บทที่ 7 รางวัลชมเชย
วันต่อมา
ระหว่างที่คนโปรดกำลังนั่งมองนกบินอยู่บนท้องฟ้า เธอก็นึกอิจฉาพวกมันขึ้นมาที่ได้โบยบินอย่างอิสระ "พวกแกมีปีกบินไปมาบนท้องฟ้า คงสนุกน่าดูนะ" หญิงสาวพึมพำเสียงพร่า โดยไม่รู้ตัวว่าพาเวลกับลูกน้องเพิ่งขนทีวีจอใหญ่ยักษ์เข้ามาในห้อง
ก๊อก ก๊อก
ลูกน้องหนุ่มเคาะผนังห้องจนเกิดเสียงดัง ทำให้คนตัวเล็กหันขวับมามองโดยเร็ว เธออ้าปากค้างกับสิ่งของที่ลูกน้องพาเวลกำลังแกะออกจากกล่อง
"ทีวี!"
"..."
"นะ นี่เป็นของขวัญที่โปรดขอไปเหรอคะ" ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งเคยเห็นทีวีเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นทีวีเครื่องแรกที่เธอได้เป็นของขวัญจากผู้ชาย "โปรดดูได้ทั้งวันเลยไหม" เพราะมันน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคลายเหงาได้ พาเวลไม่ตอบและให้ลูกน้องติดตั้งจนเสร็จสรรพ
"นายฝากมาบอกว่า ถ้าเธอเป็นเด็กดี ทำให้นายพอใจ นายจะให้เธอขอของขวัญได้หนึ่งอย่างต่อหนึ่งความพึงพอใจของนาย"
"รางวัลที่ทำให้คุณอีริคพอใจเหรอคะ"
"..." พาเวลนิ่งเงียบ และหันไปมองลูกน้อง เขาพยักหน้าให้ลูกน้องเก็บของเตรียมออกไปจากห้อง
"เดี๋ยวค่ะ แสดงว่าโปรดทำให้คุณอีริคพอใจใช่ไหมคะ"
"เปล่า นายบอกว่า นี่แค่รางวัลชมเชยเท่านั้น"
"..อ้าว -_-!"
หลังจากตอบคำถามนั้นเสร็จ พาเวลกับลูกน้องก็ออกไปจากห้องคอนโดฯทันที พร้อมกับโทรไปรายงานเจ้านายด้วยว่าทำภารกิจที่สั่งเสร็จสิ้นแล้ว
@สนามม้า
ม้าสายพันธุ์ Arabian สีดำขนเงาวับจากการถูกดูแลเป็นอย่างดีกำลังวิ่งอยู่ในลานที่ปูพื้นด้วยทรายละเอียดชนิดพิเศษ โดยอีริคเป็นคนควบคุมม้าตัวโปรดอยู่บนอาน
"นี่! ใจคอแกจะไม่เข้าประชุมสำคัญบ่ายนี้เลยเหรอ" ซินซินป้องปากตะโกนถามอีริคถึงเรื่องประชุมบ่ายนี้ เพราะอีริคไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปแต่งตัวเตรียมเข้าประชุมเลย เขายังพาม้าวิ่งสบายใจเฉิบ "อ้าวพาเวล เจ้านายของนายไม่เข้าประชุมแล้วเหรอ" เมื่อพาเวลเดินเข้ามา เธอจึงถามเขา
"นายบอกว่า พวกที่เข้าประชุมมีแต่พวกหน้าไหว้หลังหลอก ขี้เกียจเข้าไปนั่งฟังพวกมันตอแหลใส่กันครับ"
"เหอะ! นี่ขนาดนี้แล้วเหรอ" เธอไม่อยากเชื่อว่าอีริคจะพัฒนาสกิลการด่าคนได้เจ็บแสบขนาดนี้ "เออ แต่ก็จริงนั่นแหละ" ตอนแรกเธออึ้งกับสิ่งที่อีริคทำ แต่พอนึกไปนึกมา ก็เห็นด้วยกับอีริคซะงั้น "แล้วนายหายไปไหนมาเนี่ย หายไปตั้งนาน"
"ฉันสั่งมันไปทำงานเองแหละ" อีริคเป็นคนตอบคำถามแทนพาเวล เขาลงจากม้าตัวโปรด ลูบแผงคอมันเบา ๆ แล้วโยนหมวกกับถุงมือให้พาเวลเอาไปเก็บ "เฮ้อ...ฉันจะเข้าประชุมทำไม ในเมื่อพวกนั้นไม่อยากเห็นหน้า"
"ก็แหง เจ้านายหน้าหมาแบบนี้ ใครก็คงไม่อยากเห็น"
อีริคยกยิ้มมุมปาก คนที่กล้าด่าและกล้าต่อกรกับเขาแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ก็คงนะมีแต่ซินซินคนเดียว เพราะเธอเองก็ไม่ได้เกรงกลัวใคร รวมถึงเขาด้วย
"แล้วกินไรดี ฉันจะสั่งอาหารมากินที่นี่ และเดี๋ยวจะพาโซลาร์เดินเล่นด้วย"
"นี่มันสนามม้า ไม่ใช่โรงแรมนะแม่คุณ"
"แล้วจะทำไม"
"เป็นหุ้นส่วนฉันเลยไหมล่ะ"
"หึ!"
"ทำไม ทะเลาะกับพ่อตัวเองอีกแล้วเหรอ" เขาพอรู้เรื่องอยู่บ้าง ว่าคุณลุงกับซินซินไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ เพียงเพราะซินซินเป็นผู้หญิง และคุณลุงอยากได้ลูกผู้ชายมาสืบทอดตำแหน่งงาน ซินซินเหมือนเป็นจุดด่างพร้อยของคุณลุง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็มักจะถูกตำหนิมากกว่าชมเชยเสมอ
"ก็แหง ฉันมันลูกผู้หญิงนี่ ทำอะไรเตี่ยก็ไม่ชอบ"
"แล้วจะด้อยค่าตัวเองไปทำไม เธอเป็นผู้หญิงที่ผู้หญิงคนอื่นไม่สามารถเป็นได้"
"ยังไงวะ"
"ก็...ไม่รู้" อีริคยกมือขึ้นไปลูบศีรษะพี่สาว
"ขอบใจแกมากนะ ที่เห็นฉันเป็นผู้หญิงตัวน้อย ๆ คนหนึ่ง"
"หึหึ เชื่อเถอะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น"
"อ้าว" ซินซินเท้าเอวทำหน้ามุ่ยใส่อีริค "แล้วนี่แกใช้ให้พาเวลไปทำอะไรมาเนี่ย หายไปตั้งนาน"
"....อยากรู้?"
"อืม"
"หึ พอดีให้มันไปเลี้ยงสัตว์"
"สัตว์? ตัวอะไรวะ หมา? ม้าอีกตัว? หรือว่า..."
