“โอเคขึ้นแล้วหรือยัง” เสียงฉันที่ตัดสินใจเลิกสนใจทุกอย่างเดินตรงเข้าไปเอ่ยถามเพื่อนสนิทของตัวเอง วาวาที่ได้ยินแบบนั้นจึงรีบหันมาส่งยิ้มตาหยีตอบกลับ
“ดีขึ้นแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ”
“ไม่ห่วงได้ยังไง ยัยนั่นดูบ้าขนาดนั้น” ฉันเอ่ยอย่างรู้สึกเจ็บใจอยู่ไม่น้อยที่มัวแต่รู้สึกตกใจไปหมดกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนลืมที่จะปกป้องเพื่อนตัวเองให้เร็วกว่านี้ ซึ่งก็เหมือนวาวาจะรู้ในความคิดของฉัน
“ไม่เอาน่าเบย์ มันไม่มีอะไรแล้ว” เสียงหวานบอกพร้อมกับยกนาฬิกาขึ้นมามองดู
“โอ๊ะ ใกล้ได้เวลาเข้างานแล้ว ยังไงเดี๋ยววาขอตัวก่อนนะคะ” เจ้าของใบหน้าใสหันไปเอ่ยบอกรุ่นพี่ที่ยืนกันอยู่ ฉันที่ได้ยินแบบนั้นจึงรีบเสนอตัว
“เดี๋ยวเดินไปส่ง…” ทว่ายังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยคดี
“พี่ไปด้วยครับ” พี่ลีโอที่ยืนอยู่ก็ยิ้มบอกออกมา ทำเอาฉันที่ได้ยินชะงัก เช่นเดียวกับวาวา
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยววาไปเองได้ค่ะ ที่ทำงานอยู่ไม่ไกล”
“แต่…” ไม่รอให้พี่คนนั้นได้เซ้าซี้ต่อ
“เดี๋ยวฉันไปส่งเอง” พูดจบ ฉันก็จับมือพาวาวาเดินออกมาจากตรงนั้นในทันทีด้วยท่าทีปกติ ซึ่งอย่าคิดล่ะว่าฉันกำลังรู้สึกอิจฉาหรืออะไรกับเพื่อนของตัวเอง ฉันก็แค่…อยากเดินมาส่งวาวาเพียงลำพังก็เท่านั้น
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ” ฉันอดไม่ได้ที่จะหันถามเพื่อนตัวเล็ก วาวาที่ได้ยินแบบนั้นจึงยอมเล่า
“พอดีเมื่อวานเจมส์มาทักเราน่ะ แล้วทำตัวไม่ค่อยน่ารักเหมือนเดิม ถึงเนื้อถึงตัวเรา…” วาวาเล่าอย่างมีท่าทีเกร็ง ๆ นิด ๆ น่าจะเพราะกลัวว่าฉันจะโกรธที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้ ซึ่งแน่นอนว่า…ฉันก็โกรธจริงนั่นแหละ เพราะเคยบอกแล้วว่า มีอะไรหรือเกิดอะไรขึ้นให้บอกฉันอยู่เสมอ แต่วาวาก็ชอบเกรงใจแบบนี้
“แล้วไงต่อ”
“ก็ไม่อะไรหรอก พอดีพี่ลีโอกับเอ่อ…พี่ธาม เขาเข้ามาเจอกันพอดี เจมส์เลยพูดจาไม่ดีใส่พวกพี่เขาไป…”
“อืม พอจะเข้าใจแล้ว” ฉันที่พอจะเดาเหตุการณ์ต่อได้ไม่ยากเอ่ย ก่อนจะจ้องมองหน้าเพื่อน
“ต่อไปมีอะไรต้องบอกฉันนะ”
“อืม ฉันกลัวเธอเป็นห่วง”
“ยิ่งไม่รู้อะไรเลย ยิ่งห่วง” ฉันบอก โดยวาวาที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินเข้ามาโผกอดฉันในทันที
“ขอโทษน้าาา” ริมฝีปากเล็กพึมพำด้วยโทนเสียงชวนเอ็นดู จนฉันเองอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ก่อนที่ดวงตาจะเหลือบไปเห็นเสื้อคลุมที่คลุมร่างของเพื่อนตัวเองอยู่
“ว่าแต่…”
“…เขาดูอะไร ๆ กับเธออยู่นะ”
“หือ??” วาวาผละมองหน้าฉันสีหน้างุนงง
“พี่…ลีโอน่ะ”
“อ๋อ…ก็ไม่หรอก พี่เขาแค่เป็นคนใจดีน่ะ” คนตัวเล็กยิ้มบอกฉันด้วยแววตาสดใสคิดอย่างสิ่งที่พูดออกมา ทว่า…ฉันกลับไม่คิดแบบนั้นเลย
“แล้วถ้า…เขาชอบเธอล่ะ”
“ฮะ?”
