เสียงคำรามกึกก้องของ เงาปีศาจยักษ์ สั่นสะเทือนไปทั่วลานกว้างในป่า ต้นไม้รอบข้างสั่นไหวราวกับจะโค่นล้มลงเมื่อใดก็ได้ พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากร่างมหึมาของมันทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือกจนถึงกระดูก โกฮัน ก้าวไปยืนอยู่ด้านหน้าอย่างกล้าหาญ ชู มีดอาคม ขึ้นสูง เตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามตรงหน้า ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ดวงตาสีแดงก่ำของเงาปีศาจยักษ์อย่างแน่วแน่ แม้ขาที่บาดเจ็บจะส่งความเจ็บปวดแปลบปลาบมาไม่หยุด แต่เขาก็ต้องทำหน้าที่ปกป้อง ฮานา
“ฮานา! รีบไป!” โกฮันตะโกนสุดเสียง เสียงของเขาแหบพร่าด้วยความเจ็บปวดและความอ่อนล้า แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ฮานาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เธอวิ่งตรงไปที่ บ่อน้ำเก่าแก่ อย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่แสงสีขาวจางๆ ที่เปล่งออกมาจากใต้ผิวน้ำที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ เธอเห็นผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์อีกผืนกำลังจมอยู่เบื้องล่างนั้น โกฮันไม่รอช้า เขาพุ่งตัวเข้าใส่เงาปีศาจยักษ์ทันที เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของมัน เสียงมีดอาคมฟาดฟันอากาศดัง ฉัวะ! ร่างของโกฮันปราดเปรียวราวกับพยัคฆ์ร้ายที่ซุ่มโจมตี เขาใช้ความเร็วและความว่องไวที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าจู่โจมเงาปีศาจยักษ์ พยายามโจมตีไปยังจุดที่อ่อนแอของมัน “แกไม่มีทางผ่านฉันไปได้หรอก!” โกฮันตะโกนท้าทาย เงาปีศาจยักษ์คำรามตอบอย่างเกรี้ยวกราด มันตวัดแขนขนาดมหึมาที่เต็มไปด้วยหนวดเคราสีดำเข้าใส่โกฮันอย่างรุนแรง โกฮันกระโดดหลบได้อย่างหวุดหวิด ทำให้แรงปะทะของเงาปีศาจยักษ์ไปฟาดเข้ากับต้นไม้เก่าแก่ข้างหลังเขา ต้นไม้ใหญ่ล้มครืนลงมาอย่างกับถูกโค่นด้วยขวานยักษ์ โกฮันใช้จังหวะที่เงาปีศาจยักษ์ชะงักไปเล็กน้อย พุ่งเข้าประชิดตัวและฟันมีดอาคมเข้าใส่ลำตัวของมันอย่างจัง ฉึก! เสียงบางอย่างดังขึ้น เงาปีศาจยักษ์ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่บาดแผลที่เกิดขึ้นกลับหายไปอย่างรวดเร็ว “มัน… มันฟื้นตัวเร็วมาก!” โกฮันอุทานด้วยความตกใจ เงาปีศาจยักษ์ตวัดหนวดเคราสีดำเข้าใส่โกฮันอีกครั้ง คราวนี้มันเร็วและรุนแรงกว่าเดิมมาก โกฮันพยายามกระโดดถอยหลังหลบ แต่ไม่ทัน หนวดเคราเหล่านั้นฟาดเข้าที่สีข้างของเขาอย่างรุนแรงจนร่างของเขาลอยกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ “อ๊ากกก!” โกฮันร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาร่วงลงมากองกับพื้นอย่างอ่อนแรง บาดแผลเก่าที่ขาเริ่มปวดร้าวหนักขึ้นอีกครั้ง เลือดซึมออกมาจากรอยแผลใหม่ที่สีข้าง “โกฮัน!” ฮานาที่กำลังจะเอื้อมมือลงไปในบ่อน้ำ หันกลับมามองเพื่อนด้วยความตกใจ เธอเห็นโกฮันที่นอนหมดแรงอยู่บนพื้น และเงาปีศาจยักษ์ที่กำลังจะพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง “อย่า… อย่าสนใจฉันฮานา! รีบไปเอาผ้ายันต์!” โกฮันตะโกนสั่ง เสียงของเขาแหบพร่าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังคงความเด็ดเดี่ยว ฮานากัดฟันแน่น เธอรู้ว่าไม่มีเวลาแล้ว เธอต้องเชื่อใจโกฮันและทำในสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุด เธอหันกลับไปที่บ่อน้ำอีกครั้ง เอื้อมมือลงไปในน้ำที่เย็นเฉียบ เพื่อคว้าผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เบื้องล่าง บททดสอบจากภูติแห่งวารี ในวินาทีที่ปลายนิ้วของ ฮานา สัมผัสกับผิวน้ำที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ จู่ๆ แสงสีขาวนวลก็พลันส่องสว่างขึ้นมาจากกลางบ่อน้ำ น้ำในบ่อเริ่มหมุนวนเป็นเกลียวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่ร่างโปร่งแสงสีขาวคล้ายเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่มีผมยาวสยายราวกับสาหร่าย และดวงตาสีฟ้าใสราวกับน้ำทะเลลึกค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ “เจ้าเป็นใคร?” เสียงใสราวกับระฆังแก้วเอ่ยถาม ฮานารู้สึกได้ถึงพลังงานที่บริสุทธิ์และสงบเงียบแผ่ออกมาจากร่างของภูติตัวน้อย แตกต่างจากพลังงานมืดมิดของเงาปีศาจอย่างสิ้นเชิง ฮานารู้สึกประหลาดใจและตกใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามรวบรวมสติ “ข้า… ข้าชื่อฮานา… ข้าได้รับภารกิจให้มายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อกำจัดเงาปีศาจที่กำลังคุกคามโลกของข้า” เธอชูขวดเก็บวิญญาณในมือขึ้นให้ภูติเห็น “พวกมัน… พวกมันคือก่อความวุ่นวาย และข้าต้องรวบรวมผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อหยุดยั้งพวกมัน” ภูติตัวน้อยเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้าใสของมันจ้องมองฮานาอย่างพิจารณา ก่อนที่มันจะพยักหน้าช้าๆ “ข้าคือผู้พิทักษ์แห่งวารี… ผู้ดูแลผ้ายันต์แห่งบ่อน้ำนี้ ผ้ายันต์นี้มิได้ให้แก่ผู้ใดโดยง่าย ผู้ที่ต้องการพลังของมันต้องพิสูจน์ตนว่าคู่ควร” “พิสูจน์ตน… อย่างไรเพคะ?” ฮานาถามด้วยความหวัง “ถ้าเจ้าอยากได้ผ้ายันต์นี้ เจ้าก็ต้องผ่านบททดสอบทั้งสามด้าน” ภูติแห่งวารีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น “บททดสอบแห่ง ความกล้าหาญ บททดสอบแห่ง สติปัญญา และบททดสอบแห่ง ความเสียสละ” ฮานาขมวดคิ้ว เธอเหลือบมองไปทางโกฮันที่กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากกับเงาปีศาจยักษ์ และดูเหมือนจะหมดแรงเต็มที เธอไม่มีเวลามากนัก “ข้า… ข้าพร้อมรับการทดสอบเพคะ!” ฮานากล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะยังไม่รู้ว่าแต่ละบททดสอบนั้นคืออะไร “ดี! เช่นนั้นจงตั้งใจฟัง” ภูติแห่งวารีกล่าว ก่อนที่น้ำในบ่อจะเริ่มเปล่งแสงสีฟ้าอ่อนจางๆ ขึ้นมาอีกครั้ง บททดสอบที่ 1: การตามหาเสียงกระซิบแห่งอดีต (ความกล้าหาญ) “บททดสอบแรกคือบททดสอบแห่ง ความกล้าหาญ” ภูติแห่งวารีกล่าว “ณ จุดสูงสุดของสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งคือยอดของ ชิงช้าสวรรค์ เจ้าจะได้ยินเสียงกระซิบของวิญญาณที่ถูกกักขังอยู่ในมิติมืดมิด จงไปตามหาเสียงกระซิบนั้น และนำ ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ในเสียงนั้นกลับมาให้ข้า” ฮานาเบิกตากว้าง “ยอดชิงช้าสวรรค์หรือคะ? แต่ที่นั่น… ที่นั่นอันตรายมาก!” เธอคิดถึงเงาปีศาจนกยักษ์ที่บินวนอยู่บนฟ้า และโครงสร้างที่เก่าแก่ของชิงช้าสวรรค์ “ความกล้าหาญมิได้หมายถึงการไร้ซึ่งความกลัว แต่หมายถึงการเผชิญหน้ากับมัน” ภูติแห่งวารีกล่าวเสียงเรียบ “เจ้ามีเวลาเพียงไม่นาน… หากเจ้าไปไม่ทันเวลาที่แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ประตูสู่มิติแห่งความมืดจะเปิดกว้าง และเจ้าจะถูกกลืนกินโดยไร้ทางต่อต้าน” ฮานากัดฟันแน่น เธอเหลือบมองโกฮันอีกครั้ง เขาถูกเงาปีศาจยักษ์ตบจนกระเด็นไปอีกครั้งแล้ว