แชร์

สามีไม่เต็มเต็ง

ผู้เขียน: zuey
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-21 02:47:05

“นางเด็กสารเลว!! ออกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!! พวกเจ้าเอาความกล้าจากที่ใดถึงได้กล้าฆ่าไก่ของข้า วันนี้ยายแก่อย่างข้าจะให้เจ้าได้เห็นฤทธิ์ว่าการมาแตะต้องสิ่งของของข้าต้องมีจุดจบอย่างไร”

แม่เฒ่าหวังไม่รู้เรื่องที่เซี่ยชิงหลีบีบคอสะใภ้ใหญ่จนเกือบตาย จึงได้วางท่าทีใหญ่โตดั่งเช่นกาลก่อน ร่างกายของเซี่ยชิงหลีแม้จะอ่อนแอกว่าแต่ก่อนทว่าก็ไม่แย่ไปกว่าบุรุษวัยฉกรรจ์

เมื่อได้ยินเสียงโวยวาย ร่างผอมบางเดินออกมานอกกระท่อมพร้อมหม้อน้ำแกงไก่ที่ว่างเปล่า แม่เฒ่าหวังเห็นท่าทางเฉยชาของหลานสาวไม่รักดียิ่งทำให้นางมีโทสะ ด้านข้างแม่เฒ่ายังมีสะใภ้ใหญ่ที่คอยเป่าหูให้ลงโทษบ้านรอง

ทว่าทุกการกระทำของคนเหล่านั้นล้วนไม่อยู่ในสายตาของนาง

“ท่านย่า...ท่านมีอะไรกับบ้านรองของเราหรือ”

เซี่ยจื่อเฉิงใช้ไม่ค้ำเดินกะเผลกออกมานอกกระท่อมพร้อมกับน้องสาว ตนเองที่เป็นคนไร้ค่ามาตลอด วันนี้หากน้องสาวต้องถูกลงโทษตัวเขาจะรับเอาไว้เองทั้งหมด

“ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ พวกเจ้าทำสิ่งใดเอาไว้รู้ดีแก่ใจ”

“พวกเราทำอะไรหรือ”

เซี่ยชิงเป่าเดินออกมาพร้อมกับอาเหิง ปากยังถามย่าแท้ๆ ของตนด้วยดวงตาใสซื่อ

“เจ้า!! พวกเจ้ากบฏแล้ว!! กล้าตั้งคำถามกับผู้อาวุโสอย่างข้าหรือ โธ่เอ้ย!! สวรรค์ท่านมาเอาชีวิตยายแก่เช่นข้าไปเถิด เหตุใดครอบครัวเซี่ยถึงได้มีหมาป่าตาขาวอย่างเด็กสารเลวเหล่านี้”

แม่เฒ่าหวังทิ้งกายลงบนพื้นตีอกชกตัวเพื่อเรียกร้องให้ชาวบ้านเข้ามาเป็นพยาน นางคิดว่าคนหน้าบางอย่างหลี่หลันฮวาจะต้องไม่กล้าต่อปากกับตน แต่นางคิดผิด

“ท่านย่า ท่านเป็นอะไร ถ้าไม่สบายก็ควรไปหาหมอนะเจ้าคะ”

เซี่ยชิงเป่าเอ่ยกับแม่เฒ่าหวังด้วยสีหน้ารำคาญ เมื่อก่อนนางเป็นคนหัวแข็งไม่ยอมถูกกดขี่จึงถูกตีมากกว่าพี่น้องคนอื่น ครั้งนี้พี่สาวของตนแสดงให้เห็นแล้วว่าจะไม่ยอมถูกบ้านใหญ่และปู่ย่ากดขี่อีก นางจึงเผยนิสัยส่วนตัวออกมา

“เจ้าเด็กหน้าเหม็นเจ้ากล้าสาปแช่งข้าหรือ ดี! วันนี้ข้าหวังกุ้ยเฟินจะแทนตระกูลเซี่ย ใช้กฎของตระกูลลงโทษพวกเจ้า”

“ท่านแม่ ท่านอย่าโทษพวกเขาเลย พวกเขายังเด็กมีอะไรท่านมาลงที่ข้า”

หลี่หลันฮวารีบถลาออกมาจากกระท่อม นางคุกเข่าลงตรงหน้าแม่เฒ่าหวังอ้อนวอนมิให้ใช้กฎตระกูลลงโทษลูกๆ ของตน

“กฎบ้าบออันใด ของเหล่านี้ใช้ได้เฉพาะกับคนอ่อนแอเท่านั้น ใช่ไหมภรรยา อาเหิงพูดถูกหรือไม่”

ชายหนุ่มใช้ดวงตาใสซื่อมองไปยังหญิงสาวเพื่อรอคอยคำตอบการกระทำของเขาราวกับลูกหมาที่ต้องการคำเอ่ยชม เห็นเขาแสดงออกเช่นนั้น ร่างบางจำต้องพยักหน้าให้อย่างเสียมิได้

“ไหนยายเฒ่าบอกมาซิว่าอาเหิงทำผิดอะไร”

อาเหิงที่ยืนกอดอกอยู่กับเซี่ยชิงเป่าเอ่ยออกมาด้วยท่าทางอวดดี

“เจ้า!...เจ้ายังไม่รู้ความผิดของตนหรือ เช่นนั้นข้าจะบอกให้นะ เพราะพวกเจ้าบังอาจฆ่าไก่ที่ข้าเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม”

“ท่านย่า ท่านหรือเลี้ยงดูพวกมัน เช่นนั้นท่านก็ทำให้ข้าได้เปิดกะโหลกแล้ว ตาข้างไหนของพวกท่านเห็นเราฆ่าไก่”

“หลักฐานก็อยู่ในมือยังกล้าเสแสร้ง”

จางซุนโหรวชี้ไปยังหม้อดินที่อยู่ในมือของเซี่ยชิงหลี

“นี่! อ๋อ...อันนี้หรือ....นี่เป็นไก่ที่บ้านรองเลี้ยงดูเหตุใดจะกินไม่ได้เล่า”

เซี่ยชิงเป่าแม้จะอายุเพียงแปดขวบ ทว่าบัดนี้กลายเป็นกำลังหลักในการต่อต้านคนตระกูลเซี่ยไปแล้ว

มารดาที่อ่อนแอไม่สู้คน พี่ชายที่ร่ำเรียนจนไม่รู้วิธีต่อว่าผู้อื่น และพี่สาวที่แสร้งเป็นใบ้ บัดนี้คงเหลือเพียงนางและพี่อาเหิงเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับแม่เฒ่าปีศาจได้

“เจ้า! ที่นี่คือตระกูลเซี่ยทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นของตระกูลเซี่ยไม่ใช้ของบ้านรองของเจ้า”

เซี่ยชิงเป่าอยากตบมือให้กับคำพูดของป้าสะใภ้ใหญ่ ใบหน้ากลมแหงนมองร่างสูงของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

“พี่อาเหิง แล้วพวกเราไม่ใช่คนตระกูลเซี่ยหรือ เหตุใดถึงไม่มีสิทธิ์กินไก่ที่พวกเราเลี้ยง”

จางซุนโหรวเมื่อเห็นเด็กน้อยมีท่าทีสลดลง ก็รีบแสดงความเป็นใหญ่เพื่อข่มพวกเขา

“พวกเจ้าหรือพวกเดียวกับเรา ดูแต่ละคนไร้ค่าทั้งนั้น แม่ผู้อ่อนแอของเจ้า พี่ชายพิการพี่สาวเป็นใบ้ พี่เขยปัญญาอ่อน ครอบครัวพวกเจ้ามีใครสมบูรณ์บ้าง นอกจากเด็กอย่างเจ้า”

“ป้าสะใภ้ท่านยังลืมอีกคน บิดาที่ขี้เกียจสันหลังยาวของข้าก็เป็นครอบครัวบ้านรองของเรา”

เซี่ยชิงเป่าไม่ลืมเอ่ยเตือนป้าสะใภ้ใหญ่ ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับคำพูดเหน็บแนมผู้เป็นบิดาที่ตะวันสายโด่งป่านนี้ยังไม่ลุกจากที่นอน ทำเอาแม่เฒ่าหวังหันไปส่งค้อนให้กับสะใภ้ใหญ่ที่ปากไม่มีหูรูด เปิดช่องโหว่ให้ศัตรูเอาคืนได้