“แค่สมมุติน่ะ”
“ไม่รู้สิ ตอนนี้…ฉันไม่อยากคิดเรื่องอะไรแบบนั้นเลย…อีกแล้ว” คำพูดแผ่วเบาในประโยคหลังรวมถึงสีหน้าที่ดูเศร้าสร้อยถนัดตาของเพื่อนตัวเล็กทำเอาฉันชะงักไปในทันที วาวามีอะไรบางอย่างในใจ แต่ยังไม่พร้อมที่จะบอกฉันสินะ
“ช่างเถอะ ถึงร้านเธอแล้ว เข้าไปทำงานเถอะ” ฉันยิ้มบอกกับเพื่อนสนิท
“อื้ม ขอบคุณนะที่เดินมาส่ง แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้~” คนตัวเล็กยิ้มหวานตาหยีบอกฉัน
“โอเค แล้วเจอกัน” ฉันจึงส่งยิ้มตอบกลับเพื่อนไป ก่อนจะเดินตรงไปยังป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งภายในใจก็นึกคิด ฉันไม่ได้อะไรหากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนตัวเอง แต่ถ้าทั้งสองลงเอยกัน…ฉันไม่รู้ว่าจะสามารถมองแฟนเพื่อนให้เหมือนปกติได้ยังไง ในเมื่อความจริงในคืนนั้นมันยังคงติดอยู่ภายในหัวของฉันไม่หายไป
แม้ว่าพี่เขาจะไม่รู้อะไร แต่ฉันรู้ไง…
“เฮ้อ!…” ให้ตายเถอะ ทำไมโลกมันถึงได้มีความกลมบังเอิญได้ถึงขนาดนี้
ด้านลีโอ
“ลีโอ” เสียงเดือนเพ็ญเดินเข้าไปสวมกอดหลานชายคนโปรดของตัวเองด้วยความคิดถึงที่มี ลีโอที่เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มสวมกอดหญิงสูงวัยกลับท่าทีเต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน
“สบายดีไหมครับ”
“ก็ดี แต่คิดถึงหลานชาย”
“อ้อนจังเลยนะครับ”
“ก็นะ ย่ามีหลานแค่คนเดียวนี่” เดือนเพ็ญเอ่ยบอกพร้อมกับยังคงกอดหลานคนโปรดของตัวเองไม่หยุด โดยมีภูชิตกับวรรณวิสาที่ยืนมองสองย่าหลานที่กอดกันอยู่แววตาเอ็นดูไปกับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นที่นาน ๆ ทีลีโอจะมีเวลาได้กลับมายังบ้านหลังใหญ่
“ช่วงนี้เรียนหนักเหรอลูก” เดือนเพ็ญถามหลังจากผละออกจากการกอดกับหลานพร้อมกับลีโอที่โอบร่างของคนเป็นย่าพาเดินเข้าไปภายในห้องอาหารขนาดใหญ่
“ครับ งานค่อนข้างเยอะ เพราะอยู่ปีสุดท้ายแล้วครับ”
“ถ้าจบแล้วก็พักก่อนได้นะ ไม่ต้องรีบทำงาน” หญิงสูงวัยบอกด้วยความห่วงใยหลานชายเพียงคนเดียวของตัวเองยิ่งกว่าอะไร เธอไม่ได้รักใคร่เพียงเพราะลีโอเป็นทายาทเพียงคนเดียวของบ้าน แต่เธอรักที่หลานชายเธอไม่เคยทำให้เธอรู้สึกเสียใจหรือผิดหวังกับเขาเลยสักครั้ง แถมลีโอยังโตมาในบุคลิกที่ดี เป็นแนวไม่ค่อยพูดแต่มีความอบอุ่น อ่อนโยน นอบน้อมต่อทุกคน นี่สิ…หลานชายที่เธอตั้งใจเลี้ยงดูมาอย่างดี
“ครับ” ลีโอยิ้มรับคำบอกจากคนเป็นย่าด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ซึ่งในตอนนั้นร่างชายชราที่เพิ่งตรวจงานเสร็จก็เดินเข้ามา
