แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: ปลาทองหางเดียว
เสียงอันเย็นชาของชายหนุ่มดังเข้ามาในหู ช่างเสียดแทงแก้วหูเป็นพิเศษ

ชิงอี้หันกลับไป ก็สบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นของเขา เย็นชาและเฉยเมย แทบจะไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ

เขายังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี คิดว่าเธอและลูกสาวเป็นฝ่ายผิด และเข้าข้างหร่วนหนิงถังกับหนานหนานอย่างไม่มีเงื่อนไข

โจวเฉาหลี่ไม่รอให้ชิงอี้ได้เอ่ยปากพูดอะไร สายตาก็มองตรงไปยังหร่วนหนิงถัง น้ำเสียงที่แข็งกระด้างอ่อนลงเล็กน้อย “เข้าไปกินข้าวเช้ากันเถอะ”

เขาไม่แม้แต่จะมองจือจือสักแวบเดียว ก้าวเท้าตามพวกเขาเข้าไปในห้องผู้ป่วยโดยตรง แล้วปิดประตูห้องลง

ชิงอี้มองดูประตูห้องผู้ป่วยที่ถูกปิดลง กำหมัดแน่นจนเล็บแทบจะจิกเข้าไปในเนื้อ

เมื่อเผชิญกับท่าทีที่เย็นชาของโจวเฉาหลี่ แววตาของเธอก็ยิ่งเย็นชาลงไปอีกหลายส่วน

เธอทนอยู่กับท่าทีเมินเฉยแบบนี้มาหลายปีได้อย่างไรกัน?

คิดดูแล้วก็น่าขัน

ถ้าหากเธอไม่ดึงดันที่จะได้รับการตอบสนองจากโจวเฉาหลี่ พาลูกสาวจากไปให้เร็วกว่านี้สักหน่อย บางทีชาติที่แล้ว ลูกสาวก็คงจะไม่ต้องพบกับโศกนาฏกรรมเช่นนั้น

“คุณแม่คะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว วันนี้เราออกจากโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ”

ชิงอี้ก้มหน้าลง มองดูลูกสาวที่รู้ความและเชื่อฟัง ในใจยิ่งบีบรัดแน่น “ต่อไปนี้ไม่ว่าใครจะรังแกลูก ก็ห้ามอดทนนะ รู้ไหม?”

จือจือพยักหน้าอย่างว่าง่าย “หนูทราบแล้วค่ะ”

หลังจากที่ชิงอี้ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้จือจือเสร็จแล้ว ก็พาจือจือไปหาคุณแม่

คุณแม่อาศัยอยู่ที่วิลล่านอกเมือง ห่างจากตัวเมืองอยู่บ้าง แต่ที่นี่อากาศและทิวทัศน์ดีมาก

คุณแม่กับคุณพ่อของเธอทะเลาะกันเรื่องหย่ามาตลอด แต่ฝ่ายคุณพ่อไม่เคยยอม คุณแม่ก็เลยย้ายออกมาอยู่เองเสียเลย

ชิงอี้ชอบพาจือจือมาหาคุณแม่เพื่อพูดคุยปรับทุกข์

จือจือพอเห็นคุณยาย ก็ดีใจอย่างยิ่ง วิ่งเข้าไปอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของคุณยาย

หลี่หว่านฮุ่ยยิ้มพลางอุ้มจือจือขึ้นมา “โอ๊ย หลานสาวตัวน้อยของยาย โตขึ้นอีกแล้วเหรอ? วันนี้มาบ้านยายอยากกินอะไร เดี๋ยวยายทำให้กินเอง”

“กินซี่โครงหมูรมควันค่ะ!”

“ได้เลย เดี๋ยวยายทำให้กินนะ”

หลี่หว่านฮุ่ยปลอบจือจืออยู่ครู่หนึ่ง ก็ให้เธอขึ้นไปดูทีวีข้างบนเอง

เธอมองไปทางชิงอี้ “วันนี้วันพุธ ทำไมถึงมีเวลามาล่ะ?”

