แชร์

บทที่.1 Forget it... 2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-11 15:15:16

พจน์มองหาที่นั่ง เขาหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ไม่ไกลจากเค้าน์เตอร์บาร์เท่าไหร

“อิตาเลี่ยนโซดาค่ะ”

หญิงยกแก้วทรงสูงบรรจุน้ำสีสวยมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ รอยยิ้มจริงใจแต้มมุมปาก ไร้สิ่งเคลือบแคลง

“แถมแยลลี่ให้ด้วยนะคะ บอกตามตรงหวาเพิ่งหัดทำค่ะ คุณเป็นลูกค้ารายแรกที่ได้ชิม”

หญิงสาวป้องปากกระซิบเสียงแผ่ว ชี้ชวนให้พจน์ดู แยลลี่เนื้อนุ่มที่ตนเองเพิ่งทดลองทำ

“ทานได้ใช่มั้ยครับ” ชายหนุ่มถาม ส่งยิ้มล้อเลียนตามมาด้วย

หวันยิหวายิ้มแหยๆ “หวาชิมแล้วค่ะ ทานได้จริงๆ” ตอบเสียงขึงขัง

“ครับ…อร่อยครับ” พจน์ตอบหลังชิมรสแยลลี่เนื้อนุ่ม

“เห้อ!! โล่งอกไปที…มีคุณหมอคอนเฟิร์มแบบนี้ คงพอทำขายได้”

หญิงสาวเป็นลูกมือมารดาเสียเป็นส่วนใหญ่ งานในร้านทั้งหมดหวันยิหวาทำได้ ยกเว้นอบขนม ถ้าเป็นตำแหน่งนั้นคงต้องยกให้มารดา หรือไม่ก็ขวัญอุสานักศึกษาที่ทำพาสไทม์

พจน์อมยิ้ม เขาอยากชวนคุย แต่ไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่นั่งแอบมองหญิงสาวอยู่ห่างๆ

หวันยิหวาเดินกลับไปประจำที่ เมื่อมีลูกค้ารายใหม่แวะเข้ามา เธอยิ้มกว้างพูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง สีหน้าสดใส ไร้ความวิตกกังวลเหมือนที่พจน์แอบกลัว

“อ้าว!! คุณหมอมาเมื่อไหรคะนี่” พรรณนาเอ่ยทัก นางเดินเข้าไปหาพจน์ใกล้ๆ

“สวัสดีครับคุณน้า” พจน์ผุดลุกขึ้นยืน ทำความเคารพพรรณนาในฐานะคนโตกว่า

“ยัยหวาทำไมไม่ยกขนมมาให้คุณหมอล่ะลูก” นางหันไปเอ็ดบุตรสาว เมื่อบนโต๊ะของพจน์มีแค่น้ำแก้วเดียว

“มาถึงก็บ่นหวาเลย แม่ถามหมอซิคะ…หวายัดเหยียดให้ แต่หมอไม่รับเอง”

“ไม่ได้นะคะ นานๆ มาที อย่าปฏิเสธเลย” พรรณนาไม่สนใจ นางเดินไปหยิบจาน ใช้คีมปากใหญ่คีบขนมอบน่ารับประทานมาหลายชิ้น ก่อนจะเดินย้อนกลับมาส่งให้พจน์

“ลองชิมดูค่ะ น้าเพิ่งคิดสูตรได้…ไม่มีแบบนี้ที่ร้านอื่นแน่ๆ”

“แม่ชอบทำค่ะหมอ แต่หวาชอบทานมากกว่า…ให้หวาออกแบบเสื้อ ยังง่ายกว่าทำขนมอีก”

หญิงสาวเดินมาร่วมวงสนทนา เธอเอ่ยอ้าง…ก่อนจะชะงักไปชั่วครู่ เมื่อภาพบางอย่างแวบเข้ามาในหัว…เหมือนมีใครบางคนกดเปิดไฟ ในห้องมืดสนิทและปิดทันที โดยไม่รอให้ไฟฟ้าสว่างเต็มที่

“อุ้ย!!” เสียงอุทานของบุตรสาวพรรณนาจึงหันมาให้ความสนใจ ท่านลุกขึ้นจากที่นั่ง ถลาเข้ามาโอบบ่าหวันยิหวาไว้ เมื่อจู่ๆ สีหน้าของบุตรสาวเผือดซีดขึ้นมาแบบฉับพลัน

“ยัยหวาเป็นอะไรลูก!!!”

