공유

บททดสอบ

last update 최신 업데이트: 2025-06-30 23:48:45

ท้องฟ้าเหนือป่าทึบยังคงมืดมิดด้วยเงามืดของเมฆฝนที่รวมตัวกันหนาแน่น แต่ไม่มีฝนตกปรอยลงมา มีเพียงกระแสลมหนาวที่พัดเอาความเงียบงันและความกดดันอันหนักอึ้งมาปกคลุมผืนป่า อิจิและฮารุก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ร่างกายของอิจิยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลฉกรรจ์ที่สีข้าง แม้ฮารุจะใช้มนตราแห่งชีวิตเยียวยาไปแล้ว แต่พลังงานที่ร่อยหรอของเธอก็ไม่อาจฟื้นฟูเขาได้เต็มที่ ฮารุเองก็ดูซีดเซียวจากการใช้พลังที่เพิ่งตื่นขึ้นมานั้นอย่างหนักหน่วง

“นายไหวแน่นะอิจิ?” ฮารุเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“ไหวสิ… แค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก” อิจิฝืนยิ้ม เขากระชับดาบในมือแน่นขึ้น แม้จะรู้สึกชาไปทั้งแขน “ที่สำคัญคือเราต้องไปให้ถึงที่นั่น… ที่ที่ตำนานกล่าวขานว่าผ้ายันต์ผืนที่สองถูกเก็บซ่อนไว้”

บรรยากาศรอบตัวยิ่งทวีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมีบางสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังจับจ้องพวกเขาจากทุกทิศทุกทาง มีเพียงเสียงฝีเท้าของทั้งคู่ที่ย่ำไปบนใบไม้แห้งเท่านั้นที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ ความเงียบงันนั้นน่าขนลุกยิ่งกว่าเสียงคำรามของปีศาจ

“ฉันรู้สึกถึงพลังงานที่แข็งแกร่ง… อิจิ” ฮารุพึมพำ “มันไม่ใช่พลังงานมืดแบบปีศาจ… แต่มันยิ่งใหญ่และเก่าแก่กว่านั้นมาก”

อิจิพยักหน้าช้าๆ “ใช่… นั่นแหละคือพลังของผู้คุ้มกัน ผู้อยู่เหนือปีศาจทั้งปวง เป็นผู้พิทักษ์แห่งผ้ายันต์ และจะทดสอบความคู่ควรของผู้ที่ต้องการมัน”

ทันใดนั้นเอง ผืนป่าที่เคยเงียบสงัดก็พลันมีหมอกหนาทึบก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หมอกสีขาวขุ่นเคลื่อนตัวเข้ามาบดบังทัศนวิสัยจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใดที่อยู่ตรงหน้า เสียงลมพัดพาเอาเสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบาที่ไม่อาจจับใจความได้เข้ามาในโสตประสาท ราวกับมีวิญญาณนับร้อยกำลังพูดคุยกันอย่างไม่รู้จบ

“หมอกนี้… มันปิดกั้นทุกสิ่ง” ฮารุพูดเสียงสั่น เธอยื่นมือออกไปในความว่างเปล่าสัมผัสได้เพียงความเย็นเยียบที่กัดกินเข้ามาในกระดูก

“นี่ไม่ใช่หมอกธรรมดา… แต่มันคือประตู” อิจิกล่าวพลางกระชับดาบในมือแน่นขึ้น ดาบของเขาเปล่งประกายสีเงินจางๆ ท่ามกลางความมืดมิดของหมอก “ผู้คุ้มกันกำลังจะปรากฏตัวแล้ว”

ในชั่วพริบตาเดียว หมอกหนาทึบก็พลันก่อตัวรวมกันเป็นรูปร่าง ร่างนั้นสูงใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า มีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผาและลำตัวที่พันด้วยเถาวัลย์เขียวชอุ่ม ดวงตาของมันเปล่งประกายสีทองอร่ามราวกับดวงตะวัน มันสวมใส่ชุดเกราะโบราณที่ทำจากไม้และหินที่ประดับด้วยมอสส์และดอกไม้ป่า รูปร่างของมันดูสง่างามและเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างจากปีศาจอย่างสิ้นเชิง

