เข้าสู่ระบบสามสัปดาห์แล้วที่ยายมาอยู่กับไพลิน หญิงสาวสังเกตุว่ายายมีความสุขก็จริงแต่ก็ไม่สุขที่สุด เธอรู้ว่ายายคิดถึงบ้านสวน คนแก่ไม่ชินกับคอนโดป่าปูนมันไม่ธรรมชาติ
“ยายจ๋าพายไปทำงานก่อนนะคะ”
“เดินทางปลอดภัยนะลูก ไม่ต้องห่วงยาย”
ไพลินอยู่ในชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่า เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวรองเท้าส้นสูง ยายห่อข้าวใส่กล่องให้เธอไปกินที่บริษัทฯไพลินไม่บอกยายว่าลาออกแล้ว กรองกาญเข้าใจในเหตุผลของเธอดีว่าจำเป็นจริงๆเมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงาน ไพลินเลยถือโอกาสวันนี้คุยกับหัวหน้าจะพายายกลับบ้านเลย เพราะเหลือเวลาแค่สัปดาห์เดียว
“มีอะไรหรือเปล่าพาย เรื่องยายหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะพี่กรอง ยายดูไม่มีความสุขเลย พายอยากพายายกลับบ้านค่ะเหลือเวลาอีกอาทิตย์เดียว พายขอไปเลยได้ไหมคะ ”
กรองกาญถอนหายใจเสียดายก็เสียดาย พนักงานดีๆซื่อสัตย์ ทำงานดีนิสัยดีแบบนี้สมัยนี้หายากมากและที่สำคัญไพลินโสด เวลามีงานเร่งงานด่วนไม่เคยขัดช่วยงานได้ทุกอย่างแต่ด้วยเหตุผลเธอต้องยอมปล่อยไพลินไป อีกไม่แน่วันข้างหน้าอาจได้มาร่วมงานกันอีก
“งั้นก็ลงวันที่ในใบลาออกใหม่ล่ะกัน แล้วเดี๋ยวพี่คุยกับฝ่ายบุคคลเอง”กรองกาญถอนหายใจอย่างแสนเสียดายลูกน้องที่เรียกว่าแสนดีของเธอ เมื่อไหร่จะหาพนักงานดีๆแบบนี้ได้อีก
“พายขอบคุณพี่กรองมากนะคะที่เข้าใจพาย”หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณกรองกาญหลังจากนั้นไพลินเก็บของเลยทันทีนึกใจหายเหมือนกัน ตั้งแต่เธอจบก็ทำงานที่นี่เป็นที่แรกและโชคดีของเธอ ทำงานที่แรกก็ดีทุกอย่างถึงงานจะเยอะแต่เพื่อนร่วมงานดีทุกคน แต่ยายก็สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดยายก็เหมือนแม่ของเธอ ถ้ายายไม่เลี้ยงไม่รู้ว่าตัวเองจะอยูยังไงอาจไปอยู่กับแม่เลี้ยงก็ได้ ถ้าไม่มียายชีวิตเธอคงไม่มาถึงขนาดนี้ ไพลินใช้เวลาไม่นานก็เก็บของหมด
“พายพรุ่งนี้มาวันสุดท้ายนะ พี่จะเลี้ยงส่งภายในแผนกเรา”
“เศร้าจังเลยนะคะพี่กรอง พายไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลยแต่ยายสำคัญมากค่ะ”
“พี่เข้าใจ ไว้สบายใจทุกอย่างอยู่ตัวแล้วพี่ยินดีต้อนรับตำแหน่งของพายยังอยู่เหมือนเดิมพี่ให้น้องไปช่วยงานอย่างอื่น แค่รักษาการแทนพายนะ”
“พี่กรองเมตตาพายมากเลยค่ะ”ไพลินยกมือไหว้กรองกาญ