“ปะ…เปล่าคะแม่…แค่มีภาพอะไรไม่รู้ค่ะ...แวบขึ้นมาในหัวหวา…พอเพ่งมองจริงๆ ก็หายไป”

“นั่งลงก่อนลูก”พรรณนาประคองบุตรสาวให้นั่งลง

“ผมนัดหมอให้มั้ยครับ ดูเหมือนความจำบางส่วนของคุณหวาจะกลับมาแล้ว”

พจน์เสนอตัว เขาวิเคราะห์จากคำพูดหญิงสาว หวันยิหวาเสียความทรงจำ แต่ไม่ใช่แบบถาวร ความจำของหล่อนเลือนหายไปชั่วคราว…อาจจะกลีบมาในเร็ววัน หรือเนิ่นนานแค่ไหนไม่มีใครรู้

“ค่ะ” พรรณานารับคำ ยกมือขึ้นลูบพวงผมด้านหลังท้ายทอยหวันยิหวาด้วยความเป็นห่วง

“หวาเบื่อตัวเองจังค่ะแม่” หญิงสาวบ่น หลังหายเจ็บตามร่างกาย เธอกลายเป็นคนที่ไม่มีความทรงจำ ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ

“แม่ไม่เคยเบื่อหวาจ้ะ แค่หวายังอยู่ แม่ก็พอใจแล้ว” พรรณนากล่าว สวมกอดบุตรสาว ยกมือขึ้นลูบแผ่นหลัง ถ่ายทอดความห่วงใยของตนเองให้บุตรีรู้

“หวารักแม่ค่ะ” หญิงสาวกอดตอบเอียงใบหน้าแนบอกอวบของมารดา ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

“แม่กับพ่อก็รักหวา...เรามาพยายามไปด้วยกันนะลูก ไม่ต้องรีบแม่รอได้”

พรรณนานากล่าวตอบเสียงสั่น...หากเป็นไปได้นางอยากให้บุตรสาวจำอะไรไม่ได้เลยเหมือนตอนนี้ ทิ้งอดีตที่แสนเลวร้ายไปตลอดกาล เพราะในทันที ที่หวันยิหวาจำได้ หล่อนคงโศกเศร้าอย่างหนัก เสียใจเพราะความผิดหวัง และคงแทบขาดใจเมื่อสิ่งที่สูญเสียไปนั้น...เป็นสิ่งสำคัญของเพศหญิง!!

พจน์มองสองแม่-ลูก ที่กอดกันกลมด้วยสายตาอ่อนโยน ชายหนุ่มเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่สนใจอดีตที่ผ่านไปแล้ว เขารู้ตัวดีหวันยิหวาพิเศษสำหรับเขา หากบุพกาลีของเธอไม่รังเกียจ นายแพทย์จนๆ คนนี้ พจน์ขออาสาคอยดูแลหวันยิหวาต่อจากนี้เอง

และพรรณนาก็พอจะรู้...นางอาบน้ำร้อนมาก่อน ผ่านโลกมาพอสมควร จึงพอมองออก นางพอใจนายแพทย์คนนี้มากเป็นพิเศษ ข้อเดียวที่ตขิดตะขวงใจ คือนายแพทย์ผู้นี้รู้ ปม ของบุตรีตนเอง ปมที่แม้แต่นางเองยังไม่อยากนึกถึง หากชายหนุ่มไม่รังเกียจข้อเสียข้อนั้นของบุตรสาว นางก็ยินดีต้อนรับ...

