ฟูมิโกะช่วยพยุงร่างของเก็นให้เดินไปตามทางเดินที่มืดมิดอย่างช้าๆ ทุกก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง แม้เก็นจะยังอ่อนแรงมาก แต่เขาก็พยายามเดินด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของเธอมากเกินไป ฟูมิโกะมองดูบาดแผลที่แขนของเขา มันดูแย่ลงกว่าเดิมมาก เลือดสีคล้ำยังคงซึมออกมา และรอยดำคล้ำรอบแผลก็ลามขึ้นไปถึงต้นแขนแล้ว
“ไหวไหมเก็น? อีกนิดเดียวก็จะถึงห้องผ่าตัดแล้ว” ฟูมิโกะถามด้วยความเป็นห่วง เสียงของเธอแฝงความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เก็นพยักหน้าช้าๆ “ไหว… ฉันไหว…” เสียงของเขาแหบพร่า “แค่… รู้สึกเหมือนพลังงาน… กำลังจะหมดไป…” ฟูมิโกะเม้มริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่าเก็นกำลังหมายถึงอะไร พลังชีวิตของเขากำลังถูกดูดกลืนไปอย่างช้าๆ โดยสิ่งที่อยู่ในบาดแผล ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงประตูห้องผ่าตัดที่ฟูมิโกะเคยเจอ ประตูบานเก่าที่ขึ้นสนิมเปิดอ้าอยู่เล็กน้อย เผยให้เห็นความมืดมิดและกลิ่นคาวที่รุนแรงกว่าเดิม “เข้ามาก่อนเก็น” ฟูมิโกะบอก เธอช่วยประคองเขาเข้าไปในห้องผ่าตัดที่เต็มไปด้วยเงาตะคุ่มๆ ของอุปกรณ์แพทย์เก่าๆ ที่วางทิ้งเกลื่อนกราด เธอใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือส่องนำทาง พยายามหาโต๊ะหรือเตียงที่พอจะให้เก็นนอนพักได้ เก็นทรุดตัวลงนั่งบนเตียงผ่าตัดที่ขึ้นสนิมตัวหนึ่ง ฟูมิโกะรีบเปิดไฟฉายบนมือถือของเธอส่องไปที่บาดแผลของเขา ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพของมันชัดๆ ผิวหนังบริเวณรอบบาดแผลเริ่มมีสีเขียวคล้ำ และมีเส้นใยสีดำบางๆ คล้ายรากไม้กำลังงอกออกมาจากบาดแผล “นี่มัน… แย่กว่าที่คิดอีก!” ฟูมิโกะพึมพำด้วยความตกใจ เธอไม่เคยเห็นอาการแบบนี้มาก่อน “ฉัน… ฉันไม่เป็นไร…” เก็นพยายามจะพูด แต่เสียงของเขาแผ่วลงเรื่อยๆ ฟูมิโกะไม่มีเวลาลังเล เธอรีบกวาดไฟฉายไปรอบๆ ห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว พยายามหาสิ่งของที่พอจะใช้ทำแผลได้ เธอเปิดลิ้นชักทุกบาน เปิดตู้ยาเก่าๆ ที่อยู่ตามผนัง “ต้องมีสิ… ต้องมีอะไรสักอย่าง…” เธอพึมพำกับตัวเองด้วยความร้อนรน และแล้ว ฟูมิโกะก็เจออุปกรณ์รักษาพยาบาลที่พอจะใช้ได้ในตู้! มันเป็นกล่องโลหะเก่าๆ ที่ภายในบรรจุขวดยาฆ่าเชื้อสีน้ำตาล ผ้าพันแผลที่ยังไม่แกะห่อ และเข็มฉีดยาเก่าๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ มี ขวดแก้วเล็กๆ ที่บรรจุของเหลวสีทองอำพัน และมีอักขระโบราณสลักอยู่เต็มขวด “นี่มัน… ยาอาคม!” ฟูมิโกะอุทานด้วยความตื่นเต้น เธอจำได้ว่าเคยเห็นภาพของเหลวแบบนี้ในตำราโบราณที่บ้าน มันเป็นยาที่ใช้ชำระล้างพลังงานชั่วร้ายและฟื้นฟูร่างกาย ขณะที่เธอกำลังจะเปิดขวดยาฆ่าเชื้อ เพื่อทำความสะอาดบาดแผลให้เก็น จู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงลมพัด! เสียงลมที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลมธรรมดา แต่เป็นเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างเล็กๆ ของประตูห้องผ่าตัด และหอบเอา กลิ่นเหม็นเน่าที่รุนแรง และ กลิ่นคาวสนิม ที่คละคลุ้งเข้ามาในห้อง ฟูมิโกะตัวแข็งทื่อ เธอเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องผ่าตัด เสียงลมที่พัดเข้ามานั้นไม่ใช่ลมธรรมชาติ แต่เป็นลมที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก! และสิ่งที่ทำให้เธอใจหายวาบก็คือ กลิ่นวิญญาณที่เริ่มอ่อนแอของเก็น กำลังดึงดูดพวกมันเข้ามา! “พวกมันมาแล้ว!” ฟูมิโกะร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอลืมเรื่องการทำแผลไปชั่วขณะ เธอรีบพุ่งตัวไปที่ประตูห้องผ่าตัดทันที โครม! ฟูมิโกะใช้แรงทั้งหมดที่มี ปิดประตูห้องอย่างแรง เสียงเหล็กเก่าๆ กระทบกันดังสนั่นหวั่นไหว “ฟูมิโกะ! เกิดอะไรขึ้น?!” เก็นพยายามถาม แต่เสียงของเขาก็แผ่วลงไปอีก “พวกมันตามมาได้กลิ่นนาย!” ฟูมิโกะตะโกนตอบ เธอรีบหยิบผ้ายันต์ทั้งสองผืนที่เธอมีออกมาจากกระเป๋า ติดผ้ายันต์ทั้งสองผืนที่ประตูทันที! ผ้ายันต์ผืนแรกที่ใช้ดูดวิญญาณชั่วร้าย และผ้ายันต์ผืนที่สองที่ใช้ป้องกันและขับไล่ แสงสีขาวนวลและแสงสีฟ้าอ่อนๆ แผ่ออกมาจากผ้ายันต์ คลุมประตูเอาไว้ราวกับเกราะป้องกัน มันเป็น เวลาฉิวเฉียด! ปัง! ปัง! ปัง! ทันทีที่ฟูมิโกะติดผ้ายันต์เสร็จ พวกเงาปีศาจต่างก็บุกมาที่หน้าห้อง! เสียงทุบประตูดังสนั่นหวั่นไหวราวกับจะทำให้ประตูหลุดออกมาจากวงกบ เสียงคำรามและเสียงกรีดร้องที่น่าสะพรึงกลัวดังลั่นไปทั่วบริเวณ และฟูมิโกะก็สัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่รุนแรงจากพลังงานมืดมิดที่พุ่งชนประตูอย่างไม่หยุดหย่อน “ฮึ่ม! เข้ามาไม่ได้หรอก!” ฟูมิโกะตะโกนตอบไป แม้จะรู้สึกหวาดกลัว แต่ก็พยายามยืนหยัดอยู่ให้ได้ “กรรรร์!” เสียงคำรามของเงาปีศาจดังสนั่นมากขึ้น มันพยายามพุ่งชนประตูอย่างบ้าคลั่ง แต่ผ้ายันต์ทั้งสองผืนก็ยังคงต้านทานไว้ได้ แสงจากผ้ายันต์กระพริบถี่ขึ้น แสดงให้เห็นว่ามันกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันการรุกราน ฟูมิโกะไม่มีเวลาจะเสียอีกแล้ว เธอหันกลับไปหาเก็นที่นอนอยู่บนเตียง มือของเธอสั่นเทาเล็กน้อย แต่เธอก็ต้องทำให้สำเร็จ จากนั้น ฟูมิโกะเริ่มทำแผลให้เก็น เธอทำความสะอาดบาดแผลด้วยยาฆ่าเชื้ออย่างระมัดระวัง แม้เก็นจะส่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวด เธอก็ต้องทำ เธอเห็นเส้นใยสีดำคล้ายรากไม้ที่งอกออกมาจากแผล เธอดึงมันออกอย่างช้าๆ แต่ละเส้นใยที่ถูกดึงออกมาก็ทำให้เก็นส่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวด “ขอโทษนะเก็น… แต่ฉันต้องทำ…” ฟูมิโกะเอ่ยเสียงแผ่ว น้ำตาเอ่อคลอ เธอหยิบขวดแก้วเล็กๆ ที่บรรจุของเหลวสีทองอำพันออกมา ยาอาคม! เธอเปิดจุกขวดออก แล้วค่อยๆ เทของเหลวสีทองนั้นลงบนบาดแผลของเก็น ฟู่! ทันทีที่ของเหลวสีทองสัมผัสกับบาดแผล มันก็ส่งเสียงฟู่คล้ายน้ำเดือดคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสมุนไพรโบราณ และสิ่งที่น่าประหลาดใจคือ เส้นใยสีดำคล้ายรากไม้ที่งอกออกมาจากบาดแผลนั้นก็เริ่มหดตัวและสลายไปอย่างรวดเร็ว ผิวหนังรอบบาดแผลที่เคยเป็นสีเขียวคล้ำก็เริ่มกลับมามีสีปกติอีกครั้ง “รู้สึก… ดีขึ้น…” เก็นเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย ฟูมิโกะถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างที่สุด เธอใช้ผ้าพันแผลสะอาดพันรอบแขนของเก็นอย่างระมัดระวัง “ยังไม่จบนะเก็น” ฟูมิโกะบอก “ฉันต้องร่ายคาถาฟื้นฟูร่างกายให้ด้วย” เธอหยิบ หนังสืออาคม เล่มหนาที่ลุงภารโรงให้มาออกมา หนังสือเล่มนั้นดูเก่าแก่และมีอักขระโบราณสลักอยู่เต็มปก ฟูมิโกะเปิดหนังสือไปที่ หน้า “ฟื้นฟูร่างกาย” อย่างรวดเร็ว หน้ากระดาษนั้นมีภาพของสัญลักษณ์แปลกๆ และตัวอักษรโบราณที่เธอต้องใช้สมาธิอย่างมากในการอ่าน ขณะที่เหล่าปีศาจยังคงพยายามทุบประตูเข้ามาไม่หยุด! เสียงกระแทกและเสียงคำรามของพวกมันดังก้องไปทั่วห้อง แต่มีผ้ายันต์ทั้งสองผืนที่ติดอยู่ที่ประตู พวกมันจึงไม่สามารถเข้ามาได้ แสงจากผ้ายันต์ยังคงส่องสว่าง แม้จะเริ่มริบหรี่ลงเล็กน้อยก็ตาม ฟูมิโกะไม่สนใจเสียงรบกวนภายนอก เธอหลับตาลงรวบรวมสมาธิ และ เริ่มร่ายคาถาตามหนังสือ เสียงคาถาของเธอดังก้องในห้องผ่าตัด แสงสีเขียวอ่อนๆ แผ่ออกมาจากร่างของเธอ และพุ่งเข้าไปปกคลุมร่างของเก็น พลังงานแห่งการฟื้นฟูไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างช้าๆ เก็นรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ราวกับมีพลังงานใหม่กำลังเติมเต็มทุกเซลล์ในร่างกายของเขา ใบหน้าของเขาที่เคยซีดเซียวก็เริ่มกลับมามีสีเลือดฝาดอีกครั้ง การหายใจของเขาเริ่มสม่ำเสมอขึ้น ฟูมิโกะร่ายคาถาอย่างต่อเนื่อง เหงื่อกาฬไหลซึมไปทั่วใบหน้า เธอใช้พลังงานไปอย่างมหาศาลในการต่อสู้กับเหล่าปีศาจและร่ายคาถาฟื้นฟู แต่เธอก็ไม่ยอมหยุด เธอรู้ว่าเก็นกำลังต้องการเธอ “อดทนไว้นะเก็น… อีกนิดเดียว…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงทุบประตูจากภายนอกเริ่มแผ่วลงเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะเหล่าปีศาจยอมแพ้ แต่เป็นเพราะผ้ายันต์ที่ติดอยู่ที่ประตูกำลังดูดพลังงานจากพวกมัน ทำให้พวกมันอ่อนแรงลงไปบ้าง เมื่อคาถาฟื้นฟูจบลง แสงสีเขียวอ่อนๆ ที่ปกคลุมร่างของเก็นก็ค่อยๆ จางหายไป ฟูมิโกะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เธอหอบหายใจอย่างหนัก แต่ก็ยิ้มออกมาได้เล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของเก็นดูดีขึ้นมาก เขาหลับตาพริ้ม และการหายใจของเขาก็เป็นปกติแล้ว ฟูมิโกะคลานเข้าไปหาเก็น เธอสัมผัสหน้าผากของเขา อุณหภูมิร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว บาดแผลที่แขนก็ดูดีขึ้นมาก ไม่เหลือร่องรอยของเส้นใยสีดำคล้ายรากไม้แล้ว มีเพียงรอยแผลเป็นสีแดงจางๆ เท่านั้น “เก็น…” ฟูมิโกะพึมพำ เธอรู้สึกโล่งใจอย่างที่สุด แต่ความโล่งใจนั้นก็อยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อเธอได้ยินเสียงบางอย่างจากภายนอกห้อง… ไม่ใช่เสียงทุบประตู