ความเงียบเข้าปกคลุมสนามหญ้าหน้าอาคารเรียนอีกครั้ง หลังจากคำประกาศอันน่าตกตะลึงของ ลุงภารโรง ที่ว่า เหล่านักเรียน ม.5/B ทั้ง 20 คน ล้วนเป็นทายาทของนักเวทย์สายขาว แสงจันทร์ที่เริ่มสาดส่องลงมาท่ามกลางหมู่เมฆทะมึนยิ่งทำให้ใบหน้าของทุกคนดูซีดขาวด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันระหว่างความตกใจ ความไม่เชื่อ และความหวังที่กำลังก่อตัวขึ้น
ทุกคนมองหน้ากันเองอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ดวงตาเบิกกว้าง บางคนถึงกับอ้าปากค้างราวกับกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมา ไอโกะ เป็นคนแรกที่รวบรวมสติได้ เธอจ้องมองลุงภารโรงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามนับร้อย "นี่... นี่พวกเราทั้ง 20 คน... เป็นลูกหลานนักเวทย์ทั้งหมดเลยเหรอคะ?" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย เก็น ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เสริมขึ้นมาทันที "มันจะไม่บังเอิญกันไปหน่อยเหรอครับลุง... ที่พวกเราทุกคนในห้องนี้... เป็นลูกหลานนักเวทย์เหมือนกันหมด?" เขาพยายามใช้เหตุผลวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกินจริงนี้ ลุงภารโรงถอนหายใจยาว ก่อนจะเริ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย "ฟังนะเด็ก ๆ... พวกเธออาจจะคิดว่ามันบังเอิญ แต่ความจริงแล้ว... มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย" ท่านกวาดสายตามองไปรอบๆ "โรงเรียนริโอะเอนแห่งนี้... ถูกสร้างขึ้นบน จุดรวมพลังงานโบราณ ที่เหล่านักเวทย์สายขาวในอดีตใช้เป็นฐานที่มั่นสุดท้ายในการต่อสู้กับปีศาจแห่งความมืด" "และหลังจากที่พวกเขาสามารถกักเก็บปีศาจเหล่านั้นไว้ในหีบได้แล้ว... พวกเขาก็ได้สร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมาเป็น เกราะกำบังสุดท้าย และเป็น สถานที่รวมพลของทายาทสายเลือด ที่กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน" คำอธิบายของลุงภารโรงทำให้ทุกคนยิ่งตกใจมากกว่าเดิม ความลับที่ถูกซ่อนไว้ใต้โรงเรียนที่พวกเขาใช้ชีวิตประจำวัน มันช่างยิ่งใหญ่เกินกว่าจินตนาการ "หมายความว่า... พวกเราถูกดึงดูดให้มาที่นี่งั้นเหรอครับ?" เคนตะ ถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ "ก็อาจจะกล่าวได้เช่นนั้น" ลุงภารโรงพยักหน้า "พลังงานของสถานที่นี้... มันดึงดูดผู้ที่มีสายเลือดเวทย์สายขาวให้มารวมตัวกันโดยไม่รู้ตัว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันที่จะมาถึง... วันที่ปีศาจถูกปลดปล่อยอีกครั้ง" เสียงฮือฮาดังขึ้นจากเหล่านักเรียน ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างตื่นเต้นระคนหวาดหวั่น พวกเขากำลังประมวลผลข้อมูลใหม่นี้ ท้องฟ้าที่มืดมิดและเสียงลมที่หวีดหวิวดูเหมือนจะถูกลืมไปชั่วขณะ "งั้นแสดงว่า... พวกเรามีพลังเวทย์เหมือนลุงเหรอคะ?" ยูเมะ ถามด้วยความตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย ลุงภารโรงยิ้มเล็กน้อย "พลังนั้นมันหลับใหลอยู่ในตัวพวกเธอทุกคน... แต่ยังไม่ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ ต้องอาศัยการฝึกฝนและสถานการณ์ที่จะกระตุ้นมัน" "แล้วเราจะใช้พลังนั้นได้ยังไงครับ?" โช ถามด้วยความกระตือรือร้น "ก็อย่างที่ลุงบอกไปแล้ว ว่าหีบต้องสาปนั่นมันจะปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของพวกเธอให้ตื่นขึ้นได้" ลุงภารโรงตอบ พลางมองไปยังหีบไม้ที่อยู่ภายในห้องเรียน "และวิธีการที่จะปลดปล่อยพลังนั้น... มันมีอยู่ในหนังสือโบราณที่เก็บไว้ในห้องสมุดลับของโรงเรียนนี้..." ทุกคนต่างตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีพลังเวทย์เหมือนในนิทาน ความคิดที่จะสามารถต่อสู้กับปีศาจเงาได้เอง ทำให้ความกลัวเมื่อครู่ลดลงไปบ้าง ความหวังที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เริ่มส่องประกายขึ้นในใจของพวกเขา "ถ้าอย่างนั้น... เราต้องไปหาหนังสือเล่มนั้น!" ฟูมิโกะ เอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น "แต่ห้องสมุดลับอยู่ที่ไหนครับลุง?" โกฮัน ถามขึ้น "มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะเด็กๆ" ลุงภารโรงกล่าว "ห้องสมุดลับนั้นถูกซ่อนไว้ด้วยคาถาป้องกันที่แข็งแกร่ง และมีเพียงผู้ที่มีสายเลือดเวทย์สายขาวที่แท้จริงเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ และ..." ครืนนนนนนนนนนนนนน! เสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวดังสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าผ่ากลางอก เสียงนั้นไม่ใช่เสียงลมพายุ แต่เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความกระหายที่บ้าคลั่ง! ยังไม่ทันที่ลุงภารโรงจะได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม... จู่ๆ เงาปีศาจตนหนึ่ง ที่มีขนาดใหญ่กว่าตนอื่นๆ มาก และดวงตาแดงก่ำเปล่งประกายเจิดจ้าอย่างน่ากลัว ก็ พุ่งตรงมาที่พวกเขาจากด้านหลังต้นไม้ใหญ่! มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ เพียงพริบตาเดียว ร่างมหึมาของมันก็พุ่งเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างไม่ให้ทันได้ตั้งตัว ความตื่นเต้นและความชะล่าใจเมื่อครู่หายไปในพริบตา ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวสุดขีดอีกครั้ง! "มัน... มันเห็นเราแล้ว!" ฮารุ กรีดร้องเสียงหลง ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ เก็น เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาเห็นเงาปีศาจพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่จะหลบหนีทัน "ทุกคน! วิ่ง! หลบเร็ว!" เก็นตะโกนสั่งสุดเสียง พยายามดันเพื่อนๆ ให้ถอยออกไป แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป! เงาปีศาจตนนั้นพุ่งเข้ากลางวงของเหล่านักเรียนอย่างไม่รีรอ กรงเล็บอันแหลมคมของมันง้างขึ้นสูง เตรียมจะตะปบเหยื่อตรงหน้า "หลบไม่ทันแล้ว!" เคนตะ ร้องขึ้นอย่างสิ้นหวัง ไอโกะ กรีดร้องด้วยความตกใจ เธอเห็นกรงเล็บของปีศาจกำลังพุ่งตรงมาที่ ยูเมะ ที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด ดวงตาของไอโกะเบิกกว้าง เธอพยายามจะเอื้อมมือไปคว้ายูเมะให้หลบ แต่ก็ไม่ทัน ในวินาทีที่ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลง ลุงภารโรงซึ่งยืนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย และกำลังจะพุ่งเข้ามาช่วยเหลือ ก็ต้องชะงักไปชั่วขณะด้วยความเร็วของปีศาจตนนี้! แสงสว่างจากมีดสั้นสีเงินในมือของท่านส่องประกายวูบวาบ แสดงถึงพลังที่กำลังถูกรวบรวมเสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง