เสียงครืนๆ ที่ดังมาจากใต้พื้นดินทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนพื้นผิวคอนกรีตรอบตัวพวกเขาแตกร้าวเป็นแนวลึก เผยให้เห็นแสงสีแดงเรืองรองจางๆ และกลิ่นเหม็นเน่าที่รุนแรงจนแทบอาเจียน ฮานา สั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อเหลือบไปเห็นใบหน้าซีดเผือดของ โกฮัน ที่กำลังกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด เธอก็รวบรวมสติทั้งหมดไว้
“โกฮัน! เราต้องไปจากตรงนี้!” ฮานาตัดสินใจ เธอพยายามพยุงร่างสูงใหญ่ของเพื่อนขึ้นยืน แม้ขาซ้ายของโกฮันจะบิดเบี้ยวผิดรูปและบวมเป่ง แต่เขาก็พยายามขยับตัวตามแรงดึงของฮานาอย่างทุลักทุเล “ไป… ไปไหนฮานา?” โกฮันถามเสียงแหบพร่า มีดอาคมในมือของเขายังคงกำแน่น แสดงถึงความมุ่งมั่นแม้ร่างกายจะเจ็บปวดแสนสาหัส “ไปที่… ที่ปลอดภัยกว่านี้!” ฮานาตอบอย่างร้อนรน เธอเคยเห็นแผนที่ของสวนสนุกที่ ลุงภารโรง ให้มาก่อนที่พวกเขาจะเข้ามา ที่นั่นมีจุดทำเครื่องหมายไว้ที่หนึ่ง ซึ่งเป็น เต็นท์พยาบาลร้าง ที่อยู่ไม่ไกลจากโซนสวนน้ำมากนัก “เต็นท์พยาบาล! ใกล้ๆ นี่แหละ!” แรงสั่นสะเทือนจากพื้นดินรุนแรงขึ้นจนพวกเขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เศษซากปรักหักพังของสวนสนุกที่ทรุดโทรมเริ่มถล่มลงมาเป็นจุดๆ โกฮันกัดฟันกรอด เขาก้าวขาที่บาดเจ็บอย่างยากลำบาก ฮานาคอยประคองและดึงร่างของเขาไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง “ไหวไหมโกฮัน!?” ฮานาถามด้วยความเป็นห่วง น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “ไหว… แค่นี้ไม่เป็นไร…” โกฮันตอบ เสียงของเขาแหบพร่ากว่าเดิมมาก เหงื่อเย็นเยียบไหลซึมไปทั่วใบหน้า แววตาของเขายังคงฉายความมุ่งมั่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความทรมานอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาลากสังขารกันไปอย่างทุลักทุเล ท่ามกลางเสียงครืนครืนของพื้นดินที่กำลังจะถล่ม และเสียงโหยหวนของสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะผุดขึ้นมาจากเงามืด ฮานาแทบจะล้มลงหลายครั้ง แต่เมื่อเห็นโกฮันที่ยังคงพยายามอย่างสุดความสามารถ เธอก็กัดฟันแน่นแล้วดึงเขาต่อไป ในที่สุด พวกเขาก็มาถึง เต็นท์พยาบาลร้าง มันเป็นโครงสร้างผ้าใบขนาดใหญ่ที่เก่าทรุดโทรม ฉีกขาดเป็นริ้วๆ แต่ก็ยังคงพอใช้เป็นที่กำบังได้ ฮานารีบผลักผ้าใบที่ปิดทางเข้าออก แล้วพยุงโกฮันเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ภายในเต็นท์มืดสลัวและเต็มไปด้วยฝุ่นผง กลิ่นอับชื้นผสมกับกลิ่นยาเก่าๆ ลอยอบอวลไปทั่ว มีเพียงแสงสว่างเลือนรางจากภายนอกที่ลอดผ่านผ้าใบที่ขาดวิ่นเข้ามาให้พอเห็นทาง ฮานาพยุงโกฮันไปทรุดตัวลงบนเปลคนไข้ที่เก่าและทรุดโทรมอันหนึ่ง “พักก่อนนะโกฮัน… ฉันจะทำแผลให้” ฮานาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอรีบเปิดกระเป๋าที่สะพายมาด้วย แล้วหยิบ ชุดปฐมพยาบาล ที่เตรียมมาออกมาอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มทำความสะอาดบาดแผลที่ขาของโกฮันอย่างระมัดระวัง