“เบย์” เสียงวาวาเอ่ยเรียกฉันโทนเสียงดังกว่าปกติทำเอาฉันชะงักหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทของตัวเอง ขณะที่เราสองคนกำลังเดินออกจากห้องเรียน
“อ้อ ว่าไง”
“เป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อกี้เรียกตั้งนาน” วาวามองหน้าถามฉันตาใส ซึ่งฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็นิ่ง
“ไม่มีอะไรนี่” ฉันตอบกลับและยังคงพยายามทำตัวเป็นปกติ ทว่าในตอนนั้นเอง กลับได้ยินเสียงทุ้มของกลุ่มชายคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
“เดี๋ยวพวกกูไปร้านเดิมต่อ มึงจะไปไหม ไอ้ลีโอ” ฉันนิ่งไปในทันทีอย่างรู้ทุกอย่างอยู่คนเดียวในใจ และคิดว่ารุ่นพี่คนนั้นคงจะจำอะไรไม่ได้…ซึ่งก็ดีแล้วแหละ
อย่าให้เขา…จำอะไรได้เลย
ฉันได้แต่ภาวนาอยู่ในใจซ้ำ ๆ อยู่แบบนั้น ก่อนจะตัดสินใจหันมองยังเพื่อนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านข้าง โดยวาวาก็ยืนจ้องมองพี่คนนั้นที่ยืนอยู่ด้วยแววตาดูมีความชื่นชมบอกไม่ถูก
“รู้จักเหรอ” ฉันอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะรู้สึกแปลก ๆ มาตั้งแต่ในห้องเรียนแล้ว
“พี่ลีโอน่ะเหรอ”
“อืม เห็นเธอดูเหมือนรู้จักกับเขามาก่อน”
“เปล่าหรอก เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนหรอก แต่พี่เขาเคยช่วยฉันไว้น่ะ”
“ช่วยเหรอ”
“อื้ม พอดีวันนั้นฉันเกือบโดนรถมอเตอร์ไซค์ขับเฉี่ยวน่ะ…”
“ว่าไงนะ!” ฉันเผลอหลุดโฟกัสไปในทันทีที่วาวาพูดจบ
เอาอีกแล้ว ซุ่มซ่ามไม่ทันระวังอีกแล้ว
“อย่าทำหน้าแบบนั้นใส่สิ”
“ก็เธอชอบเป็นแบบนี้”
“ขอโทษ” คนตัวเล็กทำตาแป๋วมองหน้าฉันด้วยท่าทีมีความรู้สึกผิด ฉันที่เห็นจึงได้แต่ถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ คราวหลังต้องคอยระวังตัวให้ดีนะ รู้ไหม”
“โอเค ฉันจะระวังตัวให้ดีเลย~” วาวาเอ่ยบอกฉันเสียงใส ก่อนจะพูดต่อ
“แต่ก็เท่านั้นแหละ เพราะพี่เขาช่วยไว้ ก็เลยรู้สึกดีใจที่ได้เจอพี่เขาอีกครั้ง” เจ้าของใบหน้าเรียวใสเอ่ยบอกฉันด้วยรอยยิ้มหวานตาหยีอย่างที่มักจะชอบทำเป็นประจำ ซึ่งฉันก็พยักหน้ารับรู้ด้วยความโล่งใจอยู่พอสมควรที่สองคนไม่ได้รู้จักกันมาก่อน คงอาจจะเพราะในตอนนี้ ฉันก็เหมือนมีชนักอะไรบางอย่างติดหลังอยู่ ในตอนนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นมา
แม่
“แป๊บนะ” ฉันเอ่ยบอกวาวาที่ยืนอยู่พร้อมกับไม่รอช้าที่จะกดรับสายจากคุณนายแม่
“ม้าว่าไง…”
(อยู่ไหน รีบกลับบ้านหน่อย)
“ทำไมอีก”
(มาช่วยเฝ้าร้านหน่อย)
“โห่ อะไรอีกอะม้า…”
(อย่าพูดมาก รีบกลับมา) สิ้นเสียงแม่ฉันเอ่ยบอก ปลายสายก็กดตัดสายไปในทันทีโดยที่ไม่คิดฟังเสียงครวญครางของฉันแม้แต่น้อย
ให้ตายเถอะ!