ชิงอี้นั่งลงบนเก้าอี้ “ช่วงนี้ธุรกิจเป็นยังไงบ้างคะ?”

หลี่หว่านฮุ่ยดำเนินธุรกิจของตัวเอง แต่ช่วงนี้ธุรกิจไม่ค่อยดีนัก ผลกำไรลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นฐานแล้วคือขาดทุนตลอด

ก็เพราะธุรกิจนี้นั่นแหละ ที่ทำให้ชิงจิ่งฝูยื้อเวลาไม่ยอมหย่ามาโดยตลอด พวกเขาสองคนเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี การแบ่งสินสมรสมีความขัดแย้งกันมาก ผลประโยชน์ผูกมัดกันอย่างลึกซึ้ง การหย่าร้างจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป

ชิงจิ่งฝูมีเมียน้อยอยู่ข้างนอกนานแล้ว เมียน้อยก็มีลูกให้เขาสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ดังนั้นชิงจิ่งฝูจึงไม่เคยชอบชิงอี้เลย

หลังจากที่ชิงอี้แต่งงานกับโจวเฉาหลี่ เขาก็ตั้งใจจะผูกมิตร อยากจะอาศัยเส้นสายของโจวเฉาหลี่ในการทำธุรกิจ

แต่โจวเฉาหลี่ไม่ชอบเธอ ย่อมไม่สนใจว่าครอบครัวของเธอจะเป็นอย่างไร

ดังนั้นชิงจิ่งฝูจึงเคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ด่าหลี่หว่านฮุ่ยว่าให้กำเนิดของไร้ค่า

หลี่หว่านฮุ่ย “ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ”

ชิงอี้ก้มหน้าลงเล็กน้อย หลายปีมานี้ หากเธอมีเงินเหลือก็จะโอนให้คุณแม่เสมอ แต่ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดธุรกิจของคุณแม่มากนัก

ชาติที่แล้ว เธอทุ่มเททั้งใจให้กับโจวเฉาหลี่ สองวันก่อนที่ลูกสาวจะเสียชีวิต ธุรกิจของคุณแม่เพิ่งจะประกาศล้มละลาย

“อีกสักพักหนูจะโอนเงินให้อีกก้อนหนึ่งนะคะ ถึงตอนนั้นแม่จะได้เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานภายในบริษัท รูปแบบการดำเนินงานก่อนหน้านี้มันเก่าเกินไปแล้ว ตามยุคสมัยไม่ทันแล้วค่ะ แล้วก็สามารถลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ด้านพลังงานใหม่ได้ด้วย ผู้นำในบริษัทที่ความคิดล้าสมัย ที่ควรจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปเลยค่ะ”

หลี่หว่านฮุ่ยขมวดคิ้วมองชิงอี้ “ลูกไปเอาเงินมาจากไหน? หรือว่าเป็นเฉาหลี่...”

“ไม่ใช่ค่ะ” ชิงอี้ขัดจังหวะอย่างตรงไปตรงมา “หนูกำลังจะหย่ากับเขาแล้วค่ะ”

แต่งงานกับโจวเฉาหลี่มาหลายปี เขาไม่เคยสนใจเรื่องใด ๆ ของตระกูลชิงเลย แม้แต่ตอนที่ตระกูลชิงใกล้จะล้มละลาย เขาก็ไม่เคยสนใจ

แต่พอหร่วนหนิงถังเรียนต่อต่างประเทศแล้วไม่มีเงิน เขากลับโอนเงินให้หร่วนหนิงถังหลายล้านโดยไม่ลังเล

ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะคุณลุงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เกรงว่าคุณแม่คงจะแบกรับหนี้สินนับร้อยล้านไปนานแล้ว

หลี่หว่านฮุ่ยมองเธอด้วยสายตาที่เจ็บปวดใจ

เธอถอนหายใจ “เป็นความผิดของแม่เอง ที่ไม่มีความสามารถ ถ้าหากบ้านเดิมของลูกมีคนคอยหนุนหลัง ลูกก็คงไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานที่บ้านตระกูลโจวขนาดนี้...”

หลี่หว่านฮุ่ยเบือนหน้าหนี น้ำตาคลอเบ้า “ทำให้ลูกต้องทนมาจนถึงตอนนี้ถึงได้เอ่ยปากขอหย่า”

“มันผ่านไปแล้วค่ะ”

ตอนนั้น เธอไม่ควรดึงดันที่จะแต่งงานกับโจวเฉาหลี่

ผู้หญิงที่ตกหลุมรัก มักจะคิดว่าการเป็นแม่บ้านแม่เรือน จะสามารถทำให้ผู้ชายมารักตัวเองได้

ชิงอี้ฝากลูกสาวไว้ที่บ้านของหลี่หว่านฮุ่ย

ใบลาออกได้รับการอนุมัติแล้ว เธอต้องไปทำเรื่องลาออกที่โจวกรุ๊ป

ที่โถงด้านหน้าของบริษัท เธอเผชิญหน้ากับโจวเฉาหลี่

ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำ ก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปข้างนอก ดูเหมือนจะมีเรื่องด่วน

สีหน้าของชิงอี้เรียบเฉย ยืนชิดข้างเพื่อหลีกทาง

โจวเฉาหลี่มักจะทำเป็นมองไม่เห็นชิงอี้เสมอ เคยชินกับการละเลยเธอ

ไม่ว่าเธอจะทักทายและพยายามสร้างตัวตนอย่างไร เขาก็ทำเป็นมองไม่เห็น

“เหล่าโจว ทางนี้!”

นอกประตูใหญ่ หร่วนหนิงถังยิ้มพลางโบกมือให้โจวเฉาหลี่

“ทำไมพี่ถึงต้องลงมารับฉันด้วยตัวเองด้วยล่ะ ฉันขึ้นไปเองก็ได้”

ชิงอี้พลันนึกถึงเมื่อก่อน ไม่ว่าลมจะพัดหรือฝนจะตก โจวเฉาหลี่ก็ไม่เคยเอาใจใส่เธอเช่นนี้มาก่อน คนไม่เหมือนกัน ท่าทีของเขาก็ไม่เหมือนกัน

เธอละสายตาอย่างเรียบเฉย ไม่อยากจะสนใจอีกแล้วว่าระหว่างพวกเขาจะทำอะไรกัน

เธอหมุนตัวเดินเข้าไปในลิฟต์ กดปุ่มขึ้นไปชั้นห้า แล้วตรงไปที่ฝ่ายบุคคลเพื่อยื่นใบลาออก

พี่จางจากฝ่ายบุคคลรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เธอยื่นใบลาออกจริง ๆ เหรอเนี่ย? นึกว่าล้อเล่นซะอีก”

ทุกคนรู้ดีว่าชิงอี้เป็นเพียงผู้ช่วยตัวเล็ก ๆ ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ในแต่ละวันก็แค่ยกน้ำชาเสิร์ฟน้ำในห้องประชุม เพราะเธอยังต้องกลับบ้านไปดูแลลูก ทำโปรเจกต์ที่ซับซ้อนไม่ได้

ถึงแม้ว่าประธานโจวจะไม่เต็มใจที่จะสนใจเธอ แต่เธอก็มักจะตามประธานโจวไปทุกที่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตอนนี้จู่ ๆ ก็จะลาออกโดยไม่มีเหตุผล เกรงว่าพระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วมั้ง

ชิงอี้ไม่อยากจะตอบอะไรมากนัก เพียงตอบรับด้วยสีหน้าเย็นชา “อืม”

พี่จางเห็นท่าทีแบบนั้น ก็ได้แต่สบถอยู่ในใจ

ก็แค่ผู้ช่วยตัวเล็กๆ ไม่รู้จะมาทำท่าหยิ่งอะไร แฟนสาวของประธานโจวเพิ่งจะมาบริษัทวันนี้ ทั้งกลุ่มแชตก็แทบแตก บอกว่าแฟนสาวของประธานโจวทั้งสวยสง่า แถมยังจบการศึกษาจากต่างประเทศ และยังเป็นปริญญาเอกสองใบทั้งด้านเทคโนโลยีการเงินและวิศวกรรมการบินและอวกาศอีกด้วย

กับประธานโจวแล้ว เป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง

คงเพราะรู้ว่าแฟนตัวจริงของประธานโจวนั้นเก่งกาจ ตัวเองเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ เลยรู้สึกต่ำต้อยจนตัดสินใจลาออกล่ะสิ

“เรื่องลาออกเรียบร้อยแล้วนะ” พี่จางมองชิงอี้ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เสี่ยวชิง ฉันขอเตือนสักคำ ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหนต่อไป อย่าไปคิดกับคนที่ไม่ควรคิดถึงเลย”

ชิงอี้ได้ฟังก็รู้สึกว่าตัวเองในอดีตนั้นช่างน่าสมเพชเพียงใด

ที่แท้แล้วในอดีตที่เธอรักเขามากขนาดนั้น ในสายตาของคนอื่น กลับเป็นเพียงการตอแยข้างเดียวและความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของเธอ...

คนอื่นมองออกกันหมด แต่เธอกลับเพิ่งจะตื่นรู้ในตอนนี้ ชาติที่แล้ว บางทีอาจจะเป็นการลงโทษจากสวรรค์

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างเงียบงัน

จากนั้นก็กวาดสายตามองพี่จางอย่างเรียบเฉย “ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ แต่แผนอาชีพของฉันไม่รบกวนให้ต้องชี้แนะ”

ชิงอี้ออกมาจากฝ่ายบุคคล ลงมาที่ล็อบบี้ โจวเฉาหลี่กับหร่วนหนิงถังยังคงอยู่ที่นั่น

เมื่อก่อนเธออยากจะเจอโจวเฉาหลี่ทุกวัน แต่ตอนนี้พอเห็นหน้าเขาเข้ากลับรู้สึกอับโชคขึ้นมาทันที

เธอก้าวเท้าจะเดินจากไป

ไม่คิดว่าโจวเฉาหลี่จะเอ่ยปากเรียกเธอไว้อย่างไม่รีบร้อน “ชิงอี้ เอากาแฟหนึ่งแก้วไปให้หนิงถังที่ห้องทำงานด้วย”

หร่วนหนิงถังรีบเอ่ยปาก “ได้ยินเหล่าโจวพูดมานานแล้วว่ากาแฟที่พี่สะใภ้ชงอร่อยมาก เหล่าโจวยังบอกอีกว่าพี่สะใภ้เหมาะกับงานบ้านพวกนี้จริง ๆ ช่างเป็นแม่ศรีเรือนจริง ๆ ฉันทำงานละเอียดแบบผู้หญิงพวกนี้ไม่เป็นหรอก”

“อ้อใช่ กาแฟต้องเป็นแบบบดมือนะคะ กาแฟสำเร็จรูปฉันดื่มไม่ค่อยได้”

ชิงอี้หยุดฝีเท้า หันกลับไปมองหร่วนหนิงถัง “ในห้องทำงานของเขามีชาปี้หลัวชุนอยู่ มีรากเหง้าเดียวกันกับเธอ คงดื่มได้สบาย”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 100

    หร่วนหนิงถังโทรหาโจวเฉาหลี่ เล่าความลำบากที่ตนเจออยู่ในตอนนี้“ฉันแค่อยากเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้ ครั้งแรกที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าทำงานในจิ่วคงเพราะพี่สะใภ้ก็ช่างเถอะค่ะ แต่ตอนนี้...พี่สะใภ้ทำแบบนี้ จะไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว”ผู้ชายที่ปลายสายเงียบไปไม่กี่วินาที ดูเหมือนกำลังยุ่งอยู่ ผ่านไปสักพัก เขาจึงตอบอย่างเรียบเฉย “ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจัดการเอง”......วันนี้ชิงอี้ทำงานล่วงเวลา จิ่วคงเทคโนโลยีเปิดตัวทดสอบระบบใหม่ ซึ่งประมวลผลข้อมูลอยู่ตลอด จนดึกมากแล้วเธอก็ยังไม่กลับบ้านในห้องเช่าจือจืออยู่บ้านคนเดียวอย่างว่าง่ายและกำลังทำการบ้านอยู่ เพียงแต่ล้วนเป็นโจทย์คณิตศาสตร์โอลิมปิกทั้งหมดการบ้านพวกนั้นของโรงเรียนอนุบาล สำหรับเธอในตอนนี้ ง่ายเกินไปจริง ๆเมื่อเสียงกริ่งประตูดังขึ้น จือจือก็ชะงักไปเธอวางปากกาในมือลง เดินไปที่ประตูโดยไม่ได้เปิดทันที แต่ดูที่กล้องวงจรปิดหน้าประตูเมื่อเห็นผู้ชายที่หน้าประตู มือของจือจือก็กำแน่น หัวใจเต้นรัวโจวเฉาหลี่สวมชุดสีดำยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าเย็นชาเฉยเมยเมื่อเห็นพ่อ จือจือก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นในใจคุณพ่อมาตามคุณแม่กลับบ้านแล้วเหรอ

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 99

    ชิงอี้เล่าเรื่องโปรเจกต์ให้ลู่จินอันฟังคร่าว ๆลู่จินอันฟังแล้ว วางตะเกียบในมือลง และพูดด้วยรอยยิ้ม “งมเข็มในมหาสมุทร แบบนี้เธอติดต่อนักลงทุนไม่ได้หรอก”แน่นอนว่าชิงอี้รู้ว่าติดต่อไม่ได้ ถ้าอยากติดต่อ ก็ต้องไปนัดที่บริษัท แต่ตอนนี้เธอก็ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ตอนที่ว่างจากงาน การหาข้อมูลเพิ่มเติมย่อมไม่ผิดแน่นอน“ฉันเห็นข่าวว่า เดือนหน้าทางมณฑลจะจัดประชุมผู้ประกอบการ โดยส่วนใหญ่จะพูดคุยถึงการวางแผนและนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมเก่าและใหม่ ถ้าแผนงานเป็นไปได้ ก็จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ”“ฉันอยากไปดู แต่คงไม่ได้โควตานั้นมาแน่ ๆ”โควตานี้ได้มายากมาก แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยม ก็ไม่แน่ว่าจะได้โควตาเข้าร่วมลู่จินอันยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ “แน่นอน หนทางนี้เธอเลิกคิดไปได้เลย”ตอนนี้พวกเขายังไม่มีคุณสมบัติ“การประชุมของมณฑลครั้งนี้ ฉันช่วยเธอไม่ได้ แต่มะรืนนี้เธอสามารถเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมของลู่กรุ๊ปได้”ชิงอี้ชะงักไปลู่กรุ๊ปเป็นเจ้าใหญ่ในวงการการบินและอวกาศ มีอิทธิพลอย่างมากในอุตสาหกรรมพวกเขาจะเชิญผู้ประกอบการมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงนักวิชา

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 98

    “ไปส่งพวกเขาลงเขาก่อนเถอะ” โจวเฉาหลี่พูดอย่างเรียบเฉยชิงอี้ย่อมรู้ดีว่าโจวเฉาหลี่จะไม่ทำให้หร่วนหนิงถังเสียหน้า เมื่อเธอพูดแล้ว ส่วนใหญ่เขาก็จะพยักหน้าเห็นด้วยหลีหนานพยักหน้าหลังจากเขาขึ้นรถ ก็เอ่ยถาม “คุณนาย จะไปที่ไหนครับ?”ชิงอี้พิงพนักเก้าอี้ “โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”หลีหนานชะงักไปก่อน แต่ก็ไม่สะดวกจะซักถามเรื่องส่วนตัวต่อ จึงได้แต่ขับรถไปโรงพยาบาลส่วนรถที่เสีย ถึงเวลาก็ให้คนฝ่ายซ่อมบำรุงมาลากไปก็พอแล้วชิงอี้ไม่ทำให้ตัวเองลำบากอยู่แล้ว แน่นอนว่ามีรถก็ต้องนั่งสิหลี่หว่านฮุ่ยคิดไม่ถึงว่าชิงอี้จะขึ้นรถไปอย่างไม่ลังเลขนาดนั้นหลังจากถึงโรงพยาบาล หลีหนานก็โทรหาโจวเฉาหลี่เพื่อรายงานว่าพาพวกเธอไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วผู้ชายปลายสายไม่ได้มีท่าทีตอบสนองอะไรมากนัก แค่พูดอย่างนิ่งเฉยมาก “รู้แล้ว”หลังจากหมอจัดยาแก้ลมแดดส่วนหนึ่งให้ชิงอี้ ก็บอกให้เธอกลับไปพักผ่อนให้เพียงพอหลี่หว่านฮุ่ยมองเธอ “ช่วงนี้ลูกผอมลงเรื่อย ๆ ร่างกายก็อ่อนแอ ลูกต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ เป็นเพราะโจวเฉาหลี่...”“ไม่ใช่ค่ะ” ชิงอี้พูด “แค่ช่วงนี้หนูยุ่งเกินไป เลยไม่ได้ดูแลร่างกาย”เป็นเพราะเธอยุ่งเกินไปจริ

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 97

    หลังออกมาจากห้องน้ำชา หลี่หว่านฮุ่ยโมโหจนหน้าอกอัดแน่นไปด้วยความโกรธ วันนี้ถูกดูถูกอย่างโจ่งแจ้งแต่กลับพูดอะไรไม่ได้เลย“แม่ไม่คิดเลยว่าโจวเฉาหลี่จะทำกับลูกขนาดนี้ ถ้ารู้อย่างนี้ แม่จะไม่ยอมให้ลูกใช้ชีวิตที่เลวร้ายแบบนั้นแน่!”สีหน้าของชิงอี้ซีดลงเรื่อย ๆ และมีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนหน้าผาก เธอส่ายหน้า น้ำเสียงอ่อนแรงอยู่หลายส่วน “ไม่เป็นไรค่ะ มันผ่านไปแล้ว”คนเราต้องมองไปข้างหน้าแดดตอนบ่ายแรงมากหลี่หว่านฮุ่ยเห็นสภาพเธอไม่ค่อยดี ก็เป็นห่วง “ลูกจะเป็นลมแดดหรือเปล่า?”เธอขมวดคิ้ว “ยืนรอแม่ตรงนี้แป๊บหนึ่งนะ แม่จะไปเอารถมาพาลูกไปโรงพยาบาล”รถจอดอยู่ในลานจอดรถไม่ไกลนัก แต่ถ้าเดินไปก็จะโดนแดดชิงอี้รู้สึกเพียงมึนหัวตาลาย พิงกรอบประตูแล้วพยักหน้าเล็กน้อยหลี่หว่านฮุ่ยแยกไปขับรถมาตอนนี้บาดแผลที่ข้อมือรู้สึกแสบเล็กน้อย เมื่อคืนเธอใช้เวลาไม่น้อยในการทำคำอธิบายแบบโมเดลสามมิติ ข้อมืออาจจะใช้งานหนักเกินไป ชิงอี้ยกมือขึ้นดูผ้าพันแผลที่ข้อมือ มีรอยเลือดซึมออกมาเล็กน้อยเธอขมวดคิ้วอย่างเงียบ ๆ คิดว่าอีกเดี๋ยวจะไปโรงพยาบาลอีกครั้งสถานการณ์เมื่อคืนทำให้เธอจำต้องฝืนร่างกายตัวเองแม้วั

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 96

    “จริงเหรอคะ?” หร่วนหนิงถังยิ้มขึ้นมา “ถ้างั้นครั้งหน้าจะไปอุดหนุนกิจการของประธานเหอแน่นอนค่ะ”ตอนนี้เสี่ยวเฉินรีบจัดที่นั่งให้พวกเขา หร่วนหนิงถังเข้าไปนั่งติดกับโจวเฉาหลี่ทันทีตอนนี้ประธานเหอจึงเพิ่งมองหลี่หว่านฮุ่ย “เชิญเลย ประธานหลี่เชิญนั่ง คนนี้คือ...”เขามองชิงอี้พร้อมกับถามชิงอี้ยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีค่ะประธานเหอ ฉันเป็นเลขาของประธานหลี่ ชิงอี้ค่ะ”ประธานเหอชะงักไป และมองชิงอี้เพิ่มอีกครั้งเห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่หลี่หว่านฮุ่ยกำลังจะแนะนำบางอย่าง แต่กลับถูกเธอขัดจังหวะทันทีประธานเหออดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจเธอมากหน่อย การคุยเรื่องงาน ไม่เหมาะจะอ้างความเป็นญาติ อย่างน้อยไม่ว่าระดับความสามารถจะเป็นยังไง ทัศนคติในการเจรจาของคนคนนี้ก็เป็นมืออาชีพและเหมาะสมหลังจากนั้นทุกคนก็นั่งลงหร่วนหนิงถังแนะนำให้ทั้งสองบริษัทคุยเรื่องแผนงานพร้อมกันชิงอี้เห็นด้วยจ้าวเถายิ้มเยาะ คิดว่าชิงอี้กับหลี่หว่านฮุ่ยไม่เจียมตัวจริง ๆตอนนี้บริษัทของหลี่หว่านฮุ่ยก็ถือว่าเป็นบริษัทที่เหลือแต่เปลือกแห่งหนึ่ง พวกพนักงานล้วนกำลังจะหนีหายไปหมดแล้ว ส่วนฝ่ายวางแผนก็แทบจะเหลืออยู่ไม่กี่คนเธอไม่เชื่อว่

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 95

    ชิงอี้หลุบตาลงมองแขนของโจวเฉาหลี่ที่หร่วนหนิงถังควงอยู่ ท่าทางแบบนี้คือการประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงที่อยู่ข้างกายโจวเฉาหลี่เธอหัวเราะเสียงเย็นชา แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจดี ในสถานการณ์ที่มีแค่พวกเขาสามคนก็เรียกเธอว่าพี่สะใภ้ แต่พออยู่ต่อหน้าคนมากมาย ก็เรียกเธอว่าคุณชิง เล่ห์เหลี่ยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกขี้แอ๊บถูกเธอเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วสีหน้าของโจวเฉาหลี่ยังคงสงบและเฉยเมยเหมือนเดิม แต่กับหร่วนหนิงถังกลับตามใจและเอาใจใส่หลี่หว่านฮุ่ยขมวดคิ้ว เห็นท่าทีรักกันของพวกเขา สีหน้าของเธอก็เย็นชาอย่างถึงที่สุดเธอรู้จักความรู้สึกแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าลูกสาวของตัวเองจะต้องเผชิญเรื่องแบบนี้อีกเธอกำลังจะเดินไปข้างหน้าเพื่อพูดบางอย่าง ก็ถูกชิงอี้ดึงไว้ชิงอี้โน้มตัวไปกระซิบข้างหูแม่ ด้วยน้ำเสียงสงบ “จำเป้าหมายที่เรามาในวันนี้ไว้ค่ะ อย่าสร้างความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น ทิ้งความประทับใจที่ดีไว้ให้นักลงทุน”หร่วนหนิงถังตั้งใจยั่วยุอย่างชัดเจน อยากให้พวกเขาแสดงท่าทีไม่เหมาะสมจนขายหน้าตอนนี้เธอไม่สนใจแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นยังไง ก็ไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกอะไรได้อีกแล้วชิงอี้ไม่สน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status