และดูเหมือนจะลุกขึ้นไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอไม่มีทางเลือกอื่น “ข้าเข้าใจแล้วเพคะ!” ฮานาตอบอย่างมุ่งมั่น “ข้าจะไปที่ชิงช้าสวรรค์เดี๋ยวนี้!” บททดสอบที่ 2: เขาวงกตแห่งภาพลวงตา (สติปัญญา) “บททดสอบที่สองคือบททดสอบแห่ง สติปัญญา” ภูติแห่งวารีกล่าวต่อ “เมื่อเจ้าได้ ‘ความจริง’ จากบททดสอบแรกแล้ว เจ้าจะต้องไปยัง เขาวงกตกระจก ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของสวนสนุก ณ ที่นั้น เจ้าจะพบกับภาพลวงตามากมายที่จะพยายามหลอกล่อและกักขังเจ้า จงใช้สติปัญญาและความเฉลียวฉลาดของเจ้าในการแยกแยะความจริงจากภาพลวงตา และหาทางออกไปให้ได้ ภายในเขาวงกต เจ้าจะพบกับปริศนาที่จะนำทางเจ้าไปยัง ‘เส้นทางที่แท้จริง’ และเมื่อเจ้าค้นพบเส้นทางนั้น เจ้าจะพบกับ ‘สิ่งของที่ซ่อนอยู่’ ที่เป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาต่อไป” ฮานาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาวงกตกระจก! เธอจำได้ว่าลุงภารโรงเคยเตือนว่าที่นั่นเต็มไปด้วยพลังงานที่แปลกประหลาด และมีคนจำนวนมากหลงทางอยู่ในนั้นจนไม่สามารถหาทางออกได้ “สิ่งของที่ซ่อนอยู่?” ฮานาทวนคำ “ใช่… สิ่งของนั้นจะนำทางเจ้าไปสู่บททดสอบสุดท้าย” ภูติแห่งวารีตอบ “จงระวังให้ดี ภาพลวงตาที่ร้ายกาจที่สุดคือภาพลวงตาที่มาจากความปรารถนาในใจของเจ้าเอง” บททดสอบที่ 3: ห้วงลึกแห่งการเสียสละ (ความเสียสละ) “และบททดสอบสุดท้ายคือบททดสอบแห่ง ความเสียสละ” ภูติแห่งวารีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลลง แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหนักแน่น “เมื่อเจ้าได้ ‘สิ่งของที่ซ่อนอยู่’ แล้ว เจ้าจะต้องไปยัง บ้านผีสิง ที่ตั้งอยู่ใจกลางสวนสนุก ณ ที่นั้น เจ้าจะพบกับ ‘ทางแยก’ สองทาง ทางหนึ่งคือทางแห่งการได้มาซึ่งพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่แลกมาด้วยการสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง อีกทางหนึ่งคือทางแห่งการมอบบางสิ่งที่มีค่าที่สุดของเจ้า เพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณที่ถูกกักขังให้เป็นอิสระ จงเลือกทางที่เจ้าคิดว่าถูกต้องที่สุด โดยปราศจากความลังเลใจ นั่นคือบทพิสูจน์ที่แท้จริงของหัวใจอันบริสุทธิ์” ฮานาฟังแล้วรู้สึกใจหาย การเสียสละ… เธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง แต่ถ้ามันคือสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยโกฮันและโลกของเธอ เธอก็พร้อม “ข้า… ข้าจะพยายามให้ดีที่สุดเพคะ!” ฮานากล่าวด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ แม้จะยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของบททดสอบสุดท้ายนี้ แต่เธอก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน “จงจำไว้… ดวงวิญญาณแห่งผ้ายันต์จะเฝ้ามองเจ้าอยู่เสมอ” ภูติแห่งวารีกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างโปร่งแสงของมันจะค่อยๆ เลือนหายไปในสายน้ำที่กลับคืนสู่ความนิ่งสงบอีกครั้ง ฮานาหันกลับไปหาโกฮันทันทีที่ภูติแห่งวารีหายไป เธอเห็นโกฮันกำลังพยายามยันตัวลุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด เงาปีศาจยักษ์กำลังจะพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง “โกฮัน!” ฮานารีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนสนิท “ฉันต้องไปที่ชิงช้าสวรรค์!” โกฮันมองฮานาด้วยความสงสัย “อะไรนะ? เกิดอะไรขึ้นฮานา?” ฮานารีบเล่าเรื่องราวของภูติแห่งวารีและบททดสอบทั้งสามให้โกฮันฟังอย่างรวดเร็ว เสียงของเธอกระหืดกระหอบด้วยความเร่งรีบ “บททดสอบแห่งความกล้าหาญ… สติปัญญา… และความเสียสละงั้นเหรอ?” โกฮันพึมพำ ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิด “ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้เจอแค่เงาปีศาจแล้วสิ” “นายไหวไหมโกฮัน?” ฮานาถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นเขาพยายามจะลุกขึ้นยืน “ฉันจะพยายามถ่วงเวลาให้มากที่สุด! เธอรีบไปที่ชิงช้าสวรรค์เดี๋ยวนี้!” โกฮันกล่าวอย่างเด็ดขาด “ฉันจะจัดการเจ้าตัวยักษ์นี่เอง! เธอต้องไปเอาผ้ายันต์ให้ได้!” “แต่…” ฮานาลังเล “นายบาดเจ็บนะโกฮัน!” “ไม่ต้องห่วงฉัน!” โกฮันตัดบท “เธอทำในส่วนของเธอให้สำเร็จก็พอ! เราต้องรีบแล้ว! ดูสิว่ามันจะโผล่มาอีกเยอะแค่ไหน!” โกฮันพยักหน้าไปทางเงาดำขนาดเล็กที่เริ่มผุดขึ้นมาจากพื้นดินรอบๆ ตัวเงาปีศาจยักษ์อีกครั้ง ฮานากัดฟันแน่น เธอรู้ว่าโกฮันพูดถูก เธอไม่มีเวลาที่จะมาลังเลอีกต่อไปแล้ว “ระวังตัวด้วยนะโกฮัน!” ฮานาตะโกน เธอรีบหันหลังแล้ววิ่งสุดฝีเท้าออกจากลานกว้าง มุ่งหน้าตรงไปยัง ชิงช้าสวรรค์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกล ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ยอดของมันราวกับมองเห็นความหวังที่ริบหรี่ โกฮันมองตามหลังฮานาจนลับสายตา ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับเงาปีศาจยักษ์ที่กำลังคำรามใส่เขาอย่างดุร้าย มีดอาคมในมือของเขาส่องประกายวาววับภายใต้แสงจันทร์ที่เริ่มส่องลอดกิ่งไม้ลงมา “มาเลยไอ้ปีศาจ! แกไม่มีทางผ่านฉันไปได้หรอก!” โกฮันคำรามตอบ เขาพุ่งตัวเข้าใส่เงาปีศาจยักษ์อีกครั้งอย่างไม่กลัวตายหลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือดกับบริวารแห่งความมืด ฮานาและโกฮันก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า หอคอยแห่งความมืด ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนสนุกร้าง ตัวหอคอยสูงเสียดฟ้า ปกคลุมไปด้วยเงามืดทะมึนราวกับถูกสร้างขึ้นจากความสิ้นหวัง แสงสลัวๆ รอบๆ ไม่สามารถส่องเข้าไปได้เลยแม้แต่น้อย มันดูดกลืนทุกสิ่งไว้ในความมืดมิด มีเพียงแสงเรืองรองสีแดงฉานจากดวงตาปีศาจที่ประดับอยู่ตามผนังหอคอยเท่านั้นที่กะพริบเป็นจังหวะ ราวกับกำลังจับจ้องพวกเขา กลิ่นอายความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาทำให้รู้สึกอึดอัดและหนาวเหน็บไปถึงกระดูก“นี่แหละ… ที่ที่จอมมารแห่งเงามืดซ่อนผ้ายันต์สองผืนสุดท้ายไว้” ฮานากล่าว เสียงของเธอหนักแน่น แม้จะมีความกังวลฉายแววในดวงตา“มันดูน่ากลัวกว่าที่คิดเยอะเลยนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาจากมันส่องสว่างขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานด้านลบมหาศาล“ใช่… แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เธอสอดส่องสายตาไปรอบๆ หอคอย “ท่านภูติแห่งวารีบอกว่ามีเงาปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดเฝ้าอยู่”“เราพร้อมแล้วฮานา! เราฝึกมาหนักเพื่อวันนี้!” โกฮันประกาศด้วยความมุ่งมั่น ดวงตาของเขาฉายแววกล้าหาญ “ไปกันเถอะ!”พวกเขาเ
