Share

ฉันจะไม่ยอมแพ้

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-26 22:14:55

ชัยชนะครั้งที่สองไม่ได้นำมาซึ่งความโล่งใจได้นานนัก หลังจากที่ฟูมิโกะช่วยพยุงเก็นขึ้นมานั่งพิงผนัง พวกเขาก็พักหายใจอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อฟื้นฟูกำลังที่ร่อยหรอ ฟูมิโกะก้มลงสำรวจผ้ายันต์ในมืออีกครั้ง มันยังคงส่องแสงศักดิ์สิทธิ์จางๆ ราวกับจะคอยปกป้องพวกเขาจากสิ่งชั่วร้าย

“แน่ใจนะว่าไหว เก็น?” ฟูมิโกะถามด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นสีหน้าซีดเซียวของเขาชัดเจนขึ้นในแสงสลัวๆ ของโรงพยาบาล

เก็นพยักหน้าช้าๆ “ไหว…น่า” เสียงของเขาแหบพร่า “เราต้องรีบหาผ้ายันต์ที่เหลือแล้วก็กลับออกไปให้เร็วที่สุด”

ฟูมิโกะรู้ว่าเก็นพูดถูก พวกเขาไม่สามารถเสียเวลาได้อีกต่อไป ทั้งคู่พยุงกันและกันให้ลุกขึ้นยืนช้าๆ และเริ่มออกเดินเท้าต่อไปอย่างระมัดระวัง แม้จะยังคงรู้สึกเจ็บระบมไปทั่วร่างกาย แต่พวกเขาก็ต้องเดินหน้าต่อ

ทางเดินที่ทอดยาวเบื้องหน้ายังคงมืดมิดและเงียบสงัดเหมือนเดิม มีเพียงเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ก้องกังวานไปมา ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงสองชีวิตที่เหลืออยู่ในสถานที่แห่งนี้ กลิ่นอับชื้นและกลิ่นคาวที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฟูมิโกะรู้สึกพะอืดพะอม เธอพยายามใช้ความสามารถในการรับรู้พลังงานวิญญาณของเธอ เพื่อสัมผัสถึงผ้ายันต์ผืนต่อไป แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆ

“ทำไมมันเงียบแบบนี้อีกแล้วนะ เก็น” ฟูมิโกะพึมพำ เธอรู้สึกถึงความอึดอัดที่โอบล้อมรอบตัว

เก็นเองก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ เขาเหลียวมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง มีดลงอาคมในมือของเขากระชับแน่นขึ้น “นั่นสิ… มันเงียบเกินไป เหมือนกับว่า… กำลังมีบางอย่างซุ่มรอเราอยู่”

ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินตามหาเหล่าเงาปีศาจและผ้ายันต์อยู่นั้น จู่ๆ ร่างของเก็นก็เซถลา ทรุดลงกับพื้น อย่างกะทันหัน ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อกาฬไหลซึมออกมาจากหน้าผาก ฟูมิโกะตกใจสุดขีด เธอรีบปรี่เข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว

“เก็น! เป็นอะไรไป?!” ฟูมิโกะถามด้วยสีหน้าตกใจและเป็นห่วง เธอคุกเข่าลงข้างๆ เขา พยายามประคองร่างของเขาไว้

เก็นกัดฟันแน่น พยายามกลั้นเสียงครางด้วยความเจ็บปวด “เจ็บ… แขน…” เสียงของเขาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

ฟูมิโกะรีบ เปิดแขนเสื้อของเก็นดูทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจและหวาดกลัว เมื่อเห็นสภาพของบาดแผลจากการต่อสู้ของเก็นเมื่อครู่ รอยแผลที่เธอเห็นเมื่อครู่ไม่ได้เพียงแค่เลือดซึมเล็กน้อย แต่มันลึกกว่าที่คิดมาก เนื้อเยื่อรอบๆ บาดแผลมีสีดำคล้ำคล้ายถูกกัดกร่อน และมีเส้นเลือดสีดำปูดโปนขึ้นมาอย่างน่ากลัว ราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดของเขา

“เก็น! ทำไมเป็นขนาดนี้แล้วนายถึงไม่บอกฉัน!” ฟูมิโกะเอ่ยเสียงดัง น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความโกรธปนความกังวล เธอรู้สึกผิดที่ไม่ทันสังเกตเห็นอาการของเขา

เก็นพยายามจะยิ้ม แต่ก็ทำได้เพียงบิดมุมปากเล็กน้อย “ฉัน… ฉันคิดว่าจะไหว… แค่นี้เอง…” เขาตอบเสียงอ่อนล้า

ฟูมิโกะส่ายหน้า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ไม่ได้แล้วเก็น นี่มันไม่ใช่แค่แผลธรรมดา มันกำลังลามไปทั่วเลย!” เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากบาดแผลนั้น “นายต้องได้รับการรักษาเดี๋ยวนี้”

เธอคิดอย่างรวดเร็ว ห้องในโรงพยาบาลแห่งนี้ต้องมีห้องพยาบาลหรือห้องผ่าตัดที่พอจะมีอุปกรณ์ทำแผลอยู่บ้าง

“งั้นนายรออยู่ที่นี่ก่อนนะ” ฟูมิโกะตัดสินใจ “ฉันจะไปหาห้องที่สามารถทำแผลได้ แล้วจะมารับ”

ก่อนจะลุกขึ้น ฟูมิโกะถอด ผ้ายันต์ลงอาคม ที่เพิ่งได้มาวางไว้บนอกของเก็น พลังงานศักดิ์สิทธิ์จากผ้ายันต์เริ่มแผ่ออกมาปกคลุมร่างของเขาไว้จางๆ “อันนี้จะช่วยป้องกันพวกมันได้ชั่วคราว” เธอพูด เธอรู้ว่าผ้ายันต์เพียงผืนเดียวอาจไม่สามารถป้องกันอะไรได้มากนัก แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย

ฟูมิโกะลุกขึ้นยืนกำลังจะวิ่งออกไป แต่เก็นรั้งข้อมือเธอไว้ก่อน ดวงตาของเขาจ้องมองเธอด้วยความหมายบางอย่าง

“ฟูมิโกะ…” เก็นเอ่ยเสียงแผ่ว “เอา… นี่ไปด้วย” เขาแบมือออก เผยให้เห็น มีดลงอาคม ที่เขาใช้ต่อสู้มาตลอด เขาจับมีดแน่นจนข้อเป็นสีขาว ก่อนจะยื่นมันให้กับเธอ

ฟูมิโกะมองมีดอาคมสลับกับดวงตาของเก็น เธอเข้าใจความหมายของมันทันที เก็นกำลังจะปล่อยให้เธอไปเพียงลำพัง และเขาก็เชื่อมั่นในความสามารถของเธอมากพอที่จะให้เครื่องมือชิ้นสำคัญที่สุดของเขา

“แต่ว่า… แล้วนายล่ะ?” ฟูมิโกะถาม

“ฉันไม่เป็นไรหรอก” เก็นตอบ “ผ้ายันต์จะช่วยฉันได้… รีบไปเถอะ” เขาพยายามยิ้มให้เธออีกครั้ง เพื่อให้เธอมั่นใจ

ฟูมิโกะพยักหน้าอย่างช้าๆ เธอรู้ว่าเธอไม่มีเวลาเถียงอีกแล้ว เธอรับมีดอาคมมา สัมผัสได้ถึงพลังงานที่แผ่ออกมาจากมัน มันทั้งหนักแน่นและเย็นเฉียบ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่น่าเชื่อถือ

“อืม… เข้าใจแล้ว… นายต้องรอฉันอยู่ที่นี่นะ!” ฟูมิโกะกำชับ แล้ว รีบวิ่งออกไปทันที

เธอวิ่งไปตามทางเดินที่มืดมิด เสียงฝีเท้าของเธอดังก้องในความเงียบ เธอพยายามมองหาป้ายบอกทาง หรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกถึงห้องพยาบาล หรือห้องผ่าตัด หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความกังวลและความหวาดกลัว แต่เธอก็ต้องบังคับตัวเองให้มีสติ เก็นกำลังรอเธออยู่ เธอต้องเข้มแข็ง

ระหว่างที่เธอกำลังหาห้องที่ดูพอจะมีของสำหรับการพาเก็นมารักษาอยู่นั้น ฟูมิโกะก็เริ่มรู้สึกได้ถึงพลังงานที่แปลกประหลาด มันไม่ได้เป็นพลังงานแบบเดียวกับเงาปีศาจตัวแรก แต่มันเป็นพลังงานที่ละเอียดอ่อนกว่า และมีกลิ่นอายของความเศร้าและความโกรธที่อัดแน่นอยู่

เธอวิ่งผ่านห้องต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นห้องพักผู้ป่วย เธอพยายามชะลอความเร็วลงเมื่อมาถึงทางแยกที่กว้างกว่าเดิม เธอเห็นป้ายที่เขียนว่า “ห้องผ่าตัด” เป็นภาษาญี่ปุ่นที่จางเลือนไปตามกาลเวลาอยู่ด้านซ้ายมือ

“เจอแล้ว!” ฟูมิโกะพึมพำกับตัวเอง เธอตัดสินใจเลี้ยวซ้ายทันที

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวเท้าเข้าไปในทางเดินนั้น จู่ๆ ก็มีเงาบางร่างใหญ่พุ่งเข้ามาหาเธอ ด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ!

ฟูมิโกะสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะกรีดร้อง ร่างกายของเธอตอบสนองโดยสัญชาตญาณ เธอรีบยกมีดลงอาคมที่เพิ่งได้รับมาจากเก็นขึ้นมาป้องกันตัวอย่างรวดเร็ว

ฉัวะ!

เสียงโลหะกระทบกับบางสิ่งบางอย่างดังขึ้นอย่างจัง พลังงานมหาศาลที่พุ่งเข้ามาปะทะกับตัวเธอ ทำให้ฟูมิโกะเสียหลัก ร่างของเธอปลิวไปกระแทกกับผนังห้องอย่างแรง มีดลงอาคมในมือของเธอหลุดกระเด็นไปตกไกลออกไป

“อั่ก!” ฟูมิโกะกระอักเลือดเล็กน้อย เธอรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วแผ่นหลัง แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าคือสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้า

เงาที่พุ่งเข้าใส่เธอไม่ใช่เงาปีศาจแบบตัวแรก แต่มันเป็น เงาของพยาบาลร่างสูงใหญ่ ผมยาวกระเซิง ดวงตาเบิกโพลงไร้แวว จ้องมองมาที่เธออย่างว่างเปล่า และที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าคือ มันไม่ได้ถืออาวุธอะไรเลย แต่มันจ้องมองมาที่เธอด้วยความโกรธแค้นที่ไม่อาจจะหาคำบรรยายได้

ฟูมิโกะพยายามจะขยับตัว แต่ร่างกายของเธอเจ็บระบมไปหมด เธอมองหามีดลงอาคมที่กระเด็นไปตกอยู่ไกลออกไป มันอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่เมตร แต่ในสถานการณ์นี้ มันเหมือนอยู่คนละโลก

“แก… เป็นใคร?” ฟูมิโกะถามเสียงสั่น ร่างกายของเธอกำลังส่งสัญญาณอันตรายขั้นสูงสุด นาฬิกาข้อมืออาคมของเธอกรีดร้องเตือนภัยอย่างบ้าคลั่ง ตัวเลขพลังวิญญาณพุ่งทะยานขึ้นไปจนสุดขีดอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้แสดงแค่ตัวเลข แต่มีคำว่า “จิตอาฆาตมหาศาล!” กระพริบสลับกัน

เงาพยาบาลไม่ตอบ มันเพียงแค่เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ แล้วส่งเสียงกรีดร้องที่แหบพร่าและทรมานออกมา เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความโกรธแค้นที่ถูกกักเก็บไว้นับศตวรรษ มันไม่ใช่เสียงที่ดังออกมาจากทางหู แต่เป็นเสียงที่ดังขึ้นในหัวของฟูมิโกะราวกับจะฉีกสมองเธอออกเป็นเสี่ยงๆ

ฟูมิโกะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เธอเอามือกุมศีรษะไว้แน่น แต่เสียงนั้นก็ยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง มันทำให้เธอรู้สึกวิงเวียนและคลื่นไส้

เงาพยาบาลก้าวเข้ามาหาฟูมิโกะอย่างช้าๆ ช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว ดวงตาสีแดงฉานของมันจ้องมองมาที่เธออย่างไม่วางตา ราวกับกำลังจะกลืนกินวิญญาณของเธอ

ฟูมิโกะพยายามรวบรวมสติ เธอรู้ว่าเธอต้องทำอะไรบางอย่าง เธอจะปล่อยให้เก็นต้องรอคอยอยู่คนเดียวไม่ได้

“ไม่…” ฟูมิโกะพึมพำ “ฉันจะ… ฉันจะไม่ยอมแพ้…”

เธอกัดฟันแน่น พยายามกระถดตัวไปหามีดลงอาคมที่ตกอยู่ แต่เงาพยาบาลกลับเร็วกว่า มันพุ่งเข้ามาหาเธออีกครั้ง! ฟูมิโกะหลับตาแน่น เตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดครั้งต่อไป แต่แล้ว...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • 5/B โรงพยาบาลต้องคำสาป   ฉันจะไม่ยอมแพ้

    ชัยชนะครั้งที่สองไม่ได้นำมาซึ่งความโล่งใจได้นานนัก หลังจากที่ฟูมิโกะช่วยพยุงเก็นขึ้นมานั่งพิงผนัง พวกเขาก็พักหายใจอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อฟื้นฟูกำลังที่ร่อยหรอ ฟูมิโกะก้มลงสำรวจผ้ายันต์ในมืออีกครั้ง มันยังคงส่องแสงศักดิ์สิทธิ์จางๆ ราวกับจะคอยปกป้องพวกเขาจากสิ่งชั่วร้าย“แน่ใจนะว่าไหว เก็น?” ฟูมิโกะถามด้วยความเป็นห่วง เธอเห็นสีหน้าซีดเซียวของเขาชัดเจนขึ้นในแสงสลัวๆ ของโรงพยาบาลเก็นพยักหน้าช้าๆ “ไหว…น่า” เสียงของเขาแหบพร่า “เราต้องรีบหาผ้ายันต์ที่เหลือแล้วก็กลับออกไปให้เร็วที่สุด”ฟูมิโกะรู้ว่าเก็นพูดถูก พวกเขาไม่สามารถเสียเวลาได้อีกต่อไป ทั้งคู่พยุงกันและกันให้ลุกขึ้นยืนช้าๆ และเริ่มออกเดินเท้าต่อไปอย่างระมัดระวัง แม้จะยังคงรู้สึกเจ็บระบมไปทั่วร่างกาย แต่พวกเขาก็ต้องเดินหน้าต่อทางเดินที่ทอดยาวเบื้องหน้ายังคงมืดมิดและเงียบสงัดเหมือนเดิม มีเพียงเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ก้องกังวานไปมา ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงสองชีวิตที่เหลืออยู่ในสถานที่แห่งนี้ กลิ่นอับชื้นและกลิ่นคาวที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฟูมิโกะรู้สึกพะอืดพะอม เธอพยายามใช้ความสามารถในการรับรู้พลังงานวิญญาณของเธอ เพื่อสัมผัสถึงผ้ายันต์ผื

  • 5/B โรงพยาบาลต้องคำสาป   ผ้ายันต์

    “ฟูมิโกะ! ไปหาผ้ายันต์ซะ! ฉันจะถ่วงเวลาเจ้านี่ไว้เอง!”เสียงตะโกนของเก็นดังก้องในความมืดมิดของห้อง เสียงโลหะปะทะกับเงาที่มองไม่เห็นดังขึ้นเป็นจังหวะ บอกเล่าถึงการต่อสู้ที่ดุเดือด ฟูมิโกะมองเห็นเงาร่างมนุษย์พุ่งเข้าใส่เก็นอีกครั้ง ร่างของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเมื่อมันพยายามดูดพลังงานจากเขา ฟูมิโกะรู้ว่าเธอต้องรีบ เธอหันกลับไปมอง โคมไฟเพดานเก่าๆ ที่ห้อยอยู่กลางห้องอีกครั้ง แสงไฟสลัวๆ จากมันไม่ได้ช่วยให้มองเห็นอะไรชัดขึ้นเลย แต่เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานอาคมที่แผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากภายใน“อึ่ก!” เก็นส่งเสียงครางเมื่อเงาร่างมนุษย์พยายามบีบอัดเขา แรงกดดันที่มองไม่เห็นทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกบีบขยี้จากทุกทิศทาง“เก็น! ฉันจะรีบ!” ฟูมิโกะตะโกนตอบ เธอวิ่งไปที่ใต้โคมไฟ พยายามกระโดดเอื้อมมือขึ้นไปคว้ามัน แต่โคมไฟนั้นอยู่สูงเกินไป และเธอก็ตัวเล็กเกินกว่าจะเอื้อมถึง“ไม่สูงหรอก! แค่กระโดดอีกนิด!” เก็นตะโกนบอก พลางใช้มีดลงอาคมฟันเข้าใส่เงาร่างมนุษย์ เพื่อบังคับให้มันขยับห่างออกไปจากตัวเขาเล็กน้อยฟูมิโกะพยายามอีกครั้ง เธอตั้งหลัก กระโดดสุดตัว พยายามเอื้อมมือไปคว้าโคมไฟ แต่ปลายนิ้วของเธอก็เพียงแค่สัมผั

  • 5/B โรงพยาบาลต้องคำสาป   ความเงียบที่ผิดปกติ

    ชัยชนะเหนือเงาปีศาจ “ลูกสมุน” ตัวแรก แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ก็จุดประกายความหวังและ ความมั่นใจให้กับฟูมิโกะ เธอคลายความกังวลลงได้มาก โล่งใจที่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเกินไป และมีหนทางที่จะต่อกรกับภัยคุกคามเหล่านี้ได้“นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เก็น?” ฟูมิโกะเอ่ยขึ้นพลางมองขวดอาคมในมือ ซึ่งตอนนี้มีเงาสีดำจางๆ ขยับตัวอยู่ภายใน “เราจัดการมันได้จริงๆ ด้วย”เก็นพยักหน้า สีหน้าของเขาผ่อนคลายลงกว่าเมื่อครู่มาก “แน่นอนสิ ฟูมิโกะ เธอก็มีฝีมือไม่เบาเหมือนกันนะ” เขาเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้มจางๆ ดวงตาของเขาอ่อนลงเมื่อมองมาที่เธอ “ตอนนี้เราต้องเดินหน้าต่อ อย่าเพิ่งชะล่าใจ”ฟูมิโกะพยักหน้ารับ เธอก้มมองนาฬิกาข้อมืออาคมอีกครั้ง ค่าพลังวิญญาณลดลงไปมากหลังจากจัดการเงาปีศาจตัวนั้นได้ แต่ก็ยังคงมีค่าพลังงานที่สูงกว่าปกติปรากฏอยู่ แสดงว่ายังมีสิ่งชั่วร้ายซ่อนอยู่ภายในโรงพยาบาลแห่งนี้อีกมาก“แล้วเราจะไปทางไหนดีล่ะ เก็น?” ฟูมิโกะถามเมื่อทั้งคู่เริ่มออกเดินอีกครั้ง พวกเขาก้าวผ่านประตูคู่บานใหญ่เข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของโรงพยาบาลทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา ความรู้สึกที่แตกต่างจากโถงทางเดินด้านนอกก็พุ่งเข้าปะทะ

  • 5/B โรงพยาบาลต้องคำสาป   ลูกสมุน

    คำพูดของเก็นเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจของฟูมิโกะ ความกลัวยังคงเกาะกุมแน่น แต่ในคำพูดนั้นมีความมุ่งมั่นที่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด เก็นไม่ลังเล เขาคว้า มีดลงอาคม ขนาดเท่าฝ่ามือที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อออกมา ใบมีดสีเงินวาววับสะท้อนแสงสลัวๆ ของโถงทางเดิน มีอักขระโบราณสลักอยู่ทั่วด้ามจับ เขาจับมีดแน่น พลาง ตั้งท่าสู้ ร่างกายของเขานิ่งสงบราวกับเสือชีตาห์ที่พร้อมพุ่งทะยานฟูมิโกะพยายามรวบรวมสติ แม้ขาทั้งสองข้างจะยังสั่นไม่หยุด เธอหลับตาลงชั่วขณะ ตั้งจิต ให้มั่นคง พลังงานบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นรอบกายเธออย่างช้าๆ เธอสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนของมันในเส้นเลือด กำขวดใส่วิญญาณ ที่เอวแน่น ขวดแก้วเล็กๆ ที่มีสัญลักษณ์โบราณสลักอยู่เต็มใบ ราวกับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวของเธอในตอนนี้เงาปีศาจขนาดยักษ์พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ไม่อาจคาดเดาได้ ร่างของมันดูเหมือนของเหลวสีดำที่พุ่งทะยานเข้ามา เสียงกรีดร้องของมันไม่ได้ดังออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ดังขึ้นในหัวของฟูมิโกะราวกับเสียงตะโกนจากขุมนรกเก็นพุ่งเข้าปะทะกับเงาปีศาจร่างยักษ์นั้นอย่างดุเดือด!เขาใช้ความคล่องตัวและไหวพริบหลบหลีกการโจมตีอันบ้าค

  • 5/B โรงพยาบาลต้องคำสาป   ลมพายุโหมกระหน่ำ

    เก็นกำลังจะเอื้อมมือไปจับบานประตูไม้เก่าคร่ำคร่าตรงหน้า แต่ยังไม่ทันที่ปลายนิ้วของเขาจะสัมผัสลงบนเนื้อไม้ เสียงนาฬิกาข้อมืออาคมของฟูมิโกะก็ดังขึ้น ราวกับเสียงสัญญาณเตือนภัยอันตราย หน้าปัดดิจิทัลที่ปกติจะแสดงค่าพลังวิญญาณแบบคร่าวๆ บัดนี้กลับกระพริบอย่างรุนแรง ตัวเลขสีแดงสดพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึง ค่าพลังวิญญาณของเหล่าเงาปีศาจที่ชัดเจนและมหาศาล จนน่าตกใจ มันสูงเกินกว่าที่ฟูมิโกะเคยเห็นมาตลอด“อะไรกันเนี่ย!” ฟูมิโกะเอ่ยด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด เธอชูข้อมือขึ้นมองนาฬิกาที่ส่งเสียงร้องเตือนถี่รัว ราวกับจะบอกว่า “หนีไป!” แสงจากหน้าปัดนาฬิกาสาดกระทบใบหน้าของเธอ เผยให้เห็นดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวเก็นหันกลับมามองนาฬิกาข้อมือของฟูมิโกะ เขาเห็นตัวเลขที่พุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นทันที ความประหลาดใจและความกังวลฉายชัดในแววตา แต่ก็เพียงชั่วครู่เดียว ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าก็เข้ามาแทนที่ เขาเหลือบมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าอีกครั้ง แล้วหันกลับไปสบตาฟูมิโกะ“เราไม่มีทางเลือก ฟูมิโกะ” เก็นเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยความเด็ดขาด “ถ้ามันอันตรายขนาดนี้ แสดงว่าเราม

  • 5/B โรงพยาบาลต้องคำสาป   เงาที่ไล่ไม่ทัน

    ฟูมิโกะกำมือเก็นแน่นจนรู้สึกได้ถึงเหงื่อซึมที่ฝ่ามือ ก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะก้าวผ่านขอบประตูที่เรืองแสงสีครามออกมา เสียงก้องของประตูที่ปิดลงด้านหลังสะท้อนไปมาในความเงียบงันชวนขนลุกทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น พวกเขาก็พบว่าตัวเองยืนอยู่กลางโถงทางเดินแคบๆ ที่คุ้นตา แต่ไม่ใช่ในแบบที่พวกเขาเคยเห็นบนภาพถ่ายเก่าๆ ของโรงพยาบาลร้างแห่งนี้ แสงอาทิตย์ที่ควรจะส่องลอดหน้าต่างเข้ามา กลับถูกแทนที่ด้วยแสงสลัวๆ สีเทาจากแหล่งกำเนิดที่ไม่รู้จัก ผนังที่เคยขาวสะอาด บัดนี้เต็มไปด้วยคราบดำทะมึนคล้ายราขึ้นเป็นหย่อมๆ และมีรอยขีดข่วนยาวเฟื้อยที่ดูเหมือนถูกของมีคมกรีดลึก ราวกับเป็นรอยกรงเล็บขนาดใหญ่“น่ากลัวจัง…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอสั่นเครือจนเก็นแทบจะไม่ได้ยิน เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านมาจากทุกทิศทาง ไม่ใช่ความเย็นจากอากาศ แต่เป็นความเย็นที่กัดกินเข้าถึงกระดูก ความรู้สึกกดดันที่ทำให้ทุกอณูของร่างกายหวาดหวั่นเก็นกระชับมือของฟูมิโกะตอบ พลางขยับตัวมายืนบังเธอไว้เล็กน้อย บ่ากว้างของเขาดูแข็งแกร่งและน่าพึ่งพากว่าที่เคย “ไม่ต้องกลัว ฟูมิโกะ อยู่ด้านหลังฉันไว้” เสียงของเขาหนักแน่นและจริงจัง ดวงตาคมกวา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status