“ผู้บุกรุกแห่งผืนป่า… เจ้ามีธุระอันใดในเขตศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้?” เสียงของมันดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ราวกับเสียงฟ้าร้องที่มาพร้อมกับลมหายใจของป่า แต่กลับแฝงไว้ด้วยความสงบและอำนาจที่ไม่อาจโต้แย้งได้

อิจิก้าวออกไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ยืนบังฮารุไว้ บาดแผลของเขาเต้นตุบๆ “เราไม่ได้มาเพื่อทำลาย… เรามาเพื่อขอผ้ายันต์โบราณที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่”

“ผ้ายันต์… เจ้ามนุษย์ต่ำต้อยกล้าเอ่ยถึงของศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นด้วยปากของเจ้าได้อย่างไร?” ผู้คุ้มกันกล่าว น้ำเสียงของมันแฝงด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน “ของสิ่งนั้นถูกปกป้องมานับพันปี และจะไม่มีวันตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่คู่ควร”

“เราไม่ได้ไร้ค่า!” ฮารุพูดขึ้นมาอย่างกล้าหาญ เธอก้าวออกมาจากด้านหลังของอิจิ ใบหน้าของเธอแม้จะซีดเซียวแต่แววตากลับมุ่งมั่น “เราต้องการผ้ายันต์เพื่อปกป้องโลกนี้จากหายนะที่กำลังจะมาถึง!”

ผู้คุ้มกันจ้องมองฮารุด้วยดวงตาสีทองที่เปล่งประกายเจิดจ้า “หายนะ… เจ้ามนุษย์หญิงผู้นี้มีกลิ่นอายของพลังโบราณ… พลังที่ถูกผนึกมานานนับพันปี… พลังแห่งชีวิตที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใด” มันยื่นมือขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยมอสส์และก้อนหินมาทางฮารุ “มันคือแสงนำทางสู่การตื่นของ… ‘ผู้สร้าง’”

“พลังอะไร?!” ฮารุถามด้วยความตกใจ เสียงของเธอสั่นเครือ “ผู้สร้างงั้นหรือ?”

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรจะรู้ในตอนนี้…” ผู้คุ้มกันตอบ ดวงตาของมันหันกลับมามองอิจิอีกครั้งอย่างเคร่งขรึม “แต่หากเจ้าต้องการผ้ายันต์ผืนนั้น… เจ้าจะต้องพิสูจน์ตนเองให้คู่ควรด้วยการผ่านบททดสอบทั้งสาม”

“บททดสอบทั้งสามงั้นหรือ?!” อิจิขมวดคิ้ว “นายหมายความว่ายังไง?”

“บททดสอบแรกคือ ‘บททดสอบแห่งพละกำลัง’ จงแสดงให้ข้าเห็นถึงความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณอันไม่ย่อท้อของเจ้า!” ผู้คุ้มกันประกาศก้อง ร่างกายของมันเริ่มเปล่งประกายสีทองเจิดจ้า ราวกับดวงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ พลังงานบริสุทธิ์แผ่ออกมาจนผืนป่ารอบข้างสั่นสะท้าน

ทันใดนั้น ผู้คุ้มกันก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ ร่างใหญ่โตของมันเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วราวกับพยัคฆ์ที่ออกล่า กรงเล็บที่ทำจากหินแกร่งพุ่งตรงเข้ามายังอิจิ

เคร้ง!

อิจิยกดาบขึ้นป้องกันได้ทันท่วงที แต่แรงปะทะมหาศาลก็ทำให้เขาต้องก้าวถอยหลังไปหลายก้าว กล้ามเนื้อแขนของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง บาดแผลที่สีข้างส่งสัญญาณเตือนถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

“แข็งแกร่งกว่าปีศาจเมื่อกี้หลายเท่า!” อิจิพึมพำ เขาพยายามตั้งหลัก แต่ผู้คุ้มกันก็ไม่ปล่อยโอกาส มันโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

“อิจิ! ระวัง!” ฮารุร้องเตือน เมื่อผู้คุ้มกันเหวี่ยงหมัดหินยักษ์เข้าใส่ศีรษะของอิจิอย่างจัง

อิจิก้มตัวหลบได้อย่างหวุดหวิด หมัดของผู้คุ้มกันพุ่งผ่านไปกระทบต้นไม้ใหญ่เบื้องหลัง เสียงดังสนั่น ต้นไม้ทั้งต้นขาดครึ่งในชั่วพริบตา เศษไม้และใบไม้ปลิวว่อนไปทั่ว

“นี่แหละคือบททดสอบแห่งความแข็งแกร่ง… จงแสดงให้ข้าเห็นถึงขีดจำกัดของเจ้า!” เสียงของผู้คุ้มกันดังก้อง ทว่าไม่มีความโกรธเคืองในน้ำเสียง มีเพียงความเด็ดเดี่ยวและมั่นคงเท่านั้น

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด อิจิพยายามใช้ความเร็วและเทคนิคในการหลบหลีกและสวนกลับ แต่ผู้คุ้มกันก็รวดเร็วและแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้เพียงลำพัง บาดแผลเก่าที่สีข้างเริ่มฉีกขาด เลือดซึมออกมาเรื่อยๆ ทำให้เขาต้องกัดฟันอดทนและใช้สมาธิทั้งหมดที่มีเพื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่า

“มันไม่สนใจจะทำร้ายฉันจริงๆ… มันแค่ทดสอบพลัง” อิจิคิดในใจ เขาสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่ผู้คุ้มกันโจมตี มันจะหยุดการโจมตีลงเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะถึงตัวเขา เพื่อไม่ให้สร้างบาดแผลถึงชีวิต แต่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาลของมัน

“อิจิ! ตรงหน้าอกของมัน!” ฮารุตะโกนบอก เธอสังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่ผู้คุ้มกันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จะมีแสงสีทองจางๆ เปล่งออกมาจากกลางหน้าอกของมันเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น

อิจิได้ยินคำพูดของฮารุ เขานึกย้อนไปถึงจุดอ่อนของปีศาจตัวก่อนหน้า “เข้าใจแล้ว!”

เขาเปลี่ยนกลยุทธ์ เขาไม่ได้เน้นการสร้างความเสียหาย แต่เน้นการเบี่ยงเบนความสนใจและสร้างช่องว่างให้ตัวเอง อิจิพุ่งเข้าใส่ผู้คุ้มกันอย่างบ้าคลั่ง ใช้ดาบฟันเข้าที่แขนและขาของมันอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่สร้างบาดแผล แต่ก็เพียงพอที่จะรบกวนจังหวะการเคลื่อนไหวของมันและทำให้มันเปิดช่องว่าง

“เจ้ามันโง่เขลา! การโจมตีเช่นนี้ไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้ข้าได้หรอก!” ผู้คุ้มกันคำราม แววตาของมันยังคงมั่นคง แต่ก็มีความประหลาดใจเจืออยู่เล็กน้อย

“งั้นลองนี่ดูเป็นไง!” อิจิสวนกลับ เขาใช้จังหวะที่ผู้คุ้มกันกำลังหัวเสียจากการโจมตีของเขา พุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ ดาบของเขาเปล่งประกายสีเงินเจิดจ้า

“ผนึกอสูร! ดาบสะบั้นเงา!” อิจิคำรามลั่น เขารวบรวมพลังทั้งหมดที่ปลายดาบ พุ่งตรงไปยังกลางหน้าอกของผู้คุ้มกัน

ฉัวะ!

คมดาบของอิจิปักลึกเข้าไปในกลางหน้าอกของผู้คุ้มกัน แสงสีทองจากร่างของมันพลันสว่างวาบขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนที่จะจางหายไปในชั่วพริบตา ร่างของมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

“เจ้า… เจ้าผ่านบททดสอบแรก…” ผู้คุ้มกันพึมพำ เสียงของมันอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ร่างของมันจะสลายกลายเป็นละอองแสงสีทองปลิวหายไปในอากาศช้าๆ

ฮารุเดินเข้ามาหาอิจิอย่างรวดเร็ว เธอสังเกตเห็นว่าอิจิทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง หอบหายใจอย่างหนัก บาดแผลที่สีข้างฉีกขาดหนักกว่าเดิม เลือดไหลออกมาไม่หยุด

“อิจิ! นายต้องอดทนไว้!” ฮารุพูด น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว “ฉัน… ฉันจะช่วยนาย!”

เธอรวบรวมสมาธิ พลังงานสีฟ้าอ่อนๆ เริ่มแผ่ออกมาจากปลายนิ้วของเธออีกครั้ง เธอยื่นมือออกไปวางทาบลงบนบาดแผลของอิจิ

“ดวงจิตแห่งชีวิต พลังแห่งธรรมชาติ จงหลอมรวม… ฟื้นฟูบาดแผล!” ฮารุร่ายคาถา เสียงของเธอแผ่วเบา แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและแรงปรารถนาที่จะช่วยอิจิ

แต่คราวนี้ดูเหมือนพลังของเธอจะไม่เพียงพอ แสงสีฟ้าอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด บาดแผลของอิจิไม่ได้ปิดสนิทเหมือนครั้งก่อน มีเพียงเลือดที่ไหลช้าลงเท่านั้น

“ไม่… ไม่ได้ผลดีเท่าครั้งก่อน” ฮารุพูดขึ้นด้วยความท้อแท้ “ฉันใช้พลังมากเกินไปแล้ว…”

“ไม่เป็นไรหรอกฮารุ…” อิจิพูดขึ้นอย่างอ่อนแรง “อย่างน้อย… ก็พอให้ฉันมีเวลาพักได้บ้าง”

เขาพยายามยันตัวเองลุกขึ้นยืน ฮารุรีบช่วยประคองเขาอย่างระมัดระวัง พวกเขาเดินโซซัดโซเซไปตามทางที่เคยเป็นที่ยืนของผู้คุ้มกัน

และสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของพวกเขาก็ทำให้ทั้งคู่เบิกตากว้าง

มันคือแท่นหินโบราณที่ตั้งอยู่ตรงกลาง บริเวณที่ผู้คุ้มกันยืนอยู่ แท่นหินนั้นถูกแกะสลักอย่างประณีต มีสัญลักษณ์โบราณที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ และภายในช่องสลักนั้น มี ผ้ายันต์โบราณผืนหนึ่ง วางอยู่ มันเปล่งประกายสีเงินจางๆ ราวกับดวงจันทร์ที่กำลังจะเต็มดวง

“ผ้ายันต์ผืนที่สอง…” ฮารุพึมพำ เธอเดินเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง

อิจิเดินเข้าไปใกล้แท่นหิน เขาเอื้อมมือไปหยิบผ้ายันต์ผืนนั้นขึ้นมา เมื่อสัมผัส ผ้ายันต์ก็เรืองแสงสีขาวสว่างจ้าขึ้นมาทันที แสงนั้นเจิดจ้ากว่าผืนแรกหลายเท่า ราวกับมีชีวิตอยู่และกำลังตอบสนองต่อการสัมผัสของเขา

“มันคือผืนที่สองจริงๆ ด้วย…” อิจิพูดขึ้นด้วยความดีใจ แต่ความดีใจนั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าตกใจ

บนผ้ายันต์ผืนที่สองนั้น มีสัญลักษณ์ที่คุ้นเคยปรากฏอยู่… สัญลักษณ์ที่คล้ายกับดวงตาที่ปรากฏบนผ้ายันต์ผืนแรก แต่คราวนี้ มันถูกล้อมรอบด้วยวงแหวนแห่งการผนึกที่ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม

และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ใต้สัญลักษณ์นั้น มีอักษรโบราณจารึกไว้อย่างชัดเจน อิจิพยายามอ่านมันอย่างช้าๆ แม้จะรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่าง

“เมื่อดวงจันทร์สีเลือดปรากฏ… พันธนาการจะคลายลง… อสูรแห่งหายนะจะตื่นขึ้น… ผู้ถือครองพลังแห่งชีวิต จะเป็นกุญแจ… และผู้กล้าหาญจะถูกทดสอบ…”

อิจิอ่านจบ เขาสีหน้าซีดเผือด “ดวงจันทร์สีเลือด… อสูรแห่งหายนะ… นี่มันเกี่ยวกับนิมิตของเธอฮารุ”

ฮารุเดินเข้ามาใกล้ เธออ่านข้อความบนผ้ายันต์ด้วยความตกใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “มันหมายความว่า… ปีศาจที่เราเห็นในนิมิตกำลังจะตื่นขึ้นมาจริงๆ เหรอ? และฉัน… ฉันคือผู้ถือครองพลังแห่งชีวิตงั้นหรือ?”

“ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น…” อิจิตอบ “ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้เป็นแค่แผนที่ แต่มันเป็นคำทำนาย… และคำเตือน”

“แล้ว… พันธนาการจะคลายลงหมายความว่าไง?” ฮารุถาม น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย

“ฉันไม่แน่ใจ… แต่จากที่อ่านมา ดูเหมือนว่าปีศาจตนนั้นจะถูกผนึกไว้ด้วยผ้ายันต์เหล่านี้” อิจิอธิบาย “และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม หรือเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น… พันธนาการก็จะคลายลง และมันก็จะตื่นขึ้นมา”

“แล้วเราต้องหาผ้ายันต์อีกกี่ผืนถึงจะหยุดมันได้?” ฮารุถามด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

อิจิพลิกผ้ายันต์ผืนที่สองไปมา เขานำผ้ายันต์ผืนแรกที่ได้มาออกมาวางคู่กัน สัญลักษณ์บนผ้ายันต์ทั้งสองผืนเมื่อนำมาวางรวมกันแล้วก็ยังไม่สมบูรณ์ มันยังคงมีช่องว่างที่หายไป

“ดูเหมือนว่าจะมีทั้งหมดสี่ผืน” อิจิพึมพำ “แต่ละผืนจะซ่อนอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างกัน และถูกปกป้องโดยผู้คุ้มกันที่แตกต่างกันออกไป”

“สี่ผืนเลยเหรอ?!” ฮารุอุทานด้วยความตกใจ “นั่นมันเยอะมากนะ!”

“แต่เราก็หามาได้สองผืนแล้ว” อิจิพยายามพูดให้กำลังใจ “เหลืออีกสองผืนเท่านั้น”

“แต่… เราจะรู้ได้ยังไงว่าผ้ายันต์ผืนต่อไปอยู่ที่ไหน?” ฮารุถาม “และเราจะรู้ได้ยังไงว่ามันคือผืนสุดท้าย?”

อิจิเงียบไปชั่วขณะ เขาจ้องมองไปยังสัญลักษณ์บนผ้ายันต์ผืนที่สองอย่างครุ่นคิด “ฉันคิดว่า… สัญลักษณ์บนผ้ายันต์แต่ละผืนน่าจะบอกใบ้ถึงตำแหน่งของผืนต่อไป”

เขาชี้ไปที่สัญลักษณ์บนผ้ายันต์ผืนที่สอง “ดูนี่สิ… สัญลักษณ์นี้คล้ายกับภูเขาที่มีลำธารไหลผ่าน… หรือไม่ก็ถ้ำที่มีน้ำตก”

“นายหมายความว่า… เราต้องไปตามหาสถานที่ที่มีลักษณะแบบนี้งั้นเหรอ?” ฮารุถาม ดวงตาของเธอเริ่มฉายแววความเข้าใจ

“ใช่… แต่เราก็ต้องระวังตัวให้ดีกว่าเดิม” อิจิตอบ “ปีศาจที่เจอเมื่อกี้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนว่ามันจะรู้ถึงแผนการของเราด้วย”

“แล้วบาดแผลของนายล่ะอิจิ?” ฮารุถามด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่งยวด “นายยังบาดเจ็บหนักอยู่นะ”

“ฉันจะพักอีกสักหน่อยก็คงจะดีขึ้น” อิจิพูดขึ้น เขาพยายามขยับตัว แต่ก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดรุนแรง “ที่สำคัญตอนนี้คือเราต้องรีบหาผ้ายันต์ที่เหลือให้เจอ”

“แต่ฉันไม่อยากให้นายต้องมาเจ็บตัวไปมากกว่านี้แล้ว” ฮารุพูด น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความรู้สึกผิด “นายไม่ต้องปกป้องฉันคนเดียวหรอกนะ… ฉันเองก็อยากจะช่วยนายด้วย”

อิจิหันมามองฮารุ ดวงตาของเขาฉายแววความอบอุ่นที่อ่อนโยน “ฉันรู้… และฉันก็เชื่อในพลังของเธอ”

เขาพับผ้ายันต์ทั้งสองผืนเก็บเข้ากระเป๋าเสื้ออย่างระมัดระวัง พวกเขานั่งพักอยู่ตรงนั้นอีกพักใหญ่ เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ และวางแผนสำหรับเส้นทางข้างหน้า

“เราควรจะกลับไปที่หมู่บ้านนั้นก่อนดีไหมอิจิ?” ฮารุเสนอ “เราอาจจะพอหาข้อมูลเพิ่มเติมจากชาวบ้านที่รอดชีวิตได้บ้าง… หรือบางทีศาลเจ้าอาจจะบอกอะไรได้อีก”

อิจิพยักหน้าช้าๆ “นั่นเป็นความคิดที่ดี… เราต้องการข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

พวกเขาออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้ากลับไปยังหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้าง แต่คราวนี้ด้วยความมุ่งมั่นที่แรงกล้ากว่าเดิม พวกเขาได้ผ้ายันต์ผืนที่สองมาแล้ว และได้รู้ถึงคำทำนายที่น่าสะพรึงกลัว อิจิรู้ดีว่าเส้นทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอันตรายและบททดสอบที่โหดร้ายยิ่งกว่าเดิม แต่เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันทุกอย่าง ตราบใดที่มีฮารุอยู่เคียงข้าง และความหวังที่จะปกป้องโลกยังคงอยู่

“นายคิดว่าเราจะทำสำเร็จไหมอิจิ?” ฮารุถามขึ้นมาเบาๆ เมื่อพวกเขาเดินออกมาจากผืนป่าที่เต็มไปด้วยหมอก สายตาของเธอมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่เริ่มมีแสงสีส้มของรุ่งอรุณปรากฏขึ้น

“เราต้องทำสำเร็จฮารุ” อิจิตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขามองไปยังดวงอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า “เพื่ออนาคตของโลกใบนี้… และเพื่อทุกชีวิตที่กำลังจะตกอยู่ในอันตราย เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะ”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   ปริศนา

    ปดปีผ่านไปนับจากเหตุการณ์บน เกาะแห่งม่านหมอก โลกยังคงสงบสุขภายใต้การดูแลของ อิจิ และ ฮารุ พวกเขายังคงทำหน้าที่ผู้พิทักษ์แห่งสมดุลอย่างเงียบๆ ฮารุในวัย 26 ปี กลายเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาชุมชนให้กับเมืองหลวง เธอใช้ความเข้าใจในธรรมชาติของผู้คนและความผูกพันกับผืนดินในการช่วยฟื้นฟูหมู่บ้านและส่งเสริมการศึกษา อิจิในวัย 30 ปี ยังคงเป็นองครักษ์เงาที่แข็งแกร่งและรอบคอบ แต่บทบาทของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากผู้ปกป้องส่วนตัวของฮารุ เขากลายเป็นผู้ดูแลความมั่นคงของเมือง คอยสืบสวนเหตุการณ์แปลกประหลาดที่อาจคุกคามความสงบสุขของประชาชน ผ้ายันต์แห่งความจริงที่เคยเป็นกุญแจสำคัญในการผจญภัยครั้งก่อนๆ บัดนี้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในหอคอยแห่งปัญญาของเมืองหลวง เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้และความจริงที่ไม่มีวันถูกลืมแม้โลกจะสงบสุข แต่ภายในใจของอิจิกลับมีความรู้สึกบางอย่างค้างคามาตลอด เขาไม่เคยลืมคำพูดของ ‘ผู้ตื่น’ ที่ว่า “ข้าจะกลับมา!” และความรู้สึกของเขาบอกว่าความสงบสุขนี้อาจเป็นเพียงม่านบังตา“อิจิ นายยังคงกังวลเรื่องนั้นอยู่หรือเปล่า?” ฮารุถามในขณะที่พวกเขากำลังเดินเล่นในสวนของวังหลวง แสงจันทร์สาดส่องลงมาต้องใบ

