[3]
แผนพิศวาส
___________
ตึก GB ค่ำวันถัดมา
เกล็ดมุกกวาดตามองไปรอบกาย ห้องชุดสุดหรูดูช่างเงียบงันเมื่อไร้วี่แววเจ้าของ ปกติวาคิมจะนั่งเช็กอีเมลอยู่หน้าโน้ตบุ๊กที่เก้าอี้ตัวนั้น บางทีตอนนี้เขาอาจจะอยู่กับคนพิเศษเขาก็เป็นได้ แค่คิดหัวใจเจ้ากรรมก็ปวดหนึบ น้ำตาพานจะไหล หากว่าอ้อมแขนที่คุ้นเคยจะไม่สวมกอดจากด้านหลังเสียก่อน เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
“คุณวา อย่าแกล้งสิคะ ให้มุกอาบน้ำก่อน เหนียวตัวจะแย่”
เธอคัดค้านการรุกรานของเขา ผลักร่างหนาออกจากตัวด้วยแรงที่มี แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อคนตัวโตส่งสายตาเว้าวอนอย่างที่เธอรู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร
“คุณขึ้นมาตอนไหนคะไม่ยักเห็น นึกว่าติดประชุม...อยู่...ซะอีก” ท้ายประโยคขาดเป็นห้วงๆ เพราะต้องอดทนต่อการปลุกเร้าอารมณ์อย่างช่ำชองของวาคิม
“อย่าเพิ่งถามได้ไหม รู้หรือเปล่าว่าฉันอยากทำอย่างนี้กับเธอตั้งแต่เมื่อคืน เธอมันแม่มดตัวร้ายที่คอยตามรังควานฉันแม้แต่ในความฝัน” เขาว่าพลางถลกกระโปรงตัวสวยให้ขึ้นมากองอยู่รอบเอวบาง แล้วล้วงมือเข้าไปดึงชั้นในชิ้นล่างออกจากขาหล่อน ถ้าไม่ติดว่าต้องรับรองลูกค้าคนสำคัญ คงได้ทำอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อเช้า
โต๊ะรับประทานอาหารตัวใหญ่ถูกใช้เป็นสนามรักชั่วคราว เพราะขุนศึกผู้หล่อเหลาใจร้อนเกินกว่าจะนำพาคู่อริที่รักไปถึงเตียงนอนหนานุ่มที่ใช้โรมรันกันเหมือนทุกครา แรงดึงทึ้งจากฝ่ามือร้อนๆ ส่งผลให้สูทแบบสตรีตัวสวย กระดุมหลุดออกจากรังกว่าสี่เม็ด เปิดเผยเกาะอกผ้านิ่มให้ประจักษ์ต่อสายตาเขา
ชายหนุ่มรูดมันลงไปกองรวมกับกระโปรงในคราวเดียว
เกล็ดมุกใบหน้าแดงเถือกด้วยไฟสวาทที่วาคิมเป็นผู้ก่อ มันลามเลียไปทั่วเรือนร่างนาฬิกาทรายโค้งเว้า
เขาไม่ยอมปลดตะขอบราให้เสียเวลา แต่ควักเจ้าก้อนเนื้อฝาแฝดนุ่มหยุ่นที่เบียดกันอยู่ในนั้นให้ออกมาลอยเด่นอร้าอร่ามอยู่ตรงหน้า แล้วใช้ปลายลิ้นอุ่นร้อนไล้เลียที่ปลายยอดอย่างหิวกระหาย
เกล็ดมุกครางไม่ได้ศัพท์ ยามนี้เขาช่างเหมือนทารกที่อดอยาก เพียรดูดดึงลิ้มรสสองเต้าเต่งตึงนั้นมิหยุดหย่อน เสียงหัวเข็มขัดกระทบพื้นมิได้ทำให้สองร่างหยุดชะงัก ตรงกันข้ามมันกลับเร่งเร้าให้เพลิงพิศวาสโหมกระพือยิ่งขึ้น เสื้อสูทตัวใหญ่ถูกมือหนาเหวี่ยงไปไม่รู้ทิศทาง ก่อนที่เชิ้ตตัวในและเนกไทจะปลิวตามไป
ขาเรียวของเกล็ดมุกตั้งชันขึ้นโดยอัตโนมัติ พร้อมขยับเข้าไปใกล้ขอบโต๊ะเมื่อเห็นเขานั่งคุกเข่าในท่าเตรียมพร้อม มือเขาจับบั้นท้ายเธอไว้มั่น บีบมันราวกับมันเขี้ยวนักหนา ก่อนที่ใบหน้าเขาจะขยับเข้ามาใกล้หว่างขาของเธอ แล้วแลบลิ้นไล้เลียในส่วนที่มิควรเอ่ยถึง
“คุณ...วา...ขา มุก...มุก”
เกล็ดมุกบิดวนสะโพกสวยเมื่อเขารุกล้ำแหล่งเสบียงของทหารกล้า น้ำหวานที่ซึมเอ่อออกจากแหล่งเสบียงช่างหวานล้ำราวรวงผึ้งป่า ขุนศึกไม่รอช้าเข้าตักตวงลิดรอนเสบียงของฝ่ายตรงข้าม เรียวลิ้นร้อนๆ ชำแรกแทรกกลาง เก็บเกี่ยวหยาดน้ำผึ้งรวงมาดื่มกินอย่างตะกละตะกราม แต่กระนั้นเสบียงของข้าศึกก็ยังไม่ยอมลดหย่อน มีแต่จะซึมเอ่อออกมาเมื่อยามที่ขุนศึกเข้าประหัตประหารด้วยเรียวลิ้นอันช่ำชองของเขา
“อา...คุณวาช่วยมุกด้วย ช่วย...มุกที!”
เกล็ดมุกร้องเสียงหลงเมื่อเขาผละจาก ทว่าก็เพียงชั่วครู่เพราะขุนศึกผู้เจนสงครามขยับรุกเร้าเข้าแนบชิดที่หน้าประตูเมือง บดเบียดดุนดันไพร่พลทหารกล้าที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างกล้าแข็ง ให้เปิดประตูเข้าสู่สวรรค์ที่ลึกลับน่าค้นหาราวกับเขาวงกต
สะโพกหนั่นแน่นของชายชาติทหารกระเพื่อมเป็นระลอกถี่ๆ สลับกับเสียงขาโต๊ะครูดกับพื้นมิหยุดหย่อน เขาวกขึ้นมากระหน่ำจุมพิตที่ริมฝีปากของหล่อนอีกครั้ง
เกล็ดมุกหายใจหอบถี่เมื่อวาคิมปล่อยริมฝีปากอวบอิ่มให้เป็นอิสระ แลเห็นเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายบนใบหน้าขุนศึกผู้หล่อเหลา อริราชที่รักอดใจไม่ไหวเอื้อมมือน้อยที่สั่นน้อยๆ ด้วยแรงกระแทกกระทั้น เข้าเช็ดเหงื่อให้เขาอย่างแสนรัก
ไม่มีถ้อยคำใดๆ เล็ดลอดออกจากปากของขุนศึกยามโรมรันในตัวหญิงสาว กระทั่งไพร่พลที่กล้าแกร่งของเขาได้รับชนะ ที่ปลายวิมานสวรรค์แลเห็นแสงสว่างอยู่ลิบๆ ขุนศึกปลดปล่อยความเหน็ดเหนื่อยที่เขาฟาดฟันต่อสู้มาร่วมชั่วโมงลงบนผืนดินอันอุดมของอริราชทุกหยาดหยด อริราชไม่กล้าขัดเมื่อตนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เพลี่ยงพล้ำเข้าสู่สงครามสวาทที่ขุนศึกเป็นคนเริ่ม หญิงสาวยินยอมกักเก็บเมล็ดพันธุ์ของขุนศึกเอาไว้ด้วยความยินยอมและพร้อมใจ
เกล็ดมุกพ่ายแพ้ต่อใจตัวเองอีกครั้ง ทั้งที่วาคิมเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องสนองความใคร่แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับมิเคยเคืองโกรธ มีแต่จะจงรักภักดีอยู่ร่ำไป
ร่างสูงใหญ่เดินหายเข้าไปในห้องนอนเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจสวาท ไม่กี่นาทีต่อมาเสียงน้ำดังซู่ๆ ก็แว่วออกมาจากห้องน้ำด้านใน
เกล็ดมุกถอนหายใจครั้งสุดท้ายก่อนรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีปีนลงมาจากโต๊ะ น้ำตาใสๆ หยดร่วงเผาะๆ ยามก้มลงเก็บเศษเสื้อผ้าที่เกลื่อนอยู่ทั่วห้อง อาการน้อยเนื้อต่ำใจผุดความคิดโง่ๆ ขึ้นมาในสมอง หากวันหนึ่งเธอโดนเขาเขี่ยทิ้งอย่างที่พี่ชายเธอว่า เธอจะได้สิ่งใดตอบแทนนอกจากหัวใจที่บอบช้ำ เธอต้องได้อะไรมากกว่านั้นสิ เธอต้องได้มากกว่านั้น!
_______________
นาฬิกาที่หัวเตียงบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน แผ่นอกกว้างของคนข้างๆ กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ วาคิมหลับลึกไปนานแล้วทว่าเกล็ดมุกยังลืมตาโพลงในแสงสลัว
หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ควานหาบางอย่างในลิ้นชักข้างเตียง เมื่อพบเจอก็กำมันไว้ในมือแล้วหันมามองเขาอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ก่อนที่ฝ่าเท้าของเธอจะก้าวลงจากเตียงนอนอย่างแผ่วเบา เดินคลำทางไปยังห้องน้ำด้วยแสงจากโคมไฟดวงน้อยที่ตั้งอยู่ข้างประตูทางเข้า
‘ยาคุมกำเนิด’ ถูกแกะจากแผงแล้วโปรยลงในโถชักโครก เธอต้องกดน้ำซ้ำอีกรอบ เพราะอยากมั่นใจว่ามันจะลงไปข้างล่างทุกเม็ด ก่อนที่แผงยาเปล่าๆ จะถูกโยนลงในถังขยะ
“คุณป๋าขา เฮียเมฆขา หนูเล็กขอโทษอีกครั้ง ถ้าวันหนึ่งที่หนูเล็กต้องกลับบ้านจริงๆ นอกจากหัวใจที่บอบช้ำ หนูเล็กขอลูกน่ารักๆ จากเขาสักคนนะคะ คุณวาขา มุกขอโทษที่ผิดสัญญา แต่มุกขอสาบานว่าจะไม่ร้องขอความรับผิดชอบใดๆ จากคุณเลย” ไม่ใช่แค่สัญญากับตัวเอง แต่ยึดถือเป็นสัจจะว่าต้องทำให้ได้อย่างใจนึก ไม่มีวันกลืนน้ำลายตัวเองแน่นอน
ส่งท้ายบ่ายโมงวันอาทิตย์ฝนกำลังตกกระหน่ำอยู่นอกตัวตึกบริษัทเพิร์ล กวินถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย เฝ้ามองหยาดพิรุณที่ตกกระทบผนังกระจกอย่างเหนื่อยหน่าย เขาอยู่ในห้องทำงานของวาคิม กำลังรอการมาถึงของใครบางคนด้วยใจจดจ่อ เอกสารแฟ้มไม่หนาไม่บางกำลังรอลายเซ็นของคนสำคัญ เขาจะไม่เหนื่อยหน่ายหากว่าไม่ได้นั่งรอเจ้าหล่อนมาตั้งแต่เช้าถ้าเจ้านายที่เคารพไม่สั่งไว้ก่อนพาเจ้าสาวหมาดๆ ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันอีกรอบที่ต่างประเทศละก็ จ้างให้เขาก็ไม่มารอเจ้าหล่อนหรอก นี่มันวันอาทิตย์นะ เขาควรจะได้พาลูกกลับบ้านที่ ‘เกาะปันรัก’ ไม่ใช่มาอยู่โยงรอคนที่ไม่รักษาเวลา“ปะป๊า! มีนอยากกินชูชิ” หนูน้อยวัยสี่ขวบหน้าตาน่ารักน่าชังบอกบิดาด้วยสำเนียงที่คิดว่าชัดเจนที่สุด“ขออีกห้านาทีลูก ถ้าเธอยังไม่มาปะป๊าจะพาไป”กวินบอกบุตรชาย ‘มีนา’ ติดอยู่ที่นี่กับเขาตั้งแต่เช้า เขาน่าจะฝากลูกไว้กับคุณหญิงวารี ไม่น่าพามาด้วยเลย“ป๊าลอใค?” หนูน้อยถามอีก“รอคุณแพรวรุ้ง” กวินตอบวาคิมเห็นว่าฝ่ายแพรวรุ้งเสียหน้าที่เขาแต่งงานกับเกล็ดมุก ทั้งที่ข่าวก่อนหน้านั้นออกไปว่าเขาและแพรวรุ้งกำลังจะหมั้นกัน วาคิมเลยขอไถ่โทษด้วยการเสนอให้สาวเจ้ามาเป็
[24]ด้วยรักและเข้าใจ____________“นายเหมือง! อย่ามาผิดคำพูดนะ ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวไง!”วารินทร์ค้อนฟ้าค้อนลมไปหลายยก เมื่อสามีผู้เอาแต่ใจผูกขาดการอยู่บนเตียงมาตั้งครึ่งค่อนวัน แทนที่วันหยุดจะได้เที่ยวบ้างอะไรบ้าง“อือ...ขอพักเหนื่อยหน่อยจ้ะเมียจ๋า เมื่อคืนนายเหมืองใช้แรงงานมากเกินไปเลยหมดแรง” ตอบกลับหน้าทะเล้น แต่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ“จะไปไหนฮึ ท้องฟ้ามันเป็นใจให้น่านอนขนาดนี้” เขาว่าแล้วรวบร่างน้อยไปล้มตัวลงนอนอีกครั้ง“แดดเปรี้ยงอย่างนี้เหรอที่ว่าเป็นใจ อย่ามาล้างสมองนะ น้องวาอยากว่ายน้ำจะตาย มันร้อน น่านะ พาไปหน่อย”“ฮั่นแน่ เมียเราอยากไปรำลึกความหลังหรือจ๊ะ”เมฆาแกล้งเย้า“บ้า! ใครเขาจะอยากนึกถึงความหลังบ้าบอ”ใบหน้าสวยจืดเจื่อน เมื่อความหลังที่ว่ามันไม่ได้มีเพียงเรื่องชวนวาบหวิวเพียงเรื่องเดียว แต่มันมีทั้งคราบน้ำตาและวาจาที่เชือดเฉือนจิตใจให้เจ็บช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า“โอ...ไม่นะวารินทร์ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นนะที่รัก ฉันไม่อยากให้เธอคิดถึงมันอีก ฉันขอโทษ ฉันสำนึกผิดแล้ว อย่าจมอยู่กับอดีตเลย ฉันขอร้อง ได้โปรดอยู่กับฉัน อยู่กับปัจจุบัน อย่าคิดถึงมันอีกเลย อย่าลงโทษฉั
[23]เพราะเรารักกัน______________วาคิมเร่งฝีเท้าเข้ามาด้านในเพียงเพื่อจะพบต้นตอที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่กำยำของบอดี้การ์ดหัวทองกำลังโอบประคองภรรยาของเขาอย่างถือสิทธิ์“วางเธอลงเดี๋ยวนี้โทนี่ คราวหน้าฉันจะตัดมือแกทิ้ง ถ้ากล้าแตะคุณหนูของแกอีก”เสียงกร้าวร้องสั่ง โทนี่ตีหน้าขรึมใส่ เขาอยากจะปล่อยร่างนายสาวลงเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็เกรงว่าสาวใช้ร่างบอบบางจะทานน้ำหนักไม่ไหวเลยต้องประคองเอาไว้“เกรงว่าตอนนี้คุณหนูคงอยากให้ผมแตะมากกว่าคุณ” โทนี่ประชดวาคิมตีหน้ายักษ์ใส่เพราะจนใจในการโต้เถียง เขาช้อนร่างอ่อนปวกเปียกให้พ้นจากวงแขนของบอดี้การ์ดมาดเข้ม ใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดของเกล็ดมุกช่างบีบคั้นหัวใจอย่างที่สุด หล่อนคงเสียใจที่เขาก้าวออกไปพร้อมๆ กับฟ้ารุ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาอยากให้หล่อนรับรู้เหตุผลที่เขาต้องทำอย่างนั้นว่าที่คุณพ่ออุ้มว่าที่คุณแม่ขึ้นห้องนอน เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือ สั่งสาวใช้ให้หาผ้าชุบน้ำเย็นมาให้ ก่อนจะไล่ทุกคนออกไป ด้วยต้องการอยู่กับหล่อนตามลำพัง“ได้โปรดเถอะมุก ช่วยตื่นขึ้นมาฟังผมที ผมขอร้อง”วาคิมพึมพำขณะไล้ผ้าหมาดๆ เช็ดแก้มนวลอย่างทะนุถนอมครื
ฟ้ารุ่งเดินอ้อมโต๊ะไปหาเกล็ดมุก วาคิมมัวแต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นอดีตแฟนเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนหล่อนออกจะเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ทำไม...“โทนี่!” เกล็ดมุกร้องเรียกบอดี้การ์ดของบิดาที่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆบอดี้การ์ดมาดเข้มวิ่งมาอย่างไว พริบตาเดียวก็ควักปืน .357 ออกมาวางใส่มือให้เจ้านาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟ้ารุ่งกำลังจะฟาดฝ่ามือใส่แก้มของเกล็ดมุก ซึ่งผลของมันนั้นทุกคนย่อมรู้ดี แขนเรียวของเจ้าหล่อนค้างเติ่งกลางอากาศ เกล็ดมุกจ่อปืนเข้าที่กลางหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างคล่องมือวาคิมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขารู้ดีกว่าใครว่าเกล็ดมุกใช้ปืนเป็น!เกล็ดมุกยิ้มเยาะ รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าเห็นๆ“มาหยามกันถึงถิ่นขนาดนี้ จะให้กลับไปแบบตอนขามามันก็ยังไงๆ อยู่ วันนี้ให้แกงจืดเป็นของฝาก ถ้ากล้ามาอีกละก็ ฉันจะให้ลูกตะกั่ว สนไหมล่ะ คุณฟ้ารั่ว!”“กรี๊ด! อีบ้า! อีโรคจิต! วา! ช่วยฟ้าด้วยเมียคุณจะฆ่าฟ้า ฮือออ...”ฟ้ารุ่งตะเบ็งเสียงแปดหลอดร่ำร้องขอความช่วยเหลือจากวาคิม ชายหนุ่มลุกมาหาสองสาว ใจคอไม่ดี ไม่อยากให้เกล็ดมุกถือปืน หล่อนท้องอยู่นะ ปืนผาหน้าไม้ไว้ใจได้ที่ไหนปัง!กระเบื้องปูพื้นลายสวยเป็นรูโบ๋ตรงกลา
คฤหาสน์หลังงามดูเงียบเหงาเมื่อเธอโดนคำสั่งข้ามประเทศจากเจ้าสัวว่าให้งดการเข้าบริษัท หากยังไม่หายแพ้ท้องดี นั่นทำให้เธอต้องมานั่งจับเจ่าอยู่บนเตียงกว้าง ทั้งนอนเกลือกกลิ้งมากว่าสองชั่วโมงแล้วก๊อกๆๆ“คุณหนูเล็กคะ อาหารเที่ยงเสร็จแล้วค่า”เสียงสาวใช้บอกมาที่หน้าประตู เกล็ดมุกลุกจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากว่าเธอยังอยู่ในชุดนอนตั้งแต่เมื่อคืน วันนี้สามีเจ้าปัญหาบอกว่าจะมาทานข้าวเที่ยงด้วย แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจะบ่ายโมงแล้ว เธอคงจะหิ้วท้องรอหรอกเกล็ดมุกเดินลงมาชั้นล่างด้วยความกระปรี้กระเปร่า การได้อาบน้ำเย็นๆ ช่วยให้เธอสดชื่นขึ้นทันตา เธอเดินมาถึงโต๊ะอาหาร วินาทีเดียวกันนั้น เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านก็ทำให้เธอต้องชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างกระจกด้วยความใคร่รู้“เสียงรถใครน่ะ ไปดูทีซิ ใช่รถคุณวาหรือเปล่า”สาวใช้ยังไม่ทันได้ออกไปพ้นประตูดี เจ้าของรถยนต์เสียงแปลกหูก็เดินนวยนาดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ“สวัสดีค่ะคุณมุก แหมๆๆ กลับมาไม่บอกกันบ้างเลยนะคะ”เสียงหวานหยดเอ่ยถามแกมหยอกเย้า ราวกับว่าสนิทกันมาแรมปี เกล็ดมุกหน้าตึง นี่ถ้าเธอไม่รู้ว่าหล่อนคนนี้เป็นใคร ป่านนี้คงยังโดนหลอกไม่เลิก ก็สาว
[22]ปรับความเข้าใจ__________วาคิมใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงในการขับรถกลับจากหัวหิน และตอนนี้เขาก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลเฉินเป็นที่เรียบร้อย เขาพ่นลมหายใจทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างกังวล ไม่รู้จะแก้ตัวเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรดี หรือว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดความจริงเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ สะกิดใจเกล็ดมุก เธออยู่ในห้องอาหาร มีสาวใช้คอยปรนนิบัติพัดวีราวเจ้าหญิง เธอเพิ่งกลับมาถึงที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงและยังไม่มีแก่ใจจะรับแขก“ไปดูทีว่าใครมา ถ้าแขกของป๊าบอกให้เขามาวันหลังนะ”เกล็ดมุกสั่งสาวใช้ ปากน้อยๆ กำลังแทะเล็มเม็ดมะม่วงที่ตอนนี้เหลือแต่แกนเปล่าๆ“ค่ะ คุณหนูเล็ก” สาวใช้ร่างผอมขานรับ รีบเดินแกมวิ่งไปที่หน้าคฤหาสน์ แต่ยังไปไม่ถึงด้านหน้าดีด้วยซ้ำ ผู้มาเยือนก็เข้ามาถึงด้านในเสียก่อน“มีอะไรก็ไปทำเถอะ”คุณหนูเล็กสั่งอีกครั้ง สาวใช้รีบหลบฉากเข้าครัว“กลับมาทำไมไม่บอกผมบ้าง รู้หรือเปล่าว่าทำให้ผมเป็นห่วงแค่ไหน”เกล็ดมุกไม่อนาทรร้อนใจต่อคำกล่าวหานั้น ยังคงนั่งกินมะม่วงน้ำปลาหวานต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว“ผมถามทำไมไม่ตอบ!” วาคิมขึ้นเสียง อารมณ์เดือดปุดๆ เขาอุตส่าห์เป็นห