“เอาน่าพายก็เหมือนน้องสาวพี่คนหนึ่งมีอะไรก็ช่วยกัน พายช่วยงานพี่มาตั้งเยอะ”
“งั้นวันนี้เดี๋ยวพายเคลียร์งานให้นะคะพี่กรอง”
มื้อเที่ยงไพลินไปกินข้าวพร้อมกรองกาญและเพื่อนร่วมงานอีกเกือบสิบคนกรองกาญแจ้งข่าวกับทุกคนเรื่องที่ไพลินมีความจำเป็นต้องลาออกจากงาน เพราะยายป่วยไม่มีใครดูแล เพื่อนทุกคนเพิ่งรู้วันนี้ว่าไพลินอยู่กับยาย แม่เสียชีวิตพ่อมีครอบครัวใหม่ ทุกคนเข้าใจเหตุผลที่ไพลินลาออก ภายในห้องอาหารวันนี้ยังคงมีเหล่าผู้ชายชุดดำเข้ามากินข้าวเหมือนดังเช่นทุกวัน กรองกาญให้เจ้าของร้านต่อโต๊ะให้ มื้อนี้ทุกคนขอหารกันจ่ายค่าอาหาร ส่วนวันพรุ่งนี้กรองกาญขอเป็นเจ้าภาพเอง เธอจองร้านอาหารข้างล่างไว้
“ป้าครับโต๊ะนั้นเขามีเลี้ยงอะไรเหรอครับเห็นต่อโต๊ะกันคนเต็มเลย”
“อ้อ...แผนกนั้นเขาเลี้ยงส่งคุณพายค่ะ”
“อ๋อเลี้ยงส่งพนักงานเหรอครับ”
“ใช่ค่ะวันนี้เขาเลี้ยงเล็กๆค่ะพรุ่งนี้คุณกรองกาญจองอาหารเลี้ยงแบบจัดเต็มให้คุณพายที่ร้านข้างล่างตึกนี้ค่ะ”
“แสดงว่าพนักงานคนนี้เป็นที่รักของทุกคนแน่ๆเลยใช่ไหมครับป้า”
“อูยคุณพายนี่น่ารักค่ะ นอบน้อมนิสัยดีนี่ป้าก็เพิ่งรู้นะคะว่าคุณพายอยู่กับยาย แม่เสียชีวิตพ่อมีครอบครัวใหม่ นี่เห็นว่ายายไม่ค่อยสบายค่ะเลยลาออกไปดูแล คุณพายเธอมาทำงานแต่เช้าทุกวัน กว่าจะเลิกก็ดึกดื่นไม่น่าเชื่อนะคะว่าสวยขนาดนี้ไม่มีแฟน นี่ถ้าป้ามีลูกชายป้าจะให้จีบ ต่อไปนี้เช้าๆก็จะไม่ได้เจอหน้าสวยๆของคุณพายแล้ว”
“นี่ครับป้าค่าข้าวของพวกผมทั้งแปดคนนะครับไม่ต้องทอน”แดนไทยยื่นเงินแบงค์สีเทาให้กับแม่ค้าข้าวจานละสี่สิบห้าบาทที่เหลือคือทิป
“อูยคุณคะทำไมให้เยอะจังเลยไม่เอาหรอกค่ะแค่สามร้อยหกสิบบาท”
“ไม่เป็นไรครับป้า พอดีเดือนที่ผ่านมาผมทำโอทีเยอะ อยากให้ป้าครับ”
“พ่อคุณขอบคุณนะคะ ป้าจะเก็บไว้ทำทุนค่ะ”ป้าแม่ค้ายกมือไหว้ขอบคุณแดนไทยอย่างดีใจ
หลายวันมานี่เขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณพายัพเยอะมาก และเพิ่งรู้ว่าสถานการณ์การเงินของบริษัทฯ คุณพายัพไม่ให้ครอบครัวรู้เรื่องเลย ถ้าเงินของเขาไม่มากถึงยี่สิบล้านเขาจะไม่สนใจเลย อาจจะยังยืดเวลาออกไปให้ผ่อนชำระได้อีก นี่ครบหนึ่งปีคุณพายัพยังไม่มีเงินมาใช้หนี้เขา แต่ลูกเมืยอยู่ดีกินหรูมันไม่ถูกต้องเขายื่นคำขาดผ่านทนายความให้คุณพายัพนำเงินมาคืนให้หมดทุกบาททุกสตางค์ภายในสองเดือนนี้ แดนไทยรอจนกลุ่มของไพลินลุกออกไปแล้วเขาถึงลุกตามออกไปข้างนอก ป้าร้านขายข้าวยังอุตสาห์หันมายิ้มให้เขา
ชายหนุ่มกลับไปพักที่คอนโด เขานั่งทำงานอยู่ภายในห้องดูรายละเอียดเกี่ยวกับคุณพายัพอีกครั้ง หกโมงเย็นแดนไทยปรากฏตัวที่ร้านอาหาร เขาเลือกนั่งมุมลับที่สามารถมองเห็นของกลุ่มกรองกาญชัดเจน
หกโมงสิบนาทีร่างสูงสมส่วนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวเข้ารูปปล่อยแขนยาวติดกระดุมปลายแขนกางเกงยีนต์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว สะพายเป้สีดำใบเล็กๆไว้ด้านหน้า ปล่อยผมยักศกยาวแสกกลาง แต่งหน้าบางๆ ท่าทางที่ยืนตรงหน้าประตูแล้วกวาดสายตามองหาโต๊ะที่จองไว้ แค่ยืนเฉยๆแต่งตัวก็ธรรมดา แต่คนที่อยู่ในห้องอาหารต่างก็มองกันเป็นแถว
ไพลินมองเห็นป้ายจองที่วางไว้ที่โต๊ะ หญิงสาวก้าวขายาวๆเดินตรงเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารที่กรองกาญจองไว้ ยังไม่มีใครมาเธอมาก่อนเวลานิดหน่อย จริงๆไม่อยากปล่อยยายให้อยู่คนเดียวเลย แต่ก็ไม่อยากขัดหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน ที่มีน้ำใจอยากเลี้ยงส่ง
เกือบสิบนาทีทุกคนก็เริ่มทยอยกันมาจนครบ บรรยากาศการดื่มกินเป็นไปด้วยดี ดูเหมือนว่าเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ไพลินตอบคำถามเพื่อนๆเกือบทุกอย่าง
“พายแล้วนี่กลับบ้านไปอยู่กับยาย แล้วแฟนล่ะทำยังไง”
จู่ๆเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้หญิงถามขึ้น
“มีที่ไหนล่ะไม่มีหรอก แต่ถึงมียังไงพายก็ต้องกลับบ้านไปดูแลยายอยู่ดี”
“หนุ่มๆบริษัทฯอื่นคงชะเง้อชะแง้แลหาคนสวยของเรากันใหญ่แน่ๆเลย ที่เคยมาติดต่องานต่อไปก็คงไม่มาแล้วล่ะเนาะพวกเรา”เพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้นและหัวเราะพร้อมกัน
ไพลินยิ้มเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“พายขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะคะ”
หญิงสาวเดินเลยเข้าไปในสวนหย่อมเล็กๆที่บริษัทฯจัดไว้ให้พนักงานได้มานั่งพักผ่อน เกือบสองทุ่มรอบบริเวณนี้ไม่น่ากลัวแสงไฟส่องสว่างมาก คิดในใจว่าคุยโทรศัพท์เสร็จกลับเข้าไปนั่งอีกสักหน่อยเธอก็จะขอตัวกลับ
“ชมพูว่างแล้วใช่ไหม วันมะรืนพายจะยายกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ”
“ดีจังเลยพาย แล้วยายเป็นยังไงบ้างสบายดีไหมอีกสองวันชมพูได้วันพัก แล้วเดี๋ยวไปหาที่บ้านนะ”
“ดีเลยงั้นพายจะฝากให้ชมพูรับยาให้ยายด้วยได้ไหม”
“ได้เลย เดี๋ยวชมพูจัดการให้แล้วนี่จะมาอยู่กี่วัน”