“เจ้ารองของข้าจะเป็นครอบครัวเดียวกับกลุ่มคนไร้ค่าอย่างพวกเจ้าได้อย่างไร”

แม่เฒ่าหวังเอ่ยอย่างรังเกียจ เด็กน้อยยักไหล่ด้วยท่าทางไม่ยี่หระ หลายปีมานี้ตัวเขาก็ไม่เคยทำหน้าที่ของสามีและบิดา ตอนนี้จะอย่างไรก็ได้ ตนเองไม่สนใจอยู่แล้ว

“อืม...ก็ได้ท่านย่า ถ้าท่านพ่อไม่ใช่ครอบครัวของบ้านรองเรา เช่นนั้นนางเป็นครอบเดียวกับหญิงหม้ายอย่างป้าสะใภ้ใหญ่หรือ จิ!จิ! น่าสงสารลุงใหญ่ ตายไปไม่กี่ปีก็ถูกสวมหมวกเขียวเสียแล้ว”

คำพูดของเด็กน้อยทำเอาคนทั้งบ้านถึงกับสะอึกไปเลยทีเดียว

“เจ้า!! เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด คิดทำลายชื่อเสียงตระกูลเซี่ยของข้าหรือ”

เมื่อเซี่ยชิงเป่าเอ่ยออกมาเช่นนั้น จางซุนโหรวก็แสดงท่าทีร้อนรนราวกับทำเรื่องที่ไม่ควรทำลับหลังบ้านรอง

“ช่างเถอะๆ ถ้าพวกท่านเห็นเราบ้านรองไร้ค่าเช่นนั้นพวกท่านก็ทำงานทุกอย่างด้วยตนเองเถอะ ต่อไปพวกเราจะไม่ทำงานเหล่านี้แล้ว”

เซี่ยชิงเป่าเอ่ยออกมาราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย ทว่าแม่เฒ่าหวังมีหรือจะยอมให้หลานในไส้มาอยู่เหนือตนได้

“ไม่ทำงานหรือ ถ้าพวกเจ้าไม่ทำงานเช่นนั้นก็อย่ากินอาหารจากตระกูลเซี่ยของข้า”

“ไม่กินก็ไม่กิน พวกเราบ้านรองคนเยอะเพียงนี้ไม่กินข้าวบ้านท่านพวกเราก็ไม่มีทางอดตาย”

เด็กน้อยจีบปากจีบคอตอบหญิงชราด้วยท่าทางไม่แยแส เซี่ยชิงหลีไม่คิดว่าน้องสาวคนเล็กจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ แม้แต่สตรีปากร้ายอย่างแม่เฒ่าหวังยังหมดหนทางต่อกรกับนาง

“เจ้า!! เจ้าเด็กคนนี้! หลี่หลันฮวาเจ้าเป็นแม่ เป็นผู้ใหญ่เหตุใดถึงปล่อยให้เด็กมายืนเถียงกับผู้อาวุโสฉอดๆ เจ้าไม่เอาหน้าแล้วใช่หรือไม่ โอ๊ย!! ใครก็ได้ ดูเจ้าตัวล้างผลาญพวกนี้สิ เกิดมาเพื่อเอาชีวิตของข้าหรืออย่างไร!! สวรรค์!! ท่านเหตุใดต้องให้พวกมันมาเกิดในตระกูลเซี่ยด้วย”

หญิงชราทรุดตัวลงบนพื้นตีอกชกตัวหวังให้พวกเขารู้สึกละอายแก่ใจ ทว่าเซี่ยชิงเป่ากลับยืนหน้าตายไม่รู้ร้อนรู้หนาว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   จบตอนพิเศษ

    “ผ่านไปนานขนาดนี้ เจ้ายังทำให้ข้าชอบหน้าไม่ได้”องค์ชายใหญ่หัวเราะเบาๆ“ผ่านไปนานขนาดนี้ เจ้าก็ยังปากไม่ดีเช่นเดิม” แม้คำพูดจะฟังดูคล้ายสงครามน้ำลายกำลังจะก่อตัวขึ้น แต่แววตาของทั้งคู่กลับแสดงออกว่ามิได้ถือสาต่ออีกฝ่ายเซี่ยชิงหลีมองภาพเหล่านั้นด้วยรอยยิ้มอันเจิดจ้า นางรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องสองคนนี้ ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนัก แต่ก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาหยุดตีกันได้ไม่นานนัก หลี่หลันฮวาและเซี่ยฉางเยี่ยนลงจากรถม้าและเดินเข้ามาพร้อมเซี่ยชิงเป่าที่กำลังจะแต่งงานในปีหน้า และบุตรชายวัยห้าขวบอย่างเซี่ยชิงหลงที่วิ่งเล่นไปรอบๆ อย่างสนุกสนานถัดมาคือรถม้าจากตำหนักองค์ชายใหญ่ที่มี ชินอ๋องและพระชายากำลังอุ้มบุตรสาวของโอวหยางชิงเฟิงเดินเข้ามาพร้อมถานจิ่งอี้ ที่อยู่ด้านหลังส่วนโอวหยางโม่เหิง บุตรชายตัวน้อยของเซี่ยชิงหลี บัดนี้กำลังดึงชายเสื้อของบิดาอย่างออดอ้อน“ดูสิ เด็กๆ โตขึ้นทุกปี อีกไม่นานคงวิ่งทั่วเรือนจนไม่มีใครตามทันแล้วกระมัง” เมื่อนางเอ่ยจบ ทุกคนพลันหัวเราะออกมาพร้อมกันในระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยอย่างออกรส รถม้าของตำหนักองค์หญิงพลันแล่นเข้ามา หลี่เยว่หยาง องค์หญิงตงหยาง และบุตรชาย

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต    ครอบครัวใหญ่อันแสนสุข

    เขาเคยละเลยบุตรชาย เคยปล่อยให้ความลำเอียงและความหลงใหลบดบังสายตา จนมองไม่เห็นความทุกข์ของเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง ที่ซึ่งเติบโตขึ้นท่ามกลางความเย็นชาของตน“พ่อผิดเอง...หนานเฟิง” ชายวัยกลางคนเอ่ยด้วยสีหน้าสำนึกผิด พร้อมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ข้าไม่คู่ควรเป็นบิดาของเจ้า”เขาก้มศีรษะลงต่ำ ราวกับยอมรับโทษทัณฑ์จากสวรรค์ที่ตนหลีกเลี่ยงมานาน ความเสียใจและความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจจนแทบหายใจไม่ออก แต่เขาก็รู้ดีว่า...ทุกความเสียใจไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกเมื่อข่าวเรื่องที่มู่หรงฮ่าวหลุนถูกตัดสินโทษ แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง เซี่ยจื่ออี้ได้รอมู่หรงหนานเฟิงกลับมาเพื่อที่จะพูดคุยกับเขาภายในห้องหนังสือ แสงแดดยามเย็นส่องลอดผ่านหน้าต่างไม้ไผ่เข้ามาเป็นลำ มู่หรงหนานเฟิงนั่งอยู่หลังโต๊ะหนังสือ สีหน้าของชายหนุ่มแลดูสงบนิ่งราวกับผืนน้ำในฤดูหนาว เมื่อเซี่ยจื่ออี้เอ่ยเล่าเรื่องราวการไต่สวนจบลง พร้อมทั้งสีหน้าของเสนาบดีมู่หรงในตอนนั้น“ข้า...เข้าใจแล้ว” น้ำเสียงเรียบเฉยดังขึ้น แววตาของชายหนุ่มยังคงดูปกติดั่งเดิม ไม่มีท่าทีพอใจหรือดีใจ ที่คนที่เคยรังแกตนเองในวัยเด็กมีจุดจบที่น่าสังเวชเช่นนั้นเซี่ยจื่ออี้มองอยู่ครู่

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ตกหลุมรัก

    ชายหนุ่มดึงลู่เหยาเหยาให้หลบไปด้านหลัง ดวงตาเย็นชามองคนเหล่านั้นนิ่ง ร่างกายชายหนุ่มเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ราวกับนักรบที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีทั้งหมดคือผลจากการที่เซี่ยชิงหลีเคยบังคับให้เขาออกกำลังกาย และฝึกท่าต่อสู้ทุกเช้า วันนี้ทุกอย่างล้วนไม่สูญเปล่าเสียงหมัดกระทบเนื้อดัง “ปัง!” “ผลัวะ!” นักเลงคนแล้วคนเล่าล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว บางคนหมดสติทันทีโดยไม่ทันได้ร้องขอชีวิตมู่หรงฮ่าวหลุนที่ยืนรออยู่ไม่ไกลถึงกับหน้าซีด เขาไม่คิดว่าหลี่หมิงเจ๋อจะต่อสู้ได้เก่งถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มพยายามหลบหนีแต่ไม่ทันแล้ว เพราะหลี่หมิงเจ๋อทะยานเข้าไปคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้แน่น“เจ้าคิดว่าความอับอายของตนเอง จะสามารถลบล้างได้ด้วยการทำร้ายข้างั้นหรือ” น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้นแผ่วเบาข้างใบหู“วันนี้ข้าจะให้เจ้ารู้ ว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ในแผ่นดินนี้”หลี่หมิงเจ๋อลากตัวมู่หรงฮ่าวหลุนที่ดิ้นรนสุดแรงไปยังศาลยุติธรรม ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของเซี่ยจื่ออี้เมื่อถึงหน้าศาล เจ้าหน้าที่ต่างมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง หลี่หมิงเจ๋อในชุดเรียบง่ายทว่าเปื้อนฝุ่นและยับย่นเล็กน้อย ลากชายหนุ่มผู้แต่งกายหรูหรามีรอยช้ำเต็ม

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ความรู้สึกของหลี่หมิงเจ๋อ

    “มีใครอยู่หรือไม่เจ้าคะ” เสียงหวานใสดังขึ้นจากหน้าประตูไม้ของเรือนตระกูลหลี่ หลี่หมิงเจ๋อที่กำลังจัดเอกสารอยู่ภายในห้องทำงานเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูด้วยความสงสัยเมื่อบานประตูเปิดออก ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะหญิงสาวในชุดผ้าไหมสีฟ้าอ่อนยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรง ใบหน้างดงามอ่อนหวานราวภาพวาด ดวงตากลมโตเปล่งประกายสดใส จนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนแสงนั้นช่างแสบตานัก“ท่านคือคุณชายหลี่ หลี่หมิงเจ๋อใช่หรือไม่เจ้าคะ” นางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพหลี่หมิงเจ๋อขยับกายเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า“ชะ...ใช่ ข้าเอง ไม่ทราบว่าคุณหนูมีธุระอันใดกับข้าหรือ”หญิงสาวยิ้มบาง พลางยอบกายให้ชายหนุ่ม“บิดาของข้าคือลู่หมิงเช่อ พ่อค้าจากเมืองหนานหยางเจ้าค่ะ ส่วนข้าคือลู่เหยาเหยา ท่านพ่อส่งข้ามาพบเพื่อเจรจาเรื่องการค้าผ้าไหมและชา ข้าได้ยินว่าท่านเป็นผู้ดูแลกิจการของตระกูลหลี่ในส่วนนี้ จึงมาขอเข้าพบ”หลี่หมิงเจ๋อพยักหน้าช้าๆ“เช่นนั้นเชิญคุณหนูลู่เข้ามาข้างในก่อนเถิด”เมื่อก้าวเข้ามาในเรือน กลิ่นหอมอ่อนๆ จากดอกเหมยที่ปลูกไว้ข้างกำแพงลอยมาตามลม หญิงสาวหันมองรอบกายด้วยความสนใจ“เรือนของท่

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   ความสุขที่ได้รับการเติมเต็ม

    บรรยากาศภายในรถม้า บัดนี้มีแต่ความกดดันและความอึดอัด เซี่ยชิงหลีมองคนทั้งสองที่เอาแต่นั่งเงียบสลับไปมา ก่อนร่างบางจะเปรยเบาๆ ราวกับพูดคนเดียว“เฮ่อ! รถม้าคันนี้ช่างเล็กจริงๆ ข้าและลูกน้อยอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออกแล้ว”หญิงสาวยิ้มบาง พร้อมกับมองหน้าชายหนุ่ม โอวหยางชิงเฟิงเหมือนจะรู้ถึงแผนการของหญิงสาว ร่างสูงพลันรวบร่างบางของถานจิ่งอี้เข้ามาในอ้อมแขน ก่อนจะพานางก้าวลงจากรถม้าไปทันที“ปล่อยข้านะ! พี่ชิงหลี! ช่วยข้าด้วย!” ถานจิ่งอี้ร้องเสียงสั่น แต่เฉียวฟงกลับกอดนางเอาไว้แน่น“ขอโทษทีนะจิ่งอี้ เขาเป็นถึงองค์ชายใหญ่ ข้าสตรีตัวเล็กๆ จะช่วยเจ้าได้อย่างไร” หญิงสาวโบกมือลาคนทั้งสอง พร้อมกับออกคำสั่งให้รถม้าออกวิ่งอีกครั้งด้วยสีหน้าเบิกบาน“ช่างเป็นคู่รักที่ดื้อรั้นทั้งคู่จริงๆ” นางเอ่ยพลางยกมือแตะหน้าท้องตนเองเบาๆเมื่อไม่ได้รับการช่วยเหลือ ถานจิ่งอี้จึงจำต้องช่วยตนเอง“ข้าบอกให้ปล่อยไม่ได้ยินหรือ!” นำเสียงของหญิงสาวที่ตวาดชายหนุ่ม เต็มไปด้วยความสั่นเครือ“จิ่งอี้! เป็นข้าที่ข้าผิดเอง ข้าไม่ควรพูดเช่นนั้นกับเจ้า ข้ารู้แล้วว่าคำพูดของข้าทำร้ายความรู้สึกของเจ้าเพียงใด” ถานจิ่งอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง ด

  • เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต   เกือบต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

    “ข้าจะไปเรือนหลัง!” น้ำเสียงเย็นเยียบของชายหนุ่มดังขึ้น จนข้ารับใช้ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าตอบรับไม่นานนัก องค์ชายใหญ่และองครักษ์ผู้ติดตามก็ได้ก้าวเข้าไปภายในเรือนที่ถูกสร้างเอาไว้สำหรับเหล่าสตรี ซึ่งไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ อาศัยอยู่“ไปลากพวกนางออกมาให้หมด!!”บัดนั้น...แสงตะเกียงพลันถูกจุดขึ้นทั่วลานหน้า สตรีทั้งสี่พร้อมข้ารับใช้ทั้งหมด ถูกลากออกมาคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่ม“ข้าจะถามเพียงครั้งเดียว ใครเป็นคนเริ่มหาเรื่องพระชายาของข้า” น้ำเสียงเย็นเยียบถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากที่เม้มแน่นของชายหนุ่มทุกคนต่างนิ่งเงียบเพราะเกรงกลัวพระราชอาญา ถ้าหากเอ่ยปากบอกความจริง“ดี! ข้าเองก็ไม่ต้องการเก็บคนที่สร้างความวุ่นวายในตำหนักของข้าเอาไว้เช่นกัน” ร่างสูงชี้ไปยังคนทั้งหมดก่อนตวาดเสียงก้อง“พรุ่งนี้เรียกพ่อค้าทาสมา แล้วขายพวกมันออกไปให้หมด!”สิ้นเสียงของโอวหยางชิงเฟิง เสียงร้องไห้และร้องขอความเมตตาพลันดังระงมไปทั่วลานเรือน“ไม่ได้นะเพคะ! พระองค์จะทำเช่นนั้นกับเราไม่ได้” หลิวหยิ่ง สตรีคนแรกที่โอวหยางชิงเฟิงรับเข้ามาอยู่ข้างกาย เอ่ยคัดค้านขึ้น“ทำไมข้าจะทำเช่นนั้นมิได้เล่า”“นั่นก็เพราะกฎหมายของแคว้นฉินว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status