เข้าสู่ระบบ“ไม่จริง ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะคะ”
“ยังจะปากแข็งไม่เลิกอีก จะให้โชว์หลักฐานให้ทุกคนดูมั้ยว่าเธอสวมเขาให้ฉัน มานี่เลย มานี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้”
กวินภพใช้แรงกำลังที่เหนือกว่า ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน แม้ว่าเธอจะฝืนร่างกายเอาไว้ก็ตาม
“ลุงจ๋า ลุงช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะคะ” เธอหันมาเว้าวอนคนที่อยู่ใกล้ที่สุด
“กลับบ้านไปหาลูกเถอะนังหนู กลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ”
คนขับแท็กซี่พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปยังรถทำมาหากินของตน พร้อมกับค่าเสียหายหลายหมื่นที่อยู่ในมือ กวินภพยิ้มเยาะยามที่ได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้
“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน้องหนู งานนี้เธอตายคาไร่ของฉันแน่ มานี่”
เขาขู่ฟ่อเธออีกครั้ง ก่อนที่จะลากร่างสาวไม่หยุด เพลงมีนาก็ยังฝืนตัวและเปล่งเสียงร้องห้าม เสียงขอความช่วยเหลือต่อไป แต่ทว่าไม่มีใครสนใจเรื่องของผัวเมียเลยสักคน ต่างเดินกลับไปทำงาน ไปค้าขายของตนตามเดิม
กวินภพลากร่างอวบอิ่มมาจนถึงประตูตอนหลังของรถยนต์คันหรูของตนที่เปิดอ้าอยู่ ออกแรงกระชากเธอให้ลุกขึ้นยืนเพียงครั้งเดียว ก่อนจะผลักร่างสาวเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะหันไปรับกระเป๋าสะพายของเพลงมีนาที่อยู่ในมือของจตุรทิศมาปาใส่ร่างของหญิงสาว
กระเป๋าใบใหญ่ที่มีน้ำหนักมากเนื่องจากเธอใส่เครื่องมือสื่อสารไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์และไอแพด เธอจึงเจ็บจนจุกไปในทันทีเมื่อโดนกระแทก หนำซ้ำตรงช่วงขาที่ถูไถไปบนพื้นถนนคอนกรีตยังแสบร้อนไปทั้งขา โชคดีที่ว่าวันนี้เธอสวมใส่กางเกงยีนส์ จึงทานแรงเสียดสีได้มากโข หากเธอสวมใส่กระโปรงมามีหวัง ขาของเธอต้องถลอกเป็นรอยแดงแน่นอน
ปัง...
เสียงปิดประตูโครมใหญ่ หลังจากที่เจ้าของรถสอดตัวเข้ามานั่งข้างๆ ร่างเล็กที่ถอยร่นไปนั่งชิดติดประตูอีกด้าน นั่งมองหน้าเขานิ่งงัน มองทั้งน้ำตา
“ฮือๆๆ คุณทำกับฉันอย่างนี้ทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ”
เพลงมีนาร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น เหลือบมองใบหน้าของเขาเพียงแวบเดียว ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าตักของตนเอง เมื่อเห็นประกายตาน่ากลัวคู่นั้น
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉันน้องหนู ทั้งๆ ที่เธอรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองทำอะไรไว้กับฉันบ้าง”
เสียงเข้มโต้กลับ ดวงตาคมกล้ามองเขม็งไปยังร่างสาวที่กอดกระเป๋าเอาไว้แน่น สายตาคู่นั้นแข็งกร้าว โกรธแค้น อยากจะเฉือนเนื้อเธอออกมาทาเกลือแล้วแปะทับเข้าไปใหม่ ให้เธอแสบร้อนครางครวญอย่างทุกข์ทรมาน
“ฉันไม่ใช่น้องหนู ฉันไม่ใช่ ฉันชื่อเพลงมีนา”
“อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันน้องหนู อย่ามาทำเป็นไม่รู้จักฉัน ไม่รู้ว่าตัวเองชื่อเสียงเรียงนามอะไร” เขาตวาดลั่นเสียงดังลั่นรถที่กำลังมุ่งตรงไปยังไร่พฤกษาจังหวัดลำปาง “อ๋อ!!...ฉันลืมไป ชื่อน้องหนูเป็นชื่อปลอม ชื่อจริงของเธอคงจะชื่อเพลงมีนาล่ะซิ”
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้ชื่อน้องหนู ไม่เคยใช้ชื่อนี้ด้วย ฉันใช้แต่ชื่อเพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนา เพลงมีนาได้ยินหรือเปล่า ฉันชื่อเพลงมีนา”
เธอตะโกนใส่หน้าชายหน้าเข้มบ้าง พอตะโกนออกไปใจสาวก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เมื่อเขาเลื่อนลำตัวเข้ามาใกล้ เอื้อมมือมาบีบแก้มทั้งสองข้างของเธอ จนแก้มเนียนสวยร้าวเจ็บไปทั่ว น้ำตาจึงขับออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้าง
“ใช่ เธอชื่อน้องหนู ฉันสมองไม่เสื่อม ตาไม่พร่ามัวถึงขนาดจำคนที่ทำให้ฉันเกือบจะเจ๊งไม่ได้หรอกนะ ฉันสู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปกับไร่นี้ตั้งหลายปี แต่พอเธอเข้ามาทำงานในไร่ของฉัน เธอก็สร้างความฉิบหายให้กับฉันอย่างมากมาย ยั่วยวนคนงานในไร่จนหลงหัวปักหัวปรำ ก่อนจะชักชวนให้ไปทำงานในไร่ของไอ้ท็อป พอพ้นวันกำหนดที่เก็บเกี่ยวเสร็จ เธอก็ให้ไอ้ท็อปมันถีบหัวคนงานทิ้ง ปล่อยพวกเขาลอยแพ ตกงานอย่างไม่ดูดำดูดี ส่วนเธอพอเป็นนกต่อเสร็จก็บินหนีอย่างไร้ร่องรอย สองเดือนมานี้ฉันไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย แล้วคงไม่โง่ปล่อยให้เธอเดินออกไปจากไร่นี้ง่ายๆ แน่ เธอจะต้องได้รับบทเรียนที่ทำไว้กับฉัน”
กวินภพกล่าวอย่างเดือดดาล ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาเขาไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องการออกตามหาน้องหนูเลย เริ่มต้นหาจากป้านุ่มเพราะน้องหนูคือหลานสาวของนาง ทว่าพอไปคาดคั้นถามความจริงจึงปรากฏขึ้น น้องหนูไม่ใช่หลานของนาง แต่เป็นผู้จ้างวานให้นางพูดและทำเช่นนั้น กล่าวคือให้นางบอกกับเขาว่าขอลาหยุดไปรักษาตัวจนกว่าจะหาย แต่ระหว่างนั้นจะให้หลานสาวมาทำหน้าที่แทน แล้วที่ป้านุ่มยอมทำตามเป็นเพราะตอนนั้นหลานของนางเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับคู่กรณี ทำให้ตอนนั้นนางเดือดร้อนเรื่องเงินมาก พอน้องหนูยื่นขอเสนอในการออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ และให้เงินค่าจ้างอีกจำนวนหนึ่ง ป้านุ่มจึงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของน้องหนู อีกทั้งไม่ได้ถามหรือคิดสงสัยเลยว่า เหตุใดน้องหนูจึงต้องการเข้าไปทำงานในไร่พฤกษามากขนาดนี้
ณ ตอนนั้นเขาไม่มีข้อมูลของน้องหนูเลย คำพูดของป้านุ่มส่งผลให้เขาเกิดทางตันขึ้นมาทันทีทันใด ความที่เธอเป็นหลานของป้านุ่มทำให้เขาไม่ได้ขอหลักฐานต่างๆ เช่นสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านไว้ เขาจึงไม่ทราบเลยว่าชื่อน้องหนูคือชื่อจริงหรือว่าชื่อเล่น แต่
กวินภพก็ใช้หลักฐานที่มีอยู่น้อยนิดเป็นช่องทางออกตามหา เขาไว้วานให้วิกรมหลานชายของป้าพิณที่ทำงานอยู่ในที่ว่าการอำเภอสืบเสาะหาข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ให้
ปรากฏว่าชื่อน้องหนูที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์ไม่กี่คน แล้วไม่กี่คนที่ว่านี้หาใช่น้องหนูที่เขาต้องการตัวไม่ นั่นหมายความว่าชื่อน้องหนูเป็นเพียงชื่อเล่นหรือไม่ก็ชื่อปลอม กวินภพสันนิษฐานไว้เช่นนั้น คราวนี้ช่องทางการออกตามหาน้องหนูแทบจะไม่มีเลย เพราะหลังจากที่งานสำเร็จเธอได้อันตรธานไปจากไร่ปลายฟ้า หลอกถามคนในไร่แห่งนั้นก็ไม่ได้ความอีก
ส่วนคนงานในไร่ที่เคยหลงผิดไปทำงานในไร่ปลายฟ้า ต่างพากันมาขอพึ่งใบบุญกวินภพ เนื่องจากพวกเขาถูกปล่อยลอยแพ เงินเดือนที่มากกว่า สวัสดิการและความเป็นอยู่ที่เหนือกว่าไร่พฤกษาตามคำกล่าวชักชวนของน้องหนู ไม่ได้เป็นไปดั่งที่พวกเขาคิดเอาไว้ จนในที่สุดพวกเขาก็ถูกผลักไสให้ออกจากไร่ปลายฟ้าโดยเจ้าของไร่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร ให้เงินเดือนครึ่งเดือนเท่านั้น
กวินภพรู้สึกสงสารคนงานเหล่านั้น แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเขาก็หนักหนาสาหัสเช่นกัน ไม่เพียงแค่เขาเก็บผลผลิตไม่ทัน ยังต้องเสียเงินค่าปรับไปเป็นจำนวนเงินไม่น้อย หากรับเข้าทำงานโดยไม่มีการลงโทษ มันก็กระไรอยู่ บทลงโทษของเขาไม่ใช่การซ้ำเติม แต่ทำให้ทุกคนรู้ว่าก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป ต้องไตร่ตรองให้หนักเสียก่อน เขารับคนงานทุกคนกลับเข้ามาทำงานในไร่ ภายใต้ข้อแม้ว่าเงินเดือนที่ทุกคนเคยได้รับ เขาจะหักออกหนึ่งส่วนเป็นระยะเวลาหกเดือน อาทิเช่น นายโม่งได้รับเงินเดือนสี่พันบาท ก็จะได้รับค่าจ้างเดือนละสามพันบาทแทน หากใครยินยอมตามข้อตกลงเขาก็เต็มใจรับเข้าทำงานใหม่ แต่ถ้าไม่ก็ไปหางานใหม่ทำ ซึ่งทุกคนต่างยอมรับกติกาที่กวินภพตั้งขึ้น คิดว่าดีกว่าตกงานไม่มีรายได้
กวินภพก็ใช้คนเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์อีกทางหนึ่ง ทางนั้นก็คือให้คนงานทั้งหลายเป็นหูเป็นตา หากใครพบเห็นน้องหนูให้รีบตระคลุบตัวเอาไว้ แล้วเขาจะเดินทางมาจัดการด้วยตัวเอง แต่ไม่คิดว่าพอจะเจอก็เจออย่างง่ายดาย
ทุกการกระทำของเมธาวีอยู่ในสายตาของเพลงมีนาตลอด เชลยสาวรู้สึกทึ่งไม่น้อยกับการทำอาหารที่คล่องแคล่วราวกับมืออาชีพ ต่างกับเธอที่กว่าจะหยิบจับอะไรดูจะเก้ๆ กังๆ ขัดหูขัดตาเสมอ ในความทึ่งเธอยังมีความเสียใจตามติดมาด้วย“มาแล้วค่ะพี่ทอร์ช รับรองว่าอร่อยกว่าชามเมื่อกี้แน่นอนค่ะ”สัตวแพทย์พูดเกทับจนคนทำข้าวต้มชามก่อนหน้าน้ำตาคลอ มองข้าวต้มที่หน้าตาน่าทานกว่าชามของเธอเป็นไหนๆ ด้วยสายตาเศร้าหมอง เสียใจและน้อยใจกวินภพมองข้าวต้มชามใหม่ที่ไฉไลกว่าชามก่อนหน้าด้วยอารมณ์สองจิตสองใจ หากทานก็กลัวว่าเพลงมีนาจะเสียใจ เพราะเธอสู้อุตส่าห์ปรุงอาหารให้เขาทาน ทั้งที่รู้ว่าอาหารชนิดนั้นๆ จะไม่ได้เรื่องได้ราวก็ตาม ทว่าเธอก็ไม่ย่อท้อที่จะทำ ซึ่งเขาเองก็เต็มใจทานอาหารไม่ได้เรื่องนั้นอยู่แล้วหากไม่ทานเมธาวีอาจจะเสียใจและน้อยใจ อีกทั้งยังเสียมารยาทเป็นเพราะเธอเป็นแขกของเขา ที่สำคัญเขายังจำรสชาติการทำอาหารของเธอได้ดีว่า อร่อยล้ำมากแค่ไหนเพลงมีนายืนลุ้นว่า เขาจะตัดสินใจทานข้าวต้มชามนั้นหรือไม่เมธาวีเองก็นั่งลุ้นว่าเขาจะเลือกทานอาหารยอดแย่หรือเลิศรสและในที่สุด สาวทั้งสองก็ได้คำตอบ“เป็นไงบ้างคะพี่ทอร์ช อร่อยหรือเปล
ห้องครัวภายในบ้านพักของกวินภพหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นข้าวต้มหมูทรงเครื่อง ฝีมือของแม่ครัวมือใหม่ที่พยายามทำตามสูตรในตำราแบบตรงเป๊ะ ส่วนผสมไม่ขาดไม่เกิน เธอจึงมั่นอกมั่นใจว่า อาหารเช้ามื้อนี้จะต้องได้รับคำชมจากเจ้าของไร่แน่นอน วันนี้เธอตื่นสายกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อคืนนี้ร่างกายและจิตใจถูกกระทำย่ำยีอย่างหนักจากฝีมือของเจ้าของไร่จอมโหด พอตื่นขึ้นมาอาการตึงๆ เจ็บหน่วงๆ ตรงใจกลางร่างสาวยังพอมีอยู่บ้าง ขยับตัวลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำจึงยากกว่าทุกวัน แต่พอได้รับความเย็นจากสายน้ำ น่าแปลกที่ความอ่อนเพลียถูกขจัดออกไป เหลือเพียงความเจ็บปวดที่พอจะทนไหวเท่านั้น หลังจากที่ชำระล้างร่างกาย ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จสรรพ เธอจึงลงมายังห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้าที่กวินภพมักพูดเสมอว่า ไม่ได้เรื่อง แต่ก็ทานหมดทุกวัน “คุณทอร์ชมาแล้ว”เสียงโมบายที่ห้อยไว้ด้านบนขอบประตูดังขึ้น เมื่อประตูไม้สักลายสวยถูกเปิดออก เป็นสัญญาณบอกคนในบ้านว่า กำลังมีคนเข้ามาในบ้าน เพลงมีนาจึงสันนิษฐานว่า จะต้องเป็นเจ้าของไร่ เนื่องจากเขาจะกลับมาทานอาหารเช้าเสมอแม้ว่าจะออกไปทำธุระด่วนภายในไร่ มือเล็กบรรจงตักข้าวต้มหม
เธอหันกลับมาพร้อมกับขานรับ “คะ พี่ทอร์ช”“เมย์มาตั้งแต่เช้าแสดงว่ายังไม่ได้กินอะไร จะรังเกียจมั้ยถ้าจะไปกินข้าวเช้าบ้านพี่” เขากล่าวชวนในที่สุด หลังจากที่ตัดสินใจอยู่ชั่วครู่ เมธาวีหน้าเศร้าลงทันทีที่ได้ยินประโยคคำพูดของกวินภพ“เมย์ต้องถามพี่ทอร์ชต่างหากค่ะว่า พี่ทอร์ชรังเกียจเมย์หรือเปล่า” น้ำเสียงสำนึกผิดถามกลับ คนที่ฟังอยู่แม้ว่าภายในจิตใจยังระอุด้วยความโกรธแค้น แต่พอเห็นสีหน้าของเมธาวีตอนนี้แล้ว เขารู้สึกโกรธเธอไม่ลง“เรื่องมันผ่านไปแล้วอย่าไปนึกถึงมันเลย”“ไม่นึกถึงมันไม่ได้หรอกค่ะ เพราะสิ่งที่เมย์ทำไว้กับพี่ทอร์ชมันยังอยู่ในความทรงจำของเมย์ตลอดเวลา แม้ว่ามันจะผ่านมาสี่ปีแล้วก็ตาม”เมธาวียังจำวันที่เธอบอกเลิกกวินภพได้ดีว่า สีหน้าและแววตาของเขาในวันนั้นเป็นอย่างไร ภาพทุกภาพที่เธอเห็นคือความเสียใจอย่างสุดแสน ซึ่งเธอเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเลย“พี่บอกแล้วไงว่าช่างมันเถอะ” เขาพูดย้ำอีกครั้ง “แล้ว...แล้วสามีเมย์ล่ะ” เป็นคำถามที่เขาแทบจะกลั้นใจถามเธอส่ายหน้าช้าๆ แล้วตอบ “เมย์ไม่มีสามีหรอกค่ะ”“ไม่มีสามี” เขาทวนเสียงประหลาดใจ “หมายความว่าไงที่ว่าเมย์ไม่มีสามี เมย์บอกเลิกกับพี่เพื่อไ
เช้าวันรุ่งขึ้นกวินภพตรงดิ่งไปยังคอกม้าทันทีโดยที่ยังไม่รับประทานอาหารเช้า เขาควบขี่ม้าให้เร็วมากขึ้นตามหัวใจที่ร้อนรุ่มไม่แพ้กัน หลังจากที่ทราบข่าวจากจตุรทิศว่า อาการของลูกม้าตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาจึงรีบเร่งมาดูโดยลืมใส่ใจเพลงมีนาที่วันนี้ตื่นสายกว่าทุกวัน “ตั้ม ลูกม้าเป็นไงบ้าง”กวินภพเอ่ยถามลูกน้องคนสนิททันทีที่กระโดดลงมาจากหลังม้าพันธุ์อาราเบียนนามว่า อเล็กซ์ “อยู่ในคอกครับ คุณเมย์กำลังดูแลอยู่ครับ” เหมือนมีใครมาฉุดรั้งเท้าที่กำลังก้าวเดิน เมื่อกวินภพได้ยินชื่อของใครบางคนลอดผ่านปากของจตุรทิศ ก่อนจะก้าวเดินไปยังคอกม้าดังกล่าวอย่างมั่นคงแม้ว่าจิตใจจะสั่นไหวบ้างเล็กน้อยก็ตามเจ้าของไร่เดินมาถึงคอกม้าคอกหนึ่งที่อยู่ด้านในสุด เขาหยุดยืนมองดูสตรีนางหนึ่งสวมชุดทะมัดทะแมงกำลังตรวจดูอาการของลูกม้าคลอดก่อนกำหนดอย่างใกล้ชิด แล้วดูเหมือนว่าเมธาวีจะรับรู้ได้ว่ามีคนลอบมอง ดวงหน้าสวยพริ้งจึงเงยขึ้นมองเจ้าของสายตาคู่นั้น“พี่ทอร์ช” เสียงหวานของเมธาวีดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม “มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยนะคะ”“เมย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วดำเกิงยังไม่กลับมาจากกรุ
“เมย์ เมย์”เป็นครั้งแรกที่เพลงมีนาได้ยินชื่อนี้ เป็นชื่อที่เธอไม่รู้เลยว่าเจ้าของชื่อนี้คือใคร เหตุใดเขาจึงเอ่ยชื่อนี้ออกมา ทั้งที่ก่อนหน้าเขาเรียกชื่อเธอตลอดเวลาแต่ทำไมหนอ ทำไม...หัวใจของเธอมันกระตุกแรงอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกมันดูแปลกๆ ขึ้นมาทันทีทันใด หากเขาไม่จิตใจเชื่อมโยงกับเจ้าของชื่อนี้ กวินภพคงไม่เปล่งชื่อ เมย์ ออกมา ความสงสัยจึงมาพร้อมกับความเสียใจโดยไม่รู้ตัว“โอ๊ย!!...เจ็บค่ะ เจ็บ คุณทอร์ช ได้โปรด...พอเถอะคะ เพลงเจ็บ”เธอเว้าวอนทั้งน้ำตา แรงจังหวะไม่ผ่อนปรน หนำซ้ำยังเพิ่มแรงจ้วงใส่ ออกแรงกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนดอกไม้สวยสดบอบช้ำและร้าวระบมไม่เพียงแค่ถ้ำสวรรค์จะถูกรุกรานอย่างหนัก ทรวงอกสาวทั้งสองข้างก็กำลังถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งที่ปล่อยข้อเท้าเล็กให้เป็นอิสระบีบขยำเต็มแรง รอยประทับติดซ้ำซ้อนกันจนนับไม่หวาดไม่ไหว ปลายถันก็ถูกลงโทษเช่นกัน ถูกจิก บี้บด ขยี้จนแทบจะแหลกคานิ้วกวินภพที่ถูกครอบงำจากความโกรธ ความแค้นในอดีตไม่รู้ตัวเลยว่า บัดนี้เขากำลังลงโทษคนผิด ลงทัณฑ์สวาทกับคนที่ไม่รู้เรื่อง และตอนนี้เธอก็กำลังจะทานรับความเจ็บปวดไม่ไหว ชายหนุ่มเจ้าของไร่เอาแต่สาดใส่ทุกความรู
แผ่นหลังบางเสียดสีกับแผงอกกว้างทุกครั้งยามที่เขากระชั้นความเป็นบุรุษรุกล้ำดงดอกไม้ และนั่นยิ่งทำให้ความร้อนกระจายไปทั่วร่างสาวได้ดีอีกทางหนึ่ง การเร่งเร้าอารมณ์ของกวินภพกำลังทำให้สาวน้อยอ่อนหัดในด้านเกมสวาททานทนรับกับความรู้สึกทั้งหลายทั้งมวลไม่ได้ ร่างของเธอกำลังลอยขึ้นสูงไปยังสวรรค์เบื้องบน สถานที่ที่เธอไปเยือนกี่ครั้งกี่หนก็ไม่มีเบื่อ“ขยับตัวลงมาสิเพลง ขยับลงมา...อืม”เขาเอ่ยเสียงสั่น ซึ่งเธอเองก็ทำตามที่เขาบอกแม้ว่านี่คือครั้งแรกที่เธอเป็นผู้ควบคุมเกมสวาทด้วยตนเองก็ตาม ร่างบางขยับตัวขึ้นก่อนจะกระแทกลงมาเบาๆกวินภพกลับทำในสิ่งที่เพลงมีนาไม่ชอบใจคือ ผ่อนจังหวะกายแกร่งให้ช้าลง นำพาความหงุดหงิดใจให้เธอไม่น้อย เนื่องจากแรงอารมณ์กำลังได้ที่ สวรรค์กำลังจะพุ่งตรงดิ่งเข้าใส่ ร่างอรชรจึงดึงตัวเองให้สูงขึ้นโดยยึดลำขาของเขาไว้ด้วยมือ จากนั้นก็กระชั้นร่างลงมาหนักหน่วง แรงขึ้น แรงขึ้น“คุณทอร์ช...คุณทอร์ช...อืม”เสียงครางกระเส่าแทรกด้วยเสียงฉ่ำแฉะจากส่วนที่สอดผสานเข้าออก วินาทีนี้เพลงมีนาทนรับกับคลื่นความเสียวซ่านต่อไปไม่ได้แล้ว มือทั้งสองข้าง รวมทั้งปากและลิ้นของเขากำลังทำให้เธอรู้จักคำว่าหัว







