หน้าหลัก / รักโบราณ / อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย! / บทที่ 2 (1/2) : ข้าขอเถิดนะ (1) ( มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

แชร์

บทที่ 2 (1/2) : ข้าขอเถิดนะ (1) ( มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-10 16:10:16

     อวิ่นเฟยหยวนหรี่ตาขึ้นมอง เมื่อรับรู้ได้ถึงอาการสั่นไหวเพิ่มขึ้นของร่างบาง พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงหลับตา เขาจึงตัดสินใจจับมือทั้งสองข้างของอวิ่นซงถิงขึ้นมาโอบรอบคอ แล้วอุ้มนางขึ้นนั่งบนโต๊ะ โดยที่ริมฝีปากของเขายังคงไม่ผละออกจากริมฝีปากของนาง

     หลังจากนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็ขบเม้มริมฝีปากอิ่มทั้งบน และล่าง เรียวลิ้นร้ายปาดเลียไปตามรอยแยก ระหว่างนั้นฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นมาแตะเบา ๆ ที่ปลายคาง แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งกับปลายนิ้วชี้บีบพวงแก้มนุ่ม จนริมฝีปากอิ่มเผยอออก 

     เรียวลิ้นร้ายที่ตามไล้เลียอยู่ไม่ห่าง พอสบโอกาสก็รีบสอดแทรกเข้าไปฉกชิมความหอมหวาน และไล่เกี่ยวรัดลิ้นเล็ก ๆ ของร่างบาง

     “อื้อ...” อวิ่นซงถิงครางประท้วง พร้อมกับลดมือทั้งสองข้างลงมาทุบเบา ๆ ที่แผงอกกว้าง นางกำลังจะขาดอากาศหายใจ อวิ่นเฟยหยวนก็ยอมผละริมฝีปากออกให้เล็กน้อย แต่ทว่าเพียงไม่นานก็ทาบทับริมฝีปากบางกลับลงมา

     จุมพิตครั้งนี้เร่าร้อนขึ้นกว่าเดิมมาก ริมฝีปากของอวิ่นซงถิงถูกดูดดึงไม่หนักไม่เบา เรียวลิ้นร้ายของอีกฝ่ายกวาดต้อนไปทั่วโพรงปากอย่างอุกอาจ  จากนั้นก็ตามพัวพันหยอกเย้าลิ้นเล็ก ๆ ของนาง 

     ฉับพลันเสียงคล้ายกับคนปาหินก้อนเล็กใส่ฝาไม้ด้านข้างของเรือนก็ดังขึ้นติดต่อกันถึงสามครั้ง!!

     เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณจากอาต้าน อวิ่นเฟยหยวนก็รีบผละริมฝีปากออกด้วยความรู้สึกเสียดาย เขาก้มมองดวงหน้างามที่แดงก่ำ มองริมฝีปากอิ่มที่ฉ่ำวาวตรงหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน 

     พอสงบใจได้ อวิ่นเฟยหยวนก็คลายอ้อมแขน แล้วก้าวเท้าออกไปดูว่า ผู้ใดกันที่เดินเข้ามาใกล้เรือนร้างหลังนี้ เพราะการที่อาต้านไม่ใช้อุบายไล่คนผู้นั้นให้ออกห่าง หรือไล่ต้อนคนผู้นั้นให้เดินไปอีกทาง แต่เลือกส่งสัญญาณบอกเขาเช่นนี้ ย่อมเป็นไปได้เกินแปดในสิบส่วนเลยว่า คนผู้นั้นจะต้องเป็นเจ้านายสักคนในจวนแห่งนี้

     แต่ยังไม่ทันที่อวิ่นเฟยหยวนจะได้ก้าวเดินไปจนถึงประตูห้อง เสียงพูดคุยของผู้มาใหม่ก็ทำให้เขาหยุดชะงัก แล้วรีบหันหลังกระโจนเข้าไปรวบร่างอวิ่นซงถิงเข้ามาในอ้อมแขน จากนั้นก็พุ่งแทรกกายเข้าไปใต้เตียง เพื่อหลบซ่อน

     “พี่ชายทำ...” อวิ่นซงถิงถามยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็กดศีรษะของนางแนบเข้ากับแผงอก แล้วก้มลงมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูว่า      

     “ชู่ว์ อยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ ก่อนนะคนดี” 

     ลมหายใจอุ่นร้อนของฝ่ายตรงข้ามเป่ารดลงมาที่ข้างแก้มขวา อวิ่นซงถิงรีบซุกใบหน้าลงไปที่แผงอกกว้าง แล้วเมื่อรับรู้ได้ว่า ร่างกายของนางกับร่างกายของอวิ่นเฟยหยวนใกล้ชิดแนบสนิท โดยไม่มีส่วนใดเว้นวาง แม้ยามนี้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น แต่ทว่าสิ่งใหญ่โตแข็ง ๆ บางอย่าง มันกำลังแนบชิดอยู่ที่หน้าขาของนาง!

     อวิ่นซงถิงตัวแข็งทื่อ หัวใจของนางสั่นไหว แล้วในขณะนั้นนางก็ได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้อง ตามด้วยเสียงฝีเท้าไม่ต่ำกว่าสองคู่เดินเข้ามาใกล้บริเวณที่พวกนางกำลังซ่อนตัวอยู่

     หลังจากนั้นอวิ่นซงถิงก็ได้ยินเสียงพูดคุยที่คุ้นหูดังขึ้นว่า

     “อาเฉียว ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก” 

     “บ่าวก็คิดถึงนายท่านเจ้าค่ะ แต่...นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะเจ้าคะ นายท่านเจ้าคะ! อย่า...อื้อ!”

     “ข้าหาได้สนเรื่องเวลาไม่ ข้าสนเพียงแค่...” 

     “นายท่านเจ้าคะ บ่าวยังจะต้อง...อึก! นายท่าน...ตรงนั้น... อื้อ!!” 

     ‘เสียงท่านพ่อกับอาเฉียว!’ อวิ่นซงถิงตกตะลึง แม้นางจะรับรู้มาโดยตลอดว่า มารดายินยอมให้ผู้เป็นบิดามีอนุภรรยากับบ่าวอุ่นเตียงได้หลายคน ในวัยเด็กแม่นมก็เคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมีนาง...ผู้เป็นมารดาถึงขั้นเคยคัดเลือกบ่าวสตรีในเรือนขึ้นเตียงให้กับบิดาเดือนละคน แต่นางก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่า แม้แต่อาเฉียว ซึ่งเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของนางก็เป็นหนึ่งในบ่าวอุ่นเตียงของบิดาด้วย 

     เมื่อดึงสติของตนเองกลับมาได้ อวิ่นซงถิงจึงยกคอขึ้นเล็กน้อย แล้วเอี้ยวมองออกไปจากใต้เตียง ยามนี้นางเห็นเท้าของหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีค่อย ๆ ถอยใกล้เข้ามาราวกับว่า คนทั้งสองกำลังโอบกอดกันอยู่ จากนั้นเท้าทั้งสองคู่ก็มาหยุดอยู่ข้างหน้าเตียง แล้วทรุดตัวนั่งลงมา 

     แล้วหลังจากนั้นอวิ่นซงถิงก็เห็นเสื้อผ้าของคนทั้งสองร่วงลงมาที่พื้นทีละชิ้นทีละชิ้น

     “นายท่านเจ้าคะ เตียง...เตียงหลังนี้มันจะ...อึก! อย่าเพิ่งเจ้าค่ะ นาย...นายท่านเจ้าคะ ได้โปรด...อื้อ! ได้โปรดหยุดฟังที่บ่าวพูดสักนิดเถิดเจ้าค่ะ คือ เตียงหลังนี้คราก่อนมันใกล้จะ...อ๊ะ! อื้อ!!”

     “หึ! เจ้ากลัวเตียงจะหักอยู่หรือ? ดูให้ดีสิ...นี่มันเตียงหลังใหม่ ข้าเพิ่งให้คนนำมาเปลี่ยนเมื่อเช้า อาเฉียว ยกสะโพกของเจ้าขึ้นมา”

     “นายท่านเจ้าคะ บ่าว... อ๊ะ! นายท่านตรงนั้นมัน...อึก! ได้โปรดช้าลงหน่อยเจ้าค่ะ ข้าใกล้จะ...อ๊ะ! อ้า!!”

     “อาถิงอยู่นิ่ง ๆ”

     อวิ่นซงถิงเมื่อได้ยินเสียงกระซิบเตือนจากบุรุษข้างกาย นางก็รีบหดคอกลับลงมา วันนี้มีเรื่องทำให้นางรู้สึกตกใจมากมาย จนตอนนี้นางแทบจะแยกแยะความรู้สึกของตนเองไม่ได้ แต่เอาเถิด! เรื่องอาเฉียวกับผู้เป็นบิดาหาใช่เรื่องที่นางจะสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ 

     แต่ทว่า...

     “อาเฉียว ขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวข้า”

     “นายท่านเจ้าคะ อย่าเพิ่งใส่เข้ามา...อ๊ะ! มัน...อึก! อย่าเพิ่งขยับเจ้าค่ะ! บ่าว...อื้อ!!”

                                           .......................................................................

     ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 13 (2/2) : ก้มหน้ายอมรับ (2) 

    หลังจากจัดการเรื่องรอยแดงบนหน้าผากของบุตรสาว และอดีตบุตรบุญธรรมเสร็จ เผิงจินเยว่จึงสั่งให้เด็กทั้งสองบอกเล่าถึงต้นสายปลายเหตุ เนื่องจากนางเลี้ยงดูอวิ่นซงถิงกับหลิวเฟยหยวนมาเองกับมือ เหตุใดจะไม่รู้ถึงนิสัยใจคอของเด็กสองคนนี้ พอเผิงจินเยว่ได้รับฟังเรื่องราวทุกอย่างจบ ซึ่งมันก็เป็นไปตามคาด...! เผิงจินเยว่หันไปต่อว่า ท่านพ่อตาผู้หวงบุตรสาวก่อนเป็นคนแรก จากนั้นนางก็หันมาต่อว่าบุตรสาว และอดีตบุตรบุญธรรมที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นตรงหน้า... ซึ่งที่จริงยามนี้เผิงจินเยว่ก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย แม้ในช่วงวัยเยาว์ของหลิวเฟยหยวนกับอวิ่นซงถิงนางจะสังเกตเห็นสายตา ความใกล้ชิด และท่าทีสนิทสนมที่เกินพอดีระหว่างคนทั้งคู่อยู่บ่อยครั้ง แต่เพราะในช่วงเกือบสามปีที่ผ่านมาหลิวเฟยหยวนแสดงท่าทีเฉยชา และเว้นระยะห่างกับบุตรสาวของนางอย่างชัดเจน 

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 13 (1/2) : ก้มหน้ายอมรับ (1) 

    อวิ่นซงถิงตกใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินว่า บิดามารดาของนางเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว แม้ภายในใจจะเริ่มหวาดกลัว แต่จะช้าหรือเร็ว นางก็ย่อมต้องเผชิญหน้ากับพวกท่าน “พี่ชาย เช่นนั้นพี่ไปซ่อนตัวบนเตียงรอข้าก่อนนะเจ้าคะ” “แต่...” ยังไม่ทันที่หลิวเฟยหยวนจะได้เอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธ เขาก็เห็นอวิ่นซงถิงลุกเดินไปถึงหน้าประตูห้องพักแล้ว หลิวเฟยหยวนจึงได้แต่รีบเก็บพวกถ้วย และพวกจานเปล่าบนโต๊ะกลมใส่ลงไปในตะกร้า จากนั้นเขาก็นำตะกร้าใบใหญ่ไปวางไว้นอกหน้าต่าง แล้วส่งสัญญาณเรียกอาต้านให้มารับ ก่อนจะพุ่งตัวไปซ่อนบนเตียงนอนตามคำสั่งของร่างบาง เมื่อเห็นบุรุษที่ตนรักซ่อนกายเรียบร้อยแล้ว อวิ่นซงถิงจึงเปิดประตูเรียกเหล่าบ่าวรับใช้เข้ามาเตรียมอาภรณ์ เตรียมของใช้ และยกน้ำเข้ามาให้นางอาบ แล้วนางก็ได้สั่งให้อาเฉียวไปแจ้งผู้เป็นบิดา

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 12 (2/2) : ให้ความร่วมมือ (2)

    อวิ่นซงถิงรู้สึกตัวอีกทีก็เข้าสู่ปลายยามเฉิน (ยามเฉิน เวลา 07:00 -08:59 น.) แล้วที่ตื่นก็เพราะหลิวเฟยหยวนใช้จุมพิตหวานกับฝ่ามือหนาทั้งสองข้างปลุกเร้าจนทำให้นางไม่อาจฝืนข่มตาหลับต่อได้ ซึ่งในค่ำคืนที่ผ่านมา กว่านางจะได้หลับก็เกือบรุ่งสาง หากนับเวลา...ยังไม่ถึงสองชั่วยามเลยด้วยซ้ำ!! อวิ่นซงถิงเงยหน้าขึ้น แล้วจ้องมองหลิวเฟยหยวนตาเขียวปั้ด ขณะที่นางอ้าปากเตรียมจะต่อว่า เสียงตะโกนปลุกจากบ่าวรับใช้คนสนิทของนางก็ดังแทรกเข้ามาในห้องพัก อวิ่นซงถิงตื่นตกใจ นางเตรียมจะลุกออกจากเตียง ด้วยเพราะกลัวว่า เหล่าบ่าวรับใช้คนสนิทจะเปิดประตูห้องพักเข้ามาปรนนิบัติดูแลนางเหมือนในทุก ๆ เช้า แล้วในขณะที่อวิ่นซงถิงจะลุกขึ้นนั่ง วงแขนหนาก็รั้งตัวนางเข้าไปโอบกอด หลิวเฟยหยวนจับปลายคางของนางให้หันกลับไปสบตากับเจ้าตัว จากนั้นก็ขยับเข้ามากระซิบว่า&nb

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 12 (1/2) : ให้ความร่วมมือ (1) ( มี nc นะเจ้าคะ)

    พอได้ยินคำพูดเช่นนั้นจากบุรุษตรงหน้า อวิ่นซงถิงก็สำนึกได้ว่า เมื่อครู่ตนเพิ่งจะเอ่ยร้องขอชีวิต หลิวเฟยหยวนถึงได้ยอมหยุด แล้วในยามนี้ส่วนลับของนางก็ยังรู้สึกเจ็บ ๆ ชา ๆ แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบรับหรือปฏิเสธ จุมพิตอ่อนหวานจากหลิวเฟยหยวนก็ทำเอาอวิ่นซงถิงเคลิบเคลิ้ม จนเกือบจะลืมสิ้นแล้วทุกอย่าง จากนั้นฝ่ามือหนาก็ขยับขึ้นมาเคล้นคลึงทรวงอกของนาง ทั้ง ๆ ที่อยากจะเอ่ยปฏิเสธ แต่ความอ่อนโยน และความอ่อนหวานของบุรุษที่ตนรักกลับมีแรงดึงดูดที่ทำให้อวิ่นซงถิงราวกับตกอยู่ในภวังค์ แล้วทันใดนั้น หลิวเฟยหยวนก็ยกตัวนางขึ้น จากนั้นเจ้าสิ่งใหญ่โตแทรกเข้ามาทีเดียวจนสุด “อึก! พี่ชาย...อื้อ!!” เสียงครางหวานดังขึ้น พร้อมกับดวงหน้างามที่แหงนเชิด ยามนี้มือของสตรีบนร่างจิกลงบนไหล่กว้างของเข

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 11 (2/2) : แสร้งทำเป็นพลาด (2) ( มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

    อวิ่นซงถิงนอนหมดแรงอยู่บนเตียง นางไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะใช้ยกแขนขึ้นด้วยซ้ำ! นางจึงยอมให้บุรุษบ้ากาม และไร้ยางอายอย่างหลิวเฟยหยวนช่วยพาไปอาบน้ำ แต่ผู้ใดจะคิดล่ะว่า... หลิวเฟยหยวนถ่ายทอดพลังภายในลงไปที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง แล้วจุ่มลงไปในถังอาบน้ำ พออุณหภูมิน้ำในถังอุ่นกำลังดี เขาก็รีบกลับมาอุ้มอวิ่นซงถิงที่ร่างกายเปลือยเปล่าไปนั่งแช่ตัวในน้ำอุ่นให้ผ่อนคลาย ระหว่างนั้นหลิวเฟยหยวนก็รีบเดินกลับไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ก่อนจะกลับมาดูแลปรนนิบัติสตรีที่เขารักอาบน้ำ เมื่อหลิวเฟยหยวนเดินกลับเข้ามาหลังฉากกั้น เขาก็เห็นอวิ่นซงถิงรีบขยับตัวนั่งหันหลังให้กัน ซึ่งเขาก็พอจะคาดเดาได้ว่า นางน่าจะกำลังเขินอาย หรือไม่...ก็คงจะไม่กล้ามองมาที่ตัวเขา เนื่องจากยามนี้ร่างกายของเขาก็เปลือยเปล่าไม่ต่างไปจากนาง หลิวเฟยหยวนหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ เมื่อ

  • อย่าเรียกข้าว่า...พี่ชาย!   บทที่ 11 (1/2) : แสร้งทำเป็นพลาด (1) ( มี nc นะเจ้าคะ)

    “อ๊ะ! ฮึก...!!” สตรีใต้ร่างกรีดร้องผวาขึ้นมาโอบกอดเขาทั้งน้ำตา หลิวเฟยหยวนกดแช่แก่นกายทิ้งค้างเอาไว้อย่างนั้น แล้วไล่จุมพิตหยาดน้ำใสบนดวงหน้างาม จากนั้นเขาก็ก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปาก พวงแก้มนวลทั้งสองข้าง ก่อนจะซุกไซ้ลงไปที่ลำคอขาวผ่องของร่างบาง อวิ่นซงถิงเริ่มรู้สึกอึดอัด แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก นางจึงไม่กล้าแม้แต่จะขยับแขนและขา ทว่าสิ่งใหญ่โตของหลิวเฟยหยวนก็กระตุกอยู่ในตัวนางไม่หยุด แล้วเมื่ออีกฝ่ายค่อย ๆ ขยับสะโพกเข้าหา แม้จะยังรู้สึกเจ็บ และจุกมาก! แต่ก็เหมือน...นางเหมือนจะเริ่มรู้สึกเสียวซ่าน หลังจากนั้นความกำหนัดก็เริ่มเข้ามาแทนที่ความรู้สึกเจ็บปวดทีละน้อย หลิวเฟยหยวนกัดฟัน เขาพยายามข่มกลั้นความรู้สึกของตัวเองไม่ให้ทำตามใจอยาก เขาค่อย ๆ ขยับตัวเข้าออกอย่างเชื่องช้า แต่ความอุ่นร้อน คับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status