หนังเรื่องเมือง มีอยู่ 1 เมือง เขาเล่ากันว่า มื้อนี้เป็นเมืองที่ทำอาหารกินเจริญรุ่งเรืองที่สุด เป็นเมืองที่เจ้าชาย สีน้ำเงินอยู่ ชายนี้ได้โดนต้องคำสาป เกี่ยวกับความรัก ดังนั้น เขาโดนสาปให้กลายเป็น คนจนยากไร้ เขาจึงคิดว่า การโดนดูถูกเหยียดอย่างนั้น ซึ่งมันเป็น ความรู้สึกที่แย่ สำหรับตัวเขา เท่านั้นจึงได้ หาค้นหาคิดวิธีโดยการไปทำบุญร่วมมนุษย์และกลบเกลื่อนกินหลายของตัวเองโดยที่ไม่ให้ประชาชนหรือชาวบ้านรู้ว่าเขาเป็นผู้ใดตามนั้นเขาจึงคิดว่าการไปอยู่บนโลกมนุษย์นั้นจึงทำให้เขารู้สึกว่า เขาคงยังพอมีความหวังที่จะหารักแท้หรือคู่แท้ เขาคิดว่า การปลอมตัวเป็นชาวบ้าน ธรรมดา 1 คน ซึ่ง ไปรับราชการโดยการ ไปสอบสงวน เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นเขาจึงไปสอบสงวนสิทธิ์อย่างที่ดังกล่าวแล้วเขานั้นจึงได้เข้าพระราชวังในแคว้นเมืองญี่ปุ่น เขานั้นได้ไป เข้าเฝ้าฮ่องเต้หรือองค์จักรพรรดิ ของไทยแขวนที่ชน เท่านั้รงทราบว่า ถ้าเขา ขอให้น้องเต้ ลงมีราชโองการกตลาดในอำเภอในเมืองแขวงยี่ชุน หลัง๑ถ ดังนั้นเขาจึงให้ประการพร ในการสอบสงวนสิทธิ์ ดังนั้น ติด
ดูเพิ่มเติมณแขวงเมืองลู่
รูยี่เป็นเมืองที่สวยงามลูกยี่เป็นเมืองที่ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วย สายน้ำและลำธาร เมืองลู่ยี่ เป็นเมืองที่ชาวปีศาจนก ฉันได้มี ประมุข คอยดูแลในทั่วใต้หล้า หรือจ เรียกอีกอย่างนึงก็คือ ราชานกปีกสีน้ำเงิน เขาเป็นองค์ราชัน ที่หน้าตางดงาม แต่ เป็นคนที่ มีจิตใจดี ของอ้อมอารีต่อประชาชนของ แขวงเมือง ลู่ยี่เป็นอย่างมากเขาเป็นองค์ราชัน ที่ปกครองนับคนหมื่นแสน ดังนั้น จึงไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นผู้ ต้องคำสาป ของการ ต้องคำสาปเนื้อคู่ จึงทำให้เขานั้นมีหน้าตาที่น่าเกลียดและอัปลักษณ์ โดยทำให้ใครหลายคนรู้สึกเกรงกลัวเพราะหน้าตาขององค์ราชัน ราชันนั้นไม่เคยเผยโฉมหน้าให้เห็นพระองค์ราชันนั้น ไม่อยากเปิดเผยหน้าตาของตัวเองแต่สำหรับความเป็นจริงองค์ราชันนั้นมีหน้าตาที่ งดงาม เช่นลาวกับเทพบุตร แต่ตัวเขานั้นโดนคำสาป และมนต์ดำ ที่ติดตัวมาแต่เกิดดังนั้นเขาจึง อยากจะหาวิธี ที่จะลบล้างคำศัพท์ของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงได้ทราบจากทางพ่อแม่ของเขาก่อนเพราะแม่ของเขาจะจากโลกนี้ไปว่าเขาต้องตามหาคู่รักแท้ให้เจอถ้าไม่เช่นนั้นตัวเขาก็จะลบล้างคำสาปนี้ต่อไปไม่ได้ตลอดชีวิตเขาก็จะอยู่ในร่างปีศาจหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเช่นนี้ไปตลอดชีวิตดังนั้นเขาจึง อยากจะหา รักแท้หรือคู่แท้เป็นคู่ชีวิตของเขา หรือ เป็นพระมเหสีของเขานั่นเอง ดังนั้นเขาจึง ไปยังเมืองแคว้นมนุษย์ซึ่งอยู่ห่างไกล จากเมืองลู่ยี่เมืองลูกหยีนั้นเป็นทางที่ปกคลุมไปด้วยเหล่าอาคมต่างๆซึ่งป้องกันไม่ให้ชาวมนุษย์ลูกหลานดังนั้นเขาจึงปกป้องโดยการใช้ วางอาคมและอาวุธต่างๆ ไว้รอบเมือง จึงทำให้ไม่มีผู้ใด เข้ามาเพ่งพายหรือมนุษย์ผู้ใดเข้ามาเพ่งพายอยู่ในเมืองอาณาจักร ของเมืองแค้น ลู่ยี่ได้ ดังนั้นเขาจึงรีบเดินทาง กลับองครักษ์ของเขาเพื่อที่จะเข้าสู่ดินแดนเมืองมนุษย์เพราะเขารู้ว่าคนที่เป็นคู่แท้หรือคู่รักในอนาคตของเขานั้นต้องเป็นมนุษย์เท่านั้นที่จะคอย ล้าง ลบล้างคำสาปและมนต์ดำจากตัวของเขาได้เพื่อให้เป็นหน้าตาดีเหมือนเราที่ว่าบุตร ดังเช่นเดิมดังนั้นเขาจึงเสาะหาด้วยการที่แปลงกายและลดกบเกลื่อนกลิ่นกายของตัวเองทำให้อนาคตไม่สามารถจับแตะต้องตัวเขาได้และไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ว่าตัวเขานั้นไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป ดังนั้นเขาจึงปรึกษ เฉินอีหมิง หวังเฉินข้าจะเข้าไปในเมือง เมืองของมนุษย์เป็นดินแดนของมนุษย์ข้าคิดว่าข้าจะไปเสาะหา โดยการนำแฝงตัวเองเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไป เจ้าคิดว่าดีหรือไม่ หวังเฉิน องค์ราชันย์พะยะค่ะ พระองค์มั่นใจแล้วหรือพะยะค่ะว่าพระองค์จะไป ถ้าพระองค์จะไปเช่นนี้กระหม่อมคิดว่าเราควรจะทำให้แนบจนกว่านี้แล้วกินกายของเมืองของเราพระองค์จะลบล้างกลิ่นกายได้หรือพะยะค่ะ กระหม่อมกลัวมันจะเป็นไปได้ ยากมากๆจริงๆนะพะยะค่ะ องค์ราชัน กระหม่อมคิดว่า การที่คนเรา ตามหารักแท้หรือคู่แท้ของตัวเองมันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กระหม่อมคิดว่าคงจะมีวิธีอยู่บ้าง ก็บอกคิดว่าถ้าเป็นไปได้เราควรที่จะแปลงกาย เป็นชาวบ้านธรรมดา มาพยะค่ะจะได้ไม่สงสัยแล้วเหล่าชาวที่เป็นนักพรตก็ไม่สามารถที่จะจับต้องเราได้เพราะเราจะลบกลุ่มกลิ่นกายที่มาจากเมืองลู่ยี่อีกด้วย เพราะเมืองลู่ลี่ของเรา พวกนักพจน์นั่น คิดว่าเราเป็นจำพวกปีศาจพะยะค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องนำแฝงตัวเอง ด้วยการเป็นชาวบ้านพะยะค่ะ แล้วองค์ราชันคิดว่า พระองค์จะทำได้หรือไม่พะยะค่ะ เฉินอี้หมิง ได้ไม่ได้เช่นไรก็ต้องลองดูแล้ว ถ้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ดังนั้นคนที่จะมาเป็นพระมเหสีของข้าจะต้องเป็นผู้แท้ของข้าเท่านั้น แล้วรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวอย่างข้า ใครจะมาชอบกันเล่า ดังนั้น ค่าจึงคิดว่าจะแปลงกายลูกสมตัวเอง ให้เป็นคนธรรมดาทั่วไปทำให้คนหน้าตาหล่อก็แล้วกันหน้าตาดีแต่รูปทรงงดงาม ก็เป็นได้แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น มันใช่หรือไม่ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ข้าควรจัดการด้วยตัวเองแต่ส่วนเรื่องการเดินทางเศร้าไปเตรียมตัวเถอะพรุ่งนี้ข้าจะออกเดินทางทันที เมื่อยามใกล้รุ่งสาง หวังเฉิน กระหม่อมรับทราบแล้วพะยะค่ะองค์ราชันนน้อมรับคำสั่งพยัค ฆ์ ( ทันใดนั้นเขาจึงคิดว่า การที่ไปเรียนเมืองแดนมนุษย์นั้นคงเป็นเรื่องได้ยากเขาเป็นคนหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเพราะคำสาปนี้ยังไม่ได้ลบล้างทิ้งดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาควรที่จะแปลงโฉมร่างกายของตัวเอง โดยการแต่งหน้าของตัวเองให้ดูกึ่งกลางโดยการใส่หน้ากาก ให้เป็นคนหน้าตาปกติไว้ และต้องเรียบเนียนที่สุดไม่อย่างนั้น เขาจะโดนเจ้านักพจน์กับตัวได้ และโดนทำร้าย และเกิดมีการต่อสู้อีกดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงโดยการลบล้างกบกินร่างกายของตัวเองไม่ให้เจ้าพวกเราได้รับรู้ว่าตัวเขานั้นคือผู้ใด ให้คิดเพียงแต่ว่าเขานั้นเป็นเพียงแต่มนุษย์ธรรมดาที่ไร้ฝีมือการต่อสู้แต่ตัวเขานั้นมีฝีมือการต่อสู้อย่างฉลาดปราดเปรื่องอย่างยิ่งนักดังนั้นเขาจึงเข้าไปแฝงตัวกลายเป็นมนุษย์และไปสอบสงวนโดยการเข้าพระราชวัง เพื่อให้พระราชทานจากฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งให้เขานั้น เป็น ท่านนายอำเภอของเมือง ยี่ชุน ทันที ฮ่องเต้ทรงได้รับทราบผลดังกล่าว จึงได้เขียนราชองการเพื่อเป็นการแต่งตั้งให้กับคุณชาย ให้เป็นท่านนายอำเภอทันที และอยู่ดำรงตำแหน่งนายอำเภอคนใหม่ของนายแคว้นเมืองยี่ชุน ณบัดนั้นมา เขาได้มีภารกิจมอบหมายยิ่งใหญ่สาวฮ่องเต้ดังนั้นเขาจึงไปเข้าเฝ้า ฮ่องเต้ เพื่อการรับมอบหมายภารกิจโดยการไปแจกจ่ายทรัพย์สินเงินทอง และเข้าป่าอาหารและเสื้อผ้าให้กับประชาชนและราษฎรของเมืองญี่ปุ่น ดังนั้นเขาจึงได้พบเจอองค์รัชทายาทผู้เป็นลูกชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมีนามชื่อว่า เฉินหมิงอ้าว ดังนั้น องค์รัชทายาทจึงได้ คิดว่าจะขอรับอาสา ไปในครั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองดูแลบ้านเมืองไปในตัว และสนใจใส่ใจบ้านเมืองไปในตัวเพราะวันหน้าเขาจะได้เป็นฮ่องเต้ที่ดีต่อจากองค์เ เสด็จพ่อของตัวเองทันทีดังนั้นฮ่องเต้จึงได้ป่าวประกาศว่าองค์รัชทายาทจะทำภารกิจนี้ร่วมกับท่านนายอำเภอเฉินอี้หมิงดังนั้นเขาทั้งสองคนจึงได้รู้จักการเป็นที่ส่วนตัวและได้รู้จักนิสัยกันและศึกษานิสัยด้วยกันเองดังนั้นเขาทั้งสองคนจึงสนิทกัน เป็นพิเศษ) ณราชตำหนัก ขององค์รัชทายาท หนิงอัน องค์รัชทายาทพะยะค่ะ ไม่ทราบว่าองค์รถขายยากจะไว้ใจ ชั้นในอำเภอได้หรือพะยะค่ะ เฉินหมิงอ้าว ไม่เป็นไรไม่เป็นไรถ้าคิดว่าเขาเป็นคนไว้ใจได้นะ เพราะดูเหมือนแล้วเขาเป็นคนไม่มีพิรุธอะไร ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจริงๆเสด็จพ่อจะแต่งตั้งให้เขา เป็นปลัดในอำเภออย่างนั้นหรือ เราคิดมากไปแล้ว 1 อัน ถ้าคิดว่าเจ้าควร เลิกดูถูกคนภายนอกสักทีได้หรือไม่ ถึงเจ้าจะป้องกันก็จริงเจ้าเป็นคนดูแลข้าเป็นองครักษ์ของข้าก็จริง ก็ไม่ได้หมายความว่า เศร้าจะไปจับผิด ปลัดในอำเภอเช่นนั้นนะ เขาเป็นถึงท่านปลัดในอำเภอ เศร้ามีสิทธิ์อะไรที่จะไปสงสัยเขาก็เล่าถ้าคิดว่าเขาเป็นคนร้ายจะมาปลงพระชนม์ฆ่าหรืออย่างไร คิดมากไปแล้วนะเจ้าน่ะ หมิงอัน กระหม่อมขอประทานอภัยพะยะค่ะอุรชัยญาติก็บอกสมควรตายจริงๆ กระหม่อมคิดเพียงแค่ว่ากลัวฝ่าบาท และองค์รัชทายาทจะไม่ปลอดภัยพยะค่ะ สมองคิดว่าเขามีอะไร ที่น่าสงสัยมากกว่ามนุษย์ทั่วไปพะยะค่ะ เฉินหมิงอ้าว เฮ้ยเจ้านี้จริงๆเลย เจ้าจะสงสัยใครข้าไม่ว่าแต่เจ้าไม่ควรสงสัย ปลัดในอำเภอเช่นนี้ เขาเป็นคนที่มีจิตใจดี แต่เจ้ากลับไปคิดไม่ดีกับเขาเนี่ยนะ เจ้านี่ ที่จริงเลยจะไปไหนก็ไปไสหัวไปไหนก็ไป มีอะไรเหลือค่าเรียกเจ้าเอง เอาสิ ข้าคิดว่า ข้าจะไปหาเขาซะหน่อย จะไปหารือกับเขาเรื่องนี้ ไม่ต้องบอกว่าจะไม่ให้ข้าไปนะ ไม่มีส่งมีแต่อะไรทั้งนั้นห้ามฆ่าไปก็เท่านั้นแหละเจ้าห้ามฆ่าไปเด็ดขาด ถ้าจะไปถ้าจะทำไม หนิงอัน เฮ้ยก็ได้พะยะค่ะทายาทงั้นกระหม่อมไม่กวนแล้วพี่ล่ะค่ะ แล้วผมจะไปส่งให้ที่หน้า ตำหนักหนิงเจ้านะพะยะค่ะ เฉินหมิงอ้าว ได้ตกลงตามนั้น ( ทันใดนั้นองค์รัชทายาทเฉินหมิงอ้าวก็ได้เดินทางไปยังพระตำหนักหมิงเจ้า ซึ่งตลาดในอำเภอ หรือองค์ราชัน ย์ผู้นี้ซึ่งได้อยู่ที่นั่นเขานั้นจึงอยากจะรู้จักองค์ราชันคนนี้มากยิ่งขึ้นดังนั้นเขาจึงเดินทางไปหา ทันที และทำความรู้จัก กับองค์ราชันทันที) ณพระตำหนักหมิงเจ้า ( ก๊อกๆๆ) .... องค์ราชทายาทเฉินหมิงอ้าว) เฉินหมิงอ้าว ไม่ทราบว่า มีใครอยู่หรือไม่ ฉันนายอำเภอ อยู่ข้างในหรือไม่ คือข้า อยากคุยกับท่านน่ะ ไม่ทราบว่า ถ้าสะดวก รับแขกคนอย่างข้าหรือไม่ ข้ามีเรื่องอยากจะหารือกับท่าน เฉินอี้หมิง อ๋อก็จะทายาทหรือพะยะค่ะ ไม่ทราบว่าองค์รัชทายาทมีเรื่องอันใด จะมาหาเรื่องกระหม่อมหรือพยะค่ะ เอาเป็นว่า กระหม่อมจะให้คนไปเปิดประตู ให้องค์รัชทายาทเองนะพะยะค่ะ จะได้เป็นการไม่เสียมารยาท เฉินหมิงอ้าว งั้นข้าขอรบกวน ท่านเข้าไปหน่อยก็แล้วกันนะ ที่อย่างนี้นะ ข้าขอโทษด้วยที่ ข้ามารบกวนท่านเช่นนี้ คือ ข้าคิดว่าท่าน ว่างงานอยู่น่ะก่อนที่จะไปทำภารกิจกันที่นั่น ข้าก็เลยจึงอยากจะมาหาท่าน แล้วก็ทำความรู้จักกับท่าน เผื่อเวลาเรา ทำงานร่วมกัน ข้าจะได้สนิทกับฉันด้วยยังไงล่ะ ฉันรู้ดีไหม ท่านก็อ่านหนังสือเหมือนกันหรือ ฉันอ่านหนังสืออะไรงั้นเหรอ ท่านปลัด เห็นท่าน อ่านหนังสือนิยายด้วยรึ แสดงว่าท่านก็ชอบนิยายเช่นกันใช่หรือไม่ งั้น ค่ายืมท่านหน่อยได้หรือไม่ ถ้าเนี่ย ใจตรงเหมือนกับข้าเลยนะ หนังสือเรื่องนี้ข้าบอกว่ามันสนุกมาก แต่ว่าแต่ว่านะ คือข้าเห็นท่าน เป็นคนไม่พูดไม่จาเลย เนี่ยข้าคุยกับท่านท่านยังไม่คุยกับข้าเลย ตกลงท่านเป็นคนยังไงกันนะท่านปลัด ท่านเอาแต่นั่งนิ่งและจ้องหน้าข้าอยู่แบบนี้ ท่านเนี่ย สงสัยอะไรคะงั้นรึ แล้วท่าน มองหน้าข้าเช่นนี้ หน้าของข้ามีอะไรไปติด อยู่อย่างนั้นหรือ เชิญอีหมิง ถ้าองค์ราชทายาทไม่มีเรื่องอะไรจะหารือ กระหม่อมคิดว่า ฝ่าบาท ควรจะ ออกไป เที่ยวเล่นด้านนอกจะดีกว่าไหมพะยะค่ะ เพราะตอนนี้กระหม่อมไม่ว่าง กระหม่อมกำลัง คิดอยู่ว่า จะทำเช่นไร ให้เงินทองที่ฮ่องเต้ นำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านนั้น จะเพียงพอหรือไม่ แต่ถ้าพระองค์ ไม่คิดจะช่วยอะไร หรือ ไม่ได้มีความเห็นอันใด ก็จงอย่ามารบกวน กระหม่อมเลยได้ไหมพี่ค่ะ เฉินหมิงอ้าว อะไรกัน คะคุยกับท่านดีๆ ข้าอุตส่าห์เห็นท่านเป็นคนดีแต่ท่าน จะไม่พูดกับข้าเลยเนี่ยนะแถมผลักไสไล่ส่งข้าอีกหน่อยหนังสือเนี่ย ถ้าท่านไม่อยากให้ข้ายืม ข้าไม่ยืมก็ได้นะ ไม่เห็นจำเป็นต้องไล่กันเลยก็ได้นี่นา ใจร้าย ก็ข้าเห็นท่านไม่ได้ทำอะไร อีตั้ง 2-3 วันกว่าท่านจะได้ไป กว่าข้าจะได้ไป กว่าเราจะทำงานภารกิจร่วมกันก็แค่อย่ามารู้จักกับท่าน ถ้าเป็นคนยังไงกันนะ เฮ้ยคนอย่างฆ่าเราท่านไม่ออกเลย รูปภายนอก ฉันดูเหมือนเป็นคนใจดี แต่พอเอาเข้าจริงๆ ท่านเนี่ย ดูหญิงไม่น้อยเลยนะ โหย คิดว่าท่านหน้าตาดี ถ้าหนูจะดูหมิ่นก็ได้อย่างนั้นหรือ หนังสือเนี่ย ถ้าไม่เอาก็ได้ ถ้าไม่ยุ่งกับท่านแล้ว ถ้าจะทำอะไรก็ทำไปเลย ก็ถึงวันนั้น ค่อยทำงานร่วม ร่วมกันก็แล้วกัน ไปแล้วก็ไม่รบกวนท่านแล้ว เสียอารมณ์ ท่านใดนั้นปลัดในอำเภอคนใหม่หรือองค์ราชัน จะได้แอบมอง องค์รัชทายาทเพียงเล็กน้อย แล้วแอบยิ้ม ที่มุมปากยังเล็กน้อย มันทำให้เขารู้สึกว่า องค์รัชทายาทนี่ก็แสบไม่ใช่น้อย เห็นเขาจ้องหน้า