นายปฐพี พลพิพัฒ อายุยี่สิบแปดปี ชายหนุ่มรูปหล่อ ร่างสูงใหญ่กำยำผิวขาว เขาเกลียดผู้หญิงทุกคนเข้าไส้ ใครเข้าใกล้ต่างก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคือปีศาจในคราบเทพบุตรชัดๆ แต่ทำไมนะจีน่าจึงตกหลุมรักเขา นางสาวจีน่า ไนลา อายุยี่สิบสี่ปี ใบหน้าของเธอนั้นคมเหมือนกับสาวลูกครึ่ง เพราะมารดาของเธอเป็นคนอังกฤษ บิดาของเธอชื่อสรวิช ซึ่งความสวยของจีน่านั้นไม่เป็นรองใคร ดวงตาของเธอกลมโตจมูกโด่งรับกับริมฝีปากได้รูปสีชมพูระเรื่อ ใครเข้าใกล้ต่างก็ชอบในความน่ารักสดใสของเธอ แต่ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวได้เก็บเรื่องราวบางอย่างไว้ในใจตลอดเวลา เมื่อคนที่เธอตกหลุมรักเขากำลังจะแต่งงานด้วยเหตุผลบางอย่าง ที่สำคัญเจ้าสาวของเขานั้น คือพี่สาวแท้ๆ ของเธอ ความรักของเขาและเธอจะลงเอยยังไงฝากด้วยนะคะ
Voir plusภายใหห้องนอนที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยหรู หญิงสาวร่างอรชร นั่งน้ำตานองอาบแก้มสองข้าง เมื่อจีน่าได้ยินผู้ใหญ่คุยกันในช่วงเช้า เรื่องแต่งงานระหว่างพี่สาวของเธอกับปฐพี ชายหนุ่มที่มีไร่อยู่ติดกัน
ความทรงจำในวัยเด็กทำให้จีน่าประทับใจในตัวปฐพีไม่รู้ลืม เพราะเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ จากการที่หญิงสาวถูกงูมีพิษกัดที่ข้อเท้า ขณะที่วิ่งเล่นกันในไร่ตอนนั้นจีน่าอายุประมาณเก้าขวบเห็นจะได้ ซึ่งปฐพีเป็นคนปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วให้เธอขี่หลังวิ่งมาหาผู้ใหญ่เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แถมเขายังบอกชนิดของงูที่ฉกเธอได้อย่างแม่นยำอีกด้วย สมกับที่เป็นเจ้าของไร่ชาวายุ
หญิงสาวยังคงนั่งเหม่อน้ำตาไหลรินออกมาไม่หยุด เธอกับพี่สาวมีนิสัยที่แตกต่างกันมากจีน่าชอบใช้ชีวิตติดดิน ส่วนเดียร์น่าพี่สาวของเธอที่มีอายุห่างกันแค่สองปี รายนั้นใช้ชีวิตยังกับเจ้าหญิง ไม่ยอมคนเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกบิดามารดาตามใจมาตั้งแต่เด็ก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น ทำให้จีหน้ารีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วทำสีหน้าให้เป็นปกติ
“แม่เรียกตั้งนาน ทำอะไรอยู่จ๊ะจีน่า” น้ำเสียงของคาร่าที่มีใบหน้าฝรั่งจ๋า แต่นางกลับพูดไทยได้คล่องปร๋อ เพราะมาอยู่ที่เมืองไทยเกือบสามสิบปีแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่าคะแม่” หญิงสาวเอ่ยถามหญิงวัยกลางคนออกไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อมารดาเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“ช่วยเอาปิ่นโตเมนูโปรดของคุณดิน ไปส่งให้เขาที่ไร่ชาหน่อยสิลูก” คำบอกของมารดาทำให้จีน่าแอบถอนใจออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนเนื้อเต้น แต่ทว่าในตอนนี้สถานะของชายหนุ่มกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นพี่เขย ถ้าวันนั้นมาถึงเธอคงหมดหวังที่จะสานสัมพันธ์กับเขา แม้ว่าจีน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ผู้ชายอย่างปฐพีไม่มีทางหันมาสนใจผู้หญิงคนไหน นอกจากช้องนางอดีตคนรักของเขาที่อยู่ๆ ก็หายไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา จนทำให้ปฐพีกลายเป็นผู้ชายบ้างานไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย
“แม่ค่ะ คือว่า...” จีน่ากำลังคิดหาทางปฏิเสธ แต่เธอกลับนึกหาข้ออ้างขึ้นมาแย้งมารดาไม่ได้
“อย่าอ้ำอึ้ง รีบไปรีบกลับเดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน”
“ก็ได้ค่ะแม่” หญิงสาวที่มีลุคแก่นแก้วแตกต่างจากพี่สาวของเธอ ยอมตกปากรับคำไปส่งปิ่นโตให้กับปฐพีตามคำบอกของมารดา
เมื่อลูกสาวคนเล็กปั่นจักรยานคู่ใจของเธอออกไปจากไร่ ทำให้หญิงวัยกลางคนเดินเข้าไปหาผู้เป็นสามีที่กำลังนั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน ซึ่งปัจจุบันสรวิชบิดาของหญิงสาวมีไร่ชาเป็นของตัวเอง เมื่อเขาได้ภรรยาอย่างคาร่าที่สวยและรวยมาก
“คุณหมอกับคุณฝนก็กลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว คุณกำลังคิดอะไรอยู่คะ” คาร่ารู้ดีว่าสามีของเธอจำใจต้องตกปากรับคำตอบตกลงผู้มีพระคุณกลับไป เพราะเขาไม่รู้จะปฏิเสธนายแพทย์จิรายุกับฝนสุดายังไง เมื่อคนทั้งคู่มีบุญคุณกับครอบครัวของเขามาก่อน
“เดียร์น่าจะว่ายังไง ลูกคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมคาร่า” ใบหน้าของสรวิชแฝงไปด้วยความเป็นกังวล เมื่อเขาตกอยู่ในที่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งที่ควรถามความสมัครใจของลูกสาวคนโตก่อน
“อย่าคิดมากสิคะ เดียร์น่าเองก็น่าจะเข้าใจในเหตุผลที่จะต้องแต่งงานกับคุณดิน” คาร่าพูดปลอบสามีออกไป ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจ คนอย่างเดียร์น่าถ้าลองไม่ชอบอะไร เธอจะไม่มีทางฝืนใจทำเด็ดขาด
“ช้องนางหายไปไหน ถ้าเธอยังอยู่ป่านนี้คุณดินคงแต่งงานมีลูกกับเธอไปแล้ว ทั้งที่วันแต่งก็ถูกกำหนดอีกแค่ไม่กี่วัน ก่อนที่ช้องนางจะหายไป” ที่สำคัญบางคนลือว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพราะมีคนแอบเห็นเธอบนเที่ยวบินกับผู้ชายหน้าตาดี ซึ่งเป็นหนุ่มลูกครึ่ง แต่ไม่มีใครรู้ว่าชายคนนั้นเป็นใครแม้แต่บิดามารดาของเธอ จึงทำให้ปฐพีเกลียดผู้หญิงทุกคนเข้าไส้ สร้างความทุกข์ใจให้กับบิดามารดาของเขาเป็นอย่างมาก
“ยังไงเราก็ตอบตกลงไปแล้วนี่ อย่างน้อยคุณดินก็ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ แค่มีใบหน้าและแววตาที่เย็นชา ไม่สุงสิงกับใคร บ้างานจนหนวดเครารุงรังไม่ยอมโกนออก ผมเผ้าก็ดูยาวตัดบ้างไม่ตัดบ้าง ถ้าเขาดูแลตัวเองดีๆ หล่อยิ่งกว่าดาราหนังอีกนะ คุณว่าไหม” สองสามีภรรยายังคงคุยถึงเรื่องปฐพีไม่หยุด ขณะที่ลูกสาวคนเล็กกำลังปั่นจักรยานไปที่ไร่วายุ พร้อมกับใบหน้าที่ไม่ค่อยสดชื่น เพราะหัวใจของเธอเพิ่งได้รับความบอบช้ำ ไม่ต่างจากคนอกหัก เมื่อคนที่เธอหลงรักเขากำลังจะแต่งงานเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“ป้าจ๋า คุณดินอยู่ไหมคะ” หญิงสาวจอดรถได้รีบหิ้วปิ่นโต เดินเข้าไปหาหญิงสูงวัย ที่กำลังนั่งร้อยพวงมาลัย เพื่อนำไปบูชาในวันพระใหญ่ “วันนี้คุณดินคงค้างที่บ้านท้ายไร่ หนูจีมีอะไรหรือเปล่า นั่นหิ้วปิ่นโตมาด้วย แสดงว่าคุณคาร่าให้เอาของโปรดมาให้คุณดินใช่ไหมคะ”แม่จันดาที่เคยช่วยงานบ้านในไร่ ตั้งแต่สมัยปู่ย่าของจีน่ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่คนทั้งสองป่วยและเสียชีวิตลงไป แม่จันดาก็ยังคงทำงานเป็นแม่บ้านคอยดูแลอาหารการกิน และงานทุกอย่างภายในบ้าน โดยมีตองนวลเป็นลูกมือ คอยทำตามคำสั่งของหญิงสูงวัย
“แม่ให้เอาแกงคั่วหมู แล้วก็แกงยอดมะพร้าวอ่อนใส่ไก่มาให้คุณดินจ้าป้า” จีน่าพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงบนโต๊ะ
“แต้ป้าว่า หนูจีคงต้องเอาไปให้คุณดินเองแล้วแหละ ตองนวลก็กลับบ้านไปแล้ว ส่วนคนงานผู้ชายก็คงกลับที่พักกันหมดแล้ว”
“ป้าจ๋า เอาไว้อุ่นพรุ่งนี้ก็ได้มั้ง จีไม่อยากไปเจอคุณดินของป้า ผู้ชายอะไร เย็นชาสมกับที่เป็นเจ้าของไร่ชาจริงๆ” หญิงสาวพูดพร้อมกับทำหน้างอ แต้ป้าจันดากลับชอบมองเวลาที่จีน่าทำกิริยาแบบนี้ เพราะผู้หญิงหลายคนมีแต่อยากจะเข้าใกล้ปฐพี มีเพียงจีน่าที่ทำท่าทางหมางเมิน นางจะรู้หรือเปล่าว่าหญิงสาวกำลังพยายามห้ามใจ เพราะไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่ากำลังจะเป็นพี่เขยของเธอ
“แกงยอดมะพร้าวอ่อนเก็บไว้ค้างอื่นก็ไม่อร่อยสิ ถ้าหนูจีไม่ไป เดี๋ยวป้าจะเดินไปเองก็ได้ แค่ไม่กี่กิโลเอง” หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับวางพวงมาลัยที่ร้อยยังไม่เสร็จลงที่โต๊ะ
“ไม่ต้องหรอกค่ะป้า เดี๋ยวจีจะปั่นจักรยานเอาไปให้คุณดินเอง กว่าป้าจะเดินไปกลับคงตกดึกพอดี” จีน่ารีบขันอาสาอย่างไม่มีทางเลี่ยง เพราะหญิงสาวทนไม่ได้ ที่จะให้ป้าจันดาเป็นคนเดินถือปิ่นโตไปส่งให้ปฐพีที่ท้ายไร่
“รีบไปรีบกลับนะหนูจี เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน จักรยานมีไฟหรือเปล่า” คราวนี้น้ำเสียงของหญิงสูงวัยได้เอ่ยถามจีน่าออกมาด้วยความห่วงใย เพราะนางเองก็รู้ว่าทางไปท้ายไร่บางจุดยังไม่มีไฟ ตอนกลับอาจจะมือสลัวทำให้จีน่าปั่นจักรยานลงข้างทางได้
“มีจ้าป้า จีไปก่อนนะเดี๋ยวมืด”
“ไม่ต้องซิ่งนะหนูจี ถนนหนทางยิ่งไม่ค่อยดีอยู่ด้วย”
“จ้าป้า” หญิงสาวตอบกลับพร้อมทั้งรีบปั่นจักรยานไปที่ท้ายไร่ แม้ว่าจีน่าจะไม่อยากไป แต่จะให้คนแก่มาเป็นภาระต่อจากเธอไม่ได้ จึงทำให้จีน่าตัดสินใจ เอาปิ่นโตไปส่งให้ปฐพีด้วยตัวเอง
“อืม...” เสียงอื้ออึงดังมาจากลำคอของคนตัวเล็กอย่างไม่มีทีท่าขัดขืน แถมเธอยังใช้แขนคล้องไปที่ลำคอแกร่งของสามีเอาไว้แน่น เพื่อโน้มเข้าหาให้ได้องศารับกับช่วงจังหวะที่ดูดดื่ม จากจูบที่อ่อนโยนนุ่มนวลได้กลายเป็นร้อนแรงดังจะกลืนกินคนตัวเล็กเข้าไปทั้งตัว เมื่อเลือดในกายของความเป็นชายเริ่มสูบฉีก ซึ่งจีน่าเองก็ปรารถนาคนตัวโตไม่แพ้กัน เรียวลิ้นของเขาและเธอเกี่ยวกระหวัดกันไปมา อยู่ในโพรงปากของคนใต้ร่างอย่างไม่มีทีท่าว่าจะยอมกัน อาภรณ์ที่ห่อหุ้มกายของคนทั้งสอง ถูกชายหนุ่มเปลื้องออกไปกองรวมกันอยู่ที่พื้นอย่างไม่ไยดี ปฐพีไล้มืออีกข้างไปตามเรียวขาเสลาของภรรยา “อืม...อื้ม” เสียงครางดังออกมาแข่งกัน เมื่อต่างคนต่างก็อยากสานสัมพันธ์ ปลายลิ้นอุ่นของชายหนุ่มยังคงกวาดต้อนฉกชิมเอาความหอมหวานจากโพรงปากของภรรยาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อ “ฉันรักเธอจัง จุ๊บ! จร๊วบ!” เสียงแหบพร่าที่ดังบอกรักอยู่ข้างหู กำลังทำให้จีน่าม้วนตัวบิดไปมา เมื่อเธอรู้สึกเสียวซ่านจากสัมผัสที่ได้รับ เพราะเวลานี้ปฐพีกำลังใช้ลิ้นร้อนโ
ในที่สุดปฐพีก็พ่ายแพ้ให้กับความรัก ทั้งที่เขาพยายามผลักไสให้เธอออกไปไกล แต่ทว่าจีน่ากลับใช้ความพยายามที่จะเข้าใกล้ ยิ่งเธอถูกเขาประกาศกร้าว ระยะเวลาหนึ่งปี ที่หญิงสาวจะต้องเอาชนะหัวใจของปฐพี เธอก็ยิ่งทำทุกทาง เพื่อให้ชายหนุ่มยอมจำนน ซึ่งตอนนี้จีน่าก็ทำมันสำเร็จ เมื่อเธอได้เปลี่ยนคำพูดของปฐพี ที่เคยบอกเอาไว้ว่า สามร้อยหกสิบห้าวันฉันจะไม่รักเธอ กลับกลายเป็นสามร้อยหกสิบห้าวันไม่มีวันไหนที่จะไม่รัก เธอกลายเป็นดังจิตวิญญาณของชายหนุ่ม ที่ทำให้เขามีลมหายใจอยู่ได้ในทุกๆ วัน ห้าปีผ่านไป ลูกสาวของจีน่ากับปฐพีกำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าฟัง ชื่อว่านภาที่แปลว่าท้องฟ้า เสียงพูดของเด็กหญิงเจี๊ยวจ๊าวใสซื่อทำให้ไร่ชาดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ส่งผลให้นายแพทย์จิรายุและภรรยาไม่เป็นอันอยู่กรุงเทพฯ ภายในหนึ่งเดือนเขาเทียวไปมาหลายครั้ง จนปฐพีต้องปรามให้คนทั้งคู่อยู่ที่ไร่ เนื่องจากเขาไม่อยากให้บิดามารดาเดินทางบ่อยๆ เพราะคนทั้งคู่อายุมากขึ้น แม้จะยังดูดีราวกับหนุ่มสาววัยสี่สิบต้นๆ ซึ่งคำชมของลูกชายมักจะทำให้ฝนสุดายิ้มหน้าหวาน เพราะปฐพีชอบหยอดคำหวายไม่แพ้นายแพทย์จิรายุบิดาของเขา
“พอแล้วค่ะจีหิว” หญิงสาวผละคนตัวโตออกห่างเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรที่เลยเถิดมากไปกว่าจูบ “อยากกินฉันเหรอ หืม” “คนบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้” จีน่าพูดออกมาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว “ไหนลูกพ่อหิวแล้วใช่ไหมครับ ไปกินข้าวกัน” เขากระซิบลงไปที่หน้าท้องของจีน่า จากนั้นปฐพีได้โอบภรรยาลงไปที่โต๊ะอาหาร กับบรรยากาศที่ไม่เหมือนอยู่ในโรงพยาบาล เมื่อปฐพีตั้งใจเซอ์ไพรส์เธอกลับพร้อมกับอยากให้ภรรยาประทับใจ กับของขวัญล้ำค่าที่เธอได้มอบให้กับเขา “เธอออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ฉันจะจัดการกับช้องนาง เธอควรได้รับโทษ ที่กล้าทำร้ายดวงใจของฉัน ส่วนไอ้ขุนพล มันได้หนีไปต่างประเทศแล้ว” พอพูดถึงคนทั้งสอง ใบหน้าของปฐพีดูเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างถนัดตา “จีขอได้ไหมคะ ให้ทุกอย่างจบแต่เพียงเท่านี้ จีเองก็ปล
ภายในห้องพิเศษ ปฐพีนั่งเฝ้าภรรยาของเขาทั้งคืน จนเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ พอจีน่างัวเงียตื่นขึ้นมา หญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะหลับลงอีกครั้งเพื่อปรับกับแสงที่แยงมา ซึ่งจีน่าพบว่าที่นี่ไม่ใช่กระท่อมแต่เป็นห้องที่เต็มไปด้วยสีขาว จากนั้นหญิงสาวจึงค่อยๆ กวาดสายตามองไปทั่วห้อง เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที เมื่อปฐพีกำลังซบหน้าลงกับเตียง มือเรียวเอื้อมไปแตะลงที่ศีรษะของสามีเบาๆ “อืม... จีน่า! เธอเป็นยังไงบ้างเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เมื่อเห็นภรรยารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ปฐพีรีบดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอามือกุมใบหน้าของเธอเอาไว้ แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย ก่อนที่เขาสำรวจว่าเธอเจ็บตรงไหนบ้าง “ฉันขอโทษนะจีน่า ที่ทำให้เธอต้องไปเจอกับเรื่องบ้าๆ พวกนั้น ลืมมันไปเถอะนะ คิดว่ามันคือฝันร้ายจะได้ไหม ฉันอาจจะขอเธอมากไป แต่ต่อจากนี้ฉันจะทำให้เธอฝันดีทุกคืน พร้อมกับตื่นมาเจอกับฉันในทุกวัน จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอได้อีกแล้ว” ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน
“ฉันขอโทษนะจีน่า ต่อไปฉันจะไม่ให้เธอต้องห่างกายไปไหนไกล อดทนรอฉันอีกนิดนะ ใกล้ถึงแล้ว” พอพูดจบชายหนุ่มรีบหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในไร่ ที่เขาตั้งใจอยากจะสร้างบ้านไว้ที่นี่ เพื่อมาพักผ่อนกับจีน่า ในเวลาที่เขาและเธอว่างจากงานในไร่ชา พอรถยนต์ออฟโรดคันคู่ในแล่นมาถึง ชายหนุ่มไม่รอช้าหยิบไฟฉายออกมา แล้วเดินตรงไปยังกระท่อมทันที ซึ่งเขากึ่งวิ่งกึ่งเดินอย่างกับกลัวว่าจะมีคนคว้าเส้นชัยไปก่อน “เฮ้ย! อะไรเนี่ย กระเป๋าของจีน่า” ชายหนุ่มรีบคว้ากระเป๋าของหญิงสาวมาสะพายเอาไว้ ก่อนจะรีบเดินออกไปให้เร็วที่สุด เพราะกระท่อมอยู่ห่างจากที่จอดรถพอสมควร ถ้าคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย อาจจะต้องหยุดนั่งพักเอาแรง แล้วค่อยเดินต่อด้วยซ้ำ เมื่อมาถึงกระท่อมหัวใจของชายหนุ่มแทบสลาย ที่เห็นร่างของภรรยาถูกพันธนาการเอาไว้กับเสา เขารีบเข้าไปแก้มัดให้กับเธอ ขณะที่จีน่าไม่ได้สติ เขาเรียกยังไงเธอก็ไม่ยอมตื่น
“ไม่จริงคุณขุนพลเดินทางไปกรุงเทพตั้งแต่บ่ายแก่ๆ ป่านนี้เขาคงบินออกนอกประเทศไปแล้ว” ช้องนางเดินผ่านมาได้ยินประโยคที่ปฐพีพูดขึ้นพอดี หล่อนเลยสวนกลับอย่างไม่คิด “ลูกไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆ ใช่ไหมช้องนาง” แม่เลี้ยงเวียงพิงค์เอ่ยถามลูกสาวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ทว่าดวงตาของนางกลับแฝงไปด้วยความกังวลใจ “ช้องนางเป็นลูกแม่นะคะ ทำไมแม่ต้องมองลูกสาวของตัวเองด้วยสายตาแบบนั้นด้วย” “เพราะแม่รักลูก เลยไม่อยากให้ลูกทำผิด” “หยุดพูดจาบ้าบอได้แล้ว กลับไปเถอะคุณปฐพีที่นี่ไม่มีผู้หญิงชื่อจีน่า” น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงสิงห์คำฟังดูห่างเหินอย่างรุนแรง เมื่อเขารู้ถึงจุดประสงค์การมาที่นี่ของปฐพี “ถ้าเรื่องนี้ถึงตำรวจผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จีน่าอยู่ที่ไหน ตอบผมมาคุณช้องนาง
Commentaires