เสียงคำรามกึกก้องจากเงาปีศาจนกยักษ์ที่ชนประตูโรงละครยังคงดังอยู่นอกอาคาร แต่ในความมืดสลัวของโรงละครร้าง ฮานา และ โกฮัน กลับต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่มองไม่เห็น กลิ่นอับชื้นและกลิ่นดินคละคลุ้งในอากาศ เสียงครืนๆ ที่ดังขึ้นมาจากใต้เวทียิ่งทำให้บรรยากาศน่าขนลุก
“นายได้ยินไหมโกฮัน?” ฮานาถามเสียงสั่น ร่างกายยังคงสั่นสะท้านจากความหวาดกลัวและการวิ่งหนีเมื่อครู่ โกฮันพยักหน้ารับ มือยังคงกำมีดอาคมไว้แน่น ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ พยายามจับต้นตอของเสียง ทันใดนั้นเอง! เพล้ง! เสียงกระจกแตกดังสนั่นหวั่นไหว หน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่สูงขึ้นไปบนผนังอาคารแตกเป็นเสี่ยงๆ เศษกระจกปลิวกระจายไปทั่วพื้น พร้อมกับที่ เงาดำนับสิบ พุ่งทะลุเข้ามาในโรงละครราวกับกระสุนปืน แต่ละตัวมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานที่บิดเบี้ยว เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบงัน ติ๊ดๆๆ นาฬิกาอาคมบนข้อมือของฮานาพลันส่งเสียงเตือนดังลั่นไม่หยุด “รีบร่ายคาถาฮานา!” โกฮันเอ่ยลั่น น้ำเสียงหนักแน่น เขารีบวิ่งเข้าไปในความมืดที่เต็มไปด้วยซากเก้าอี้และม่านเวทีที่ห้อยระโยงระยาง เขาเห็นเงาดำหลายสิบตัวกำลังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง ทั้งจากทางด้านบนของระเบียงชั้นสอง และจากด้านล่างของเวทีที่เพิ่งส่งเสียงประหลาดออกมา เงาดำเหล่านั้นมีรูปร่างที่หลากหลาย บางตัวคล้ายสัตว์สี่เท้าที่กำลังคลานกระดึบๆ บางตัวคล้ายรูปร่างคนที่บิดเบี้ยว กำลังพุ่งเข้าหาพวกเขาด้วยความรวดเร็ว ดวงตาของมันเป็นสีแดงก่ำราวกับถ่านเพลิงที่พร้อมจะเผาผลาญ โกฮันเหวี่ยงมีดอาคมในมือออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงมีดกรีดอากาศดัง ฟิ้ว! เงาดำตัวแรกที่พุ่งเข้ามาถูกฟันขาดสะบั้นกลางอากาศ มันส่งเสียงแหลมสูงโหยหวนก่อนจะสลายไปในอากาศ แต่เงาดำตัวอื่นก็ยังคงดาหน้าเข้ามาไม่หยุดยั้ง ฮานาที่ได้สติก็รีบร่ายคาถาทันที เธอหยิบ ขวดเก็บวิญญาณ ที่ทำจากแก้วคริสตัลขุ่นขวดเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า แล้วกำมันไว้แน่นในมือ “ด้วยพลังแห่งอาคม จงเปิดประตูแห่งการดูดกลืน สู่ห้วงแห่งความว่างเปล่า…” เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย แต่ก็พยายามร่ายคาถาให้จบประโยค ภาพสัญลักษณ์โบราณเริ่มปรากฏขึ้นรอบขวดเรืองแสงสีฟ้าอ่อนจางๆ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดในความมืดสลัวของโรงละคร โกฮันใช้มีดอาคมฟันฝ่าเงาดำไปได้อย่างคล่องแคล่ว แขนของเขาที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับเงาปีศาจนกยักษ์เมื่อครู่เริ่มปวดร้าว แต่เขาก็ยังคงกัดฟันสู้เพื่อถ่วงเวลาให้ฮานาร่ายคาถาให้เสร็จ “กรรรร!” เงาดำบางตัวพยายามจะเลื้อยผ่านการป้องกันของโกฮันเพื่อมุ่งหน้าไปหาฮานา แต่เขาก็สกัดกั้นไว้ได้ทั้งหมด ร่างกายของเขามีรอยขีดข่วนเพิ่มขึ้นหลายแห่งจากเงาดำที่พยายามจะตะปบ ฮานาเองก็เหงื่อกาฬไหลซึมเต็มหน้า เธอเร่งจังหวะการร่ายคาถา ดวงตาจับจ้องไปที่โกฮันที่กำลังต่อสู้อย่างยากลำบาก พลังงานจากขวดเก็บวิญญาณเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนแสงสีฟ้าอ่อนเริ่มสว่างจ้าขึ้นมา “โกฮันระวัง!!” ฮานาตวาดลั่นด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด เธอเห็นเงาปีศาจรูปร่างคล้ายลิงยักษ์ตัวหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ซากเก้าอี้ มันพุ่งทะยานออกมาจากความมืดและกำลังลอบเข้ามาทางด้านหลังของโกฮัน! แต่โกฮันเองก็ไหวตัวทันราวกับมีสัมผัสที่หก แม้จะเหนื่อยล้า แต่สัญชาตญาณนักสู้ของเขาก็ยังคงทำงานได้ดี เขาก้มตัวหลบคมเขี้ยวของเงาปีศาจที่พุ่งมา ก่อนจะพลิกตัวกลับหลังอย่างรวดเร็ว ปัก! มีดอาคมในมือของเขาปักลงบนกลางหัวของมันอย่างแม่นยำ ฟุบ! ร่างของเงาปีศาจตัวนั้นสลายหายไปในอากาศทันทีที่คมมีดอาคมสัมผัส มันส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดก่อนจะมลายสิ้นไป เหลือทิ้งไว้เพียงละอองเงามืดที่จางหายไป “ตอนนี้แหละฮานา!” โกฮันตะโกน พลางจับจ้องไปที่ละอองเงามืดที่กำลังจะสลายไป ฮานาไม่รอช้า เธอรีบเปิดฝาขวดเก็บวิญญาณออก พร้อมกับเร่งคาถาให้จบประโยค “จงถูกกักขัง! สู่ห้วงนิรันดร์!” พลังงานสีฟ้าอ่อนจากขวดพุ่งตรงไปยังละอองเงามืดที่กำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว ฟิ้วววว! ดวงวิญญาณของเงาปีศาจตนนั้นถูกดูดเข้าไปในขวดเก็บวิญญาณอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียง ฟู่! เมื่อฝาขวดปิดลงเองอย่างอัตโนมัติ ทันใดนั้นเอง! พวกเงาปีศาจตนอื่นที่เหลืออยู่ราวกับเห็นอะไรบางอย่าง พวกมันส่งเสียงคำรามอย่างไม่พอใจ แต่แล้วก็พร้อมใจกัน สลายตัว กลับขึ้นท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็วราวกับถูกบังคับ เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบงันและความมืดสลัวของโรงละคร ทั้งโกฮันและฮานาทรุดลงกับพื้นด้วยความอ่อนล้า พวกเขาหอบหายใจอย่างหนัก ราวกับเพิ่งผ่านศึกหนักมา การต่อสู้นี้รุนแรงกว่าที่เคยเจอมาหลายเท่า “พวกมัน… พวกมันหนีไปแล้ว…” ฮานาเอ่ยเสียงแผ่ว พลางมองขวดเก็บวิญญาณในมือที่กำลังเรืองแสงจางๆ โกฮันพยักหน้า เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว แต่ก็ยังคงประคองตัวเองให้ลุกขึ้นยืนได้อย่างทุลักทุเล “ดูเหมือนว่าพวกมันจะมี ‘ผู้นำ’… หรือไม่ก็มี ‘แก่นกลาง’ ที่สั่งการพวกมันได้” ฮานาเงยหน้ามองโกฮัน ดวงตาฉายแววครุ่นคิด “นายคิดว่าเราเพิ่งเก็บวิญญาณของ ‘ผู้นำ’ พวกนั้นได้เหรอ?” “ไม่แน่ใจ… แต่ดูจากการตอบสนองของพวกมันแล้ว ไม่น่าจะใช่แค่เงาปีศาจธรรมดา” โกฮันตอบพลางเดินไปสำรวจร่องรอยการต่อสู้ “ที่นี่มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไปจากสวนผักเยอะเลยฮานา” เขาเดินไปที่เวทีที่ยังคงมีเสียงครืนๆ ดังเบาๆ อยู่ เสียงนั้นดูเหมือนจะมาจากใต้เวที ฮานาเดินตามโกฮันไปช้าๆ พลางมองไปรอบๆ โรงละครที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและความรู้สึกอึมครึม “โกฮัน… นายไม่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจับตามองเราอยู่ตลอดเวลาเหรอ?” ฮานากระซิบเสียงเบา ขนแขนของเธอเริ่มลุกซู่ขึ้นมาอีกครั้ง โกฮันหยุดชะงัก เขารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่หนาวเย็นและมืดมิด กำลังแผ่ออกมาจากใต้เวทีนั้น มันไม่ใช่พลังงานของเงาปีศาจธรรมดา แต่เป็นบางสิ่งที่เก่าแก่และทรงพลังกว่ามาก “ใช่… ฉันรู้สึก” โกฮันตอบ “และฉันว่า… มันไม่ใช่แค่เงาปีศาจที่เราต้องระวัง” เขามองเข้าไปในความมืดใต้เวที ราวกับมีบางสิ่งกำลังซ่อนตัวอยู่เบื้องลึก และรอคอยพวกเขาให้ก้าวเข้าไปใกล้ในความเงียบงันที่กลับมาเยือนโรงละคร ฮานาและโกฮันยังคงหอบหายใจอย่างหนัก พวกเขาพยุงตัวเองขึ้นยืน สายตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าสีเทาหม่นที่ปกคลุมสวนสนุกร้างแห่งนี้ มันดูเหมือนเป็นผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความลับมืดมิด“พวกมัน… พวกมันน่าจะซ่อนตัวอยู่บนนั้น” ฮานาเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้ายังคงมีร่องรอยความกังวล “แต่เราจะทำยังไงดี ถ้าพวกมันอยู่บนนั้น