แชร์

ตอนที่ 1 หนูพันซ์ของอา

ผู้เขียน: อิมอิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-21 14:46:25

"ป้าแก้วคะ อาเตกลับมาจากบริษัทยังคะ" เสียงหวานของคนเป็นหลานหรือซีเซีย เอ่ยถามหาคนเป็นอากับป้าแม้บ้านด้วยความร้อนใจ เพราะเธอรอคุยเรื่องสำคัญกับอาของเธอตั้งแต่บ่ายจนตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว จึงทำให้เธอร้อนใจเป็นอย่างมาก โดยมีคนรักหรือศิลายืนอยู่ข้างๆไม่ห่าง

"กลับมาแล้วค่ะ อยู่บนห้องทำงาน เมื่อกี้ป้าเพิ่งเอาของว่างกับน้ำไปให้คุณเตมาค่ะ"

สิ้นเสียงป้าแม่บ้าน ซีเซียก็ไม่รอช้าสองขาเรียวเล็กก้าววิ่งขึ้นไปบนชั้นสองยังห้องทำงานของคนเป็นอาอย่างไว

"น้องเซียอย่าวิ่งครับเดี๋ยวล้ม" ศิลาพูดตามหลังไวๆของคนรัก พลางส่ายหน้าให้อย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะรีบเดินตามเธอไปติดๆ

เมื่อมาถึงห้องทำงานของคนเป็นอา ซีเซียก็เปิดประตูเข้าไปทันที

แกรก!

ด้านเตชินท์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหรูหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง เขาจึงละสายตาจากแฟ้มงานตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูห้องทันที พอเห็นว่าเป็นใครเปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะประตูก่อน เตชินท์จึงเอ่ยดุออกไป

"เอาอีกแล้วนะครับน้องเซีย อาบอกกี่ครั้งแล้วว่าก่อนเข้ามาให้เคาะประตูห้องก่อน" เตชินท์เอ่ยดุ พลางเบนสายตาไปมองเพื่อนตัวเองที่เดินตามหลังหลานสาวเข้ามาในห้องอีกคน ก่อนที่เสียงหลานสาวจะดังขึ้นดึงความสนใจของเขาให้หันกลับไปมองเธอ

"หนูรู้ค่ะแต่หนูรีบ หนูมีเรื่องสำคัญจะคุยกับอาเตค่ะ"

"เรื่องสำคัญอะไร"

"เรื่องพั้นซ์ค่ะ พั้นซ์โดนตาจับขังไว้ในห้องค่ะ"

ได้ยินหลานสาวบอกมาเช่นนั้น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีก่อนจะเอ่ยถามหลานสาวไป

"แล้วทำไมหนูพั้นซ์ถึงโดนจับขังไว้ในห้องล่ะ"

"ตาหนูจับได้ว่าพั้นซ์แอบไปเล่นปลากัดค่ะ แถมตายังคาดโทษพั้นซ์ไว้ว่าถ้าแอบไปเล่นปลากัดอีกจะส่งพั้นซ์ไปอยู่กับแม่พั้นซ์ หรือไม่ก็จับพั้นซ์แต่งงานค่ะ"

"ว่าไงนะ! จับแต่งงานเหรอ"

"ใช่ค่ะ อาเตต้องช่วยพั้นซ์นะคะ"

"หนูพั้นซ์ของอา อาต้องช่วยอยู่แล้วครับ"

เตชินท์แทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ในหัวกำลังคิดว่าทำไมนักสืบที่เขาว่าจ้างให้คอยตามสืบตามดูความเคลื่อนไหวของน้ำพั้นซ์มาตลอดสี่ปีถึงไม่รายงานเขาในเรื่องที่สำคัญขนาดนี้

~~~

ทว่าอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น ดึงความสนใจของเขาให้หันไปมอง พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของนักสืบคนดังกล่าวที่เขาว่าจ้างโทรเข้ามา เขาก็รีบกดรับสายทันที

"ว่าไง"

(คุณเตครับคุณน้ำพั้นซ์โดนตาของเธอจับขังไว้ในห้องครับ)

"อืม รู้แล้ว"

ในขณะที่เตชินท์คุยโทรศัพท์กับนักสืบ ซีเซียที่มองอยู่อย่างนึกขัดใจว่าใครโทรมาหาอาของเธอตอนนี้ เพราะเธอยังคุยเรื่องสำคัญกับอาเธอไม่เสร็จ ทว่าสายตาของเธอก็ดันไปสะดุดเข้ากับซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าเธอพอดี ซึ่งข้างในซองเหมือนจะมีรูปอะไรโผล่ออกมาจากในซองแค่เล็กน้อย และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซีเซียจึงถือวิสาสะหยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมาแล้วล้วงรูปข้างในออกมาดู โดยมีศิลายืนกอดอกมองเธอนิ่งๆ ไม่คิดจะเอ่ยห้ามอะไร

ด้านเตชินท์มัวแต่คุยโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจความซุกซนของหลานสาวตัวเองเลย จนกระทั่งเสียงของหลานสาวดังขึ้น จึงดึงความสนใจของเขาให้หันไปมอง

"นี่มันอะไรกันคะอาเต ทำไมมีแต่รูปพั้นซ์เต็มไปหมดเลย" ซีเซียเอ่ยถาม พลางชูรูปน้ำพั้นซ์ในมือด้วยสีหน้าสงสัยเต็มประดา แม้เธอจะรู้อยู่แล้วว่าคนเป็นอาชอบพอน้ำพั้นซ์อยู่ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าอาเธอไปเอารูปน้ำพั้นซ์เยอะแยะขนาดนี้มาจากไหน

"เฮ้ย!" เตชินท์เห็นเช่นนั้นถึงกับอุทานตกใจออกมาทันที ก่อนจะรีบกดวางสายนักสืบไป แล้วดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปคว้ารูปของน้ำพั้นซ์ในมือของหลานสาวมาเก็บใส่ซองไว้อย่างเดิมด้วยความรวดเร็ว แม้มันจะไม่ทันแล้วก็ตาม เพราะหลานสาวของเขาเห็นหมดแล้ว

"นี่มันอะไรกันคะอาเต เล่ามาเลยค่ะว่าอาเตไปได้รูปพั้นซ์มาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้" ซีเซียพูดพลางหรี่ตามองอาตัวเอง ประหนึ่งกำลังจับผิดคนเป็นอา

เตชินท์มองหลานสาวนิ่งๆเสมือนคนกำลังใช้ความคิด ก่อนจะเบนสายตาไปมองเพื่อนที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นว่าเพื่อนพยักหน้าให้ เขาจึงเบนสายตากลับมามองหลานสาวอีกครั้ง และเลือกที่จะพูดความจริงกับหลานสาวไป

"อา.. จ้างนักสืบคอยตามดูหนูพั้นซ์"

"ฮะ! ลงทุนจ้างนักสืบเลยเหรอคะ"

"ดูทำเป็นตกใจเข้า อาก็แค่จ้างนักสืบเอง ไม่ได้ลงทุนอะไรเยอะซะหน่อย"

พูดจบเตชินท์ก็ส่ายหน้าเบาๆให้กับหลานสาวที่ทำหน้าตกใจอย่างกับว่าเขาทำผิดร้ายแรงหรือไปฆ่าใครตายยังไงยังงั้น

"คิกๆ~ อาเตนี่คลั่งรักไม่เบาเหมือนกันนะคะเนี่ย"

ซีเซียที่เหมือนจะตกใจในคราแรก แต่พอรู้ความจริงแบบนี้เธอก็อดแซวคนเป็นอาไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยถามคนเป็นอาออกไปในสิ่งที่อยากรู้

