หน้าหลัก / โรแมนติก / ร้านนี้มีรักไม่รับปาปารัสซี่ / ตอนที่5 เหล้าดีๆ สักไห ก็ทำให้คนสบายใจขึ้นมาได้

แชร์

ตอนที่5 เหล้าดีๆ สักไห ก็ทำให้คนสบายใจขึ้นมาได้

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-02 22:11:21

ชายสูงวัยในชุดสูทแบบซุนยัตเซ็นเอ่ยถามว่ามีเหล้าไหม ถังเหยานึกขึ้นได้ว่ายังมีเหล้าที่คุณทวดหมักเก็บไว้ตั้งแต่สมัยก่อนอยู่ในครัวสองสามไห คิดได้แบบนั้นก็รีบบอกกับหยางอิงไว้เลย ว่าถ้ามีใครถามถึงเหล้า ให้บอกไปว่า “หนึ่งโต๊ะสั่งได้แค่หนึ่งไห” ก็แล้วกัน ถือว่าให้ทุกคนได้ลิ้มลองฝีมือ การหมักเหล้าโบราณของตระกูลแบบพอเป็นพิธี

คุณลุงทั้งสองไม่ได้สั่งข้าวอาหารจานเดี่ยว แต่จัดเต็มสั่งเป็นเซ็ตชุดใหญ่ ถังเหยาจึงเร่งมือทำข้าวผัดหยางโจวกับสลัดผักแบบด่วนจี๋ เธอจัดวางซี่โครงวัวตุ๋นซอสไวน์แดง, ไก่ผัดพริกสไตล์เสฉวน และเต้าหู้เห็ดหอมลงจานอย่างสวยงาม พร้อมกับปลาในน้ำซุปเปรี้ยวหวาน และสลัดผักน้ำมันงาใส่ถาด ให้หยางอิงยกออกไปเสิร์ฟก่อน

เธอจัดการเตรียมถ้วยชาม ตะเกียบ ช้อน จอกเหล้าเล็กๆ สองใบ และไหหนึ่งไหวางไว้บนถาดไม้ ปิดท้ายด้วยข้าวผัดร้อนๆ จานใหญ่

พอดีกับจังหวะที่หยางอิงเดินกลับมา เฉินผิงกับเพื่อนอีก 5 คนก็เดินเข้ามาในร้าน เห็นมีลูกค้านั่งอยู่ก่อนแล้ว ทุกคนยังแอบคิดว่าตัวเองจะมาเป็นกลุ่มแรกเสียอีก เพิ่งหกโมงเอง ก็มีคนมาเร็วขนาดนี้แล้วเหรอ

พวกเขาก็ชอบบรรยากาศกลางแจ้งกับโคมไฟพอๆ กัน หลังจากทักทายสองสาวเจ้าของร้านแล้ว ก็พากันไปนั่งโต๊ะใต้หอมหมื่นลี้ 

“ร้านนี้ดูดีแฮะ แค่เห็นบรรยากาศร้าน ฉันก็ให้คะแนนบวกก่อนเลย”

“ทุกคนได้กลิ่นไหม ข้าวผัดหอมเวอร์! ยังไม่เคยเจอร้านไหนข้าวผัดหอมแบบนี้เลยนะ”

“แน่นอน ตอนที่เอาออเดอร์ไปส่งลูกค้ายังห้ามน้ำลายแทบไม่อยู่เลย แถมร้านนี้ดูสะอาดมาก มองจากด้านนอกก็เห็นครัวข้างในได้”

“นั่นสิ อย่างนี้ก็กินได้อย่างสบายใจ”

ระหว่างที่กำลังคุยกันอย่างออกรส อาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟพอดี แต่ละคนได้จานข้าวของตัวเอง พร้อมซุปและกับข้าวอย่างละจาน แถมยังมีสลัดแยกให้แต่ละคนอีกต่างหาก การจัดจานสวยแปลกตา พอเห็นแล้วก็รู้สึกพอใจโดยไม่ต้องชิมเลยด้วยซ้ำ

“โห ข้าวผัดอร่อยมาก! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกลิ่นมันถึงหอมขนาดนั้น ฉันไม่คิดเลยนะว่าข้าวผัดจะหอมได้ขนาดนี้”

“ไม่น่าเชื่อเลย ซี่โครงวัวตุ๋นไวน์แดงนี่อร่อยสุดๆ รสชาติแบบนี้ฉันเพิ่งเคยได้กินเป็นครั้งแรก”

“ไก่ผัดพริกเสฉวนเผ็ดๆ ชาๆ เปรี้ยวนิดๆ แต่ไม่บาดคอ ความเผ็ดกำลังดีเหมือนเกาโดนจุดคันมันยิบๆ แบบอร่อยจริงๆ”

ตอนแรกโต๊ะพวกเขายังมีเสียงอุทานชมโน่นนี่ประปราย แต่สักพักเสียงก็ค่อยๆ เงียบลง ไม่ใช่อะไร…แต่ละคนมัวแต่ก้มหน้ากินจนลืมโลก ลืมแม้แต่จะพูดคุยกัน

โต๊ะข้างๆ ที่ผู้กำกับเฉินกับผู้กำกับซ่งนั่งอยู่ ก็อินกับบรรยากาศและอาหารไม่แพ้กัน กินจนพออิ่มถึงได้หยิบเหล้ามารินคนละถ้วยเพื่อคลายหนาว

“นึกไม่ถึงเลยนะว่าร้านที่เสี่ยวติงแนะนำจะอร่อยขนาดนี้ ฝีมือเชฟที่ดูจากภายนอกไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะเก่ง เทคนิคตุ๋นซี่โครงนี่ ไม่แพ้ร้านอาหารระดับห้าดาวเลยสักนิด กลิ่นและรสเหนือกว่าเห็นๆ”

“เมนูไก่ผัดพริกเสฉวนจานนี้ดีกว่าของเต๋ออี้จิ่วโหลวอีก น้ำซอสอร่อยกว่าเป็นกองเลย ไก่นึ่งกับสมุนไพรหอมฟุ้ง แต่ยังคงความนุ่มหวานของเนื้อไก่ไว้ได้ ส่วนของทางร้านนั้นไก่แข็งกว่า แถมน้ำมันยังเยิ้มอีกต่างหาก”

ผู้กำกับเฉินกำลังพูดอยู่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเหลือบไปเห็นไหเหล้าที่เพิ่งเปิดฝา ร้านอาหารร้านนี้ตกแต่งแบบย้อนยุค ชามกับตะเกียบเลยดูเข้าชุดกันหมด พอเห็นไหเหล้าในมือของผู้กำกับซ่งแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในกองถ่ายหนังเรื่องที่ตัวเองกำกับซะอย่างนั้น

ผู้กำกับซ่งรินเหล้าใส่จอกสองใบแล้วรีบปิดฝาไหทันที ถึงแม้จะยังไม่ได้ดื่ม แต่แค่เปิดฝาก็พอรู้ได้แล้วว่านี่คือเหล้าชั้นดี สำหรับสายสะสมเหล้าอย่างเขา แค่กลิ่นก็รู้เลยว่าไม่ธรรมดา

เขายกชามเหล้าขึ้นสูดกลิ่นเบาๆ กลิ่นหอมหวานสดชื่นลอยมาแตะจมูก ชนิดที่ยังไม่ทันดื่มก็เหมือนกลิ่นไหลลงคอไปแล้ว รสหวานอ่อนๆ เหมือนจะละลายอยู่ในปาก แค่ได้กลิ่นก็แทบจะเมาแล้ว

“เหล้าชนิดนี้ ผมว่าไม่ธรรมดาแน่ อย่างน้อยต้องมีอายุกว่าร้อยปี แล้วก็น่าจะใช้วิธีหมักแบบโบราณด้วย ผมเคยมีเพื่อนคนหนึ่ง บังเอิญได้ลองเหล้าแบบนี้อยู่ครั้งนึง รสชาติตอนนั้นไม่เหมือนที่ไหนเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ถึงขั้นเท่าที่นี่ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าใต้เชิงเขาเหิงเตี้ยน ในร้านอาหารบ้านๆ แบบนี้จะมีของดีซ่อนอยู่แบบนี้”

ผู้กำกับเฉินพอฟังจบก็ลองจิบตามเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยให้รสเหล้าค่อยๆ ละลายไหลลงลำคอ แล้วถึงจิบอีกคำหนึ่งอย่างช้าๆ ช่วงแรกจะรู้สึกจี๊ดๆ นิดหน่อย แต่พอสักพักก็จะกลายเป็นรสสดชื่นนุ่มลิ้น แล้วปิดท้ายด้วยความหวานอ่อนๆ พร้อมกลิ่นข้าวหมักที่ติดอยู่ในคอ…เหล้าดีจริงๆ

เขามองไหเหล้าสีแดงน้ำตาลอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนจะหันกลับมามองสีเหล้าในชาม ที่ออกชมพูจางๆ แล้วหลุดปากออกมา “นี่มัน ‘นารีแดง’ ที่หมักมาจากข้าวเหนียวนี่นา ไม่น่าเชื่อเลยว่าในร้านเล็กๆ แบบนี้จะมีฝีมือหมักเหล้าระดับเทพซ่อนอยู่แบบนี้ ของดีไม่กลัวสถานที่จริงๆ”

ผู้กำกับซ่งหลับตา ลิ้มรสเหล้าที่ยังติดอยู่ในลำคออย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองโคมไฟที่ปลิวไหวตามลม บรรยากาศชวนให้ใจสงบ เขาเลยฮัมกลอนเบาๆ ออกมา

“หนี่ว์เอ๋อร์หง เจ้าหลับข้าตื่น คิดถึงไม่รู้จบ ข้าร่ายเจ้าอย่าฟังเงียบๆ เลย ของอร่อยบนโลกนี้มันก็แบบนี้แหละ ข้าวดีๆ ซุปหวานๆ เหล้าหอมๆ นั่งดูพระจันทร์รับลมเย็นๆ สุดท้ายแล้วในเมืองเหิงเตี้ยน ก็ยังมีที่ที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจแบบนี้อยู่เหมือนกัน”

ผู้กำกับเฉินได้ยินอย่างนั้นก็เลยท่องบทกลอนกลับบ้าง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ เหมือนทุกอย่างช้าลง เหมาะกับการปล่อยใจล่องลอยไปกับธรรมชาติ

“เหล้าแรงพาใจลอย ชาหมักล้างใจคน”

ขณะนั้นกลุ่มของนักแสดงตัวประกอบเพิ่งมาถึง เห็นว่าด้านในลานร้านแทบไม่มีที่ว่าง ทุกคนที่มาด้วยกันถึงกับตกใจ คิดว่าหลงเข้ามาในกองถ่ายละครย้อนยุคเข้าให้แล้ว โชคดีที่ตรงมุมลานยังมีโต๊ะเหลืออยู่อีกหนึ่งโต๊ะพอดี

“แค่วันแรกก็มีคนแน่นขนาดนี้ ของอร่อยจริงไม่ต้องกลัวไม่มีคนหาเจอ”

ถิงถิงเหลือบไปเห็นผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่ง กำลังนั่งดื่มกินคุยกันอยู่ฝั่งโน้น อยากจะเข้าไปทักแต่ก็เกรงว่าจะรบกวน เลยคิดว่าจะรอให้ทั้งสองกลับก่อน แล้วค่อยเข้าไปสวัสดีทีหลัง

“ฉันเคยแนะนำผู้กำกับเฉิน ให้กับผู้กำกับในกองถ่ายที่เรากำลังถ่ายกันอยู่ ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาพร้อมกับผู้กำกับซ่งด้วย”

“ผู้กำกับซ่งเหรอ! นี่ฉันก็เล่นอยู่ในกองของเขาอยู่นะ”

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าแค่ร้านข้าวเล็กๆ แบบนี้จะได้เจอสองผู้กำกับในตำนาน ถ้าเห็นเขากลับเมื่อไร ฝากเตือนฉันด้วยนะ จะได้เข้าไปทักทายทั้งสองท่านสักหน่อย”

จะมีอะไรไปกว่าการได้กินอาหารอร่อยๆ เหล้าสักจอกสองจอก 

ก็ทำให้ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน มลายหายไปได้เลยยย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ร้านนี้มีรักไม่รับปาปารัสซี่   ตอนที่40 ลมหายใจที่แขวนอยู่บนเส้นระเบิด

    ถังเหยากวาดตามองระยะห่างระหว่างจุดที่ยามยืนอยู่กับเต็นท์ ก่อนจะพูดขึ้นเรียบๆ“ภายในสามสิบวินาที...พวกคุณจัดการได้กี่คนคะ?”กู้จื่ออวี่ที่ได้ยินคำถามนั้นก็เข้าใจทันที ว่าเธอกำลังวางแผนอะไร ถังเหยาต้องการจะยิงจากระยะไกลเพื่อเก็บศัตรูให้หมดในคราวเดียว แต่การจะทำแบบนั้นได้ มือไม่ใช่แค่ต้องเร็ว...แต่ต้องแม่นยำอย่างถึงที่สุด เพราะถ้าเกิดพลาด หรือปล่อยให้พวกนั้นมีโอกาสโต้กลับ ทุกอย่างจะกลายเป็นหายนะทันที“ผมคาดว่าประมาณ 4 คน”“ผมน่าจะ 3 คน”“อืม ถ้างั้นเรามาพยายามฆ่าทั้งหมดในครั้งเดียวเลยนะคะ”ถังเหยาทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างมั่นคง พานท้ายปืนพาดแนบกับไหล่ เธอก้มหน้าเล็กน้อยแล้วแนบตาเข้ากับกล้องเล็ง ปลายนิ้วแตะไกปืนอย่างนิ่งสงบ ลมหายใจเธอชะงักอยู่ชั่วขณะ รอจังหวะเหมาะสมแล้วยิงกระสุนนัดแรก ทั้งสามคนต่างก็กำจัดศัตรูได้สำเร็จ ต้าอว

  • ร้านนี้มีรักไม่รับปาปารัสซี่   ตอนที่39 ความเงียบที่ปลิดชีพ

    สถานการณ์ในสนามรบเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชมก็พลอยรู้สึกตึงเครียดไ ปตามทุกย่างก้าวของผู้เข้าแข่งขัน ทันใดนั้น เสียงประกาศจากลำโพงก็ดังขึ้น:“เซี่ยอวิ๋นซูตายแล้ว”ภาพจากกล้องฝั่งเธอฉายชัดทุกจังหวะกู้จื่ออวี่กำลังติดต่อกับถังเหยาทางวิทยุสื่อสาร นัดให้รวมกลุ่มกันที่จุดนัดพบ การกระจายตัวแบบนี้มันอันตรายเกินไป ทั้งสองคนเลยเร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปยังตำแหน่งเป้าหมาย ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าพร้อมกับเสียงปืนดังขึ้น จึงรีบส่งสัญญาณให้เซี่ยอวิ๋นซูหาที่หลบซ่อน แต่เธอกลับไม่ทำตามคำสั่ง กลับกันเธอก้าวออกมาบังทิศทางกระสุนที่พุ่งตรงมาหาเขาและในวินาทีนั้นกู้จื่ออวี่เบี่ยงตัวหลบได้พอดีเรื่องมันควรจะจบลงแค่นั้น ถ้าเธอฟังคำสั่งเงียบๆ ก็จะไม่มีใครเป็นอะไร แต่สุดท้าย เธอกลับเลือกกระโดดออกมาช่วย แล้วต้องแลกด้วย “ชีวิต” ของตัวเองเซี่ยอวิ๋นซูถอดหมวกออ

  • ร้านนี้มีรักไม่รับปาปารัสซี่   ตอนที่38 กระสุนนัดเดียว เปลี่ยนภาพจำทั้งสนาม

    ลูกปืนของตงเจียวถึงแม้จะเบี่ยงเป้าหมายไป แต่กลับมีคนถูกยิงจริงๆ แถมไม่ใช่คนที่เธอเล็งไว้ด้วยซ้ำ!จังหวะที่บีบไกปืน ถังเหยากลับตอบสนองเร็วเหลือเชื่อ! กระสุนเพิ่งตกลงพื้นข้างตัว เธอก็พลิกตัวหลบไปทางขวาอย่างช่ำชอง พร้อมยกปืนยิงสวนกลับไปทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว"ปัง!"การตอบโต้ของถังเหยารวดเร็วและเฉียบขาดมาก จนแม้แต่กลุ่มของห่าวอี้ยังตั้งตัวไม่ทัน ยืนเหวอกันไปเป็นแถวตงเจียวก็ไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีทักษะอะไร จนกระทั่งเสียงเตือนในหูฟังบอกว่า “คุณตายแล้ว” พร้อมกับคราบแดงบนหน้าอกซ้ายเครื่องหมายโดนยิงเข้าจังๆเธอจึงจำใจ “นั่งลง” ยอมรับชะตา...เล่นบทศพต่อไป“ผู้เล่น ตงเจียว ตกรอบ!”เสียงจากลำโพงสนามดังลั่น ทำให้ทุกคนตื่นจากภวังค์ เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเวลาแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที กลับเปลี่ยนเกมทั้งตาไปหมด ห่าวอี้ได้สติรีบลากเ

  • ร้านนี้มีรักไม่รับปาปารัสซี่   ตอนที่37 สไนเปอร์ไร้เงา

    แม้ว่าเผิงเหนียนจะเคยอยู่บ้านเดียวกับกู้จื่ออวี่มาก่อน แต่ตอนนั้นทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก อีกทั้งนิสัยของเธอก็ค่อนข้างขี้อาย จึงไม่จำเป็นต้องแกล้งแสดงอาการเขินเมื่อเจอกันครั้งแรก เพราะมันเผยออกมาโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แถมเธอยังกลัวแฟนคลับของกู้จื่ออวี่กับห่าวอี้อยู่ไม่น้อย จึงพยายามยืนห่างจากทั้งสองคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สองคู่ถูกจับมารวมเป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนกลุ่มที่มีสามคนก็ยังคงเดิมภารกิจแรกของวันคือให้เตรียมมื้อกลางวันกันเอง เมื่อแขกรับเชิญได้ยินแบบนั้น สีหน้าทุกคนก็เหมือนจะหมดคำพูด ในป่าจะหาอะไรกินได้ล่ะ? จะให้หาของกินจากใบไม้หรือไง? โชคยังดีที่แต่ละคนแอบพกขนมเล็กๆ น้อยๆ มาด้วย จึงไม่ถึงกับต้องทนหิวในมื้อกลางวันทว่าหลังมื้อนั้นเสบียงทั้งหมดก็เกือบหมดเกลี้ยง เหมือนรายการจงใจวางกับดัก ทำทีให้เตรียมเองแต่สุดท้ายกลายเป็นถูก "ปล้น" ไปซะหมดแล้วมื้อเย็นล่ะ? จะเอาอะไรกิน?หลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนได้พักช่วงสั้นๆ ตอนกลางวั

  • ร้านนี้มีรักไม่รับปาปารัสซี่   ตอนที่36 เจ้าหญิงอุ้มเจ้าชาย

    บนหน้าจอไลฟ์ที่แต่เดิมแบ่งเป็น 7 ช่อง ตอนนี้ถูกรวมเหลือเพียง4 ช่องเท่านั้น ใบหน้าของเหล่าแขกรับเชิญส่วนใหญ่ก็ปรากฏให้เห็นชัด ยกเว้นห้องอันดับท้ายสุดของถังเหยา ที่ยังคงเห็นได้แค่เพียงเงาหลังของเธอเท่านั้นฝ่ายแอนตี้รีบออกตัวว่าใบหน้าของถังเหยาคงจะ “ระดับทั่วไป” จนต้องหลบกล้องตลอดเวลาเพื่อเลี่ยงคำด่า ขณะที่ชาวเหิงเตี้ยนรีบออกโรงปกป้อง ว่า จ้าของร้านตระกูลถังเป็นสาวน้อยหน้าตางดงามตัวจริงระหว่างที่สองฝ่ายกำลังเปิดศึกโต้เถียงกันแบบไม่มีใครยอมใคร คนที่เดินอยู่ด้านหน้าก็จู่ๆ หยุดกะทันหัน พอมองใกล้ๆ ก็พบว่าในอ้อมแขนของเธอมี “คนเพิ่มมาอีกหนึ่ง” เหล่าผู้ชมต่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบย้อนกลับไปดูภาพซ้ำในคลิปถังเหยากำลังเดินอยู่ตามปกติ อยู่ๆ เธอก็เงยหน้าขึ้นมอง และในวินาทีนั้นมีคนหนึ่งร่วงลงมาจากกิ่งไม้ตรงหน้า จึงรีบวิ่งเข้าไปทันเวลาและรับตัวเขาไว้ได้พอดี เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ทำเอาทั้งทีมถ่ายทำและผู้ชมถึงกับนิ่งงันไปทั้งหน้าจอ

  • ร้านนี้มีรักไม่รับปาปารัสซี่   ตอนที่35 ภารกิจเอาตัวรอด

    ภายใต้บรรยากาศอันคึกคักและความคาดหวังจากผู้ชม หน้าจอไลฟ์สดปรากฏตัวเลขนับถอยหลัง1 นาที สนามรบระหว่างบ้านแฟนคลับทั้งหลายจึงยอมพับดาบเก็บกระบี่ชั่วคราว หันมาเตรียมใจพักผ่อนชั่วครู่ รอดูรายการก่อนแล้วค่อยเคลียร์กันต่อภายหลังภาพบนหน้าจอค่อยๆ เผยให้เห็นต้นไม้แน่นทึบ แสงแดดสาดผ่านพุ่มใบ เสียงนกร้องก้องไปทั่วขุนเขา ความคิดแรกของผู้ชมคือ ทีมโปรดักชันถ่ายทำในป่าจริงๆ อย่างนั้นหรือ? รายการนี้กล้าปล่อยบรรดาเซเลบดาราแถวหน้าเหล่านี้ ไปดิ้นรนเอาตัวรอดกลางป่าจริงๆ ใช่ไหม?จากนั้นหน้าจอถูกแบ่งออกเป็น 7 ช่องย่อย แสดงภาพของทั้ง7 คน ณ สถานที่ต่างกัน พร้อมคำอธิบายว่าในบรรดาทั้ง7 ใครมาถึงก่อนจะได้เข้าไปก่อน หากเจออีกคนก่อนจะได้จับกลุ่มกัน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ3 คนและ4 คนรายการให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคนพกเป้มาหนึ่งใบ ของข้างในแล้วแต่จะเตรียม ใครมีแรงแบกไหวแค่ไหนก็พกมาเท่านั้น แต่ทุกคนก็พอรู้ว่าต้องเดินทางเยอะจึงเตรียมมาแค่พอใช้ยอดคนดูไหลเข้าร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status