“สวัสดีครับคุณปู่” เสียงลีโอทักทาย อำพล ประธานใหญ่ของบริษัท ALL CARGO AIR TRANS ที่เป็นปู่ของตัวเองด้วยท่าทีนอบน้อม
“อืม สบายดีนะ” อำพลก็ทักทายหลานชายตัวเองไปด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่ทุกคนภายในโต๊ะจะเริ่มลงมือทานอาหารค่ำกันไปด้วยบรรยากาศที่ดี ต่างชวนกันพูดคุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้กันไป กระทั่ง…
“ว่าแต่หลัง ๆ ย่าไม่เจอหนูลาเบลเลยนะ” ทันทีที่หญิงสูงวัยถามจบ ชายที่ถูกถามก็ชะงักนิ่งไปในทันที โดยมีภูชิตกับวรรณวิสาที่เงียบไม่ต่าง เนื่องจากรู้เรื่องการจบลงของความสัมพันธ์ลูกชายกับอดีตแฟนของชายหนุ่มแล้ว
“…”
“ทำไมเงียบกันไปล่ะ มีอะไรหรือเปล่า” เดือนเพ็ญที่รู้สึกแปลกใจถาม ทำให้ลีโอที่นั่งอยู่ตัดสินใจเอ่ยบอก
“คือ…ผมเลิกกับลาเบลแล้วน่ะครับคุณย่า”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“…” ลีโอไม่ตอบทว่าได้แต่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้คนเป็นย่าไป ซึ่งเดือนเพ็ญที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มรับรู้ไม่ถามลงรายละเอียดอื่น ๆ ต่อ พูดเพียงแค่ว่า…
“ถ้าไม่ใช่คู่กัน ก็ไม่เป็นอะไรหรอกนะลูก อย่างน้อยก็เคยมีความสุขด้วยกัน” หญิงชราเอ่ยบอกกับหลานตัวเองด้วยอย่างปลอบประโลมให้กำลังใจ ลีโอที่ได้ยินแบบนั้นจึงยกยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดีไปกับคำพูดของหญิงสูงวัยที่มักจะคอยพูดจาปลอบประโลมให้กับเขาอยู่เสมอไม่ว่าจะมีเรื่องใด ๆ เกิดขึ้น เพราะครอบครัวของเขาเป็นแบบนี้ ลีโอจึงเติบโตขึ้นมามีนิสัยที่ค่อนข้างใจเย็นและใจดีอยู่เสมอ ซึ่งในขณะที่นั่งยิ้มไปกับคำพูดของคนเป็นย่า ดวงตาคมของคนตัวสูงก็เหลือบไปเห็นข้อความของใครบางคนที่ส่งตอบกลับเขาเข้ามาพอดี
ข้อความ
วาวา : วาไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ
วาวา : ขอบคุณพี่ลีโอมาก ๆ เลยนะคะ
วาวา : แล้ววาจะรีบทำความสะอาดเอาเสื้อพี่ไปคืนให้นะคะ^^
หลังจากที่กดอ่านข้อความ รอยยิ้มบาง ๆ ก็ฉายขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลา…
“ลองดูไหมครับ” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ย คนตัวสูงก็จัดการจับร่างสวยที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมาโดยที่จุดเชื่อมของทั้งสองยังคงติดกันและน้ำกามสีขาวขุ่นของครั้งก่อนยังคงไหลทะลักออกมาจากรูสวยไม่หยุด กระทั่งร่างของเบย์ถูกจับให้ไปคว่ำหน้าลงยังพื้นพรมปลายเตียงนอนที่มีมือทั้งสองข้างของหญิงสาวยันร่างเอาไว้ เพราะช่วงล่างของเธอยังคงอยู่บนเตียงเชื่อมติดอยู่กับแก่นกายหนาของลีโอที่นั่งจับสองขาสวยแยกหันหลังคร่อมอยู่ที่ร่างหนาของเขา หลายคนเรียกท่าร่วมรักนี้ว่า ท่าขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นท่าทีลีโอบังเอิญไปเจอมาแล้วอยากที่จะได้ลองสักครั้ง…“เป็นไงครับ พอชอบไหม” เจ้าของใบหน้าหล่อถามคนที่ถูกจับแหกขาคว่ำหน้าอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมจ้องมองท่าทีของคนที่กำลังคว่ำหน้าใช้สองมือยันกับพื้นอยู่ด้วยความรู้สึกเร้าใจกับท่านี้อย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเมื่อสายตาของเขาสามารถเห็นรูร่องสีหวานที่กำลังกลืนกินแท่งร้อนหนาของเขาอย่างชัดเจนในท่าที คนตัวสูงก็ยิ่งรู้สึกมีอารมณ์เป็นอย่างมาก จนแก่นกายหนาของเขาพองแข็งขืนเต็มที่ ด้านเบย์เองที่รับรู้ได้ถึงการตื่นตัวเต็มที่ของคนรักก็รู้สึกชอบไปด้วยแถมยังเป็นท่าที่แปลกใหม่ แต่ก็สร้างความเสียวซ่านให้กับเธอได้อย
ปึก! ปึก! ปึก!“อ อ๊าา!…อู้วว อาา พะ…พี่ลีโอ…” ร่างสวยที่ถูกแก่นกายหนาขยับเข้าออกยังรูร่องของตัวเองจนรูสวยหุบอ้าไปตามความใหญ่โตนั้นร้องครางเสียงกระเส่าออกมาไม่หยุดพร้อมกับมือเรียวที่จิกลงยังผ้าปูที่นอนซ้ำ ๆ ไปด้วยความรู้สึกแทบบ้าไปกับการร่วมรักที่แสนดุเดือดนี้ หญิงสาวที่ถูกจับตอกอัดอยู่รับรู้ได้ถึงแก่นกายหนาที่สอดใส่เข้ามายังภายในร่องสาวของเธอจนสุดความยาวที่มี“…สะ…สุดยอด อ๊ะ! ซี้ด” เธอรู้สึกเสียวสะท้านไปหมดทุกครั้งที่แท่งร้อนนั้นถูกดันเข้ามา แม้จะมีความจุกอยู่บ้างในความใหญ่กว่าไซซ์ห้าสิบหก แต่ในตอนนี้ แท่งร้อนแท่งนี้เป็นไซซ์แท่งที่เบย์รู้สึกหลงใหลในขนาดมันเป็นที่สุด เพราะมันถึงใจยิ่งกว่าอะไร หากได้สัมผัสเข้าจริง ๆ“กระแทกเข้ามาอีกค่ะ อ๊า! กระแทกเข้ามาลึก ๆ …”“…กระแทกเข้ามา” ในประโยคหลัง ร่างบางไม่รอช้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเต็มไปด้วยความเย้ายวนอย่างที่มักจะชอบทำ แน่นอนว่าการกระทำของหญิงสาวก็เหมือนเป็นสิ่งเร้าบางอย่างให้กับคนตัวสูง เขาเริ่มที่จะขยับเข้าออกยังรูร่องสีหวานหนักขึ้นราวกับต้องการระบายอารมณ์ความต้องการที่มี ที่พลุ่งพล่านอยู่ภายใน ทำเอาร่างสวยของเบย์สั
หนึ่งปีต่อมา…พาร์ตลีโอ(มีรูป)5.8k Likesleo.leenawat_a เพราะเราคือทุกอย่างของพี่ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นทุกอย่างให้กับพี่นะ รักนะครับ บู้บี้ @imyourbay_yyViews 102 comments“พี่ลีโอ!…เรียกเบย์ว่าบู้บี้อีกแล้วนะ!!” เสียงน้องเบย์ที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงข้ามผมตะโกนใส่ผมขึ้นด้วยท่าทีเอาเรื่อง น่าจะเพราะเห็นโพสต์ที่ผมแท็กหาไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน ตอนที่เราพากันลงไปดูงานที่คลังสินค้าธุรกิจของบ้านผมที่สนามบิน“…” ผมก็ได้แต่หัวเราะยิ้มตอบกลับไปพร้อมทั้งรู้สึกชอบใจบอกไม่ถูกเวลาที่ถูกอีกคนดูเอาเรื่องหรือโวยวายใส่ คือน้องไม่ได้ทำแบบใส่อารมณ์อะไรขนาดนั้น เพียงแค่ดูอยากเอาเรื่องผมและทำหน้าตายู่ใส่ก็เท่านั้น“หัวเราะอะไร เบย์ไม่ตลกนะ! ดูสิ คนเมนต์ล้อเบย์ว่าบู้บี้เต็มเลย”“ก็มีแค่พวกแสตมป์ น้องวาวา”“ก็นั่นแหละ เพราะพี่! คนอื่นเลยรู้เลยว่าที่บ้านเรียกเบย์ว่าอะไร”“ก็เรา…ชอบทำหน้านั้นจริง ๆ นี่” ผมตอบกลับพลางอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปบีบเข้าที่แก้มนุ่มด้วยความนึกเอ็นดูซ้ำ ๆ ในความน่ารักของแฟนตัวเอง ไม่สิ…ต้องเรียกว่าภรรยาของผมต่างหาก เพราะตอนนี้เราแต่งงานกันมาได้เกือบหกเดือนแล้ว“ฮึ่ย! ไม่ต้องมาจับแก้
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…@ดิสนีย์แลนด์, ฟลอริดา“อากาศวันนี้กำลังดีเลยนะครับ” เสียงลีโอพูดขึ้นขณะที่กำลังเดินอยู่ภายในดิสนีย์แลนด์ของรัฐฟลอริดา ซึ่งที่นี่เป็นประเทศสุดท้ายที่เขาและเบย์ต่างตั้งใจมาเก็บหลังจากที่เคยสัญญากันว่าจะบินไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ในทุก ๆ ประเทศที่จัดตั้งขึ้น ทว่า…“…” ร่างบางในวันนี้กลับเงียบกว่าปกติพร้อมกับใบหน้าที่ดูเหมือนนึกคิดอะไรอยู่ตลอด“น้องเบย์ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เจ้าของใบหน้าหล่ออดไม่ได้ที่จะหันถามแฟนตัวเล็กด้วยโทนเสียงห่วงใย หญิงสาวที่ได้ยินจึงรีบส่ายหน้าตอบกลับ“ค…คะ? …ฮะ…”“เราเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมวันนี้ดูไม่ค่อยจอยเลย หรือไม่ชอบที่นี่ครับ”“เปล่านะ เอ่อ เปล่าค่ะ ไม่ใช่ไม่ชอบ…”“แล้วเราเป็นอะไรไปครับ ทำไมดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเลย”“เปล่าหรอกค่ะ ไม่มีอะไรหรอก…” ร่างบางที่เห็นสีหน้าดูเริ่มเป็นกังวลห่วงใยของแฟนหนุ่มรุ่นพี่ก็รีบสลัดท่าทีดูคิดไม่ตกของตัวเองออกไปในทันทีพร้อมกับแสดงสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขออกมาพลางคว้าเข้าที่แขนหนาของอีกคน“…ไปตรงนั้นกัน~” พูดจบ เบย์ก็รีบสาวเท้าควงแขนแฟนตัวเองพาเดินไปยังบริเวณด้านหน้าปราสาทขนาดใหญ่ที่โชคดีที่ตอนนี้ไม่ค่
