“เป็นใครหรอ ฮึ เป็นแฟนรุ่นพี่ไงคะ” อัญญา หน้าด้านไปไหม เป็นคนนอกใจก่อนแท้ๆ ยังมีหน้ามาบอกอีกว่าเป็นแฟนรุ่นพี่ ช่วยมีสามัญสํานึกบ้าง
“อ้อ เลิกกันแล้วสินะ เร็วกว่าที่คิด ทำไมอ่ะ ไอ้ตะวันมันไม่เร้าใจ เหมือนพี่หรอ...” หู้ววว แรงไม่แผ่วเลยนะ ตบกันเล้ยย หนูจะเป็นกำลังเสริมให้รุ่นพี่เองค่ะ
“รู้ใจ อัญญาอีกแล้วนะ หมอนั่นเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่สู้ลีลารุ่นพี่ ไม่ได้เลย เสียชาติเกิดชะมัด” รุ่นพี่ออทัมน์แสยะยิ้ม โอ้ยหัวจะปวด นี่กำลังเล่นสงครามประสาทกันอยู่หรอ
“เสียใจ พี่มีแฟนใหม่แล้ว นี่ไง” ห๊า!!! อยู่ดีๆ รุ่นพี่ก็โอบไหล่ฉัน ดึงเข้าหาตัวเอง เดี๋ยวนะ ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย รุ่นพี่กำลังใช้ฉันเป็นเครื่องมือแก้แค้น ซึ่งฉันไม่โอเคร
“โกหก อัญญาไม่เชื่อ”
“งั้นดูนี่”
“อุปส์!!!!!!!” เชี่X เอ้ย รุ่นพี่ออทัมน์ดึงฉันเข้าหา มือข้างหน้าโอบเอวไว้ อีกข้างเชยเคยขึ้น ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบ รุ่นพี่ขยับริมฝีปากเบาๆ ฉันสัมผัสได้ถึงความนุ่ม มันนุ่มมาก ลิปกลิ่นพีช หอมเตะจมูก ลมหายใจร้อนผ่าวได้กลิ่นแอลกอฮอล์ตัวแรง ที่พึ่งดื่มเข้าไป ไม่นะ หัวใจฉันมันเต้นแรง ไม่เป็นจังหวะ เกิดอะไรขึ้นหรือว่า...ฉันจะตกหลุมรักรุ่นพี่ เข้าแล้วจริงๆ
“ไม่จริง” อัญญา ยืนกำหมัดแน่น กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด รุ่นพี่คลายริมฝีปากออกช้าๆ แต่ไม่ละสายตาไปจากฉัน ดวงตาของเราทั้งคู่จ้องประสานกัน นัยน์ตาคู่นั้น ฉันรับรู้ได้ทันทีเลยว่า มันเต็มไปด้วยความหวั่นไหว ระ หรือว่า รุ่นพี่ ก็คิดเหมือนกันกับฉัน
“กรี๊ดดดดด!!!!” เราทั้งสองหลุดออกจากภวังค์ เพราะเสียงกรี๊ดของคนหน้าด้าน อัญญากรี๊ดแหกปากเสียงดัง จนการ์ดของผับต้องวิ่งมาดู ยัยนั่นรีบหุบปาก ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน คงรู้ตัวว่าถ้าไม่รีบออกไปจากตรงนี้ โดนการ์ดจับโยนออกจากร้านแน่
“คะ คือ...พะ พี่.. ขอโทษ”สถานการณ์ตอนนี้คือเกร็งมาก เราต่างฝ่ายต่างเกร็ง รู้สึกกระอักกระอ่วน มันบอกไม่ถูก ฉันเขินอายชนิดที่ว่าเก็บอาการไม่อยู่ อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ส่วนรุ่นพี่ยังเก็บอาการได้ดี
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ ถ้ามันทำให้รุ่นพี่สบายใจ หนูก็โอเคร” พอได้ยินฉันพูดแบบนั้น รุ่นพี่สำนึกผิดขึ้นมาทันที จริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะประชด แต่ความหมายมันสื่อออกไปแบบนั้น จุดมุ่งหมายคือ แค่อยากให้เขาสบายใจ แล้วก็ไม่อยากให้ผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาอีก รุ่นพี่เป็นคนดี ควรได้เจอคนที่ดีกว่า
“ป่าว...พี่ไม่สบายใจเลย ต่างหาก” อ่อ ฉันจะอธิบายยังไงดี ให้รุ่นพี่เข้าใจ