แม้จะเห็นเลือดสีแดงสดซึมออกมาและสภาพขาที่ดูบิดเบี้ยวผิดรูปจนน่ากลัว แต่เธอก็พยายามข่มความกลัวและความรู้สึกขยะแขยงไว้ สีหน้าของโกฮันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็กัดฟันแน่นไม่ส่งเสียงแม้แต่น้อย “เจ็บมากไหมโกฮัน?” ฮานาถามด้วยความเป็นห่วง น้ำตาเริ่มคลอเบ้า โกฮันส่ายหน้าช้าๆ “ไม่เป็นไร… แค่นี้เอง…” ฮานากัดริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่าโกฮันกำลังพยายามเข้มแข็งเพื่อเธอ เธอบรรจงทายาและพันผ้าพันแผลที่ขาของเขาอย่างประณีตที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะรู้ว่ามันคงช่วยได้แค่บรรเทาอาการเท่านั้น “แค่นี้คงยังไม่พอ…” ฮานาพึมพำกับตัวเอง เธอหยิบ หนังสืออาคม เก่าๆ ที่ลุงภารโรงมอบให้ก่อนเข้ามาในสวนสนุกออกมา มันเป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยอักขระและสัญลักษณ์แปลกๆ ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ลุงภารโรงบอกว่ามันจะช่วยพวกเขาได้ยามคับขัน ฮานาพลิกเปิดไปหน้าที่ทำเครื่องหมายไว้ ซึ่งเป็นคาถาสำหรับ ฟื้นฟูร่างกาย ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่อักขระเหล่านั้นอย่างตั้งใจ เธอไม่เคยร่ายคาถาที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อน แต่เพื่อโกฮัน เธอต้องทำ! “โกฮัน… ฉันจะร่ายคาถาฟื้นฟูให้นายนะ… มันอาจจะรู้สึกแปลกๆ หน่อย” ฮานาบอกพลางวางมือลงบนขาที่บาดเจ็บของโกฮัน โกฮันพยักหน้ารับช้าๆ “ฉันเชื่อใจเธอ… ฮานา” ฮานาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอเริ่มร่ายคาถาด้วยเสียงที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ “โอ้ เหล่าวิญญาณแห่งปฐพี จงมอบพลังแห่งชีวิต… เยียวยาบาดแผล… คืนความสมบูรณ์… แด่ร่างที่อ่อนล้า… ด้วยพลังแห่งธรรมชาติ จงฟื้นฟู…” ขณะที่ฮานาร่ายคาถา อักขระบนหน้าหนังสืออาคมก็พลันเรืองแสงสีเขียวอ่อนจางๆ แสงนั้นแผ่ออกมาจากมือของเธอ ปกคลุมขาของโกฮันไว้ ความรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วขาของโกฮัน อาการเจ็บปวดเริ่มลดลงอย่างช้าๆ แต่ฮานาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานของเธอที่กำลังถูกดูดไปอย่างรวดเร็ว “เธอ… เธอไหวไหมฮานา?” โกฮันถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นใบหน้าของฮานาที่เริ่มซีดเผือดลงเรื่อยๆ “ไหว… ฉันไหว…” ฮานากัดฟันตอบ เธอเร่งร่ายคาถาให้เร็วขึ้น และพยายามรวบรวมพลังทั้งหมดที่มี แสงสีเขียวบนขาของโกฮันสว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง และบาดแผลที่เคยบวมเป่งและผิดรูปก็เริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างช้าๆ การร่ายคาถาฟื้นฟูใช้เวลาหลายนาที ฮานารู้สึกเหมือนพลังชีวิตของเธอกำลังถูกดึงออกไปจนหมดสิ้น เมื่อคาถาจบลง แสงสีเขียวก็พลันหายไปพร้อมกับที่ฮานาทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยความอ่อนล้าอย่างถึงที่สุด เธอหอบหายใจอย่างหนัก ร่างกายสั่นเทา “ฮานา!” โกฮันรีบยันตัวขึ้น ใบหน้าของเขาดูดีขึ้นมาก ขาที่เคยบิดเบี้ยวกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว แม้จะยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ อยู่บ้าง แต่ก็สามารถขยับได้แล้ว “ฉัน… ฉันไม่เป็นไร…” ฮานาตอบเสียงแผ่ว “แค่… เหนื่อยนิดหน่อย” โกฮันยิ้มออกมาอย่างโล่งอก เขาพยุงฮานาขึ้นมานั่งพิงเสาของเต็นท์ “เธอสุดยอดมากฮานา! ขอบคุณนะ” ครืนนนน! ทันใดนั้นเอง เสียงครืนๆ จากใต้ดินก็ดังขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง คราวนี้ใกล้เข้ามามากกว่าเดิมมาก จนพื้นเต็นท์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง “ไม่นะ! พวกมันมาถึงนี่แล้วเหรอ!?” ฮานาอุทานด้วยความตกใจ โกฮันรีบคว้ามีดอาคมในมือ เตรียมพร้อมรับมือ “เตรียมตัวนะฮานา! ดูเหมือนว่าเราคงจะหลบได้ไม่นานแล้ว!” ไม่ทันขาดคำ! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงบางอย่างขนาดใหญ่กระแทกเข้ากับผนังเต็นท์อย่างรุนแรง ทำให้โครงสร้างผ้าใบสั่นไหวอย่างน่ากลัว เงาขนาดมหึมาทาบทับอยู่บนผ้าใบที่ขาดวิ่น ทำให้เกิดความมืดมิดภายในเต็นท์มากกว่าเดิม “มันคืออะไรน่ะโกฮัน!?” ฮานาถามเสียงสั่น ร่างกายของเธอยังคงอ่อนล้าจากการร่ายคาถา แต่ก็พยายามยันตัวลุกขึ้นยืน โกฮันจ้องมองไปยังเงาที่ทาบทับอยู่บนผ้าใบ “ฉันไม่แน่ใจ… แต่ดูเหมือนมันจะตัวใหญ่กว่าที่เราเคยเจอมามาก” ทันใดนั้นเอง ฉัวะ! ผ้าใบด้านหน้าเต็นท์ถูกฉีกขาดออกเป็นแนวยาว เผยให้เห็นดวงตาขนาดมหึมาสีแดงก่ำสองดวงจ้องมองเข้ามาในเต็นท์ มันเป็นดวงตาของ เงาปีศาจยักษ์ รูปร่างคล้ายสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่ประกอบขึ้นจากเงามืด มีแขนขาที่บิดเบี้ยวและหนวดยื่นออกมาจากลำตัว มันส่งเสียงคำรามกึกก้องที่ทำให้เต็นท์สั่นสะเทือนไปทั้งหลัง “กรี๊ดดดด!” ฮานาร้องลั่นด้วยความตกใจสุดขีด เธอไม่เคยเห็นเงาปีศาจที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย “มันคือ ‘แก่นกลาง’ ที่เราพลาดไปตอนอยู่ม้าหมุนเหรอเนี่ย!?” โกฮันอุทานด้วยความประหลาดใจ เขาเห็นเงาปีศาจยักษ์ตนนี้ชัดเจนยิ่งกว่าตอนที่เห็นมันอยู่ใต้ฐานม้าหมุน “ฉันก็ไม่รู้!” ฮานาตอบเสียงสั่น “แต่มัน… มันแข็งแกร่งกว่าตัวที่เราดูดไปเยอะเลย!” เงาปีศาจยักษ์ส่งเสียงคำรามอีกครั้ง พลางยื่นแขนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนวดเคราสีดำเข้ามาในเต็นท์ มันพยายามจะคว้าตัวพวกเขา ฮานาและโกฮันพยายามหลบหลีกอย่างสุดชีวิต เต็นท์พยาบาลที่เคยเป็นที่หลบภัย กำลังจะกลายเป็นกับดักมรณะของพวกเขา “เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ก่อน!” โกฮันตะโกน เขาพุ่งตัวไปด้านหลังเต็นท์ พลางใช้มีดอาคมฟันผ้าใบที่ฉีกขาดอยู่แล้วให้ขาดออกเป็นช่องทางหลบหนี “แต่นายยังไม่หายดีนะโกฮัน!” ฮานาเตือน “ไม่มีเวลาแล้วฮานา! รีบไป!” โกฮันหันมาเร่ง เธอเห็นแววตาที่จริงจังของเขา จึงไม่ลังเลอีกต่อไป ฮานารีบมุดออกไปนอกเต็นท์ ตามด้วยโกฮันที่พยายามดันตัวเองออกมาอย่างทุลักทุเล