แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: จิ้งจอกเหลวไหล
มีเสียงดัง “ปัง” เกิดขึ้น จากนั้นศีรษะของกัวเส้าชงก็มีเลือดไหลออกมา

แท้จริงแล้ว โคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานห้องโถงดันร่วงลงมาอย่างไม่คาดคิด อีกทั้งมันยังไม่เอนเอียงไปไหน ร่วงตกลงกลางศีรษะของกัวเส้าชงอย่างแม่นยำ

โชคดีที่โคมไฟมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มิฉะนั้นกัวเส้าชงคงไม่ลงเอยแค่หัวแตกเลือดอาบแบบนี้แล้ว ไม่แน่อาจถูกโคมไฟทับตายไปเลยก็ได้

กัวเส้าชงกุมศีรษะของตัวเอง ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นด้วยความเจ็บ “โอ๊ย...”

“เส้าชง นายเป็นอะไรมากไหม?” จางลี่ลี่รีบเข้าไปถามไถ่อาการ

“เธอตาบอดหรือไงวะ ก็เห็นอยู่ว่าฉันหัวแตกเนี่ย?” กัวเส้าชงตวาดใส่

การถูกกัวเส้าชงตวาดใส่ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายขนาดนี้ ทำให้จางลี่ลี่รู้สึกน้อยอกน้อยใจอย่างมาก ดวงตาของเธอมีน้ำใสๆ เอ่อคลอ

พอเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เยี่ยชิวก็แสยะยิ้มเย็นชา “สมน้ำหน้า!”

“แกพูดว่าไงนะ!” จางลี่ลี่หันไปถลึงตาใส่ ชี้หน้าเยี่ยชิวแล้วตะคอกถามว่า “ฝีมือนายใช่ไหม?”

“เธอเอาตาข้างไหนมองถึงคิดว่าฉันเป็นคนทำ?”

“ถ้าไม่ใช่ฝีมือนาย โคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานดีๆ จะร่วงลงมาได้ยังไง?”

“โบราณกล่าวว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว กัวเส้าชงพูดจากลับผิดเป็นถูก ก็เลยโดนสวรรค์ลงโทษไงล่ะ”

“สวรรค์บ้านแกสิ! หยุดเสแสร้งเล่นตุกติกได้แล้ว” กัวเส้าชงกล่าวจบก็หันไปตะคอกใส่จางลี่ลี่ “ยังไม่รีบมาช่วยพยุงฉันอีก”

“อ้อ” จางลี่ลี่รีบเข้าไปพยุงกัวเส้าชงให้ลุกขึ้นมา

ทว่าในตอนนั้นเอง พยาบาลที่ไปหยิบยาคนหนึ่งก็เดินผ่านไปข้างๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน จู่ๆ พยาบาลคนนั้นก็ลื่นล้ม ร่างกายเซถลามาทางนี้ แอลกอฮอล์สองขวดในมือของเธอจึงลอยละลิ่วออกไป

เพล้ง——

แอลกอฮอล์สองขวดนั้นตกกระแทกศีรษะของกัวเส้าชงอย่างแม่นยำราวจับวาง

ซ่า——

ขวดแก้วแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ แอลกอฮอล์จำนวนมากจึงสาดลงบนศีรษะของกัวเส้าชง

กัวเส้าชงเพิ่งจะถูกโคมไฟตกกระแทกศีรษะมา บนศีรษะจึงมีบาดแผลสดอยู่ ตอนนี้ถูกแอลกอฮอล์ราดซ้ำบนแผล เขาจึงเจ็บปวดจนแทบเจียนตาย

“อ๊า เจ็บโว๊ย แสบชะมัดเลย...” กัวเส้าชงเอามือสองข้างกุมศีรษะ ขณะเกลือกกลิ้งไปมาบนพื้น

จางลี่ลี่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก หันไปด่าพยาบาลคนนั้นว่า “เธอทำบ้าอะไรเนี่ย ทำไมเดินไม่รู้จักระวังเลย!”

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ...”