“อยู่ยาวเลย พายลาออกจากงานแล้ว พอดีวันนี้หัวหน้ากับเพื่อนในแผนกมาเลี้ยงส่งที่ร้านอาหารใกล้ๆบริษัทฯนี่แหละ แค่นี้ก่อนนะชมพูอย่าลืมยาของยายนะ ขอบใจมากเพื่อน”
“อุ้ย....ขอโทษค่ะ”ด้วยความรีบที่จะเข้าไปด้านในทำให้เธอไม่ได้ระวัง ไม่คิดว่าจะมีคนมายืนอยู่ด้านหลัง แรงที่เธอชนใครอีกคนทำให้ไพลินเซไปปะทะกับต้นสนที่อยู่ใกล้ๆชนแรงจนโทรศัพท์หลุดร่วงลงพื้น
“คุณเป็นอะไรไหมคะ ฉันขอโทษจริงๆไม่คิดว่าจะมีใครมายืนอยู่ใกล้ขนาดนี้ หลังจากที่เก็บโทรศัพท์จากพื้นมาถือไว้แล้ว หญิงสาวยกมือไหว้ขอโทษชายชุดดำร่างสูงใหญ่ที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอดูหน้าเขาเหมือนโกรธมาก ดูโกรธมากจริงๆไพลินเริ่มใจไม่ดีผู้ชายคนนั้นถอดแว่นยิ่งทำให้เขาน่ากลัวมากกว่าเดิมหญิงสาวเริ่มใจเต้นแรง รู้สึกกลัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แผลเป็นที่แก้มขวาของเขานูนขึ้นมามีรอยเย็บยิ่งทำให้เขาน่ากลัวมากกว่าเดิม ไพลินทำในดีสู้เสือ
"ทำไมถึงไม่ระวัง คนยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน"เสียงเขาดุเหมือนหน้าตาเขาเวลานี้
"ฉันขอโทษอีกครั้งค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆคุณเจ็บตรงไหนไหมคะ ไหนขอฉันดูหน่อยค่ะ"
แดนไทยก้มมองไพลินที่เข้ามาใกล้ๆเขาและสำรวจรอบตัว จับแขนจับมือเขาขึ้นมาดู
"เท่าที่ดูคุณก็ไม่ได้เจ็บอะไรนี่คะ ฉันซะอีกที่เจ็บมากกว่าคุณดีนะที่ไม่ได้พับแขนเสื้อขึ้น ไม่งั้นคงถูกกิ่งไม้เกี่ยวแน่ๆ"
"ใครใช้ให้เธอมาแตะต้องตัวฉัน ฉันจะเจ็บหรือไม่เจ็บเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาสำรวจตัวฉัน"
"อ้าวคุณ ฉันก็ขอโทษคุณแล้วนะคะ จริงๆฉันไม่ต้องขอโทษด้วยซ้ำ ใครใช้ให้คุณมายืนอยู่ข้างหลังฉันเงียบๆนี่อย่าบอกนะว่ามาแอบฟังฉันคุยโทรศัพท์ ตรงนี้มีคุณกับฉันแค่สองคน เรื่องอะไรที่จะต้องมายืนอยู่ข้างหลังฉันด้วย นี่โทรศัพท์ฉันหล่นนะไม่รู้ว่าเสียหายหรือเปล่า แล้วที่ฉันเซไปปะทะกับต้นไม้เนี้ยฉันก็เจ็บนะคุณยืนนิ่งเป็นหินแบบนั้นไม่ได้เจ็บอะไรเลยด้วยซ้ำยังมีหน้ามาว่าฉันอีก ฉันไม่ควรขอโทษคุณเลยมารยาทน่ะมีไหม เป็นผู้ชายซะเปล่า คุณกับฉันก็ไม่ได้รู้จักกันเลยเรื่องอะไรมาทำหน้ายักษ์ใส่ฉันล่ะ ซวยจริงๆเลย ไม่ผิดแต่ต้องมาขอโทษ"
ไพลินบ่นเสียงดังแล้วรีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้น ปล่อยผู้ชายร่างสูงใหญ่หน้าตาน่ากลัวนั่นไว้ที่สวนหย่อมคนเดียว