ทันทีที่พวกเขาออกมาจากเต็นท์ เงาปีศาจยักษ์ก็ส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด มันตามออกมาจากเต็นท์อย่างรวดเร็ว พลังงานมืดมิดแผ่กระจายออกมาจากร่างของมัน ทำให้บริเวณรอบตัวเย็นยะเยือกจนขนลุก “มันตามมาติดๆ เลย!” ฮานาตะโกน เธอเห็นเงาดำขนาดเล็กอีกนับสิบตัวเริ่มผุดขึ้นมาจากพื้นดินที่แตกร้าวรอบๆ ตัวเงาปีศาจยักษ์ “ไปทางนั้นฮานา!” โกฮันชี้ไปทางป่าต้นไม้เก่าแก่ที่อยู่ถัดจากสวนสนุก “ถ้าเราเข้าไปในป่า พวกมันอาจจะตามเราไม่ทัน!” ฮานาพยักหน้า เธอพยุงโกฮันให้วิ่งไปในทิศทางนั้นอย่างสุดฝีเท้า แม้ขาของโกฮันจะยังไม่หายสนิท แต่เขาก็ยังคงกัดฟันวิ่งตามฮานาไปอย่างไม่ลดละ การวิ่งในป่าที่รกทึบเต็มไปด้วยเถาวัลย์และกิ่งไม้แห้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับพวกเขา โดยเฉพาะโกฮันที่ขาบาดเจ็บ แต่พวกเขาก็ต้องทำ เพราะเงาปีศาจยักษ์ยังคงตามหลังพวกเขามาติดๆ เสียงฝีเท้าหนักๆ ของมันที่กระทบพื้นดินทำให้ต้นไม้สั่นสะเทือน “มันยังตามเรามาอยู่เลย!” ฮานาหอบหายใจพลางเหลือบมองไปด้านหลัง เธอเห็นดวงตาสีแดงก่ำของเงาปีศาจยักษ์ที่ส่องประกายผ่านความมืดมิดของป่า “ใจเย็นไว้ฮานา! เราต้องหาทางจัดการมันให้ได้!” โกฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว แม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยเหงื่อไคลและความเหนื่อยล้า “เรายังเหลือผ้ายันต์อีกหกผืนใช่ไหม?” ฮานาพยักหน้า “ใช่! แต่ผ้ายันต์ที่เราได้มายังไงก็สู้มันไม่ได้หรอก!” “ไม่แน่หรอกฮานา” โกฮันกล่าว “ผ้ายันต์พวกนั้นอาจจะมีพลังที่ซ่อนอยู่ก็ได้” ทันใดนั้นเอง! พวกเขาก็วิ่งมาถึงลานกว้างแห่งหนึ่งในป่า กลางลานมี บ่อน้ำเก่าแก่ ที่เต็มไปด้วยมอสและตะไคร่น้ำขึ้นปกคลุม รอบบ่อน้ำมีรูปปั้นสิงโตหินแกะสลักสี่ตัวตั้งอยู่ ดูเก่าแก่และขลังอย่างประหลาด ติ๊ดๆๆ นาฬิกาอาคมบนข้อมือของฮานาพลันส่งเสียงเตือนอีกครั้ง! สัญญาณสีแดงกะพริบถี่รัว พลางชี้ไปยัง บ่อน้ำเก่าแก่ นั้น! “ผ้ายันต์! ผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์อีกผืนอยู่ที่นี่!” ฮานาอุทานด้วยความตื่นเต้น “อยู่ที่ไหนน่ะ!?” โกฮันรีบถาม แต่ก่อนที่ฮานาจะตอบ เงาปีศาจยักษ์ก็พุ่งทะยานเข้ามาในลานกว้างอย่างรวดเร็ว มันส่งเสียงคำรามกึกก้องที่ทำให้ต้นไม้รอบข้างสั่นสะเทือน พลังงานมืดมิดแผ่กระจายออกมาจากร่างของมัน จนอากาศรอบตัวพวกเขารู้สึกเย็นยะเยือกจนหนาวสั่นไปถึงกระดูก “มันไม่ยอมให้เราเอาไปง่ายๆ แน่!” โกฮันกล่าว เขาก้าวไปยืนบังฮานาไว้ พลางชูมีดอาคมขึ้นสูง เตรียมพร้อมรับมือกับเงาปีศาจยักษ์ที่กำลังพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างไม่ลังเล ฮานาจับจ้องไปที่บ่อน้ำเก่าแก่ เธอเห็นแสงสีขาวจางๆ เปล่งออกมาจากใต้ผิวน้ำที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ ดูเหมือนว่าผ้ายันต์จะจมอยู่ใต้น้ำ “โกฮัน! ผ้ายันต์มันอยู่ในบ่อน้ำ!” ฮานาตะโกน “ฉันจะถ่วงเวลาให้ฮานา! เธอรีบไปเอาผ้ายันต์!” โกฮันสั่งอย่างเด็ดขาด ฮานาลังเลเพียงชั่วครู่ แต่เมื่อเห็นแววตาของโกฮันที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัวเธอ เธอก็พยักหน้าอย่างแน่วแน่ เธอรีบพุ่งตัวไปที่บ่อน้ำอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โกฮันพุ่งเข้าปะทะกับเงาปีศาจยักษ์อย่างกล้าหาญ!หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือดกับบริวารแห่งความมืด ฮานาและโกฮันก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า หอคอยแห่งความมืด ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนสนุกร้าง ตัวหอคอยสูงเสียดฟ้า ปกคลุมไปด้วยเงามืดทะมึนราวกับถูกสร้างขึ้นจากความสิ้นหวัง แสงสลัวๆ รอบๆ ไม่สามารถส่องเข้าไปได้เลยแม้แต่น้อย มันดูดกลืนทุกสิ่งไว้ในความมืดมิด มีเพียงแสงเรืองรองสีแดงฉานจากดวงตาปีศาจที่ประดับอยู่ตามผนังหอคอยเท่านั้นที่กะพริบเป็นจังหวะ ราวกับกำลังจับจ้องพวกเขา กลิ่นอายความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาทำให้รู้สึกอึดอัดและหนาวเหน็บไปถึงกระดูก“นี่แหละ… ที่ที่จอมมารแห่งเงามืดซ่อนผ้ายันต์สองผืนสุดท้ายไว้” ฮานากล่าว เสียงของเธอหนักแน่น แม้จะมีความกังวลฉายแววในดวงตา“มันดูน่ากลัวกว่าที่คิดเยอะเลยนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาจากมันส่องสว่างขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานด้านลบมหาศาล“ใช่… แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เธอสอดส่องสายตาไปรอบๆ หอคอย “ท่านภูติแห่งวารีบอกว่ามีเงาปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดเฝ้าอยู่”“เราพร้อมแล้วฮานา! เราฝึกมาหนักเพื่อวันนี้!” โกฮันประกาศด้วยความมุ่งมั่น ดวงตาของเขาฉายแววกล้าหาญ “ไปกันเถอะ!”พวกเขาเ
แสงสีฟ้าอ่อนนวลตาห่อหุ้มร่างของ ฮานา และ โกฮัน ลอยขึ้นช้าๆ ผ่านโพรงถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยเรืองแสง พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบริสุทธิ์ของโลกใต้บาดาลที่ยังคงไหลเวียนอยู่ในกาย พลังงานที่ได้จากการฝึกฝนอย่างหนักในห้องต่างๆ ภายใต้การชี้แนะของเหล่าวิญญาณภูมิ“เรากลับมาแล้วฮานา…” โกฮันพึมพำ ดวงตาของเขาฉายแววความมุ่งมั่น“ใช่… ถึงเวลาที่เราจะต้องทำในสิ่งที่ต้องทำแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เสียงของเธอหนักแน่น ไม่มีความลังเลอีกต่อไป ผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดผืนในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาอ่อนๆ ที่แสดงถึงพลังแห่งแสงและความมืดที่หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อร่างของพวกเขาพ้นจากปากโพรงถ้ำ แสงแดดที่เจิดจ้าก็สาดส่องกระทบดวงตา ทำให้พวกเขาต้องหรี่ตาลง สวนสนุกร้างที่เคยดูมืดมิดและน่ากลัว บัดนี้กลับมีแสงสว่างสลัวๆ ส่องเข้ามาจากด้านบน เผยให้เห็นซากปรักหักพังที่น่าเศร้าและบรรยากาศที่เงียบงันราวกับถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ“พวกเจ้ากลับมาแล้ว…” เสียงใสราวระฆังแก้วของ ภูติแห่งวารี ดังขึ้น เบื้องหน้าพวกเขา ภูติแห่งวารีกำลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน รายล้อมด้วยพลังงานแสงสีฟ้าอ่อนโยน“ท่านภูติแห่งวารี!” ฮานาและโกฮันกล่