แสงสีฟ้าอ่อนนวลตาห่อหุ้มร่างของ ฮานา และ โกฮัน ลอยขึ้นช้าๆ ผ่านโพรงถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยเรืองแสง พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบริสุทธิ์ของโลกใต้บาดาลที่ยังคงไหลเวียนอยู่ในกาย พลังงานที่ได้จากการฝึกฝนอย่างหนักในห้องต่างๆ ภายใต้การชี้แนะของเหล่าวิญญาณภูมิ“เรากลับมาแล้วฮานา…” โกฮันพึมพำ ดวงตาของเขาฉายแววความมุ่งมั่น“ใช่… ถึงเวลาที่เราจะต้องทำในสิ่งที่ต้องทำแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เสียงของเธอหนักแน่น ไม่มีความลังเลอีกต่อไป ผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดผืนในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาอ่อนๆ ที่แสดงถึงพลังแห่งแสงและความมืดที่หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อร่างของพวกเขาพ้นจากปากโพรงถ้ำ แสงแดดที่เจิดจ้าก็สาดส่องกระทบดวงตา ทำให้พวกเขาต้องหรี่ตาลง สวนสนุกร้างที่เคยดูมืดมิดและน่ากลัว บัดนี้กลับมีแสงสว่างสลัวๆ ส่องเข้ามาจากด้านบน เผยให้เห็นซากปรักหักพังที่น่าเศร้าและบรรยากาศที่เงียบงันราวกับถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ“พวกเจ้ากลับมาแล้ว…” เสียงใสราวระฆังแก้วของ ภูติแห่งวารี ดังขึ้น เบื้องหน้าพวกเขา ภูติแห่งวารีกำลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน รายล้อมด้วยพลังงานแสงสีฟ้าอ่อนโยน“ท่านภูติแห่งวารี!” ฮานาและโกฮันกล่
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการควบคุม ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว นี่คือบททดสอบสุดท้ายของการฝึกฝนในโลกใต้บาดาล แสงภายในห้องนี้แตกต่างจากทุกห้องที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่แสงสีเดียว แต่เป็นแสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาอย่างรวดเร็วราวกับชีพจรของจักรวาล พื้นห้องเป็นเหมือนตารางหมากรุกขนาดใหญ่ที่ช่องสี่เหลี่ยมสีขาวและดำเคลื่อนไหวและสลับตำแหน่งกันไม่หยุด กำแพงห้องทอดยาวขึ้นไปสูงลิบตาจนมองไม่เห็นเพดาน และมีกระแสพลังงานที่มองไม่เห็นไหลวนไปมา ทำให้รู้สึกถึงความสมดุลที่เปราะบางและพร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ บรรยากาศเงียบสงัดไร้เสียงใดๆ มีเพียงเสียงการเคลื่อนไหวของแสงและเงาที่สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดและกดดัน“ห้องนี้… มันดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ฮานา” โกฮันกระซิบเสียงแผ่ว เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาที่เปล่งออกมาจากผ้ายันต์และมีดอาคมของพวกเขาส่องสว่างตัดกับแสงขาวดำในห้อง“ใช่… เหมือนมันกำลังเตือนว่าทุกอย่างมันต้องอยู่ในความสมดุล” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอกำแน่นทันใดนั้นเอง! แสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีเทาอ่อน รูปร่างของเขาดูคล้ายชายชราผู้ทรงภูมิ มีเครายาวส
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสมาธิ ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นและความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แสงภายในห้องนี้แตกต่างออกไปอีกครั้ง ที่นี่มืดมิดเกือบสนิท มีเพียงแสงสลัวๆ สีฟ้าอมเขียวคล้ายแสงออโรร่าที่เต้นระริกบนเพดานและผนังห้อง ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว พื้นห้องเต็มไปด้วยแท่นหินเล็กๆ นับไม่ถ้วนที่เรียงรายอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ละแท่นมีอักขระโบราณที่ส่องแสงริบหรี่จารึกไว้ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ไม่สามารถจับใจความได้ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ชวนให้รู้สึกรบกวนสมาธิ“ห้องนี้ดูประหลาดกว่าห้องอื่นอีกนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง มีดอาคมในมือของเขาส่องแสงสีเทาอ่อนๆ“ใช่… บรรยากาศมันชวนให้รู้สึกสับสนยังไงก็ไม่รู้” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาเช่นกันทันใดนั้นเอง! แสงสลัวๆ บนเพดานก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีม่วงเข้ม รูปร่างของเขาดูสง่างามคล้ายนักปราชญ์โบราณ เขามีผมสีขาวยาวสลวยผูกเป็นมวยไว้ด้านหลัง ดวงตาของเขาสุกใสราวกับดวงดาวที่มองเห็นทะลุปรุโปร่งทุกสิ่ง ในมือถือคัมภีร์เล่มเก่าที่เปล่งแสงเรื
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสัมผัส ท่ามกลางความงุนงง แสงสว่างภายในห้องนี้ดูแปลกประหลาด มันเป็นแสงสีรุ้งที่หมุนวนไปมาอย่างช้าๆ ทำให้ภาพที่เห็นบิดเบี้ยวและพร่าเลือน ผนังห้องทำจากวัสดุโปร่งแสงที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร ทุกอย่างในห้องดูเลือนลางและไม่แน่นอน กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยคละคลุ้งในอากาศ ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและมึนงง“นี่มัน… ห้องอะไรกันเนี่ย?” ฮานาพึมพำ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเมื่อมองแสงสีรุ้งที่หมุนวนไม่หยุด“ฉันก็ไม่แน่ใจฮานา… แต่บรรยากาศมันประหลาดมาก” โกฮันตอบ เสียงของเขามีอาการมึนงงเล็กน้อย เขากำมีดอาคมแน่น พยายามตั้งสติทันใดนั้นเอง! แสงสีรุ้งก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีขาวบริสุทธิ์ รูปร่างคล้ายหญิงสาวงดงามราวกับนางฟ้า เธอมีปีกสีรุ้งโปร่งแสงขนาดใหญ่ ผมยาวสลวยสีเงินระยิบระยับ ดวงตาของเธอเป็นสีฟ้าใสราวกับท้องฟ้าไร้เมฆ และมีรัศมีอ่อนโยนแผ่ออกมาจากตัวเธอ“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงใสราวกับเสียงกระดิ่งแก้วดังขึ้นในห้อง “ข้าคือ วิญญาณแห่งดารา ผู้พิทักษ์ห้องแห่งการแยกสัมผัส… ข้าจะทดสอบความสามารถในการแยกแยะของพวกเจ้า… ทั้งการแยกแยะประสาทสัมผัส… และการแยกแยะคว
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งพละกำลัง ด้วยความตื่นเต้นระคนความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนในห้องแห่งความเร็ว แสงสว่างภายในห้องนี้แตกต่างจากห้องก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ที่นี่สว่างไสวด้วยแสงสีส้มอมแดงที่ดูอบอุ่นและมั่นคง ผนังห้องเป็นหินแกรนิตสีเข้มแข็งแกร่ง มีรอยจารึกรูปค้อนและขวานโบราณประดับอยู่ทั่วไป กลิ่นดินและแร่ธาตุที่คุ้นเคยในโลกใต้บาดาลกลับเข้มข้นขึ้นในห้องนี้ ให้ความรู้สึกดิบและทรงพลัง“ดูเหมือนว่าห้องนี้จะไม่ได้เน้นความเร็วแล้วนะฮานา” โกฮันกล่าว เขากำหมัดแน่น รู้สึกถึงพละกำลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายหลังจากได้รับการเยียวยาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์“ฉันก็ว่างั้น… บรรยากาศมันต่างกันลิบลับเลย” ฮานาตอบพลางกวาดตามองไปรอบๆ เธอยกผ้ายันต์ในมือขึ้น มันเปล่งแสงสีขาวนวลตัดกับแสงสีส้มอมแดงของห้องทันใดนั้นเอง! เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นราวกับแผ่นดินไหวก็ดังขึ้นมาจากมุมมืดของห้อง ร่างสูงใหญ่กำยำปรากฏตัวขึ้นช้าๆ มันเป็นร่างโปร่งแสงสีน้ำตาลเข้ม มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ผมของเขาสั้นเกรียน ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราดกดำ ดวงตาคมกริบราวกับหินผา ในมือถือค้อนขนาดมหึมาที่ดูหนักอึ้ง“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงท