แชร์

EP.8

ผู้เขียน: พลอยแพรวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-27 16:40:50

EP.8

วันต่อมา

หลังจากเลิกเรียนช่วงเช้าแล้วเพื่อนสาวทั้งสองของฉันก็พามาร้านเสริมสวยที่ฉันแทบจะไม่เข้าเลยในรอบสิบเก้าปี จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก็ตอนมัธยมต้นเพราะอยากลองตัดผมสั้นสักครั้งในตอนนั้น

"พี่ป่านคนสวยคะ แปลงโฉมให้นางหน่อย เปลี่ยนสีผมด้วย แล้วก็ตัดสั้นขึ้นจากเอวมาอยู่กลางหลังค่ะ" ปาล์มมีเอ่ยปากทักทายช่างอย่างสนิมสนมแล้วสั่งทรงผมให้เสร็จสรรพ ส่วนฉันก็สนใจรูปโปสเตอร์ทรงผมสวยๆภายในร้านที่ดูน่าสนใจไปหมด

"อืม อยากได้สีอะไรคุณน้อง"

"เอาสีของคนอกหักค่ะ" ทิวลิปตอบแทนฉันจนต้องหันขวับไปมองมัน

"ฉันไม่ได้อกหักนะ"

"มันต่างกันตรงไหนชะนี ก็คนที่แกชอบเขาไปชอบแม่นั่นไม่ใช่" ตอกย้ำทำไมกันเนี่ย เรื่องนี้ยังสรุปไม่ได้เลยด้วยซ้ำอีกอย่างไม่ใช่คนที่ฉันชอบ นั่นน่ะสามีฉันเลยต่างหาก

โถใบชาถ้าพูดให้ใครฟังคงได้กลายเป็นคนที่น่าสงสารมากแน่ๆ แล้วสองคนนี้ก็จะเกลียดเพลงมากขึ้นด้วย

"เอาสีไหนก็ได้ค่ะที่เหมาะกับหน้าหนู" ฉันบอกช่างพี่ป่านแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้หนัง

"น้องผิวขาวแบบนี้สีไหนก็สวย งั้นเราทำพวกสีสว่างๆดีกว่าเด่นแน่นอน"

"บลอนด์ทองไปเลยค่ะ" ปาล์มมี่เสนอความคิดเห็น

"มะ...ไม่เอา" นั่นมันสว่างเกินไปแล้ว เหมือนเปิดไฟไว้บนหัวตลอดเวลา

"แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ จัดไปเลยค่ะคุณพี่" เพื่อนสาวสองชี้หน้าฉันแล้วสะบัดนิ้วไปสั่งช่างทำผมต่อ คบกันสองวันมันบังคับฉันทำไปกี่อย่างแล้วเนี่ย 

ลองดูหน่อยก็ได้ ไม่เห็นจะเสียหายเลย อีกอย่างสีบลอนด์มันสามารถทับด้วยสีอื่นได้ ถ้าไม่เหมาะกับหน้าค่อยหมักเป็นสีอื่นแล้วกัน

ช่างใช้เวลาทำสีผมไปสองชั่วโมงกว่า ตอนนี้ฉันยังทึ่งกับสีผมตัวเองอยู่เลยพวกนั้นก็นั่งเมาท์มอยเรื่องทรงผมฉันอยู่ เหมือนจะพาฉันไปลงแข่งอยู่จริงๆ 

"ต่อไปก็หัดแต่งหน้าค่ะ พี่ป่านลองแต่งบางๆให้นางหน่อยสิ" 

แล้วช่างก็จัดการเช็ดหน้าที่ทาครีมกันแดดเอสพีเอฟสามสิบกับแป้งฝุ่นสำหรับเด็กของฉันออก เปลี่ยนไปทาของเธอแทนต่อด้วยรองพื้นสีอ่อนที่สุด ตามด้วยเขียนคิ้ว

"ทำไมเยอะแบบนี้ล่ะคะ ถ้าจะแต่งหน้าไปเรียนไม่ต้องตื่นตีสามเลยเหรอ"

"ผู้หญิงเรายังไงก็ต้องหัดทำนะ ถ้าทำเป็นแล้วใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีหรอก พี่ว่าตัวเองแต่งอ่อนๆก็สวยแล้ว" พี่ป่านบอกยิ้มๆ แค่สีผมตอนนี้ก็เปลี่ยนฉันเป็นคนละคนแล้วเขียนคิ้วทาปากไปอีกนิดมันแทบจะไม่ใช่ฉันคนเดิมเลย

เปรี้ยวมาก ทั้งที่ฉันเป็นคนเรียบร้อย...

"กรี๊ด ฉันชอบลุคนี้!!" ยัยปาล์มมีปรบมือดังลั่นร้านไม่ต่างจากยับทิวลิปที่ทำหน้าภูมิใจอย่างกับฉันคว้ามงมาครอง

"เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้เลยแก" ทิวลิปพูดมองมาแบบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง 

มันขนาดนั้นที่ไหนกันเล่า พวกนี้มันชักจะอวยยศให้ฉันเยอะเกินไปแล้วเดี๋ยวฉันก็หลงตัวเองซะหรอก หรือว่าเพื่อนอยากให้ฉันมั่นใจในตัวเองอยู่นะ ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วใบชาคนนี้จะกลัวอะไรล่ะ

หลังจากหัดแต่งหน้าทำผมเรียบร้อยพวกเราก็ไปเดินห้างกันต่อเพราะเพิ่งจะบ่ายสามกว่าๆกลับไปห้องก็ไม่มีอะไรทำ

"ดูหนังไหม ได้ยินว่ามีหนังผีเข้าใหม่"

"ดูๆ" ฉันเองแหละที่ชอบดูหนังแบบนี้มาก ดูจนมันไม่ใช่เรื่องหน้ากลัวอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าพี่ชาติไหนก็บุกมาได้เลย ใบชาพร้อมที่จะปะทะ

แล้วพวกเราก็จัดการซื้อตั๋วหนังรอบห้าโมงครึ่งระหว่างที่รอก็เดินเล่นกันเรื่อยเปื่อย และสิ่งที่ฉันต้องทำทุกครั้งเวลามาเดินห้างคือการเข้าชอปปิ้งในร้านเครื่องเขียนและร้านหนังสือ ที่สำคัญคือหนังสือต้องเป็นโซนสยองขวัญเท่านั้น

"ฉันรออยู่ร้านหนังสือนะ ถ้าพวกแกเสร็จแล้วมาหาตรงนี้"

ฉันเดินตรงไปที่โซนการ์ตูนสยองขวัญทันที วันนี้ต้องได้กลับไปไม่ต่ำกว่าสามเล่มเพราะเรื่องที่ฉันติดตามกำลังออกวางจำหน่ายอยู่สามเรื่องพอดี ตั้งแต่ช่วงที่ตั้งใจอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ได้มาร้านหนังสือเลยสักครั้ง

เป้าหมายของฉันถูกวางไว้บนชั้นโชว์หนังสือขายดีจึงเดินตรงไปอย่างเร็วรี่และเอื้อมมือไปหยิบมัน

หมับ!

"..." 

มะ...ไม่นะ 

แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ฉันช้าไป เพราะมีมือใหญ่ของใครอีกคนยื่นมาคว้ามันไว้ซะก่อน คิ้วเรียวของฉันที่เพิ่งถูกขีดเขียนมาขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติก่อนจะหันไปมองเจ้าของมือนั้นที่ฉันจับเอาไว้แทนหนังสือเพราะเขาเร็วกว่า

"คือว่าพี่..." นี่มันรุ่นพี่ผู้ชายที่ยืนรอลิฟต์ด้วยกันเมื่อวานนี่ 

"อยากได้เหรอ" เขาดึงหนังสือไปไว้ในครอบครองแล้วยิ้มมุมปากมองฉันที่ทำหน้าผิดหวังอยู่ 

"ค่ะ"

"ขอโทษนะครับพี่ เล่มนี้มีอีกไหม" เขาหันไปยิ้มให้พนักงานแล้วถามอย่างมีมารยาท สายตาของพนักงานหญิงคนนั้นมองมาอย่างเคลิบเคลิ้ม เพราะเขาหล่อมากจริงๆแถมยังดูจิตใจดีอีกต่างหาก

"เล่มนี้เหลือเล่มสุดท้ายแล้วค่ะ"

"ออ ขอบคุณครับ" เขายิ้มแล้วเบือนหน้ามาทางฉันที่มองหนังสือในมืออย่างใช้ความคิด 

เหลือเล่มสุดท้าย แปลว่าฉันจะต้องเสียโอกาสนี้ไปเหรอ ไม่ได้เด็ดขาดฉันต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง!

"เออ พอดีเล่มนี้หนูอยากซื้อไปให้น้องสาวที่ป่วยหนัก หมอบอกว่าเขาคงอยู่ได้อีกไม่นาน" น้ำตาเอ๋ยจงออกมา คนใจดีอย่างพี่เขายังไงก็ต้องเสียสละให้ฉันอย่างแน่นอน

"เหรอ น้องเขาป่วยเป็นอะไรล่ะ"

"เป็น...มะเร็งเม็ดเลือดค่ะ" ช่างน่าสงสารจริงๆเด็กน้อยที่ไม่มีตัวตนของฉัน

"จะอยู่ได้อีกกี่วันเหรอ" ทำไมถามเยอะจังแถมสีหน้ายังยิ้มแย้มอีก หรือเขาอ่านออกว่าฉันโกหก

"อีกไม่เกินเจ็ดวันค่ะ หมอว่าอย่างนั้น"

"งั้นอีกสองวันฉันเอาไปให้เธอยืมนะเพราะน้องเขายังมีเวลา" ขอถอนคำพูดที่ว่าไอ้รุ่นพี่นี่มันใจดี แล้วกัน โคตรเลือดเย็นเลยขนาดบอกว่าคนใกล้ตายเขาอยากอ่าน ไอ้บ้าเอ๊ย! หงุดหงิดๆ

"มะ...ไม่ได้!"

"ทำไม" ยังมาทำเลิกคิ้วสงสัยอีก!

"รุ่นพี่คะหนูขอร้องล่ะ ให้หนูเถอะนะ" 

"ถ้าอยากอ่านมาก งั้นพรุ่งนี้มาเจอฉันที่ตึกAcc3 ห้อง 109 แล้วกัน" เขายิ้มมุมปากแล้วเดินหันหลังไป อยากจะทุบให้หลังหัก! "ออ เจอกันห้าโมงเย็นนะเพราะฉันเลิกเรียนพอดี"

"ให้หนูอ่านก่อนได้ไหมแล้วพรุ่งนี้จะเอามาขายต่อให้" ใครจะไปเชื่อกันว่าเขาจะเอามาให้อ่านเผลอๆแค่หลอกฉันเพื่อให้ตัวเองดูเท่

"ทำไมล่ะคิดว่าฉันโกหกเหรอ งั้นเอาไลน์มาแลกกันพรุ่งนี้เธอทักมาได้เลยถ้าฉันลืม" 

ฉันคิดหนักอยู่ครู่หนึ่งก็ยื่นมือถือไปให้เขาเพิ่มเพื่อน เอาวะ ก็ยังดีกว่าไม่ได้อ่านเลยถึงจะเป็นของมือสองก็เถอะ ฮือ ๆ

"เรียบร้อย ฉันขี้ลืมด้วยสิ ทักมาบอกด้วยนะ" ว่าแล้วเขาก็เดินไปจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์กับพนักงานด้วยรอยยิ้ม

อยากจะกรี๊ดใส่หน้า! โมโห! ทำไมฉันต้องช้าไปแค่เสี้ยววินาทีด้วย แล้วทำไมเขาต้องชอบเล่มเดียวกันกับฉัน!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ใบชาลูกไม่ทันคนเล้ยยยย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • เมียวิศวะ(เซตวิตวะ)   Ep.47 เมียทศกัณฐ์ (ตอนจบ)

    "ไงมึง วางแผนกันดิบดีสุดท้ายก็แพ้เมีย" เสียงของพี่ฮ้องเต้ดังขึ้น น้ำเสียงปนหัวเราะของเขาบ่งบอกว่ากำลังเยาะเย้ยพี่ทศกัณฑ์อยู่ตอนนี้ฉันยืนแอบอยู่ตรงมุมตึกซึ่งอยู่ห่างจากโต๊ะที่พวกเขานั่งไม่กี่เมตร ทำให้ได้ยินบทสนทนาชัดเจน"…" พี่ทศกัณฑ์เงียบกริบไม่รู้ว่าถ้าเขาไม่รู้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้จะเป็นแบบนี้มั้ยอาจจะคุยโม้ก็ได้ใครจะไปรู้"มึงมันไม่ได้เรื่อง เป็นพี่ว้ากจนน้องปีหนึ่งปีสองกลัวแต่มาแพ้ให้เด็กอักษรคนเดียว เหอะ" พี่คิวพูดออกมาเหมือนเสียอารมณ์เพราะเป็นคนคิดแผนทั้งที"มึงก็รอรับชะตากรรมแบบกูได้เลย" พี่ทศกัณฑ์พูดเสียงเบาหวิว จนฉันแอบสงสารจับใจ"กูไม่มีทางกลัวเมียแบบมึงแน่นอน ผู้หญิงก็แค่ลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด""มึงไม่กลัวเตยเลยเหรอ" พี่ทศกัณฐ์ถามซ้ำ"กลัวทำไม ยัยนั่นดิต้องกลัวฉันขาดฉันไปซักคนเตยคงอยู่ไม่ได้ ร้องไห้แงๆ"โอ้อวดนักนะ เดี๋ยวโดนดีแน่พี่คิว!"พี่ทศกัณฑ์!" ฉันเดินเข้าไปเงียบๆ แล้วเรียกพี่ทศกัณฑ์เสียงดัง จนพี่ๆ หันมามองกันพรึบ ส่วนพี่นธีขมวดคิ้วมองฉันอย่างไม่เข้าใจ พี่ชายทั้งคนอ่านออกแน่ๆ"ยะ…ญานิน มาได้ไง" เก่งมากคุณแฟน เสียงสั่นแบบไม่ต้องซ้อมมา"เดินมาค่ะ""น้องญาน

  • เมียวิศวะ(เซตวิตวะ)   Ep.46 เกียร์…มัว

    "…" เงียบอยู่นั่นแหละไม่คิดจะพูดอะไรเลยใช่มั้ย หรือว่าเขาไม่อยากคบฉันแล้ว แววตาของเขาที่มองเหมือนกำลังลังเลบางอย่างอยู่เลย"นินทำอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมพี่ไม่บอกถ้านินผิดก็พร้อมจะแก้ไข แต่พี่ทศกัณฑ์ไม่ให้โอกาสนินได้รับรู้เลย อึก...อยู่ๆ ก็ไม่เห็นค่ากันแบบนี้""ญานิน…" เขาเรียกชื่อฉันเบาๆ ขณะที่ฉันเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้"พี่เบื่อนินแล้วใช่มั้ย พี่ทศกัณฐ์ไม่รักนินแล้วใช่มั้ย...ฮึก""ไม่ใช่" เขาตอบแล้วค่อยๆ เอื้อมมือมากุมมือฉันพร้อมกับถอนหายใจเขาดันตัวฉันลงกับเตียงอีกรอบ ใช้นิ้วเรียวยาวลูบปัดน้ำตาออกจากพวงแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน"ที่จริงแล้วแค่อยากจะทดสอบ แต่ตอนนี้พี่คงแพ้อีกแล้ว" เขาพูดแล้วจ้องตาฉันนิ่ง"หมายความว่ายังไง" คำพูดนั้นทำให้ดวงตาของฉันเบิกกว้างแล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วชนกัน"…" เขาพ่นลมหายใจออกมาแล้วเบือนหน้าหนีเหมือนกำลังลำบากใจที่จะพูด "เพราะคิดว่าช่วงนี้เราชอบเอาแต่ใจ ก็เลยอยากดัดนิสัยนิดหน่อย จะได้หันมาง้อพี่บ้างไม่ใช่ตัวเองถูกทุกอย่าง" เขาอธิบายแบบเหนี่ยมอายนิดหน่อยนี่มันอะไรกันเนี่ย…"อย่าบอกว่าที่แกล้งยุ่งกับงานก็เพราะอยากลองดูการกระทำของนินด้วย""…" พยักหน้าเป็นคำตอบ"แล้

  • เมียวิศวะ(เซตวิตวะ)   Ep.45 แผนการ

    Tossakan talk"ไอ้เชี่ยมึงใจเย็น นิ่งไว้ๆ""ฮ่าๆ มึงท่องไว้พุทธโธๆ เดี๋ยวแม่งเสียแผนหมด"เสียงของไอ้เต้กับไอ้คิวที่เกลี้ยกล่อมให้ผมใจเย็น ทั้งที่ภาพตรงหน้าคือผู้ชายกำลังเกาะแกะแฟนผมอยู่แล้วพวกมันก็มาฉุดรั้งตัวผมที่แทบจะพุ่งตัวไปหาญานิน ขณะที่ไอ้นธีเอาแต่นั่งยิ้มน้อยๆ มองผมเหมือนดูหนังตลกตลกเชี่ยไรเดี๋ยวเมียมันเจอมั่งจะรู้สึก"ถ้ามึงเข้าไปตอนนี้น้องมันรู้แน่ว่ามึงไม่ได้ยุ่งกับโปรเจ็ค แต่มาตามดูน้องมันอะ" ไอ้คิวบอกแต่กลับยิ้มขำ "แล้วที่มึงทำมาทั้งหมดน้องก็จะคิดว่ามึงโกหก""เออ มึงต้องนั่งดูอย่างใจเย็น"ใจเย็นอะไรของมันวะ ตอนนี้เหมือนกองไฟในอกผมมันกำลังจะปะทุออกมาอยู่แล้ว"มึงจะทำเสียแผนนะเว่ย จากที่จะดัดนิสัยน้องกลายเป็นน้องได้ดัดนิสัยมึงแทน"'แผน' ที่ว่านั้นมันเริ่มจากปัญหาของผมนี่แหละเรื่องมันมีอยู่ว่าอาทิตย์ก่อนเราทะเลาะกันเรื่องญานินลืมมือถือไว้ในห้องก่อนออกไปเรียน โทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ยอมรับสาย เราเลยทะเลาะกันใหญ่โตแต่สุดท้ายผมก็เป็นคนง้อญานินเพราะเรื่องมันมักจะจบแบบเดิมคือน้องมันถูกเสมอไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ คนที่เป็นฝ่ายผิดสุดท้ายแล้วต้องเป็นผมเพราะญานินจะไม่ยอมง้อผมเลย

  • เมียวิศวะ(เซตวิตวะ)   Ep.44 ดื่มให้ลืมเธอ

    หลายเดือนต่อมาหลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดตอนนั้นจบลง ชีวิตของฉันก็กลับมาสงบสุขและคบกับพี่ทศกัณฐ์อย่างแฮปปี้ใช่ซะที่ไหนกัน!การคบกันมันก็ต้องมีทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดาและทุกครั้งที่ทะเลาะกันนั้นพี่ทศกัณฐ์มักจะเป็นฝ่ายยอมฉันเสมอไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะพี่ทศกัณฐ์รักฉันมากๆ ยังไงล่ะ!"เป็นอะไรหน้าบูดเป็นตูดหมามาเลย" เสียงของนิเนยทักขึ้นตอนที่ฉันกำลังเดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งลงกับเก้าอี้ข้างๆ พอใบเฟิร์นได้ยินคำพูดของนิเนยก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสนใจตอนนี้เราอยู่ปีสองกันแล้วนะ เป็นรุ่นพี่แล้วและช่วงนี้ก็เป็นช่วงรับน้องทำให้ค่อนข้างเหนื่อยกับการจัดเตรียมกิจกรรมให้น้องๆ ทำส่วนพี่ทศกัณฐ์ก็อยู่ปีสี่แล้วเขาก็วุ่นวายกับการทำโปรเจ็คหลังจากที่เพิ่งฝึกงานสามเดือนจบแล้วก็เหลือเวลาอีกแค่เทอมกว่าในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ช่วงนี้เราแทบจะไม่มีเวลาได้ใกล้ชิดกัน"ไม่มีอะไร" ฉันตอบนิเนยแล้วหยิบเอกสารสำหรับวิชานี้ขึ้นมาเตรียมไว้บนโต๊ะเลคเชอร์"ทะเลาะกับพี่ยักษ์เหรอ" นิเนยถามแล้วกอดอกมองฉัน"..." พยักหน้าเป็นคำตอบ"เรื่อง?""เมื่อวานฉันเข้าคอนโดก่อน เพราะเขาบอกว่าจะเลิกดึก พอถามว่าจะให้ไปนั่งทำงานด้วยมั้ยก็

  • เมียวิศวะ(เซตวิตวะ)   Ep.43 เหยียบให้จม

    เช้าวันต่อมา"ได้เรื่องมั้ยครับ"เสียงของพี่ทศกัณฐ์ดังขึ้นจากปลายเตียงเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์กับใครซักคนฉันจึงค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นมอง"มีหลักฐานครบแล้วใช่มั้ย""ดีเลย งั้นรบกวนคุณลุงจัดการให้ผมหน่อย""น้องดีขึ้นแล้วครับ ตรวจแล้วไม่เป็นอะไร มีรอยช้ำที่โดนตีนั่นแหละ...ผมรู้แล้วน่า ว่าที่หลานสะใภ้ลุงทั้งคนจะไม่ดูแลได้ไง"นี่กำลังพูดถึงฉันอยู่ใช่มั้ย แอบฟังเองก็เขินเองแล้วนะ"ครับ ขอบคุณครับ รอชมผลงานนะแล้วเดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องทางนี้เอง" แล้วพี่ทศกัณฐ์ก็กดวางสายก่อนจะหันมามองทางฉันที่แกล้งขยับเปือกตาขึ้นมาเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน "เช้าอยู่เลยรีบตื่นทำไม""นินปวดหัวค่ะ" ฉันตอบแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง "เหมือนจะเป็นไข้""..." พี่ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากปลายเตียงขยับมานั่งขอบเตียงข้างฉันแล้วเอาหลังมือมาอังหน้าผากไว้ "นอนพักก่อนเดี๋ยวกินข้าวกินยา""ค่ะ" ฉันพยักหน้าทำตามคำสั่งแล้วเขาก็หายออกไปจากห้องตอนนั้นทันทีไม่นานนักก็กลับเข้ามาพร้อมกับข้าวต้ม ยาและน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว แกล้งป่วยซักเดือนดีมั้ยเนี่ยมีบุรุษพยาบาลส่วนตัวซะด้วย"เมื่อกี้คุยกับใครเหรอ" ฉันเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเพราะนอนคิดคนเดียวก็คงไม่รู้คำตอ

  • เมียวิศวะ(เซตวิตวะ)   Ep.42 ทศกัณฐ์=พระเอก?

    ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ฉันตรวจ ใส่เฝือกอ่อนที่เท้าและรับยาเสร็จก็มาแจ้งความที่สถานีตำรวจกับพี่เนย์ต่อ มีรุ่นพี่ปีสองและพวกนิเนยอยู่เป็นเพื่อนรอให้พี่ทศกัณฑ์และพี่นธีมารับ"เป็นไงบ้าง" พี่นธีถามทันทีที่มาถึงส่วนพี่ทศกัณฑ์กำลังเดินเข้ามาท่าทางเงียบครึมเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่"ให้รายละเอียดกับตำรวจไว้แล้วค่ะ พรุ่งนี้ต้องมาอีก""เอาเรื่องให้ถึงที่สุดนะเว้ย ต้องไม่ยอมมันรอบนี้ต้องเอาให้มันจมดิน!" ใบเฟิร์นพูดและกำหมัดแน่นหมับ!อยู่ๆ ร่างของฉันถูกดึงไปกอดไว้ในอ้อมแขนขณะที่เจ้าของการกระทำนั้นไม่พูดอะไรเลยซักคำ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนและรุ่นพี่รวมไปถึง...พี่เนย์ยังดีที่ตอนนี้นิเนยมันเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันเปลี่ยนแล้วไม่อย่างนั้นคงดูตลกน่าดูหนุ่มวิศวะกอดกับหญิงสาวในชุดโบราณ"กลับเลยมั้ย" พี่ทศกัณฑ์ปล่อยฉันออกจากอ้อมแขนแต่ก็ไม่ได้เป็นอิสระซะทีเดียวเขายังโอบฉันไว้อย่างหลวมๆ"ค่ะ อยากอาบน้ำพักผ่อนแล้ว" ฉันพยักหน้าตอบรับแล้วหันไปขอบคุณพี่ๆพี่ทศกัณฐ์อุ้มฉันขึ้นออกมาจากตรงนั้นสีหน้าเขาดูไม่ค่อยดีเลยไม่รู้ว่าทำไม พอมานั่งในรถเขาก็ติดเครื่องแต่ก็ไม่ยอมขับออกไป สายตาของเขาหันไปมองพี่เนย์ที่กำ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status