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการควบคุม ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว นี่คือบททดสอบสุดท้ายของการฝึกฝนในโลกใต้บาดาล แสงภายในห้องนี้แตกต่างจากทุกห้องที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่แสงสีเดียว แต่เป็นแสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาอย่างรวดเร็วราวกับชีพจรของจักรวาล พื้นห้องเป็นเหมือนตารางหมากรุกขนาดใหญ่ที่ช่องสี่เหลี่ยมสีขาวและดำเคลื่อนไหวและสลับตำแหน่งกันไม่หยุด กำแพงห้องทอดยาวขึ้นไปสูงลิบตาจนมองไม่เห็นเพดาน และมีกระแสพลังงานที่มองไม่เห็นไหลวนไปมา ทำให้รู้สึกถึงความสมดุลที่เปราะบางและพร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ บรรยากาศเงียบสงัดไร้เสียงใดๆ มีเพียงเสียงการเคลื่อนไหวของแสงและเงาที่สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดและกดดัน“ห้องนี้… มันดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ฮานา” โกฮันกระซิบเสียงแผ่ว เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาที่เปล่งออกมาจากผ้ายันต์และมีดอาคมของพวกเขาส่องสว่างตัดกับแสงขาวดำในห้อง“ใช่… เหมือนมันกำลังเตือนว่าทุกอย่างมันต้องอยู่ในความสมดุล” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอกำแน่นทันใดนั้นเอง! แสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีเทาอ่อน รูปร่างของเขาดูคล้ายชายชราผู้ทรงภูมิ มีเครายาวส
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสมาธิ ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นและความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แสงภายในห้องนี้แตกต่างออกไปอีกครั้ง ที่นี่มืดมิดเกือบสนิท มีเพียงแสงสลัวๆ สีฟ้าอมเขียวคล้ายแสงออโรร่าที่เต้นระริกบนเพดานและผนังห้อง ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว พื้นห้องเต็มไปด้วยแท่นหินเล็กๆ นับไม่ถ้วนที่เรียงรายอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ละแท่นมีอักขระโบราณที่ส่องแสงริบหรี่จารึกไว้ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ไม่สามารถจับใจความได้ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ชวนให้รู้สึกรบกวนสมาธิ“ห้องนี้ดูประหลาดกว่าห้องอื่นอีกนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง มีดอาคมในมือของเขาส่องแสงสีเทาอ่อนๆ“ใช่… บรรยากาศมันชวนให้รู้สึกสับสนยังไงก็ไม่รู้” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาเช่นกันทันใดนั้นเอง! แสงสลัวๆ บนเพดานก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีม่วงเข้ม รูปร่างของเขาดูสง่างามคล้ายนักปราชญ์โบราณ เขามีผมสีขาวยาวสลวยผูกเป็นมวยไว้ด้านหลัง ดวงตาของเขาสุกใสราวกับดวงดาวที่มองเห็นทะลุปรุโปร่งทุกสิ่ง ในมือถือคัมภีร์เล่มเก่าที่เปล่งแสงเรื