"แล้วอาเตให้นักสืบตามดูพั้นซ์ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"

"ก็ตั้งแต่ที่อาโทรไปหาน้องเซียตอนที่น้องเซียอยู่ใต้นั่นแหละครับ วันที่หนูพั้นซ์รับสายอาแทนน้องเซียไง" แม้จะรู้สึกเขินอายกับการที่ต้องบอกความจริงหลานสาว แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ไม่รู้จะปิดเอาไว้ทำไม

"โห! ถ้าตั้งแต่วันนั้นมันก็หลายปีแล้วนะคะ นี่อาเตตามดูพั้นซ์มาตลอดเลยเหรอ ทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกโรคจิตเลยนะคะ" 

พอนึกย้อนกลับไปตามที่คนเป็นอาบอก ซีเซียก็ถึงกับอุทานออกมาพร้อมกับดวงตาปรือโต สีหน้าตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัด จนศิลาที่มองอยู่ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างนึกเอ็นดูคนรักปนขำเพื่อนไปในทีที่โดนเธอเปลียบเทียบว่าเหมือนโรคจิต

"หึๆ~"

ด้านเตชินท์มองเพื่อนที่กำลังยืนหัวเราะเขาอยู่ด้วยสายตาคาดโทษ ก่อนจะเบนสายตามามองหลานสาวแล้วเอ่ยพูดกับเธอไป

"นี่ไงที่อาไม่อยากให้น้องเซียรู้ก็เพราะแบบนี้ไง พอรู้แล้วก็มาว่าอาเป็นพวกโรคจิตอีก"

"โธ่! อาเตคะ ก็ใครจะไปคิดล่ะคะว่าอาเตจะคลั่งรักพั้นซ์ถึงขนาดจ้างนักสืบตามดูพั้นซ์มาตั้งสี่ปีเลยนะคะ"

"ถ้าบอกว่าอาคลั่งรักอาไม่เถียงครับ แต่อาไม่ใช่พวกโรคจิตซะหน่อย ว่าแต่ตอนนี้หนูพั้นซ์ของอาเป็นยังไงบ้างครับ" เตชินท์เปลี่ยนเรื่องคุยแทน ทว่ามันก็ไม่พ้นเรื่องของน้ำพั้นซ์อยู่ดี เพราะใจเขาตอนนี้พะวงห่วงแต่เธอ

"หนูพั้นซ์ของอา หนูพั้นซ์ของอา พูดได้เต็มปากเลยนะคะ ถ้าเกิดพั้นซ์ไม่ได้ชอบอาเตขึ้นมาจะทำยังไง คุณอาเตของหนูไม่คิดจะเผื่อใจไว้หน่อยเหรอคะคุณอาขา~" 

ซีเซียพูดติดเล่น แต่ทำเอาเตชินท์หน้าถอดสี พูดอะไรไม่ออกเลย เพราะถ้าน้ำพั้นซ์ไม่ได้ชอบเขาอย่างที่เขาชอบเธอ แค่คิดเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งใจแล้ว จนศิลาที่มองอยู่เห็นเพื่อนดูเศร้าไป จึงเอ่ยพูดขึ้นประหนึ่งปลอบเพื่อนไปในที

"มึงอย่าคิดมากเลย น้องเซียแค่พูดเล่นไปเรื่อย อีกอย่างมึงยังไม่ได้สาระภาพรักกับน้ำพั้นซ์เลย บ้างทีกูว่าน้ำพั้นซ์อาจจะชอบมึงอย่างที่มึงชอบเธอก็ได้"

"ใช่ค่ะๆ อาเตของหนูออกจะหล่อซะขนาดนี้ แถมยังรวยมากอีกต่างหาก มีแต่ผู้หญิงอยากเข้าหา น้ำพั้นซ์ก็คงเหมือนกันค่ะ" ซีเซียรีบพูดสมทบคนรักทันที เพราะเธอไม่อยากให้คนเป็นอาคิดมากกับคำพูดพล่อยๆของเธอเมื่อครู่ 

ด้านเตชินท์ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้หลานสาวกับเพื่อนเบาๆ แม้จะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยกับคำพูดของทั้งสองคนที่พยายามพูดปลอบเขา แต่ความคิดมากมันก็ยังคงอยู่ ทว่าเขาก็พยายามที่จะไม่ใส่ใจกับเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามหลานสาวออกไปอีกครั้ง

"แล้วตอนนี้หนูพั้นซ์เป็นยังไงบ้างครับ"

"ก็โดนตาจับขังไว้ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ป่านนี้หนูก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง แต่หนูบอกพั้นซ์ไปแล้วนะคะว่าจะรีบลงใต้ไปช่วยพูดกับตาให้ เพราะยังไงหนูก็ต้องลงใต้ไปบอกพวกท่านเรื่องงานแต่งของหนูกับอาศิอยู่แล้ว อาเตต้องไปกับหนูด้วยนะคะ"