“ถ้าเส้าชงเป็นอะไรขึ้นมา ฉันเอาเรื่องเธอแน่” จางลี่ลี่ตวาดใส่พยาบาลคนนั้น ก่อนจะหันไปกวักมือเรียกพยาบาลตรงเคาน์เตอร์ลงทะเบียน “สองคนนั้นน่ะมาช่วยทางนี้หน่อย”

พยาบาลสองคนรีบวิ่งเข้ามาทันที

“พี่ลี่ลี่ อยากให้พวกเราช่วยอะไรคะ?” พยาบาลคนหนึ่งเอ่ยถาม

“ช่วยอะไร? พวกเธอตาบอดกันหรือไง ไม่เห็นเหรอว่าเส้าชงบาดเจ็บน่ะ? เร็วสิ ตามฉันไปช่วยทำแผลใส่ยาให้เส้าชง”

พยาบาลสองคนนั้นรู้สึกไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของจางลี่ลี่ เพราะว่าในโรงพยาบาลแห่งนี้ หมอเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าพยาบาลอยู่แล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง จางลี่ลี่กับพยาบาลอีกสองคนจึงช่วยกันประคองกัวเส้าชงไปที่ลิฟต์ด้วยความเร่งรีบ

แต่ใครจะคิดล่ะว่า จะเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง

กัวเส้าชงถูกประตูลิฟต์หนีบ!

เดิมทีเขาถูกพยาบาลสองคนช่วยกันประคอง ว่ากันตามหลักแล้วประตูลิฟต์ไม่ควรจะหนีบโดนเขา แต่ตอนที่เข้าไปในลิฟต์นั้น พยาบาลทั้งสองคนกลับปล่อยมือจากกัวเส้าชง พยาบาลหนึ่งในนั้นหันไปบอกกับจางลี่ลี่ว่า “พี่ลี่ลี่คะ พวกเรายังมีงานค้างคาอยู่อีกคงไปจากเคาน์เตอร์ไม่ได้ ไม่ขอขึ้นไปส่งคุณหมอกัวก็แล้วกันนะคะ”

“จะไปไหนก็ไป!”

พยาบาลทั้งสองคนเพิ่งจะหันหลังกลับ กัวเส้าชงก็ถูกประตูลิฟต์หนีบทันที

“อ๊าก เจ็บ...เจ็บชะมัดเลย...”

กัวเส้าชงแหกปากเสียงดังลั่น

คราวนี้ผู้คนต่างพากันแตกตื่น ขนาดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังวิ่งมาดูเหตุการณ์ เตรียมจะเข้าไปง้างประตูลิฟต์เพื่อช่วยกัวเส้าชงออกมา ทว่า——

ไฟเกิดดับกะทันหัน!

คิดว่าบังเอิญไหมล่ะ

ตอนนี้กัวเส้าชงแทบอยากจะตายให้จบๆ ไป วันนี้ดูเหมือนสวรรค์จะจงใจกลั่นแกล้งเขาแบบเจาะจง ถึงได้โชคร้ายไม่หยุดหย่อน เขาแอบสงสัยไม่ได้ว่า หรือเขาจะถูกสวรรค์ลงโทษจริงๆ?

เขาไม่มีทางรู้หรอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพียงกลอุบายเล็กๆ น้อยๆ ของเยี่ยชิว

เยี่ยชิวแอบวาดคาถาโชคร้ายของ ‘คัมภีร์คาถาเหมาซานฉบับสมบูรณ์’ ตามภาพจำที่ถูกบันทึกลงในสมอง

คิดไม่ถึงว่ามันจะได้ผลดีขนาดนี้

“สะใจชะมัด!”

ความหม่นหมองภายในใจเลือนหายไปหมดสิ้น เยี่ยชิวเดินออกจากโรงพยาบาลอย่างสุขใจ

......

ทะเลสาบกระจก เป็นทางกลับบ้านที่เยี่ยชิวต้องเดินผ่านเป็นประจำ

ช่วงพลบค่ำของทุกวัน บริเวณริมทะเลสาบจะคึกคักอย่างมาก มีพวกคุณป้าสูงอายุมาเต้นแอโรบิค มีคุณลุงคุณปู่มานั่งเล่นหมากล้อม มีเด็กน้อยวิ่งเล่นสนุกสนาน แล้วยังมีพวกที่ชอบตกปลาอีก...

ทุกคนล้วนมารวมตัวกันทำกิจกรรมที่นี่

เยี่ยชิวเดินลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่น

“แย่แล้ว มีคนตกลงไปในทะเลสาบ!”

เยี่ยชิวรีบหันกลับไปมองทางต้นเสียง พบว่ามีเด็กชายอายุประมาณห้าหกขวบคนหนึ่งกำลังดิ้นรนอยู่กลางทะเลสาบ สถานการณ์อันตรายมาก

ริมทะเลสาบมีผู้สูงอายุกลุ่มหนึ่งกำลังร้อนใจอย่างหนัก

“ลูกหลานบ้านไหนกันเนี่ย ผู้ปกครองอยู่ที่ไหนกัน?”

“รีบโทรหา 120 เร็วเข้า! ”

”ไม่ทันแล้ว เด็กจะจมน้ำตายแล้ว!”

“......”

สถานการณ์วิกฤตอย่างยิ่ง

ไม่มีเวลามามัวลังเลแล้ว ‘ตูม’ เยี่ยชิวกระโดดลงไปในทะเลสาบ

ร่างกายแข็งแรงของเขาพุ่งทะยานออกไปราวกับปลา ว่ายน้ำเข้าไปหาเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างว่องไว ตวัดแขนเกี่ยวเองของเด็กผู้ชายคนนั้นแล้วว่ายลากกลับเข้าฝั่ง

ตอนที่เยี่ยชิวพาเด็กชายกลับขึ้นมาบนฝั่ง ผู้คนมากมายก็เข้ามารุมล้อมเต็มไปหมด

เด็กผู้ชายคนนั้นสำลักน้ำเข้าไปจำนวนมากจึงหมดสติไป ใบหน้าซีดขาวไร้เลือดฝาด ริมฝีปากเริ่มเป็นสีม่วง คล้ายคนที่ใกล้จะตายแล้ว

“เด็กคนนี้อาการแย่แล้ว ต้องรีบส่งไปโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน” คนที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมา

เยี่ยชิวไม่พูดอะไรและประคองเด็กผู้ชายขึ้นมา ใช้มือขวาตบกลางแผ่นหลังของเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างแรงสองครั้ง จากนั้น “แหวะ” เด็กผู้ชายก็เริ่มสำลักน้ำออกมาจากปาก

ประมาณครึ่งนาทีต่อมา เด็กผู้ชายก็ลืมตาขึ้น

“ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว!”

เมื่อเห็นว่าเด็กผู้ชายรอดตายแล้ว ชาวบ้านที่มุงดูก็พากันพรูลมหายใจอย่างโล่งอก

“คุณอา ขอบคุณครับ” เด็กผู้ชายเอ่ยขอบคุณเยี่ยชิวเสียงอ้อแอ้

เยี่ยชิวยิ้มบางๆ แล้วถามว่า “ครอบครัวของหนูล่ะ?”

“คุณปู่กับคุณลุงจ้าวไม่รู้หายไปไหนแล้วครับ” เด็กผู้ชายเพิ่งจะเอ่ยตอบ ก็มีชายชราคนหนึ่งกับชายวัยกลางคนวิ่งกระหือกระหอบเข้ามา

“เสี่ยวหู่เป็นอะไรหรือเปล่า?” ชายชราคว้าเด็กชายเข้าไปกอดแล้วถามด้วยความเป็นห่วง

“ผมไม่เป็นไรครับคุณปู่ เมื่อกี๊นี้ผมไม่ทันระวังเลยตกลงไปในทะเลสาบ คุณอาคนนี้ช่วยผมไว้ครับ” เด็กชายชี้มาทางเยี่ยชิว

ชายชราคนนั้นรีบหันมาบอกกับเยี่ยชิว “พ่อหนุ่ม ขอบคุณมากนะ”

“คุณปู่ครับ ผมไม่อยากว่าคุณหรอกนะ แต่คุณก็แก่ปูนนี้แล้ว ทำไมถึงยังสะเพร่าแบบนี้ล่ะครับ? ถ้าเกิดเด็กเป็นอะไรขึ้นมา นอกจากคนในบ้านจะโทษคุณปู่แล้ว มันยังกลายเป็นความรู้สึกผิดติดตัวคุณปู่ไปทั้งชีวิตด้วยนะครับ”

ชายชราคนนั้นยังไม่ทันได้ตอบ ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ก็สวนกลับทันที “ไอ้หนู นายรู้ไหมว่ากำลังคุยกับใครอยู่? ฉันจะบอกให้นะ...”

“จ้าวอวิ๋น!” ชายชราหันไปถลึงตาใส่ชายวัยกลางคน

ชายวัยกลางคนจึงหุบปากเงียบทันที

ชายชราหันมายิ้มให้เยี่ยชิว “พ่อหนุ่ม หลังจากนี้ฉันจะระวังให้มากขึ้น วันนี้ขอบคุณนายมากจริงๆ นะ”

“เรื่องเล็กน้อยครับ ไม่ต้องคิดมาก”

พอคุยมาถึงตรงนี้ เยี่ยชิวเพิ่งจะสังเกตชายชราตรงหน้าอย่างละเอียด

ชายชราตรงหน้าสวมชุดคอจีน ผมถูกหวีจัดทรงเป็นระเบียบ นิ้วหัวแม่มือซ้ายสวมแหวนหยกดำวงใหญ่ ท่าทางไม่เหมือนคนธรรมดา

ส่วนชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ นั้นมีสีหน้าหนักแน่นมั่นคง ดวงตาทอประกายดุดัน ไม่เหมือนกับคนธรรมดาสามัญ

“พ่อหนุ่ม นายชื่ออะไรเหรอ?” ชายชราเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร

“เยี่ยชิวครับ” เยี่ยชิวตอบกลับ

“ดูท่าทางแล้ว นายน่าจะทำงานแล้วสินะ?”

“ทำไมล่ะครับ คุณปู่จะสอบประวัติผมเหรอ?” เยี่ยชิวตอบยิ้มๆ “ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ผมต้องกลับบ้านแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”

กล่าวจบก็หมุนตัวเตรียมจะจากไป

“รอเดี๋ยวสิ” ชายชรารีบเอ่ยปากรั้งเขาไว้ ก่อนจะหยิบบัตรเครดิตใบหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้เยี่ยชิว

“คุณหมายความว่ายังไงครับ?” เยี่ยชิวขมวดคิ้วถาม

ชายชรายิ้มบางๆ “พ่อหนุ่ม ขอบคุณมากที่นายช่วยชีวิตหลานชายฉัน ในบัตรในนี้มีเงิน 2.5 ล้านบาท หวังว่านายจะไม่รังเกียจ รับเอาไว้เถอะ!”

เยี่ยชิวแอบอึ้งเล็กน้อย ชายชราตรงหน้าควักเงิน 2.5 ล้านออกมาได้ง่ายๆ เห็นได้ชัดว่าฐานะไม่ธรรมดา แต่เขากลับไม่มีท่าทางหวั่นไหว

“ผมช่วยคนไม่หวังค่าตอบแทน” เยี่ยชิวพูดจบก็ก้าวมาข้างหน้าทันที

เมื่อเห็นการกระทำแบบนั้น ชายวัยกลางคนก็ลอบยิ้มในใจ ยังกล้าพูดว่าไม่หวังค่าตอบแทนอีก...

ทว่า เยี่ยชิวกลับไม่ได้ยื่นมือไปรับบัตรเครดิตขากชายชรา เขาเพียงจ้องใบหน้าของชายชราแน่นิ่ง เขาพิจารณาอีกฝ่ายอยู่แบบนั้นนานเกือบครึ่งนาที ก่อนเยี่ยชิวจะถามชายชราว่า “คุณกำลังป่วยอยู่หรือเปล่าครับ?”

“ฉันไม่ได้ป่วยนะ! ไม่กี่วันก่อนเพิ่งไปตรวจร่างกายมา ฉันแข็งแรงจะตายไป” ชายชราตอบอย่างยิ้มแย้ม

“งั้นก็แปลกแล้วล่ะ” เยี่ยชิวขมวดคิ้ว

“แปลกตรงไหนเหรอ?“ ชายชราถาม

“ผมรู้สึกว่าคุณกำลังป่วยอยู่ อีกทั้งยังอาการหนักมากด้วย แต่ช่วงเวลาสั้นๆ ผมดูไม่ออกว่าป่วยเป็นอะไร” เยี่ยชิวกล่าวเชิงขอโทษ “บางทีผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ หวังว่าคุณจะไม่ถือโทษโกรธกันนะ”

“ฉันไม่ถือสาหรอก” ชายชรายิ้มตอบ

“งั้นผมขอตัวก่อนนะ ลาก่อนครับ” เยี่ยชิวโบกมือเบาๆ แล้วรีบเดินจากไป

เขาเพิ่งจะเดินจากไปไม่นาน บรรยากาศรอบตัวชายชราก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

หากบอกว่าชายชราที่อยู่ตรงหน้าเยี่ยชิวเมื่อครู่นี้ เป็นแค่คุณปู่ที่อาศัยอยู่ข้างบ้าน ถ้างั้นในยามนี้ เขาก็ดูคล้ายกับบอสใหญ่ที่มีอำนาจตัดสินชะตาชีวิตคนอยู่ในกำมือ ดูทรงบารมีน่าเกรงขามมาก

“หลายปีมานี้ ฉันไปหาหมอมาทั่วทุกแห่งหน ไม่มีใครสักคนที่มองอาการป่วยของฉันออก แต่เจ้าหนุ่มนั่นกลับมองออกอย่างง่ายดาย หรือว่าฟ้าจะมีตากันนะ ถึงได้มอบของขวัญให้คนแก่ใกล้ตายอย่างฉันได้มีชีวิตอยู่ต่ออีกสักสองสามปี?” ชายชราออกคำสั่ง “จ้าวอวิ๋น!”

“จ้าวอวิ๋นพร้อมรับคำสั่ง” ชายวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยความนอบน้อม “ราชามังกร ท่านมีอะไรจะสั่งหรือครับ?”

“ไปสืบข้อมูลของเยี่ยชิวมาเดี๋ยวนี้ ฉันต้องการรู้เกี่ยวกับเขาทุกอย่าง”

“ครับ!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 40

    เจียงโจวมีภูเขาที่มีชื่อเสียงสองลูก หนึ่งในนั้นคือภูเขาเมฆหมอกที่เต็มไปด้วยคนมีอำนาจและร่ำรวย อีกลูกหนึ่งคือภูเขาหนานซานที่รกร้างไร้ผู้คนขณะนี้บนยอดเขาหนานซาน ลูกน้องของจ้าวอวิ๋นกำลังใช้พลั่วขุดหลุมอย่างแข็งขันขณะที่เหลยหู่ ถูกมัดอย่างแน่นหนา คุกเข่าอยู่ต่อหน้าเยี่ยชิวเพื่ออ้อนวอนขอความเมตตา"คุณเยี่ย ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยครับ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของกัวเส้าชง กัวเส้าชงบอกว่าถ้าผมฆ่าคุณกับแม่ของคุณได้ เขาจะให้ผมห้าล้านบาท"แม้ว่าเหลยหู่จะตัวใหญ่ล่ำสัน มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ดูเหมือนคนดุร้ายใจเหี้ยม แต่ตอนนี้เขากลัวจนตัวสั่นระริก"เขาบอกให้แกฆ่าคน แกก็ฆ่า ถ้าเขาบอกให้แกกินขี้ แกก็จะกินใช่ไหม?" เยี่ยชิวพูดด้วยสีหน้าเย็นชา"คุณเยี่ย ถ้าคุณปล่อยผมไป ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมจะรับใช้คุณเหมือนวัวเหมือนม้า ไม่สิ ผมจะเป็นหมาของคุณก็ได้ โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง..." เหลยหู่ถึงกับเลียนเสียงหมาเห่า"อยากเป็นหมาของฉัน แกยังไม่มีคุณสมบัติพอ" เยี่ยชิวตัดสินใจขุดรากถอนโคนเพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาภายหลัง"คุณเยี่ย คุณใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แม่ของคุณก็รักคุณมาก คุณเคยคิดถึงใจเธอบ้างไหม? ถ้าคุณฆ่าผม คุณก

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 39

    ตอนนั้นเยี่ยชิวไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ไม่คิดว่ากัวเส้าชงจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เพื่อจะฆ่าตนเอง นอกจากจะเรียกพวกนักเลงมาแล้ว ยังลักพาตัวแม่เขามาอีกเยี่ยชิวหันไปมองเฉียนจิ้งหลันแวบหนึ่ง เฉียนจิ้งหลันเอ่ยทั้งน้ำตา “ชิวเอ๋อร์ สัญญากับแม่ อย่าฆ่าคนนะลูก อย่าทำเรื่องผิดกฎหมายได้ไหมลูก?”“ได้” เยี่ยชิวยอมปล่อยมือเหลยหู่เหมือนปลากระดี่ได้น้ำ เขาล้มไปนอนกองกับพื้นเยี่ยชิวช่วยแกะเชือกที่มัดมือมัดเท้าของเฉียนจิ้งหลันออก ก่อนจะช่วยจัดทรงผมให้เฉียนจิ้งหลันเล็กน้อย บอกด้วยความรู้สึกผิดว่า “แม่ครับ เป็นความผิดของผมเอง แม่ต้องพลอยติดร่างแหมาด้วย”“แม่ไม่เป็นไร” เฉียนจิ้งหลันลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยชิวช่วยประคองตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าอันเร่งรีบจำนวนหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอกสองวินาทีต่อมา จ้าวอวิ๋นก็ปรากฏตัวจ้าวอวิ๋นสวมชุดดำทั้งตัว ใบหน้าเคร่งขรึมดุดัน ด้านหลังของเขามีผู้ชายร่างกายบึกบึนติดตามมาสี่คนเมื่อเห็นว่าเยี่ยชิวกับเฉียนจิ้งหลันปลอดภัยดี จ้าวอวิ๋นก็พรูลมหายใจอย่างโล่งอกจากนั้น เขาก็กวาดตามองสถานการณ์โดยรอบเมื่อเห็นว่ามีคนนอนสลบเกลื่อนพื้นอยู่สิบกว่าคน จ้าวอวิ๋นก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด เขา

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 38

    เยี่ยชิวมองเหลยหู่ด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามอย่างไร้ความปรานี“บอกมา แกอยากตายยังไง?”นับตั้งแต่วินาทีที่เหล่ยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลัน เยี่ยชิวก็คิดจะฆ่าเขาทิ้งนานแล้วเหล่ยหู่รู้สึกหวาดกลัวเยี่ยชิวจับใจ แต่ยังทำเป็นปากแข็ง เขากล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “ไอ้เด็กเวร แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“ไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เยี่ยชิวตอบ “กล้าแตะต้องแม่ฉัน จุดจบมีเพียงอย่างเดียว คือตาย”“แกจะฆ่าฉันเหรอ?” เหลยหู่หัวเราะขึ้นมาเสียอย่างนั้น “อย่าบอกนะว่านายไม่รู้ การฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ?”เพี๊ยะ!เยี่ยชิวปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเหลยหู่ราวกับภูตผี ก่อนจะตบหน้าเหลยหู่อย่างแรงเหลยหู่ถึงกับตัวแข็งทื่อ เขายังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบหน้า อีกทั้งคนที่ตบเขายังเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาลตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพื้นเพอะไรเลยด้วย!นี่มันเป็นเรื่องที่...น่าอับอายขายหน้าที่สุด!โกรธ! เขาเดือดดาลมาก!เหลยหู่รู้สึกว่าในอกของเขามีเพลิงโทสะกำลังลุกไหม้ เขาแทบอยากจะสับเยี่ยชิวเป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น“แกไม่รู้หรือไงวะว่าฉันเป็นใคร?” เหลยหู่ตะเบ็งเสียงถาม“ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ฉันจะถามอีกครั้ง แกอยากตายแบบไ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 37

    อย่างไรก็ตาม ไม้เบสบอลหยุดชะงักกลางอากาศ เมื่ออยู่ห่างจากศีรษะของเยี่ยชิวประมาณยี่สิบเซนติเมตรชายหนุ่มพยายามเพ่งมอง จึงพบว่าปลายอีกด้านของไม้เบสบอลถูกเยี่ยชิวใช้มือจับไว้"โอ้ ตอบสนองเร็วดีนี่" ชายหนุ่มยิ้มแล้วออกแรงดึงแต่ไม้เบสบอลในมือของเยี่ยชิวเหมือนมีแม่เหล็กดูดเอาไว้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่น้อย“มีเรี่ยวแรงอยู่แค่นี้กลับกล้าโผล่หัวมาคนแรก ชอบเป็นตัวประกอบหรือไง?”เยี่ยชิวออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย ไม้เบสบอลก็ถูกเขาแย่งมาอยู่ในมือแทน จากนั้นเขาก็หวดไม้กลับไปที่หน้าอกของชายหนุ่มปัง!ร่างของชายหนุ่มลอยกระเด็นออกไป ชนกระแทกพื้นที่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร เลือดพุ่งออกจากปากและหมดสติไปทันทีนี่...ความตกตะลึงปรากฏในแววตาของทุกคนโดยเฉพาะกัวเส้าชงที่มองเยี่ยชิวเหมือนเห็นผี โพล่งด้วยความตกใจว่า "เขาแข็งแรงขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"สีหน้าของเหลยหู่มืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ใครจะรู้ว่า ตัวเยี่ยชิวเองก็ตกใจเช่นกันการตีครั้งนี้ เขาใช้แรงเพียงห้าส่วน ก็ทำให้ชายหนุ่มกระเด็นออกไปและหมดสติได้ งั้นถ้าใช้แรงเต็มสิบส่วน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ?เกรงว่าจะฟ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 36

    เยี่ยชิวรีบมาที่นี่มาก เขาจึงยังใส่ชุดผู้ช่วยพยาบาลอยู่ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและสะอาดเกลี้ยงเกลา ทำให้มองเผินๆ แล้วเหมือนนักเรียนคนหนึ่ง ทว่าตัวเขาในยามนี้ มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ แววตาสองข้างทอประกายเย็นชา"พี่เหลย เขามาแล้ว" กัวเส้าชงพูดพร้อมรอยยิ้มเหลยหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยชิวเดินเข้ามาในตึกร้าง จึงปล่อยผมของเฉียนจิ้งหลัน แค่นเสียงเย็นชาแล้วบอกว่า "เดี๋ยวจัดการลูกชายเธอเสร็จแล้ว ฉันจะมาจัดการเธอต่อ"เฉียนจิ้งหลันเห็นเยี่ยชิวก็ตะโกนเสียงดังว่า "ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไป พวกเขาคิดจะฆ่าลูก”"จัดการ!"เหลยหู่กลัวว่าเยี่ยชิวจะหนี จึงออกคำสั่งทันควัน พวกลูกน้องที่ถือไม้กระบองก็รีบวิ่งเข้าไปล้อมเยี่ยชิวไว้เยี่ยชิวไม่สนใจคนพวกนี้ สายตาของเขาจดจ้องที่ใบหน้าของเฉียนจิ้งหลัน ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "แม่ครับ แม่เป็นอย่างไรบ้าง?""แม่ไม่เป็นไร ชิวเอ๋อร์ รีบหนีไปซะ พวกเขาจะฆ่าลูก..."เพี๊ยะ!เหลยหู่ตบหน้าเฉียนจิ้งหลันฉาดหนึ่งแล้วด่าว่า “ถ้ายังไม่เลิกโวยวาย ฉันจะฆ่าเธอด้วย”ทันใดนั้น สายตาของเยี่ยชิวก็เบนไปทางร่างของเหลยหู่แทน เขาเอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “กล้าตบแม่ฉันเหรอ แกตายแ

  • แพทย์เทวดาสะท้านภพ   บทที่ 35

    "กรี๊ด!" เฉียนจิ้งหลันตกใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเหลยหู่ ถามอย่างเสียขวัญว่า "คุณเป็นใคร? คุณคิดจะทำอะไร?"เหลยหู่หัวเราะในลำคอก่อนพูดว่า "ไม่ต้องกลัว ที่นี่ปลอดภัยมาก แค่คุณยอมเชื่อฟังผม ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยเอง""คุณเป็นใครกันแน่?" เฉียนจิ้งหลันถามเสียงแข็งเมื่อสังเกตเห็นว่ามีชายอีกสิบกว่าคนกำลังยืนถือไม้กระบองอยู่ เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา"อีแก่ แกจำฉันไม่ได้แล้วเหรอ?" กัวเส้าชงหันหน้ากลับมา มองเฉียนจิ้งหลันอย่างเย็นชา"หมอ...หมอกัว? ทำไมเป็นคุณล่ะคะ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?" เฉียนจิ้งหลันประหลาดใจมาก"ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฮ่าๆๆ ถามได้ดีมาก ฉันจะบอกความจริงให้ฟังก็ได้ ฉันกำลังรอลูกชายสุดที่รักของเธออยู่""รอเยี่ยชิว? หมอกัว คุณรอเยี่ยชิวทำไมคะ?" เฉียนจิ้งหลันยังไม่เข้าใจสถานการณ์"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ใบหน้าของกัวเส้าชงปรากฏแววอำมหิตเฉียนจิ้งหลันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอพยายามดิ้นรนและตะโกนว่า "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ""แจ้งตำรวจ?" กัวเส้าชงแสยะยิ้มด้วยความสมเพช "แกอยู่ในสภาพแบบนี้ จะมีปัญญาแจ้งตำรวจงั้นเหรอ?"ทั้งมือและเท้าของเฉียนจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status