"จะสั่งสามชั้นเพิ่ม มีใครอะ..." เสียงวีนัสพูดขึ้นแต่ยังไม่ทันที่เรียวปากสวยจะพูดจบ
"เอา เราเอา" ไลลายกมือขึ้นตอบกลับเพื่อนเสียงใสใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขกับการกิน
"โอเค" วีนัสตอบกลับก่อนจะยกมือเรียกพนักงานหน้าตาดีให้เดินเข้ามารับออร์เดอร์ในตอนนั้นเองมาร์ที่เห็นการกินอย่างเอร็ดอร่อยของรุ่นน้องสาวเจ้าของใบหน้าเรียวใสก็ยิ้มเอ่ยออกมา
"ทำไมไลลากินเก่งจัง"
"ค คะ" ดวงตากลมโตเงยมองหน้ารุ่นพี่สาว
"พี่เห็นเรากินไม่หยุดเลยตั้งแต่มา ตัวแค่นี้ทำไมกินได้เยอะจัง"
"แหะ ๆ" ไลลาที่ไม่รู้จะตอบยังไงก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตรงหน้า ทว่าวีนัสที่ได้ยินก็อดที่จะชวนรุ่นพี่คนดังพูดคุยเกี่ยวกับเพื่อนตัวเล็กไม่ได้
"โอ๊ยพี่มาร์ เรื่องกินนี่ไว้ใจไลลาเขาเลยเถอะค่ะ เห็นตัวเล็กแบบนี้ สามารถกินหมูได้ทั้งตัวเลยด้วยมั้งคะ"
"นะ นี่! วี...เราไม่ได้กินเยอะขนาดนั้นซะหน่อย" เรียวปากเล็กทำหน้ายู่ตอบกลับเพื่อนทั้งที่ภายในปากยังคงเคี้ยวหมูสามชั้นที่เพิ่งตักเข้าปาก
"เหรอออ..."
"...พี่มาร์รู้ไหม ไลลาเคยเกือบได้เป็นรุ่นน้องในวงการนักแสดงพี่แล้วด้วยนะ" วีนัสชวนรุ่นพี่สาวคนดังพูดคุยอย่างออกรส
"จริงเหรอ" มาร์ยิ้มถาม
"จริงค่ะ ปลายช่วยยืนยันอีกเสียง" ปลายฟ้าพูดเสริม
"อ้าว แล้วทำไม..." ยังไม่ทันที่มาร์จะถามจบ
"ก็เพราะเอาแต่กินเยอะแบบนี้ไงคะ ถึงได้พลาดโอกาสนั้นไป" วีนัสบอกพร้อมกับหัวเราะออกมา
"นิสัยไม่ดี ซ้ำเติมเรา" เรียวปากเล็กเบะปากหันไปพูดใส่เพื่อนทั้งสองที่เอาแต่นั่งรุมพูดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาของเธอ
"ฮ่า ๆ มันเป็นยังไง ไหนเล่าสิ" มาร์ที่รู้สึกสนใจในเรื่องเอ่ยถามขึ้น
"ก็...วันนั้นพวกเราไปเดินเล่นที่ห้าง ๆ หนึ่งค่ะ แล้วมีแมวมองเข้ามาสนใจไลลา โดยเขาอยากให้ลองงานชิ้นแรกก่อน ซึ่งน่าจะเป็น...อะไรนะ ปลาย จำไม่ได้อะ" วีนัสหันถามปลายฟ้า
"มิวสิกวีดีโอไง ของพี่xxx"
"เออใช่ แล้วทีนี้ก็ไปเริ่มถ่ายทำกัน ทุกคนคือตื่นเต้นมาก แต่พอไปเจอผู้กำกับ เขาบอกกับไลลาว่าอะไร" วีนัสหันถามเพื่อนตัวเล็กเพื่อให้ไลลาเล่าต่อ เพราะตัวเธอก็จำได้ไม่แม่นสักเท่าไร
"เขาบอกให้ไลลาไปลดน้ำหนักค่ะ เพราะตัวเล็กแล้วอวบเกินไป..."
"เราเนี่ยนะ?" มาร์ถามพร้อมกับจ้องมองไปยังรุ่นน้องตัวเล็กที่ดูไม่ได้อวบอะไรเลย เพียงแค่ดูมีน้ำมีนวลไม่ผอมแห้งก็เท่านั้น
"ตอนนั้นไลลาอวบด้วยค่ะ หนักกว่าตอนนี้ประมาณสาม-สี่โลได้"
"อ่อ..." นักแสดงสาวพยักหน้ารับรู้
"...เราก็เลยไม่ถ่ายทำเลยเหรอ"
"ใช่ค่ะ เพราะการกินมันคือความสุขของไลลา ถ้าให้ไลลาต้องบอกเลิกปิ้งย่าง ชาบู ของหวาน ไลลาขอไม่มีชีวิตอยู่ดีกว่าค่ะ" สิ้นเสียงใสเอ่ย มาร์ก็หัวเราะออกมาทันทีกับความน่ารักของคนตรงหน้า
"ฮ่า ๆ เรานี่มัน...สุดยอดจริง ๆ"
"ว่าแต่พี่มาร์ล่ะคะ ไม่กินอะไรเลยเหรอ" ดวงตากลมโตราวกับบาร์บี้อดไม่ได้ที่เงยหน้าขึ้นไปเอ่ยถามรุ่นพี่สาว ก่อนที่เสียงปลายฟ้าจะดังเสริมขึ้น
"นั่นสิคะ พี่คามิลก็ด้วย" ทันทีที่ปลายฟ้าพูดจบ ไลลาก็เหลือบไปมองยังจานของร่างสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็พบว่ามันยังคงสะอาดอยู่เหมือนเดิม
"คามิลเขาไม่ค่อยกินอะไรพวกนี้อยู่แล้วน่ะ..."
"...ส่วนพี่ก็คุมอาหารอยู่"
"พี่ยังต้องคุมอยู่อีกเหรอคะ หุ่นดีขนาดนี้" วีนัสมองหน้าถามรุ่นพี่สาวสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
"อืม ข้อเสียของการต้องออกกล้องทุกวันก็แบบนี้แหละ" มาร์ยิ้มตอบ
"เฮ้อ พลาดสิ่งดี ๆ แย่เลย" ไลลาพึมพำออกมาก่อนจะคีบหมูสามชั้นย่างแล้วใส่เข้าปากเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อยมีความสุขไปกับการกิน ซึ่งคำพูดพึมพำของร่างเล็กทำเอาดวงตาคมของร่างสูงที่นั่งเงียบอยู่เผลอลอบมองไปยังคนตรงหน้าแววตานิ่งก่อนจะผละสายตาไปทางอื่นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเย็นชา
"ว่าแต่พี่มาร์สวยเก่งแบบนี้ ถามได้ไหมคะ...อะ เอ่อ..." แล้วปลายฟ้าก็เหลือบสายตามองไปยังคามิลที่นั่งอยู่
"ถามมาได้เลยจ้ะ" มาร์บอกรุ่นน้องตรงหน้าไปด้วยความใจดี
"พี่มาร์สวยเก่งขนาดนี้ มีพระเอกมาจีบบ้างไหมคะ" ปลายฟ้าก้มหน้าถามด้วยความเขินอาย
"ฮ่า ๆไม่ค่อยมีหรอกจ้ะ" ใบหน้าเรียวสวยตอบกลับตามตรง ซึ่งคำตอบของมาร์ทำเอาสามสาวรุ่นน้องที่นั่งอยู่เงยขึ้นมองหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"จริงเหรอคะ อย่างพี่มาร์เนี่ยนะ..." วีนัสถาม
"อืม พี่เคยได้ยินหนึ่งในคนที่ร่วมงานกับพี่ เขาพูดถึงพี่ด้วยนะ"
"ค คะ? ถามได้ไหมว่า..." ยังไม่ทันที่วีนัสจะถามจบ
"เขาพูดถึงพี่ว่า พี่สวย รวย เก่ง แต่ว่า...น่าเบื่อไร้ชีวิตชีวา" สิ้นเสียงมาร์ตอบกลับ ทั้งสามที่ตั้งใจนั่งฟังก็ชะงักนิ่งไปก่อนจะเป็นวีนัสที่ได้สติก่อนใคร รีบพูดแทรกขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจรุ่นพี่คนดัง
"จริงเหรอคะ โอ๊ย! นิสัยไม่ดีเลยคนแบบนี้ แต่ว่า..."
"...ก็ยังมีบางคนไม่เบื่อนะคะ" พูดจบ วีนัสก็ยิ้มขยิบตาไปทางคามิลที่นั่งอยู่ มาร์ที่เห็นแบบนั้นก็หัวเราะเอ่ย
"ฮ่า ๆ คนนี้ บางทีอาจจะเบื่อแต่ไม่พูดมากกว่า"
"โอ๊ย ไม่หรอกค่ะ" วีนัสหัวเราะตอบกลับ ปลายฟ้าที่นั่งยิ้มอยู่จึงพูดขึ้น
"แต่ถ้าพี่มาร์อยากมีสีสันในชีวิตมากขึ้น ปลายแนะนำเลยค่ะ ให้มาอยู่กับไลลา"
"อ่า จริง" วีนัสตอบกลับอย่างเห็นด้วย
"ทำไมล่ะ" มาร์ยิ้มถาม
"ไลลาสามารถทำทุกอย่างให้กลายเป็นเรื่องที่มีสีสันได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการตกบันได ซุ่มซ่าม เดินตกท่อ ไลลาเขาผ่านมาหมดแล้วค่ะ" ปลายฟ้าบอก
"นะ นี่..." เสียงหวานเล็กรีบทำหน้ายู่เอ่ยออกมาทันทีที่ถูกเพื่อนทั้งสองพูดจาเผาตัวเองอีกครั้ง มาร์ก็หัวเราะหันถามรุ่นน้องตัวเอง
"จริงเหรอ ฮ่า ๆ...น่าสนใจจัง"
"น่าสนใจตรงไหน" เสียงทุ้มนิ่งของชายร่างสูงที่นั่งอยู่พูดขึ้นทำเอาทุกคนที่นั่งอยู่เงียบไปในทันที โดยเฉพาะร่างเล็กที่ได้แต่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปสบสายตากับคนตรงหน้าที่จ้องมองหน้าเธออยู่
"แบบนี้...น่ารำคาญ" ทันทีที่เรียวปากหนาพูดจบ ใบหน้าใสก็เบะปากทำหน้าบึ้งออกมาทันทีกับสิ่งที่ได้ยินก่อนจะมีเสียงของมาร์พยายามห้ามปรามคนด้านข้าง
"คามิล ทำไมไปพูดแบบนั้นล่ะ"
"..." เจ้าของใบหน้าหล่อเย็นชาก็นิ่งยังคงจ้องมองไปยังใบหน้าเล็กของร่างบางที่นั่งอยู่
"เอ่อน้องไลลา พี่ต้องขอโทษแทนคามิลด้วยนะ"
"มะ ไม่เป็นไร..."
"...ไลลาเข้าใจว่าพี่เขาไม่ใช่คนอัธยาศัยดีสักเท่าไร ไลลาเข้าใจค่ะ" ในประโยคหลังใบหน้าเรียวใสหันไปมองหน้ายิ้มบอกรุ่นพี่สาวคนดัง ก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปยังร่างสูงตรงหน้าด้วยความบึ้งตึงอย่างชัดเจน แม้ว่าจะแอบสั่นกลัวไปกับดวงตาคมกริบที่ส่งเข้ามาผ่านนัยน์ตาสีเทานั้นมากแค่ไหนก็ตาม
"อะ เอ่อ นี่ก็เริ่มมืดมากแล้ว เรากลับกันเลยดีไหมคะ" เสียงปลายฟ้าพูดขึ้น
"อืม กลับกันเลยก็ดีนะ..."
"...พวกเรากลับกันยังไงล่ะ" มาร์ยิ้มเอ่ยถามรุ่นน้องสาวทั้งสาม
"วีขับรถมาค่ะ"
"ปลายก็ขับรถมา"
"อ้าว แล้วเราล่ะ" มาร์มองหน้าถามไลลาที่ยืนอยู่
"เอ่อ..." คนตัวเล็กอึกอักอย่างไม่รู้จะตอบยังไง เพราะกลัวตอบไปแล้วจะกลายเป็นภาระของทุกคน เธอตั้งใจไว้ว่าจะหานั่งรถแท็กซี่กลับเอง
"ไลลาไม่ได้เอารถมาไม่ใช่เหรอ" วีนัสถามขึ้น
"อะ เอ่อ..."