วิทย์หิ้วถุงใบใหญ่เดินเข้ามาในร้าน ท่านชะงักกึก มองภรรยาและบุตรสาวที่กอดกันกลมด้วยสายตาสงสัย

“เกิดอะไรขึ้น ยัยหวาเป็นอะไร?” ชายสูงวัยเดินเข้ามารวมกลุ่ม ถุงใบนั้นถูกโยนทิ้งใกล้ๆ ประตูทางเข้า

หญิงสาวเงยหน้าจากซอกอกมารดา ส่งยิ้มให้บิดา ทั้งที่น้ำตายังคลอขังในหน่วยตาคู่งาม...

“เปล่าค่ะพ่อ หวาแค่ตกใจ!! มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัวหวาค่ะ...”

“หือ...” วิทย์คราง มองสบตาภรรยา “หวาพอจะจำได้แล้วเหรอลูก?” ท่านถามเสียงแฝงความตระหนก

“ยังค่ะ” หวันยิหวาตอบเสียงอ่อย “มันมาแค่แวบๆ แล้วก็มืดสนิทเหมือนเดิม”

วิทย์ถอนใจด้วยความโล่งอก บุตรสาวยังไม่แข็งแรงดี เขาอยากให้ยืดเวลาไปอีกหน่อย เมื่อความทรงจำที่ถูกทิ้งไปนั้น มันสาหัสเกินกว่าที่หวันยิหวาจะรับไหว

“ผมจะนัดหมอให้ครับคุณอา...” พจน์กล่าวแทรก วิทย์จึงหันไปยิ้มให้ ท่านไม่ได้สนใจคนอื่นเลย เมื่อเป้าความสนใจอยู่ที่บุตรสาว จนกระทั่งพจน์พูดออกมา ท่านจึงรู้ว่านายแพทย์ผู้นี้ นั่งอยู่ด้วย

“ไม่ทันมองหมอ... ผมนี่เสียมารยาทชะมัด” วิทย์บ่นตัวเอง

“ไม่เป็นไรครับ หากเป็นผมก็คงไม่เห็นใครเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบ วิทย์รู้ทันความนัยที่ชายหนุ่มส่งให้ หากถามใจตนเอง ท่านไม่รังเกียจชายผู้นี้ แต่ประวัติอันด่างพล้อยของบุตรสาว จะเป็นตัวแปรในอนาคต เมื่อชายหนุ่มเป็นคนเด่นคนดัง หากใครก็ตามแตะต้องหวันยิหวา ด้วยข่าวฉาวๆ ท่านคงทนไม่ได้

“พ่อ...ของแม่ล่ะ?” พรรณนาถามแทรก นางไม่เห็นสามีถืออะไรมาด้วย

“ตาย...พ่อโยนทิ้งไว้ตรงไหนล่ะนั่น กำลังตกใจน่ะแม่” วิทย์ตอบภรรยา ท่านเหลียวมองหาสิ่งที่ตนเองหลงลืม

“ดีนะไม่ใช่ไข่ หรือแก้ว ไม่งั้นคงพังยับ” พรรณนาบ่นสามี มองวิทย์ที่วิ่งกลับไปฉวยถุงใบใหญ่ที่ตนเองโยนทิ้งไว้ก่อนหน้านี้

หวันยิหวาหัวเราะคิก...รีบลุกไปช่วยบิดาถือของ “ไม่มีอะไรเสียหายเลยค่ะแม่...ของทั้งหมดอยู่ในสภาพดี” เธอกล่าวเสียงร่าเริง เดินเลี่ยงเอาของในถุงไปเก็บ มีสายตา3คู่มองตาม แววตาทั้งหมดของคนสามคน ล้วนแต่ห่วงใยหวันยิหวาทั้งหมด...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่13.แตกหัก... 3

    และดูเหมือนว่าจะโชคเข้าข้าง...ดูท่าทางคนเหล่านั้นแตกตื่น เมื่อเจอใครบางคนที่เจ็บหนัก คลิสเตียนทันได้เห็น คนกลุ่มใหญ่หิ้วปีกใครคนหนึ่งออกไปจากสถานที่ก่อเหตุ อาการดูเหมือนจะหนัก เมือเขาเห็นเลือดท่วมกายของคน คนนั้นเลย หวันยิหวานั่งขดตัวแนบกับกำแพงปูน ตัวเธอสั่นเทาจน คลิสเตียนต้องรั้งมาโอบไว้หลวมๆ “ปล่อยนะคลิส!!” หญิงสาวผลักอกเขาเต็มแรง มอง คลิสเตียนตาขวาง ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ “จำฉันได้ตอนไหน?” เขาเปิดปากถาม เล่นเอาหวันยิหวาชะงักกึก!! เธอหลบตาวูบ ส่อพิรุธออกมาให้จับได้อีกครั้ง “อะไร!!” หล่อนแสร้งตวาดเสียงเขียว “อย่ามากลบเกลื่อน หวาเรียกฉันแบบนี้ อีตอนที่จำไม่ได้ หวาเรียกฉันคุณ ไม่ใช่คลิส!!” ชายหนุ่มซัก

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่13.แตกหัก... 2

    แต่ดูเหมือนว่า...จะเข้าแผนการของใครบางคนพอดี จุดหมายปลายทางที่รออยู่ด้านหน้า...คือความตายที่กำลังกวักมือเรียก... บนเนินเขาห่างจากรีสอร์ทริมทะเลไม่เท่าไหร่!! เจนน่าลดกล้องส่องทางไกลลง เธอยกมือขึ้นขยี้ตา...ก่อนจะเพ่งมองผ่านกล้องส่องทางไกลนั่นซ้ำ? “ใครก็ได้ลงไปสะกัดคลิสไว้ที” เสียงหล่อนตะโกนลั่น เมื่อมองเห็นใครบางคนตามหลังหวันยิหวามาติดๆ “ไม่ทันแล้วครับนายหญิง ลงไปตอนนี้ แผนที่วางไว้คงพลาดทุกอย่าง!!” แผนที่วางไว้จะต้องไม่คลาดเคลื่อน หากส่งใครก็ตามลงไปสะกัดคลิสเตียนไว้ หมอนั่นก็จะรู้ทัน และคนที่นายสาวต้องการกำจัดก็จะพ้นอันตราย ที่สำคัญ!! คำสั่งตรงจากเปาโล ไม่ว่าจะหวันยิหวาหรือคลิสเตียน ทั้งสองคนนี้

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่13.แตกหัก... 1

    บทที่13.แตกหัก... แววตาเหี้ยมเกรี้ยมมองภาพตรงหน้า ด้วยเพลิงแค้นสุมอก ศัตรูหัวใจ มารที่ขวางทางรักของตนเองกับผู้ชายที่เธอมอบใจให้ เห็นทีครั้งนี้ มันจะมีลมหายใจต่อไปไม่ได้ ครั้งที่แล้วเธอพลาด แต่ไม่ได้หมายความว่า หวันยิหวาจะมีเก้าชีวิต ลองดูสิ หากครั้งนี้มันไม่ตาย...เธอจะยอมปล่อยมือ... “ทำตามแผนเดิม...” เจนน่าสั่งเสียงเหี้ยม การปลิดชีวิตคน เป็นเรื่องธรรมดาของเธอ ใครก็ตามที่เข้ามาขวางทางเธอ มันจะยังคงมีลมหายใจต่อไม่ได้ และหากครั้งนี้คลิสเตียนเข้ามาขวาง... เธอก็ไม่แยแส...ขอเพียงแค่...กำจัดศัตรูได้ บิดาคงจะแก้ต่างให้เธอเอง...เหมือนเช่นทุกครั้ง&nbs

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่12.ตามรัก ทวงหัวใจ!! 2

    ‘ทำไมฉันจะเข้ามาที่รอสซีไม่ได้ ฉันเป็นใคร แกไม่รู้เหรอ?!!’ หวันยิหวาช้อนสายตาเศร้าสร้อยมองอัลเบโต้ ขนาดคนข้างกายชายหนุ่มยังรู้จักหล่อน แสดงว่าสิ่งที่หล่อนพูดออกมาคือความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ เป็นของเล่นของคลิสเตียนอย่างที่อีกฝ่ายพูดจริง และหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือว่าที่มาดามที่เธอแอบได้ยินคนงานซุบซิบถึง อัลเบโต้อึ้ง เขารู้ว่าเจนน่าเป็นใคร แต่รอสซีคือที่เดียวที่เจ้านายไม่ให้หล่อนเหยียบเข้ามา เมื่อมีหวันยิหวาอยู่ ‘ถ้าคลิสไม่เปิดทางให้ ฉันจะเข้ามาได้เหรอ?’ เจนน่ายิ้มมุมปาก เธอกล่าวอ้างเป็นฉากๆ และดูเหมือนว่าอัลเบโต้จะแย้งไม่ออก ‘เขาเบื่อแม่คนนี้แต่ไม่รู้จะกำจัดหล่อนยังไง เลยไหว้วานฉันมาไล่ให้’&nb

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่12.ตามรัก ทวงหัวใจ!! 1

    บทที่12.ตามรัก ทวงหัวใจ!! “มึงรู้อะไรอัล...บอกกูมา!!” คลิสเตียนเขย่าอัลเบโต้แรงๆ ชายหนุ่มเงยหน้ามองสบนัยน์ตาเจ้านาย “วันนั้น คุณหวาเธอแท้ง!!” อุบัติเหตุครั้งนั้น ไม่ได้พรากแค่ความทรงจำของหวันยิหวา แต่พรากเอาสายเลือดของคลิสเตียนไปด้วย เซเก้ผงะ!! แต่คนที่อาการหนักกว่าคือคลิสเตียน ชายหนุ่มแทบล้มทั้งยืน หัวเข่าอ่อนยวบ ทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นแบบสิ้นท่า มือแข็งแรงยกขึ้นปิดใบหน้า เหงื่อกาฬไหลเปียกชุ่ม สีหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าอิริคเสียอีก “มึงพูดอะไร...อัล!!” กว่าจะตั้งสติและควานหาคำพูดตัวเองเจอก็ผ่านไปหลายนาที เสียงที่ถามออกไปนั้นแหบแห้งและสั่นพร่า “ฮ่าๆ เพราะความมักง่ายของเจ้านายไงคร

  • เพลย์บอยทวงรัก   บทที่11.คำสารภาพ!! 3

    “คุณเจนน่าเธอบังคับผมครับ หากไม่ทำ แม่ พ่อผมก็ต้องตายเหมือนกัน” อิริคตอบเสียงปร่า เมื่อตนเองก็ถูกบีบ ไม่ทำก็ไม่ได้ มีแต่หนทางตายรออยู่ข้างหน้าทั้งนั้น “มึงกลัวยัยนั่นมากกว่ากูอีกรึ?” อิริคคอตก เจนน่าน่ากลัวไม่ถึงครึ่งของเจ้านาย แต่เพราะความโลภบังตาตอนนั้น ในเมื่อตนเองต้องเสี่ยง เขาควรได้ค่าตอบแทน และมันคุ้มค่ากับการลงมือ แค่ส่งข่าวความเคลื่อนไหวของเจ้านายให้หล่อนรู้ กับการเปิดทางให้เจนน่าครั้งเดียวครั้งนั้น อิริคไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะร้ายแรงจนเกินควบคุม “ผมจำเป็นครับนาย” มันพยายามแก้ตัว แต่เหตุผลป่วยๆ ฟังไม่ขึ้น ไม่ว่าคนบนโลกใบนี้จะมีความจำเป็นเท่าใด เขาก็ไม่ควรหักหลักเจ้านายที่ชุปเลี้ยงมา “บอกกูมาก่อน ครั้งก่อนมึงร่วมมือกับเจนน่าหรือเปล่า?”&

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status