"ฮึก~ ฮือ~ๆ ๆ ๆ"
เสียงสะอื้นจากหญิงสาวที่พอกลับมาถึงคอนโดของชายหนุ่มคนเดิม เนื่องจากเขาไม่ยอมให้เธอไปไหน จนกว่าจะครบตามระยะเวลาที่คุยกัน
ตั้งแต่กลับจากมหาลัยเธอก็เอาแต่นั่งกอดเข่าร้องไห้โฮ คนเราแม้ปากจะบอกว่าอยากเริ่มใหม่ อยากเข้มเเข็งขึ้นแค่ไหน แต่ใครจะรู้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เลิกกันด้วยดียังพอไหว แต่นี่ดูสารพัดเรื่องเลว ๆ ที่แฟนเธอคนนั้นทำสิ
"อะ"
"ฮึก~อะไร เอากระจกมาให้ทำไม?"
"ก็จะให้ดูหน้าตัวเองเวลาร้องไห้ไง นึกว่าคนปวดเล็บขบ น้ำมูกอีก เฮ้อ~"
"T_T" ยิ้มนิ่งไปชั่วขณะ เธอกำลังช็อคกับคำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะหลุดออกจากปากเขาคนนี้ ที่สำคัญเขาว่างนักหรือไงถึงมานั่งเฝ้าเธอร้องไห้อยู่อย่างนี้
"ฮือ ๆ ๆ ๆ "
เอาเป็นว่าเธอร้องหนักกว่าเดิมอีก ร้องไปส่องกระจกไป พลางมองหน้าตาตัวเองว่าเป็นอย่างที่เขาว่าจริงหรือไม่ โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าการกระทำของเธอ กำลังทำให้คนที่ด้านชาที่สุดในเมื่อก่อน ตอนนี้แอบลอบยิ้มจาง ๆ
"หันหน้ามาหน่อย เดี๋ยวเราเช็ดน้ำมูกให้ มันจะเข้าปาก เค็มนะบอกไว้ก่อน "
"..."
"ฮึก! ไม่ต้อง นายไม่ขยะแขยงหรือไง อึก~ ฟืด" เธอสะอึกสะอื้นไปพลาง สูดน้ำมูกไปพลาง เป็นภาพที่ดูสลดหดหู่สิ้นดี
"ไม่เป็นไร มันก็ไม่ต่างจากการเช็ดขี้ตาแมวมากนักหรอก"
"หา!"
ช็อคครั้งแล้วครั้งเล่า...ได้เกิดขึ้นกับเธอวันนี้แล้วจริง ๆ เธอไม่เคยคิดว่าคนแบบเขาจะเอาเวลามานั่งพูดจากวนประสาทเธอ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าเขาเหมือนจะพูดจาดีเอาใจเป็นอย่างมาก น้ำเสียงก่อนหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่พอข้ามวันเท่านั้นแหละ
"หยอกเล่น แค่ไม่อยากให้ร้องไห้เพราะผู้ชายคนนั้นอีก"
"ไม่ดีใจเหรอที่เลิกกับมันได้ มีความสุขจริง ๆ เหรอ ที่ต้องอยู่แบบนั้น"
"คือ...ฮึก~"
คล้ายกับคำพูดของเขาสะกิดโดนบาดแผลในจิตใจ จนเธออยากร้องไห้อีกรอบ แต่ประโยคถัดมาของเขาเหมือนทำให้เธอคิดบางอย่างได้
"ทำไมต้องรักมันขนาดนั้น ร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะแค่ผู้ชายเลว ๆ แค่คนเดียวเนี่ยนะ?"
"พ่อกับแม่เธอเลี้ยงเธอมาเคยตบเธอหัวคะมำไหม เคยทำให้เธอนอนร้องไห้หนึ่งเดือนร้องไปแล้วยี่สิบวันแบบมันหรือไง"
ทำไมเขาถึงเข้าใจพูดได้ขนาดนี้กันนะ... แถมพูดไม่ผิดสักคำ ถึงพ่อแม่เธอจะไม่มีแล้วแต่ตลอดระยะเวลาที่ท่านเลี้ยงดูเธอมาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอเลยสักครั้ง แต่เขาคนนั้นเล่า...เขาเป็นใครถึงกล้ามาทำร้ายเธอ ทั้งร่างกายและจิตใจจนบอบช้ำได้ขนาดนี้ เขาพูดไม่ผิด ไม่ผิดเลยสักนิด เธออยากขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่ทำให้เธอคิดได้
"..." ยิ้มส่ายหน้าเป็นนาฬิกาแกว่ง พลางยกมือปาดคราบน้ำตาที่หลงเหลือบนแก้มขาว
"เธอมีค่ามากกว่านั้นยิ้ม อย่าลดตัวไปอยู่กับคนต่ำ ๆ แบบนั้น ใช้ชีวิตให้มีความสุขสิ ให้มันอิจฉาที่เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นโดยไม่มีมัน"
พ่อหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งข้างกายเอ่ยร่ายยาว แถมพูดชัดถ้อยชัดคำ บางทีชัดกว่าเธอที่เป็นลูกไทยแท้เลยด้วยซ้ำ คำพูดที่เต็มไปด้วยข้อคิดไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากเขาคนนี้
เขาดูไม่เหมือนกับตอนที่เธอเจอเลย แม้หน้าตาเขาจะออกแนวแบด ๆ เหี้ยม ๆ หน่อย รวมถึงบุคลิกภายนอกอาจจะดูน่าหวาดผวาก็จริง แต่เวลาเขาอยู่กับเธอ พอเขาพูดคุยเท่านั้น มันกลับตรงกันข้าม เธอคงต้องมองเขาในมุมใหม่แล้วสินะ...
"ขอบคุณนะ"
"หืม" ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหันไปสบตากับเจ้าของเสียงหวานที่นั่งอยู่ข้างกาย เมื่อได้ยินเธอนั้นเอ่ยขอบคุณเขา
"นายพูดได้ดีมากจริง ๆ ทำให้เราคิดตาม มันก็จริงทุกอย่าง ทำไมเราต้องร้องไห้ให้คนที่ไม่เคยรักเราเลยสักนิด"
"เราอยากเจอความสุขแบบจริง ๆ แล้วแหละ"
"ที่ผ่านมาเราเหนื่อยมามากพอแล้ว เหนื่อยกับทุกอย่าง เหนื่อยที่จะต้องพยายามรักใครสักคน เหนื่อยที่จะต้องเป็นแฟนที่ดี ฮึก~ ให้ทุกอย่าง แต่ไม่เคยได้รับคืนเลยสักครั้ง มันน่าน้อยใจนะว่าไหม"
"แน่ะ พอแล้ว ถ้าพูดถึงมันเเล้วเจ็บ พูดแล้วจะร้องไห้ก็อย่าเอ่ยถึง"
เมื่อเห็นว่าสาวเจ้าที่นั่งข้าง ๆ เริ่มซึมลงอีกระรอกหนึ่ง ไบร์ทจึงรีบเอ่ยดักไว้ก่อน เขาไม่อยากเห็นเธอร้องไห้อีกแล้ว ยิ่งสาเหตุมาจากไอ้หน้าปลาไหลนั่นเขายิ่งไม่ชอบใจ มันก็แค่คนห่วย ๆ ขั้นสุด มีสิทธิ์อะไรมาทำให้เธอเสียใจและเจ็บปวดขนาดนี้กัน
"อยากลองเป็นผู้รับบ้างไหม?"
"ฮะ?"
"หมายถึงความสุขไง เรามีให้เธอได้นะ"
"นายหมายถึงอะไร"
"ตอบก่อนสิ พร้อมจะเปลี่ยนตัวเองไหม เปลี่ยนให้เป็นคนที่เข้มแข็ง ไม่ยอมให้ใครรังแก และสนุกกับชีวิตมากกว่านี้"
"พร้อม"
เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงตอบเขาไปง่าย ๆ แบบนั้น แต่เพราะเวลาที่เธอได้สบตากับดวงตาคมคู่นั้น กลับทำให้เธอรู้สึกคล้ายเชื่อมั่นเขาคนนี้อย่างบอกไม่ถูก เหมือนเขาพูดอะไรแนะนำอะไรมันดูน่าเชื่อถือ และทำให้เธอคล้อยตามได้อย่างน่าประหลาด
"ดีมาก งั้นเธอลองทำตามที่เราบอกนะ ลองดู เราไม่เอาเปรียบเธอเเน่นอน"
"ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวเราเตรียมชุดให้"
"ไปไหนเหรอ?"
"ผับ"
"ฮะ! ไม่เคยไป"
"ก็กำลังจะพาไปไง เปิดหูเปิดตา"
"จะดีเหรอ" เธอก้มหน้าต่ำสลับกับมองเขา คล้ายกับกำลังตัดสินใจ เเละเหมือนว่าเขานั้นจะรู้ทัน จึงรีบเอ่ยขึ้นทันที
"ดีแน่นอน ไปผับเราก็ได้ พอดีจะเข้าไปดูงานด้วย"
"ไบร์ทเป็นเจ้าของเลยเหรอ? เก่งจัง"
"อื้อ หุ้นกับเพื่อนอีกสองคนน่ะ ที่บ้านทำธุระกิจด้วยเลยพอทำได้"
เขาเอ่ยพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ให้เธอ ใบหน้าหล่อบวกกับรอยยิ้มนั่นแล้ว เล่นเอาคนมองถึงกับเหม่อลอย ว่าก็ว่าเถอะ...เขาเกิดมาหล่อขนาดนี้ได้ยังไงนะ ถ้าตัดเรื่องเจาะและรอยสักทั้งหมดไปได้ เขาคือผู้ชายอบอุ่นละมุนตั้งแต่เเรกเจอเลยแหละ ผิวบริเวณใบหน้าที่หลงเหลือจากรอยสักมากมายยังเปล่งออร่าได้มากขนาดนี้ เธอเป็นผู้หญิงยังอิจฉาเลย
"หน้าเรามีอะไรติดงั้นเหรอ?"
เสียงของชายหนุ่มเรียกให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนที่จะเอ่ยอึกอัก อย่างคนมีพิรุธ
"อะ เอ่อ...เปล่า ๆ แค่อิจฉา ผิวนายดีมากเลย เป็นลูกครึ่งอะไรเหรอ"
"อ๋อ เเด๊ดเป็นอเมริกันน่ะ แม่เป็นคนไทย"
"มิน่าละ เพอร์เฟกต์เชียว" เธอเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ชายหนุ่ม ใช่เเล้ว... เขาเพอร์เฟกต์ ดูดีมากจริง ๆ จนแทบจะไม่มีที่ติ ส่วนสูงเอย หุ่นเอย หน้าตา ทุกอย่างดีไปหมด
"อยากได้เป็นยีนเด่นให้ลูกบอกได้นะ"
"หา! อะไรนะ"
เธอหูฝาดหรือเปล่า! เขาบอกว่าอยากได้ อะไรเด่น ๆ ให้ลูกอย่างนั้นเหรอ การที่จะเป็นแบบนั้นได้คือเธอกับเขาต้องสะบะละหึ่ม บึ้ม ๆ ปั่มปั้มกันจนเธอท้อง เหรอ? เขาคิดอะไรกับเธออยู่กันแน่
"หน้ายิ้มเวลาตกใจ ยังดูดีกว่าตอนร้องไห้ให้ไอ้เห็บหมานั่นอีก ไปอาบน้ำเถอะ"
ไบร์ทรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและไม่ลืมที่จะหิ้วคนตัวเล็กที่เอาแต่ทำตาโต หน้าเหวอไม่หายสักที
"เดี๋ยวก่อน ขอถามอีกอย่างได้ไหม"
"อะไรครับ?"
เมื่อหายตะลึงค้างเป็นที่เรียบร้อย เธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป
"นายพูดเยอะแบบนี้ เฉพาะเวลาอยู่ในพื้นที่ของตัวเองเท่านั้นเหรอ?"
"เปล่า แค่กับเธอ"
แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้เธอใช้สมองที่มีประมวลผลตามอย่างเชื่องช้า เขาหล่อนะ...แต่เขาแปลก
หลังจากนั้นยิ้มก็เดินลงจากโกดัง ใช่ มันคือโกดังทั้งหมดหกชั้น ห้องที่เธอถูกพาขึ้นไปอยู่ชั้นบนสุด เธอเดินนำหน้าชายหนุ่มร่างสูงลงมาจนถึงชั้นล่าง โดยไม่เอ่ยอะไรเลยสักนิดและไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองแม้เพียงเสี้ยว ท่าทีตอนนี้ไม่เหมือนยิ้มที่อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าตั้งตรงไม่วอกแวกนั่น ทำเอาชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างกายประหลาดใจ"ไม่กลัวแล้วเหรอ?""กลัวสิ ถามได้"เพียงประตูรถฝั่งคนขับปิดลง ใบหน้าหวานที่ก่อนหน้าดูเข้มแข็งก็แปรเปลี่ยนทันทีเมื่อผู้เป็นแฟนเอ่ยถาม ยิ้มรีบซุกตัวเข้ากอดร่างหนาทันทีอย่างโหยหา และต้องการที่พึ่ง"ฮึก~ทั้งกลัว ทั้งโกรธ ฮึ้ย!"เดี๋ยวก็ร้อง เดี๋ยวก็กัดฟันฮึดฮัด โถ่ ๆ …มันน่านัก"โอ๋ ๆ ขอโทษที่ดูแลยิ้มได้ไม่มีดี ต่อไปจะไม่เกิดเรื่องอะไรแบบนี้เด็ดขาด สัญญา"ไบร์ททั้งโอ๋ทั้งโอบกอดเธอจนแน่น ครั้งนี้เขาพลาดจริง ๆ ที่ปล่อยเธอให้คลาดสายตา ต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปแม้เพียงเสี้ยวเล็บเขาจะดูแลและทะนุถนอมเธอให้ดีกว่านี้ จะไม่ปล่อยให้สิ่งใดมาทำให้เรื่องระหว่างเขาสองคนมีช่องโหว่เด็ดขาด"สัญญางั้นเหรอ"
ปัง! ราวกับนัดหมายเวลา เพียงแค่ผู้หญิงชั่วคนนั้นพูดจบประโยคประตูห้องก็ถูกถีบพังลงทั้งบานประตู ตามด้วยร่างชายฉกรรจ์ชุดดำนับสิบกรูกันเข้ามาในห้องยิ้มและนิกเห็นแบบนั้นใจก็ตกไปถึงตาตุ่มทันที เชอรี่เตรียมการทุกอย่างเพื่อที่จะทำลายเธอไว้ขนาดนี้เชียวหรือ เพียงเพราะคำว่าอิจฉา ทำให้คนเราน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้...เธอไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ"หึ ได้เวลาสนุกแล้วสิ เอาไอ้นั่นไปกระทืบ ส่วนอีนั่น พวกมึงจะทำอะไรก็ทำ จะเอามันจนตายกูก็ไม่ว่า แต่อย่าลืมถ่ายคลิปให้กูด้วยนะ"รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นอย่างคนเหนือชั้น ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นพอใจอย่างมากถึงมากที่สุด แต่ทว่า!ความดีใจนั้นกลับอยู่ได้ไม่นาน"มึงถ่ายเองไหมล่ะ?"แกร๊ก!!ประโยคเย็นชาและเรียบเฉย แต่สามารถกระชากวิญญาณคนบางคนให้หลุดออกจากร่างได้นั้นมีอยู่จริง เสียงนั่นมาพร้อมกับกระบอกปืนที่จ่อหัวเชอรี่อยู่!"ไบร์ท!!!"ร่างบางรีบโผลเข้ากอดคนตัวโตเจ้าของเสียงทันที เวลานี้เธอมองเห็นเขาคนเดียว คนเดียวเท่านั้น!"ฮึก ฮือ ๆ ไบร์ท ไบร์ท~ "ยิ้มดีใจจนร้องไห้โฮ เธอไม่เอ่ยสิ่งอื่นใดนอกจากเรียกชื่อเขาซ้ำ
"ฮึก! ฮือ ๆ""โอ๋ ~อย่าร้องสิ ไม่ชอบเวลายิ้มร้องไห้เลย""อึก อื้อ! ๆ"ใบหน้าเคล้าน้ำตารีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน เมื่อได้ยินประโยคชวนสะอิดสะเอียนนั่น เธออยากจะร้องตะโกนขอความช่วยเหลือใจจะขาด แต่น่าเสียดายที่ไร้ซึ่งโอกาสนั้นเธอถูกปิดปากด้วยผ้าทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ มือสองข้างถูกมัดไพล่หลังไว้ไม่สามารถดิ้นหนีหรือต่อสู้ หนำซ้ำเธอกำลังถูกลวนลามจากไอ้ชาติชั่วที่ปากมันบอกว่ารักเธอ แต่การกระทำกลับดูต่ำช้าเห็นแก่ตัวเกินบรรยาย"เมื่อไหร่มึงจะจัดการมันฮะ? รอให้กูตัดริบบิ้นหรือไง!"เสียงหวีดแหลมที่ดูท่าไม่พอใจเป็นอย่างมากดังมาจากมุมห้อง เธอคนนั้นสวมเดรสรัดรูปชุดเดิมที่ยิ้มเจอในผับ กำลังถือกล้องโทรศัพท์มือถือรอถ่ายวิดิโออย่างใจจดใจจ่อ ใช่แล้ว... ผู้หญิงคนนั้นคือ 'เชอรี่' คนที่เธอไม่เคยคิดว่าจะร้ายกาจกับเธอได้ขนาดนี้!"ยุ่งอะไรด้วยวะ!" นิกตะโกนอย่างไม่พอใจ เขาไม่ต้องการให้เชอรี่มาบงการอีกต่อไปเรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นความคิดของเชอรี่ที่จะให้เขาทำเรื่องแบบนั้นกับยิ้ม แล้วถ่ายคลิปประจานทำไมเขาจะไม่รู้ เขาต้องการยิ้มและแอบชอบยิ้มก็จริง แต่ไม่ได้อยา
"..."เหมือนกับว่าศรีษะถูกของหนักกดทับไว้จนเเทบยกไม่ขึ้น เธอตัวชาสมองหนักอึ้งไปชั่วขณะ เมื่อคำพูดรุนแรงประโคมสาดเข้าใส่หน้าเธอจัง ๆแววตาของคนตรงหน้าดูเดือดดาลราวกับโกรธแค้นคนพวกนั้นมากมาย ต่างจากเธอที่ดวงตาสั่นไหว ความรู้สึกจุกเเน่นหน้าอกเข้าเล่นงานจนเธอหายใจติดขัด"เฮ้อ~~"เมื่อเห็นว่ายิ้มน้ำตาคลอคล้ายกับจะร้องไห้ มือเล็กที่บีบแน่นจนเหงื่อซึม เขารับรู้ได้ในทันทีว่าตอนนี้ในใจของยิ้มนั้นสับสนและเสียใจไม่น้อยเขาไม่อยากทำลายความรู้สึกเธอ แต่จะปล่อยให้เธอกลายเป็นคนโง่ โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน"ขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ แต่ยิ้มต้องรู้เรื่องนี้จริง ๆ""..." ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ ยิ้มขยับตัวนั่งหันไปยังถนนเบื้องหน้า โดยไม่พูดจา ไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลยสักนิด เอาแต่นิ่ง แล้วก็นิ่ง จนกระทั่ง......"ถ้าวันนี้หาเมียกูไม่เจอ กูจะฆ่าพวกมึงให้หมด!!"ชายหนุ่มร่างหนา ปลือยส่วนบนของร่างกายเผยให้เห็นรอยสักมากมาย แผดเสียงตวาดลั่นยิ่งทำให้เขาดูน่ากลัวจนลูกน้องนับสิบถอยหลังกรู มีเพียงลูกน้องคนสนิทที่เดิ
ร่างสาวขี้เมาถูกปล่อยมือหลุดลงกองกับพื้น หญิงสาวร่างเล็กค่อย ๆ ยืดตัวมองการกระทำของคนที่อยู่ห่างกับเธอไกลพอสมควร แต่เธอกลับมองเห็นทั้งสองคนนั้นที่อยู่ในห้องน้ำได้ชัดเจนมือเล็กกำหมัดเเน่น เมื่อสองคนสบตาและพูดคุยบางอย่างที่เธอไม่ได้ยินเลยสักนิด เพราะตอนนี้หูสองข้างมันอื้ออึงไปหมด มีเพียงตาสองข้างเท่านั้นที่ยังรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของภาพเบื้องหน้าราวกับกำลังชมละครหลังข่าว"อึก" น้ำลายถูกกลืนลงคออย่างยากลำบากชายหนุ่มผู้นั้นก้มลงมองรอยลิปสติกบนอกเสื้อด้านซ้าย ก่อนที่จะยกยิ้มมุมปากอย่างพิกล แต่สิ่งที่เขาทำในเวลาต่อมามันยิ่งกว่าเอาน้ำเย็นทั้งถังมาสาดหน้าเธอเขาถอดเสื้อเชิ้ตตัวนั้นออก และขยับตัวเข้าหาผู้หญิงคนนั้น ทำให้หล่อนขยับตาม ยิ้มไม่รู้ว่าควรจะช็อคกับสิ่งไหนดี ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เธอเองก็เรียกว่าเพื่อน ‘เชอรี่’ ไบร์ทกับเชอรี่? หรือว่า..."อ๊ะ!"ยังไม่ทันที่เธอจะได้เห็นเหตุการณ์ต่อจากนั้น ภาพตรงหน้าก็ดันมืดสนิทเพราะถูกมือใครบางคนปิดตาเธอไว้"เราเอง อย่าดูเลยนะ""นิก?"ใช่แล้ว...เสียงนี้เธอจำได้แม่น เพราะรู้จ
"ไปไหนมา?"น้ำเสียงเเข็งกระด้างผิดจากปกติที่พอแฟนจ๋าเปิดประตูมาจะต้องเอ่ยเรียกเสียงหวาน มาวันนี้พอยิ้มเข้าห้องปุ๊บกลับรู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกไป"ไปหาม๊ามา ยิ้มก็แชทบอกแล้วนะ""งั้นเหรอ" คนตัวโตนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาที่เดิม พร้อมกับเอ่ยปากถามแต่สีหน้าดูไม่วางใจแบบสุด ๆ เขาเป็นอะไร ไม่พอใจอะไรอย่างนั้นเหรอ?"เอ้า ทำไมถามแบบนั้นอะ เมื่อวานก็โอเคไม่ใช่เหรอคะ"ยิ้มเดินเข้าไปนั่งข้างกายชายหนุ่มผู้เป็นแฟน จ้องมองและสังเกตคนตรงหน้าอย่างเช่นปกติ ดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไหม ซึ่งแน่นอนสีหน้าเขาดูเปลี่ยนไปจากทุกวันจริง ๆ นั่นแหละ"เป็นอะไรคะ คิดถึงเหรอ? จุ๊บ"ริมฝีปากสวยจุ๊บแก้มซ้ายของคนตัวโตอย่างเอาใจ แต่เขานั้นกลับทำหน้าหน้าตึงอย่างกับอะไรดี"จะไปไหน?"จู่ ๆ เขาก็ลุกพรวดพรวดจะเดินหนีไปโดยไม่พูดจา ดีที่มือเธอคว้าตัวเขารั้งไว้ได้เสียก่อน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาไม่เคยทำแบบนี้กับเธอ ไม่เคยเมินเฉย และยิ่งไม่เคยชักสีหน้าใส่เธอแบบนี้เลยสักครั้ง!"ไปทำงาน""ทำงานที่ไหน""ผับ""เพิ่งกลับมาเจอกัน อยู่กับยิ