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสัมผัส ท่ามกลางความงุนงง แสงสว่างภายในห้องนี้ดูแปลกประหลาด มันเป็นแสงสีรุ้งที่หมุนวนไปมาอย่างช้าๆ ทำให้ภาพที่เห็นบิดเบี้ยวและพร่าเลือน ผนังห้องทำจากวัสดุโปร่งแสงที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร ทุกอย่างในห้องดูเลือนลางและไม่แน่นอน กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยคละคลุ้งในอากาศ ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและมึนงง“นี่มัน… ห้องอะไรกันเนี่ย?” ฮานาพึมพำ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเมื่อมองแสงสีรุ้งที่หมุนวนไม่หยุด“ฉันก็ไม่แน่ใจฮานา… แต่บรรยากาศมันประหลาดมาก” โกฮันตอบ เสียงของเขามีอาการมึนงงเล็กน้อย เขากำมีดอาคมแน่น พยายามตั้งสติทันใดนั้นเอง! แสงสีรุ้งก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีขาวบริสุทธิ์ รูปร่างคล้ายหญิงสาวงดงามราวกับนางฟ้า เธอมีปีกสีรุ้งโปร่งแสงขนาดใหญ่ ผมยาวสลวยสีเงินระยิบระยับ ดวงตาของเธอเป็นสีฟ้าใสราวกับท้องฟ้าไร้เมฆ และมีรัศมีอ่อนโยนแผ่ออกมาจากตัวเธอ“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงใสราวกับเสียงกระดิ่งแก้วดังขึ้นในห้อง “ข้าคือ วิญญาณแห่งดารา ผู้พิทักษ์ห้องแห่งการแยกสัมผัส… ข้าจะทดสอบความสามารถในการแยกแยะของพวกเจ้า… ทั้งการแยกแยะประสาทสัมผัส… และการแยกแยะคว
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งพละกำลัง ด้วยความตื่นเต้นระคนความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนในห้องแห่งความเร็ว แสงสว่างภายในห้องนี้แตกต่างจากห้องก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ที่นี่สว่างไสวด้วยแสงสีส้มอมแดงที่ดูอบอุ่นและมั่นคง ผนังห้องเป็นหินแกรนิตสีเข้มแข็งแกร่ง มีรอยจารึกรูปค้อนและขวานโบราณประดับอยู่ทั่วไป กลิ่นดินและแร่ธาตุที่คุ้นเคยในโลกใต้บาดาลกลับเข้มข้นขึ้นในห้องนี้ ให้ความรู้สึกดิบและทรงพลัง“ดูเหมือนว่าห้องนี้จะไม่ได้เน้นความเร็วแล้วนะฮานา” โกฮันกล่าว เขากำหมัดแน่น รู้สึกถึงพละกำลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายหลังจากได้รับการเยียวยาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์“ฉันก็ว่างั้น… บรรยากาศมันต่างกันลิบลับเลย” ฮานาตอบพลางกวาดตามองไปรอบๆ เธอยกผ้ายันต์ในมือขึ้น มันเปล่งแสงสีขาวนวลตัดกับแสงสีส้มอมแดงของห้องทันใดนั้นเอง! เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นราวกับแผ่นดินไหวก็ดังขึ้นมาจากมุมมืดของห้อง ร่างสูงใหญ่กำยำปรากฏตัวขึ้นช้าๆ มันเป็นร่างโปร่งแสงสีน้ำตาลเข้ม มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ผมของเขาสั้นเกรียน ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราดกดำ ดวงตาคมกริบราวกับหินผา ในมือถือค้อนขนาดมหึมาที่ดูหนักอึ้ง“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงท