แชร์

บทที่.1 Forget it... 1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-11 15:14:55

บทที่.1 Forget it...

          โครม!

          เสียงตัวถังรถยนต์ครูดกับพื้นถนนดังแสบแก้วหู ประกายไฟแลบแปลบปราบ ก่อนที่รถยนต์หรูจะพลิกคว่ำ หลายตลบ...กลิ้งหลุ่นๆ ลงไปตามถนนที่ทอดยาวลงไปยังตีนเขา ห่างจากเหวลึกไม่ถึง10เมตร รถยนต์หรูคันนั้นก็จอดสนิท...แต่ในสภาพที่ใครก็ตามมองเห็นคงได้แต่ร้องอุทานหาพระเจ้า...

          ตัวถังด้านหน้ายุบเข้าหาช่วงกลางของตัวรถ สภาพภายนอกเสียหายอย่างหนัก กระจกนิรภัยแตกละเอียด...และหากเป็นรถยนต์ราคาปานกลางคงไม่เหลือเค้าโครงที่ดีแบบที่เห็น แต่นี่... เป็นรถหรูราคามากกว่า10ล้าน สภาพยังดูไม่ได้...ดังนั้นไม่ต้องเดา...ผู้โดยสารรวมทั้งคนขับ จะเป็นเช่นไร...

          เสียงไซเรนดังแว่วมาแต่ไกล หญิงสาวที่อยู่เบาะหลังรถหรู ปรือตามองรอบตัวอย่างลำบาก เธอเจ็บร้าวไปตลอดลำตัว แขนและขา ชาจนขยับไม่ได้ ใบหน้าอาบไปด้วยลิ่มเลือดๆ ก่อนจะกระอักเลือดออกมาจากปาก เมื่อด้านในร่างกายชอกช้ำไม่แพ้กัน

          หวันยิหวาสะดุ้งเฮือก!!

          เธอฝันถึงคืนนั้นอีกแล้ว...ในฝันเธอจำได้แค่...เธอเกิดอุบัติเหตุหนักแทบเอาชีวิตไม่รอด...นอกนั้นจำอะไรไม่ได้อีกเลย

          มือเรียวบางยกขึ้นปิดใบหน้า พยายามเพ่งความคิดย้อนนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น...เธอไปทำอะไรที่นั่น แล้วรถยนต์ในฝัน คันนั้นมันเหลือเชื่อ... คนธรรมาดาอย่างเธอจะได้มีโอกาสแตะต้อง...ชุดที่สวมใส่ก็เช่นกัน มันหรูหราเกินกว่านักศึกษาจบใหม่ ที่ไปเที่ยวด้วยเงินจำนวนจำกัดจะสวมใส่ได้...แต่ไม่ว่าจะพยายามเค้นความคิดตนเองเท่าไหร่...เธอก็จำอะไรไม่ได้เลย แถมความรู้สึกเจ็บแปลบในอกนี่อีก น้ำตาของเธอไหลออกมาทุกครั้ง หากย้อนนึกถึงวันนั้น...

          เธอลืมอะไรไปเหรอ?...เรื่องที่เกิดขึ้นมันร้ายแรงเสียจน สมองสั่งการของเธอยังต้องปิดกั้นไว้...

          หญิงสาวกัดริมฝีปากล่าง...กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เมื่อเค้าหน้าใครบางคนแวบเข้ามาในสมอง...แต่ก็แค่เพียงชั่วครู่เดียว ก่อนจะเลือนหายไปเหมือนทุกครั้ง...

          ตืดๆ

          โทรศัพท์ส่วนตัวดังเตือน หญิงสาวหยิบขึ้นมาจากหัวเตียง สไลด์หน้าจอกดปิด เมื่อเธอตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ช่วงเวลาเช่นนี้คือการออกกำลังกาย เธอต้องมีวินัย หากอยากกลับมาแข็งแรงดังเดิม...

          หญิงสาวสะบัดผ้าห่มผืนบางออกจากตัว ก้าวลงจากเตียงนอน ไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวเนื้อนุ่มติดมือมาด้วย

          หวันยิหวาไม่ได้อาบน้ำเธอแค่แปรงฟันกับล้างหน้าให้สดชื่นขึ้น ถอดชุดนอนลายการ์ตูนที่ชื่นชอบ เปลี่ยนเป็นกางเกงวอร์มขายาวกับเสื้อยืดแขนยาวมีฮูดด้านหลัง...

          บ้านพักของบิดาอยู่ติดชายทะเล บรรยากาศน่าอยู่ และทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคย บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความทรงจำวัยเด็ก มีรูปของเธอทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงเวลาปัจจุบัน...แต่ความทรงจำนั่น ไม่เหลืออยู่ในสมองของเธอเลย

          “หวาไปวิ่งนะคะแม่...” หญิงสาวชะโงกหน้าร้องบอกมารดาที่กำลังสาละวนอยู่หน้าเตา

          ก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ออกไปจากตัวบ้าน ออกกำลังกายแบบที่เธอถนัด...ดีกว่านั่งทุกข์ใจให้คนรอบตัวเป็นห่วง

          กลิ่นไอทะเลเค็มๆ ลอยมาปะทะไปหน้า ฝูงนกนางนวลโผบินไปมาหยอกเย้ากับฝูงปลาตัวเล็กที่ขึ้นมาเล่นแสงแดดบนผิวน้ำ นกตัวใหญ่โผลงไปขย้ำปลาชะตาขาด จนผืนน้ำแตกกระจาย...หวันยิหวามองนิ่งๆ เธอสงสารทั้งปลาและนก เมื่อมันเป็นวัฏจักรที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้...สิ่งมีชีวิตบนโลกต้องดิ้นรนให้ตนเองอยู่รอด มันอาจจะโหดร้ายไปสักหน่อย...แต่มันคือสัจธรรม

          หญิงสาววิ่งไปหยุดที่ชายทะเล กางมือออกด้านข้าง พร้อมกับเริ่มออกกำลังกายช้าๆ

          หวันยิหวาทำแบบที่มาเกือบ1เดือน มันช่วยให้เธอแข็งแรงขึ้น...แต่ก็ยังจำอะไรไม่ได้อยู่ดี...

          พระอาทิตย์เริ่มพ้นผิวน้ำมากขึ้น และเธอก็รู้สึกล้า...จึงหมุนตัวกลับ วิ่งเหยาะๆ กลับที่พัก เหมือนทุกวัน

          หวันยิหวานั่งท้าวคาง...มองภาพบนจอโทรทัศน์ที่แขวนอยู่ข้างพนัง...ข่าวด่วนเกี่ยวกับวงการธุรกิจข้ามชาติ การร่วมมือกันลงทุนปลูกสร้างตึกสูงระฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย ระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่กับนักธุรกิจต่างชาติ เธอไม่ได้สนใจรายละเอียด เพียงแต่สะดุดหูกับประเทศที่เข้ามาร่วมทุน...บริษัทใหญ่ครั้งนี้ ไม่ได้มากจากประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา หรือจีนที่เกือบเป็นเจ้าโลก...เป็นประเทศในฝันที่ศิลปินต้องไปให้ถึง เพื่อชื่นชมศิลปะเก่าแก่...อิตาลี...นายทุนที่เข้ามาร่วมมือกับบริษัทยักษ์ เพื่อเนรมิตอาคารสูง บนเนื้อที่หลายร้อยไร่...

          “พี่หวา...ขวัญไปเรียนนะ อยู่คนเดียวได้มั้ยคะ?”

          ขวัญอุสา พนักงานในร้านร้องบอก หล่อนถอดผ้ากันเปื้อนที่คล้องอยู่บนบ่า พับเก็บไว้ในตู้แขวนด้านหลัง

          “อืม...ได้ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแม่คงมา” หญิงสาวตอบโดยไม่ได้หันไปมอง...เธอกำลังจับจ้องหน้าจอโทรทัศน์แบบตาไม่กระพริบ เหมือนกำลังรอใครบางคนอยู่ ใครบางคนที่เธออาจรู้จัก

          “ขวัญอบขนมไว้ด้วยนะพี่หวา อย่าลืมไปเอาออกมาจากเตาด้วยนะคะ” หล่อนร้องเตือนอีกอย่าง ก่อนจะฉวยกระเป๋าย่ามผ้าสีขมุกขมัว...เดินออกไปจากคอกหน้าเค้าน์เตอร์...

          ช่วงบ่ายกว่าๆ ลูกค้าบางตา และหวันยิหวาเริ่มชิน เธอช่วยงานในร้านกาแฟแห่งนี้เกือบเดือนเช่นกัน...มารดาดูโล่งใจขึ้น สีหน้าของท่านดีขึ้นทุกวัน จนหวันยิหวากลับไปอมทุกข์เหมือนเก่าไม่ได้...เธอไม่ได้เสแสร้งว่ารู้สึกดีขึ้น แต่ร่างกายของเธอพร้อมมากกว่าเก่า ไม่ได้ช็อคเหมือนก่อนหน้านี้...