หนึ่งเดือนต่อมา…“จอดตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวเบย์เดินเข้าไปเอง” เสียงหวานของร่างสวยที่นั่งอยู่ฝั่งด้านข้างคนขับหันเอ่ยบอกแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของตัวเอง ทว่าคนที่ขับรถคันแพงอยู่ก็ไม่คิดฟัง ยังคงขับรถตรงเข้าไป“พี่ลีโอ”“อีกนิดเดียว เดี๋ยวพี่ขับเข้าไปส่งครับ”“เฮ้อ รถมันติดนะ จริง ๆ พี่ไม่ต้องมาส่งเบย์ก็ได้เนี่ย เดี๋ยวไปประชุมสาย” เจ้าของใบหน้าเรียวพูดขึ้นอย่างรู้สึกเกรงใจคนเป็นแฟนที่กำลังขับรถมาส่งเธอที่คอนเสิร์ตศิลปินดังที่เธอตั้งใจมาดู แล้วก็ที่อีกคนเป็นคนตั้งใจกดบัตรมาให้เธอ“ไม่เป็นไรครับ จะถึงแล้ว”“ตามใจ” สุดท้ายเบย์ที่ไม่อาจที่จะถกเถียงต่อกับความดื้อรั้นของแฟนตัวเองได้ก็จำต้องเอ่ยออกมา ก่อนที่รถคันหรูจะค่อย ๆ เคลื่อนไปจอดยังบริเวณจุดส่งคน ซึ่งทันทีที่ถึงตรงนั้น ร่างบางก็ไม่รอช้าที่จะรีบเดินลงจากรถด้วยความรวดเร็ว หลังจากที่มีรถคันอื่นอีกมากมายจอดรออยู่ด้านหลัง“ไว้คอนเสิร์ตเลิกแล้วเบย์จะโทรหาไม่ก็ส่งข้อความหานะเผื่อพี่ติดประชุม แล้วก็…ถ้าติดประชุมอยู่ ไม่ต้องสนใจอะไรเบย์เลย ประชุมงานไป เดี๋ยวเบย์หาทางกลับเองได้ เข้าใจไหม” ดวงตาสวยจ้องถามแฟนตัวสูงที่นั่งอยู่ ลีโอที่เห็นก็รับรู้ได้ถึงท่าทีเอาเ
สองอาทิตย์ต่อมา…“ว่าไงเจ้” เสียงเบย์เอ่ยถามปลายสายที่โทรเข้ามา(เตรียมตัวหรือยัง)“กำลัง”(อย่าลืมเช็กของให้ดี พาสปอร์ตเอาใส่กระเป๋าเอาไว้เลย)“โอ๊ย รู้แล้วเจ้ ไม่ใช่เด็กนะ พี่ลีโอเอาใส่กระเป๋าไว้ให้หมดแล้ว” ร่างบางที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นตอบกลับยังปลายสายที่โทรเข้ามาห่วงใยถึงการไปเที่ยวต่างประเทศของเธอกับแฟนหนุ่มในวันพรุ่งนี้ ซึ่งบุษบานึกอดห่วงไม่ได้ เนื่องจากน้องของตัวเองเป็นคนไม่ค่อยที่จะรอบคอบสักเท่าไร แต่เมื่อนึกขึ้นได้ถึงชายอีกคน(เออลืมไป แกไปกับลีโอ แล้วนี่เตรียมยาไปเผื่อหรือยัง ม้าถาม)“ไม่รู้อะ พี่ลีโอ ม้าถามว่าเอายาไปเผื่อหรือยัง ต้องเอาไปไหม” เบย์ไม่รอช้าที่จะถามร่างสูงที่กำลังจัดกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วยความเป็นระเบียบ“พี่เอาไปเผื่อแล้วครับ บอกม้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อยิ้มตอบกลับยังร่างบางที่ถาม เบย์ที่ได้ยินจึงถามกลับยังพี่สาวที่น่าจะได้ยินคำตอบแล้ว“ได้ยินหรือยัง พี่ลีโอเอาไปแล้ว”(โอ๊ย ชีวิตแก ถ้าไม่มีลีโอจะทำยังไง ทำอะไรไม่เป็นเลยมั้ง)“อะไรเจ้ เนี่ยก็ทำอยู่”(ทำอะไร?)“นั่งเป็นกำลังใจให้ไง” ร่างสวยตอบกลับ ซึ่งคำตอบที่ได้ยินนั้นทำเอาลีโอที่ยืนอยู่หัว