ระหว่างทางกลับที่นั่งเดิม นางกลับถูกใครบางคนลากเข้ามุมลับตาคน ครั้นจะกรีดร้องก็ถูกอีกฝ่ายปิดปากเอาไว้ จึงได้แต่ดีดดิ้นเพื่อให้ตนเองหลุดออกมาให้ได้“คุยกันก่อนสิ” หลังจากเห็นว่าอีกฝ่ายลุกจากที่นั่ง เขาจึงได้เดินตามมาติด ๆ เมื่อเห็นว่าปลอดคนแล้วฉีเยี่ยนจึงไม่รั้งรอ ดึงหนี่เซียนเข้าหลบข้างกำแพงทันที“นี่ปล่อยข้านะ” หญิงสาวสะบัดมือฉีเยี่ยนออกรู้สึกรังเกียจบุรุษผู้นี้สิ้นดี ตนหรืออุตส่าห์ส่งเสริมให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันเร็วขึ้น แล้วไยยังมาวอแวกันอยู่ได้“หนี่เซียนฟังข้าก่อนสิ เรื่องข้ากับพี่สาวเจ้ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เซี่ยอวิ๋นต้องการใส่ร้ายข้าทำให้เจ้าเข้าใจผิด อย่าได้หลงกลคนผู้นั้นเด็ดขาด” เมื่อไม่กี่วันก่อนอู๋ทงทำงานพลาดจนเกือบถูกเซี่ยอวิ๋นจับได้ แค่ให้ไปขโมยตัวอย่างสินค้าใหม่ เรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ก็ยังพลาด บัดนี้เจ้าตัวคงจะระวังตัวแล้วจึงยากจะส่งคนเข้าไปปะปน กลายเป็นว่าเขาต้องมาลดตัวง้อสตรีโง่ผู้นี้จนได้“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ ถ้าหากเข้าใจผิดจริงเหตุใดท่านไม่ปฏิเสธไปเล่า”“เอ่อ เรื่องนั้นข้าขัดรับสั่งเสด็จพ่อไม่ได้ เห็นใจข้าเถอะนะ”“ช่วยท่านแล้วข้าจะได้อะไร ในเมื่อท่านก็แต่งพี่สาวข้าเข้า
นับตั้งแต่แต่งเข้าวังอ๋องเสวียนหลันไม่เคยมีความสุขเลยสักวัน ท่านชายมิเคยมาหานางสักครั้ง ในวังอ๋องแห่งนี้เต็มไปด้วยสตรีของท่านชายหลายสิบนาง คนหนึ่งออกไปคนใหม่ก็เข้ามาแทนที่ไม่มีหยุดหย่อน ลำพังแค่ให้ทันเล่ห์เหลี่ยมเหล่าอนุภรรยาคนอื่นก็แทบจะเอาตัวไม่รอด จึงไม่รู้เลยว่าเวลานี้บุคคลที่นางเกลียดและชิงชังมากที่สุด กลับได้รับในสิ่งที่นางอยากจะเป็นซ้ำร้ายไปกว่านั้นนางไม่มีบ้านให้กลับอีกต่อไป กลับไปอยู่กับมารดาที่บ้านเดิมก็ยิ่งน่าอับอาย ทรัพย์สมบัติก็มาถูกริบคืนหมด ให้อยู่อย่างคนไม่มีจะกินมันเกินกว่าจะทนอยู่ได้ จึงได้แต่ต่อสู้กับเหล่าสตรีทั้งหลายภายในวังอ๋องแห่งนี้ เพื่อความอยู่รอดดีกว่าไปอดตายข้างนอก โดยที่ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่อยู่ที่นี่อย่างน้อยก็มีที่ให้ซุกหัวนอนมีคนคอยรับใช้ไม่ต้องทำงานเองด้านตระกูลเสวียนหลังจากส่งเสวียนหลันไปเป็นภรรยารองได้ไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทหารหลวงบุกเข้าจับกุมตัวเข้ารับโทษหนัก เสวียนเยว่ยักยอกทรัพย์จากคลังหลวงนำไปขายให้กลุ่มคนใต้ดิน ทรัพย์สิน ตำแหน่ง จวนตระกูลเสวียนถูกริบคืนคลังหลวงทั้งหมด เสวียนเยว่จึงต้องไปใช้ชีวิตบั้นปลายวัยห้าสิบใ
“ได้ขอรับนายท่าน ข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยขอรับ” เถ้าแก่มีหรือจะชักช้ารีบตอบรับเป็นการด่วน นานครั้งจะได้เจอลูกค้าที่ไม่ต่อราคา แถมยังเหมาของทั้งหมดในร้านอย่างไม่เสียดายเงินเช่นนี้ สวรรค์มาโปรดโดยแท้“เอ่อ... เถ้าแก่” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบ เถ้าแก่ร้านร่างท้วมเดินลิ่วออกจากห้องไปไม่เหลียวหลังสักนิด นางได้แต่ยืนมองสองพ่อลูกช่างสนุกกันเหลือเกินดูอย่างไรเซี่ยหมิงก็เป็นลูกพ่อชัด ๆ เหมือนกันแม้กระทั่งหน้าตาและนิสัย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันกลับทำให้นางรู้สึกภูมิใจมากกว่า เพราะว่าเท่ากับว่านางมีเซี่ยอวิ๋นตั้งสองคนขณะเดียวกันนั้นอู๋ทงสาวใช้ผู้เข้ามาแฝงตัวในจวนตระกูลเซี่ย นางกำลังสะพายห่อผ้าไว้บนไหล่พร้อมกับจูงมือเด็กชายคนหนึ่งเดินทางออกนอกเมืองอย่างเร่งรีบ“พี่ใหญ่เราจะไปไหนหรือขอรับ” เด็กชายตัวน้อยแหงนหน้ามองพี่สาวจนคอตั้ง พวกเขาต้องเดินทางกันอีกแล้วหรือ ทั้งที่เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองหลวงแค่สามปี ชีวิตกำลังไปด้วยดีแท้ ๆ ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อเหมือนแต่ก่อน แต่กลับต้องย้ายที่อยู่ใหม่อีกแล้ว“เราจะย้ายไปอยู่ต้าเหลียง ที่นั่นจะเป็นที่สุดท้ายของเรา” นางกับน้องชายรอนแรมมาเมืองหลวงเพื่อหางานทำ เพื่อให้ม
สิ่งที่เสวียนหลันได้รับต่างกันราวฟ้ากับเหว เกี้ยวเจ้าสาวถูกพาเข้าไปทางลัดเข้าประตูหลังตำหนักอ๋อง หลังจากนั้นมัวมัวได้พานางไปรอในห้องหอภายในเรือนเล็กหลังหนึ่ง และอยู่ห่างเรือนท่านชายมากกว่าเรือนภรรยาทุกคน ทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของฉีอ๋องที่ไม่พอใจสตรีผู้นี้ จึงไม่อยากให้อยู่ใกล้หูใกล้ตา เห็นแล้วพานทำให้ขุ่นเคืองเสวียนหลันได้แต่ทนกล้ำกลืนฝืนไม่ให้น้ำตาไหล นางมองผ่านผ้าปิดหน้าเจ้าสาวผืนบาง นี่น่ะหรือเรือนที่ตนต้องอยู่ไปตลอดชีวิต ไม่ต่างอะไรเลยกับเรือนคนใช้ ข้าวของเครื่องใช้ล้วนเป็นของธรรมดาทั่วไปเหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่ทำให้เสวียนหลันสมเพชตนเองมากที่สุด คืนเข้าหอของนางและท่านชายที่ควรจะหวานชื่น กลับกลายเป็นนางที่ต้องนั่งรอจนถึงรุ่งเช้าแต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของเจ้าบ่าวณ ร้านขายผ้าและชุดสำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง “ลูกว่าสีม่วงเหมาะกับท่านแม่ที่สุดขอรับ” เด็กน้อยซึ่งกำลังเลียนแบบท่าทางของบิดา มือเล็กนั้นลูบคางตนเองวางท่ารับกับบัณฑิตกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก“เช่นนั้นเครื่องประดับเอาชุดนี้ถึงจะเข้ากับชุด”“ท่านพ่อรองเท้าคู่นี้ดีหรือไม่”“อืม ไม่เลวเจ้าเลือกได้ดี”สองพ่อลูกเข้าขากันได้ดีห
หลังจากเสนาบดีเสวียนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุตรสาวกับท่านชาย มีหรือเขาจะยอมปล่อยผ่าน คิดฉวยโอกาสกอบโกยประโยชน์จากเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด ในเมื่อทั้งสองได้เสียเป็นผัวเมียกันไปแล้วจะปล่อยผ่านได้อย่างไร จะมาแอบกินกันเช่นนี้มันได้หรือ ท่านชายจะต้องรับเสวียนหลันเป็นภรรยาเอกเท่านั้นเสวียนเยว่รีบขอเข้าพบท่านอ๋องเป็นการด่วน เมื่อฉีอ๋องทราบเรื่องราวก็มิได้ปล่อยละเลย ความจริงแล้วพระองค์พอจะได้ยินเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าฉีเยี่ยนจะจัดการให้เรียบร้อยไม่ได้ ปล่อยให้ถึงมือพระองค์ต้องเป็นคนจัดการเสียเองถึงจะไม่ชอบหน้าเสนาบดีผู้นี้สักเท่าไร พระองค์เป็นคนในราชวงศ์จะให้เกิดเรื่องงามหน้าก็มิได้ ฉีอ๋องจึงมีรับสั่งให้ฉีเยี่ยนรับผิดชอบ เจ้าตัวไม่สามารถปฏิเสธได้จึงยอมรับเสวียนหลันเข้าจวนแต่โดยดีทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปตามเสนาบดีเสวียนคิดไว้ หากบุตรสาวคนโตได้แต่งกับท่านชายทุกอย่างก็จะดีกับตนทุกทาง ทว่ากลับไม่เป็นอย่างที่คิดเสียทีเดียว เสวียนหลันไม่ได้แต่งในฐานะฮูหยินเอก นางได้เข้าตำหนักอ๋องในฐานะฮูหยินสามพระองค์ให้ได้มากสุดได้เท่านี้ ทว่าเสนาบดีเฒ่ากลับไม่สำนึกโวยวายเรียกร้องมากเกินไป แม้แต่บ่าวไ
“พ่อขอพูดตามตรง บัดนี้ตระกูลเสวียนเรากำลังย่ำแย่ มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยครอบครัวของเราได้” เสนาเฒ่าตีหน้าเศร้าหวังใช้ความน่าสงสาร ทำให้นางใจอ่อนยอมช่วยเหลือ“เข้าเรื่องเลยดีกว่าเจ้าค่ะ” หญิงสาวนั่งตัวตรงรู้สึกเบื่อและรำคาญเป็นที่สุด จนแล้วจนรอดก็ไม่พ้นหวังแต่จะพึ่งพาแต่ผู้อื่น“คือครอบครัวเราเป็นหนี้เถ้าแก่หวงห้าแสนตำลึง ถ้าไม่คืนภายในเดือนนี้จะต้องส่งพี่เจ้าให้ไปเป็นเมียเถ้าแก่ ถือว่าช่วยพ่อเถอะนะ อนาคตของเสวียนหลันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” ตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือก ต้องหาเงินจำนวนมากเพื่อช่วยให้เสวียนไป๋รอดจากคดี ทว่าไม่รู้คนใหญ่คนโตที่ไหนยื่นมือเข้ามาสอด เงินที่ตนเสียไปกลับสูญเปล่า ทั้งบุตรชายยังต้องโทษหนักถูกเนรเทศไปที่ห่างไกลห้ามกลับเข้าเมืองหลวงตลอดชีวิต“อะไรนะเจ้าคะ นี่ท่านเอาข้าไปขายให้เถ้าแก่หวงบ้ากามนั่นน่ะหรือ ท่านเสียสติไปแล้วหรือ” นางเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าบิดาเอาตนไปขาย เหตุใดจะต้องเป็นนางที่ต้องเสียสละด้วยเล่า ทำไมไม่ใช่นังหนี่เซียนมันต่างหากที่สมควรถูกขาย“ก็ข้าไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้เจ้าไม่รู้จักประหยัดใช้เงินฟุ่มเฟือย ให้คัดเลือกสนมก็ดันทำเสียเรื่อง เคยรู้หรือไม่ว่าบ้