          ตี๊ดๆ...เสียงสัญญาณตู้อบขนมร้องเตือน หญิงสาวย่นคิ้ว เบ้ปาก จำใจผละห่างหน้าจอโทรทัศน์มาแบบจำใจ

          และเมื่อหล่อนหันหลังให้ ผู้ชายตัวใหญ่เดินผ่านหน้าจอเข้ามาพอดี กล้องจับภาพได้ชั่วครู่ ก่อนการ์ดหน้าดุในชุดสูทสีดำทมึนจะปัดกล้องให้พ้นทาง ผู้ชายตัวใหญ่หน้าเข้ม...ขนาดใบหน้าคมถูกบดบังด้วยแว่นตากันแดดเกือบครึ่ง แต่ก็ยังเรียกเสียงกรี๊ดได้ดังกระหึ่ม!! จากบรรดาสาวๆ ที่บังเอิญอยู่แถวนั้น...แต่หวันยิหวาไม่มีโอกาสได้เห็น ...

          หญิงสาวกลับมาพร้อมกับถาดขนมอบในมือ หวันยิหวาเห็นแค่เพียงแสงแพลชวูบวาบแค่นั้นเอง...

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่หวันยิหวาตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมตามตารางที่นายแพทย์ผู้ชำนาญจัดทำไว้ให้ หญิงสาวบังคับตนเองให้มีวินัยฝึกฝนตามตารางอย่างเคร่งครัด หากอยากกลับมาเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน เริ่มต้นด้วยการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายเบาๆ ตบท้ายด้วยการวิ่งเหยาะๆ ระยะทางเท่าที่ตัวเองไหว ก่อนจะกลับมาอาบน้ำอาบท่า แต่งตัวออกไปช่วยมารดา ที่ร้านกาแฟริมถนน

ร้านกาแฟเล็กๆ จัดแต่งเน้นความสะดวกสบายสายตา บรรยากาศเป็นกันเอง มีลูกค้าประจำพอสมควร

และหนึ่งในบรรดาลูกค้า…มีนายแพทย์หนุ่ม นามว่าพจน์ พิศินโอสถรวมอยู่ด้วย นายแพทย์หนุ่มผู้นี้ ไม่ได้ติดใจรสชาติหอมหวานของกาแฟเลย เมื่อหมอหนุ่มอนาคตไกลคนนี้ ไม่นิยมเสพคาเฟอีน แต่ที่แวะมาบ่อยๆ ก็ตั้งแต่ได้รู้จักคนไข้สาว บุตรตรีของเจ้าของร้านกาแฟนั่นเอง

กรุ้งกริ้ง!!! เสียงกระพรวนพวงใหญ่ที่แขวนไว้เหนือประตูทางเข้าร้านสั่นกราว

หวันยิหวา เงยหน้าขึ้นมอง เธอส่งยิ้มไปให้ ตามประสาแม่ค้าที่ดี

“สวัสดีค่ะหมอพจน์ ลมอะไรหอบมาไกลถึงนี่ได้คะ?”

หวันยิหวากล่าวทักทาย ลูกค้ารายใหม่แต่เป็นคนคุ้นเคย

นายแพทย์หนุ่มยิ้มในหน้า หากตอบได้ดั่งใจคิด เขาคงตอบว่า ‘คิดถึงคุณหวาครับ เลยแวะมาหา’

แต่นั่นคือสิ่งที่เขาทำได้แค่คิด หวันยิหวาไม่ได้มีทีท่า ‘อ่อย’ หรือ ‘ทอดสะพาน’ ให้เขาเหมือนสาวคนอื่นๆ ที่เดินเข้ามาพัวพันในชีวิต หญิงสาววางตัวเป็นกลาง ระดับความสัมพันธ์จึงไม่ได้พัฒนาเพิ่มมากขึ้น ยังคงเป็นแค่หมอ กับอดีตคนไข้แค่นั้นเอง

“พอดีผ่านมาครับ เลยแวะเข้ามาดูคุณหวา แต่เท่าที่เห็นด้วยตานี่ คุณหวาดูสดใสขึ้นนะครับ”

ครั้งแรกที่เจอกัน หวันยิหวาเหมือนซากร่างกาย มีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่บ่งบอกสัญญานชีพ เขาเองอยากรู้เบื้องลึก จึงสืบหาเองลับๆ หมอหนุ่มตกใจมือไม้อ่อน ตอนที่อ่านเล็คเชอร์ของคนไข้ หวันยิหวาเจ็บหนักแขนหัก ขาหัก ซี่โครงหัก…บาดเจ็บเกือบทั้งตัว ที่ร้ายแรงสุดคือ…หล่อนแท้ง!!!

“ทานน้ำอะไรดีคะ หวาเลี้ยงเอง”

“อย่าเลยครับ ของซื้อของขาย ผมไม่รบกวนดีกว่า ขอเป็นลูกค้าคุณหวา ครั้งหน้าผมจะได้แวะมาอีก”

พจน์ปฏิเสธเช่นนี้ทุกครั้ง เขาอยากมาบ่อยๆ แต่หากมาแล้วกินฟรี เขาเกรงใจ

“ตามใจค่ะ หวาแค่อยากตอบแทนหมอที่ดูแลหวาอย่างดี” หวันยิหวาบ่นงึมงำ ลงมือปรุงน้ำหวานให้พจน์โดยไม่รอให้ชายหนุ่มสั่ง เมื่อนายแพทย์ผู้นี้มาบ่อยจนคุ้นเคยดี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่13.แตกหัก... 3

    และดูเหมือนว่าจะโชคเข้าข้าง...ดูท่าทางคนเหล่านั้นแตกตื่น เมื่อเจอใครบางคนที่เจ็บหนัก คลิสเตียนทันได้เห็น คนกลุ่มใหญ่หิ้วปีกใครคนหนึ่งออกไปจากสถานที่ก่อเหตุ อาการดูเหมือนจะหนัก เมือเขาเห็นเลือดท่วมกายของคน คนนั้นเลย หวันยิหวานั่งขดตัวแนบกับกำแพงปูน ตัวเธอสั่นเทาจน คลิสเตียนต้องรั้งมาโอบไว้หลวมๆ “ปล่อยนะคลิส!!” หญิงสาวผลักอกเขาเต็มแรง มอง คลิสเตียนตาขวาง ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ “จำฉันได้ตอนไหน?” เขาเปิดปากถาม เล่นเอาหวันยิหวาชะงักกึก!! เธอหลบตาวูบ ส่อพิรุธออกมาให้จับได้อีกครั้ง “อะไร!!” หล่อนแสร้งตวาดเสียงเขียว “อย่ามากลบเกลื่อน หวาเรียกฉันแบบนี้ อีตอนที่จำไม่ได้ หวาเรียกฉันคุณ ไม่ใช่คลิส!!” ชายหนุ่มซัก

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่13.แตกหัก... 2

    แต่ดูเหมือนว่า...จะเข้าแผนการของใครบางคนพอดี จุดหมายปลายทางที่รออยู่ด้านหน้า...คือความตายที่กำลังกวักมือเรียก... บนเนินเขาห่างจากรีสอร์ทริมทะเลไม่เท่าไหร่!! เจนน่าลดกล้องส่องทางไกลลง เธอยกมือขึ้นขยี้ตา...ก่อนจะเพ่งมองผ่านกล้องส่องทางไกลนั่นซ้ำ? “ใครก็ได้ลงไปสะกัดคลิสไว้ที” เสียงหล่อนตะโกนลั่น เมื่อมองเห็นใครบางคนตามหลังหวันยิหวามาติดๆ “ไม่ทันแล้วครับนายหญิง ลงไปตอนนี้ แผนที่วางไว้คงพลาดทุกอย่าง!!” แผนที่วางไว้จะต้องไม่คลาดเคลื่อน หากส่งใครก็ตามลงไปสะกัดคลิสเตียนไว้ หมอนั่นก็จะรู้ทัน และคนที่นายสาวต้องการกำจัดก็จะพ้นอันตราย ที่สำคัญ!! คำสั่งตรงจากเปาโล ไม่ว่าจะหวันยิหวาหรือคลิสเตียน ทั้งสองคนนี้

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่13.แตกหัก... 1

    บทที่13.แตกหัก... แววตาเหี้ยมเกรี้ยมมองภาพตรงหน้า ด้วยเพลิงแค้นสุมอก ศัตรูหัวใจ มารที่ขวางทางรักของตนเองกับผู้ชายที่เธอมอบใจให้ เห็นทีครั้งนี้ มันจะมีลมหายใจต่อไปไม่ได้ ครั้งที่แล้วเธอพลาด แต่ไม่ได้หมายความว่า หวันยิหวาจะมีเก้าชีวิต ลองดูสิ หากครั้งนี้มันไม่ตาย...เธอจะยอมปล่อยมือ... “ทำตามแผนเดิม...” เจนน่าสั่งเสียงเหี้ยม การปลิดชีวิตคน เป็นเรื่องธรรมดาของเธอ ใครก็ตามที่เข้ามาขวางทางเธอ มันจะยังคงมีลมหายใจต่อไม่ได้ และหากครั้งนี้คลิสเตียนเข้ามาขวาง... เธอก็ไม่แยแส...ขอเพียงแค่...กำจัดศัตรูได้ บิดาคงจะแก้ต่างให้เธอเอง...เหมือนเช่นทุกครั้ง&nbs

