Home / แฟนตาซี / 5/B เกาะร้างต้องคำสาป / ผ้ายันต์แห่งความรู้

Share

ผ้ายันต์แห่งความรู้

last update Last Updated: 2025-08-31 23:31:51

หลังจากที่จัดการกับปีศาจหินยักษ์และได้ผ้ายันต์แห่งความรู้มาแล้ว ไดชิและดาอิก็นั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง พวกเขาหอบหายใจอย่างหนัก แต่ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ภูมิใจในชัยชนะที่เพิ่งได้รับมา

"เรา...ทำได้แล้ว" ดาอิพึมพำด้วยความโล่งใจ เธอเหลือบมองไปที่หนังสือที่อยู่ในมือของไดชิ และยิ้มอย่างมีความสุข

"ใช่...เราทำได้แล้ว" ไดชิกล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้เธออย่างมั่นใจ เขาลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในลานกว้าง ที่นั่นมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกเปิดออก และมีแสงสีขาวนวลส่องประกายออกมาจากภายในหนังสือ

"นั่นมัน...ผ้ายันต์แห่งความรู้!" ดาอิกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราเจอแล้ว!"

"ใช่...เราเจอแล้ว" ไดชิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเดินเข้าไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และรู้สึกได้ถึงพลังงานที่อบอุ่นที่แผ่ออกมาจากมันอย่างรุนแรง

"ดูนี่สิ!" ดาอิกล่าวพร้อมกับยื่นหนังสือเล่มนั้นให้ไดชิ "ในหนังสือเล่มนี้...มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องรู้เลย"

ไดชิรับหนังสือเล่มนั้นมาถือไว้ในมือ และเมื่อเขาเปิดออกดูก็พบว่าในหนังสือเล่มนั้นมีแผนที่ของเกาะแห่งนี้อยู่ด้วย และมีจุดที่ถูกทำเครื่องหมายเอาไว้ถึงสองจุดด้วยกัน

"นั่นมัน...ผ้ายันต์ผืนที่สี่และผืนที่ห้า!" ไดชิกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราเจอแล้ว!"

"ใช่...เราเจอแล้ว" ดาอิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน "ดูเหมือนว่า...ภารกิจของเราจะใกล้จะจบแล้วนะ"

"ใช่...มันใกล้จะจบแล้ว" ไดชิกล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้เธออย่างมั่นใจ

หลังจากนั้น...ทั้งสองก็เริ่มวางแผนการเดินทางกันอีกครั้ง ไดชิและดาอิรู้ดีว่าการเดินทางในครั้งนี้จะเต็มไปด้วยอันตรายและอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยเจอมา แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อนำความสงบสุขกลับคืนมาสู่เกาะแห่งนี้ให้ได้...

"เอาล่ะ...เรามาวางแผนการเดินทางกันเถอะ" ไดชิกล่าวพร้อมกับเปิดแผนที่ออกดู "ตามแผนที่นี้...ผ้ายันต์ผืนที่สี่น่าจะอยู่บน หน้าผา ที่สูงที่สุดของเกาะ"

"หน้าผา..." ดาอิพึมพำด้วยความกังวล "มันอันตรายนะ...แล้วเราจะไปที่นั่นได้ยังไง"

"ไม่ต้องห่วง...เราจะไปให้ได้" ไดชิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน "ในหนังสือเล่มนี้...มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องรู้เลย"

และในพริบตานั้น...ปู่เฒ่าดาฟและชาวบ้านกลุ่มเล็กๆ ก็เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยความตกใจ

"พวกเจ้า...กลับมาแล้วหรอ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ "ข้าคิดว่าพวกเจ้า...จะไม่รอดซะแล้ว"

"เรากลับมาแล้วครับท่านปู่" ดาอิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน "และเราก็ได้ผ้ายันต์แห่งความรู้มาแล้วด้วย" เธอชี้ไปที่หนังสือที่อยู่ในมือของไดชิ

"สุดยอดไปเลย!" ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวด้วยความดีใจ "พวกเจ้า...เก่งที่สุดในโลกเลย"

หลังจากนั้น...ทั้งสองก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่พวกเขาได้เจอมาให้ชาวบ้านฟัง ตั้งแต่การต่อสู้กับปีศาจหินยักษ์ไปจนถึงการเผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์แห่งหน้าผาที่ทรงพลัง ทุกคนต่างตกใจและทึ่งในความกล้าหาญของสองฝาแฝด

"แต่ว่า...เรายังเหลือผ้ายันต์อีกสองผืนที่เราต้องตามหา" ดาอิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด "เราต้องไปเอาผ้ายันต์ผืนที่สี่ที่อยู่บนหน้าผามาให้ได้"

"ไม่ต้องห่วง..." รูฟกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน "พวกเราจะช่วยพวกเจ้าเอง...พวกเราจะไปกับพวกเจ้าด้วย"

"แต่ว่า...มันอันตรายนะ" ไดชิกล่าวด้วยความกังวล "พวกท่านอาจจะได้รับอันตรายได้"

"เราไม่กลัวหรอก" รูฟกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว "เราจะสู้เพื่ออนาคตของพวกเรา...และเราจะสู้เพื่อพวกเจ้า"

"ใช่แล้ว!" เสียงของชาวบ้านคนอื่นๆ ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขาทุกคนต่างพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อกอบกู้บ้านเกิดของตัวเองให้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง

"เอาล่ะ...เรามาวางแผนการเดินทางกันเถอะ" รูฟกล่าวพร้อมกับเปิดแผนที่ที่อยู่ในมือของไดชิออกดู "ตามแผนที่นี้...ทางที่จะไปถึงหน้าผาได้มีเพียงทางเดียว...และทางนั้นก็เต็มไปด้วยปีศาจที่ทรงพลัง"

"เราจะต้องต่อสู้กับพวกมันให้ได้" ไดชิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น "เราจะไปเอาผ้ายันต์ผืนนั้นมาให้ได้"

"ใช่แล้ว! เราจะไปเอามันมาให้ได้!" ดาอิกล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้พี่ชายของเธออย่างมั่นใจ

หลังจากนั้น...พวกเขาก็ใช้เวลาที่เหลือในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ไดชิและดาอิได้ทบทวนวิชาอาคมที่พวกเขาได้เรียนรู้มาจากไคและฟาร่าอีกครั้ง และตรวจสอบอาวุธของพวกเขาให้พร้อมสำหรับการต่อสู้

ในเช้าวันรุ่งขึ้น...ก่อนที่แสงอาทิตย์จะสาดส่องลงมาบนผืนโลก ไดชิและดาอิพร้อมกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งก็ออกเดินทางจากถ้ำที่เคยเป็นที่พักพิงของพวกเขา ทุกคนต่างสวมใส่ชุดเกราะที่ทำจากหนังสัตว์และถืออาวุธที่ทำจากไม้ที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้า

พวกเขาเดินไปตามทางที่มุ่งหน้าไปยังหน้าผาที่สูงที่สุดของเกาะ บรรยากาศรอบๆ ตัวพวกเขานั้นเงียบสงัดและน่าขนลุก มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านยอดไม้และเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ก้องกังวานไปทั่วทั้งป่า

"ระวังตัวไว้ให้ดีนะ" ดาอิพึมพำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจ้องมองเราอยู่"

"ใช่แล้ว..." ไดชิกล่าวพร้อมกับกำดาบอาคมในมือแน่น เขากวาดสายตาไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง และในพริบตานั้น...เขาก็ต้องชะงักเมื่อพบว่ามีเงาปีศาจตัวหนึ่งกำลังยืนขวางทางพวกเขาอยู่ มันไม่ใช่ปีศาจธรรมดา...แต่มันคือ ปีศาจหินยักษ์ ที่มีรูปร่างที่น่ากลัวและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวไหนๆ ที่เขาเคยเจอมา

"พวกแก...จะไปไหน" ปีศาจหินยักษ์คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูก "พวกแกคิดว่าจะหนีข้าไปได้งั้นรึ"

"หลีกทางซะ!" ไดชิคำรามออกมาอย่างโกรธจัด เขากำดาบอาคมในมือแน่น และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่คาดฝันอีกครั้ง

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดและยาวนาน ไดชิและดาอิพยายามที่จะต่อสู้กับปีศาจหินยักษ์ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่ก็ไม่เป็นผล ร่างของมันดูเหมือนจะแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะถูกทำลาย

"ฮึ่ม! ทำไมมันถึงไม่โดนเลยวะ!" ไดชิสบถออกมาอย่างหงุดหงิด

"เพราะมันไม่ใช่แค่ปีศาจธรรมดา..." ปู่เฒ่าดาฟกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม "มันคือผู้พิทักษ์แห่งหน้าผา...ที่ถูกครอบงำด้วยพลังของความมืด!"

"ผู้พิทักษ์แห่งหน้าผา..." ดาอิพึมพำด้วยความตกใจ "นี่มันหมายความว่าเราต้องสู้กับผู้พิทักษ์ด้วยงั้นเหรอ"

"ใช่...พวกมันเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยพลังของจอมเวทแห่งเงามืด!" รูฟคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด "พวกมันจะไม่รู้สึกเจ็บปวดและจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะถูกทำลายอย่างสิ้นซาก!"

"ไม่ยอมหรอก!" ไดชิคำรามออกมาอย่างโกรธจัด เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีในการพุ่งเข้าใส่ปีศาจหินยักษ์อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

แต่ก็ไม่เป็นผล ปีศาจหินยักษ์มีจำนวนมากเกินไปและแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้ ไดชิรู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับกำแพงที่ไม่มีวันพังทลายลงได้

"ฮึ่ม! ยอมแพ้ซะเถอะ! เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้หรอก!" ปีศาจหินยักษ์หัวเราะเยาะเย้ยเสียงดัง มันยกมือขึ้น และพร้อมที่จะเข้าโจมตีไดชิอย่างรุนแรง

แต่ในจังหวะนั้นเอง...ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา

"ใช่แล้ว...ผ้ายันต์!" ไดชิคำรามออกมา เขาพยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะขยับได้เลยแม้แต่น้อย เขามองไปที่ปีศาจหินยักษ์ที่กำลังจะเข้าโจมตีเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

"ไม่นะ! อย่าทำแบบนั้นนะ!" เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากด้านหลังของปีศาจหินยักษ์

"ดาอิ!" ไดชิคำรามออกมาด้วยความตกใจ เขาหันไปมองและพบว่าดาอิกำลังยืนอยู่ตรงนั้น ร่างกายของเธอดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ยอมแพ้

"ฮ่าฮ่าฮ่า! น้องสาวของแกมาตายเป็นเพื่อนแล้ว!" ปีศาจหินยักษ์หัวเราะเยาะเย้ยเสียงดัง

"อย่าทำร้ายน้องสาวข้า!" ไดชิคำรามออกมาอย่างโกรธจัด เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีในการพุ่งเข้าใส่ปีศาจหินยักษ์อย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกมันใช้หางขนาดมหึมาของมันฟาดเข้าที่เขาจนกระเด็นไปตกไกล

"อั่ก!" ไดชิร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เขามองไปที่ดาอิที่กำลังจะถูกปีศาจหินยักษ์เข้าโจมตีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

"ไม่นะ! อย่าทำอะไรน้องสาวข้า!" ไดชิคำรามออกมาอย่างโกรธจัด เขาพยายามที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะขยับได้เลยแม้แต่น้อย

"ยอมแพ้ซะเถอะ! เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้หรอก!" ปีศาจหินยักษ์คำรามออกมาด้วยความสะใจ มันยกมือขึ้น และพร้อมที่จะเข้าโจมตีดาอิอย่างรุนแรง

"ไม่นะ!" ดาอิร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอใช้พลังอาคมในการสร้างบาเรียป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เป็นผล บาเรียของเธอแตกสลายไปในพริบตา

"ฮ่าฮ่าฮ่า!" ปีศาจหินยักษ์หัวเราะเยาะเย้ยเสียงดัง มันยกมือขึ้นอีกครั้ง และพร้อมที่จะเข้าโจมตีดาอิอย่างรุนแรง

แต่ในจังหวะนั้นเอง...ไดชิก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดที่จะทำมาก่อน

"หยุดนะ!" ไดชิคำรามออกมาอย่างโกรธจัด เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีในร่างกายของเขา และพุ่งเข้าใส่ปีศาจหินยักษ์อย่างรวดเร็ว

"แก...กล้าดียังไง!" ปีศาจหินยักษ์คำรามออกมาด้วยความโกรธ มันหันไปมองไดชิด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง และใช้พลังอาคมในการสร้างลูกบอลหินขนาดใหญ่ และพุ่งตรงไปยังไดชิอย่างรวดเร็ว

"ไม่นะ!" ดาอิร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอใช้พลังอาคมในการสร้างบาเรียป้องกันที่แข็งแกร่ง และพุ่งเข้าใส่ลูกบอลหินอย่างรวดเร็ว บาเรียของเธอก็แตกสลายไปในพริบตา แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เธอใช้พลังอาคมในการสร้างลูกบอลหินขนาดใหญ่ และพุ่งตรงไปยังปีศาจหินยักษ์อย่างรวดเร็ว

ตูม!

เสียงระเบิดดังสนั่น ร่างของปีศาจหินยักษ์สลายไปในพริบตา เหลือเพียงดวงวิญญาณสีม่วงเข้มขนาดใหญ่ที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ

"เรา...ทำได้แล้ว" ดาอิพึมพำด้วยความโล่งใจ เธอล้มตัวลงไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง ไดชิรีบวิ่งเข้าไปหาเธอและสวมกอดเธออย่างแน่นหนา

"ไม่ต้องห่วง...ฉันไม่เป็นไร" ดาอิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน "แต่นาย...บาดเจ็บนี่"

"ไม่เป็นไร...แค่นิดหน่อย" ไดชิกล่าวพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ แต่ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากนั้น...ทั้งสองก็พักผ่อนกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในลานกว้าง ที่นั่นมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกเปิดออก และมีแสงสีขาวนวลส่องประกายออกมาจากภายในหนังสือ

"นั่นมัน...ผ้ายันต์แห่งความรู้!" ไดชิกล่าวด้วยความตื่นเต้น

"ใช่...เราเจอแล้ว" ดาอิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน เธอเดินเข้าไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และรู้สึกได้ถึงพลังงานที่อบอุ่นที่แผ่ออกมาจากมันอย่างรุนแรง

"ดูนี่สิ!" ดาอิกล่าวพร้อมกับยื่นหนังสือเล่มนั้นให้ไดชิ "ในหนังสือเล่มนี้...มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องรู้เลย"

ไดชิรับหนังสือเล่มนั้นมาถือไว้ในมือ และเมื่อเขาเปิดออกดูก็พบว่าในหนังสือเล่มนั้นมีแผนที่ของเกาะแห่งนี้อยู่ด้วย และมีจุดที่ถูกทำเครื่องหมายเอาไว้ถึงสองจุดด้วยกัน

"นั่นมัน...ผ้ายันต์ผืนที่สี่และผืนที่ห้า!" ไดชิกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราเจอแล้ว!"

"ใช่...เราเจอแล้ว" ดาอิกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน "ดูเหมือนว่า...ภารกิจของเราจะใกล้จะจบแล้วนะ"

"ใช่...มันใกล้จะจบแล้ว" ไดชิกล่าวพร้อมกับพยักหน้าให้เธออย่างมั่นใจ พวกเขามองหน้ากันด้วยความหวังที่จะทำภารกิจให้สำเร็จและนำความสงบสุขกลับคืนมาสู่เกาะแห่งนี้ให้ได้...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ความลับ

    หลังจากทำข้อตกลงกับหัวหน้าเผ่าสึนะ ไคลด์ ไดชิ และดาอิ ก็เริ่มต้นภารกิจที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญมา การเดินทางสู่ แหล่งพลังอาคมแห่งเงาที่แท้จริง ซึ่งซ่อนอยู่ลึกใต้เกาะแสงอรุณ มีเพียงไคลด์เท่านั้นที่รู้ทางเข้า ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางน้ำใต้ดินที่ซับซ้อน"พวกเราทุกคนต้องรู้ว่าความมืดมิดที่พวกเจ้าเคยทำลายไปนั้น...เป็นแค่ เปลือกนอก ของพลังงานทั้งหมด" ไคลด์กล่าวขณะนำทางพวกเขาไปยังปากถ้ำที่ถูกซ่อนไว้ใต้รากต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ "พลังเงาที่แท้จริงไม่ได้มีไว้เพื่อทำลายล้าง แต่มีไว้เพื่อ รักษาสมดุลของผืนดิน เมื่อหลายศตวรรษก่อน ผู้พิทักษ์รุ่นก่อนได้ผนึกมันไว้ไม่ให้ถูกผู้ใดครอบครอง"ปากทางสู่ความมืดปากถ้ำนั้นแคบและมืดมิด มีเพียงแสงจากตะเกียงอาคมที่ดาอิสร้างขึ้นเท่านั้นที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นได้ ไคลด์ลงไปในน้ำก่อน ตามมาด้วยไดชิและดาอิ พวกเขาต้องว่ายน้ำตามกระแสน้ำใต้ดินที่เย็นเฉียบและมืดสนิทไปนานหลายนาทีเมื่อกระแสน้ำสงบลง พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ใน อุโมงค์หินขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำค้างและเสียงสะท้อนที่น่าขนลุก พื้นผิวของผนังถ้ำเต็มไปด้วย คริสตัลเงาสีดำ ที่ส่องแสงสลัว ๆ บ่งบอกถึงความหน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   สันติภาพ

    หลังจากที่พิธีสืบทอดตำแหน่งเสร็จสิ้น ไคลด์ก็กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งเกาะแสงอรุณอย่างเป็นทางการ แต่ภัยคุกคามจากชนเผ่าแห่งเงาก็ยังคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ไดชิ ดาอิ และไคลด์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การเจรจาคือหนทางเดียวที่จะนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่เกาะนี้พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยัง ป่าสนทมิฬ อีกครั้ง สถานที่ที่พวกเขาเคยถูกซุ่มโจมตี โดยมี ปู่เฒ่าดาฟ ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะตัวแทนของชาวเกาะ"การเจรจานี้อันตรายยิ่งกว่าการต่อสู้กับปีศาจ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะเดินนำ "ความบาดหมางระหว่างเรากับชนเผ่าแห่งเงาฝังรากลึกมาตั้งแต่สมัย จอมเวทแห่งเงามืด ยังเป็นมนุษย์""ท่านปู่ ช่วยเล่าเรื่องราวความบาดหมางนั้นให้พวกเราฟังได้ไหมครับ" ไดชิถาม"ได้สิ..." ปู่เฒ่าดาฟเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "ในอดีต จอมเวทที่ทรยศนั้นเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนักเวทที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะ แต่เขามองว่าชาวเกาะธรรมดาและชนเผ่าแห่งเงาที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเป็นเพียง เครื่องมือ และ พลังงาน ที่ไร้ค่า เขาต้องการให้ทุกคนกราบไหว้บูชาเขาเพียงผู้เดียว""แล้วชนเผ่าแห่งเงาเกี่ยวข้องอย่างไรคะ" ดาอิถาม"ชนเผ่าเหล่านั้นเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   การรับตำแหน่ง

    หมู่บ้านแสงอรุณกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง แต่ความเงียบสงบในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ มันคือความสงบที่มาพร้อมกับความตึงเครียดและความเตรียมพร้อม ชาวบ้านช่วยกันพาไดชิ ดาอิ และไคลด์ไปที่วิหารเก่า ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลชั่วคราวบาดแผลและการเยียวยาไคลด์มีอาการหนักที่สุด พิษจากศรของชนเผ่าแห่งเงาได้เริ่มซึมซาบเข้าสู่กระแสเลือดของเขา แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งดุจหินผา แต่พิษร้ายก็ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก"นี่มันพิษจาก พฤกษามรณะ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะที่กำลังทำความสะอาดบาดแผลอย่างระมัดระวัง "ชนเผ่าแห่งเงาใช้สารนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อทำให้เหยื่ออ่อนแรง...แต่ดีที่เจ้าเป็นบุตรแห่งทะเล ร่างกายจึงต้านทานได้ดีกว่าคนอื่น"ดาอิที่เฝ้าดูอาการของไคลด์อยู่ไม่ห่างรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถปกป้องเขาได้ เธอจึงตัดสินใจใช้พลังอาคมของตนเองเข้าช่วยในการรักษา ไดชิที่ถูกชนเผ่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนและขา ก็พยุงตัวเองมานั่งข้าง ๆ น้องสาว"ดาอิ...บาดแผลของนาย" ไดชิกล่าวด้วยความเป็นห่วง"ฉันไม่เป็นไรหรอกพี่ไดชิ" ดาอิส่ายหน้า เธอจ้องมองไปที่บาดแผลของไคลด์อย่างตั้งใจ ก่อนจะหลับตาลงเพื่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   เพลิงแค้นของชนเผ่า

    การเดินทางกลับหมู่บ้านเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับ ไคลด์ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ชายหนุ่มลึกลับคนนี้ยังคงเดินนำหน้าอย่างเงียบ ๆ ร่างกายของเขาสง่างามและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้เดินอยู่บนพื้นดิน แต่กำลังล่องลอยไปตามกระแสลม ไดชิและดาอิเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นและกังวลใจ"ไคลด์..." ไดชิเริ่มต้นบทสนทนาหลังจากที่เดินทางมาได้พักใหญ่ "นายช่วยบอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทะเลเมื่อวานนี้ คลื่นนั่นมันไม่ใช่คลื่นธรรมชาติใช่ไหม"ไคลด์ไม่หยุดเดิน แต่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยแต่แฝงด้วยความหนักแน่น "คลื่นนั้นคือ การปฏิเสธของจิตวิญญาณแห่งทะเล พวกมันไม่ยอมรับผู้ที่ไม่ได้มาจากท้องทะเลให้เข้าใกล้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าไม่ยอมแพ้...พวกมันจึงอนุญาตให้ข้าช่วยนำทางพวกเจ้ากลับมา""แล้วศรเพลิงที่ช่วยเราจากอสูรหินล่ะ" ดาอิถามอย่างกระตือรือร้น "นั่นเป็นของนายใช่ไหม"ไคลด์หันมามองพวกเขาเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำทะเลนั้นสบตาไดชิและดาอิอย่างช้า ๆ "ศรนั่นทำจาก ไม้แห่งภูเขาไฟ ที่ไม่ไหม้ไฟ และอาบด้วยพิษแห่งความมืดที่สามารถทำลายสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากพลังตกค้างได้...นั่นคือสิ่งที