"งั้นให้พี่ไปส่งไหม บ้านเราอยู่ทางหนะ..." ยังไม่ทันที่มาร์จะถามจบ
"ไลลา"
เสียงของใครบางคนเดินเข้ามาเอ่ยเรียกร่างเล็กที่ยืนอยู่ก็ดังขึ้น"ไทก้า~" ใบหน้าเรียวใสยิ้มหวานตาหยีออกมาทันทีที่เห็นน้องชายตัวเอง สองเท้าเล็กรีบวิ่งเข้าไปยังคนตัวสูงที่เดินเข้ามาทันที
"มาได้ยังไงอ่า"
"ปะป๊าบอกให้มารับ ตามหมุดที่ไลลาปักให้หม่ามิ๊"
"อ่อ เย้~ มาได้ทันเวลาพอดีเลย" ร่างเล็กเอ่ยพร้อมกับพิงที่แขนแกร่งของน้องชายตัวสูงของตัวเองก่อนจะเอ่ยลาทุกคนที่ยืนอยู่สาวเท้าเดินออกไป
"ใครกัน แฟนไลลาเหรอ" เสียงมาร์เอ่ยถามด้วยความอยากรู้ปนเอ็นดู
"ไม่ใช่ค่ะ น้องชาย" วีนัสยิ้มตอบ
"อ่อ หน้าตาดีทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะเนี่ย"
"ไม่ใช่ค่ะพี่มาร์ หน้าตาดีกันทั้งบ้านต่างหาก"
"จริงเหรอ" มาร์ยิ้มถาม
"จริงค่ะ พ่อไลลาตัวจริงหล่อมากกก ขนาดอายุแตะเลขสี่แล้วก็ยังหล่อมาก แถมพี่ชายก็คือดีสุด ๆ ค่ะ เป็นพระเอกได้เลย..."
"...ส่วนแม่ไลลาก็น่ารักมาก เหมือนไลลาเลยค่ะ แต่แม่ไลลาเรียบร้อยกว่า ไลลาจะออกแนวภายนอกดูเรียบร้อยอ่อนหวานแต่จริง ๆ แล้วดื้อมากค่ะ ดื้อแบบตาใส ๆ เลย" หลังจากที่วีนัสพูดจบ มาร์ก็หัวเราะออกมากับคำพูดของรุ่นน้องสาวที่พูดถึงรุ่นน้องอีกคนที่ดูสดใสอยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อเป็นอย่างมาก ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายพากันกลับ
@คอนโดคามิล
ตึกตึก...
เสียงเท้าหนักของสองคนเดินเข้าไปยังภายในห้องคอนโดราคาแพงชั้นสูงสุดตามปกติก่อนที่ร่างสูงเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนจะจัดการปลดเนกไทออกอย่างทุกครั้งพร้อมกับกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวออกเผยให้เห็นรอยสักขนาดใหญ่ที่ลำตัวหนา เช่นเดียวกับปลาสเตอร์แปะแผลที่ถูกกระชากออกจนเห็นรอยสักบนลำคออีกจุด ซึ่งที่เขาจำเป็นต้องติดปลาสเตอร์แปะแผลไว้นั้นก็เพื่อไม่ต้องการให้ใครได้เห็นรอยสักตามร่างกายของเขา เนื่องจากยังไงเขาก็เรียนคณะแพทยศาสตร์อยู่ มันคงดูไม่ดีหากมีรอยสักให้คนไข้ได้เห็น คามิลจึงจำเป็นต้องปกปิดไว้ภายใต้ปลาสเตอร์สีเนื้อ
พรึบ
"กินอะไรหน่อยไหม" มาร์เอ่ยถามคนตัวสูงขึ้น
"..." คามิลก็ส่ายหน้าตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเอื้อมมือไปขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะจัดการเทลงในแก้วราคาแพง ยกกระดกดื่มทีเดียวหมดแก้ว ก่อนจะเลื่อนมือเข้าไปกระชากร่างบางหุ่นดีของหญิงสาวที่ยืนอยู่เข้ามาซุกไซ้นัวเนียหมายจะทำเรื่องอย่างว่า ทว่า...
"อ อื้อ! คามิล หยุดก่อน..."
"...คามิล วันนี้มาร์เหนื่อย" ทันทีที่เรียวปากสวยเอ่ยบอก คนตัวสูงก็ชะงักยอมหยุดผละออก
"ไว้วันอื่นนะ" ดวงตากลมสวยมองหน้าบอกคนตรงหน้า
"..." เจ้าของใบหน้าหล่อเย็นชาก็นิ่งไม่ตอบ ลุกขึ้นเดินออกจากโซฟาหรูไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งโดยมีสายตาของนักแสดงสาวที่มองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยแววตาบางอย่างยากจะคาดเดาในความคิด ความรู้สึกของเธอ
"...เริ่มเลย" ทันทีที่เรียวปากหนาพูดจบ มือบางก็จัดการผลักร่างแกร่งของสามีให้ล้มลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่ก่อนที่เธอจะรีบกระโดดเข้าไปขึ้นคร่อมร่างหนา ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปซุกไซ้เข้าที่ซอกคอสามีพร้อมทั้งใช้มือที่ว่างอยู่จัดการถอดเสื้อผ้าของคนใต้ร่างออก คามิลที่นอนมองการกระทำของหญิงสาวก็อดที่จะรู้สึกวูบวาบพอใจไม่ได้ เพราะไลลาไม่เคยแสดงความร้อนแรงแบบนี้ใส่เขามาก่อน พอได้เห็นภรรยาตัวเล็กที่หน้าตาไม่ต่างจากบาร์บี้มีชีวิตทำ ความพลุ่งพล่านก็ปะทุอยู่ในร่างกายของหมอมาเฟียอย่างไม่น่าเชื่อลิ้นเล็กสอดแทรกเข้ามายังปากหนาของสามีตัวสูงพร้อมกับซุกซนจนคนที่นอนอยู่ทนไม่ไหวต้องจูบตอบกลับด้วยความเร่าร้อนหนักหน่วง"อื้อออ~" ทั้งสองต่างแลกลิ้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่ไลลาจะรู้สึกได้ความแข็งตึงจากอะไรบางอย่างที่เธอกำลังนั่งทับอยู่ตรงนั้นของเขายังคงไวต่อความรู้สึกเหมือนเคย..."ถอดกางเกงให้พี่หน่อย" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยบอกภรรยาน้ำเสียงกระเส่า ซึ่งมือเล็กก็ทำตามอย่างที่พ่อของลูกบอกทันที โดยขณะที่หญิงสาวกำลังใช้มือถอดกางเกงที่อีกคนสวมใส่อยู่ มือหนาของอีกคนที่นอนอยู่ก็เคลื่อนเข้ามาลูบยังหน้าท้องแบนราบของร่างเล็ก
@อิตาลีครืดดด ~เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลดังขึ้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมงานเดินเข้าไปหยิบขึ้นมากดรับสายติ้ด(ไงคะพี่คามิล เลี้ยงลูกได้ไหม) เสียงหวานจากปลายสายเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง หลังจากตกลงกันว่าคามิลจะพาไลลากับลูกน้อยมาคุยงานด้วยที่อิตาลีเพื่อเป็นการพักผ่อนไปด้วยในตัว วันนี้คนตัวสูงจึงปล่อยให้แม่ของลูกได้ออกไปเที่ยวเล่นช็อปปิงตามประสา โดยมีเขาเป็นคนอาสาที่จะเลี้ยงลูกน้อยแทนเอง"เลี้ยงได้" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยพร้อมกับอุ้มลูกน้อยวัยทารกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่เดือนขึ้นมาอุ้มไว้แนบอกแกร่ง(จริงนะ ให้ไลลารีบกลับไปช่วยดูไหม)"ไม่เป็นไร หาความสุขใส่ตัวไปเถอะ เรื่องลูกไม่ต้องห่วง พี่เลี้ยงได้" เรียวปากหนากรอกเสียงบอกปลายสาย(โอเค แต่ถ้ามีอะไรหรือเลี้ยงไม่ไหว โทรหาไลลาได้ตลอดเลยนะคะ)"อืม"(งั้นไลลาขอไปช็อปปิงต่อก่อนน้าาา~)"..." ร่างสูงเผลอยิ้มออกมากับเสียงใสที่ยังคงสดใสอยู่ตลอดเวลาของภรรยา นิ้วแกร่งกดตัดสายไปก่อนจะก้มลงเล่นกับลูกชายตัวเองที่นอนกินนมอยู่บนอ้อมแขนหนาของเขาเด็กน้อยนอนมองหน้าคนเป็นพ่อตาใสไม่รู้เรื่องพร้อมกับปากที่ยังคงดูดกินขวดนมอย่าง
หนึ่งปีผ่านไป...ตึกตึกเสียงสองเท้าหนักของหมอหนุ่มในชุดสูทสุขุมเดินตรงออกไปจากบริเวณคลินิกของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งท่ามกลางเหล่าพยาบาล พนักงานในคลินิกที่ต่างผงกหัวทักทายเจ้านายสุดหล่อเจ้าของใบหน้าเย็นชา ทว่าในตอนนั้นเองครืดดด ~ โทรศัพท์ราคาแพงของร่างสูงดังขึ้นขณะที่เขากำลังเดินอยู่ทำให้ดวงตาคมก้มลงไปมองธนาติ้ด"อืม"(คุณคามิลครับ จะแวะเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยเลยไหมครับ)"อืม เดี๋ยวเข้าไป"(ครับ) หลังจากที่คุยกับลูกน้องคนสนิทเสร็จ หมอหนุ่มก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปยังรถสปอร์ตราคาแพงของตัวเองขับเคลื่อนออกไปด้วยความรวดเร็วเอี๊ยด!ไม่นานสปอร์ตสีเทาดำคันใหม่ที่เพิ่งถอยออกมาได้ไม่นานก็ถูกขับเข้ามาจอดยังบริเวณใต้ตึกอาคารขนาดใหญ่พร้อมกับมีเหล่าการ์ดมากมายที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูรีบก้มหัวทักทายแก่เจ้านายตัวสูงที่เพิ่งมาถึง"สวัสดีครับคุณคามิล" เสียงธนาเดินเข้ามาทักทายเจ้านายอีกครั้ง"..." คามิลก็พยักหน้ารับรู้ใช้มือหนาเลื่อนลงไปติดกระดุมเสื้อสูทของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเดินตรงเข้าไปยังด้านในตึกอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเขา ทว่าธุรกิจนี้มันไม่ได้ใสสะอาดอย่างที่หลายคนรู
สองเดือนผ่านไป..."มึนหัวจัง..." เสียงหวานของร่างเล็กพึมพำออกมาขณะที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ภายในห้องครัวขนาดใหญ่ ไลลามีสีหน้าที่รู้สึกไม่ดีบอกไม่ถูกกับอาการบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในร่างกายของตัวเอง ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ หญิงสาวมักจะมีอาการมึนหัว รวมถึง..."ทำไมวันนี้กลิ่นอาหารไม่ค่อยดีเลย" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยก่อนจะรู้สึกทนไม่ไหวรีบสาวเท้าเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลเพื่อที่จะอาเจียนออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียวหมดแรง"ปะ...เป็นอะไรไปเนี่ย" เจ้าของใบหน้าเรียวใสเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดี ทว่าในตอนนั้นเอง"ลลิดา" เสียงทุ้มคุ้นเคยของใครบางคนดังขึ้นทำให้คนตัวเล็กพยายามทำตัวเป็นปกติพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงของตัวเองลุกขึ้นปรับสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มอย่างเคยเดินออกจากห้องน้ำคอนโดหรู"กลับมาแล้วเหรอคะ" ร่างบางเดินยิ้มหวานเข้าไปเอ่ยถามยังสามีป้ายแดงของเธอหลังจากที่แต่งงานกันมาได้เข้าเดือนที่สอง"อืม พี่เข้ามาเห็นแก๊สเปิดอยู่แต่ไม่เจอเธอเลยเรียกหาดู""ไลลาอยากเข้าห้องน้ำกะทันหันน่ะค่ะ""..." คามิลพยักหน้ารับรู้พร้อมกับมองหน้าภรรยาตัวเล็กนิ่ง"พะ พี่คามิลมีอะไรหรือเปล่า""ทำไมวันนี้หน้าซีด ๆ " เจ
