หญิงสาวเดินเตร็ดเตร่ไปตามทางเดินของตึกผู้ป่วย พลางสอดส่ายสายตามองหาใครบางคนที่ตั้งใจแวบมาให้เห็นหน้าไปด้วย หลังได้ข่าวอัปเดตจากเพื่อนสาวคนสนิทที่เพิ่งลงมาจากดอยว่ารุ่นพี่กลับมาจากต่างประเทศแล้ว
แต่มองหาเท่าไหร่เธอก็ยังหาเจ้าตัวไม่เจอจนเริ่มท้อใจ
“หรือว่าจะไปถามหากับพี่พยาบาลที่เคาน์เตอร์ดี”
แต่ไม่ได้สิ ทำแบบนั้นเดี๋ยวไก่ตื่นกันพอดี!”
ฟ้าใสพึมพำยืนทะเลาะกับตัวเองอยู่พักใหญ่ ในขณะที่ตามองพยาบาลสาวสวยที่กำลังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ติดต่อของวอร์ดศัลยกรรมไปด้วยตาละห้อย
อยากถาม ๆ ๆ แต่ทำไม่ได้ ฮึ้ย! ถ้าตอนนี้เพื่อนเธออยู่นี่ก็คงมีข้ออ้างได้ แต่วันนี้ยัยนิลดันลง OPD ซะนี่ เฮ้อออ
“มาหาพี่เหรอครับน้องฟ้าใสคนอ๊อง”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาที่ใกล้ ๆ ใบหู ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งโหยงสุดตัวด้วยความตกใจ เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับข้อพิพาทในใจของตัวเองจนลืมสังเกตไปว่ามีใครบางคนย่องมายืนซ้อนหลังเธออย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“พี่เกมส์อ่าาา ตกใจหมดเลย”
เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ย่องมาเย้าหยอกอย่างเต็มตา ฟ้าใสก็ร้องโอดครวญแล้วทำหน้ามุ่ยใส่คนขี้แกล้งอย่างแง่งอน ทำไมใคร ๆ ก็ชอบหลอกให้เธอตกใจเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน รุ่นพี่ หรือแม้แต่หมาที่บ้าน ฮึ้ย
เกมส์หัวเราะร่วนเมื่อสามารถกลั่นแกล้งเด็กเอ๋อได้สำเร็จอีกแล้ว หลังยืนมองเธอพึมพำกับตัวเองเป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวมาสักพัก
ไอ้นิสัยนี้นี่มันแก้ไม่หายจริง ๆ สินะ เป็นตั้งแต่เรียนยันจบจนเป็นแพทย์หญิงไปแล้ว ความอ๊องเอ๋อก็ยังคงอยู่เต็มอัตรา
“ไอ้นัทไปราวด์คนไข้อยู่ครับ”
“อะไร๊?? ใครอยากรู้ววว”
ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้น ลอกแล่กไปมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะรีบทำเป็นตีหน้าขรึมใส่คนรู้ทันที่ให้คำตอบกับเธอโดยที่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากถามอะไรสักคำ
นี่หน้าเธอมันออกอาการว่าอยากเจอตาบ้านั่นขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ครับ ๆ ไม่มีจริง ๆ แหละครับ ฮ่า ๆ ถ้าอย่างงั้นมาฟ้าใสทำอะไรแถวนี้ละครับ”
“เอ่ออ ก็! ฟ้าใสแวะมาหายัยนิลไงคะ ใช่ ๆ มาหายัยนิล”
“เอ~ แต่พี่เพิ่งเจอยัยนิลที่โรงอาหารมา เห็นว่าวันนี้ก็ลง OPD ไม่ใช่เหรอ”
ถามจบเกมส์ก็ยกยิ้มมุมปาก ทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ ดวงตาเป็นประกายวิบวับ ขบขันใบหน้าเหลอหลาเลิ่กลั่กของรุ่นน้องที่อ้าปากเหวอ และใบ้กินเพราะนึกข้ออ้างไม่ออกไปแล้ว
“ทีหลังก็โทรหากันก่อนสิครับ จะได้ไม่ต้องเดินหาให้เสียเวลา หึหึ”
“คืออ ....”
“งั้นพี่ไปละ ถ้าเจอเพื่อนพี่ เอ๊ย! เพื่อนฟ้าใสแล้ว บอกพี่ด้วยละกันนะ”
แล้วร่างสูงก็เดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะที่สุดแสนจะยียวนกวนโอ๊ย ทิ้งให้คนที่ถูกจับได้ว่าแอบมาหาใครกันแน่ ยืนหน้าแดงอยู่ด้านหลังเพียงลำพัง
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากโทร แต่กะอีแค่ข้อความไลน์เก่า ๆ ของเธอ เพื่อนพี่ก็ยังไม่เปิดอ่านเลยต่างหากเล่า เธอถึงไม่กล้าวอแว!
ฟ้าใสกวาดสายตามองไปตามทางเดินของโรงพยาบาลอีกครั้งอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินคอตกไปทางลิฟต์โดยสารด้วยใจห่อเหี่ยว
มาหาผู้ ผู้ก็ไม่อยู่ งั้นแวะไปเม้าท์กับยัยนิลเรื่องข่าวติดดอยสักหน่อยก่อนดีกว่า
@ห้องตรวจ OPD
หลังฟังเรื่องราวที่ยัยเพื่อนตัวดีได้ขี่ช้างออกท่องพงไพรเรียบร้อยแล้ว ความอิจฉาริษยาก็พุ่งทะยานและแผดเผาจนดวงตาทั้งสองข้างร้อนฉ่าแทบจะพ่นไฟออกมาได้แล้ว!
ทำไม! ทำไมองค์ท่านถึงยังไม่ส่งใครแซ่บ ๆ มีของดีอลัง ๆ แบบนี้มาให้บ้าง ฮือ
“แหม ๆ ๆ ให้มันน้อย ๆ หน่อยค่ะ พูดแบบนี้ได้ยังไงคะคุณฟ้าใส เอาพี่นัทของฉันไปเก็บไว้ที่ไหนคะ”
ฟ้าใสเม้มปากเข้าหากันแน่น อารมณ์เปลี่ยนทันควัน มองค้อนคนชอบแซววงใหญ่ ไม่รู้ว่าจะไปพูดถึงคนใจร้ายคนนั้นทำไมอีก
“ก็เก็บไว้บนหิ้งไง ปูชนียบุคคลพรรค์นั้นน่ะ!”
แม้ปากจะบ่นเหมือนไม่พอใจ ทว่าแก้มนวลกลับแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำทันทีที่จบประโยค ทั้ง ๆ ที่เธอเฝ้ามองเขามานานแรมปีแต่อีกฝ่ายไม่ยักจะสนใจมาชายตามองเธอเลยสักนิด ขนาดกลับมาจากต่างประเทศยังไม่คิดจะบอกกันสักคำ มันน่าน้อยใจนัก!
“ก็พรรค์เดียวกันกับแกนั่นแหละ ชักช้าอืดอาดมาก ๆ ระวังเถอะ! จะมีคนคาบเอาไปกิน!”
“ใครมันกล้า! ฉันจะโบกมันเอง นั่นมัน Rare Item ของโรงพยาบาลเชียวนะยะ!”
ฟ้าใสฮึดฮัด ทำท่าถลกแขนเสื้อขึ้นเตรียมพร้อมรบด้วยสีหน้าจริงจัง คนนี้เธอตีตราจองทางสายตามาตั้งแต่ก่อนที่รุ่นพี่จะไปเรียนต่อแล้วนะ
“ยัยหมอเรนนี่ไง แต่ก่อนฉันเคยคิดนะว่าหล่อนคงจะเกลียดฉันเพราะเรื่องงาน แต่มาหลัง ๆ นี่ไม่น่าจะใช่แล้วว่ะ”
“โอ๊ย ฉันดีใจจังเลยที่ในที่สุดเซลล์สมองของคุณหมอนิลก็ทำงานเสียที ขึ้นไปยืนบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์แล้วมองกลับมา ยังดูออกเลยค่ะว่ายัยหลาน ผอ. หน้าวอกนั่นเกลียดแกเพราะอะไร! ป่านนี้เผาพริกเผาเกลือแช่งแกไปสิบตลบแล้วมั้ง”
ฟ้าใสปรบมือระรัวด้วยสีหน้าดีใจสุดซึ้ง ที่ในที่สุดเพื่อนผู้โง่เขลาและเอาแต่มองโลกในแง่ดีจะสำเหนียกและมองเห็นความเป็นจริงเสียที นึกว่าจะต้องโดนอีกฝ่ายตบล้างน้ำจนหน้าเยินก่อนซะอีก ถึงจะยอมเชื่อในสิ่งที่เธอพร่ำบอก
“ฮ่า ๆ ความจริงแล้วยัยเรนนี่ควรแช่งแกนะฟ้าใส หลงพี่นัทหัวปักหัวปำแบบนี้”
“ไม่ได้หลงเว้ย แค่ปลื้ม ยู โนววว ปลื้มอะปลื้ม!”
ครืดครืด ครืดครืด
ฟ้าใสมีโอกาสได้มองเห็นชื่อสายเรียกเข้าที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอเพียงเสี้ยวสิ แม่เพื่อนตัวดีก็ฉกฉวยเจ้าโทรศัพท์มือถือไปกดรับสายอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย เหม็นความรักจริง ๆ”
“รับรองค่ะว่ามันจะไม่หวาดเสียวแบบเจ้าพวกนั้นหรอก”ฟ้าใสยืนยันเสียงหวานพลางกระชับมือที่เกาะกุมกันให้แนบแน่นขึ้น เข้าใจถึงความหวาดวิตกของคนข้างกายที่สีหน้าออกอาการอย่างชัดเจนว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเจ้าเครื่องเล่นพวกนี้อีกแล้วนัทก้าวเดินไปตามแรงฉุดของภรรยาอย่างว่าง่าย แม้ใจแกร่งจะยังสั่นไหวและหวาดหวั่นว่าจะถูกพาตัวไปทรมาน แต่พอได้เห็นรอยยิ้มหวานหยดของคนอารมณ์ดีที่มีความมุ่งมั่นเขาก็ใจอ่อนแล้วยอมใจเธอโดยไม่มีข้อแม้เดินลัดเลาะตามทางเดินไม่นานภรรยาก็หยุดฝีเท้าลงก่อนหันมาคลี่ยิ้ม นัทกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วขมวดคิ้วงุนงง เมื่อพบว่าเธอพามาต่อแถวเพื่อใช้บริการเจ้าจักรยานน้ำลายการ์ตูนหลากสีสันที่ทะเลสาบซึ่งตั้งอยู่บริเวณโซนหน้าของสวนสนุกแม้แสงแดด จะยังร้อนอยู่พอสมควรทว่ายังดีที่มีสายลมเย็นฉ่ำพัดผ่านนำเอาไอน้ำให้ลอยขึ้นมากระทบผิวกายบ้างเป็นระยะ ๆ บรรยากาศจึงไม่แย่นักกับการปั่นจักรยานน้ำในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน“ครั้งแรกที่ฟ้าใสได้มาปั่นจักรยานน้ำที่นี่ ก็คือตอนวันเกิดครบอายุเก้าขวบแหละ ตอนนั้นชอบมาก ๆ เลย ถึงขนาดอธิษฐานตอนเป่าเค้กเลยนะคะว่าขอให้พ่อกับแม่พาฟ้าใสมาอีกทุกปี แต่สุดท้ายมันก็เป็
กรี๊ดดดดเสียงกรี๊ดดังระงมไปทั่วบริเวณจนนัทนิ่วหน้า ยกนิ้วขึ้นมาอุดสองหูเพื่อปิดกั้นเสียงแหลม ๆ ของผู้คนที่กำลังถูกเครื่องเล่นเหวี่ยงสะบัดไปมาดวงตาคมกริบมองตามเครื่องเล่นตรงหน้าแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ มันที่มีลักษณะคล้ายเรือลำใหญ่ ทว่าเจ้าลำนี้กลับแล่นอยู่กลางอากาศแทนที่เป็นผืนน้ำ และมีผู้โดยสารเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นร่วมยี่สิบชีวิตที่กำลังกรีดร้องขอชีวิตกันดังลั่น“อ่า ฟะ...ฟ้าใสครับ พี่ว่าเราไปเล่นอันอื่นที่มัน เอ่อ ดูปลอดภัยกว่านี้ไหมครับ”นัทสะกิดหัวไหล่มนของภรรยาที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถเพื่อให้เข้ากับสถานที่แล้วคัดค้านเสียงอ่อนเสียงหวาน หวังจะเอาตัวเองให้รอดจากการถูกเหวี่ยงไปมาซ้ำ ๆ บนไอ้เครื่องนั้น แต่คนตรงหน้าก็ยังตั้งมั่นที่จะเล่นมันให้ได้“ลองอันนี้แหละค่ะ ดูจากแถวแล้วหนูว่ามันต้องสนุกแน่ ๆ เลย”“สนุกหรือสยองกันแน่วะ”นัทบ่นพึมพำแผ่วเบา ก่อนจะรีบฉีกยิ้มกว้างแล้วส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร เมื่อภรรยาตวัดสายตามามองด้วยความสงสัย อย่าหาว่าเขาป้อดเลยนะ แต่ภาพของผู้โดยสารเซตก่อนหน้าที่ถลาลงมายืนเกาะต้นไม้แล้วอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายยังคงติดตาเขาอยู่เลยมือใหญ่ยกขึ้นปาดเ
คนมือไวรีบดันบราเซียร์สีขาวสะอาดตาขึ้นไปกองอยู่ใต้คางแล้วอ้าปากลงไปตะโบมดูดดึงยอดถันอย่างหนักหน่วง“อา พะ...พอ พอเลยค่ะ อื้อออ”ฟ้าใสร้องห้ามปรามเสียงขาดกระท่อนกระแท่น พยายามรวบรวมสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงแล้วผลักใบหน้าคมคายออกจากสองเต้าอย่างแรง ใบหน้านวลแดงก่ำ สองมือสาละวนกับการดึงเสื้อผ้าขึ้นมาปิดบังเนื้อตัวด้วยความเขินอาย หากเป็นแสงสลัวแบบเมื่อคืนเธอคงปล่อยผ่าน แต่ว่าตอนนี้มันสว่างโร่ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาหลายกิโลจากการเร่งผลิตลูกน้อยคนที่สอง ส่งผลให้ร่างกายของเธอดูอวบอิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก ซ้ำยังเต็มไปด้วยรอยแตกลายจนดูคล้ายแผนที่โลกเข้าไปทุกที“ฮืม ปิดทำไมละครับ”นัทเอ่ยถามเสียงนุ่มพลางดึงมือเล็กมาเกาะกุมแล้วยึดไว้แน่น คนส่ายหน้าไม่ยอมตอบแล้วรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เปิดช่องให้เขาก้มลงไปหอมแก้มนุ่มได้อย่างสบายใจ“ไม่ว่าหนูจะเป็นยังไง พี่ก็รักหนูเหมือนเดิมนะ”ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วใจดวงน้อยที่กำลังเต้นแรงระรัวทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างใบหู สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงแต่ก็แสร้งทำเป็นแง่งอนเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย“ไม่ต้องมายกยอปอปั้นเลยค่ะ ห
แสงแดดสาดส่องเข้ามาตามรอยแยกของผ้าม่านสีทึบซึ่งถูกเปิดทิ้งไว้ ตกกระทบลงบนใบหน้าหวานเข้าพอดิบพอดี ปลุกให้ฟ้าใสรู้สึกตัวตื่นขึ้นในในช่วงใกล้เที่ยงของวัน“อื้ออ”ความเมื่อยขบตรงเข้าโจมตีทันทีที่เธอลืมตาขึ้นมาได้ เธอค่อย ๆ ประคองร่างขึ้นมานั่งที่ปลายเตียงพลางชะโงกหน้าไปมองเปลนอนของลูกน้อยซึ่งอยู่ในห้องถัดไป พลันคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นเข้าหากันแน่นเมื่อพบว่ามันว่างเปล่า“หายไปไหนทั้งพ่อทั้งลูกเนี้ย”ฟ้าใสพึมพำบ่นด้วยความไม่เข้าใจ ถึงแม้สามีจะตื่นก่อนเป็นปกติในทุกวัน ทว่าครั้งนี้มันแปลกไปตรงที่เขาไม่คิดแม้แต่จะปลุกเธอ มิหนำซ้ำยังหายตัวไปพร้อมกันทั้งพ่อและลูกสาวตัวน้อยวัยขวบเศษทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดมือเล็กเอื้อมไปหยิบชุดคลุมที่ชายหนุ่มวางเตรียมไว้ให้บนปลายเตียงมาคลุมร่างเปลือยเปล่าแล้วมุ่งหน้าเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบแห้งกรังที่สามีฝากรักไว้ให้เมื่อคืนเท้าเล็กเปลือยเปล่าก้าวเข้ามาในห้องแต่งตัวก่อนหยุดชะงักลงที่หน้าตู้เสื้อผ้า ดวงตาเบิกกว้างฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพบชุดเดรสสีครีมสุดละมุนจากแบรนด์ดังถูกแขวนไว้พร้อมกระดาษโน้ตใบเล็ก ชุดพิเศษ สำหรับคนพิเศษ ในวันพิเศษ
ใจดวงน้อยอ่อนยวบลงแทบจะในทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยออดอ้อนเว้าวอน แล้วไหนจะฝ่ามือที่กอบกุมแล้วเคล้นคลึงสองเต้าอย่างหนักหน่วงอีก “พี่นัท มะ...ไม่เอา อื้ออ”ฟ้าใสสะดุ้งโหยงเมื่อปลายนิ้วร้ายสะกิดยอดถันผ่านเนื้อผ้าระรัว ร้องปรามได้ไม่กี่คำก็อ่อนระทวยสิ้นฤทธิ์ ปล่อยให้คนหื่นช้อนตัวขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวแล้วพาตัวกลับมายังเตียงนุ่มในที่สุดทันทีที่แผ่นหลังแนบไปกับเตียงนุ่ม ชุดนอนตัวบางก็ถูกคนใจร้อนดึงทึ้งจนขาดวิ่นหลุดติดมือก่อนจะปลิวหายไปอยู่มุมใดมุมหนึ่งของห้องอย่างน่าสงสารปากร้อนพรมจูบไปตามเนินเนื้ออวบอิ่มที่เพิ่มขยายขึ้นตามน้ำหนักตัวของผู้เป็นแม่ แล้วย้ายมาตะโบมดูดดึงยอดถันอย่างมูมมามจนเกิดเสียงลามกพร้อม ๆ กับเนื้ออ่อนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือก“พี่นัท บะ...เบาหน่อยค่ะ อ๊ะ จะ...เจ็บ”ฟ้าใสครางกระเส่าพลางบิดเร่าร่างกายไปมา สะดุ้งเฮือก ๆ ยามฟันคมขบกัด เกิดเป็นความเจ็บแปลบระคนเสียวซ่านที่แสนรัญจวนใจแตกต่างจากเวลาที่ลูกน้อยดูดดึงอย่างสิ้นเชิงเธอแอ่นกายเข้าหาสัมผัสวาบหวามพร้อมกับสอดมือเข้าใต้เรือนผมสีดำของสามีแล้วออกแรงกดให้ใบหน้าคมคายแนบไปกับเต้าอวบมากขึ้น ฟันคมขบกัดไปตามเนื้อนุ่ม
“อุแง แอะ แอ้!~”เสียงร้องไห้จ้าดังลั่นห้อง ทำเอาฟ้าใสที่เพิ่งผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเมื่อสิบนาทีก่อน ถึงกับสะดุ้งเฮือกสุดตัวด้วยความตกใจฟ้าใสลนลานหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างลวก ๆ ก่อนพุ่งตัวไปยังห้องนอนเล็กที่ถูกสร้างประตูเชื่อมแล้วเปิดทิ้งไว้เพื่อความสะดวกแก่การดูแลเด็กตัวน้อย ขาเรียวชะงักแล้วหยุดยื่นอยู่ตรงกรอบประตู ทอดมองสามีที่ยืนตระกองกอดลูกสาวตัวน้อยวัยขวบเศษไว้ในอ้อมแขนแล้วเห่กล่อมอยู่ข้างเปลนอน ในขณะที่เนื้อตัวมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบอย่างหมิ่นเหม่แล้วคลี่ยิ้มหวานออกมา“ชู่ววว ไม่เอาไม่ร้องน้า เอเอ๊~”“แอะ แอ้ มามาา”“จะหามาม๊าเหรอครับ มาม๊ายังหลับอยู่เลยครับ อยู่กับปะป๊าก่อนน้า”“แอะแอ้!”“หื้มม หนูเพิ่งจะขวบเดียวนะ ขี้นเสียงใส่ปะป๊าแล้วเหรอ”“มา หม่ำ!”นัทส่ายหน้ายิ้ม ๆ มองปากเล็กที่อ้า ๆ หุบ ๆ รอท่าอย่างน่ารักน่าชังแล้วรีบหันไปหยิบขวดนมซึ่งเตรียมไว้ตั้งแต่เข้ามาเจอลูกสาววัยขวบเศษกำลังร้องไห้จ้ามายื่นให้ ส่งผลให้เสียงร้องงอแงเงียบลงทันควัน“ไม่รู้ไปได้นิสัยดื้อรั้นแล้วก็ชอบเถียงแบบนี้มาจากใครกันนะ หื้ม? ไอ้ตัวแสบ”นัทพึมพำบ่น ทอดมองเด็กโมโหหิวที่ตั้งหน้าต