LOGIN“พ่อคะแม่คะ..มิวท์คงต้องทำแล้วสินะ มิวท์ขอโทษนะถ้าสิ่งที่ทำจะนำความล่มสลายมาสู่บริษัท”
“แต่มิวท์ทนดูต่อไปไม่ได้แล้วค่ะ ทุกอย่างมันบานปลายเกินจะควบคุม เงินที่เรามีนั้นไม่มีค่าอะไรเลยถ้าผู้คนต้องมากลายเป็นสัตว์ร้ายกันไปหมด เราต้องช่วยเหลือพวกเขาสิคะถึงจะถูก!”
“มิวท์พอแล้ว! มิวท์จะไม่ขายอะไรอีกแล้ว! แต่มิวท์จะช่วยผู้คนแทน ได้มากได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร”
.
เป็นอีกครั้งที่ประธานสาวเลือกที่จะเมินใส่เปรม แม้ผนังกระจกกั้นจะเริ่มร้าวและสั่นกระเพื่อมแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไฟในตัวกับเจตจำนงค์อันร้อนแรงก็นำพามิวท์ให้มายืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแทน บนหลังตู้มีภาพของพ่อกับแม่ที่เป็นประธานบริษัทคนเก่าตั้งอยู่ เธอจดจ้องมันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพรั่งพรูถ้อยคำในข้างต้นออกมา
.
หมดปัญหาเพราะไม่มีใครจะต้านทานเธอได้ เปรมกลายร่างไปแล้วส่วนพ่อแม่ก็เสียชีวิตลงแล้วจากเชื้อโควิด มิวท์ก็เลยกลายเป็นผู้มีอำนาจเต็ม ตัวตนที่แท้จริงของเธอก็เลยได้ฉายแสง ว่าที่จริงแล้วเจ้าหล่อนก็ไม่ได้เป็นคนชั่วช้าสามานย์อะไร ทุกอย่างที่ทำไปล้วนเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ มิวท์นิสัยดีจะตายไม่งั้นแพรวคงไม่รับเธอไว้เป็นเพื่อนหรอก
.
“เอี๊ยดดด!”
.
เปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกราวกับต้องการจะขัดจังหวะความผิดชอบชั่วดีในใจ เธอจัดแจงหยิบชุดรัดรูปสุดทะมัดทะแมงขึ้นมาสวมใส่ ด้วยความไวอันเร่งรีบ เวลาไม่คอยท่าชักช้าจะไม่ทันการณ์ ระหว่างสวมชุดอยู่มิวท์ก็เลยคิดถึงแผนการที่จะทำในลำดับถัดไปพร้อมกันไปด้วย
.
“ในหอวัคซีนยังมีพวกเด็ก ๆ อยู่!”
“มีเด็กตุ๊ดเด็กแต๋วแล้วก็พวกเด็กหญิงสายวาย ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกเพียบ ที่โดนพวกพี่เปรมจับตัวมา!”
“พี่แกเคยบอกว่าเด็กพวกนี้จับง่าย แถมยังรีดเลือดได้เยอะเพราะอายุยังน้อย ความดันโลหิตจึงอยู่ในระดับดีเยี่ยม”
“ซีดดด! ชักจะแย่แล้วสิ?!”
.
“พรืดดด!”
รูดซิบติดตะขอเสร็จสรรพ แถมพ่วงด้วยการเหน็บปืนพกเล็ก Micro compact รุ่น Beretta MOD ไว้ที่ซองเสียบด้านข้างลำตัว
.
บอกตามตรงว่าดูไม่เข้ากันเลย หน้าหมวย ๆ หุ่นเล็ก ๆ ในชุดหนังรัดรูปแบบแบล็ควิโดว์ โคตรจะย้อนแย้งกับบุคลิกของมิวท์ที่สุดแสนจะเรียบร้อย แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก บทจะต้องบู้จะให้ลูกคุณหนูอย่างเธอใส่ชุดซินเดอเร่ล่านั่งเต๊ะท่าอยู่บนรถฟักทองก็กระไรอยู่
.
ตบกระบอกปืนเรียกความมั่นใจไปสองที ก่อนจะใช้มืออีกข้างควักสมาร์ทโฟนขึ้นมาติดต่อไปที่หน่วยรบพิเศษ กับกองกำลังอารักขาที่ยังไม่ติดเชื้อ สุดเหลือเชื่อที่มิวท์ทำทุกอย่างได้อย่างแคล่วคล่อง นี่ล่ะนะที่เขาว่าพอเข้าตาจนขึ้นมาอะดรีนาลีนมักจะหลั่ง ในใจมิวท์ ณ ปัจจุบันจึงรุ่มร้อนไม่ต่างจากตอนที่ได้นอนกับแฟนเพื่อน
.
“โคร่งงง~!”
.
“ว๊ายยย!”
ตวาดเสียงร้องตกใจเมื่อจู่ ๆ เปรมก็พุ่งขึ้นจากเตียงแล้วเอาหัวโขกผนังกระจก!
.
“โคร่งงง~! , กรรรรรร! , กรรรรร!”
.
“กึก! , กึก! , กึก! , กึก!”
.
เขาเขย่าลูกบิดโครม ๆ จนบิดเบี้ยว น้ำลายยืดเป็นทางและบานกระจกกั้นนั้นก็จวนจะแตกเต็มที
.
“เฮ้อ..!”
“ไม่ต้องแล้วพี่.. มิวท์ไม่แคร์พี่อีกต่อไปแล้วล่ะ.. ยิ่งพี่เป็นแบบนี้มิวท์ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ มิวท์ควรทำแบบนี้มาตั้งนานแล้วเหอะ มิวท์ควรจะช่วยผู้คน บริษัท AP ของเราควรจะหยุดการทำเงินบนความลำบากของมนุษยชาติได้แล้ว!”
“ขอโทษนะคะพี่.. แต่เด็ก ๆ ในหอวัคซีนสำคัญกว่าพี่ที่กลายร่างไปแล้วเยอะ”
“ลาก่อนค่ะ.. สุดที่รักของหนู”
.
“ปัง!”
.
เซอร์ไพรต์สุดในสามโลกเมื่อมิวท์ในชุดรัดรูป กลับทำในสิ่งที่ใครก็ไม่คาดคิด! กระสุนจากปืนพกสั้นขนาดลำกล้อง 0.65 มิล พุ่งแหวกอากาศทะลวงผ่านกระจกกั้นแบบโคตรง่าย มันเจาะทะลวงเข้าไปเป็นรูโบ๋ แล้วตำแหน่งความสูงก็เรียกได้ว่าตรงกับใบหน้าของเปรมแบบพอดิบพอดี!
.
“ปั๊กกก!!!”
.
ซัดใส่เต็ม ๆ เปรมหัวสะบัดพับไปด้านหลัง ลำตัวเขาเซถลาไปเล็กน้อย แต่เพียงแค่เสี้ยวอึดใจต่อมาเขาก็สปริงร่างกลับขึ้นมาได้ดังเดิม พร้อมกับการถ่มถุยเอาหัวกระสุนที่มิวท์ยิงอัดใส่เมื่อครู่ออกมาจากช่องปาก!
.
“ถุ้ย!”
.
ควันขึ้นโขมงคมเขี้ยวร้อนฉ่า จะเห็นก็เพียงรอยจ้ำสีแดงรอบขอบปากอันเกิดจากการปะทะของคมกระสุนเท่านั้น เปรมไม่เป็นห่าอะไรเลยนั่นคือความจริง เชื้อโควิดในตัวเขาอัพความแข็งแกร่งให้ แต่ก็ได้พรากเอาความเป็นคนรวมไปถึงความทรงจำก่อนหน้านี้ ออกไปจากร่างต้นจนหมดสิ้น
.
ทำให้เขาจำมิวท์ไม่ได้อีกต่อไป เขาใช้ขมับอัดเข้ากับกระจกกั้นห้องจนแตกโครมออกทั้งบาน เสียงกราวร่วงของเศษกระจกเล็กแหลมฟังดูสยดสยอง นั่นจึงเท่ากับว่าตอนนี้มิวท์ไม่มีสิ่งใดที่จะใช้ประวิงเวลาจากปีศาจตนนี้ได้อีกแล้ว นอกจากปืนกระบอกจิ๋วที่ถือเล็งอยู่บนมือ
.
“ปัง!!!”
.
“ทำไมล่ะ? ทำไมพี่ถึงไม่ตาย!?”
.
“ปัง!!!”
.
“ล้มสิ! ล้มลงไปอย่าเดินเข้ามานะ!?”
.
มิวท์คิดสลับกับยิง เธอกลัวยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ดูได้จากมือไม้ที่กำประกับปืนแทบไม่อยู่
.
“ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง!”
สาดกระสุนใส่อีกจนเกือบหมดแมกกาซีน
.