เราก็จับสัญญาณของพวกมันไม่ได้เลยนี่นา” เธอก้มลงมองนาฬิกาอาคมที่ตอนนี้กลับมานิ่งสนิทอีกครั้งโกฮันกัดฟันแน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองขึ้นไปบนฟ้าด้วยความมุ่งมั่น “มันต้องมีสักทางสิฮานา ฉันจะไม่ยอมให้เราเป็นเป้าโจมตีฝ่ายเดียวหรอก!” แววตาของเขาฉายความเด็ดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนสายตาของเขาไล่มองไปทั่วท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่โครงสร้างโลหะขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกล… ชิงช้าสวรรค์ ที่หยุดนิ่งสนิท“นายมองอะไรน่ะโกฮัน?” ฮานาถาม เมื่อเห็นแววตาครุ่นคิดของเพื่อน โกฮันไม่ตอบทันที เขายังคงจ้องมองชิงช้าสวรรค์เหมือนกำลังประเมินบางอย่างในใจ“ถ้าเราขึ้นไปบนนั้นได้…” โกฮันเอ่ยเสียงพร่า “เราก็จะใกล้พวกมันมากขึ้นใช่ไหม? อย่างน้อยก็จะได้หาสัญญาณเจอได
เสียงคำรามกึกก้องจากเงาปีศาจนกยักษ์ที่ชนประตูโรงละครยังคงดังอยู่นอกอาคาร แต่ในความมืดสลัวของโรงละครร้าง ฮานา และ โกฮัน กลับต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่มองไม่เห็น กลิ่นอับชื้นและกลิ่นดินคละคลุ้งในอากาศ เสียงครืนๆ ที่ดังขึ้นมาจากใต้เวทียิ่งทำให้บรรยากาศน่าขนลุก“นายได้ยินไหมโกฮัน?” ฮานาถามเสียงสั่น ร่างกายยังคงสั่นสะท้านจากความหวาดกลัวและการวิ่งหนีเมื่อครู่ โกฮันพยักหน้ารับ มือยังคงกำมีดอาคมไว้แน่น ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ พยายามจับต้นตอของเสียงทันใดนั้นเอง!เพล้ง!เสียงกระจกแตกดังสนั่นหวั่นไหว หน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่สูงขึ้นไปบนผนังอาคารแตกเป็นเสี่ยงๆ เศษกระจกปลิวกระจายไปทั่วพื้น พร้อมกับที่ เงาดำนับสิบ พุ่งทะลุเข้ามาในโรงละครราวกับกระสุนปืน แต่ละตัวมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานที่บิดเบี้ยว เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบงันติ๊ดๆๆนาฬิกาอาคมบนข้อมือของฮานาพลันส่งเสียงเตือนดังลั่นไม่หยุด“รีบร่ายคาถาฮานา!” โกฮันเอ่ยลั่น น้ำเสียงหนักแน่น เขารีบวิ่งเข้าไปในความมืดที่เต็มไปด้วยซากเก้าอี้และม่านเวทีที่ห้อยระโยงระยาง เขาเห็นเงาดำหลายสิบตัวกำลังพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง ทั้งจากทางด้านบนของระเบียงชั
เสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่านช่องว่างมิติเหมือนเสียงกระซิบจากอีกฟากโลก ฮานา กับ โกฮัน ยืนอยู่หน้าประตูมิติที่เรืองแสงสีฟ้าอ่อน ภาพสะท้อนของครอบครัวและคนอื่นๆ ที่ยืนส่งอยู่ด้านหลัง ประกายแห่งความหวังฉายชัดในดวงตาของพวกเขา ความหวังที่ฝากไว้กับสองคู่หูที่กำลังจะก้าวสู่ความมืดมิด“ทุกคน… พวกเราจะกลับมา” ฮานาเอ่ยเสียงแผ่ว พลางปรายตามองเพื่อนทีละคน โกฮันพยักหน้ารับช้าๆ มือใหญ่ของเขาเลื่อนมากอบกุมมือของฮานาไว้แน่น สัมผัสอุ่นร้อนที่ส่งผ่านถึงกันนั้นคือเครื่องยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว“พร้อมนะฮานา?” โกฮันถาม ใบหน้าจริงจังฉายแววกังวลเล็กน้อย ฮานาบีบมือเขาตอบ “พร้อมเสมอแหละน่า โกฮัน”วินาทีถัดมา ทั้งคู่จับมือกันแน่น ก้าวแรกที่เท้าสัมผัสพื้นภายในประตูมิติ ความรู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนลงไปในอุโมงค์มืดมิดที่ปลายทางมีแสงสว่างจางๆ อยู่ เมื่อแสงนั้นสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง พวกเขาก็พบว่าตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง“ที่นี่งั้นเหรอ?” ฮานาเอ่ย พลางมองไปรอบๆ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือ สวนสนุกร้าง บรรยากาศเงียบสงัดเข้าแทนที่เสียงอึกทึกครึกโครมจากโลกที่พวกเขาจากมา ม้