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ร่องรอย

    หลังจากที่เรือกลับถึงฝั่งอย่างปลอดภัย ไดชิและดาอิรีบวิ่งขึ้นจากหาดทรายทันที หัวใจของพวกเขายังเต้นรัวจากความตื่นเต้นและความฉงนสนเท่ห์ที่ได้เห็นชายหนุ่มลึกลับคนนั้น ชายที่สามารถควบคุมพลังของทะเลและซ่อมแซมเรือได้ในพริบตา"เขา...เขาต้องเป็นผู้พิทักษ์คนต่อไปที่เราตามหาแน่ ๆ!" ดาอิกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดขีด"ใช่" ไดชิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "แต่เขาไม่ได้อยากให้เราเจอเลย และการที่เขาพาเรือเรากลับเข้าฝั่งอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หมายความว่าเขาอาจจะมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะแล้ว"สองพี่น้องตัดสินใจเริ่มต้นการตามล่าทันที โดยมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่พวกเขาเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสู่ถ้ำของปู่เฒ่าดาฟและหมู่บ้าน ซึ่งพวกเขาเดาว่าชายหนุ่มคนนั้นน่าจะไปที่นั่นก่อนเพื่อพบกับผู้อาวุโสอุปสรรคแรก: ลานหินอัปลักษณ์พวกเขาต้องผ่าน ลานหินอัปลักษณ์ ที่เต็มไปด้วยก้อนหินแหลมคมและเศษซากของต้นไม้ที่ตายแล้ว ซึ่งเคยเป็นอาณาเขตของปีศาจหินก่อนที่เกาะจะฟื้นฟู พวกเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะพื้นผิวที่ลื่นและไม่มั่นคง"ดาอิ ระวังให้ดี" ไดชิเตือนขณะที่ใช้มือจับดาบอาคม "พลังงานมืดที่นี่จางหายไปแล้ว แต่พลังอาคมของธาตุหิน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   คลื่นคำราม

    หลังจากผ่านบททดสอบที่โหดร้ายทั้งสองครั้ง ไดชิและดาอิก็เข้าใจแล้วว่าการค้นหาผู้พิทักษ์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นการ ทดสอบปัญญาและจิตวิญญาณ ของผู้ถูกเลือก ไดชิและดาอิใช้เวลาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่สามในการฝึกฝนร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วง พวกเขาตระหนักว่าอาคมของพวกเขาจำเป็นต้องผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างแท้จริงตามคำแนะนำของปู่เฒ่าดาฟและรูฟ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลของเกาะ พวกเขาจึงตัดสินใจพาเรือเล็กออกไปฝึกฝนกลางมหาสมุทร"ท่านปู่บอกว่าพลังที่แท้จริงของเกาะแสงอรุณไม่ได้อยู่บนพื้นดินเท่านั้น แต่อยู่ใน ท้องทะเลที่ลึกที่สุด ด้วย" ดาอิกล่าว ขณะที่เธอกำลังตรวจสอบผืนผ้าใบเรือที่ถูกเย็บอย่างแข็งแรง"ใช่" ไดชิกล่าวพร้อมกับดึงเชือกใบเรือให้ตึง ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยเหงื่อ "ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่มีกำแพงและไม่มีภาพลวงตา มีเพียงพลังงานบริสุทธิ์ของคลื่นและลมเท่านั้น"พวกเขาแล่นเรือออกไปไกลจากชายฝั่งหลายชั่วโมงจนมองไม่เห็นเกาะแล้ว มีเพียงผืนน้ำสีครามที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไดชิปิดตาลง พยายามใช้จิตสัมผัสถึงพลังอาคมที่แผ่กระจายอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่ดาอิฝึกร่ายคาถาควบคุมสายลม เพื่อให้เรือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status