ตั้งแต่พี่สาวฉันไปทำงาน ก็แทบไม่มีใครมาคอยช่วยฉันเฝ้าร้านค้าที่บ้านตัวเองเลย
“เซ็ง!!” ฉันเอ่ยออกมาตามประสาอย่างที่มักจะคอยทำอยู่เป็นประจำ ซึ่งวาวาที่เห็นก็พอนึกรู้ได้จากท่าทีของฉัน
“งั้นฉันกลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบ ฉันก็เดินออกไปในทันทีเพราะฉันก็ทำเป็นบ่นไปแบบนั้น สุดท้ายฉันก็พร้อมกลับไปช่วยที่บ้านอยู่ดี
วันต่อมา…
@มหาวิทยาลัยเอช
ขณะที่เลิกเรียน
เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น ฉันที่นั่งอยู่จึงเอื้อมมือลงไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมามองดู ก่อนจะเห็นเป็นชื่อของพี่แตมป์ที่โทรเข้ามา
“ว่าไงพี่แตมป์” ฉันไม่รอช้าที่จะกดรับสายทักทายรุ่นพี่คนสนิท โดยที่วาวาที่นั่งอยู่ด้านข้างก็จ้องมองตาแป๋ว
(เลิกเรียนยัง ว่างอยู่หรือเปล่า มาหาฉันสักแป๊บสิ)
"ตอนนี้เหรอพี่ ได้ ๆ”
(อยู่คณะบริหารนะ)
"โอเค ตึกเรียนพี่ใช่ไหม"
(อืม)
"ได้เลยพี่ เลิกเรียนพอดี แต่คุยไม่นานใช่ไหมอะ วาวามีทำงานต่อ"
(ไม่นาน ๆ ก็เรื่องกลุ่มจิตอาสานั่นแหละ)
"โอเค" สิ้นเสียงเบย์ตอบกลับ นิ้วเรียวก็กดวางสายหันไปพูดคุยกับเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่ในทันที
"พี่แตมป์โทรมาเรื่องจิตอาสากลุ่มย่อย" หลังจากกลับไปอาจารย์ดาวก็ได้ส่งข้อความเข้ามาถึงคะแนนเก็บกลุ่มย่อยที่ทุกคนจะต้องออกไปทำมาส่งในกลุ่มไลน์ใหญ่ โดยแน่นอนว่า ในกลุ่มก็มีฉัน วาวา พี่แตมป์ พี่นิว พี่นาย แล้วก็…พี่คนนั้น ในตอนนี้ ซึ่งหลังจากที่พี่แตมป์สรุปจำนวนสมาชิกหลักมาแบบนั้น ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจซ้ำ ๆ ออกมากับความซวยของตัวเองที่ไม่ว่าจะไม่อยากพบเจอแค่ไหน แต่สุดท้าย…ก็ยังต้องเจอกับเขาอยู่ดี
"อ๋อ ที่เราอยู่กลุ่มเดียวกับพี่เขาใช่ไหม" วาวาถาม ทำให้ฉันได้สติหันไปมองหน้าถามเพื่อนตัวเล็กของตัวเอง
"ใช่ ๆ พี่เขาเรียกไปคุยเรื่องนี้อะ ไม่นานหรอก เธอสะดวกไหม ถ้าไม่ เดี๋ยวฉัน..."
"ไปสิ อีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะเข้างาน" วาวายิ้มตอบกลับมาตาหยีตามประสา ทำให้ฉันที่ได้ยินจึงค่อย ๆ พยักหน้ารับรู้
"โอเค งั้นไปกัน" ว่าแล้ว เราสองคนก็พากันเดินตรงไปยังใต้ตึกคณะบริหารตามที่พี่แตมป์บอก ทว่าคนที่ยืนอยู่กลับไม่ได้มีเพียงแค่กลุ่มรุ่นพี่คณะบริหาร แต่กลับมีพี่มาร์คัส พี่ตงตง แล้วก็พี่ธามยืนอยู่ด้วย ทำให้พี่แตมป์ที่เห็นพวกฉันรีบเอ่ยบอก
"เอ่อ...กลุ่มธามจะมาอยู่กลุ่มเดียวกับเรานะคะน้อง ๆ” สิ้นเสียงพี่แตมป์เอ่ย ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไปด้วยความไม่ได้อะไร ทว่ากลับรับรู้ได้ถึงสายตาของรุ่นพี่คนนั้นที่เหลือบมองยังวาวาอยู่บ่อยครั้ง กระทั่ง…
"งั้นเอาตามนี้นะคะ จิตอาสาของพวกเราก็คือจะไปช่วยกันดูแลน้อง ๆ ผู้พิการทางด้านการมองเห็นที่มูลนิธิคนตาบอด" เสียงพี่แตมป์สรุปเกี่ยวกับจิตอาสาที่พวกฉันจะต้องไปทำ โดยพี่ลีโอที่ได้ยินก็พยักหน้าตอบกลับ
"อืม ตามนี้แหละ" ก่อนที่ดวงตาคมของเขาจะเหลือบมองยังเพื่อนสนิทของฉันอีกครั้งพร้อมกับเอ่ย
"อะไรติดผมเราอยู่" พูดจบ นิ้วแกร่งก็ค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาหยิบเศษกระดาษที่ติดผมของวาวาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ออก ทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่ต่างชะงักไป ซึ่งฉันเองก็เช่นกัน…
แต่แล้วในตอนนั้นเอง
ปึง! เสียงอะไรบางอย่างถูกกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงทำเอาทุกคนสะดุ้งหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นว่ามันคือเอกสารการเรียนที่ถูกมือหนาของพี่ธามกระแทกลงอย่างแรง
"..." พี่เขาก็นิ่งไม่พูดอะไรแต่ดวงตาคมของเขานั้นกลับจ้องมองไปยังการกระทำของพี่ลีโออย่างไม่คิดปกปิดอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเอง และความเงียบงันที่เข้ามาปกคลุมยังบริเวณที่พวกเรายืนกันอยู่ บรรยากาศมันชวนอึดอัดบอกไม่ถูก ทว่าฉันเองก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองยังท่าทีของพี่ลีโอคนนั้นที่ดูจะใส่ใจวาวาเป็นพิเศษ จนกระทั่ง…
“อีวาวา!” เสียงใครบางคนเดินตะโกนตรงเข้ามายังวาวาที่ยืนอยู่พร้อมกับกระชากเรียวแขนเล็กเข้าหาตัวอย่างแรงโดยที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว รวมถึงฉัน โดยคนที่มาใหม่ก็คือ โบว์วี่ อดีตรูมเมตนิสัยไม่ดีของวาวาที่ลับหลังยัยนี่ แฟนของเธอมักจะคอยคุกคามวาวาอยู่เสมอ จนฉันกับพี่แตมป์ช่วยกันพาวาวาย้ายออกมาจากห้องพักนั้น
"อะ...อะไรกันโบว์วี่" วาวาถามเสียงหลงตกใจ
"มึงให้ผัวมึงมากระทืบผัวกูทำไม!" ปากเล็กสีแดงสดตะคอกถามขึ้นน้ำเสียงโกรธจัดเอาเรื่อง
ผัววาวางั้นเหรอ? นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน
"ฮ...ฮะ" เสียงวาวาถามสีหน้างุนงงไม่ต่างกับฉัน โบว์วี่ที่เห็นจึงยิ่งแสดงท่าทีโกรธจัดออกมา
"ใสซื่ออีกแล้วเหรอ..." พูดจบ โบว์วี่ก็จัดการหยิบแก้วน้ำที่อยู่ไม่ไกลสาดเข้าใส่ใบหน้าวาวาเข้าอย่างจังพร้อมกับยกมือขึ้นหมายจะฟาดลงยังใบหน้าเล็ก ฉันที่ได้สติจึงทำท่าจะสาวเท้าเดินเข้าไปปกป้องเพื่อนสนิทตัวเอง แต่กลับไม่ทัน…
หมับ!
เสียงพี่ธามที่ยืนอยู่เดินตรงเข้าไปกระชากบีบข้อมือของโบว์วี่เอาไว้ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพลางกดเสียงต่ำเอ่ยบอก
"ออกไปซะ" ก่อนจะกระชากพาร่างของโบว์วี่เดินออกไปพูดคุยด้วยท่าทีชวนขนลุกบอกไม่ถูก พี่เขาดูโกรธ…น่ากลัวเอาเรื่องเลยนะ
แต่ว่า…ทำไมถึงได้ดูโกรธขนาดนั้น?
ขณะที่ฉันกำลังยืนงงด้วยความรู้สึกสงสัย
“เปียกหมดแล้ว” เสียงทุ้มของพี่ลีโอดังขึ้นทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหันมอง ก่อนจะเห็นคนตัวสูงค่อย ๆ ถอดเสื้อคลุมตัวนอกของตัวเองออกเพื่อนำเข้าไปคลุมที่ร่างของวาวาพร้อมกับส่งยิ้มบาง ๆ ยกมือขึ้นไปโยกเข้าที่หัวเล็กของวาวาแววตามีความใจดีอ่อนโยน ซึ่งวาวาที่เสียขวัญในตอนแรกก็ชะงักหันมองยังพี่เขา ก่อนที่รอยยิ้มหวานความกลัวลดลงจะค่อย ๆ ฉายออกมา ฉันเองจึงได้แต่นิ่งมองดูท่าทีของเพื่อนสนิทกับรุ่นพี่คนนั้น…
“ลองดูไหมครับ” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ย คนตัวสูงก็จัดการจับร่างสวยที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมาโดยที่จุดเชื่อมของทั้งสองยังคงติดกันและน้ำกามสีขาวขุ่นของครั้งก่อนยังคงไหลทะลักออกมาจากรูสวยไม่หยุด กระทั่งร่างของเบย์ถูกจับให้ไปคว่ำหน้าลงยังพื้นพรมปลายเตียงนอนที่มีมือทั้งสองข้างของหญิงสาวยันร่างเอาไว้ เพราะช่วงล่างของเธอยังคงอยู่บนเตียงเชื่อมติดอยู่กับแก่นกายหนาของลีโอที่นั่งจับสองขาสวยแยกหันหลังคร่อมอยู่ที่ร่างหนาของเขา หลายคนเรียกท่าร่วมรักนี้ว่า ท่าขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นท่าทีลีโอบังเอิญไปเจอมาแล้วอยากที่จะได้ลองสักครั้ง…“เป็นไงครับ พอชอบไหม” เจ้าของใบหน้าหล่อถามคนที่ถูกจับแหกขาคว่ำหน้าอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมจ้องมองท่าทีของคนที่กำลังคว่ำหน้าใช้สองมือยันกับพื้นอยู่ด้วยความรู้สึกเร้าใจกับท่านี้อย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเมื่อสายตาของเขาสามารถเห็นรูร่องสีหวานที่กำลังกลืนกินแท่งร้อนหนาของเขาอย่างชัดเจนในท่าที คนตัวสูงก็ยิ่งรู้สึกมีอารมณ์เป็นอย่างมาก จนแก่นกายหนาของเขาพองแข็งขืนเต็มที่ ด้านเบย์เองที่รับรู้ได้ถึงการตื่นตัวเต็มที่ของคนรักก็รู้สึกชอบไปด้วยแถมยังเป็นท่าที่แปลกใหม่ แต่ก็สร้างความเสียวซ่านให้กับเธอได้อย
ปึก! ปึก! ปึก!“อ อ๊าา!…อู้วว อาา พะ…พี่ลีโอ…” ร่างสวยที่ถูกแก่นกายหนาขยับเข้าออกยังรูร่องของตัวเองจนรูสวยหุบอ้าไปตามความใหญ่โตนั้นร้องครางเสียงกระเส่าออกมาไม่หยุดพร้อมกับมือเรียวที่จิกลงยังผ้าปูที่นอนซ้ำ ๆ ไปด้วยความรู้สึกแทบบ้าไปกับการร่วมรักที่แสนดุเดือดนี้ หญิงสาวที่ถูกจับตอกอัดอยู่รับรู้ได้ถึงแก่นกายหนาที่สอดใส่เข้ามายังภายในร่องสาวของเธอจนสุดความยาวที่มี“…สะ…สุดยอด อ๊ะ! ซี้ด” เธอรู้สึกเสียวสะท้านไปหมดทุกครั้งที่แท่งร้อนนั้นถูกดันเข้ามา แม้จะมีความจุกอยู่บ้างในความใหญ่กว่าไซซ์ห้าสิบหก แต่ในตอนนี้ แท่งร้อนแท่งนี้เป็นไซซ์แท่งที่เบย์รู้สึกหลงใหลในขนาดมันเป็นที่สุด เพราะมันถึงใจยิ่งกว่าอะไร หากได้สัมผัสเข้าจริง ๆ“กระแทกเข้ามาอีกค่ะ อ๊า! กระแทกเข้ามาลึก ๆ …”“…กระแทกเข้ามา” ในประโยคหลัง ร่างบางไม่รอช้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเย้ายวนอย่างที่มักจะชอบทำ แน่นอนว่าการกระทำของหญิงสาวก็เหมือนเป็นสิ่งเร้าบางอย่างให้กับคนตัวสูง เขาเริ่มที่จะขยับเข้าออกยังรูร่องสีหวานหนักขึ้นราวกับต้องการระบายอารมณ์ความต้องการที่มี ที่พลุ่งพล่านอยู่ภายใน ทำเอาร่างสวยของเบย์สั
