เวินซื่อจงใจเลือกเช่นนี้ทำให้เวินหย่าลี่มองเพียงปราดเดียว ก็ยากจะระบายไฟโกรธ“วันนี้ข้ามารบกวนจวนจงหย่งโหวแล้ว ขอฮูหยินจงหย่งโหวโปรดอภัย เพียงเพราะก่อนข้าออกบวช ก็เคยเป็นพี่น้องกับแม่นางเวินเยวี่ยน แม้ยามนี้คนหนึ่งออกบวช อีกคนหนึ่งออกเรือน แต่ว่ากันตามระเบียบ ก่อนออกบวชข้าในฐานะพี่สาว สมควรเพิ่มสินเดิมให้แก่ผู้เป็นน้องสาว ดังนั้นด้วยความเร่งรีบ จึงมาเยือนอย่างบุ่มบ่าม”เวินหย่าลี่ที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้อยากจะด่าสวนกลับไปเจ้าเพิ่มสินเดิมไม่เพิ่มให้ก่อนจะออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง ดันมาเพิ่มเอาตอนที่จะเข้าจวนฝั่งนี้โดยเฉพาะ เกรงว่าคงไม่ได้มาเพิ่มสินเดิม แต่มาเพิ่มความยุ่งยากมากกว่ากระมัง?!เวินหย่าลี่จ้องเวินซื่ออย่างระวัง “เพิ่มสินเดิมย่อมได้แน่นอน แต่คำที่ไม่น่าฟังข้าจะขอพูดไว้ก่อน แม้วันนี้จะเป็นวันแต่งฮูหยินรองของลูกชายข้า แต่จวนจงหย่งโหวของพวกเราหาใช่สถานที่ซึ่งใครจะเข้ามาก่อกวนได้”ความหมายคือ หากพวกเจ้ากล้าจงใจก่อกวน เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกนางจวนจงหย่งโหวไม่เกรงใจถึงตอนนั้นต่อให้เจ้าเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้วจะทำไม หากทำให้จวนจงหย่งโหวของพวกนางโกรธขึ้นมา ธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างเจ้าก็อ
มือที่จับม่านเกี้ยวมงคลของเวินเยวี่ยชะงักโดยพลันเงยหน้ามองเวินหย่าลี่ด้วยสายตาทั้งตะลึงทั้งโมโห“เก็บสายตาราวกับจะกินคนของเจ้ากลับไปเสีบ อย่ามาจ้องฮูหยินอย่างข้า”เวินหย่าลี่หัวเราะเสียงเย็น แล้วยกเท้าก้าวลงจากบันไดทีละก้าว แล้วเอ่ยเสียงเย็น “วันนี้ที่เจ้าสามารถแต่งเข้าจวนจงหย่งโหว ล้วนเป็นเพราะลูกชายข้าใจดี ขอร้องแทนเจ้า ไม่อย่างนั้นนังเด็กแพศยาที่เสียตัวไปแล้วอย่างเจ้ายังคิดจะแต่งกับเส้าเจ๋อ เรื่องเพ้อเจ้อชัดๆ”เวินเยวี่ยกัดฟันตอบ “เขาเป็นคนแตะต้องร่างกายข้า เขาย่อมต้องรับผิดชอบข้า!”“หึ เหตุใดเส้าเจ๋อของข้าจึงแตะต้องเจ้า ในใจเจ้าน่าจะรู้ดี วางแผนมาเสียดิบดีขนาดนี้ ยังคิดจะแต่งเข้ามาเป็นภรรยาเอก นึกว่าจวนจงหย่งโหวของพวกเราโง่มากหรืออย่างไร”เวินหย่าลี่พูดจบด้วยใบหน้าเหยียดหยาม จากนั้นเอ่ยกับแม่สื่อและคนยกเกี้ยวอย่างรำคาญ “เอาละ อย่าเสียเวลาอยู่เลย รีบยกนางเข้าไปได้แล้ว หากทำให้เสียฤกษ์ พวกเจ้าก็ไสหัวไปพร้อมกับนางเด็กแพศยานี่ได้เลย”“ได้ ได้ ฮูหยินรอสักครู่ พวกเราจะพาตัวแม่นางเวินเยวี่ยเข้าไปให้ซื่อจื่อเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”แม่สื่อรีบสั่งการให้คนยกเกี้ยวยกเวินเยวี่ยเข้าไปเวินหย
ถูกต้อง ถ้านางเป็นบุตรสาวภรรยาเอกล่ะก็ ตอนนี้นางคงได้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงมาตรฐานแทนที่จะเป็นสีชมพูเข้มที่น่าอับอายอย่างเหลือเชื่อนี้!เวินเยวี่ยกำลังนั่งอยู่บนเกี้ยวเจ้าสาว จ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ สูดหายใจเข้าลึก ๆไม่ ตอนนี้หลังจากไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว เจ้าโง่ชุยเส้าเจ๋อนั่นถูกนางล่อลวงจนขาดสติ ไม่อาจกลับคำอย่างกะทันหันแน่นอนดังนั้นจึงเป็นคนของจวนจงหย่งโหวจริงดังคาด เป็นเวินหย่าลี่ที่ต้องการทำลายนาง!เวินเยวี่ยยิ่งคิดก็ยิ่งกัดฟันหนักขึ้นช้าก่อน หลังจากนางแต่งเข้าไปในจวนจงหย่งโหวแล้ว ครั้งนี้นางจะใช้หมากอย่างชุยเส้าเจ๋อให้เกิดประโยชน์ จากนั้นค่อยกำจวนจงหย่งโหวทั้งหมดไว้ในมือท้ายที่สุดแล้วจวนจงหย่งโหวก็เทียบกับจวนเจิ้นกั๋วกงไม่ได้ในจวนเจิ้นกั๋วกงมีบุตรชายภรรยาเอกมากมาย ยากที่จะควบคุมแต่จวนจงหย่งโหวกลับมีเพียงชุยเส้าเจ๋อคนเดียวเท่านั้น และตอนนี้ชุยเส้าเจ๋อยังหลงใหลในตัวนางอีกด้วยดังนั้นขอเพียงควบคุมชุยเส้าเจ๋อได้ ก็จะสามารถควบคุมจวนจงหย่งโหวทั้งหมดได้อย่างแน่นอนถึงเวลานั้น หากนางต้องการเลื่อนตำแหน่งเป็นภรรยาเอกก็จะทำได้เสมอทั้งหมดนางมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้า
สิบวันต่อมา...จากจวนเจิ้นกั๋วกงเวินเยวี่ยสวมชุดเจ้าสาวสีแดงสด นั่งบนเกี้ยวเล็ก ๆ ที่จวนจงหย่งโหวส่งมารับนางก่อนหน้านี้อย่างคับข้องใจชุยเส้าเจ๋อไม่ได้มาด้วยเพราะขณะนี้เขากำลังถูกเวินหย่าลี่ควบคุมตัวอยู่ในจวน“ก็แค่การแต่งฮูหยินรองเท่านั้น ถ้าเจ้าไป จวนเจิ้นกั๋วกงจะมีหน้ามีตา แต่จวนจงหย่งโหวของเราจะจบสิ้นเพราะเด็กโง่อย่างเจ้า”เวินหย่าลี่ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของชุยเส้าเจ๋อ พูดจ้ำจี้จ้ำไชชุยเส้าเจ๋อเม้มริมฝีปาก “อันที่จริงก็เป็นครอบครัวของท่านลุง ให้ท่านลุงมีหน้ามีตาจะเป็นไรไป ญาติมิตรกันทั้งนั้น และต่อไปก็จะสนิทกันมากขึ้นจากการดองกัน ท่านแม่แบ่งแยกชัดเจนขนาดนั้นเพื่ออะไร”“เจ้านี่สั่งสอนไม่จำจริง ๆ!”เวินหย่าลี่ข่มความโกรธเอาไว้มากมายตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า “เจ้าลืมตอนที่ขาข้างนี้ของเจ้าถูกตีจนหักไปแล้ว ลุงของเจ้าไม่ได้นึกถึงความเป็นญาติมิตรแม้แต่น้อย!”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ชุยเส้าเจ๋อก็ไม่กล้าพูดต่อทันทีต้องรู้ก่อนว่าตอนแรกเมื่อแม่ของเขารู้ว่าขาของเขาถูกลุงตีจนหัก ก็ร้องไห้หนักมากจนหัวใจแทบสลาย ทั้งร้องไห้และด่าทออยู่ในบ้าน ถึงขั้นสลบไสลไปหนึ่งวันหนึ่งคืนกว่าจะฟื้นขึ้นมาตั
ดวงตาของเวินหย่าลี่มีประกายดุร้าย “ตำแหน่งภรรยาเอกของเส้าเจ๋อนางฝันไปเถอะ แต่ให้นางเข้ามาเป็นอนุภรรยาก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายสุดที่รักของนางชอบ ของสกปรกเลวทรามเช่นนี้ นางที่เป็นผู้อุ่นเตียงให้เส้าเจ๋อยังรู้สึกสกปรกเลย!“ท่านแม่ แบบนี้ได้อย่างไรเล่า! หากได้สถานะเพียงอนุภรรยา มันจะไม่เป็นการอยุติธรรมกับน้องหญิงเยวี่ยเอ๋อร์หรอกหรือ?!”ชุยเส้าเจ๋อยังไม่พอใจเวินหย่าลี่จ้องเขม็งใส่ลูกชายที่ไม่เอาไหนของนางผู้นี้แวบหนึ่ง “ถ้าไม่ให้นางมาเป็นอนุภรรยา ก็อย่าคิดที่จะผ่านเข้าประตูจวนจงหย่งโหวเลย!”“ไม่ได้ ไม่ได้ ท่านแม่ ข้าไม่อยากทำให้น้องหญิงเยวี่ยเอ๋อร์ลำบากใจ ท่านหยุดรังแกนางแบบนี้ไม่ได้หรือ?”“แม่รังแกนาง?! เจ้าลูกทรพี ใครคลอดเจ้ามากันแน่นะ? ข้ามีลูกชายที่เข้าข้างคนนอกอย่างเจ้าได้อย่างไรกัน?!”เวินหย่าลี่ตบหลังเขาอย่างแรงด้วยความโมโหถ้าไม่ใช่เพราะนางคลอดเองแท้ ๆ นางคงอยากตีไอ้เด็กเวรนี่ให้ตาย“ท่านแม่! ท่านพ่อ! ได้โปรดเถอะ ข้าสัญญากับน้องหญิงเยวี่ยเอ๋อร์ไว้ตั้งนานแล้วว่า จะต้องแต่งนางมาเป็นภรรยาเอก”ชุยเส้าเจ๋ออาศัยความรักที่สองสามีภรรยาจงหย่งโหวมีให้เขา พยายามอ้
“เจ้า…เจ้าลูกคนนี้หมายความว่าอย่างไร? เจ้ากำลังบีบคั้นแม่อยู่หรือ? ที่แม่ทำสิ่งเหล่านี้ก็เพราะหวังดีกับเจ้าทั้งนั้น!”“หวังดีกับข้า หวังดีกับข้า ท่านบอกว่าหวังดีกับข้า แต่เรื่องที่ข้าอยากแต่งงานกับน้องเยวี่ยเอ๋อร์ ทำไมท่านกับท่านพ่อถึงไม่เห็นด้วยล่ะ? กว่าน้องเยวี่ยเอ๋อร์จะยอมตอบตกลงแต่งงานกับข้านั้นไม่ง่ายเลย แต่ตอนนี้กลับเป็นพวกท่านเสียเองที่ไม่ยอมเห็นด้วย!”ชุยเส้าเจ๋อกอดขาแม่ของเขา ร้องไห้น้ำตาไหลพรากจงหย่งโหวสูดหายใจเข้าลึก ๆ กลัวว่าถ้าตัวเองอดใจไม่ไหวจะตีลูกชายโง่เขลาคนนี้ตาย“ชุย เส้า เจ๋อ!”จงหย่งโหวตะโกนเรียกชื่อแซ่ของเขาเสียงดังลั่นเสียงคำรามนี้ทำให้ชุยเส้าเจ๋อสะดุ้งตกใจ รีบปล่อยขาแม่ของเขา แล้วรีบคุกเข่าลง“ท่านพ่อ…”ชุยเส้าเจ๋อแอบมองใบหน้าของพ่อ แล้วพูดอย่างระมัดระวังอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “ข้า...ข้าอยากแต่งงานกับน้องเยวี่ยเอ๋อร์จริง ๆ ได้โปรด ท่านกับท่านแม่เห็นด้วยกับลูกในครั้งนี้เถิด!”จงหย่งโหวมองไปที่สภาพที่ไร้ค่าของเขา กำปั้นเริ่มแข็งขึ้นเรื่อย ๆเวินหย่าลี่เอ่ยอย่างโกรธจัด “ข้าไม่เห็นด้วย!”“ท่านแม่!”ชุยเส้าเจ๋อกัดฟัน วิงวอนพ่อของเขาต่อไป “ท่านพ่อ ขอเพียง
“ไม่ใช่เสียหน่อย!”ชุยเส้าเจ๋อค้านหัวชนฝา “ก่อนหน้านี้น้องเยวี่ยเอ๋อร์ไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกกับใครคนอื่น มีเพียงข้าที่เป็นตัวเลือกในใจของน้องเยวี่ยเอ๋อร์ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ยอมมอบกายให้ข้าหรอก!”“ปัง!”ในที่สุดโต๊ะตัวนั้นก็ไม่อาจทนรับน้ำหนักฝ่ามือของจงหย่งโหวได้ สิ้นเสียงปังก็ถูกตบจนแตกออกจากกันจงหย่งโหวชี้ไปที่ชุยเส้าเจ๋อพลางเอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้ายังมีหน้ามาพูดถึงอีก!”“นางบอกให้เจ้าไปทำอะไรเจ้าก็ไปทำอย่างนั้น นางให้เจ้าไปกินขี้ทำไมเจ้าไม่ไปล่ะ?!”ชุยเส้าเจ๋อก็ยังไม่ฟังคำดุด่า ได้ยินเพียงประโยคสุดท้ายนั้น ก็เอ่ยด้วยความรังเกียจทันที “อี๋ ท่านพ่อ ท่านนี่น่ารังเกียจมาก”ท่าทางไม่สะทกสะท้านกับการดุด่าช่างน่าโมโหจนจงหย่งโหวเกือบจะเป็นลมจากไฟโทสะที่เข้ารุมเร้าหัวใจ“ท่านพี่!”เวินหย่าลี่สะดุ้งตกใจ รีบประคองจงหย่งโหวไว้ หลังจากประคองให้เขานั่งลง ให้เขาหายใจคล่องขึ้นแล้ว “ท่านพี่ ท่านรีบใจเย็น ๆ ลงก่อน อย่าโมโหเด็กโง่คนนี้จนเป็นลมเลย ท่านก็รู้ว่าเขาโง่เขลา แค่ถูกนังแพศยาน้อยหลอกเอาเท่านั้น ตอนนี้เรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว พวกเราทำได้แค่คิดหาวิธี ดูว่าจะชดเชยอย่างไร”“ชดเชย?”หลังจา
เมืองหลวงจวนจงหย่งโหว“ปัง!”จงหย่งโหวตบโต๊ะอย่างแรง โต๊ะตัวนั้นไม่แตก แต่น้ำชาบนโต๊ะสะเทือนจนหล่นลงมาจากโต๊ะ เสียงดัง “เพล้ง” สาดกระจายไปทั่วพื้นเศษแก้วชิ้นหนึ่งในนั้นกระเด็นออกไป ตกลงตรงหน้าหัวเข่าของชุยเส้าเจ๋อพอดี“ข้ามีลูกชายโง่ ๆ อย่างเจ้าได้อย่างไรกันนะ?!”จงหย่งโหวเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ เอานิ้วจิ้มศีรษะของชุยเส้าเจ๋ออย่างแรง แทบอยากจะเอามีดผ่าศีรษะของเขาออก เพื่อดูว่าข้างในมีอะไรบรรจุอยู่กันแน่!ชุยเส้าเจ๋อที่คุกเข่าอยู่บนพื้นตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ทันทีที่นึกถึงคำสัญญาว่าจะรักกันชั่วฟ้าดินสลายที่น้องเยวี่ยเอ๋อร์พูดกับเขาตอนที่นอนอยู่ในอ้อมกอด เขาก็ยืดเอวขึ้นมาทันทีเอ่ยอย่างเต็มภาคภูมิ “ท่านพ่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้น้องหญิงเยวี่ยเอ๋อร์ก็เป็นคนของลูกแล้ว ลูกแตะต้องร่างกายของนางแล้ว ต้องรับผิดชอบนาง ดังนั้นไม่ว่าจะเพื่อชื่อเสียงของทั้งสองสกุลของเราก็ดี พวกเราควรรีบไปสู่ขอที่จวนเจิ้นกั๋วกงให้เร็วขึ้น จะได้ประกาศเรื่องการแต่งงานของข้ากับน้องหญิงเยวี่ยเอ๋อร์ให้ภายนอกรับทราบมิใช่หรือ? และเมื่อถึงเวลานั้นขอเพียงบอกว่าข้ากับน้องหญิงเยวี่ยเอ๋อร์ได้หมั้นหมายกันมานานแล้ว ก
เมื่อได้ยินคำพูดนี้เป่ยเฉินหยวนก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเป็นไปได้ไหมว่าจะมีเรื่องใหญ่โตมโหฬารเกิดขึ้นภายในจวนเจิ้นกั๋วกงจริง ๆ?“หาเขาไม่พบก็ไม่เป็นไร ข้าได้ส่งคนไปสืบต่อแล้ว คิดว่าน่าจะได้รู้อะไรมากขึ้นในเร็ว ๆ นี้”เขามีผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความสามารถมากมายการสืบหาข้อมูลแบบนี้เป็นเรื่องง่ายดายสำหรับพวกเขาถึงจะเป็นจวนเจิ้นกั๋วกงก็เหมือนกัน เว้นแต่จะฆ่าปิดปาก ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถปิดปากได้มากมายขนาดนั้นเช่นเดียวกับเรื่องที่เวินเยวี่ยและชุยเส้าเจ๋อถูกจับชู้ได้ในวันนี้ ต่อให้เวินเฉวียนเซิ่งจะสั่งการทุกคนไม่ให้แพร่งพรายออกไปในทันที แต่ข่าวก็ยังคงรั่วไหลออกมาเป็นไปตามคาดเมื่อถึงช่วงบ่ายในวันนี้ เกาเย่าก็มาหาเป่ยเฉินหยวนและเวินซื่อด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับข้อมูลที่สืบมาได้โดยตรง“ท่านอ๋อง ธิดาศักดิ์สิทธิ์! ข้าขอบอกกับพวกท่านเลยว่า เรื่องในจวนเจิ้นกั๋วกงนั่นมันน่าตื่นเต้นจริง ๆ!”“เรื่องนี้น่ะ ต้องเริ่มเล่าจากเรื่องที่คุณหนูหกสกุลเวินขโมยอีแปะสามสิบห้าพวงจากคุณชายรองสกุลเวิน…”ต่อมาเกาเย่าก็บรรยายด้วยน้ำเสียงและอารมณ์ครบครัน โดยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่จวนเจิ้นกั๋วกงใ