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   2ปี

    สองปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝัน อิจิ และ ฮารุ กลับมาใช้ชีวิตที่เงียบสงบในเมืองหลวงของสยามประเทศ เมืองที่เคยถูกม่านหมอกแห่งการลืมเลือนปกคลุม บัดนี้กลับมาคึกคักและสดใสกว่าเดิม ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แม้บาดแผลจากอดีตจะยังคงอยู่ แต่พวกเขาก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและสร้างอนาคตที่ดีกว่า ฮารุในวัย 18 ปี เติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงามและเปี่ยมด้วยจิตใจที่เมตตา เธอทุ่มเทเวลาให้กับการสอนหนังสือเด็กๆ ในหมู่บ้านที่เคยถูกทำลาย และช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา แม้พลังแห่งชีวิตจะหายไปจนหมดสิ้น แต่จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์และเข้มแข็งของเธอกลับเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม อิจิยังคงเป็นองครักษ์เงาของเธอ คอยปกป้องเธอจากห่างๆ และเฝ้ามองการเติบโตของเธอด้วยความภาคภูมิใจ เขารู้สึกถึงความสงบสุขที่แท้จริงที่เขาไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน“อาจารย์ฮารุ! วันนี้จะเล่านิทานเรื่องอะไรให้ฟังคะ?!” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งดังขึ้น เด็กๆ หลายคนมารวมตัวกันรอบๆ ฮารุ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังฮารุยิ้มอ่อนโยน “วันนี้อาจารย์จะเล่าเรื่องของ ผู้กล

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   ไม่ส่าจะเกิดอะไร

    แสงแรกของอรุณรุ่งสาดส่องเข้ามาในศาลเจ้าโบราณที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของป่า อิจิ และ ฮารุ ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของพวกเขามีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการผจญภัยที่ยาวนาน แต่ดวงตาของทั้งคู่ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว หลังจากการเดินทางผ่าน เมืองแห่งความทรงจำ และการเผชิญหน้ากับ ‘ผู้พิทักษ์’ ที่ถูกควบคุมโดย ‘ผู้ตื่น’ พวกเขาได้รับรู้ถึงแผนการอันชั่วร้ายของ ‘ผู้ตื่น’ ที่ต้องการจะลบเลือนความทรงจำของมนุษย์เกี่ยวกับอดีตทั้งหมด เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่มันคือผู้ปกครองสูงสุด“เราจะทำลาย ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ ได้ยังไงอิจิ?” ฮารุถาม น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา เธอวางผ้ายันต์แห่งความจริงลงบนฝ่ามือ มันเป็นเพียงแผ่นผ้าเก่าๆ ธรรมดาๆ ไม่มีแสงเรืองรองใดๆ เหลืออยู่แล้วอิจิหยิบผ้ายันต์ขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์ “ไคบอกว่าพลังของเธอที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณแห่งความทรงจำที่แท้จริงคือกุญแจ… และการทำลายคำสาปนี้จะต้องแลกด้วยพลังแห่งชีวิตของเธอทั้งหมด”“ฉันรู้… และฉันก็พร้อมที่จะเสียสละมัน” ฮารุกล่าว ดวงตาของเธอฉายแววแน่วแน่ “ฉันจะไม่ยอมให้ความจริงถูกบิดเบือนไปตลอดก

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   แน่ใจ

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือยอดเขาไฟอัคคีแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานยาม ดวงจันทร์สีเลือด โคจรขึ้นมาเต็มดวง แสงสีโลหิตอาบไล้ทิวทัศน์รอบข้างให้ดูน่าขนลุกยิ่งกว่าเดิม เสียงคำรามกึกก้องจากปากปล่องภูเขาไฟดังกึกก้องไม่หยุดหย่อน ราวกับเสียงหายใจอันหนักหน่วงของอสูรร้ายที่กำลังจะตื่นจากการหลับใหลที่ยาวนานนับพันปี กลิ่นกำมะถันและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ยิ่งสร้างความกดดันอันหนักอึ้งให้แก่ อิจิ และ ฮารุ ที่กำลังปีนป่ายขึ้นสู่ยอดเขา“อีกนิดเดียวอิจิ! เราจะไปถึงแล้ว!” ฮารุตะโกนบอก เสียงของเธอสั่นเครือจากความเหนื่อยล้าและความหวาดกลัว แต่ดวงตาของเธอยังคงเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น ผ้ายันต์แห่งความจริงที่สถิตอยู่ในฝ่ามือของเธอเรืองแสงสีรุ้งอ่อนๆ ตอบรับกับพลังงานมหาศาลของดวงจันทร์สีเลือด“ฉันรู้ฮารุ… ฉันสัมผัสได้ถึงมัน” อิจิตอบ เขาปีนป่ายก้อนหินที่แหลมคมอย่างรวดเร็ว แม้ร่างกายจะยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ แต่จิตใจของเขามุ่งมั่นกว่าครั้งไหนๆ ดาบในมือของเขาเปล่งประกายสีเงินจางๆ พร้อมรับมือกับทุกสิ่งลมพายุโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นบนยอดเขา เสียงกรีดร้องโหยหวนคล้ายเสียงวิญญาณดังมาจากปากปล่องภูเขาไฟที่กำลังคุกรุ่น ลาวาสีแดงฉา

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   รหัสลับ

    สายลมแห่งยามรุ่งอรุณพัดโชยมาปะทะร่าง อิจิ และ ฮารุ ที่ยืนอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ แสงแรกของดวงอาทิตย์สาดส่องลงมายังทิวทัศน์เบื้องหน้า เผยให้เห็นยอดเขาไฟที่สูงเสียดฟ้า มันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าดิบชื้นที่พวกเขาเพิ่งฝ่าฟันออกมา หมอกจางๆ ลอยปกคลุมรอบฐานของภูเขาไฟราวกับผ้าห่มสีขาว กลิ่นกำมะถันจางๆ ลอยมาตามลมเป็นสัญญาณเตือนถึงพลังงานที่ไม่สงบนิ่งที่อยู่ภายใน“นั่นแหละ… ยอดเขาไฟ” ฮารุพึมพำ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “มันดูน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะอิจิ”อิจิพยักหน้า สีหน้าของเขาเคร่งเครียด “ใช่… พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากที่นั่นมันมหาศาลมาก ‘ผู้ตื่น’ กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาในไม่ช้า”ผ้ายันต์แห่งความจริงที่ผนึกอยู่ในฝ่ามือของฮารุเรืองแสงจางๆ เป็นการยืนยันถึงความรู้สึกของอิจิ พวกเขามีเวลาเพียงสองราตรีเท่านั้นก่อนที่ ดวงจันทร์สีเลือด จะปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พันธนาการของ ‘ผู้ตื่น’ จะอ่อนแอที่สุด“เราต้องไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด” อิจิกล่าว “และเราต้องหารหัสลับแห่งบรรพกาลให้เจอด้วย”“รหัสลับนั่น… มันอยู่ที่ไหนกันนะ?” ฮารุถาม “จิตวิญญาณแห่งต้นไม้บอกแค่ว่ามันอยู่ในผืนป่าแห่งนี้

  • 5/B เมืองร้างต้องคำสาปที่หายสาปสูญ   การบาดเจ็บ

    คืนเดือนมืดปกคลุมผืนป่าดิบชื้นทางตอนเหนือของสยามประเทศ แสงจันทร์แทบไม่สามารถส่องผ่านม่านไม้หนาทึบลงมาได้ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงม และเสียงลมกระโชกแรงที่พัดกิ่งไม้ใบหญ้าให้เสียดสีกันเป็นระยะ ราวกับเสียงกระซิบกระซาบจากวิญญาณแห่งป่า อิจิและฮารุยังคงก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ร่างกายของอิจิอ่อนล้าจากบาดแผลที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ ส่วนฮารุก็ดูซีดเซียวจากการใช้พลังแห่งชีวิตครั้งล่าสุด แต่ดวงตาของทั้งคู่ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะค้นหาผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ปรากฏในนิมิตของฮารุ“อากาศที่นี่มันแปลกๆ นะอิจิ” ฮารุพึมพำ น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา “มันเย็นยะเยือกกว่าที่ควรจะเป็น… เหมือนมีบางอย่างกำลังจับจ้องเราอยู่”“ใช่… ฉันก็รู้สึกได้” อิจิตอบ เขากระชับดาบในมือแน่นขึ้น “พลังงานที่นี่ไม่ใช่พลังงานของปีศาจ แต่มันเป็นพลังที่เก่าแก่กว่านั้น… ลึกซึ้งกว่านั้น”ตามนิมิตของฮารุ ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายถูกซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้โบราณที่สูงเสียดฟ้าในป่าลึกแห่งนี้ ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วบริเวณ และมีแสงสีม่วงเข้มเปล่งออกมาจากรากของมัน“เรามาถูกทางแล้วใช่ไหมอิจิ?” ฮารุถาม“ฉันหวังว่าอย่างนั้นฮารุ” อิจ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status