หนึ่งเดือนต่อมา...หมับ!เสียงมือเล็กแอบย่องเข้าไปสวมกอดเข้าที่เอวหนาของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่กำลังยืนทำอาหารเช้าอยู่ด้วยรอยยิ้มหวานสดใส"เอ๊ะโอ~ วันนี้คุณพ่อบ้านทำอะไรให้หมูน้อยทานคะ" เรียวปากบางอมชมพูเอ่ยถาม"ข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ""ว้าว รู้ใจจังเลย รู้ได้ไงคะว่าไลลาอยากกิน""เธอละเมองอแงใส่พี่มั้ง" เจ้าของใบหน้าหล่อตอบกลับอย่างประชดใส่คนตัวเล็ก เพราะเมื่อคืนก่อนนอน ร่างบางเอาแต่พูดกรอกหูเขาว่าอยากจะกินข้าวผัดปูกับไข่เจียวหมูสับ"ชิ!" คนตัวเล็กทำหน้ายู่ออกมาพร้อมกับผละมือเล็กออกจากเอวแกร่ง เดินตรงเข้าไปยังบริเวณที่มีแซนด์วิชหน้าตาน่ากินวางอยู่ มือบางไม่รอช้าที่จะหยิบแซนด์วิชนั้นขึ้นมากัดกินด้วยสีหน้ามีความสุข คามิลที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ก็ได้แต่ลอบยิ้มออกมากับความน่ารักของแฟนตัวเล็กที่ทุกครั้งไม่ว่าจะกินอะไรก็จะยิ้มหวานตาหยีมีความสุขอยู่ตลอด รวมถึงแซนด์วิชที่เขาตั้งใจทำไว้เพื่อให้คนตัวเล็กได้หยิบกินระหว่างรออาหารหลักจากเขาอยู่ใช้เวลาไม่นาน นักศึกษาแพทย์หนุ่มก็ทำอาหารทุกอย่างเสร็จนำลงไปใส่จานเดินเข้าไปวางไว้ให้ร่างเล็กอย่างที่มักจะทำให้อยู่เป็นประจำ ทว่า..."ทำไมวันนี้เสื้อถึงได้รัด
@โรงแรมเมื่อกินอาหารเสร็จ ทุกคนก็ต่างพากันแยกย้ายกลับมายังห้องพักของตัวเอง โดยไลลาเองก็รีบเดินเข้าไปจัดการอาบน้ำชำระล้างความเหนียวตัวอยู่พอสมควรจากอากาศร้อนที่อบอ้าวอยู่ไม่น้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน สองเท้าเล็กก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าท่าทีสบายตัวในชุดนอนสีหวานตัวเก่ง ทว่าเดินออกมาได้ไม่นาน ดวงตากลมโตก็ต้องชะงักไปหลังจากที่เหลือบไปเห็นแฟนหนุ่มร่างสูงกำลังนั่งไขว่ห้างจ้องมองหน้าเธอนิ่ง สวมใส่เพียงแค่กางเกงสแล็กส์สีดำเผยให้เห็นหน้าท้องกำยำไร้สิ่งปกปิด"พี่คามิล ถอดเสื้อทำไมคะ แอร์เย็นนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" เรียวปากเล็กเอ่ยถามขึ้นอย่างคนไม่รู้เรื่องในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างเล็กสาวเท้าเดินตรงเข้าไปยังบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งหมายจะทาครีมราคาแพงลงบนใบหน้าใส แต่แล้วก็ต้องถูกมือหนาของคนที่นั่งอยู่เอื้อมเข้าไปคว้าร่างเล็กเข้าหาตัว"อ๊ะ...อะไรคะเนี่ย" ดวงตากลมโตมองหน้าถามแฟนตัวสูงขึ้นสีหน้างุนงงสงสัย"ลืมจริง หรือแกล้งเนียน""คะ?" ไลลาถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจกว่าเดิม เพราะวันนี้เธอมัวแต่มีความสุขไปกับการกิน การทำนั่นทำนี่ จนลืมบางอย่างไปเสียสนิท"ลืมจริงสินะ" คามิลเอ่ยพึมพำขึ้น