ทำหน้าอึมครึมใส่เช่นนั้น ก็โกรธเขาแล้วดังนั้นเขาจึงสั่งให้องครักษ์เอาหนังสือ นวนิยายของเขา นำไปมอบให้กับองค์รัชทายาทที่พระตำหนักโอสถทายาททันที แล้วส่ง มอบของกิน ถ้าจะโอนให้สุดทายาทเพื่อเป็นการไถ่โทษ ที่เขาทำไม่ดีกับองค์รัชทายาท) ณตำหนัก องค์รัชทายาท หนิงอัน หยุดนะ เจ้าเป็นผู้ใด แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่ แล้วนั่นอะไร จะบอกข้ามานะ เจ้าห้ามเข้าไปในห้องรัชทายาทโดยพละการ ถ้าไม่มีคำสั่ง เจ้าห้ามเข้า หวังเฉิน ข้าขอโทษด้วย พอดี ถ้าได้รับคำสั่งจาก ตลาดในอำเภอน่ะ เอาหนังสือนวนิยาย ที่องค์รัชทายาทชอบอ่าน มาให้น่ะ ท่านปลัดเห็นว่า องค์รัชทายาทอยากได้ เลยจึงนำให้ค่า เอามาให้แค่นั้นเอง ค่าเกรงว่า จะค่าเข้าไป ท่านคงไม่ให้ข้าเข้าไปแน่ เอาเป็นเช่นนี้ ข้าจะฝากให้ ท่าน นำเอาเข้าไปให้แทนค่าได้หรือไม่ ถ้าท่านไม่คิดอยากจะให้ข้าเข้าไป หรือองค์รัชทายาททรงไม่อนุญาตให้ข้าเข้า ไปดังนั้น ข้าจึงคิดว่า รบกวนให้ท่าน ช่วยเอา หนังสือเล่มนี้ และขนม นำไปให้โอ๊ตทายาทในห้องได้หรือไม่ พอดี ท่านนายอำเภอ สายคาดเอามาให้ เพื่อเป็นการไถ่โทษโดยการที่ ทำให้องค์รัชทายาทได้ทรงโปรด ฉันจะทำให้ข้าได้หรือไม่ หนิงอัน ได้ ข้าจะทำตามคำสั่งเจ้า ข้าจะเป็นคนนำเอาของพวกนี้ ไปมอบให้กับองค์สุดท้ายญาติด้วยตัวเอง ส่วนเจ้า หมดธุระหน้าที่แล้วเจ้าก็ไปเถอะ อย่าเพิ่งได้มารบกวน องค์รัชทายาทในตอนนี้เลย เพราะตอนนี้องค์รัชทายาท คงจะอารมณ์ไม่ดีน่ะ เพราะ ท่านปลัดของเจ้า ทำไม่ดีต่อองค์รัชทายาทน่ะ หวังเฉิน ออ ข้าเข้าใจแล้วล่ะ แล้วไม่ต้องกังวลไป ข้าจะเป็นคนกลับไป ไม่ได้งาน ท่านปลัดให้ก็แล้วกัน งั้น ถ้าไม่มีอะไร ข้าน้อยขอตัวเลยก็แล้วกันนะ หมิง อัน เชิญขอรับ ไปสิ ถ้าจะมายืนทำอะไร ก็ท่านบอกว่าท่านจะไปรายงาน ท่านปลัดของท่านไม่ใช่หรือ ยังอีก เจ้ายิ้มอะไร เจ้าหนี้ท่าทางจะบ้านะเนี่ย ไปชิวๆ ( ทันใดนั้นองครักษ์ หวังเฉินก็ได้เดินออกมาจาก พระตำหนักขององค์ราชทายาท และเดินตรงไปยังพระตำหนัก หมีเจ้า ที่ท่านปลัดหรือองค์ ราชันของตัวเองได้อยู่ ดังนั้น เขาจึงแอบหัวเราะและยิ้มมุมปาก ตอนที่ มีอันได้ ทำทีท่า กวนประสาทเขาแต่เขากลับ ชอบใจ และชอบใหญ่และกวนประสาท 1 อันเป็นที่สุด ดังนั้นเขาจึงได้ทำเป็น ตลก และหัวเราะกลบเกลื่อน แอบยิ้มอยู่ที่มุมปากเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าเขาก็สนใจ คุณแบบนี้เช่นกัน เขาคิดว่า มีแอนเป็นคนตลกดี ดังนั้นเขาจึงอยาก ที่จะ กลั่นแกล้ง เพราะเขาเอ็นดู 1 อัน มากๆ แล้วเขาก็รู้สึกว่าเขาก็ชอบหมีอัน เขาอยากสนิทกับ หนิงอัน ดังนั้นเขาจึง หาวิธี แกล้งหยอกล้อ 1 อัน จนทำให้เขา กลายเป็นคนสนิทกันนั่นเอง หรือเป็นคู่กัดกันนั่นเอง) หมีอัน ( ก๊อกๆๆ .... องค์ราชทายาทพยัคฆ์ค่ะ มิทราบว่าองค์รัชทายาท อนุญาตให้กระหม่อม เข้าไปรายงานได้ไหมพี่ค่ะ เฉิน หมิง อ้าว ว่าไง เจ้ามีอะไร แล้วนี่คืออะไร ขนม ตัวหนังสื ออย่างนั้นหรือ ใครกันเป็นคนสั่งให้เจ้ามาให้ข้า หมิงอัน อ้อ เห็น องครักษ์ของท่านปลัดนายอำเภอสั่งให้ องครักษ์ของเขานั้น นำเอาหนังสือ ที่องค์รัชทายาทอยากอ่าน และนำขนม กล้วยความมาให้พะยะค่ะ เขาบอกว่า สิ่งที่เขานำมอบให้ ถือเป็นการไถ่โทษที่ทำให้องค์รัชทายะไม่พอใจพะยะค่ะ จึงนำสิ่งนี้มาให้ ไม่ทราบว่าองค์สุดท้ายยากจะรับของไหมพี่ค่ะ เฉินหมิงอ้าว งั้นรึ ไม่เอา ข้าไม่เอา ถ้าเขาอยากให้ข้าอ่านอย่าให้ข้ากินจริงๆ ให้เขานำเอามาให้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่สั่งให้คนอื่นเอามาให้ ถ้าสั่งให้คนอื่นมาให้ข้าไม่เอา จะเอากลับไปซะ ข้าไม่ต้องการอ่านมันแล้ว ถ้าเขาจริงใจอยากจะให้ข้าอ่านจริงๆ แล้วจะให้ข้ายืมจริงๆ แล้วขนมถ้วยนี้เจ้าก็ไปกินซะ ถ้าไม่อยากกิน แล้วเศร้า ก็นำ ของสิ่งนี้ไปคืนเขาเสียด้วย บอกกับเขาว่า ถ้าเขาอยากให้ข้าอ่านจริงๆ ให้เขาเอามาให้ข้า อ่านด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้องครักษ์เอามาให้หรอก เพราะมันดูเหมือนเขาไม่จริงใจกับข้า ดูเหมือนเขาไม่อยากเป็นมิตรกับข้า เพราะฉะนั้น เจ้าจงนำเอาหนังสือเล่มนี้ กลับไปคืน ท่านนายอำเภอทันทีแล้วขนมนี่เจ้าก็ไปกินซะ ถ้าไม่อยากกิน หมิงอัน ได้พยัคฆาองค์รัชทายาทงั้นกระหม่อม นำเอาไปให้ท่านปลัดเลยนะพะยะค่ะ น้อมรับคำสั่ง พยัคฆาตองค์รัชทายาท ( หลังจากนั้นองครักษ์หมิงอันซึ่งเป็นองครักษ์ขององค์รัชทายาทนั้น ก็ได้ทำตามคำสั่งที่องค์รัชทายาทสั่ง ดังนั้นเขาจึงเดินทาง ไปยัง ณพระตำหนัก หมิ่นเจ้า ด้วยการเอาหนังสือ ไปคืนทันที และฝากบอกว่า องค์รัชทายาท ไม่อยากได้หนังสือเล่มนี้ และขนมนี้ เขาก็ไม่กิน ดังนั้น เขาจึง ฝากมาบอก ท่านนายอำเภอว่า องค์รัชทายาทไม่อยากได้แล้วถ้าอยากให้องค์รัชทายาทอ่านจริงๆหรืออยากให้องค์รัชทายาท กินขนมของเขาจริงๆ ให้เขานำไปให้ด้วยตัวเอง หนังสือเล่มนี้ เขาไม่ต้องการให้องครักษ์ นำไปให้ องค์รัชทายาท ตัดพุธเช่นนั้นว่า อยากให้ ท่านนายอำเภอนั้นนำหนังสือเล่มนี้ และขนม นั้น นำไปให้โอรสทายาทด้วยตัวเองกับมือ ทันที) ณตำหนัก หมิงเจ้า หนิงอัน ข้าเจอเจ้าอีกแล้ว ถ้าไม่อยากเจอหน้าเจ้าจริงๆเลย เจ้าเนี่ย กวนประสาทค่าชะมัด อันนี้ ข้าก็ไม่อยากมาหรอกนะ ข้าเห็นเจ้าแล้วข้าหมั่นไส้ เอาเป็นว่า เจ้าไปรายงานให้ ท่านปลัดทราบได้หรือไม่ ว่าข้าเอาของสิ่งนี้มาคืน พอดีองค์รัชทายาทไม่อยากได้แล้ว แล้วก็องค์รัชทายาทกำชับข้าบอกว่า ถ้าอยากจะให้องค์รัชทายาทอ่านและ กินขนม ถ้วยฟา ในจานนี้จริงๆ เจ้าก็ต้องไปบอกท่านปลัดของเจ้าว่า องค์รัชทายาทไม่อยากได้ เพราะองค์รัชทายาท จะให้ ท่านปลัดเอาไปให้ด้วยตัวเอง ทั้งหนังสือและขนมน่ะ ต้องเอาไปให้ด้วยตัวเองเท่านั้นถ้าเป็นท่าน โอ๊ตสุดท้ายญาติไม่เอา หวังเฉิน อ้องั้นรึ........ ได้สิ งั้นเจ้ารอข้าวเหนียว ถ้าจะไปรายงาน ท่านปลัดก่อนก็แล้วกัน เอาเป็นว่า ข้าจะไปบอกให้ เจ้าก็ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจะตามเจ้าเข้าไปเองก็แล้วกัน เจ้าก็รออยู่ตรงนี้ล่ะ ( ก๊อกๆๆ... ฉันปลัดขอรับ มีแขกมาเยี่ยมพบครับ พอดีเป็นองครักษ์ ของทั้งองค์รัชทายาทขอรับนำหนังสือที่ท่านปลัดฝากให้ข้าน้อย เอาไปให้ที่สุวรรณภูมิ แต่พอดีว่าจะทายาทไม่เอา เพราะจะทายาทไม่อยากได้ขอรับ โอนค่าญาติฝากกำชับองครักษ์ของเขามาว่า ถ้าท่านปลัดอย่าให้องค์รัชทายาทกิน ท่านปลัดต้องเอาไปให้ ด้วยตัวเองขอรับทั้งหนังสือและของกิ ฉัน น ก็เอาไปให้ด้วยตัวเองเท่านั้นขอรับ เฉินอี้หมิง งั้นฝากบอกโอรัชทายาทหน่อยว่า ไม่เป็นไรถ้าไม่อยากอ่าน ถ้าไม่ว่า ขนมนั้นไม่อยากทาน ข้าไม่ว่า ตอนนี้ข้าไม่ว่างที่จะไป เอาเป็นว่า ถ้าเข้าว่าง ข้าจะเอาไปให้เอง ด้วยตัวเองก็แล้วกัน ตอนนี้งานค้ายุ่งมาก ข้าไม่มีเวลา จะเอาของพวกนี้ แล้วจะทายาทหรอกนะ ข้าฝากด้วย ตอนนี้วันพรุ่งนี้ ก็จะถึงเป็นวันเวลาที่จะต้อง เป็นกระบวนการทำภารกิจร่วมกันแล้ว ดังนั้น พรุ่งนี้ ก่อนจะออกเดินทางข้าจะเอาหนังสือเล่มนั้น นะคะขนม ไปเผื่อให้องค์รัชทายาทพรุ่งนี้แทนก็แล้วกัน ถ้าเขาจะโกรธข้าที่ข้าไม่เอาไปให้ในวันนี้ ก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับค่า คือเขาจะเป็นองค์รัชทายาทเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะสั่งฆ่า เจ้าเข้าใจหรือไม่ เขาอยากจะดุค่ายว่าข้าก็เรื่องของเขา ก็ให้เขามาตีค่าด้วยตัวเอง ข้าไม่กลัวเขาหรอก ( องค์ราชันย์หรือ ท่านปลัด เขานั้น ได้แอบยิ้มที่มุมปากและ หัวเราะ เล็กน้อย เพื่อเป็นการแกล้ง เอาคืน สำหรับที่องค์ราชทายาทกวนประสาทเขา ดังนั้น เขาจึงคิดเพียงแค่ว่า เวลาเขา ได้แกล้งใครสักคน มันรู้สึกมีความสุข เขาได้แอบมององค์รัชทายาท อย่างเอ็นดู เขารู้สึกเหมือนเขา ตกหลุมรักองค์รัชทายาทเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงคิดค้นหาทาง ได้แก้ให้องค์รัชทายาทมาหาเขาด้วยตัวเองอีกครั้ง แล้วเขาต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่างจากองค์รัชทายาทเขาคิดว่าองค์รัชทายาทนั้น อาจจะเป็นคู่ของเขา หรืออาจจะเป็นว่าที่พระมเหสี ในเมือง ยู่ยี่ก็ได้ ดังนั้น เขาจึงคิดว่าหาแผนการ โดยการ กวนประสาทองค์รัชทายาทให้องค์รัชทายาทโมโหเขาจนทำให้เขา ต้องเดินทางมาหา องค์ราชัน หรือท่านปลัดด้วยตัวเอง) พระตำหนัก องค์ราชทายาท หนิงอัน องค์รัชทายาทพยัคฆา กระหม่อมไปแจ้งข่าวเรื่องนี้และส่ง ของนำไปคืนให้แล้วพะยะค่ะ องค์รัชทายาทพะยะค่ะ เห็นท่านปลัดฝากให้องครักษ์ของเขาฝาก กระหม่อมมาบอกองค์สุดท้ายยอดว่า ท่านปลัดไม่ว่างให้พะยะค่ะ ไม่ว่าง เอามาให้ เพราะเขา ทำงานสำคัญอยู่พะยะค่ะ ถึงไม่มีเวลา เอาหนังสือและขนมมาให้ด้วยตนเองดังนั้น เขายังกวนประสาทองค์สุดท้ายญาติอีกนะพะยะค่ะ ฉันปลัดบอกว่า ถ้าองค์รัชทายาท จะตีจะด่าจะว่าเขา เขาไม่สนใจหรอก แต่ถ้าอยากจะตีจะด่าจะว่าเขา ก็ให้ไปตีไปด่าไปว่า ด้วยตัวเองที่ห้องของเขาเองพะยะค่ะ เฉินหมิงอ้าว น้อย ท่านปลัดบ้า เจ้านี่มันเฮ้ยจริงๆเลย ข้านี่ไม่รู้จะด่าจะเอายังไง ก็ได้ เราอยากให้ข้า ด่าว่าตีเจ้าจริงๆใช่ไหมเนี่ย ได้เจ้าท้าข้าเองนะ ไป 1 อัน เขากวนประสาทข้าเช่นนี้ ได้ถ้าจะไปกวนประสาทเขาเอง คนบ้า อ้วนประสาทจะมา คอยดูนะพรุ่งนี้จะเอาเรื่องให้เข็ดเลยดู ไปก็ไปสิ ใครกลัวกันเล่า ณพระตำหนักหมิ่นเจ้า ( ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ) เฉิน อี้หนิง หวังเฉินเข้าไปดูซิ ผู้ใดมาเคาะประตู ห้องข้า กันนะ เจ้าไปดูให้ข้า หน่อยก็แล้วกัน ค่อยมาก่อกวนฆ่ากันเนี่ย หวังเฉิน ข้าน้อยรายงานขอรับ พอดี ด้านนอกนั้นมีองครักษ์ ขององค์รัชทายาทและองค์รัชทายาทมาพะยะค่ะไม่ทราบว่า ท่านปลัดจะให้องค์รัชทายาท เข้ามาในพะยะค่ะ จะไม่เป็น การรบกวน นายท่านหรือ ขอรับ เฉินอี้หมิง ไม่เป็นไร เจ้าก็ให้เขาเข้ามาเถอะ แล้วพวกเจ้าก็ออกไปข้างนอกกันซะ แล้วก็ปล่อยให้องค์รัชทายาทนิสัยเสียคนนี้ อยู่ให้ข้าสั่งสอนก็แล้วกัน หวังเฉิน ได้ขอรับนายท่าน เฉินหมิงอ้าว เจ้าเปิดประตูได้แล้วงั้นรึ น้อย เมื่อกี้เจ้าบอกว่า เจ้ากวนประสาทข้าใช่หรือไม่ ที่เจ้าให้ข้ามาด่าเจ้าทุบตีเจ้าที่นี่ เจ้าต้องการอะไร ฉันต้องการกวนประสาทค่ะงั้นรึ ทำไม ถ้าเจ้าไม่เต็มใจเจ้าก็บอกสิ คอยดูเถอะ ในวันพรุ่งนี้ เขาจะแจ้งเท่าน เป็น 2 เท่า ให้หนำใจข้าเลยคอยดู ชิ..... ( ทันใดนั้น องค์รัชทายาท ก็ได้เอื้อมมือ ไปทุบตี ท่านนายอำเภอหรือ องค์ ราชันย์ ดังนั้นองค์ราชันจึงลุกขึ้นยืนขึ้น แล้วคว้ามือ ขององค์รัชทายาทไว้ที่มือของตัวเอง แล้วดังนั้นองค์ราชัน จึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หัวจะถ่ายยาก แล้วทำหน้าหื่นใส่ โดยแกล้งเป็นหื่นใส่ องค์รัชทายาท จนทำให้องค์รัชทายาทตกใจ และหวั่นไหว เป็นอย่างมาก จนทำให้องค์รัชทายาทนั้น หน้าแดง เป็นลูกมะเขือเทศไปเลย พระองค์แล้วจะทายาทนั้น รู้สึกเหมือนโดนจ้องมองแบบนี้ รู้สึกเขินอาย เลยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นโอ๊ตทายาทก็ได้สะบัดมือออกจากองค์ราชัน แล้วเดินถอยหลังก้าวไป และทำให้องค์ราชันย์นั้นเดินก้าวเข้ามาหาตัวเองอย่างช้าๆ แล้วพูดขึ้นว่า เฉินอีหมิง องค์รัชทายาท ฉันเนี่ยนะ ร้ายไม่ใช่ย่อย ดูตัวฉันสิ สั้นๆมีกลิ่นหอมซะเหลือเกิน ถ้าได้กลิ่นตัวนั้นแล้ว ข้ารู้สึก มีอารมณ์ชะมัดเลยเจ้ารู้ไหม เฉินหมิงอ้าว เจ้าจะทำอะไร ก็ปล่อยข้านะคนบ้า คนบ้ากามหญิงเจ้า บ้าจริงๆ ก็ปล่อยข้านะ เจ้ายื่นหน้ามาใกล้ๆข้าแบบนี้ ข้าเขินหมดแล้ว เฉินอีหมิง ฮ่าๆๆ..... อะไรกัน องค์รัชทายาทคนเก่งหายไปไหนแล้วล่ะ ท่านบอกว่าท่านเขินข้าอย่างนั้นรึ ท่านก็แปลกนะ ถ้ายังไม่ทำอะไรท่านซะหน่อย แค่เพียงแค่ แก้ถอนหายใจใส่หูท่านเท่านั้น ท่านก็ตกใจแล้วงั้นรึ แต่ถ้า ข้าสงสัยท่านแบบนี้ แต่ถ้า ข้าจะทำท่านจริงๆล่ะ ถ้าจะทำเช่นไร เฉินหมิงอ้าว เฮ้ย เจ้าคนบ้า เจ้าจะทำอะไรข้าเนี่ย เจ้าจะมาหื่นใส่ข้านะ ข้าข้า ไม่ได้อยากให้เธอทำกับข้าเช่นนั้น แล้วเจ้ามามองหื่นใส่ข้าทำไม ข้าจะตีเจ้า นีน่า ๆ ฉันปล่อยข้านะ ฉันจะทำอะไร ฉันไม่รู้หรือ ท่านรังแกข้าเช่นนี้ ท่านมีโทษเชียวนะ เขาจะตีท่านจะตีท่าน 20 ไม้ ( ทันใดนั้นองค์ราชัน ก็ได้เดินเข้าไปใกล้ๆ ทายาท แล้วก็จับ ขึงมือ องค์รัชทายาทไว้ ล้มอยู่บนเตียงที่นอนของ องค์ราชันย์ ดังนั้นองค์ราชันย์จึงขึ้นค่อม หัวจะทายาททำให้องค์รัชทายาท ได้เขินอาย และตกใจเป็นอย่างมาก ที่จู่ๆ ก็โดน ทั้งปลัด เฉิงอี้หนิง ทำกับตัวเองแบบนั้น จึงทำให้เขาได้ตกใจเป็นอย่างมาก ตรงราชันนั้น ชอบ ใจในสิ่งที่ องค์รัชทายาทได้ทำกิริยาใส่เขา ดังนั้นองค์ราชัน จึงได้ไม่ มียวนใจตัวเอง ไม่รอช้า จึงสูบ ของรัชทายาท ทำให้องค์รัชทายาทนั้น จิตใจ หวั่นไหว และหมดแรง จากการที่องค์รัชทายาทนั้น ได้ถูกตี องค์ราชัน ซึ่งทำให้องค์ราชันนั้น ได้สูบลูบไล้ อุทัยญาติ จนทำให้องค์รัชทายาทนั้น ได้อ่อนระทวยลง ด้วยสายตาที่มอง ทำให้องค์รัชทายาทนั้นรู้สึกว่า ทำไม เขารู้สึก แปลกใจกับ ท่านปลัดคนนี้ ยิ่งนัก เวลาโดนสูบ รู้สึกทำให้เขาอ่อนไหวและอ่อนระทวยลง จนทำให้ตอบโต้อะไรไม่ได้ เขาไม่เข้าใจตัวเองดังนั้น เราจะทายาทจึงผลัก องค์ราชันออกจากตัวเอง แล้ว หันกลับไปดูหน้า ขององค์ราชัน แล้ววิ่งหันหลังกลับเปิดประตูออกไป และวิ่งออกไปจากสวนพระตำหนัก เศร้าทันที และ ดังนั้น ตัวเองจึงวิ่งหนี กลับไปยังห้องของตัวเองพระตำหนักโอสถายาททันทีค ดังนั้นองค์ราชันจึงหัวเราะขึ้นมา ด้วยริมฝีปาก แล้วได้จับบริเวณปากของเขา เขารู้สึกว่า ได้บรรจง จูบปากองค์รัชทายาทเช่นนั้น มันทำให้องค์รัชทายาทนั้นรู้สึกเขิน และทำให้องค์ราชันนั้นแอบยิ้มอยู่ในใจ มันรู้สึกทำให้องค์ราชันนั้น เขินไปเลยเช่นกัน และทำให้เขารู้สึกตกหลุมละองค์รัชทายาทโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน หลังจากที่เขาได้ และองค์รัชทายาทให้ตกใจ ตัวเขาเองนั้นก็รู้สึกหวั่นไหว ราวกับว่า เขานั่นได้เจอคน ที่จะแก้คำสาปให้เขาแล้ว ดังนั้น เขาจึงหาคนคิดถี่วิธีทาง เพื่อที่จะทำให้โอสทายาทตกหลุมรักเขา ทันที) ณซุ้มเมืองเหยาโจ อย่างเฟย ก็ได้นำพาเคอรี่เข้าซุ้มที่พักของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเฟอร์กี้อันตรายยิ่งนักที่มาที่นี่ อยู่ๆก็เกิดบาดเจ็บเลยไม่รู้ตัว แต่อาการของหยางเฟยบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ เคยอี้นั้นบาดเจ็บอาการภายในบอกช้ำ จึงทำให้ต้องพักรักษาตัวอีกยาวนานดังนั้นเขาจึงเลือกตามหมอหลวงมาดูอาการ ของ เคอรี่ทันที แต่ว่าเคยอิ้นนั้นบอกว่าไม่ต้องการหมอหลวงเท่าไหร่ เพราะว่าไม่สามารถช่วยเหลือตัวเขาได้ สิ่งที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้คือการผูกเชื่อมต่อผูกพันธนาการทั้งหัวใจของเขาครึ่งนึง และ พลังของเขานั้น รวบรวมอยู่กับอย่างเฟยดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเขาได้นอกจากเขาจะช่วยเหลือตัวเองและบำเพ็ญเพียรให้ได้มากกว่านี้แผลถึงจะฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้นมีทางเดียวคือบำเพ็ญเพียรตัวเอง เท่านั้น ดังนั้น เขาจึงไม่จำเป็นต้องให้ใครตามหมอหลวงมาและได้ออกคำสั่งไม่จำเป็นต้องตามหมอนหลวงให้เขารักษาฝืนตัวเองฟื้นฟูตัวเองโดยการ เพียงแค่ สู้ๆกำลังภายในด้านในก็พอส่วนที่เหลือ กลับไปยังน้ำพุร้อนก็พอ เขาเคยพูดว่า องค์ราชันย์มีห้องน้ำพุร้อน ที่เป็นห้องน้ำพุสามารถฟื้นฟู ร่างกายของตัวเองเกิดจากการบาดแผลด้านในได้ ไม่จำเป็นจะต้องไป
หลังจากที่เฟยอี้นั้น ได้วิ่งออกจากห้องของอย่างเฟย ตัวเองนั้น รู้สึก ผิดปกติ ในร่างกายของตัวเอง ร่างกายของตัวเองนั้นเวลาโดนจูบ เขารู้สึก ร่างกายอ่อนระทวยลงก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรดังนั้นเขาจึงถามองครักษ์หย่งเฟยว่า เขาเป็นอะไร ทำไมเวลาเขาโดนจูบเขารู้สึกหัวใจเต้นแรงเช่นนี้ เฟยอี้ หลงไฟ ค่าข้าวถามเจ้าหน่อยนะ คือ สักนิดนึงอ่ะเค้าถามเจ้าถ้าเกิดว่า คนเราไม่ได้รักไม่ได้ชอบเป็นคนรักแล้วโดนจูบแบบนี้ มันหมายความว่าไงหรอแล้วอีกอย่างนึงคือค่าค่าเองก็ยังไม่มีคนรักด้วยแล้วก็ เจ้าคิดว่าไงอ่ะ นิดนึงอ่ะคำตอบก็อยากรู้อ่ะ องครักษ์หย่งเฟย ฮ่าๆๆ หรือพะยะค่ะ แสดงว่า พระองค์คงโดนจู่โจมมาใช่หรือไม่ แต่พระองค์ในเมื่อพระองค์บอกว่าพระองค์ไม่ได้มีคู่ครองพระองค์ยังไม่ได้ชอบผู้ใด แล้วพระองค์ไปโดนผู้ใดจูบมาหรือพะยะค่ะ ถึงถึงกับเขินอายหน้าแดงเช่นนี้ หรือว่าท่านอาจจะชอบใครอยู่ในใจท่านก็ได้ถ้าท่านอาจจะอยากให้มีผู้ใดมาเป็นคนในดวงใจท่านก็ได้มั้ง เพราะถือว่า กระหม่อมขอเสียมารยาทนิดนึงนะขอรับ กระหม่อมอย่าถามว่า เอาจริงๆนะ องค์ชายเนี่ย ชอบใครอยู่ในใจหรือเปล่าขอรับ ทำไม องค์ชายถึงน่าดูเขินอายและแดง ต่ำเหมือนลูก
หลังจากที่เขาทั้งสองคนนั้นได้หยุดจากการทะเลาะกันและหันหน้าหันหลังใส่กันเขาทั้งสองคนดูเหมือนเป็นคู่กันจริงๆ ทะเลาะถกเถียงกันอยู่แบบนี้ เข้าทั้งสองคน ไม่เงยหน้าใช้ตามองกันหันหลังใส่กันแล้วกลับเข้าที่ ของตัวเองทันที หยางเฟย น้อยเจ้านี่มัน เฮ้ยเจ้าเด็กบ้า เจ้านี่มันช่างเสียมารยาทเสียจริง เจ้าเนี่ยนะ ต่อให้รู้ว่าข้าเป็นพี่ชายเจ้า เจ้าก็จะทำกิริยากับข้าวเช่นนี้งั้นเหรอ เจ้านี่นะ เฮ้ยเวรกรรมอะไรของข้าแล้วเนี่ย มันเจอน้องอย่างเจ้า เจอหน้ากันก็กัดกันแบบนี้ โธ่เอ้ย ถ้าไม่น่าเลย นี่น่ามารู้จักคนอย่างเจ้าจริงๆ เดินเชิดหน้าใส่ฆ่าแบบนี้ เฮ้ยเห็นทีข้าต้องสั่งสอนเจ้าซะแล้วสิ เจ้าเด็กว่าเจ้าหญิงไม่รู้จักโต เฟอร์ยี่ อะไร ถ้าหนังหุบปากไปเลย ใครอยากจะเป็นพี่น้องกับท่านกันเล่า แถมกวนประสาทข้า ถ้าสมองเสื่อมหรือไง ข้าไม่ได้อยากเป็นพี่น้องกับท่านแล้วท่านจะมาว่าข้าไม่ใช่เด็กได้ยังไง ข้าโตแล้วนะ ข้าไม่ใช่เด็กน้อยอย่างท่านคิดนะ เฮ้ยข้าดูแลตัวก็ได้ ไม่ได้จำเป็นจะต้องให้ท่าน มาดูแลข้าเลยนี่นา แล้วอีกอย่างนึงนะ ข้าก็ไม่ง้อพี่ชายอย่างท่าน ต่อให้ท่านจะตบตีข้า เฮ้ยข้านี่แหละ จะล้างแค้นกับท่าน น้อยจะมาตีข้าเหร
หลังจากที่องค์ราชทายาทน้อยได้เข้าสู่การรบเชิงรบอย่างเป็นทางการดังนั้นเขาก็ได้รถโจมตีเมืองหยงหนานอีกครั้ง ยงหนานั้นเป็นเมืองเก่าแก่ ที่เป็นเมืองของ เหมยอี้ดังนั้นเขาจึงคิดว่าหยงหนานเป็นเมืองที่เคยเป็นสิ่งสกปรกและโสมมุมที่สุดดังนั้นเขาจึงตียึดเมืองคืนได้ดังนั้น เขาจึงอุปสมบทมรณะในการกำจัดศัตรูในเรื่องนี้ให้สิ้นซากดังนั้นเขาจึงล้มโค่นกษัตริย์ของหยงหนานได้ทันที ส่วน เหมืออี้นั้นก็อยู่ในแต่สุสาน และรกร้างดังนั้นมา เขาตีชนะศึกครั้งนี้กลับมาองค์รัชทายาทและคนรับใช้ของเขาอีก 2 คนและองครักษ์อีก 1 คนและแม่ทัพที่เหลือจึงได้กลับมาพร้อมหวังเฉือนทันทีในดังกล่าว หลังจากนั้น ก็ได้ทำอุปสมบทในการทำพิธีอัญเชิญ ให้แก่ ดวงวิญญาณของอีหมิงให้สู่สุคติและปราศจากพ้นทุกข์ทุกๆสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชาตินี้จากนั้นเขาจึงปลดปล่อย ให้อีหมิงเป็นอิสระและได้ไปเกิดในชาติต่อๆไปดังนั้น 9 เดือนที่ผ่านมา องค์ราชทายาทน้อยอีก 1 คนหรือโอรสอีก 1 คน หรือองค์ชาย ก็ได้สติเกิดขึ้น เขามีนามชื่อว่า หยัง อี้ องค์ชายหยางเฟยอี้เป็นองค์ชายองค์เดียวของในตระกูลชู เป็นองค์ชายที่ค่อนข้างทะลุดุดันแต่มีนิสัยจิตใจโอบอ้อมอารีแต่ก็อาจจะมีคล้ายเคื
3 วันต่อมา หลังจากที่ได้รับคำเชิญจากองค์ราชันเมืองหมิงหูแล้ว คุณชายถึงเฟย ก็ได้นำแสดงตัวไปยังเมืองหมิงหู โดยทันที และ นั่งเกี้ยว รถม้าสีแดง เดินทางตรงไปยังเมืองหมิงหูทันทีเลยได้รับการยอมรับในงานแต่งงานนี้อย่างเป็นทางการกับองค์ชายเผยอี้ ดังนั้นเขาสองคนนั้นจึงได้ร่วมกันทำพิธีในงานแต่งงานโดยทันทีหลังจากนั้นต่อมาก็ได้เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิด พี่หมิงนั้นได้พังประตูงานในเมืองของหมิงเข้ามาและเข้ามาโจมตีโดยเร็วอย่างสิ้นเชิงดังนั้นเขาจึงทำร้ายทั้งสองคน ทั้งเผยอี้ และ เฉินเฟย เท่านั้นได้ทำการทำลายพังงานแต่งงานของเขาทั้งสองคนเพื่อการที่จะทำลายชื่อเสียงของหลวงพี่โดยการเป็นราชันผู้ที่สูงศักดิ์ดังนั้นเขาจึงใช้พลังของตัวเองในการดึง ภาพมเหสีหมิงอ้าวกลับมายืนอยู่เคียงข้างตัวเองแต่ดังนั้นคนที่เข้ามาช่วยพระมเหสีหมิงเท่านั้นก็คือเผยอี้นั้นได้รวบรวมใช้วิชาของตัวเองเกิดเป็นการในต่อสู้กับ อีหมิงทันทีดังนั้นอีหมิงนั้นได้ตอบโต้อย่างรุนแรงจึงทำให้เผยอี้ได้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่ก็ถือกลับไม่สาหัสมากจนเกินไป ดังนั้นเขาจึงสู้กันระหว่างนั้นถึงเฟย ก็ได้ เห็นพลังอันสูงส่งของพี่หนิงที่แข็งแกร่งขึ้นดังนั้นเขาจึงกลายร
บ้านสกุลซ หมิงฉางและสาวใช้ วั เหมียวเหมียน ขอรูปอ้าวไม่ทราบว่า ท่านองครักษ์ ไปไหนมาหรือเจ้าคะ ข้าน้อยไม่ทราบว่า ท่านองครักษ์มีอะไร เหลือข้าน้อยอย่างนั้นหรือ เห็นเดินตามหาข้าน้อย ถ้าจะมองหาคุณชายเคยแล้วก็ นุ่นน่ะ อยู่ห้องทำงานเจ้าค่ะ พอดี ค่ากำลังจะ ยกน้ำชาไปให้คุณชายอยู่พอดีเลย ถ้าไม่อย่างนั้น ท่านไปพร้อมค่าก็ได้นี่ หมิงฉาง ข้าขอบใจเจ้ามากนะ เหมียวเนียน ข้าก็ขอบใจเจ้าเช่นกัน งั้นเจ้าไปกับข้าวเลยก็ได้นะ จะได้ไม่เสียเวลาเจ้าด้วย เพราะอีกอย่างเจ้าก็กำลังจะยกน้ำชาไปให้คุณชายไม่ใช่งั้นรึ ทันใดนั้นทั้งสาวใช้และองครักษ์ก็เดินตรงไปยังห้องพักของ ของคุณชายเคยทันที ผลักดันกล่าว เข้า 2 คนนั้นค่อนข้างรู้จักกันเป็นธรรมดาทั่วไปแต่เขาสองคนนั้น ก็ย่อมเป็นเพื่อนกันได้ดีมาตลอด ดังนั้นสาวใช้นั้น จึงได้ถามขึ้นว่า องครักษ์ของ คุณชายนี่เห็นรู้สึกเหมือนจะมีเรื่องเดือดร้อนเนื้อใจดังนั้นนางจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้นหน้าตาแตกตื่นมาขนาดนี้ เหมียวเหมียว ไม่ทราบว่า ท่านองครักษ์มีเรื่องเดือดร้อนเนื้อไส้อะไรอย่างนั้นหรือ ทำไมท่านถึงดูหน้าสีหน้าไม่ดีเลยนะ ถ้ามีเรื่องคงจะมีเรื่องต้องรายงานคุณชายใช่หรือไม่
ความคิดเห็น