“ช่างมันเถอะค่ะ เรามาดื่มกันต่อดีกว่า” ไม่รู้จะมูฟออนยังไง ก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปเลยละกัน เราสองคนนั่งดื่มด้วยกันไปสักพัก จากตอนแรกที่มีบทสนทนาเอ็นจอย กลับกลายเป็นว่าถามคำ ตอบคำ มันดูเก้ๆ กังๆ ไปหมด ว่าแต่ อีค็อกเทลบ้านี่ ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ มันเริ่มทำให้ฉันเวียนหัวละ
“ชานม เมาป้ะเนี่ย” รุ่นพี่เห็นท่าทางตะกุกตะกักของฉัน เลยถามขึ้น
“ไม่หนิคะ” ฉันดูผิดปกติตรงไหน ว่าแต่ทำไมรุ่นพี่มีสองร่าง เอ้า แล้วแก้วฉันอยู่ไหน แก้วนี้หรอ ฉันกำลังจะยกแก้วตัวเองขึ้นมาดื่ม แต่รุ่นพี่ดันคว้าไว้
“นั่นแก้วพี่” ห๊ะ อ่าวหรอ โอ้ยยย ทำไมเวียนหัวแบบนี้ หรือว่า เมาวะ ไม่หรอกมั้ง
“ชานม พอเถอะ พี่ว่าหนูเมาแล้ว” ฉันสะบัดมือรุ่นพี่ออกจากแขน เพื่อจะยกแก้วขึ้นมาดื่มต่อ แต่สู้แรงพี่เขาไม่ไหว ทำไมรุ่นพี่แรงเยอะจัง บ้าเอ้ย แล้วใครมาเปิดเพลงแดนซ์อะไรตอนนี้ รู้ไหมว่ามันอยากโยกมาก อย่าถึงกระนั้นเลยไปเต้นดีกว่า ฉันวางแก้วที่กำลังฉุดกระชากลากดึงเล่นชักเย่อกับรุ่นพี่ลง
“ชานม จะไปไหน” รุ่นพี่ถึงกับงง
“ไปเต้นค่ะ” รุ่นพี่ส่ายหัว ก่อนจะเดินตามหลังฉันมาติดๆ ฉันยืนเต้นอยู่โซนด้านหน้า ทามกลางความมืดสลัวที่มีไฟดิสโก้บิ้วท์อารมณ์ เสียงเพลงจังหวะตื้ดๆ โคตรมันส์ มันดีแบบนี้นี่เอง เข้าใจละว่าทำไม หลายคนถึงอยากมาผับ
“ผลึ๊บบ”
“โอ้ยย” ท่ามกลางความแออัดของผู้คนจำนวนมากที่ยืนโยกย้าย ไม่ต่างจากฉัน ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ถอยมาชนเข้าเต็มๆ จนฉันหงายหลัง แต่โชคดีใครบางคนมารับไว้ทัน
“ระวังด้วย” รุ่นพี่ออทัมน์กำลังประคองร่างฉันไว้ ใบหน้าเท่ๆ ภายใต้หมวกแก๊ป มีเสน่ห์มาก ฉันจ้องแววตาคู่นั้นราวกับต้องมนต์สะกด รุ่นพี่พยุงร่างเล็กขึ้นมาก่อนจะดึงฉันให้ไปยืนด้านหลัง เอาตัวเองเป็นที่กำบัง คงกลัวว่าจะมีคนมาชนอีก หรือไม่คนซุ่มซ่ามอย่างฉัน ก็อาจจะเผลอไปเหยียบคนอื่นแทน
“อย่างเต้นก็เต้นไป แต่กอดพี่ไว้นะ” สองมือของฉันถูกบังคับให้โอบเอวพี่เขา จากด้านหลัง ตัวของเราแนบชิดกันแน่น ให้ตายเถอะ ฉันสัมผัสโดนหน้าท้อง เจอซิกแพค ก้อนขนมปังเล็กๆ ด้วย ฟินมากแม่
“พกขนมปัง มาด้วยหรอคะ”ฉันกระซิบถามข้างใบหู รุ่นพี่เบี่ยงตัวพร้อมชายตากลับมามองเล็กน้อย
“อยากชิมไหมละ” ห๊า!!! ฉันกลืนน้ำลายลงคออัตโนมัติ ชีเสิร์ฟอีกแล้วหรอเนี่ย อย่ามาพูดเล่นนะคะ หนูคิดจริงไม่รู้ด้วย รุ่นพี่เห็นฉันเงียบไปเลยส่ายหัวประมาณว่าหลุดขำ เราทั้งสองโยกย้ายกันตามจังหวะเพลง อยู่ในท่าสวมกอดกันจากด้านหลัง อยู่แบบนั้นจนดึก และฉันเริ่มหมดแรง เลยขอกลับมานั่งที่โต๊ะ เพื่อดื่มเหล้าต่อ ฉันดื่มมันเข้าไปเยอะมาก จนในที่สุด ภาพตัด ไม่รับรู้อะไรอีกเลย....
ฉันสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก ภาพแรกที่เห็นคือฝ้าเพดาน เมื่อตั้งสติได้ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะหัวเตียงเพื่อปิดเสียงปลุกนั่น เมื่อคืนฝันแปลกๆ แฮะ ฝันว่าเมาเหล้าอยู่ในผับ หนำซ้ำยังอยู่กับรุ่นพี่ออทัมน์ด้วย
“ตื่นแล้วหรอ” ห๊า!!!
“รุ่นพี่!!!” ฉันสะดุ้งโหยงเพราะเสียงปริศนา ไม่ได้มาแค่เสียง แต่มาทั้งตัว รุ่นพี่เดินเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง เอะ นี่มันไม่ใช่ห้องนอนฉันหนิ ก็ว่าอยู่ทำไมห้องหรูจัง ฉันกวาดสายตาไปรอบห้อง นี่อย่าบอกนะว่า เมื่อคืนไม่ได้ฝันไป
“ที่นี่ ที่ไหนคะ”
“คอนโดพี่เอง ชานม เมามาก พี่เลยหามออกจากผับ โทษทีนะ พี่เองก็เมาเหมือนกัน เลยไม่ได้พากลับหอ อีกอย่างเห็นว่า คอนโดพี่อยู่ใกล้กว่า ไม่อยากขับรถไกล เลยพามานอนค้างคืนที่นี่ ว่าแต่วันนี้ ไม่มีเรียนใช่ไหม” ฉันส่ายหัว โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ แต่ใดๆ คือตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เอามือลูบที่นอนเบาๆ โถวว วาสนา ได้มานอนบนเตียงนุ่มๆ ของพี่เขา นี่ฉันทำบุญด้วยอะไรกัน
“หลับสบายไหม” รุ่นพี่เดินเข้ามาหา ก่อนจะนั่งลงบนขอบเตียง ใครใช้ให้ใส่เสื้อกล้ามผู้หญิงสีขาว รู้ไหมว่ามันเท่มาก หล่อมาก ถ้าหนูอดใจไม่ไหว พี่ต้องรับผิดชอบ นึกถึงขนมปังก้อนเมื่อคืนแล้วยังฟินไม่หาย
“หลับสบายมากค่ะ” คนฟังยิ้มอ่อน จากนั้นขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ฉันถอยไปจนแผ่นหลังชนเข้าที่ผนังหัวเตียง รุ่นพี่จะทำอะไรคะ อย่ามาล้อเล่นกับระบบนะคะ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ รุ่นพี่เอื้อมมือมาจับปลายผมของฉัน อย่างทะนุถนอม จากนั้นจับผมทัดหูให้อย่างเบามือ
“ถามตรงๆ รู้สึกยังไงกับพี่”ฉันโดนยิงคำถาม โดยที่ไม่ทันตั้งตัว รู้สึกยังไงงั้นหรอ ตอบแบบไหนดีเนี่ย ทำไมหัวใจเต้นแรงแบบนี้ รุ่นพี่จ้องหน้าฉันรอฟังคำตอบ ชนิดที่ว่าตาไปกะพริบ
“รู้สึกดีค่ะ” คนรอฟังคำตอบยิ้มอย่างพอใจ
“ถ้าอย่างงั้น เราลองมาคบกันดูไหม” OMG!!! นี่รุ่นพี่กำลังขอฉันเป็นแฟนงั้นหรอ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
“อะ อ่อ..อื้มมมม” ฉันพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะยิ้มจนแก้มปริ ให้ตายเถอะ อีลูกพีช อีมะเฟือง พวกมึงไม่ต้องอิจฉากูนะ กูทำบุญมาดี ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพวกนั้นรู้จะทำหน้ากันยังไง
“ห๊า!!!!!!!!!!!!!!” อีลูกพีชแหกปากเสียงดัง ตาเหลือก แทบจะกระเด็นออกจากเบ้า
“เชี่X!!! จริงดิ มึงล้อกูเล่นใช่ไหม” อีมะเฟืองอ้าปากค้าง สตั๊นไป 300 ปี ฉันเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แก๊งค์ลูกเป็ดฟัง เป็นอย่างที่คิด พวกมันช็อกไปเลย แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“จริงดิ กูจะโกหกพวกมึงไปทำไม” กูต้องหยิกตัวเองตั้งหลายรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป
“เฮ้ยยย อีเป็ดโปร มึงไปทำอิท่าไหนวะ รุ่นพี่ถึงได้ตกหลุมพราง” เน่ พูดดีๆ หน่อย ตกหลุมพรางอะไรกัน กูไม่ได้ไปหลอกพี่เขาสักหน่อย พี่เขาชอบกูเอง คงเห็นอะไรดีๆ ในตัวกู
“หลอกเหลิกอะไร กูไม่ได้หลอกพี่เขาสักหน่อย อีกอย่าง พี่ออทัมน์เค้าก็เลิกกับแฟนแล้วด้วย” บอกตามตรง ไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน สายวายอย่างเรา ในที่สุดก็สมหวัง
“อ้อ เย็นนี้ ที่นัดไว้ว่าจะไปร้านนมหลัง ม. กูขอแคนเซิ่นก่อนนะ เพราะกูมีนัดกับรุ่นพี่แล้ว” พวกนั้นทำหน้าหมั่นไส้มาก แต่ฉันไม่สนหรอกนะ อิอิ
“แหมมม...พอมีแฟน มึงกูทิ้งพวกกูเลยนะ”
“ธรรมด้า” ก็คนมันมีความรักอะนะ
“เออๆ ยังไงก็ขอให้รักกันนานๆ แต่ถ้าวันไหนอกหักมา อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งละกัน พวกกูจะสมน้ำหน้าให้” อีลูกพีช ดูปากณัชชานะคะ
“ไม่-มี-วัน”
เฮ้อออ รอนานแล้ว ทำไมรุ่นพี่ ไม่มาสักที ฉันนั่งอยู่ใต้อาคารเรียนตึกคณะเศรษฐศาสตร์ เพราะรุ่นพี่บอกให้มารอตรงนี้ ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครเลย บรรยากาศวังเวงมาก อีกอย่างคือเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ ทำไมรุ่นพี่ยังไม่มาอีก มัวทำอะไรอยู่ หิวน้ำจัง เดินไปกดน้ำดีกว่า ตู้กดน้ำเจ้ากรรมก็ดันอยู่หลังอาคาร ไม่เป็นไร เดินไปแค่นิดเดียวเอง อย่าบ่นหน่า อ้อ ถึงบ่นไปก็ไม่มีใครได้ยินเพราะ ตอนนี้จะ 6 โมงเย็นละ ทุกคนกลับบ้านกันหมด เหลือแค่ฉัน กับหมาแมว
“ปล่อย!!!”