หนึ่งปีต่อมา…พาร์ตลีโอ(มีรูป)5.8k Likesleo.leenawat_a เพราะเราคือทุกอย่างของพี่ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นทุกอย่างให้กับพี่นะ รักนะครับ บู้บี้ @imyourbay_yyViews 102 comments“พี่ลีโอ!…เรียกเบย์ว่าบู้บี้อีกแล้วนะ!!” เสียงน้องเบย์ที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงข้ามผมตะโกนใส่ผมขึ้นด้วยท่าทีเอาเรื่อง น่าจะเพราะเห็นโพสต์ที่ผมแท็กหาไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน ตอนที่เราพากันลงไปดูงานที่คลังสินค้าธุรกิจของบ้านผมที่สนามบิน“…” ผมก็ได้แต่หัวเราะยิ้มตอบกลับไปพร้อมทั้งรู้สึกชอบใจบอกไม่ถูกเวลาที่ถูกอีกคนดูเอาเรื่องหรือโวยวายใส่ คือน้องไม่ได้ทำแบบใส่อารมณ์อะไรขนาดนั้น เพียงแค่ดูอยากเอาเรื่องผมและทำหน้าตายู่ใส่ก็เท่านั้น“หัวเราะอะไร เบย์ไม่ตลกนะ! ดูสิ คนเมนต์ล้อเบย์ว่าบู้บี้เต็มเลย”“ก็มีแค่พวกแสตมป์ น้องวาวา”“ก็นั่นแหละ เพราะพี่! คนอื่นเลยรู้เลยว่าที่บ้านเรียกเบย์ว่าอะไร”“ก็เรา…ชอบทำหน้านั้นจริง ๆ นี่” ผมตอบกลับพลางอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปบีบเข้าที่แก้มนุ่มด้วยความนึกเอ็นดูซ้ำ ๆ ในความน่ารักของแฟนตัวเอง ไม่สิ…ต้องเรียกว่าภรรยาของผมต่างหาก เพราะตอนนี้เราแต่งงานกันมาได้เกือบหกเดือนแล้ว“ฮึ่ย! ไม่ต้องมาจับแก้
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…@ดิสนีย์แลนด์, ฟลอริดา“อากาศวันนี้กำลังดีเลยนะครับ” เสียงลีโอพูดขึ้นขณะที่กำลังเดินอยู่ภายในดิสนีย์แลนด์ของรัฐฟลอริดา ซึ่งที่นี่เป็นประเทศสุดท้ายที่เขาและเบย์ต่างตั้งใจมาเก็บหลังจากที่เคยสัญญากันว่าจะบินไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ในทุก ๆ ประเทศที่จัดตั้งขึ้น ทว่า…“…” ร่างบางในวันนี้กลับเงียบกว่าปกติพร้อมกับใบหน้าที่ดูเหมือนนึกคิดอะไรอยู่ตลอด“น้องเบย์ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เจ้าของใบหน้าหล่ออดไม่ได้ที่จะหันถามแฟนตัวเล็กด้วยโทนเสียงห่วงใย หญิงสาวที่ได้ยินจึงรีบส่ายหน้าตอบกลับ“ค…คะ? …ฮะ…”“เราเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมวันนี้ดูไม่ค่อยจอยเลย หรือไม่ชอบที่นี่ครับ”“เปล่านะ เอ่อ เปล่าค่ะ ไม่ใช่ไม่ชอบ…”“แล้วเราเป็นอะไรไปครับ ทำไมดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเลย”“เปล่าหรอกค่ะ ไม่มีอะไรหรอก…” ร่างบางที่เห็นสีหน้าดูเริ่มเป็นกังวลห่วงใยของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ก็รีบสลัดท่าทีดูคิดไม่ตกของตัวเองออกไปในทันทีพร้อมกับแสดงสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขออกมาพลางคว้าเข้าที่แขนหนาของอีกคน“…ไปตรงนั้นกัน~” พูดจบ เบย์ก็รีบสาวเท้าควงแขนแฟนตัวเองพาเดินไปยังบริเวณด้านหน้าปราสาทขนาดใหญ่ที่โชคดีที่ตอนนี้ไม่ค่