ที่บ้านสวนของไพลินฤดูฝนวนมาอีกครั้งลมเย็นๆ พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างและประตูบ้านเรือนไทย ทำให้ทั้งบ้านอากาศดีเย็นสบาย เสียงนกร้อง เสียงไก่จากบ้านตาปานขันดังไกลมาถึงบ้านของไพลิน หลังฝนตกเพียงไม่กี่ครั้งต้นไม้ใหญ่รอบบ้านนับวันยิ่งสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง จะผ่านมากี่ปีทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมหกโมงเช้าแล้วแดนไทยและไพลินยังคงนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง เขาตื่นนานแล้วแต่ยังไม่ลุกจากที่นอน ข้างกายเขาภรรยาแสนสวยยังไม่ตื่น ชายหนุ่มนอนมองภรรยาอย่างแสนรัก ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไม ยิ่งอยู่ด้วยกันจนมีลูกเขาก็ยังรักและยิ่งหลงไพลินมากขึ้นทุกวันไม่มีเบื่อเลย ไพลินมีน้ำมีนวลมากกว่าเมื่อสมัยเป็นสาว ถึงแม้ว่าจะมีลูกแฝด หุ่นของเธอก็กลับมาเท่าเดิมมีแถมยังเปล่งปลั่งมากกว่าสมัยเป็นสาวมาก อาจเป็นเพราะเธอออกกำลังกายเป็นประจำด้วยการว่ายน้ำวันเว้นวัน เหมือนเมื่อสมัยอยู่ที่เกาะสองคืนแล้วที่ทั้งสองอยู่กันตามลำพัง ปู่กับย่ามารับลูกแฝดชายหญิงของเขาไปดูแล เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ลูกๆ ของเขาครบหนึ่งขวบ ปู่กับย่าอยากเลี้ยงหลาน เห่อหลานมาก ไม่ยอมกลับกรุงเทพฯเลย ปักหลักอยู่ที่บ้านสวนตลอด ทุกสัปดาห์
บ้านสวนของไพลิน แดนไทยจัดเตรียมที่นอนสำหรับไพลินอยู่ที่เตียงเล็กเสร็จแล้ว เขาสงสัยว่าอยู่ๆ ทำไมหญิงสาวนั่งมองหน้าเขานิ่งและนาน เหมือนคิดอะไรอยู่ เขาเชื่อว่าในความคิดนั้นต้องมีเขาอยู่ด้วยแน่ๆ“หนูพาย เป็นอะไรไปครับ มีอะไรหรือเปล่าเห็นนั่งนิ่งๆ นานแล้ว”“ฉันกำลังคิดว่าคุณเคยขอฉันแต่งงานไหม นอกจากบอกว่ารักและอยากอยู่ด้วย คือฉันกำลังงงกับตัวเองว่าถ้าฉันเป็นภรรยาคุณแล้ว ต่อไปเราจะอยู่กันยังไง เวลานี้เราเป็นแฟนกันใช่ไหม ความหวาดกลัว ความเกลียด ความรำคาญที่ฉันเคยมี มันหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และบางครั้งก็รู้สึกสบายใจเหมือนจะมีความสุข ฉันกำลังเรียบเรียงเรื่องราวอยู่ค่ะคิดมาหลายวันแล้ว”“ห่ะ ว่ายังไงนะ หนูพายพูดใหม่หน่อย พี่ไม่ได้หูฝาดใช่ไหม” แดนไทยก้าวขาไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวไพลิน หญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ โต๊ะทำงาน เขานั่งลงคุกเข่าอยู่ต่อหน้าไพลินสองมือจับมือเรียวของเธอขึ้นมากุมไว้ เงยหน้ามองผู้หญิงที่เขารักเต็มตา“หนูพายใช่แล้วมันคือความรัก หนูไม่ได้รังเกียจพี่ สิ่งที่หนูรู้สึก
คุณทัตเทพและคุณดรุณีขอตัวพักผ่อนหลังจากที่พูดุคุยเรื่องของดารณี คนแก่สองคนตื่นเต้นนอกจากเรื่องของลูกชายคนโตแล้ว เรื่องของลูกสาวคนเล็กก็ทำให้หัวใจของคนเป็นพ่อและแม่พองโต แดนไทยขอตัวขึ้นไปข้างบนหลังจากพ่อกับแม่เขาพักผ่อน ตรงไปที่ห้องของไพลิน"หนูดาไปไหนแล้วครับ""พอดีคุณมาร์คโทรมาค่ะเลยขอตัวไปคุยที่ห้องสักพักแล้ว""อ่อ พ่อกับแม่ตื่นเต้นกันใหญ่พอรู้ว่าหนูดามีคนสนใจ"แดนไทยนั่งเอนหลังบนโซฟาตัวเดียวกับไพลิน“คุณไม่ไปทำงานเหรอคะ”“พี่ทำงานที่บ้านได้ หนูพายถักอะไรอีกเหรอไหนว่าส่งลูกค้าหมดแล้ว”"ถักชุดเครื่องนอนแล้วก็พวกผ้าม่านประตู ม่านหน้าต่างให้พี่ดาค่ะ ช่วงนี้น่าจะว่างยาวก็เลยถักให้""แล้วไม่มีของตัวเองบ้างเหรอ ถักให้แต่คนอื่น""มีค่ะที่บ้านสวนเต็มเลย ที่คอนโดก็มี""พรุ่งนี้เราไปเก็บเครื่องประดับที่คอนโดกันไหม หนูพายจะได้ไปดูห้องด้วย ป่านนี้ฝุ่นคงเยอะมาก ล่าสุดที่พี่ไปนอนก็ถือว่าเยอะมากเลยนะ""คิดไว้เหมือนกันค่ะ เอ่อ....คุณคะฉันทำความสะอาดคอนโดเสร็จแล้วว่าจะกลับบัานสวนเลยค่ะ คิดไว้ว่าน่าจะอยู่ที
แดนไทยกับไพลินพักที่โรงแรมหกวันแล้ว ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เขาให้เกียรติหญิงสาวทุกอย่าง คอยดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง บางครั้งคิดน้อยใจไพลินนิ่งมาก ถึงจะให้ความสนิทสนมกับเขาเหมือนว่าจะมีใจ แต่ก็นิ่งเกิน ยิ่งเวลาที่ทำงาน เหมือนไม่มีเขาอยู่ด้วย“เป็นอะไรไปคะ เงียบจัง” ไพลินเริ่มรู้สึกว่าเงียบ ปกติแดนไทยจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาและเรื่องงานให้เธอฟังตลอด“กลัวหนูพายรำคาญ เดี๋ยวไม่มีสมาธิทำงาน” แดนไทยนอนอยู่ข้างๆ ไพลินที่กำลังนั่งถักกระเป๋า“ไม่รำคาญหรอกค่ะ กลัวคุณเบื่อมากกว่า วันๆ นั่งๆ นอนๆ เฝ้าฉันทำงาน” ไพลินวางมือจากการทำงานเอียงตัวมามองคนที่นอนข้างๆ อยู่แบบนี้ทุกวันตั้งแต่ขึ้นจากเกาะ“ขอดูมือหน่อยได้ไหม ทำไมขยันจังเลยตั้งใจจะทำถึงเมื่อไหร่กันเชียวไม่เบื่อหรือไงนะไพลินยื่นมือให้เขาอย่างว่าง่าย ทำเอาคนที่นอนอยู่ยิ้มจนตาหยีดึงมือของไพลินมาวางไว้ที่หัวใจตัวเอง“ข้างนี้ใช่ไหมที่ซ้นหายดีแล้วนะ” เขาถามทั้งที่หลับตาอยู่“หายดีแล้วค่ะ ทำงานได้สบายๆ เลย”“วันพรุ่งนี
บ้านกิจษานุรักษ์ คุณทัตเทพและคุณดรุณีกำลังปรึกษากันเรื่องแดนไทยกับไพลิน ทั้งสองคนดีใจที่ทั้งคู่ตกลงพูดคุยกันได้ ดีใจกับลูกชายที่สุด พ่อกับแม่ทุกข์ใจช่วงระยะเวลาเกือบ 1 ปี ที่แดนไทยจมจ่ออยู่กับความเสียใจไม่เป็นอันทำงานทำการ เสียใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้ไพลินต้องไปลำบากระหกระเหินอยู่แห่งหนใดก็ไม่รู้ ลูกทุกข์เท่าไหร่ พ่อแม่ทุกข์หนักยิ่งกว่า แดนไทยก็เหลือเกิน ดื่มตลอดเวลาทำใจไม่ได้ ครึ่งปีแรกเกือบเอาชีวิตไม่รอดครึ่งปีหลังมาต้องจับเข่าคุยกัน พ่อแม่แก่ลงทุกวัน น้องสาวทำงานคนเดียวทุกคนขอร้องให้เขากลับมาทำงาน จะได้ว่างเว้นจากการรู้สึกผิดบ้าง ดีขึ้นมานิดหน่อย ก็ยังไม่วายดื่มลดลงเพียงเล็กน้อย แดนไทยอยู่บ้านสวนและคอนโดของไพลินตลอด กลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ ร่างกายซูบผอมไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยผมยาวรุงรัง คุณทัตเทพล้มป่วยเพราะเหนื่อยจากการทำงานหนักนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้แดนไทยคิดไทยรู้ว่าตัวเองทำผิดกับครอบครัว ผิดกับไพลินแล้วยังไม่พอ ยังมาต้องทำให้พ่อแม่น้องลำบาก หลังจากนั้นคุณทัตเทพและคุณดรุณีก็ได้เห็นว่าแดนไทยกลับมาทำงาน และทำหนักกว่าเดิมเขาทุ่มเทกับงานไม่สนใจเรื่องอื่น ทำจนไม่มีเวลาพ
ช่วงเวลาที่อยู่บนเกาะกับไพลิน แดนไทยมีความสุขมาก เขาทำงานได้ติดต่อธุรกิจได้เหมือนเดิมไม่มีปัญหาเลย ต่อไปนี้ไม่ว่าไพลินจะไปที่ไหน เขาก็จะตามไปทุกที่ ฝนซานักท่องเที่ยวเริ่มขึ้นไปทำธุระบนฝั่ง รวมทั้งแดนไทยกับไพลิน ทั้งสองเก็บเสื้อผ้าทุกอย่างไปหมด ไพลินคิดว่าจะไม่กลับมาแล้ว เธอจะแวะไปดูบ้านที่กำลังสร้าง หลังจากนั้นจะกลับบ้านสวนไปใช้ชีวิตปกติของเธอ พิเศษหน่อยที่ครั้งนี้เธอมีคนติดตาม เชื่อว่าเขาไม่ปล่อยให้เธอไปไหนมาไหนคนเดียวแน่ๆ เริ่มกังวัลกับบ้านที่จะกำลังสร้าง ในเมื่อบ้านสวนยังเป็นของเธอ ก็ไม่อยากมีบ้านที่นี่แล้ว ตัวคนเดียวจะมีทำไมหลายหลังแดนไทยจองโรงแรมใกล้ๆ กับหมู่บ้านของไพลิน เขาเป็นคนจ่ายทั้งหมดห้ามไม่ให้ไพลินจ่าย เขาเห็นแบบบ้านแล้วชอบ ไพลินกับเขาชอบอะไรคล้ายๆ กัน ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองหรอกมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ที่เมืองนี้โรงแรมเยอะสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวรถของรีสอร์ทไปส่งทั้งสองคนที่โรงแรมที่จองไว้ แดนไทยประทับใจเขาได้พูดคุยกับเจ้าของรีสอร์ท มีโอกาสเขาต้องกลับไปอีกแน่“ฉันขอแวะซื้อเสื้อผ้าใหม่สักชุดนะคะ ของคุณด้วยว่าจะซักผ้าที่มาจากเกาะค่ะ ติดทรายเต็มเล







