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นไม่อยากเดินทางไกล เพราะเหนื่อยล้านั่งรถนานๆ ไม่ไหวแล้วร้านที่เยี่ยนชางให้เช่าทำเลดีและค่อนข้างกว้างขวาง เจียงจวินรู้ดีว่าที่เขาให้เช่าในราคาถูกเพราะเห็นแก่เธอ อีกอย่างเยี่ยนชางร่ำรวยขนาดนั้น เขาเองกลับไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อยกับเธอเลยด้วยซ้ำทุกคนช่วยกันทำความสะอาดร้านอย่างขยันขันแข็ง ส่วนเซียวตั๋วก็กำลังนั่งเล่นอยู่กับเจียงเป่า เด็กน้อยที่ช่างพูดและชวนเขาคุย มันทำให้เขารู้สึกดีเป็นอย่างมาก เขาตั้งใจว่านับจากนี้จะตั้งใจรักษาตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิมใช้เวลาไม่นานร้านก็ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาเที่ยงเซียวซาก็ไปซื้ออาหารมาให้ทุกคนได้กินกันรองท้อง เพราะต้องพาเซียวตั๋วไปที่โรงพยาบาลเพื่อปรึกษาเรื่อ
เมื่อจัดการเก็บของที่ต้องเก็บและซื้อของที่เตรียมเอาไว้ทำอาหารเรียบร้อยแล้ว เซียวซาและเจียงจวินจึงขับรถกลับบ้านเซียวกันในทันที ระหว่างทางยังไม่ลืมแวะซื้อขนมอร่อยๆ กลับไปฝากคนที่บ้านเซียวด้วยเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเจียงเป่ากำลังนั่งเล่นอยู่กับเจ้าแมวเป่าเป้ยที่หน้าบ้าน ส่วนพ่อแม่สามีนั้นกำลังช่วยกันรดน้ำต้นไม้อยู่ ด้านเซียวหยี่นั้นก็กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดร้านบะหมี่ เมื่อเห็นว่าเซียวซาและเจียงจวินกลับมาแล้ว เซียวหยี่จึงเอ่ยถามทันที"กลับมาแล้วเหรอ วันนี้กลับมาไวนะ ขายดีใช่ไหม พวกเธอสองคนกินอะไรมาหรือยัง หิวไหมพี่จะไปทำอาหารมาให้"เจียงจวินยิ้มให้เซียวหยี่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ"กินมาแล้วค่ะพี่ นี่ค่ะฉันกับเซียวซาซื้อขนมมาฝากคนในบ้านด้วย""อืม พวกเธอไปพักเถอะ"เจียงจวินพยักหน้า ในขณะที่เซียวซามองไปรอบๆ บ้าน และพูดขึ้นมา"แม่ครับ พี่ใหญ่ล่ะครับ"หญิงชราที่รดน้ำต้นไม้เสร็จแล้วจึงหันมามองลูกชายคนเล็ก ก่อนจะเอ่ยตอบ"อยู่ในห้องนั่นแหละ""ครับ ผมจะเอาขนมไปให้พี่ใหญ่เสียหน่อย"เซียวซาพูดจบก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับห่อขนมในมือ เขามุ่งหน้าไปที่ห้องของเซียวตั๋วในทันที ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะไปที่ประ
เซียวตั๋วถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที เซียวซาและเจียงจวินนั้นตกใจจนแทบเสียสติ เมื่อสอบถามเรื่องราวจากคนละแวกนั้นก็ได้ความว่า เซียวตั๋วมีเรื่องกับสามีใหม่ของเย่ซวง เขาดื่มมาเล็กน้อยจึงคิดจะไปหาเย่ซวง เดิมทีคิดจะกลับบ้านแต่กลับไม่ถึง เขาถูกคนของสามีใหม่เย่ซวงรุมทุบตีจนสาหัส ส่วนพวกที่ทุบตีก็หนีหายไปยังไม่ถูกจับ ด้านเย่ซวงนั้นก็บอกว่าเธอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังพูดอีกว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเซียวตั๋วแล้ว เขาต่างหากที่มารังควานเธอไม่ยอมเลิกราเซียวซายกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ระยะนี้บ้านเซียวมีแต่เรื่องจริงๆ อีกทั้งเซียวตั๋วยังมาเกิดเรื่องแบบนี้อีก เจียงจวินยื่นมือของตัวเองไปจับมือของเขาเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้นมา"เราควรไปแจ้งความกันก่อนนะคะ ฉันจะให้พี่จื่อชิวช่วยพวกเราอีกแรง"เซียวซาถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพยักหน้าให้เจียงจวินและพากันไปที่โรงพักหลัวจื่อชิวที่เห็นสภาพเซียวซาที่เหมือนกับตีกับใครมาก็มองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันมาพูดกับเจียงจวิน"พี่จะส่งคนออกตามหาพวกนั้นให้เร็วที่สุด แต่ถ้าพวกมันเป็นเพียงคนเมาก็คงจะไม่ได้ค่าเสียหายอะไรมากนัก แล้วพี่สามีของเธ
เซียวซาและเจียงจวินจ้องมองชายหนุ่มทั้งสามคนนั้นด้วยแววตาที่เรียบเฉย เซียวซาดันเจียงจวินมาไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยถามหนึ่งในหัวหน้าแก๊งนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา"พวกเราจ่ายค่าเช่ากับคนที่ปล่อยเช่าไปแล้ว""เจ้าของคนไหนล่ะ ไม่เห็นรู้จักเลย ที่นี่มีแค่พี่ที่เป็นเจ้าถิ่น จ่ายมา ก่อนที่จะเจ็บตัว ที่นี่ไม่มีใครล้มพี่ได้ พวกพี่สามคนเป็นคนคุมที่นี่"เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ ไอ้พวกอันธพาลกวนเมืองนี่มันชอบระรานคนจริงๆ ดูแล้วคงจะทำบ่อย เพราะชาวบ้านที่มาขายของหรือพ่อค้าแม่ค้าต่างก็ก้มหน้าไม่กล้าเข้ามาช่วยพวกเขาเลยแม้แต่คนเดียวแต่เขาไม่กลัวหรอก"ไม่จ่าย หัดทำงานบ้าง ไม่ใช่มารีดไถเงินคนอื่นแบบนี้ มันน่าสมเพช"เซียวซาพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะหันหลังคิดจะพาเจียงจวินกลับ แต่ทว่าชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งกลับยกมือขึ้นตบศีรษะเซียวซาจนเขามึนงง เซียวซาจึงหันไปมองอย่างเอาเรื่อง"ทำไมวะน้องชาย คิดจะสู้กับพี่เหรอ แถวนี้ไม่มีใครสู้กับพี่ได้ หากใครล้มพี่ได้พี่จะยอมนับถือเป็นลูกพี่เลย"เซียวซาโมโหแล้ว เขาจึงชกหัวหน้าแก๊งมันจนล้มหงายหลัง พวกลูกน้องสามคนที่เหลือคิดจะเข้ามาทำร้ายเซียวซา จึงช่วยกั