"ขอมะนาวโซดา" อีริคตัดบทเพราะรำคาญความสงสัยของซินซิน จากนั้นเขาจึงลุกขึ้น เดินออกมาจากสนามซ้อม
"แอบเลี้ยงสัตว์อีกแล้วสินะ" เธอไม่ได้โง่แต่ก็พอเดาออกว่าสัตว์เลี้ยงที่อีริคว่ามานั้น ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงทั่วไป แค่น่าจะเป็นคนมากกว่า
ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
คนโปรดนั่งกอดเข่าอยู่บนฟูกนุ่ม ๆ สายตาเธอเพ่งมองภาพเคลื่อนไหวบนจอทีวีขนาดห้าสิบห้านิ้ว ก็จริงอยู่ที่มีทีวีแล้วจะไม่เหงา แต่ทว่าการดูทีวีคนเดียวมันเหงากว่า
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นลูกน้องของอีริคก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดอาหาร
"เดี๋ยวค่ะ" คนโปรดเรียกชายหนุ่ม เขาวางถาดอาหารลงบนพื้นแล้วทำท่าจะเดินออกไปทันที "ทำไมวันนี้คุณพาเวลไม่เอาอาหารมาให้ฉันล่ะคะ"
"..." เพราะถูกสั่งไว้ว่าห้ามพูดคุยอะไรกับหญิงสาว เขาจึงไม่ตอบกลับแล้วเดินออกมาจากห้อง
คนโปรดถอนหายใจออกเบา ๆ แล้วลุกขึ้นไปเอาถาดอาหารมานั่งกินบนเตียง อาหารวันนี้เป็นข้าวหมูทอดกับไข่ดาว ดีหน่อยที่วันนี้มีผลไม้ให้ด้วย
"คุณอีริคทำอะไรอยู่นะ..." เธอเขี่ยข้าวในจานเล่น แล้วเงยหน้ามองข่าวสารในทีวี ปรากฏว่ามีข่าวของอีริคด้วย คนโปรดตั้งใจดูมาก ๆ และเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย "เวลาเขาใส่สูท ทำไมดูหล่อและสุขุมจัง" พอเห็นเขาใส่สูทออกทีวีแล้ว เธอแทบมองไม่ออกเลยว่าเขาเป็นคนในร้าย "ชีวิตฉันดีขึ้นกว่าเดิม แต่เหมือนนกน้อยอยู่ในกรงทองเลย" เธอมองออกไปข้างนอก และถอนหายใจ
'แต่ถ้างี่เง่า อยากให้เขาสนใจมากไปเราก็จะกลายเป็นสิ่งของที่เขามองข้าม เพราะฉะนั้นฉันต้องอดทน...แต่ว่าของรางวัลชิ้นต่อไปจะเป็นอะไรดีนะ'
"เฮ้อ~" คนโปรดเอนหลังนอนราบกับฟูกนุ่ม ๆ โดยไม่รู้เลยว่าอีริคกำลังดูความเคลื่อนไหวของเธอผ่านโทรศัพท์มือถืออยู่
ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนที่นั่งกินสเต๊กอยู่ฝั่งตรงข้าม
"อดอยากมาจากไหน เมืองนอกเมืองนาไม่มีสเต๊กกินเหรอ"
"ปากดีนะแก" ซินซินเบ้ปากใส่ "ก็เพราะมันมีแต่รสชาติเหี้ย ๆ ไง นี่ของไทยถูกปากก็เลยกินเยอะ"
"อืม"
"แล้วแกดูอะไรอยู่ตั้งนานสองนาน" เธอมองโทรศัพท์ในมือน้องชาย หากไม่ทักท้วงอีริคคงไม่เก็บโทรศัพท์ไปง่าย ๆ
"เปล่า"
"อืม..." เธอหรี่ตามองน้องชายอย่างจับผิด
ตอนพิเศษ 3 จบตอนจากเด็กน้อยแบเบาะในวันนั้น ตอนนี้น้องกันต์มีอายุครบสาวขวบพอดี เด็กชายในชุดเอื้อมยีนเดินไปหาพ่อตัวเองด้วยรอยยิ้มสดใส ในมือถือของเล่นที่เตรียมมาเล่นกับพ่อด้วย“ป๊า น้องกันต์อยากได้ของเล่นอีกครับ” น้ำเสียงและแววตาสดใสจดจ้องใบหน้าของพ่อที่กำลังนั่งทำงานอยู่กับพาเวล อีริคละสายตาจากหน้าลูกน้องมามองลูกชาย เขาอุ้มน้องกันต์ขึ้นมานั่งบนตักแล้วหอมศีรษะไปหนึ่งฟอด“หนูซื้ิอของเล่นเยอะแล้วเล่นหมดไหมครับ”“...” เด็กชายสั่นหน้า“ของเล่นเยอะแยะเลยลูก อันไหนที่หนูไม่เล่นแล้วป๊าขอเอาไปให้น้องได้ไหม น้องไม่มีของเล่น”“น้อง น้องไหนครับ”“ก็น้องที่เขาไม่มีตังค์ซื้อของเล่นครับ น้องอยู่ไกล ๆ เลย”“ได้ครับ”“งั้นน้องกันต์ไปเก็บของเล่นที่น้องกันต์ไม่เล่นแล้วกับลุงพาเวลนะ เดี๋ยวป๊าทำงานเสร็จป๊าไปหา”“ครับ”อีริคพยักหน้าให้พาเวลพาลูกชายเข้าไปในบ้าน ส่วนเราเร่งทำงานให้เสร็จ“อ้าว” คนโปรดถือจานผลไม้สดที่เธอตั้งใจจะเอาออกไปให้สองพ่อลูกที่หน้าบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกกับพาเวลเดินกลับเข้ามาในบ้าน“นายให้มาเก็บของเล่นที่คุณหนูไม่เล่นเอาไปบริจาคให้เด็กบนดอยครับ” พาเวลตอบ“อ๋อ ดีมากเลยค่ะ ของเล่นน้องกันต์
ตอนพิเศษ 2สองเดือนต่อมาเสียงอ้อแอ้ของลูกน้อยช่วยปลุกอีริคให้ตื่นจากการนอนพักสายตาในช่วงกลางวัน เขารีบลุกขึ้นมาดูลูก“พี่ริค” คนโปรดมองใบหน้าคมคายที่แสดงออกถึงความง่วงงุนด้วยความเอ็นดู “นอนต่อเถอะค่ะ โปรดดููลูกได้”“ไม่เอา ฉันหายง่วงแล้ว”“น้องกันต์หนูอย่ากวนป๊าสิลูก ป๊าไม่ได้นอนตั้งหลายคืนแล้วนะครับ”“ป๊ายินดีครับลูก” อีริคเขยิบเข้ามาใกล้แล้วก้มลงไปหอมลูกชายที่กำลังนอนเล่นอยู่บนเบาะ “ตัวหอมจังเลย”“โปรดกับคุณแม่เพิ่งอาบน้ำให้เมื่อกี้เองค่ะ”“ถึงว่าละ ตัวก็หอมหน้าก็ขาว”“หึหึ”“แล้วมีคนมาหาฉันไหม”“ไม่เลยค่ะ พี่ริคนัดใครไว้เหรอคะ”“เปล่าหรอก ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนเลย เผื่อมีคนอยากเจอหน้า”“ค่ะ”“น้องกันต์หลานป้า~” เสียงแหลม ๆ ของซินซินดังมาแต่ไกล แต่น้องกันต์กลับไม่ตกใจแถมยังดีดดิ้นและยิ้มร่าเหมือนว่ากำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น “อ้าว” ซินซินเลิกคิ้วทักทายน้องชายแล้วรีบนั่งลง “วันนี้ป้าซินมีชุดหล่อมาฝากด้วยนะคะ”“ชุดแดง”“ใช่ ใกล้ตรุษจีนแล้วผมอยากเป็นอาตี๋น้อยครับ”“หึหึ แล้วอีกชุดล่ะ”“อีกชุดเหรอ” เธอหยิบออกมาจากถุงกระดาษ ทุกคนขำขันเมื่อได้เห็นชุดเต็ม “ชุดหมูน้อยค่า”“ลูกกูไม่ใช่หม
ตอนพิเศษ 1ห้าวันต่อมาหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาอีริคก็ได้พาคนโปรดมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านตัวเองโดยมีฮาน่ากับซินซินช่วยดูแลคนโปรดกับน้องกันต์“หลานป้าหล่อจังเลย เห็นหน้ากันกี่ครั้งก็หลง” ซินซินนั่งเฝ้าหลานชายคนแรกอยู่ข้างเบาะนอนสำหรับเด็กทารกที่เธอซื้อมาให้หลานไม่ห่างไปไหนไกล ส่วนฮาน่ากำลังสอนคนโปรดปั้มนมอยู่อีกที่หนึ่ง“คุณท่านคะ เอ่อ...คุณผู้ชายท่านจะโกรธไหมคะ ที่โปรดกับลูกมาอยู่ที่นี่” สิ่งที่เธอเป็นกังวลมาโดยตลอดก็เรื่องพ่อของอีริค ตั้งแต่ท้องจนคลอดเธอก็ไม่เห็นท่านมาที่นี่สักครั้ง และเหมือนว่าอีริคกับพ่อก็ไม่ค่อยถูกกันด้วย“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เราเพิ่งคลอดลูกอย่าไปเครียดเลย เดี๋ยวน้ำนมจะไม่ไหลเอานะลูก” ฮาน่าปลอบใจคนโปรด อันที่จริงเธอก็เปรย ๆ เรื่องอีริคมีแฟนและแฟนลูกกำลังท้องให้สามีฟังบ้างแล้ว และเมื่อวันก่อนก็เพิ่งส่งรูปน้องกันต์ให้เขาดู แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาหรือการตอบกลับจากสามี แต่เธอก็ดูออกว่าสามีนั้นพึงพอใจอยู่บ้างที่หลานคนแรกเป็นผู้ชาย“โปรดกลัวพี่ริคทะเลาะกับคุณท่านอีก”“ไม่หรอก เชื่อแม่”“ค่ะ” คนโปรดมองไปหาน้องกันต์ที่เพิ่งกินนมหลับไป “น้องกันต์กินเก่งมากเลยค่ะ ตอนกลางคืนแ
บทที่ 70 บทส่งท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนก็มารวมกันอยู่ข้างบ้านซึ่งมีระแนงไม้ที่พ่อเลี้ยงปูเอาไว้ และสั่งเก้าอี้มาไว้สำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จิบกาแฟไปด้วย“เอาอีกไหม”อีริคส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อพ่อเลี้ยงยื่นขวดไวน์มาทางเขาหมายจะรินให้เขาอีก“กินเยอะก็ปวดหัว”"ปกติไม่ปฏิเสธนี่"“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอวะ มึงก็อย่าไปคะยั้นคะยอให้มันกิน” ชรัณเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ เมื่อก่อนจำได้ว่าเคยดื่มด้วยกันจนเข้าเรียนไม่ทัน มัวแต่อ้วกกับเมาค้างจนอาจารย์ให้ทำงานเก็บคะแนนย้อนหลังกันทั้งสามคน“ถ้าเมียมึงง่วงแล้วก็พาไปนอนได้นะเว้ย”“ง่วงยัง” อีริคเอ่ยถามคนข้างกาย แต่พอมองตาเธอแล้วยังตาแป๋วอยู่เลย “ไม่ตอบก็พอจะรู้”“โปรดขอนั่งอยู่อีกนิดนะคะ ยังสนุกอยู่เลย ชอบฟังพี่ ๆ เล่าความหลังสมัยเรียน สนุกดีค่ะ”“เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังว่าไอ้ริคมันแสบมากแค่ไหน” ชรัณเลิกคิ้วท้าทายอีริค“ปรานีกูด้วยครับ”“หึหึ” พ่อเลี้ยงหัวเราะขบขัน “สมัยก่อนก็ต่างคนต่างห้าวแหละ ไม่มีใครยอมใคร”“ยังไงเหรอคะ”“อ้าว ไหนบอกจะไม่เผาเพื่อนไง” ชรัณเลิกคิ้วถามองศาที่จู่ ๆ ก็เปิดประเด็นขึ้นมาซะอย่างนั้น“นิดหนึ่ง”“อา เล่าเลยงั้น”“เมื่อก่อนเคยไ