“ไม่”
“ปล่อย ฉันจะไป คนของฉันรอนานแล้ว”
“ไม่มีวัน” หืม...ใครกัน ในขณะที่ฉันกำลังกดน้ำ ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะได้ยินเสียงปริศนาของคนสองคน ประเด็นคือเสียงคุ้นมาก เลยตัดสินใจ เดินมาตามเสียงนั่น เพราะคิดว่าอยู่ไม่ไกลมาก ใช่จริงๆ ด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังสนทนากันด้านหลังมุมตึก พอชะโงกหัวออกไปเท่านั้นแหละ อิเชี่xxxx!!! เฮียมากกก ก ไก่ล้านตัว รุ่นพี่ออทัมน์กับอัญญา พวกเขามาทำอะไรกันตรงนี้ ฉันรีบหดตัวเขาไปแนบชิดกำแพง แต่โผล่หน้าออกไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ถูกจับได้
“เลิกทำตัวน่ารำคาญสักที เราจบกันแล้วนะ” ภาพที่เห็น อัญญากำลังสวมกอดรุ่นพี่ จากทางด้านหลัง ยัยนั่นร้องไห้ฟูมฟาย เหมือนคนบ้า มาสคาร่าเปื้อนขอบตาเต็มไปหมด อย่างกับหมีแพนด้า
“อัญญาขอโทษ อัญญากับพี่ตะวัน เราไม่เคยมีอะไรกันเลยนะ สาบานให้ฟ้าผ่าตายเลยก็ได้ ความจริงแล้ว พี่ตะวันกับอัญญา เราไม่ได้รักกันเลย แต่ถูกพ่อแม่บังคับ ครอบครัวพวกเราทำธุรกิจด้วยกัน เป็นหุ้นส่วนกัน อัญญาทำเพราะไป ก็เพราะ ต้องการปกป้องธุรกิจตัวเอง ก็เท่านั้น”เฮ้อ โคตรเบื่อพล็อตเรื่องแบบนี้ คิดว่ามีแต่ในนิยายซะอีก
“คนที่อัญญารัก มีแค่คนเดียว ก็คือ พี่ออทัมน์ อัญหาชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชาย” รุ่นพี่ อย่าไปเชื่อมันนะคะ โกหกมองจากดาวอังคารก็รู้ อะ เอะ ทำไมจู่ๆ รุ่นพี่ก็ใจอ่อน คนโดนสวมกอดหันตัวกลับไปมองหน้าแฟนเก่า ก่อนจะเอื้อมมือไปปาดน้ำตาออกจากแก้ม มะ มะ มันหมายความว่ายังไง
“เป็นใครหรอ ฮึ เป็นแฟนรุ่นพี่ไงคะ” อัญญา หน้าด้านไปไหม เป็นคนนอกใจก่อนแท้ๆ ยังมีหน้ามาบอกอีกว่าเป็นแฟนรุ่นพี่ ช่วยมีสามัญสํานึกบ้าง “อ้อ เลิกกันแล้วสินะ เร็วกว่าที่คิด ทำไมอ่ะ ไอ้ตะวันมันไม่เร้าใจ เหมือนพี่หรอ...” หู้ววว แรงไม่แผ่วเลยนะ ตบกันเล้ยย หนูจะเป็นกำลังเสริมให้รุ่นพี่เองค่ะ “รู้ใจ อัญญาอีกแล้วนะ หมอนั่นเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่สู้ลีลารุ่นพี่ ไม่ได้เลย เสียชาติเกิดชะมัด” รุ่นพี่ออทัมน์แสยะยิ้ม โอ้ยหัวจะปวด นี่กำลังเล่นสงครามประสาทกันอยู่หรอ “เสียใจ พี่มีแฟนใหม่แล้ว นี่ไง” ห๊า!!! อยู่ดีๆ รุ่นพี่ก็โอบไหล่ฉัน ดึงเข้าหาตัวเอง เดี๋ยวนะ ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย รุ่นพี่กำลังใช้ฉันเป็นเครื่องมือแก้แค้น ซึ่งฉันไม่โอเคร “โกหก อัญญาไม่เชื่อ”“งั้นดูนี่”“อุปส์!!!!!!!” เชี่X เอ้ย รุ่นพี่ออทัมน์ดึงฉันเข้าหา มือข้างหน้าโอบเอวไว้ อีกข้างเชยเคยขึ้น ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบ รุ่นพี่ขยับริมฝีปากเบาๆ ฉันสัมผัสได้ถึงความนุ่ม มันนุ่มมาก ลิปกลิ่นพีช หอมเตะจมูก ลมหายใจร้อนผ่าวได้กลิ่นแอลกอฮอล์ตัวแรง ที่พึ่งดื่มเข้าไป ไม่นะ หัวใจฉันมันเต้นแรง ไม่เป็นจังหวะ เกิดอะไรขึ้นหรือว่า...ฉันจะตกหลุมรักรุ่นพี่ เข้าแล