"อาต้องไปด้วยอยู่แล้วครับ งั้นคืนนี้อาจะรีบเคลียร์งานและฝากงานกับเลขาให้เรียบร้อย พรุ่งนี้พวกเราจะได้ออกเดินทางกันแต่เช้าเลย"

"ดีค่ะ เพราะทางหนูอาศิเคลียร์งานไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ" พูดจบซีเซียก็หันไปยิ้มให้คนรักที่มองเธอและยิ้มให้เธออยู่ก่อนแล้ว

หลังจากที่ทั้งสามตกลงกันได้เรียบร้อยแล้ว ซีเซียกับศิลาก็พากันออกจากห้องทำงาน ปล่อยให้เตชินท์ได้เคลียร์งานของตัวเองไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กดื้อของเตชินท์   ตอนที่ 31 (ตอนจบ)

    หนึ่งเดือนต่อมาช่วงเวลาหนึ่งเดือนมานี้มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นมากมาย งานแต่งของศิลากับซีเซียก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ราบรื่นไม่มีปัญหาใดๆ คราแรกเตชินท์กับศิลาได้คุยกันไว้เล่นๆว่าอยากจัดงานแต่งพร้อมกันสองคู่ ทว่าก็ไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้เพราะฤกษ์ดีของศิลากับซีเซียที่หาไว้แล้วดันไม่ใช่ฤกษ์ดีของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์ ฤกษ์ดีไม่ตรงกันจึงไม่สามารถแต่งพร้อมกันได้ ซึ่งฤกษ์ดีหรือฤกษ์แต่งงานของเตชินท์กับน้ำพั้นซ์คืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ...ทว่าเจ้าตัวน้อยก็ดันมากำเนิดในท้องของน้ำพั้นซ์ก่อนงานแต่งเหมือนคู่ของศิลากับซีเซีย แม้จะเป็นการท้องก่อนแต่ง แต่ทุกคนก็ต่างร่วมยินดีกับทั้งสองคู่ตอนนี้น้ำพั้นซ์ตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้ว ส่วนซีเซียก็ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์ อายุครรภ์ห่างกันแค่เดือนเดียว ส่วนสองหนุ่มใหญ่พอเจอหน้ากันก็ขิงใส่กันแทบทุกวัน ว่าต่างฝ่ายต่างน้ำยาดีสามารถทำให้สาวๆติดท้องได้เร็ว ทั้งที่อายุก็จะเข้าเลขสี่อยู่แล้วแต่ก็ยังมีน้ำยา"มาอีกแล้วเหรอมึง บ้านช่องตัวเองไม่อยู่ อยู่แต่บ้านกูเนี่ย" เมื่อเห็นเพื่อนกับหลานสาวมาบ้าน เตชินท์ก็เอ่ยทักเพื่อนไปอย่างกวนๆตามประสาเพื่อนรักเพื่อนสนิท"มึงพูดแบบน

  • เด็กดื้อของเตชินท์   ตอนที่ 30 อาๆพร้อมดูแล

    วันต่อมาวันนี้เตชินท์กับน้ำพั้นซ์ได้เดินทางกลับกรุงเทพ มาถึงบ้านก็ช่วงค่ำเหมือนเดิม ทว่าวันนี้ศิลากับซีเซียได้พากันมานอนที่บ้านด้วยในเวลาห้าทุ่มกว่าๆ สองหนุ่มใหญ่ต่างหลับไหลอยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าข้างกายของพวกเขาตอนนี้ไร้ซึ่งร่างบางหรือเมียตัวน้อยของพวกเขา"มาแล้วจ้า~ มาม่าร้อนๆ ฝีมือไอพั้นซ์""หืม~ หอมอ่ะพั้นซ์ วางเลยๆ เราหิวจะแย่แล้ว""นั่งข้างล่างดีกว่าไหมเซีย กินหม้อเดียวกันจะได้กินถนัดหน่อย""ได้ดิ"หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อย สองสาวก็นั่งลงบนพื้นภายในห้องครัว น้ำพั้นซ์วางมาม่าหม้อเล็กที่เธอเพิ่งต้มเสร็จใหม่ๆกำลังร้อนๆน่ากินลงบนพื้น จากนั้นสองสาวก็ไม่รอช้า จับตะเกียบคีบเส้นมาม่าในหม้อแล้วเป่าก่อนจะป้อนเข้าปากตัวเอง เคี้ยวตุ่ยๆอย่างเอร็ดอร่อย ให้สมกับความหิวกลางดึกโดยไม่ได้นัดหมาย ในเมื่อต่างคนต่างหิวพวกเธอก็เลยตัดสินใจมาต้มมาม่ากินกันสองคนในครัวแบบนี้ด้านเตชินท์ที่ลุกขึ้นมาจะเข้าห้องน้ำกลางดึก ทว่าเมื่อไม่เห็นเมียเด็กข้างกาย เขาจึงเดินไปดูในห้องน้ำแต่ก็ไม่เจอ เลยเดินออกมาดูนอกห้อง ก็พบกับศิลาที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนพอดี ก่อนจะเป็นศิลาที่เอ่ยถามขึ้น"มึงจะไป

  • เด็กดื้อของเตชินท์   ตอนที่ 29 หยุดทำตัวน่ารัก

    วันต่อมาวันนี้น้ำพั้นซ์พาเตชินท์ไปหาแม่ของเธอที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอเพื่อแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันไว้ หรือพาลูกเขยไปไหว้แม่ยายนั่นเอง หลังจากอยู่คุยกับคนเป็นแม่จนถึงช่วงบ่ายแก่ๆก็พากันกลับ โดยระหว่างทางกลับก็แวะตลาดสดเพื่อซื้อกับข้าวเย็นขณะที่ทั้งคู่เดินอยู่ในตลาดก็ดันมาเจอดิวที่มาเดินตลาดเช่นกัน โดยเป็นดิวที่เอ่ยทักขึ้นก่อน"มาซื้อกับข้าวเนาะพั้นซ์" (มาซื้อกับข้าวเหรอพั้นซ์) ดิวถามพลางหลุบตามองมือของน้ำพั้นซ์ที่มีมือของเตชินท์จับอยู่ เห็นเช่นนั้นดิวก็รู้สึกปวดใจ แต่ลึกๆก็ยินดีกับน้ำพั้นซ์ที่ได้คนเพรียบพร้อมอย่างเตชินท์คอยดูแล เทียบกับเขาที่ไม่มีอะไรเลย ก็คงเป็นได้แค่พี่ชายที่ดีให้เธอต่อไป"อือ แล้วนี่พี่ดิวจะขับรถกลับบ้านยังไงอ่ะ กับข้าวเต็มมือขนาดนี้" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบก่อนจะถามกลับเมื่อเห็นดิวซื้อของเต็มไม้เต็มมือทั้งสองข้าง คงจะพากลับลำบาก"พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง" (พี่นั่งสองแถวมา ไม่ได้ขับรถมาเอง)น้ำพั้นซ์ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าให้ดิวอย่างเข้าใจ เธออยากจะเอ่ยปากชวนดิวกลับด้วยกันแต่ก็ไม่กล้า กลัวคนข้างๆจะไม่พอใจอีก"ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง งั้นก็กลับด้วยกันสิ"ทว่าเสียงทุ้มข

  • เด็กดื้อของเตชินท์   ตอนที่ 28 ใครสำคัญกว่า

    สองวันต่อมาวันนี้เตชินท์หาเวลาว่างพาน้ำพั้นซ์กลับใต้มาหาคนเป็นตากับยาย แต่ซีเซียกับศิลาไม่ได้มาด้วย เนื่องจากซีเซียนั้นท้องอยู่ จึงไม่สามารถนั่งรถเดินทางไกลๆได้เพราะจะเสี่ยงอันตรายต่อครรภ์อ่อนๆเตชินท์กับน้ำพั้นซ์เดินทางมาถึงใต้ช่วงเวลาตะวันใกล้ตกดินพอดี หลังจากที่น้ำพั้นซ์พูดคุยและกอดหอมคนเป็นตากับยายด้วยความคิดถึงจนหนำใจแล้ว ทุกคนก็พากันลงไปทานข้าวเย็นข้างล่างตรงใต้ถุนบ้าน ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ เสียงรถมอเตอร์ไซค์ของดิวที่ขับเข้ามาในบ้านก็ดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง ด้านดิวเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินมุ่งตรงมาทางทุกคนทันที ก่อนจะเอ่ยทักทายน้ำพั้นซ์ไป"หลบมาถึงนานแล้วเนาะพั้นซ์" (กลับมาถึงนานแล้วเหรอพั้นซ์)"ถึงสักพักแล้วล่ะ" น้ำพั้นซ์เอ่ยตอบดิว ก่อนจะหันมามองคนตัวโตข้างๆที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นเขามองมาแววตาเต็มไปด้วยคำถาม แต่เขาก็เงียบ เธอเองก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร กระทั่งเสียงคนเป็นยายดังขึ้น"รู้ได้ไงว่าเจ้าพั้นซ์มันกลับบ้าน ได้ข่าวไวจริงนะเอ็ง""กะพั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมโร้พรือล่ะยาย" (ก็พั้นซ์โทรบอกผม ไม่ให้ผมรู้ได้ไงล่ะยาย"ด้านน้ำพั้นซ์ตอนนี้นั่งก้มหน้างุด เพราะ

  • เด็กดื้อของเตชินท์   ตอนที่ 27 มือกลองจำเป็น

    หนึ่งเดือนผ่านไปวันเวลาล่วงเลยผ่านไปเร็วเหมือนโกหก หนึ่งเดือนมานี้ทุกคนต่างดำเนินชีวิตไปตามปกติ ด้านน้ำพั้นซ์ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับที่อยู่ใหม่ได้แล้ว และใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับเตชินท์ได้อย่างมีความสุข แม้ที่ผ่านมาจะมีการงอนง้อหรือง้องอนกันบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคู่รักอยู่แล้ว และอีกหนึ่งข่าวดีที่เกิดขึ้นในช่วงหนึ่งเดือนนี้คือซีเซียได้ตรวจพบว่าเธอนั้นท้องจริงๆ แต่ระยะครรภ์แค่เพียงสามสัปดาห์เท่านั้น หรือเธอเพิ่งจะตั้งครรภ์หลังจากที่กลับจากใต้นั่นเอง20:35 น.ณ ร้านเหล้าเปิดใหม่"ขอบใจนะไอเตไอศิที่มาประเดิมร้านให้กู ว่าแต่สองสาวน้อยนี่ใครวะ สวยจัด" เสียงเบียร์ เพื่อนสมัยเรียนมหาลัยของเตชินท์และศิลาเอ่ยพูดขึ้น โดยไม่ลืมที่จะถามถึงสาวน้อยข้างกายของทั้งสองคนที่สวยและน่ารักไม่แพ้กันเลย"เมียกู!/เมียกู!" เตชินท์กับศิลาเอ่ยตอบพร้อมกันทันทีด้วยน้ำเสียงแข็ง ต่างก็รู้สึกไม่ชอบใจเบียร์เท่าไหร่ที่มาชมเมียของพวกเขาต่อหน้าต่อตา ตามประสาคนหวงเมีย จนเบียร์ต้องเอ่ยความบริสุทธิ์ใจออกไป"กูก็แค่ชมเมียพวกมึงเฉยๆ อย่ามาทำหน้าแบบนี้ใส่กูดิ ว่าแต่ไม่คิดจะแนะนำเมียพวกมึงให้เพื่อนอย่างกูรู้จักหน่อยเหรอวะ

  • เด็กดื้อของเตชินท์   ตอนที่ 26 คนแก่น้อยใจ/กำหลาบเด็กดื้ออยู่หมัด

    เมื่อทั้งสี่คนกลับมาถึงบ้าน ศิลาก็ขอตัวพาซีเซียกลับบ้านของเขา ตามที่เคยตกลงกันไว้ว่าถ้าหากเตชินท์มีเมียเมื่อไหร่ก็จะยอมปล่อยซีเซียให้ไปอยู่บ้านของศิลาและเมื่อศิลาพาซีเซียกลับไปแล้ว เตชินท์ก็เดินขึ้นไปชั้นบน น้ำพั้นซ์ที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินตามไปทันที พลางเอ่ยถามออกไป"อาเตจะไปไหนคะ""ห้องทำงานครับ อามีประชุมออนไลน์" เตชินท์เอ่ยตอบโดยที่ยังเดินไปข้างหน้า ไม่ได้หันกลับมามองคนตัวเล็กเลย เพราะเขากำลังแกล้งเมินเธออยู่ แต่เขาก็มีประชุมออนไลน์จริงๆ ถึงแม้เขาจะหายงอนเธอแล้ว แต่เขายังอยากที่จะแกล้งงอนเธอต่อ เพราะแค่อยากให้เธอง้อเขาอีก อยากใจละลายใจระทวยกับการง้อของเด็กก็เท่านั้นด้านน้ำพั้นซ์พอได้ยินคนตัวโตบอกว่ามีประชุมออนไลน์ สองเท้าเล็กก็หยุดชะงักกับที่ โดยไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เลือกที่จะเดินไปอีกทาง เพราะไม่อยากตามไปรบกวนเขาในเวลาทำงานน้ำพั้นซ์เดินมานั่งตรงประตูด้านข้างของบ้าน ดวงตากลมโตทอดมองไปยังสระน้ำสีฟ้าใสดูสะอาดตา พอได้อยู่คนเดียวโดยไม่มีซีเซียหรือคนคอยคุยด้วย ภายในใจก็รู้สึกอ้างว้างขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกคิดถึงตากับยาย คิดถึงบ้าน คิดถึงทุกอย่างที่ใต้ ทว่าอยู่ๆโทรศัพท์ในกระเป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status