หนึ่งเดือนต่อมา…“จอดตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวเบย์เดินเข้าไปเอง” เสียงหวานของร่างสวยที่นั่งอยู่ฝั่งด้านข้างคนขับหันเอ่ยบอกแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของตัวเอง ทว่าคนที่ขับรถคันแพงอยู่ก็ไม่คิดฟัง ยังคงขับรถตรงเข้าไป“พี่ลีโอ”“อีกนิดเดียว เดี๋ยวพี่ขับเข้าไปส่งครับ”“เฮ้อ รถมันติดนะ จริง ๆ พี่ไม่ต้องมาส่งเบย์ก็ได้เนี่ย เดี๋ยวไปประชุมสาย” เจ้าของใบหน้าเรียวพูดขึ้นอย่างรู้สึกเกรงใจคนเป็นแฟนที่กำลังขับรถมาส่งเธอที่คอนเสิร์ตศิลปินดังที่เธอตั้งใจมาดู แล้วก็ที่อีกคนเป็นคนตั้งใจกดบัตรมาให้เธอ“ไม่เป็นไรครับ จะถึงแล้ว”“ตามใจ” สุดท้ายเบย์ที่ไม่อาจที่จะถกเถียงต่อกับความดื้อรั้นของแฟนตัวเองได้ก็จำต้องเอ่ยออกมา ก่อนที่รถคันหรูจะค่อย ๆ เคลื่อนไปจอดยังบริเวณจุดส่งคน ซึ่งทันทีที่ถึงตรงนั้น ร่างบางก็ไม่รอช้าที่จะรีบเดินลงจากรถด้วยความรวดเร็ว หลังจากที่มีรถคันอื่นอีกมากมายจอดรออยู่ด้านหลัง“ไว้คอนเสิร์ตเลิกแล้วเบย์จะโทรหาไม่ก็ส่งข้อความหานะเผื่อพี่ติดประชุม แล้วก็…ถ้าติดประชุมอยู่ ไม่ต้องสนใจอะไรเบย์เลย ประชุมงานไป เดี๋ยวเบย์หาทางกลับเองได้ เข้าใจไหม” ดวงตาสวยจ้องถามแฟนตัวสูงที่นั่งอยู่ ลีโอที่เห็นก็รับรู้ได้ถึงท่าทีเอาเ
สองอาทิตย์ต่อมา…“ว่าไงเจ้” เสียงเบย์เอ่ยถามปลายสายที่โทรเข้ามา(เตรียมตัวหรือยัง)“กำลัง”(อย่าลืมเช็กของให้ดี พาสปอร์ตเอาใส่กระเป๋าเอาไว้เลย)“โอ๊ย รู้แล้วเจ้ ไม่ใช่เด็กนะ พี่ลีโอเอาใส่กระเป๋าไว้ให้หมดแล้ว” ร่างบางที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นตอบกลับยังปลายสายที่โทรเข้ามาห่วงใยถึงการไปเที่ยวต่างประเทศของเธอกับแฟนหนุ่มในวันพรุ่งนี้ ซึ่งบุษบานึกอดห่วงไม่ได้ เนื่องจากน้องของตัวเองเป็นคนไม่ค่อยที่จะรอบคอบสักเท่าไร แต่เมื่อนึกขึ้นได้ถึงชายอีกคน(เออลืมไป แกไปกับลีโอ แล้วนี่เตรียมยาไปเผื่อหรือยัง ม้าถาม)“ไม่รู้อะ พี่ลีโอ ม้าถามว่าเอายาไปเผื่อหรือยัง ต้องเอาไปไหม” เบย์ไม่รอช้าที่จะถามร่างสูงที่กำลังจัดกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วยความเป็นระเบียบ“พี่เอาไปเผื่อแล้วครับ บอกม้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อยิ้มตอบกลับยังร่างบางที่ถาม เบย์ที่ได้ยินจึงถามกลับยังพี่สาวที่น่าจะได้ยินคำตอบแล้ว“ได้ยินหรือยัง พี่ลีโอเอาไปแล้ว”(โอ๊ย ชีวิตแก ถ้าไม่มีลีโอจะทำยังไง ทำอะไรไม่เป็นเลยมั้ง)“อะไรเจ้ เนี่ยก็ทำอยู่”(ทำอะไร?)“นั่งเป็นกำลังใจให้ไง” ร่างสวยตอบกลับ ซึ่งคำตอบที่ได้ยินนั้นทำเอาลีโอที่ยืนอยู่หัว