“เจ้านกน้อย คล้อยบินสู่เวหา เจ้าถลาเล่นลมสมฤดีบิน บิน ถลา ถลาเล่นลม บินล่อง บินลอย (ซ้ำ)อั่งกาลี้ สี้ลา อั่งกาลู้ อั่งกาลู้ สี้ลา กาลิซึมซึม ก้าลิก้า ลิก้า ลิซึม กาลิก่า ลิซึมก้าลิก้า ลิก้า ลิซึม กาลิก่า ลิซึม”….. “แดดร้อนชิบเป๋ง”“จะบ่นเพื่อ ก็ร้อนเหมือนกันหมดนั่นแหละ”“อีมะเฟืองเอาตัวมึงมาบังแดดให้กูดิ”“มึงหาว่ากูอ้วนหรา”“เออดิ”“อีเพื่อนชั่ววว”“แหม อีคนดี”“โอ้ยยย หุบปาก! ทั้งคู่ กูรำคาญ มีอะไรก็ค่อยๆ ตีกัน แดดยิ่งร้อนอยู่ หัวกูจะระเบิดละ” พวกบ้านั่นมัวแต่เถียงกันอยู่ได้ ไหนแดดจะร้อน ไหนต้องมานั่งฟังพวกมันเถียงกันอีก ใครก็ได้ ช่วยเอาฉันออกไปจากตรงนี้ที “และแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญ ขอเชิญทุกท่านพบกับโชว์สุดพิเศษของเราเลยครับบบบ....”พวกเรานั่งอยู่บนสแตนด์เชียร์ของสีแดง โดยมีสแตนด์เชียร์สีเหลือง สีฟ้า และสีเขียว ประกบข้าง สแตนด์เชียร์ที่ล้อมเวทีตรงกลางไว้ ซึ่งวันนี้เป็นพิธีเปิดงานกีฬาสี และมีโชว์พิเศษที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ทุกคนจับจ้องไปยังจุดเซ็นเตอร์ “เชี่xx!! พี่ออทัมน์ออกมาแล้ว”“โห้ววว โคตรจึ้ง โคตรปัง”“เหมือนนางฟ้าเลย” ฉันเป็นหน่วยเสริมอีกคน การแสดงจบ
“สวยจัง....”“นั่นดิ คนหรือนางฟ้าวะ แม่งงงโคตรสวย”“สวยเหมือนไม่มีอยู่จริง สวยเกินไปมั๊ยยย...” เราทั้งสามนั่งบนสแตนเชียร์ กำลังโฟกัสจุดหมายเดียวกัน รุ่นพี่ออทัมน์ ปี 4 คณะเศรษฐศาสตร์ ตัวท๊อปของคณะและมีดีกรีเป็นถึงดาวมหาลัย แถมยังเรียนดีได้เกียรตินิยม อันดับ 1 สวยครบจบในที่เดียว สวย 360 องศา สวยเว่อร์ สวยครบวงจร สวยแบบ one stop service ขนาดเป็น ผญ. เหมือนกันแท้ๆ ยังละสายตาไม่ได้ “พวกมึงว่า แก๊งค์ลูกเป็ดอย่างเรา จะมีโอกาส ได้ขึ้นไปยืนตรงนั้นไหม” ลูกพีช ฉายาว่า เป็ดปักกิ่ง (ลูกครึ่งไทย-จีน)มันกำลังจับจ้องไปที่พี่คนสวยคนนั้น ซึ่งยืนบนเวทีตรงกลางสนามอย่างไม่ละสายตา ดูเหมือนว่ารุ่นพี่กำลังซ้อมโชว์เปิดงานกีฬาสี “มึงใจเย็นๆ เขาคัดหน้าตานะ” ยัยเป็ดปักกิ่งโดนดับฝัน ถูกอีมะเฟืองเพื่อนในแก๊งค์ฉายาเป็ดเทศ (หุ่นจัมโบ้ ไซส์ XXXL)หลอกด่าว่าขี้เหร่ “จริง เลิกฝันแล้วมาตั้งใจซ้อมเถอะ ขี้เกียจมาซ่อมแล้ว เหนื่อยจะแย่” คนอื่นผ่านหมดยกเว้นพวกเรา ที่ยังจำท่าไม่ได้ เลยต้องมาซ่อม มาทบทวนความจำกันใหม่ อ้อ ลืมแนะนำตัว ฉันชื่อชานม ฉายาเป็ดโปร คงเป็นเพราะเรียนเก่ง โปรเฟสชั่นแนลเลยต้องเป็นเดอะแบกของแก๊งค์ ตัวเ