ความสั่นก็ส่วนหนึ่งแต่ความใช้อาวุธไม่คล่องน่าจะมากกว่า จึงทำให้วิถีกระสุนไม่เกาะกลุ่ม มันชิ่งกระทบเฟอร์นิเจอร์ในห้องไปทั่วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่โดนร่างของเปรมเลย มากกว่า 2 - 3 นัดที่ฝังเข้าตรงบริเวณหัวใจกับขั้วปอด
.
“จึกกก!”
.
“โคร่งงง~!”
“กรรรรร!!! , กรรรรร!!!”
ตะเบ็งคอคำรามเหมือนเจ็บปวด อดีตนักศึกษาชายเกรี้ยวกราดอย่างบ้าคลั่ง จนถึงกับต้องใช้กงเล็บฉีกเสื้อเชิ้ตที่ขาดเป็นรูกระสุนออกจากกันเป็นสองซีก!
.
“แคว๊กกกกก!”
.
เผยให้เห็นมัดกล้ามกับเส้นเลือดปูดโปนที่สถาปนาขึ้นจากสิ่งใดก็ไม่รู้ แต่ก่อนหุ่นเปรมไม่เป็นแบบนี้หรอกมิวท์เอากับเขาบ่อยจะตาย แต่ก็ไม่เคยเห็นเปรมอยู่ในบอดี้ที่น่าขยะแขยงเช่นนี้มาก่อน มันทั้งม่วงทั้งคล้ำแล้วก็มีเส้นเลือดฝอยสีช้ำเลือดช้ำหนองยึกยืออย่างกับพยาธิตัวตืด
.
หนักสุดก็เห็นจะเป็นรูกระสุนทั้ง 3 รู ที่จู่ ๆ ก็ขยับยุกยิกได้เอง ผลพวงจากการเกร็งกล้ามและกรีดร้องทำให้เนื้อเยื่อเคลื่อนเข้ามาผสานกัน เกิดเป็นการเค้นดันเอาหัวกระสุนทั้ง 3 ให้โผล่ออกมาจากเนื้อได้เองโดยไม่ต้องง้อการผ่าตัด เลือดแม่งไม่ไหลสักหยด เปรมกัดกรามจ้องหน้ามิวท์เขม็ง พลางเผยอมุมปากโชว์ฟันเขี้ยวแหลม ๆ ให้เธอดู
.
"......”
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามิวท์คิดอะไร เพราะเพียงเสี้ยวอึดใจที่เห็นร่างกายใต้ร่มผ้า สาวเจ้าก็เตรียมตัวเผ่นไว้แล้ว!
.
เสื้อผ้ารัดรูปของเธอออกแบบมาเพื่อการนี้ มิวท์กลับหลังหันถลาตัววิ่งแบบไม่คิดชีวิตออกไปทางประตูหน้า เธอกระแทกประตูออกไปวกกลับมาสับกลอนลงล็อค ก่อนจะออกวิ่งหน้าตั้งอีกครั้งเพื่อมุ่งไปที่ลิฟท์
.
แต่ก็มิวายอุตส่าห์หันกลับไปเช็คด้านหลังอยู่ดี..
.
“โครมมมมม!!!”
.
พ่องมึงตาย! ฝืนได้ไม่ถึง 3 วิประตูทั้งบานของห้องสวีทหรูก็ถูกพังซะหักเป็นสองท่อน! มันกระเด็นหลุดออกมาทั้งยวงพลันกระแทกใส่ฝาผนังฝั่งตรงข้ามอย่างรุนแรง ตามติดมาด้วยร่างกายสัตว์ประหลาดของเปรม ที่กระโจนพรวดออกมาราวกับท่าวิ่งของสุนัข!
.
กงเล็บยาวจิกเข้ากับผนังด้านข้าง ทำให้การวิ่งสี่ขาหนนี้ไต่ขึ้นไปได้ถึงบนกำแพง! เขากระโจนพรวด ๆ ๆ ! แบบเร็วจี๋! เร็วเหี้ย! ๆ เร็วสัด! ๆ จนมิวท์ต้องรีบร้องขอชีวิต!
.
“กรี๊ดดดดดด!!!”
“ช่วยด้วยยย!!! , ช่วยฉันด้วยยย!!!”
.
“ตุบ! , ตุบ! , ตุบ! , ตุบ! , ตุบ! , ตุบ! , ตุบ!”
ฝ่าเท้าขย่มโครม ๆ เปรมแทบจะเกาะเพดานในท่าห้อยหัวอยู่แล้ว กะจากสายตาเขาน่าจะพุ่งกระโจนอีกราว 2 -3 ครั้ง ก็คงจะถึงตัวมิวท์ที่ล็อคเป้าไว้เป็นเหยื่อ
.
เคราะห์ดีที่ได้ไหวพริบปฏิภาณจากเซลล์สมองช่วยเอาไว้ เมื่อมิวท์ได้ตัดสินใจที่จะหยุดวิ่งแล้วหันปลายกระบอกปืนขึ้นไปหาเปรมที่เกาะอยู่บนฝ้าเพดานแทน!
.
“หนูรู้ว่ายังไงหนูก็หนีพี่ไม่ทัน! เพราะงั้นคงมีแค่วิธีนี้เท่านั้นแหละ!"
.
"ฮึบ!”
.
พุ่งถลาพลิกตัวลงไปนอนหงายกับพื้น พลันตวัด Beretta MOD 950 ขึ้นมารัวกระสุนที่มีอยู่ทั้งหมดใส่ไปที่ฝ้าเพดาน!
.
“ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง! , ปัง!”
.
และด้วยความที่ฝ้าถูกสร้างขึ้นจากแผ่นยิบซั่ม วัสดุทนไฟต้นทุนต่ำแบบนั้นพอโดนรัวกระสุนหนัก ๆ เข้า หวยก็เลยมาออกที่เปรมแบบเต็ม ๆ สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ที่หนักกว่าครึ่งตันอย่างเขามีหรือจะทนเกาะอยู่ได้
.
“โครมมม!”
.
ถล่มพังครือลงมาทั้งยวง! ซากวัสดุกดทับร่างกำยำจนแน่นิ่งไปพักใหญ่ สบโอกาสให้มิวท์รีบใช้ตอนนี้เผ่นหนี เธอยังมีเด็ก ๆ ในหอวัคซีนที่ต้องรับผิดชอบ เธอยังต้องออกไปช่วยเหลือผู้คนและหาทางหยุดวิกฤตการณ์เชื้อ New hell กลายพันธุ์นี้ให้จงได้ เพราะงั้นเปรมจึงไม่อยู่ในสายตาอีกต่อไป นับว่าวิธีการของมิวท์นั้นได้ผล ในเมื่อยิงเปรมไม่เข้าก็ต้องใช้บางอย่างหยุดเขาไว้ พอให้ได้ประวิงเวลาก็ยังดี
เจนิสโผเข้าหาแบบไม่สะทบสะท้าน เธอปล่อยชายเสื้อหลุดลุ่ยออกจากลำตัวทิ้งลงเบื้องล่าง พลางเผยอริมฝีปากขบลงที่ซอกคอของมิวท์."งั่ม.. ม.. ม.."เบามากจนเหมือนกับการแทะซะมากกว่า ด้วยเพราะรู้ว่าถ้าหนักกว่านี้พี่สาวคงเจ็บ และจะให้อารมณ์ที่รุนแรงเกินกว่าคำว่าเงี่ยนไปไกลโข เจนิสจึงพยายามจะเลี้ยงไว้ด้วยการละเลงเลีย."หยุดนะน้อง.. นี่เธอคิดจะทำอะไรกันแน่! ไม่เห็นหรือไงว่าฉันติดเชื้อ! อยากตายไปด้วยกันงั้นเหรอ?!"มิวท์ตะโกนดุเสียงดังสนั่น ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาหาเธอแบบไม่ทันตั้งตัว มีอย่างที่ไหนได้สติขึ้นมาก็ดูทรงจะต้องเย่อร์กับผู้หญิงซะแล้ว เป็นใครมันจะทำใจได้ แถมยังเป็นเรดี้ที่มาจากไหนก็ไม่รู้ต่อให้เป็นเด็กหน้าตาดีไฟหน้าใหญ่เบิ้มแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่! มิวท์เอาแค่กับผู้ชายแล้วเธอก็ไม่ต้องการแพร่เชื้อให้ใครอีกแล้ว.เจนิสก็เลยอ้อนกลับ."โถ่พี่มิวท์.. ก็ทำแบบที่พี่มิวท์ทำกับคนอื่น ๆ ไง เวลาผู้ติดเชื้อจะขย้ำใครก็มักจะกัดที่คอแบบนี้ก่อนไม่ใช่เหรอ?""หนูอ่ะ.. แค่อยากลองทำแบบพี่ดูบ้าง.. พี่จะได้ไม่เกร็ง.."."งั่มมมม!""งับ! , งั่ม.. , งั่ม.. , งับ! , งับ! , งับ!""แผล็บ, แผล็บ , แผล็บ , แผล็บ
หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล







