"นี่นายได้ชื่อคุณทีไหม"เขมกรเอ่ยถามนายแบบหนุ่มตรงหน้าพลางนัยน์ตาก็มองสบดวงตาคมที่มองมายังตนอยู่ก่อนแล้ว ในใจของเขมภาวนาหวังให้คนตรงหน้าตอบกลับมาว่าใช่เขาชื่อคุณที เป็นคนของโลกปัจจุบันที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่แล้วความหวังของเขมกรต้องพังทลาย เมื่อนายแบบหนุ่มอย่างธีโอขมวดคิ้วมองมายังเขมด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจพร้อมกับเอ่ยย้ำชื่อของตัวเองอย่างหนักแน่น จนเขมนั้นได้แต่จำยอมเชื่อว่าคนตรงหน้านี้เป็นตัวละครธีโอของนิยายเรื่องนี้จริง ๆ
"คุณทีอะไรของคุณ ผมชื่อธีโอคุณเองก็รู้ชื่อของผมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง หรือว่าโดนเพื่อนต่อยจนความจำเลอะเลือน"
ความรู้สึกของเขมที่ในตอนแรกเต็มไปด้วยความสงสัยเป็นต้องเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโมโหเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วจะไม่ให้เขมรู้สึกโมโหได้อย่างไรก็ดูประโยคคำพูดที่ไอ้หมอนี้มันพูดออกมาสิ น่าตบให้เลือดกบปากซะมัดเลย แต่ก็ได้แต่คิดในใจนั่นแหละเขมกรไม่กล้าที่จะทำให้ใบหน้าอันมีค่าของไอ้นายแบบชื่อดังนี้เป็นรอยหรอก
อีกอย่างในตอนนี้เขมขี้เกียจที่จะคิดอะไรแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เขมเข้ามาในนิยายเรื่องนี้ก็มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เขมปวดหัว ในตอนนี้เขมขอไล่ไอ้หมอนี้กลับไปเร็ว ๆ แล้วพักผ่อนเอาแรงก่อนแล้วกัน
"อืมช่างเถอะสงสัยวันนี้ผมจะเบลอจริง ๆ รีบ ๆ ทำแผลสักทีเถอะตอนนี้มันดึกมากแล้ว ง่วง"เขมกรเอ่ยพูดตัดบทพร้อมกับขยับตัวเข้าไปใกล้นายแบบหนุ่มอย่างธีโอแล้วปิดเปลือกตา เพื่อให้ทำแผลได้ถนัดขึ้น
ส่วนธีโอที่เห็นข้าวตังหรือก็คือเขมกรนั่นแหละ นั่งหลับตายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้เล็กน้อยก็มองสำรวจใบหน้าหล่อขาวที่ในตอนนี้ใบหน้าข้างซ้ายของเจ้าตัวเริ่มจะบวมช้ำเล็กน้อย มุมปากเองก็แตกมีเลือดซึมให้ธีโอได้เห็น
มือหนาถือก้านสำลีชุ่มไปด้วยน้ำเกลือล้างแผลเอื้อมไปค่อย ๆ กดซับมุมปากของคนอายุเยอะกว่าตัวเอง2ปีอย่างเบามือเท่าที่จะเบาได้ พลางในหัวของธีโอก็นึกคิดไปด้วยว่าทำไมท่าทีของข้าวตังถึงได้ดูเปลี่ยนไปแบบนี้
เพราะเท่าที่ตัวของธีโอเคยเห็นข้าวตังเวลาอยู่กับอาทิตย์คนคนนี้จะเป็นคนเงียบ ๆ นิ่ง ๆ ไม่ค่อยจะพูดจาและออกจะดูเป็นคนเรียบร้อยพูดเพราะล่ะมั้งนะ อันนี้ธีโอก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะที่บอกว่าข้าวตังเป็นคนเรียบร้อยพูดจาไพเราะ
ก็ตอนที่เจอกันล่าสุดที่งานถ่ายแบบข้าวตังในวันนั้นเป็นคนนิ่ง ๆ พูดจาน่าฟัง ไม่ใช่คนแบบนี้อ่ะ บวกกับเวลาที่วันจันทร์เล่าเรื่องผู้ชายคนนี้ให้ฟัง วันจันทร์ก็มักจะบอกว่าพี่ข้าวตังเป็นคนพูดเพราะอยู่ตลอด แบบนี้เลยทำให้ธีโองงและสงสัยนิดหน่อยเวลาที่เห็นข้าวตังพูดจาแรง ๆ และมักจะชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ใส่
ตกลงแล้วนายเป็นคนยังไงกันแน่นะข้าวตัง
เขมกร
หลังจากคืนวันนั้นวันที่ผมนั่งให้ไอ้คุณพระรองทำแผลให้จนเสร็จสรรพและไล่มันกลับบ้านไป ในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านพ้นมาแล้ว2วัน และตลอด2วันที่ผ่านมานี้ผมก็อยู่แต่บ้านพักผ่อนไม่ออกไปไหน ส่วนไอ้คุณเหี้ยระบบเองก็เงียบไม่ได้ออกมาวุ่นวายหรือพูดอะไรกับผมเลย แม้ว่าผมมีเรื่องสงสัยจะถามหรือพูดคุยด้วยไอ้คุณเหี้ยระบบก็ไม่ตอบสนองเลย
เป็นระบบที่เอาแต่ใจชะมัดอยากจะมาก็โผล่มา ไม่อยากมาก็หายหัวไปเลย
"ไอ้ระบบเฮงซวยเอ๊ย!"ผมสบถออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายพลางตาก็มองบนปากเองเบะคว่ำอย่างเอือมระอา
ตลอด2วันที่ผ่านมานี้ตัวของผมพยายามจะเค้นสมองของตัวเองนึกถึงเนื้อหานิยายเรื่องอาทิตย์ครองจันทร์ แต่สุดท้ายก็เท่านั้นเพราะไม่ว่าผมจะพยายามนึกถึง2วันผมก็ยังคงจำเนื้อหาไม่ได้ ถามหน่อยเหอะแล้วใครมันจะไปจำเนื้อหานิยายที่ตัวเองเคยอ่านแค่ครั้งเดียวเมื่อเกือบ10ปีที่แล้วได้วะ จำชื่อพระเอกนายเอกได้ก็บุญหัวแล้วไหม (ถึงแม้ว่าจะจำได้เพราะชื่อของทั้งสองตัวละครอยู่ในชื่อเรื่องก็เถอะนะ)
"ปวดหัวโว๊ย!!!"ผมร้องตะโกนออกมาพร้อมกับยกมือทั้งสองขึ้นมาขยี้หัวตัวเองจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด ก่อนที่ต่อมาจะทิ้งตัวนอนแผ่หลาตามความยาวของโซฟาอย่างคนหมดอาลัยตายอยากอยู่โซนรับแขกเพราะไม่รู้จะทำอะไร
บอกเลยตอนนี้ผมเบื่อเป็นอย่างมากด้วยเพราะก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามาเป็นตัวละครข้าวตัง ตัวละครของข้าวตังก็ได้รับบาดเจ็บหัวแตกระหว่างทำงาน ทางผู้จัดการของนายธีโอก็เลยเสนอให้ผมหยุดพักรักษาตัว3วัน โดยทางนายธีโอจะรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายที่ทำให้ผมต้องหยุดงานหารายได้ไม่ได้แบบนี้ นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมานอนเอ้อระเหยลอยชายอยู่อย่างนี้
"เบื่อชะมัดเลยนอกจากงานถ่ายแบบของอีตานายแบบธีโอนายข้าวตังก็ไม่ได้รับงานถ่ายแบบคนอื่นไว้เลยหรือไงกัน หรือเพราะว่านี้เป็นในนิยายกันนะก็เลยไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ หรือจะเป็นเพราะนักเขียนขี้เกียจเขียนบทให้ตัวประกอบปะเนี่ย"
ผมสบถบ่นออกมาอีกครั้งและไม่วายที่จะลืมบ่นให้กับนักเขียนที่เขียนนิยายเรื่องนี้ เพราะพอมานึกดูดี ๆ ผมไม่ยักจะเห็นว่าข้าวตังมีครอบครัวเลย ตั้งแต่เข้ามาเป็นตัวละครข้าวตังผมก็ไม่เห็นว่าครอบครัวของข้าวตังจะติดต่อมาเลยทั้งที่ข้าวตังบาดเจ็บนอนโรงพยาบาลขนาดนี้ โทรศัพท์เองก็ไม่เห็นจะมีเบอร์ใครนอกจากเบอร์นายอาทิตย์ที่เป็นเพื่อนสนิทและน้องวันจันทร์เมียเพื่อน และสุดท้ายก็เป็นเบอร์ของคนที่เกี่ยวกับงานทั้งนั้น
ส่วนงานช่างภาพของข้าวตังเองก็แทบจะไม่ค่อยมี เดือน ๆ หนึ่งมีงานถ่ายแบบเพียงไม่กี่งานเอง แต่ถึงกระนั้นก็ยังดีที่ฐานะทางการเงินของตัวละครนี้ไม่ค่อยแย่เรียกว่าอยู่ในระดับดีเลยล่ะ ก็ยังดีที่นักเขียนยังเขียนให้เพื่อนพระเอกมันมีอันจะกินอะนะ ไม่งั้นผมได้ด่าสาปนักเขียนแน่
แต่ว่าก็เหงาอยู่ดีอ่ะ จะเป็นอะไรไหมวะถ้าระหว่างที่ผมไม่มีบทบาทในนิยายผมจะหางานเพิ่มระหว่างรอภารกิจจากระบบ ก็ปกติเวลาอยู่ที่โลกจริงเดือนหนึ่งผมรับงานไม่ต่ำกว่า20งาน บางเดือนผมแทบจะถ่ายงานทุกวันเลย เรียกได้ว่าผมเป็นช่างภาพมือทองเลยแหละ พอมาตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ค่อยจะมีงานแบบนี้มันเลยดูแปลก ๆ
'ติ๊ง! ภารกิจใหม่'
"เชี่ยตกใจหมด ทำไมถึงชอบมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้วะเกิดหัวใจวายตายไปจะทำยังไงห้ะ"
ผมที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ เป็นต้องตกใจเมื่ออยู่ ๆ ไอ้ระบบบ้านี้ก็ดังขึ้นมาพร้อมหน้าจอปรากฏขึ้นตรงหน้าให้ผมได้เห็น แต่ถึงแม้ว่าผมจะบ่นให้ไอ้ระบบเหี้ยนี้ที่มันทำผมตกใจไปก็เท่านั้น เพราะมันก็ยังคงทำเฉไฉไม่สนใจผมเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังเมินและพูดเกี่ยวกับภารกิจของมันต่อ
'ในวันพรุ่งนี้อาทิตย์ที่ได้รับชัยชนะในการแข่งรถจะทำการนัดปาร์ตี้ฉลองกับทีมและเพื่อนนักแข่งของเขาหลายคนในช่วงค่ำ และการไปฉลองชัยชนะครั้งนี้อาทิตย์จะพาวันจันทร์ไปด้วย รวมถึงได้โทรมาชักชวนข้าวตังที่เป็นเพื่อนสนิทอย่างคุณไปร่วมฉลองยินดีกับตัวเขา ซึ่งแน่นอนว่าชัยชนะการแข่งรถของอาทิตย์มีคนที่ยินดีกับเขาอยู่มาก แต่ก็มีคนที่อิจฉาไม่ชอบความเก่งกาจและโดดเด่นของอาทิตย์อยู่ไม่น้อย ทำให้ปาร์ตี้ฉลองชัยชนะมีคนไม่หวังดีลอบที่จะทำลายชื่อเสียงของอาทิตย์โดยการ....'
ผมที่ฟังไอ้บ้าระบบนี้สาธยายมาแปดร้อยพันหน้าจนถึงตรงนี้ก็ชักเริ่มรู้สึกตงิดใจ กลัวเหลือเกินว่าภารกิจที่ไอ้เหี้ยระบบนี้มันจะมอบหมายให้ผมทำมันจะเป็นภารกิจแปลก ๆ เพราะเท่าที่ระบบมันสาธยายก่อนจะเข้าภารกิจนี่มันชักไม่ชอบมาพากล
'โดยการวางยาปลุกอารมณ์ขนาดแรงเพื่อหวังให้อาทิตย์เสียสติควบคุมตัวเองไม่ได้ จนกระทำไม่ดีกับวันจันทร์ต่อหน้าพวกนั้น ภารกิจ: คุณต้องไปร่วมปาร์ตี้ฉลองชัยชนะในครั้งนี้และช่วยพระเอกอย่างอาทิตย์ให้พ้นวิกฤติจากการโดนวางยาจากศัตรูผู้ไม่หวังดี'
เฮ่อ...สุดท้ายไอ้คุณเหี้ยระบบก็ยังคงบังคับให้ผมไปเสี่ยงในที่อันตรายเหมือนเดิมอยู่ดี ภารกิจแต่ล่ะอันมีแต่ดี ๆ ทั้งนั้น
เขมกร'ภารกิจได้เริ่มขึ้นแล้ว'หมับหลังสิ้นเสียงของระบบร่างกายของผมก็โดนควบคุมให้เคลื่อนไหวไปแย่งแก้วในมือของอาทิตย์มาถือไว้ในมือของตัวเอง พร้อมกับปากที่เอ่ยพูดออกไปเองโดยที่ผมไม่ได้อยากจะพูดประโยคนี้เลยสักนิด"เดี๋ยวกูดื่มฉลองส่งท้ายให้มึงเองเพื่อน"จบประโยคตัวของผมก็ยกเครื่องดื่มในมือสาดลงคอทีเดียวจนหมดแก้ว และทันทีที่เครื่องดื่มสีอำพันนี้ไหลลงคอร่างกายของผมก็หลุดจากการโดนควบคุมแต่ทว่าผ่านไปยังไม่ถึงสองนาทีหลังจากที่ผมแย่งแก้วจากมืออาทิตย์มาดื่ม ร่างกายของผมก็แปลกไปเริ่มรู้สึกร้อนรุ่มและกระสับกระส่าย สติสตางค์ก็เริ่มจะหดหาย จากที่มึนหัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอดื่มเหล้าแก้วนั้นเข้าไปผมยิ่งมึนหัวมากขึ้นไปอีกเหี้ยอะไรอีกวะเนี่ย!!!
และแล้วเหตุการณ์ทุกอย่างก็ได้เป็นไปตามที่ไอ้คุณเหี้ยระบบมันได้กล่าวไว้เมื่อวานจริง ๆ เพราะในตอนนี้เขมกำลังยืนจ้องมือถือเครื่องแพงของตัวเองที่มันแผดเสียงร้องพร้อมกับหน้าจอโชว์รายชื่อผู้ติดต่อเข้ามาให้เขมได้เห็นว่าเป็นพระเอกของเรื่องอย่างอาทิตย์โทรมา"ว่าไงอาทิตย์"เขมกรกดรับสายพยายามกรอกเสียงทักทายคนปลายสายให้เหมือนเจ้าของบทตัวละครที่ตัวของเขมสวมบทบาดอยู่/ไอ้ข้าวตังกูแข่งรถชนะอีกแล้วโว้ยยย/อาทิตย์พูดตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดีใจที่ปิดไม่มิด ซึ่งเขมกรหรือก็คือข้าวตังในตอนนี้รับรู้ได้เลยว่าเพื่อนพระเอกของเขานั้นดีใจกับชัยชนะครั้งนี้มากแค่ไหนแต่แล้วอย่างไรล่ะ ถึงแม้เพื่อนพระเอกของข้าวตังจะดีใจมากแต่เขมนั้นไม่ดีใจด้วยเลยสักนิด เพราะชะตากรรมที่เขมจะต้องเผชิญต่อจากนี้นั้นมันช่าง...."เฮ่อ..."คิดมาถึงตรงนี้เขมก็เผลอถอนหายใจออกมาเสียงดัง จนทำให้อาทิตย์ที่อยู่ปลายสายได้ยิน/ถึงกับถอนหา
"นี่นายได้ชื่อคุณทีไหม"เขมกรเอ่ยถามนายแบบหนุ่มตรงหน้าพลางนัยน์ตาก็มองสบดวงตาคมที่มองมายังตนอยู่ก่อนแล้ว ในใจของเขมภาวนาหวังให้คนตรงหน้าตอบกลับมาว่าใช่เขาชื่อคุณที เป็นคนของโลกปัจจุบันที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้เหมือนกันแต่แล้วความหวังของเขมกรต้องพังทลาย เมื่อนายแบบหนุ่มอย่างธีโอขมวดคิ้วมองมายังเขมด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจพร้อมกับเอ่ยย้ำชื่อของตัวเองอย่างหนักแน่น จนเขมนั้นได้แต่จำยอมเชื่อว่าคนตรงหน้านี้เป็นตัวละครธีโอของนิยายเรื่องนี้จริง ๆ"คุณทีอะไรของคุณ ผมชื่อธีโอคุณเองก็รู้ชื่อของผมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง หรือว่าโดนเพื่อนต่อยจนความจำเลอะเลือน"ความรู้สึกของเขมที่ในตอนแรกเต็มไปด้วยความสงสัยเป็นต้องเปลี่ยนเป็นความรู้สึกโมโหเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วจะไม่ให้เขมรู้สึกโมโหได้อย่างไรก็ดูประโยคคำพูดที่ไอ้หมอนี้มันพูดออกมาสิ น่าตบให้เลือดกบปากซะมัดเลย แต่ก็ได้แต่คิดในใจนั่นแหละเขมกรไม่กล้าที่จะทำให้ใบหน้าอันมีค่าของไอ้นายแบบชื่อดัง
เขมกรหลังจากผมนั่งทนฟังคุณนายแบบชื่อดังอย่างนายธีโอร้องฮัมเพลงมาตลอดเส้นทาง ในที่สุดรถหรูก็เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่หน้าบ้าน2ชั้นที่เป็นบ้านของข้าวตังสักที อ่อจริงสิไม่ต้องสงสัยกันนะครับว่าผมบอกทางมาบ้านของข้าวตังให้นายธีโอรู้ได้ยังไง ก็ไม่ยากเลยครับก็รู้มาจากไอ้เหี้ยคุณระบบนั่นแหละบวกกับความทรงจำเจ้าของตัวละครด้วยก็เลยรับรู้ได้อ่ออีกอย่างที่ทุกคนเห็นว่าไอ้คุณนายแบบมันนั่งร้องฮัมเพลงมาตลอดทางแบบนี้ เป็นเพราะผมขี้เกียจจะคุยและตอบคำถามก็เลยนั่งเงียบแม่งเลย คนห่าอะไรพูดมากถามมากฉิบหาย เอะอะ ๆ ถาม เดี๋ยวก็ทำไมถึงกล้าด่าเพื่อนตัวเองเดี๋ยวก็ทำไมถึงมารับหมัดแทนเหรอ แป๊บ ๆ ก็ทำไมอย่างนู้นทำไมอย่างนี้ เป็นเจ้าหนูจำไมหรืออย่างไรก็ไม่รู้แน่นอนเมื่อรถจอดสนิทมีหรือที่ผมจะอยู่บนรถกับคนน่ารำคาญอย่างนี้ต่อ ก็ต้องรีบเผ่นซิครับรออะไรล่ะ และยามที่รถจอดสนิทดีผมก็รีบคว้าข้าวของของตัวเองและเปิดประตูจะก้าวลงจากรถทันทีตามที่คิด แต่แล้วเท้าผ
เขมกรผมที่ยืนซุ่มดูสถานการณ์อย่างเมามันอยู่กับพวกไทยมุงในผับยามที่เห็นคนทะเลาะกัน อยู่ ๆ ร่างกายของผมก็ถูกบังคับให้เคลื่อนไหวเดินแทรกเหล่าผู้คนพุ่งเข้าไปยืนกลางวงอย่างงง ๆ พร้อมกับรับหมัดหนัก ๆ ของไอ้พระเอกที่เป็นเพื่อนของข้าวตังจนใบหน้าสุดแสนหล่อเหล่าของผมสะบัดไปตามทิศทางของแรงหมัด"โอ๊ย!ไอ้เหี้ยเจ็บ!!!"ผมร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกับมือข้างซ้ายยกขึ้นมากุมใบหน้าข้างที่โดนชกตามสัญชาตญาณ'ยินดีด้วยคุณได้ทำภารกิจสำเร็จ'เสียงของระบบดังขึ้นให้ผมได้ยินทำเอาผมนั้นรู้สึกหัวเสียไม่น้อยกับประโยคที่ไอ้เหี้ยคุณระบบมันพูด อยากจะกระทืบไอ้ระบบชะมัด แหม...ยินดีด้วย ยินดีกับผีมึงสิบังคับกูมาเจ็บตัวแบบนี้มายินดีเหี้ยอะไรครับด้านนายอาทิตย์ไอ้พระเอกตัวดีเมื่อเห็นว่าคนที่ตัวเองชกเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างผมก็เบิกตากว้างตกใจไปชั่วขณะ พอ
ณ ผับแห่งหนึ่งฉันมาทำอะไรที่นี่? คำถามนี้ดังขึ้นมาในหัวของเขมกร เขมหรือในตอนนี้ก็คือข้าวตัังยืนถอนหายใจอย่างคนหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าทางเข้าผับ จะไม่ให้เขาแสดงสีหน้าหมดอาลัยตายอยากได้อย่างไรกัน แทนที่ตอนนี้เขาจะต้องนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลแต่เขาต้องขอคุณหมอออกมาก่อนด้วยให้เหตุผลว่าเขามีเหตุจำเป็นต้องไปทำและรีบถ่อสังขารทั้งที่บนหัวยังมีผ้าปิดแผลมาที่นี่ เพื่อจะมาทำภารกิจบ้าบออะไรก็ไม่รู้ที่ไอ้ระบบหน้าหมามันมอบหมายให้เขาทำ"ไม่ทำได้ไหมวะไอ้ภารกิจบ้า ๆ เนี่ย"เขมสบถพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แต่ดูเหมือนว่าไอ้ระบบมันกลัวว่าเขมจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ มันถึงได้รีบสวนขึ้นมาทันที'ไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณไม่ทำภารกิจที่ทางเราให้ คุณจะได้รับบทลงโทษ'"เหี้ยอะไรเนี่ย นี่มันบังคับกันชัด ๆ นี่!"เขมหันขวับไปมองหน้าจอระบบตาเขม็งพร้อมกับพูดขึ้นเสียงดัง จนทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองด้วยสีหน้าสงสัย ส่วนเขมที่เริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายคู่มองมายังตัวเองก็แกล้งยกมือถือในมือขึ้นมาแนบหูทำเหมือนว่าตัวเองกำลังคุยโทรศัพท์อยู่นะ ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อเหล่าคนที่หยุดมองเห็นเขมยกมือถือขึ้นแนบหูก็คลายความสงสัยลงและเ