บทที่ 69 ความสุข“ที่ของมึงกูให้คนไปดูแล้วนะ เห็นช่างกำลังขนของมาลงกันเยอะเลย อีกไม่นานคงได้ลงเสาเข็ม” พ่อเลี้ยงเอ่ยขึ้นระหว่างขับรถเข้ามาในทางที่ตรงไปยังไร่ปาริฉัตร“ขอบใจ” อีริคกล่าวสั้น ๆ“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยกัน แล้วนี่เธอจะมาอยู่นานไหม” คราวนี้เขามองหน้าคนโปรด “เพราะถ้ามาอยู่นานฉันจะให้แม่บ้านและคนของฉันพาเที่ยว หลังไร่มีน้ำตกด้วย เผื่อสนใจอยากเล่นน้ำคลายร้อน”“ดีจังเลยค่ะ”“ถ้าอยากไปก็บอก จะได้ให้คนพาไป เพราะทางมันค่อนข้างรกและไปยากนิดหน่อย”“เราไปกันนะ” คนโปรดหันมามองหน้าคนรัก อีริคพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วมองไปโดยรอบ“อยากได้ที่สวย ๆ แบบนี้อีก มีอีกไหม” อีริคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ชรัณทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยตอบ“ก็พอมีนะ มึงอยากได้ติดเขาไหมล่ะ หรืออยากได้ติดลำธารดี”“อยากได้ทั้งสองที่เลย”“เอาว่ะ เออ ๆ เดี๋ยวจะหาดูให้ ชาวบ้านแถวนี้เอาที่ดินมาเสนอขายกูเยอะอยู่ ร้อนเงินกันทั้งนั้น ส่งลูกเรียนน่ะ”“อืม”“เสียสละมากเลยนะคะ ขายที่เพื่อเอาเงินส่งลูกเรียน”“อืม แต่ลูกเหี้ยก็ไม่ไหวนะ” ชรัณยกยิ้ม“ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่าเสียใจแทนพ่อแม่ค่ะ โปรดเองก็อยากทำให้พวกท่านภูมิใจบ้างสักครั้ง
บทที่ 68 พักผ่อนวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส บรรยากาศที่สนามม้าด้านนอกมีไอหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว แถมอากาศยังเย็นฉ่ำสบายจนอีริคไม่ยอมตื่น“ตื่นได้แล้วค่ะ” เธอโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มสากสองฟอดเพื่อเป็นการปลุกอีริคให้ตื่น ทว่าชายหนุ่มกลับเบือนหน้าหนีสัมผัสแล้วเอามือมาปิดหน้าไว้ “ขี้เซาจัง”“ให้ฉันนอนเต็มอิ่มบ้าง ไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานมากแล้ว” อีริคพึมพำอยู่ใต้ผ้าห่ม เมื่อได้ฟังแบบนั้นคนโปรดจึงไม่เซ้าซี้เขา เธอก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุม จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก“ตื่นแล้วเหรอ” พาเวลกำลังก่อกองไฟอยู่พอดี เขาส่งยิ้มทักทายคนโปรด “ดื่มนมอุ่นหน่อยไหม”“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้สนามพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาดื่ม “นมอุ่นนี่อร่อยมากเลยค่ะ”“อืม...แล้วนายยังไม่ตื่นเหรอ”“ยังค่ะ เห็นว่าอยากนอนอีกสักพัก”“อืม สงสัยคงเหนื่อยมาก ทำงานหนักมาหลายวัน”“ครับ”“พี่พาเวลล่ะคะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อมีโอกาสได้อยู่กับพาเวลสองต่อสอง เธอจึงถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเขาบ้าง“ก็ดี ช่วงนี้ทำงานหนักหน่อยแต่ก็มีความสุข”“เห็นพี่มีความสุขกับการทำงานโปรดก็ดีใจค่ะ”“แล้วจะไปเชีย