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่12.ตามรัก ทวงหัวใจ!! 2

    ‘ทำไมฉันจะเข้ามาที่รอสซีไม่ได้ ฉันเป็นใคร แกไม่รู้เหรอ?!!’ หวันยิหวาช้อนสายตาเศร้าสร้อยมองอัลเบโต้ ขนาดคนข้างกายชายหนุ่มยังรู้จักหล่อน แสดงว่าสิ่งที่หล่อนพูดออกมาคือความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ เป็นของเล่นของคลิสเตียนอย่างที่อีกฝ่ายพูดจริง และหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือว่าที่มาดามที่เธอแอบได้ยินคนงานซุบซิบถึง อัลเบโต้อึ้ง เขารู้ว่าเจนน่าเป็นใคร แต่รอสซีคือที่เดียวที่เจ้านายไม่ให้หล่อนเหยียบเข้ามา เมื่อมีหวันยิหวาอยู่ ‘ถ้าคลิสไม่เปิดทางให้ ฉันจะเข้ามาได้เหรอ?’ เจนน่ายิ้มมุมปาก เธอกล่าวอ้างเป็นฉากๆ และดูเหมือนว่าอัลเบโต้จะแย้งไม่ออก ‘เขาเบื่อแม่คนนี้แต่ไม่รู้จะกำจัดหล่อนยังไง เลยไหว้วานฉันมาไล่ให้’&nb

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่12.ตามรัก ทวงหัวใจ!! 1

    บทที่12.ตามรัก ทวงหัวใจ!! “มึงรู้อะไรอัล...บอกกูมา!!” คลิสเตียนเขย่าอัลเบโต้แรงๆ ชายหนุ่มเงยหน้ามองสบนัยน์ตาเจ้านาย “วันนั้น คุณหวาเธอแท้ง!!” อุบัติเหตุครั้งนั้น ไม่ได้พรากแค่ความทรงจำของหวันยิหวา แต่พรากเอาสายเลือดของคลิสเตียนไปด้วย เซเก้ผงะ!! แต่คนที่อาการหนักกว่าคือคลิสเตียน ชายหนุ่มแทบล้มทั้งยืน หัวเข่าอ่อนยวบ ทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นแบบสิ้นท่า มือแข็งแรงยกขึ้นปิดใบหน้า เหงื่อกาฬไหลเปียกชุ่ม สีหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าอิริคเสียอีก “มึงพูดอะไร...อัล!!” กว่าจะตั้งสติและควานหาคำพูดตัวเองเจอก็ผ่านไปหลายนาที เสียงที่ถามออกไปนั้นแหบแห้งและสั่นพร่า “ฮ่าๆ เพราะความมักง่ายของเจ้านายไงคร

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่11.คำสารภาพ!! 3

    “คุณเจนน่าเธอบังคับผมครับ หากไม่ทำ แม่ พ่อผมก็ต้องตายเหมือนกัน” อิริคตอบเสียงปร่า เมื่อตนเองก็ถูกบีบ ไม่ทำก็ไม่ได้ มีแต่หนทางตายรออยู่ข้างหน้าทั้งนั้น “มึงกลัวยัยนั่นมากกว่ากูอีกรึ?” อิริคคอตก เจนน่าน่ากลัวไม่ถึงครึ่งของเจ้านาย แต่เพราะความโลภบังตาตอนนั้น ในเมื่อตนเองต้องเสี่ยง เขาควรได้ค่าตอบแทน และมันคุ้มค่ากับการลงมือ แค่ส่งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้านายให้หล่อนรู้ กับการเปิดทางให้เจนน่าครั้งเดียวครั้งนั้น อิริคไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะร้ายแรงจนเกินควบคุม “ผมจำเป็นครับนาย” มันพยายามแก้ตัว แต่เหตุผลป่วยๆ ฟังไม่ขึ้น ไม่ว่าคนบนโลกใบนี้จะมีความจำเป็นเท่าใด เขาก็ไม่ควรหักหลักเจ้านายที่ชุปเลี้ยงมา “บอกกูมาก่อน ครั้งก่อนมึงร่วมมือกับเจนน่าหรือเปล่า?”&

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status