แต่เป็นเสียงที่แตกต่างออกไป… เสียงกรีดร้องที่แหบพร่าและทรมาน… เสียงนั้นไม่ได้ดังออกมาจากกลุ่มเงาปีศาจที่ทุบประตูเข้ามา แต่มันเป็นเสียงที่มาจากอีกทิศทางหนึ่ง… เสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้นที่อัดแน่นอยู่… และมันกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อยๆ…แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องผ่านหน้าต่างที่พังทลายของห้องผ่าตัด สาดไล่ความมืดมิดที่เคยปกคลุมโรงพยาบาลแห่งนี้มานานหลายทศวรรษให้จางหายไป ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ฟูมิโกะและเก็นอย่างหนัก ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนแผ่กับพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนอันยาวนาน แต่ในดวงตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้ฟูมิโกะหันไปมองเก็น ใบหน้าของเธอเปื้อนฝุ่นและมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากกลับเปล่งประกายสดใส เก็นเองก็ยิ้มตอบ ดวงตาของเขายังคงฉายแววอ่อนเพลีย แต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ“เราทำได้จริงๆ ด้วยนะเก็น…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอแหบพร่าด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ“ใช่ฟูมิโกะ… เราทำได้แล้ว” เก็นตอบ เสียงของเขาเองก็หอบไม่แพ้กัน “มันเป็นการต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”ฟูมิโกะค่อยๆ หยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ที่มีแสงสีเหลืองอำพันเรืองรองอยู่ภายในขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้ม แสงนั้นอบอุ่นและบริสุทธิ์ ไม่ใช่แสงสีดำที่น่าขนลุกเหมือนตอนแรกอีกต่อไป“ในที่สุด… เหล่าวิญญาณก็ไ
เสียงทุบประตูห้องผ่าตัดยังคงดังกึกก้องไม่หยุดหย่อน ผนังห้องสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ เก็นและฟูมิโกะนั่งพิงกำแพง หอบหายใจอย่างหนัก ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าเต็มทีจากบาดแผลและจากการต่อสู้ที่ไม่รู้จบกับ "นายใหญ่" ที่ยังคงกราดเกรี้ยวอยู่ภายนอก“เราจะทำยังไงดีเก็น?” ฟูมิโกะถาม เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เธอพลิกหน้าหนังสืออาคมอย่างรวดเร็ว ดวงตากวาดไปตามตัวอักษรโบราณพยายามหาวิธีที่จะเอาชนะนายใหญ่ได้เสียทีเก็นมองไปที่ประตูห้องผ่าตัด ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่เริ่มเรืองแสงริบหรี่ลงแล้ว แสดงว่าพลังป้องกันของมันกำลังจะหมดลงในไม่ช้า “เราต้องหาทางหยุดมันให้ได้ก่อนที่มันจะบุกเข้ามา ฟูมิโกะ!”ตูม!ประตูห้องผ่าตัดถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนบานประตูเริ่มปริแตกออก เศษไม้กระเด็นเข้ามาในห้อง“มันใกล้จะพังแล้ว!” ฟูมิโกะอุทาน เธอกัดฟันแน่น พยายามรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่มี เพื่ออ่านหนังสืออาคมให้เร็วที่สุดทันใดนั้น!ดวงตาของฟูมิโกะก็หยุดอยู่ที่หน้ากระดาษหน้าหนึ่ง! เธอจำได้ว่าเคยเห็นคาถานี้มาก่อน! มันเป็นคาถาที่ดูเหมือนจะไม่รุนแรงมาก แต่กลับมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ!“เก็น! ฉันเจอแล้ว!” ฟูมิโกะตะ
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ผสมปนเปกับความชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ยังคงคละคลุ้งอยู่ในห้องแล็บที่มืดมิด ฟูมิโกะกับเก็นนั่งอยู่บนพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับ "นายใหญ่" บนดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่บนประตูกำลังเรืองแสงจางๆ เป็นเกราะป้องกันที่เปราะบาง แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยได้ในตอนนี้“เราต้องหาผ้ายันต์อีกสองผืนให้เจอ” ฟูมิโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าเล็กน้อย เธอเปิดหนังสืออาคมเล่มหนาออกอีกครั้ง พยายามกวาดสายตาหาเบาะแสเก็นพยักหน้า เขายังคงกุมแขนที่บาดเจ็บจากกรงเล็บของนายใหญ่ “ใช่… ยิ่งเราได้ผ้ายันต์ครบเร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสโค่นมันได้มากเท่านั้น”“แต่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ฉันสัมผัสบนดาดฟ้า… มันหายไป” ฟูมิโกะพึมพำ “ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือว่ามันทำงานยังไง”“อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนั้นเลยฟูมิโกะ” เก็นบอก “ตอนนี้เราต้องหาอีกสองผืนที่เหลือให้เจอ” เขามองไปที่นาฬิกาข้อมืออาคมของฟูมิโกะที่วางอยู่ข้างๆฟูมิโกะเห็นแล้ว ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “จุดสีแดง! มันอยู่ที่ด้านหลังโรงพยาบาล! ทั้งสองจุดเลย!” เธอกรีดร้องด้วยความดีใจ“ด้านหลังโรงพยาบาลเหร
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังมาจากชั้นล่างของโรงพยาบาลร้าง คลอไปกับเสียงฝีเท้าหนักอึ้งของ "นายใหญ่" ที่กำลังไล่ตามฟูมิโกะมาติดๆ บนดาดฟ้า ลมยามค่ำคืนพัดกรรโชกแรงจนเส้นผมของฟูมิโกะปลิวไสวไปตามแรงลม เธอยืนอยู่หน้า เสาล่อฟ้าขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่หกเรืองแสงสีม่วงเข้มพร้อมกับสายฟ้าเล็กๆ ที่แลบแปลบปลาบอยู่รอบๆ ราวกับมันกำลังมีชีวิต"ผ้ายันต์ผืนนั้น… มันคงเป็นผ้ายันต์แห่งสายฟ้าแน่ๆ" ฟูมิโกะพึมพำกับตัวเอง เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานที่มหาศาลจากผ้ายันต์ผืนนั้น พลังงานที่แตกต่างจากผ้ายันต์อื่นๆ ที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งหมดตุบ! ตุบ! ตุบ!เสียงฝีเท้าหนักๆ ของ "นายใหญ่" ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันกำลังปีนขึ้นมาบนบันไดที่นำไปสู่ดาดฟ้า"ไม่นะ… มันกำลังมาแล้ว!" ฟูมิโกะอุทานด้วยความตกใจ เธอรู้ว่าไม่มีเวลาลังเลอีกต่อไปแล้วทันใดนั้น!ร่างของเก็นก็พุ่งพรวดขึ้นมาบนดาดฟ้า! ใบหน้าของเขาซีดเซียวเล็กน้อย มีรอยเปื้อนฝุ่นและรอยขีดข่วนอยู่หลายแห่ง แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เขากำมีดลงอาคมแน่นในมือ“ฟูมิโกะ! เธอไม่เป็นไรนะ?!” เก็นตะโกนถาม เสียงของเขาหอบเล็กน้อยจ