ปัจจุบันอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่นคือสิ่งที่สาวๆ หลายคนโปรดปราน แม้ว่าจะควบคุมน้ำหนักแทบตายเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายพันธุ์เป็นแม่หมูตัวอ้วนกลมแก้มยุ้ยน่ารักน่าหยิก ก็แหมกลิ่นของเนื้อสัตว์ที่หมักด้วยน้ำซอสสารพัดอย่างยามวางบนเตาย่างมันชวนน้ำลายสอจะตายไป ฉันคนหนึ่งล่ะที่จะไม่ยอมมองเตาแล้วทำตาปริบๆ และท่องบอกตัวเองในใจว่าอย่านะ มันอ้วนหรอกย่ะ เพราะหมูแดงคนนี้ไม่ได้ควบคุมน้ำหนักอย่างบ้าคลั่งถึงขนาดนับปริมาณแคลอรี่ในอาหารว่าวันๆหนึ่งสามารถบริโภคนั่นนี่ได้เท่าไหร่ อึ๋ย ขืนเป็นแบบนั้นคงไม่ต้องกินอะไรกันพอดีนอกจากดื่มน้ำเปล่า กินผลไม้ ธัญญพืชบลาๆ ยิ่งอาหารบนโลกใบนี้มันน่ากินไปซะหมดใครมันจะไปอดใจไหวแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีความพอดีไม่มากจนท้องแตกตาย
ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้ฉันกำลังนั่งสวยๆ เป็นนางเอกซีรีส์แบบมโนอยู่ภายในร้านอาหารเกาลีกับนายขุนพลที่บังคับและข่มขู่ให้ฉันมาด้วยจนได้ สั่งสิ่งที่อยากกินเสร็จฉันก็นั่งเท้าคางสำรวจตรวจตราใบหน้าผู้ชายฝั่งตรงข้ามอย่างพิจารณา อยู่นิ่งๆ นี่มาดคุณชายชัดๆ เลยค่ะคุณขา การแต่งตัวก็สะอาดสะอ้าน ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งขาวเนียนละเอียดละออม๊ากมาก แถมหมอนี่มีลักยิ้มด้วยแหละ โอยฉันจะบ้าตายถ้าได้เห็นมัน และเกิดความรู้สึกอยากจะใช้นิ้วจิ้มเล่น มันเขี้ยว งื้ออ บ้าๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ยที่ฉันมานั่งมองผู้ชายแล้วแอบเคลิ้มแอบเขินทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับแกเลยยัยหมูแดง ฮือ สงสัยช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาฉันเสพติดซีรีส์มากเกินไป เลยเพ้อเจ้อไปเรื่อย
“จะนั่งจ้องเตาอีกนานไหมหมู อ้าปากดิวะ” ขุนพลพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอาแต่จ้องเตาย่างตาไม่กระพริบมาเกือบสิบนาทีเข้าไปแล้ว
“อุ๊ย! ตกใจหมดเลย ตะคอกทำไมก็ไม่รู้อยู่ใกล้แค่นี้เอง” คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ ไม่สะดุ้งให้มันรู้ไป
“แน่ะ ยังจะมามองค้อนทำหน้าตาน่ารักน่าฟัดใส่ฉันอีกเดี๋ยวก็โดนฟาดจนได้หรอก ฉันบอกให้เธออ้าปากไงเล่า จะกินไหมไอ้หมูย่างเนี่ย” ขุนพลดุอีกรอบเมื่อปากน้อยๆ ของฉันยังคงเม้มเอาไว้ ไม่ยอมกินง่ายๆ ดุแบบนี้ฉันก็อยากพยศน่ะสินายบื้อเอ๊ย! แต่ก็ทำได้ไม่นานหรอก เพราะ...
“งืออออ ชิ้นนี้ดีงามมาก มีอีกไหมอ่าแบบนี้อ่ะ” ดวงตาฉันเป็นประกาย จ้องหมูในตะเกียบที่ขุนพลคีบมาตรงหน้าตาเป็นประกาย พลางรีบอ้าปากงับหมูติดมันน่าหม่ำเข้าปากแต่โดยดีไม่มีอิดออดให้คนป้อนต้องอารมณ์เสียอีกรอบ
“คนอะไรกินเนื้อตัวเองได้น่าอร่อยขนาดนี้ หมูกินหมูโคตรน่าดูเลยว่ะ” ขุนพลกระตุกยิ้มแล้วเอื้อมมือใช้กระดาษทิชชู่เช็ดมุมปากให้ฉันคงจะเห็นว่ามันเลอะ
“หมูกินหมูแล้วใครจะทำไม ชิ!” คนปากไม่ดีว่าฉันกินตัวเองงั้นเหรอ เชอะ! โทษทีไม่สนใจหรอกตอนนี้อ่ะ ฉันกำลังฟินเฟ่อ เพราะมันอร่อยมากเลยจำต้องยอมอภัยให้ไปก่อน ทะเลาะด้วยเดี๋ยวเสียอรรถรสในการกินหมด
“นี่! ช่วยป้อนฉันมั่งดิวะหมู ฉันย่างให้เธอกินอยู่นะเนี่ย ช่วยมีน้ำใจกับฉันหน่อยสิ” ฉันยู่ปากใส่คนทำหน้าตาหงิกงอเป็นหมาหงอยเวลาเห็นเจ้านายกินของอร่อยแต่ตัวเองไม่ได้กิน แค่คีบเข้าปากตัวเองมันยากเย็นตรงไหนกัน
“อย่ามาทวงบุญคุณนะขุน” แค่ย่างให้ฉันกินทำมาบ่นนั่นนี่ตัวเองเป็นคนบังคบฉันมาแท้ๆ ยังจะพูดมากอีก “อ้าม อ้าปากสิ เห็นแก่ที่นายบริการหรอกนะเนี่ย” ฉันยื่นแขนไปจนสุดเพื่อป้อนคนบ่น แขนก็สั้นลำบากจะตายยังมาให้ป้อนใส่ปากอีก
“นี่ฉันถามจริงเถอะ ไอ้เสื้อที่มันตัวใหญ่ไม่รัดนมไม่มีแล้วเหรอวะยกแขนทีหนึ่งฉันกลัวว่ากระดุมเสื้อเธอมันจะกระเด็นกระดอนมาดีดใส่หน้าใส่ตาฉัน พอๆ เธอไม่ต้องป้อนฉันแล้ว” ขุนพลทำหน้าตาแบบว่าไม่พอใจฉันแรงมาก
“นายก็อย่ามาจ้องนมฉันสิยะ หน้าสวยๆ น่ะ มองเข้าไปสิโว้ย!”ฉันแทบจะพ่นไฟออกมา เพราะความอายที่หมอนี่มันพูดตรงเกินและทั้งยังสายตาราวกับกำลังประเมินอะไรสักอย่าง ที่สำคัญมันไม่ได้ขนาดนั้นเลยนะ แค่หน้าอกหน้าใจที่ม๊าให้ฉันมามันใหญ่เกินตัวเลยทำให้ดูเหมือนใส่ชุดอะไรมันก็ดูรัดรูปไปเสียหมด ยกเว้นพวกเสื้อยืดตัวใหญ่แบบหลวมๆ ไซส์ผู้ชายเท่านั้นแหละที่ใส่แล้วไม่เน้นรูปร่าง
“อย่ามาโวยวายเสียงดังใส่ฉันนะ รีบย้ายก้นงอนๆ ของเธอมานั่งนี่เดี๋ยวนี้เลยยัยหมูปีศาจ อย่าให้ฉันต้องพูดย้ำซ้ำไปมาหลายรอบ ถ้าไม่มามีจูบโชว์คนทั้งร้านแน่นอน” ขุนพลตบเบาะข้างตัวแล้วใช้มืออีกข้างกวักเรียกให้ฉันย้ายไปนั่งที่ว่างข้างตัวเอง
“สาบานนะว่าเราสองคนเพิ่งทำความรู้จักกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทำเหมือนกับว่าเรารู้จักมาสักสองสามปี หรือมากกว่านั้นเยอะอ่ะถามหน่อยฉันไปสนิทสนมกับนายตอนไหนไม่ทราบไอ้คนบ้าปากไม่ดี” ปากฉันบ่น หน้าฉันตูมไม่รื่นเริงใจนะ แต่ก็ต้องจำใจลุกขึ้นจากที่เดิม แล้วเดินมาหย่อนก้นนั่งข้างไอ้คนดีแต่สั่งและสั่ง เพราะไม่อยากถูกจูบโชว์ไงล่ะ นั่นไง นั่งปุ๊บแขนมันก็เลื้อยพาดเกี่ยวรัดรอบเอวปั๊บเลย แหม่อะไรมันจะมือไวปานนี้
“แค่วันเดียวฉันก็สามารถสนิทสนมจนลอกคราบเธอได้แล้วหมู สนใจอยากลองไหมล่ะ ฉันพร้อมเสมอขอแค่เธอบอกว่าต้องการฉัน” จมูกโด่งของขุนกดประทับลงบนแก้มของฉันแล้วยักคิ้วให้อย่างกวนๆ พออ้าปากเตรียมจะด่าหมูก็ยัดเข้ามาในปากเต็มคำ
ฉันเคี้ยวหมูในปากแต่สายตาจ้องหน้าไอ้คนทะลึ่งที่ลูบเอวฉันเล่นอย่างเพลินมือแล้วฉีกยิ้มหวานหยดย้อย หึๆ ถึงปากไม่ว่างแต่มือน้องว่างนะจ๊ะพี่ขุนจ๋า หยิกมันสิคะจะรออะไรล่ะ ให้หน้าตาดีแค่ไหนฉันก็ไม่เว้นนะจะบอกให้
“ซี๊ด เธอหยิกฉันอีกแล้วนะ จุดเดิมกับเมื่อเช้าด้วยเนี่ย ยัยหมูปีศาจใจร้าย ทำไมทำกับพี่ขุนแบบนี้ล่ะหมู เลือดซิบแล้วมั้งเนี่ย เป่าให้เลยเจ็บจริง” ฉันล่ะอยากจะเอาตะเกียบอุดปากหมอนี่จังเลย ถ้าไม่หยิกให้เจ็บแล้วฉันจะหยิกทำไม
“เจ็บอะไรไม่ทราบยะ โดนแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ นี่ฉันออมแรงแล้วนะ ย่างต่อสิไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งสำออยเลย หิว! ฉันยังไม่อิ่มเข้าใจไหมขุน!” ฉันบอกอย่างหงุดหงิดปนหมั่นไส้สุดๆ แม้เขาจะทำมันออกมาได้น่ารักมากแค่ไหนก็ตาม
“ครับ คุณนายหมู”
Kunpon Talksพออิ่มท้องแล้วผมก็พาหมูมาเดินเล่นย่อยอาหารในโซนศูนย์การค้าต่อเลยเพราะยังไม่อยากกลับ หมูแดงตัวเล็กน่าทะนุถนอมมากหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือเตี้ยอ่ะเวลาเดินข้างกันความสูงแค่ระดับอกเท่านั้นเอง ส้นสูงที่ใส่อยู่นี่ไม่ได้ช่วยให้ตัวสูงขึ้นมาได้เลยเหอะ เรื่องส่วนสูงไม่ใช่ประเด็นหลักห่าเหวอะไรหรอกแค่คิดขำๆ เท่านั้น แต่ที่ไม่ขำนี่คือฟาร์มโคนมยัยบ้านี่ต่างหาก ไอ้ชอบมันก็ชอบนะมองแล้วเพลินเป็นบ้าและทำให้จินตนาการไปถึงความขาวความอวบของเนื้อแท้ภายใต้เสื้อนักศึกษาด้วย แล้วคนอื่นที่เห็นมันจะไม่คิดเหรอวะ“ทำไมนายชอบถึงเนื้อถึงตัวฉันเรื่อยเลยเนี่ยขุน! เดินเองได้ไม่ต้องประคอง” แม่ตัวดีแหงนหน้าคอตั้งมองหน้าผมอย่างหงุดหงิดเมื่อถูกกระชากเอวอ้อนแอ้นให้ขยับมาแนบชิดกับร่างกายผมจนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศได้รอดผ่าน แค่จับมือเดินเกี่ยวก้อยมันยังไม่เพียงพอหรอกตอนนี้ นี่ถ้าอุ้มเธอเดินได้ผมอุ้มไปแล้วนะแต่กลัวจะโดนหยิกจนเนื้อหลุดซะก่อนน่ะสิ“ฉันชอบ จบไหม”“ไม่ชอบ จบไหมคะพี่ขุน” ลอยหน้าลอยตาพูดเลยก้มฟัดแก้มแม่งเลยอยากท้าทายดีนัก ถึงจะเรียกพี่ก็ไม่ปล่อยหรอก“อ๊าย ขุนน” มือบางผลักหน้าผมออกพลางเบี่ยงหลบเป็นพัล
ปังๆๆๆ“โอ๊ย! คำว่าเกรงใจน่ะสะกดเป็นไหมคะคุณ ฮึ่ย!” เสียงใสบ่นกระปอดกระแปดพลางเดินกระแทกส้นเท้าไปที่หน้าประตูและเขย่งที่ช่องตาแมวดูว่าใครบังอาจมาเคาะประตูแทบหลุดรบกวนเวลาส่วนตัวของผู้หญิงตัวเล็กๆ ในช่วงสายเช่นนี้ เมื่อดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็เตรียมถอยหลังกลับ ขืนเปิดไปดูสุ่มสี่สุ่มห้ากลายเป็นโจรขึ้นมาซวยแย่ ไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวันก็น่ากลัวพอๆ กันนั่นแหละ“หมูแดง ยัยหมูปีศาจ รีบมาเปิดประตูห้องให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินเสียงฉัน ถ้ายังไม่เปิดถีบประตูพังจริงๆ นะเว้ย!” ขาที่กำลังก้าวชะงัก เพราะคุ้นกับเสียงนี้มาก ทำไมเมื่อกี้เขย่งดูไม่มีใครสักคนพอหันหลังเท่านั้นแหละเสียงปริศนาดังไล่หลังมาทันทีราวกับรู้ว่ากำลังทำอะไรคนหรือผีกันแน่แอ๊ดด“ขุน! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ไม่ทราบ” ฉันตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดใส่หน้าหล่อๆของหมอนี่ทันทีที่กระชากประตูออกมาปะทะสายตา นาทีนี้ต่อให้หน้าตาอปป้าบุคลิกแบดบอยแค่ไหนหมูแดงก็ไม่สน โหวกเหวกโวยวายชนิดที่ว่าไม่กลัวห้องอื่นจะออกมาด่าแม่ด่าพ่อขนาดนี้บอกตรงๆ โมโหค่ะ กริ่งมีก็ไม่ยอมกดใช้มือทุบปังๆ สนั่นหวั่นไหว ยอมใจเขาเลยไอ้คนเถื่อน“ที่เปิดช้านี่ไม่ใ
Kunpon Talksยัยตัวเล็กตาค้างเลย สงสัยจะอึ้งที่ผมบอกให้เธอเป็นแฟนผม ไม่ได้พูดเอาสนุกนะแต่ผมคิดจริงเลยพูดออกมาอย่างง่ายดายทั้งที่คำๆนี้ไม่เคยคิดอยากจะใช้กับใครมาก่อนเลย ก็นะหมูน่ารักขนาดนี้ใครมันจะมัวแต่ช้าอืดอาดเป็นเต่าอยู่ได้ ทำงั้นหมาได้คาบชิ้นเนื้องามๆ ชิ้นนี้ไปกินก่อนน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกเว้ย ที่บอกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนนี่ก็เรื่องจริงนะเพราะในหัวสมองมันคอยแต่จะวนเวียนคิดถึงใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เสียงใสๆ ตัวหอมๆ อยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ผมมาส่งเธอที่คอนโด อยากโทรหาใจแทบขาดแต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองเอาไว้ขืนโทรมาฟังเสียงเจื้อยแจ้วมีหวังได้บึ่งรถมาหากลางดึกแน่ และเมื่อท้องฟ้าสว่างโล่ พระอาทิตย์ขึ้นประจำการผมก็ไม่รอช้าที่จะบุกมาหาถึงบนห้อง นี่ผมเป็นเอามาอย่างคาดไม่ถึงเลย หมูทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ผมปะวะ หรือเป็นผมเองที่เกิดอาการคลั่งยัยตัวเล็กมากมาย ทั้งที่เธอไม่ได้มีท่าทางอะไรให้เห็นว่าชอบผมมากเกินกว่านี้“เป็นแฟนงั้นเหรอ ถามหน่อยนายชอบฉันรึเปล่าหรือแค่อยากควงเล่นฆ่าเวลาเฉยๆ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาดบอกไว้ตรงนี้เลย” สวยด้วยฉลาดด้วยหมูของผม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคิดว่าคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
เสือสามตัวสุดท้ายท้ายสุดฉันก็ไม่ได้ไปเรียนจริงๆ แถมยังโดนหอบหิ้วมาที่ร้านแต่งรถครบเครื่องแสนหรูหราของผู้ชายที่ฉันกำลังศึกษาดูใจหมาดๆ ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ แต่ก็นั่นแหละประโยคนี้เหมือนฉันจะใช้เรียกอยู่ฝ่ายเดียวและชื่อร้านก็อื้อหือเลยตอนเห็นป้าย ใครเป็นคนคิดชื่อนี้กันเนี่ยมันไม่เหมือนร้านแต่งรถเลย ดิบๆ ทื่อๆ คล้ายร้านขายยาดอง ร้านหมูกระทะยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่มีไอเดียที่ดีกว่านี้แล้วหรือไง อืมถึงชื่อร้านมันจะแปลกแหวกแนวไม่สมกับกิจการไปสักหน่อยแต่ลูกค้านี่อย่างเยอะอ่ะ รถดีๆ ราคาแพงๆ มาจอดรอทำกันเพียบ“นี่หมูแดงเมียกู” ฉันถูกแนะนำอย่างนี้กับลูกน้องทุกคนของหมอนี่เมียฉันกลายเป็นเมียแทนแฟนหรืออะไรก็ตามที่ไอ้บ้าขุนมันสามารถพูดได้แต่ไม่เลือกที่จะพูดไง สรุปที่คุยๆ กันไว้ไม่เป็นไปตามนั้นเลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการถูกเนื้อต้องตัวโน่นนี่นั่นก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนักกว่าเก่าอีก“มึงได้น้องหมูแดงแล้วเหรอวะไอ้ขุนแม่เจ้าโว้ยไวไฟจริงเพื่อนกู” ไม่ใช่ใครพี่จิวนั่นเองที่แหกปากตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล สงสัยอยากบอกคนทั้งซอยมั้ง“เออกูจับหมูกลืนลงท้องแล้วเรียบร้อย ตอนนี้กูเลยขยับขั้นขึ้นมากลายเป็นผัวหม
เช้านี้ที่แสนจะไม่สดชื่นเลยของหมูแดง เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงห้องได้ก็ปาเข้าไปดึกโขละ แล้ววันนี้ก็ดันมีเรียนเช้าอีกไงแปดโมงครึ่งอยากหยุดนอนตีพุงให้เต็มอิ่มนะแต่เมื่อวานก็ดันหยุดไปโดยไม่ใช่เหตุสำคัญแล้วน่ะสิ ซึ่งความผิดนี้มันไม่ใช่ของฉันแต่ความผิดนี้มันคือของไอ้บ้าขุนคนเดียวเลย บอกให้พากลับก็เดี๋ยวอยู่นั่นแหละจนฉันตาจะปิดจริงๆ ถึงได้ยอมบอกลาทุกคน สภาพตอนนี้คืออยู่ในชุดนักศึกษาแต่หน้าสดทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นบางๆ ไม่ได้ลงเมคอัพเขียนแค่คิ้วมงกุฎของใบหน้าเพิ่มความสวยให้กับตัวเองเท่านั้น มาในลุคใสๆ มากกว่าทุกครั้ง ลืมตาเล็กๆ บ่งบอกถึงความเป็นอาหมวยน้อยเดินออกจากห้องมาได้นี่ก็นับว่าดีมากๆ แล้วล่ะ เดินอ้าปากหาวแล้วหาวอีกจนน้ำตาเล็ดเช็ดไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ นอนไม่พออ่ะมันเลยพาลให้หงุดหงิดย้อนกลับไปเมื่อคืนเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาติเฮฮาปาจิงโกะ ตามประสาวัยรุ่นแหกปากโหวกเหวกโวยวายราวกับที่นี่รวบรวมกลุ่มคนบ้ามาไว้ด้วยกัน ร้องเพลงเพราะบ้างเพี้ยนบ้างสลับกันไป ชนแก้วกันครื้นเครงประหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านเหล้า ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาสักประมาณหนึ่งชั่วโมงได้แล้วหลังจากที่นายพวกนี้ปิดร้า
กลับมายังปัจจุบันตอนนี้ฉันลากสังขารมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยการโบกแท็กซี่นั่งมาเพราะอาการนี้ไม่เหมาะแก่การขับขี่บนท้องถนนด้วยตัวเองเป็นอย่างมาก อันที่จริงคอนโดกับมหาลัยก็ไม่ได้ไกลจากกันเท่าไหร่หรอกอยู่ในละแวกเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าบ้านกับที่เรียนเนี่ยมันไกลกันไงเลยต้องมาอาศัยอยู่คอนโดแทนการไปกลับ เสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับไปนอนบ้านให้ป๊าม๊าหายคิดถึง ปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมาก็อยู่บ้านช่วยขายทองยาวเลยเพิ่งกลับมาเมื่อวันเปิดเทอมวันแรกนี่เอง“แหม! เหม่อนะคะหล่อน ทำไมมัวแต่คิดถึงพี่ขุนสุดหล่ออยู่รึไงจ๊ะนังหมวย หน้าสดมาด้วยเหรอเนี่ยว๊าว น่ารักแบบโคเรียมากค่ะวันนี้เพื่อนฉัน” มินนี่เอ่ยทักเสียงใสดั่งระฆังแก้วแสบหูทันทีเมื่อหย่อนก้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามนาง เรานัดเจอกันที่โรงอาหารเพื่อมาฝากท้องหาข้าวเช้าใส่ท้องก่อนจะขึ้นไปเรียน“ง่วงนอนต่างหากไม่ได้เหม่อย่ะแล้วก็ไม่ได้คิดถึงหมอนั่นด้วยอย่ามารู้ดีไปหน่อยเลย ส่วนเรื่องหน้าสดเนี่ยทำอย่างกับแกไม่เคยเห็นฉันเปลือยมันงั้นแหละชอบเว่อร์วังอลังการตลอด ไปหาซื้อข้าวกินเหอะหิวด้วยง่วงด้วยเนี่ย ว่าแต่ยัยพิ้งค์เถอะหายไปไหนล่ะมันมาถึงนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เราสา
Kunpon Talksผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเกียจคร้านเพราะเสียงริงโทนโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายไปเมื่อสักครู่ ไอ้จิวมันบอกให้เข้าไปมหาลัยเพื่อเข้าชมรมที่เราสามคนสุมหัวคิดกันขึ้นมาเองเพราะไม่อยากไปอยู่ภายใต้คำสั่งของใคร อาศัยเส้นใหญ่คับมหาลัยของมันคนอื่นๆ เลยไม่กล้ามีปัญหาหรือต่อกรด้วยเลยสักคนแม้แต่อาจารย์ ที่นี่มีมันกฎบังคับว่านักศึกษาชั้นปีที่สามต้องก่อตั้งชมรมของแต่ละคณะขึ้นมาทุกปีเพื่อให้น้องปีหนึ่งปีสองคณะอื่นมาแลกเปลี่ยนทำกิจกรรมร่วมกันโดยไม่อนุญาตให้เข้าชมรมคณะตัวเองยกเว้นปีสี่ไม่ต้องยุ่งใกล้จบแล้วเป็นไงดีไหมล่ะ หมูแดงเองก็ต้องมาอยู่ชมรมเดียวกับผมเท่านั้น นั่นคือสิทธิ์ขาดที่ผมเลือก เรื่องอะไรจะยอมปล่อยให้เลือกตามความสมัครใจของตัวเองไม่มีทางซะหรอกยิ่งดื้อบวกพยศอยู่ด้วย ชมรมที่ว่าก็ไม่ได้จะให้ทำอะไรมากหรอกสบายจะตายเผลอๆ แค่นั่งนอนหรือไม่ต้องเข้าเลยด้วยซ้ำใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานผมก็ขับรถตรงดิ่งมามหาวิทยาลัย ไม่ต้องวนหาที่จอดรถนานเหมือนคนอื่นเพราะเรามีที่จอดค่อนข้างส่วนตัวโทรหาหมู หมูก็ดันไม่ยอมรับสาย ไลน์ไปก็ไม่อ่านถ้าเจอตัวต้องจัดการหน่อยแล้ว โทรศัพท์มีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้ประดับกระเป๋าเฉยๆ ท
ห้องชมรมของพวกคณะบริหาร กว้างขวางมากรวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน อย่างว่าแหละน่าหนึ่งในสมาชิก ณ ที่นี้ซึ่งนั่นก็คือพี่จิวเป็นถึงลูกชายของเจ้าของมหาลัยเชียวนะมันจะธรรมดาได้ยังไง ฉันที่ไม่มีสิทธิ์เลือกและไม่ได้เลือกเองด้วยความสมัครใจมานั่งแหมะกับเพื่อนหลังจากที่โดนนายขุนลากมาได้พักใหญ่แล้ว คนที่รู้จักในนี้มีแค่พี่จิว พี่เคนเท่านั้น ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ไม่รู้จักใครเลยสักคน ถูกมองไหมมันแน่นอนอยู่แล้วเพราะเราสามคนไม่ใช่เด็กในสังกัดของคณะนี้แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรออกมาเลยนะ คงเป็นเพราะว่าฉันรู้จักสามหนุ่มนี่ด้วยเลยไม่มีใครกล้ายุ่งกล้าซัก วันนี้เขาให้เลือกก่อนคนที่ต้องการเข้ามาอยู่เลยยังไม่มีสิทธิ์ก้าวขาเข้ามาในนี้ยกเว้นฉัน มินนี่และพิ้งค์ที่ได้สิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ที่มีคนพาตัวมานั่งตากแอร์เย็นๆ ถึงที่“ชมรมนี้มันชื่อชมรมอะไรอ่ะยังไม่รู้เลยหรือว่ามันไม่มีชื่อนอกเหนือจากนี้ ใช้ว่าชมรมคณะบริหารงี้เลยเหรอหมูแดง” ยัยมินนี่สะกิดถาม ฉันส่ายหน้าเพราะไม่รู้เหมือนกันว่ามันอะไรยังไง โดนพามาอย่างงงๆ ตอนระหว่างทางที่เดินมาก็ไม่ได้ถามนายขุนด้วย หมอนี่ก็นะแทนที่จะบอกกันล่วงหน้าไม่มีหรอก
ผมเงยหน้าจากซอกคอขาวที่ฝากฝังเขี้ยวไว้หลายจุด ประสานนัยน์ตาเอาเรื่องของเมียหมู พลางยักคิ้วกวนอารมณ์ขุ่นมัวของคนกำลังอินซีรีส์แต่ดันค้าง เพราะผมชิงปิดก่อน งับจมูก จูบมุมปาก ก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดก่ายหมอนข้างมีชีวิต ซุกหน้าเข้าหานมหนองโพคู่โตที่ประจำของผม วันไหนไม่ได้แตะต้องจะทำให้ผมงุ่นง่าน ของผู้หญิงคนอื่นผมเฉยๆ แต่กับของเมียมันทำให้ผมตื่นตัวได้ตลอดเวลา ขนาดว่าเห็นจนชิน กินทุกวันก็เถอะ“เอาไว้ค่อยดูวันหลัง เวลานี้ควรเป็นของขุน ไม่ใช่ซีรีส์”“ก็อยากดูตอนนี้ให้จบ ทำไมต้องปิดก่อนด้วย แล้วตัวเนี่ยมีแต่ กลิ่นบุหรี่ทั้งนั้น รีบไปอาบน้ำ ล้างกลิ่นออกเดี๋ยวนี้เลยนะ ก็รู้ว่าไม่ชอบ ยังจะแกล้งมานอนทับอีก ไล่ออกไปนอนนอกห้องดีไหมเนี่ย” เมียคนสวยได้ทีแล้วบ่นผัวใหญ่ แต่เท่าที่ผมลองพิสูจน์กลิ่นก่อนเข้ามามันก็ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นะ ถ้าไม่ถอดเสื้อออกนี่สิ คงเป็นเรื่องมากกว่านี้ เพราะมันซึมซับมาเต็มๆ“ไม่เอา พี่ขุนไม่นอนนอกห้อง จะนอนกอดเมีย ขอห้านาทีนะครับแล้วเดี๋ยวพี่ขุนจะไปอาบน้ำตามคำบัญชาของคุณนายหมูแดง” ผมต่อรองเสียงอ่อน ใช้ลูกอ้อนนิดหน่อย พร้อมส่ายหน้าไปมากับอกนุ่มๆ ของเมียหมูที่นอนตะแคงข้างโอบกอดผมเอ
12:15 A.M....@ Marina ClubKunponTalksควันบุหรี่ลอยคละคลุ้ง ตลบอบอวลอยู่ในอากาศมันทำให้ผมหงุดหงิดมาก ความรู้กเหมือนตัวเองกำลังจะถูกรมควัน หรือย่างสดเลย เข้าใจหัวอกคนอยู่ท่ามกลางไอ้พวกสิงห์อมควันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ่องแท้ก็ตอนเลิกสูบนี่แหละ ยอมรับว่าแต่ก่อนผมก็มีนิสัยไม่ต่างจากพวกมันนักหรอก แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วไง ไม่น่าเชื่อว่าผมจะเลิก มันได้เด็ดขาด ไม่ลงแดงเหมือนใครหลายๆ คนที่ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษา ถือว่ามันเป็นความโชคดีของผมด้วยแหละ และแรงบันดาลใจ ของผมก็คือหมูแดง พอรู้ว่าแม่คุณทูนหัวไม่ชอบกลิ่นเหม็นๆ ของมัน ผมก็พยายามไม่แตะต้องมันอีก กลายเป็นความเคยชินมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าหมูจะไม่ได้ห้ามเด็ดขาดแต่ผมก็รู้ตัวเองดี เมื่อก่อนนอกจากคนในครอบครัว เพื่อนรักเวรๆ อย่างไอ้เคน ไอ้จิว ผมก็ไม่แคร์ หรือสนใจใคร กระทั่งมีหมูแดงเข้ามาในชีวิต มีอิทธิพลกับผมมากกว่าแม่เสียอีกมั้ง ผู้หญิงสองคนนี้ที่ผมรักไม่น้อยไปกว่ากันนี่เวลาอยู่ด้วยกันทีไร เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไอ้ขุนเลยกลายเป็นหมาเฮ้อ...ห่างกันยังไม่ถึงสองชั่วโมงผมก็คิดถึงแล้ว ในหัวผมมัน ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้คิดมากมายนักหรอก
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะขุน มีความสุขในทุกวัน สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อยู่กันไปแบบนี้เรื่อยไปจนเราแก่เฒ่าเลยนะ หมูแดงรักขุน รักนะคะ” พออวยพรจบปุ๊บฉันก็ประคองข้างแก้มแล้วจุ๊บที่ริมฝีปากหยัก แสงไฟสีนวลที่เปิดเอาไว้ส่องกระทบใบหน้าขุนทำให้ฉันเห็นว่าเขาตาแดงๆ ฉันว่าฉันก็พูดธรรมดานะ แต่ออกมาจากหัวใจล้วนๆ “โอ๋ มามะ” ฉันหอมแก้มแล้วดันท้ายทอยหนาให้ทิ้งหน้าลงกับไหล่ฉัน เกลือกกลั้วใหญ่เลย เอ็นดู“รักหมู รักหมู” เด็กชายขุนพลหอมซอกคอฉันแล้วไซร้ใหญ่เลย สงสัยจะมันเขี้ยว แต่ฉันเนี่ยจั๊กจี้ แต่เอาเถอะ ฉันจะยอมทนให้ก็ได้ เห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิด“อยากได้ของขวัญเลยไหม” มาปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้วฉันว่าฉันควรทำอะไรให้มันครบครันไปเลย ไหนๆ ฉันก็มีของขวัญเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วขุนพยักหน้าแต่พอฉันจะดันตัวออกห่างเพื่อไปหยิบสิ่งที่คิดไว้ว่าจะให้ตอนเย็นวันนี้พร้อมคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมปล่อย “ไม่ให้ขยับแล้วจะไปหยิบของขวัญมาให้ได้ยังไง”“อย่าช้านะ อยากกอด”ฉันย่นจมูกใส่แล้วรีบรุดลงจากเตียงเมื่อเจ้าของอ้อมกอดยอมให้อิสระแก่ฉัน และเดินหายเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อหยิบกล่องของขวัญขนาดใหญ่ออกมา“ไม่รู้ว่าจะถูกใจรึเป
ฉันโอ๋เด็กโข่งอยู่นานกว่าขุนจะยอมกลับบ้านไปอย่างจำยอม แก้มก็แทบจะช้ำ เพราะจมูกกับปากขยันเอามาชน เหตุผลนอกเหนือจากที่บอกขุนไปแล้ว แน่นอนว่าฉันย่อมมีเหตุผลอื่นอีก เพียงแต่ฉันไม่ได้พูดออกมาก็เท่านั้น“คุณนายหมูเจ้าขา เลิกอมยิ้มกับตัวเองแล้วช่วยกรุณาสนใจเพื่อนๆ ด้วยค่ะ พี่ขุนของแกเขากลับไปพักใหญ่แล้วค่ะ” พิ้งค์โบกมือฉวัดเฉวียนไปมาตรงหน้าฉันย่นจมูกใส่แล้วปัดความคิดที่เกี่ยวข้องกับขุนออกไปชั่วคราว เดี๋ยวเพื่อนจะกัดแกมหยอกอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เช้าและทุกครั้งที่ฉันชื่นชมทรงผมตัวเองแบบเงียบๆ“เลิกเรียนไปหาของขวัญให้พี่ขุนดีไหม หมูแดงคงไม่ต้องถามเพราะคิดว่ามีเตรียมเอาไว้สุดที่รักแล้วเรียบร้อย” มินนี่ถามพิ้งค์แล้วก็หันมามองฉันด้วยกันทั้งคู่“สายตาไม่ค่อยอยากจะรู้กันเลยเนอะ” ฉันประชด“เออน่า บอกมาเหอะหมวย ฉันสองคนไม่คิดปริปากหรือแอบแย้มบอกสามีแกหรอก ประเด็นคือจะได้ไม่ซื้อซ้ำกันไง น่านะ” วิธีการหลอกถามของพิ้งค์ที่มองผิวเผินคือไม่มีอะไร แต่แท้จริงคือการหลอกถามดีๆ นี่เอง01.05 น.หลังจากฉันส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดขุนตอนเที่ยงคืนพอดิบพอดีเป็นที่เรียบร้อยก็ล้มตัวลงนอน แต่ข่มตาเท่าไหร่ก็ยัง
กระจกขนาดเหมาะมือลวดลายสวยงามคู่กายที่มีติดไว้ในกระเป๋าถูกฉันหยิบมาใช้งานแทบตลอดเวลา ในระหว่างเรียน กินข้าวกินขนม หรือคุยเล่น คือไม่ได้มองเบ้าหน้าแต่ฉันชื่นชมผมเปียคล้ายทรงเจ้าหญิงเอลซ่าของฉันต่างหาก ก็แหม... ขุนถักให้ฉันเองกับมือเชียวนะ จะไม่ภูมิใจได้ยังไงกัน เขาบอกว่าแอบฝึกหัดกับเส้นผมของวิกที่สั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตเพื่องานนี้เลย โดยเปิดยูทูปแล้วทำตามคนสอน กว่าจะทำได้ก็หัวเสียแล้วหัวเสียอีกจนอยากจะปาทิ้งอยู่หลายรอบ ใช้เวลาเมื่อตอนไม่มีฉันไปที่ร้านด้วย ซึ่งมันแทบจะไม่มีวันนั้นเลย พอฉันไม่ไปก็โวยวาย ลากไปด้วยจนได้ เพื่อนก็ไม่ให้ใครมารู้เห็นด้วย เพราะกลัวเอามาป่าวประกาศจนฉันล่วงรู้ก่อนที่เขาจะทำในสิ่งที่ยากเกินไปสำหรับผู้ชายเป็น อย่าว่าแต่ยากสำหรับสุภาพบุรุษทั้งหลายเลย กับผู้หญิงเองก็ยากเหมือนกันนั่นแหละ เห็นว่าเรื่องนี้เงียบๆ ไปนับตั้งแต่ครั้งนั้น ฉันคิดว่าล้มเลิกความตั้งใจหรืออาจลืมไปแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้คาดหวังด้วย และมันก็ไม่ใช่ความลับระดับชาติที่ต้องปิดบัง แต่เขาต้องการเซอร์ไพรส์ฉัน เรื่องเล็กน้อยที่เขาเก็บใส่ใจทำให้ฉันมีความสุขและฉันก็ใกล้เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีเมื่อหุบยิ้มได้ยาก
กว่าผมจะพาหมูออกจากห้องอีกครั้งก็เป็นเวลาอาหารค่ำเลย สีหน้าสาวๆ ของเพื่อนหมูก็ดูอิดโรยไปตามๆ กัน คนบนตักผมก็เช่นเดียวกัน ซบหน้ากับซอกคอผมเป็นลูกแมวสิ้นฤทธิ์เลย ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟผมก็แทะเมียเล่นไปก่อน บอกแล้วว่าอย่าดื้อกับพี่ขุนให้มากนักถ้าไม่อยากหมดแรง ก่อนพากันออกมาที่นี่ผมถามแล้วว่าอยากกินที่ห้องแทนไหม หมูรีบส่ายหน้าพร้อมพูดเสียงแข็งใส่หน้าว่าไม่เอา มาทั้งทีจะให้อยู่แต่ในห้องน่าเบื่อตายชัก กิจกรรมก็มีให้ทำให้ดูเพียบแต่เพราะคนแถวนี้ซึ่งก็คือผมทำให้เธอมีสภาพไม่ต่างกจากผักสักเท่าไหร่ ดูเมียผมเปรียบเทียบตัวเอง“ทำไมชอบทำให้หมูแดงคอยหมดแรงอยู่เรื่อยเลยนะ คนนิสัยไม่ดีมาเที่ยวน่าจะเว้นว่างจากความหื่นลงบ้าง ไม่ใช่เพิ่มเลเวลขึ้นแบบนี้”เสียงอู้อี้ต่อว่าผมเบาๆ คล้ายคนจะหลับ ผมชอบนะที่จะเป็นเก้าอี้หรือเตียงนอนให้เมียได้พักร่างกาย สิ่งที่หมูต้องการนั้นทำได้โคตรยากเลยแต่ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายกับเมียนักหรอก เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยก็ต่อ ธรรมดาจะตายไป“ก็ชอบดื้อไง และเรื่องแบบนี้มันว่างเว้นได้ยากมากหมูก็รู้นี่นายิ่งมาต่างสถานที่ ในบรรยากาศดีๆ ด้วย ใครจะไปอดใจไหวจริงไหม” ผมแนบริมฝีปากกับข้างแก้มนุ่ม
“เห็น ?” ผมคว้าเอวคอดกิ่วไซส์เอสแล้วดึงเข้ามาหาตัวจนใบหน้าเราห่างกันเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นจมูกก็จะแตะกัน สัมผัสได้ถึงลมหายใจอบอุ่น และหอมสะอาดของกันและกัน ผมยกมือลูบแผ่นหลังบางอย่างปลุกปลอบอารมณ์ที่ไม่คงที่ให้เย็นลงกว่านี้ หน้าเชิดๆ ของหมูยิ่งเชิดไปกันใหญ่เมื่อผมถามออกไปคล้ายไม่พอใจ ในการกระทำของเธอซึ่งเอาจริงๆ ก็คือไม่พอใจนั่นแหละ “เห็นขุนแล้วทำไมถึงไม่ยอมเรียกล่ะหมูเห็นแล้วทำเหมือนไม่เห็นทำไม ?”“...”เงียบ... หมูไม่ตอบโต้อะไรออกมา ได้แต่ทำหน้ายุ่งๆ คิ้วขมวด และปากยื่น ในหัวน้อยๆ กำลังคิดอะไรอยู่ผมว่าผมเดาออก และสิ่งที่หมูแดงทำนั้นมันคือ ‘การประชด’ ดีๆ นี่เอง ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะอยู่เฉย ปากอาจจะปฏิเสธว่ามันไม่เป็นความจริงหากผมพูดจี้ใจคนปากแข็งออกมา เชื่อเถอะว่าไม่มีใครรู้ใจและความคิดของหมูน้อยๆ คนนี้ดีไปมากกว่าผมหรอก“ขุนไม่อยากให้เราต้องมาโกรธกันเองนะ เพราะมันจะทำให้เราทั้งสองคนต่างไม่มีความสุข และอยากจะบอกว่าสิ่งที่เห็นมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดนะหมูจ๋า คนพวกนั้นก็เล่นน้ำในส่วนของเขาไป ขุนไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่ได้แก้ตัวเพื่อให้ตัวเองพ้นความผิดที่มีสาวๆ มาอยู่ใกล้ๆ แต่มันคือเ
Kunpon Talksร่างกายเวลาโดนน้ำเย็นๆ แล้วรู้สึกโคตรสดชื่นเลย บรรยากาศมันก็ดีมากด้วยเลยเพลินไปกันใหญ่ เกือบครึ่งชั่วโมงได้แล้วที่ผมว่ายน้ำอยู่ในนี้กับเพื่อนและน้องๆ พวกมันลากผมไปทำกิจกรรมมาสารพัดอีกสักพักผมจะขอตัวกลับไปดูเมียหมูที่ผมทิ้งไว้ให้มินนี่กับพิ้งค์ช่วยดูแลคนขี้เซาแทน ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะตื่นหรือยัง จะงอแงไหมถ้าไม่เห็นผมนอนอยู่ด้วย“คิดถึงเมียหมูว่ะ” ผมเปรยกับตัวเองเบาๆ ว่ายอีกสักรอบกลับห้องเลยดีกว่า อยู่ไปก็ชักจะน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆแล้ว“พี่ขุนครับ พี่ขุน”“เรียกทำไม มีอะไรมึงก็พูดออกมาเลยสิวะ” ผมหันไปถามรุ่นน้องที่มันลอยคออยู่ใกล้ๆ หยดน้ำที่เกาะอยู่ตามใบหน้าทำให้ผมต้องคอยสะบัดและเสยผมอยู่ตลอด ไม่ได้ต้องการจะทำเท่ห์โชว์สาวที่รายล้อมอยู่รอบตัวเลยสาบานได้“พี่หันไปดูเองดีกว่า” มันชี้นิ้วไปอีกด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำ ซึ่งมันทั้งใหญ่ทั้งกว้าง ผมก็มองตามไปด้วยความสงสัยว่ามันจะให้ดูอะไรถ้าเป็นผู้หญิงอยู่ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยจะตบหัวให้พุ่งเลย เต็มสระไปหมดจะตื่นเต้นทำไม“กูยังไม่เห็นอะไรเลยตี๋ มึงจะให้กูดูอะไรกันแน่วะ บอกมาให้เคลียร์ๆ” ผมหันไปถามมันอีกครั้ง ชี้นิ้วส่งเดชไปมั่วๆ แบบนั้นใครมั
ฉันสะลึมสะลือลุกขึ้นมานั่งขยี้หูขยี้ตาเมื่ออยู่ๆ ก็สะดุ้ง อ่า นี่ฉันนอนหลับไปนานเท่าไหร่นะ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว ยังบนเครื่องบินใช่ไหม แต่เอ๊ะ! เครื่องบินที่นั่งมามันไม่มีเตียงนอนแบบที่ฉันกำลังนั่งนี่นา ขุนก็ไม่อยู่ด้วย เขาหายไปไหน แล้วนี่ฉันถูกพามาที่ไหน ? ถูกจับตัวมาขายหรือเรียกค่าไถ่รึเปล่า“ไม่นะ! ม่ายยย”“หมวย / หมูแดง”“พิ้งค์! มินนี่!” ฉันตะโกนอย่างยินดีเมื่อเห็นเพื่อนรักทั้งสองคนเดินเร็วเข้ามาหา พลางคว้ามือของยัยสองคนนี้มาจับเอาไว้แล้วเขย่าแรงๆ พร้อมกัน คือดีใจอ่ะเจอเพื่อน“แกแหกปากร้องโวยวายขึ้นมาทำไมหมวย เป็นอะไรรึเปล่า อาการแกดูไม่ค่อยปกตินะฉันว่า” พิ้งค์ถามฉันอย่างเป็นห่วงแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ สีหน้าดูเป็นกังวลจนเกินเหตุ คือว่าฉันไม่ได้เป็นบ้านะเหยพวกแก ยังปกติดี“นั่นสิ ไม่...ม่ายอะไร ฝันร้ายหรือว่ายังไง เล่ามาๆ” มินนี่นั่งลงบ้าง สายตาสองคู่จ้องฉันอย่างกดดัน เพื่อนมีท่าทางมึนงงกันแบบนี้ฉันคงไม่ได้ถูกจับตัวมาขายหรือเรียกค่าไถ่“ก่อนอื่นฉันต้องขอถามว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ที่ไหนกัน และขุนหายตัวไปไหน” ฉันขมวดคิ้วมุ่น คำถามแรกก็สงสัย คำถามสองนี่หนักกว่า ปล่อยให้ฉันอยู่โดดเดี