สถานการณ์ในสนามหญ้าของโรงเรียนริโอะเอนตึงเครียดถึงขีดสุด เงาปีศาจตนมหึมาพุ่งเข้าใส่กลุ่มนักเรียนอย่างรวดเร็ว กรงเล็บอันแหลมคมกำลังจะตะปบ ยูเมะ ที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด ทุกคนต่างกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวสุดขีด ลุงภารโรง กำลังจะพุ่งเข้ามาช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์
ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตายนั้นเอง... วูบบบบบ! มีดลงอาคมสีเงินในมือของลุงภารโรง ที่เคยส่องแสงเรืองรองอยู่แล้วนั้น จู่ๆ ก็ สว่างวาบขึ้นอย่างรุนแรง! แสงสีเงินบริสุทธิ์เจิดจ้าออกมาจากคมมีด ราวกับปลดปล่อยพลังที่ถูกสะสมมานานนับศตวรรษ แสงนั้นส่องสว่างไปทั่วบริเวณ ขับไล่ความมืดมิดของยามค่ำคืนออกไปชั่วขณะ ทำให้ร่างของปีศาจเงาที่กำลังพุ่งเข้าหากลุ่มนักเรียนต้องชะงักไปเล็กน้อยด้วยความรังเกียจแสงนั้น เหล่านักเรียนต่างมองไปยังมีดในมือของลุงภารโรงด้วยความตกใจและทึ่ง แสงสว่างนั้นไม่เพียงแต่ขับไล่ความมืด แต่ยังปลุกเร้าความหวังที่ริบหรี่ในใจของพวกเขาให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง แต่แล้ว... ในขณะที่แสงสีเงินยังคงส่องสว่างเจิดจ้า เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากระยะไกล... ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก! เสียงฝีเท้าจำนวนมากกำลังวิ่งมายังทิศทางของพวกเขา เสียงนั้นดังสนั่นหวั่นไหว บ่งบอกถึงจำนวนคนที่กำลังเร่งรุดเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงเรียกที่คุ้นเคยที่ดังแทรกมากับเสียงลมพายุ "ลูก! ลูกอยู่ไหน!" "ไอโกะ! เก็น! ฮารุ!" "โช! ยูเมะ!" เสียงเรียกชื่อดังขึ้นระงม ทำให้เหล่านักเรียนที่กำลังสับสนอยู่ถึงกับชะงักไป ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ฟูมิโกะ พึมพำ "เสียง... เสียงใครน่ะ?" เคนตะ หันไปมองตามเสียงนั้นด้วยความประหลาดใจ "คุ้นๆ หูจัง..." เพียงไม่นาน... ร่างของคนที่กำลังวิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปรากฏสู่สายตาของทุกคนท่ามกลางแสงสว่างจากมีดอาคมของลุงภารโรง ภาพที่เห็นทำให้เหล่านักเรียนถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความดีใจและโล่งอกที่สุดในชีวิต! ที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขาคือ พ่อและแม่ของเหล่านักเรียนทั้ง 20 คน! ทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตา ใบหน้าของท่านเหล่านั้นเต็มไปด้วยความกังวล แต่ก็มีความมุ่งมั่นและความแน่วแน่ซ่อนอยู่เช่นกัน "พ่อ! แม่!" เสียงเรียกชื่อดังระงมไปทั่วบริเวณ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความดีใจ โล่งอก และความรักที่ไม่สามารถเก็บซ่อนได้ ไอโกะ กรีดร้องด้วยความดีใจ เธอวิ่งพุ่งเข้าไปหาแม่ที่กำลังอ้าแขนรอรับ "แม่คะ!" เธอโผเข้ากอดมารดาแน่น น้ำตาไหลพรากด้วยความรู้สึกปลอดภัยที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน เก็น ก็วิ่งเข้าไปกอดพ่อกับแม่ของเขาอย่างสุดแรง "พ่อ! แม่! พวกท่านมาได้ยังไงครับ!" ยูเมะ ถึงกับร้องไห้โฮ เธอวิ่งเข้าไปซบลงในอ้อมกอดของพ่อ "พ่อคะ! หนูคิดว่าจะไม่ได้เจอพ่ออีกแล้ว!" โช, ฮารุ, ฟูมิโกะ, เคนตะ, โกฮัน, อิจิ, โอกิ, เทนชิ, เร็น, ไดชิ, คิชิโระ, มายู, คาซิมิ, บาระ, ดาอิ, ฮารุกะ, และนักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็วิ่งกรูกันเข้าไปหาพ่อแม่ของตัวเองทันทีที่เห็น พวกเขากอดกันแน่นราวกับจะไม่มีวันปล่อย มือที่เคยประสานกันเป็นโซ่แห่งความหวังบัดนี้ได้กลับไปสู่ความอบอุ่นของครอบครัว ความรู้สึกปลอดภัยเข้าครอบงำหัวใจของเหล่านักเรียนในวินาทีนั้นเอง การมาถึงของพ่อแม่ทำให้พวกเขาตระหนักว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังอีกต่อไป แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าการมาถึงของท่านผู้ปกครองคือ... สิ่งที่อยู่ในมือของพวกเขา! ในมือของพ่อแม่แต่ละคู่ ล้วนแต่มี มีดลงอาคมสีเงิน ที่ส่องประกายสว่างวาบคล้ายกับมีดในมือของลุงภารโรง! และไม่เพียงเท่านั้น บางคนยังถือ ขวดแก้วเล็กๆ ที่เปล่งแสงสีดำสลัวๆ ออกมา ซึ่งดูคล้ายกับขวดกักเก็บดวงจิตเงาปีศาจที่ลุงภารโรงมอบให้ไอโกะ! "พ่อครับ! นั่นมัน... มีดอาคมเหมือนของลุงภารโรงเลย!" เก็น อุทานด้วยความตกใจ เขาเห็นมีดสีเงินเรืองรองในมือของพ่อตัวเอง "แม่คะ! ขวดนี่... มันเหมือนของหนูเลยค่ะ!" ไอโกะ ชี้ไปที่ขวดแก้วในมือของแม่ ผู้ปกครองของเหล่านักเรียนต่างพยักหน้าให้ลูกๆ ใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยความจริงจังและมุ่งมั่น แววตาของพวกเขาส่องประกายแห่งพลังอำนาจบางอย่างที่เพิ่งจะตื่นขึ้นมา ลุงภารโรงซึ่งยืนมองเหตุการณ์อยู่ตลอด ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผู้ปกครองเหล่านั้น ใบหน้าของท่านมีรอยยิ้มโล่งใจและภาคภูมิใจ "ในที่สุด... พวกเธอก็มาถึงกันจนได้นะ" ลุงภารโรงเอ่ยทักทายผู้ปกครองเหล่านั้นราวกับเป็นเพื่อนเก่าที่ห่างหายกันไปนาน พ่อของเก็นพยักหน้าให้ลุงภารโรง "ขออภัยที่มาถึงช้าไปหน่อยนะท่านภารโรง... แต่ตอนนี้พวกเราพร้อมแล้ว" "ใช่แล้ว! เราทุกคนพร้อมที่จะปกป้องลูก ๆ ของเรา!" แม่ของไอโกะกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว สถานการณ์ในสนามหญ้าของโรงเรียนริโอะเอนได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่มีเพียงนักเรียนที่หวาดกลัวกับปีศาจและลุงภารโรงที่ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว บัดนี้กลับมีกลุ่มผู้ใหญ่ที่มาพร้อมกับอาวุธวิเศษและความมุ่งมั่นที่จะปกป้องลูกหลานของพวกเขา ท้องฟ้าที่เคยถูกบดบังด้วยเมฆดำทะมึน บัดนี้เริ่มมีแสงจันทร์สาดส่องลงมามากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นสัญญาณแห่งความหวังครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึง แต่การมาถึงของผู้พิทักษ์เหล่านี้จะเพียงพอที่จะหยุดยั้งหายนะจากปีศาจเงาได้หรือไม่? และบทบาทที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไรกันแน่?เสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง