หลายวันต่อมา...
“ลั้ลล้า ลั้ลลา ต้นไม้ใบหญ้า ทะเลและหาดทรายจ๋าาาา ^3^” ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งและฟูลเทิร์นไปรอบๆเกาะส่วนตัวที่เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากโดยมีเฮียคินเดินตามหลัง ถึงจะพอเดาได้ว่าบ้านเฮียคินรวยมาก แต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดมีเกาะใหญ่เบ้อเร่อ แถมรอบตัวฉันก็มีแต่คนเกรงกลัวเขาทั้งนั้น “ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับนาย / ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับนาย” นี่ไง พูดปุ๊บก็มีพี่ชายสองคนเดินเข้ามาก้มหัวให้เฮียคินทันที เอ๊ะๆ นี่มันพี่ชายที่อยู่กับคุณป้านี่นา แต่ตู้วหูววว พ่อหนุ่มมม เขาทำความเคารพกันเหมือนในหนังเลยแฮะ ชีวิตจริงมีอะไรแบบนี้ด้วยหรอ แล้วก็โอ๊ะ! ขอญาตซุบซิบนะคะ ซุบซิบนิดเดี๊ยววว คือคนที่นี่เค้าแปล๊กแปลกอ่ะ ทุกคนใส่เสื้อผ้าสีดำสนิททั้งผู้หญิงและผู้ชายเหมือนกำลังไว้อาลัยให้ใครยังไงอย่างงั้น แถมก่อนหน้านี้พอฉันยิ้มให้ ใครต่อใครก็เอาแต่ก้มหน้าเดินลิ่วๆหนีไป แบบไม่ทักไม่ทายกันเลย นี่มันหาดผีสิงรึงายยยย -*- แต่ไม่หรอกน่า ผีอะไรจะมาให้เห็นกลางวันแสกๆ แต่ถ้าเป็นผีจริง พวกเค้าต้องมีห่วงมากแน่ๆ เพราะฉันเคยเห็นในละครนะ ผีที่แฮปปี้เค้าจะใส่เสื้อผ้าสีขาว ก่อนจะกลายเป็นกากเพชรวิ๊งๆ ค่อยๆลอยขึ้นฟ้าแล้วส่งยิ้มบางๆมาให้เรา เอ๊ะ...หรือพวกเค้าจะไม่ชินที่อยู่ๆก็เห็นสาวน้อยพราวเสน่ห์มาวิ่งสูดอากาศแถวหาดทรายขาว บร้าาา ฟีลลิ่งซุปตาร์โมเม้นต์สับขาท่ามกลางสปอตไลท์ต้องมาล๊าววว สามมมม สี่! ^_^ “บอกพี่สาวแล้วใช่มั้ย?” หยึ๋ย =[]=! โอ่ยยย หมดฟีลลล อะไรกันเล่าตาลุงงี่เง่า -*- “ก็บอกว่าไม่ได้บอกไงคะ โรสน่ะ ตอนนี้อยู่ที่หัวหิน มีถ่ายงานกับรุ่นพี่ แล้วนี่จะถามอีกกี่ที ถามอยู่ได้นะคำถามนี้อ่ะ >[]<!” ใช่! เชื่อมั้ยว่าฉันฟังคำถามว่าบอกโรสยังมา 3,876 ครั้งแล้วตั้งแต่มาถึงนี่อ่ะ เชอะ -3- “โทรไปบอก ไม่งั้นก็กลับเดี๋ยวนี้” หมับ! “งื้ออออ ไม่! ถ้าหนูโทรไปหนูก็ต้องกลับเหมือนกันน่ะสิ ก็โรสชอบดุ นี่หนีมาทำความดีนะ ไม่ได้มาเที่ยวเล่นเฮียก็รู้นี่” พอส่งเสียงดุออกมา เฮียคินก็ทำท่าจะลากฉันกลับจริงๆ ฉันเลยต้องเปิดโหมดส่งเสียงออดอ้อน แล้วก็เหมือนจะได้ผลนะเนี่ย หน้าตาเฮียดูเห็นใจฉันมาก “-_-” <<< สีหน้าคิระ “น้าาา เฮียขา เปลี่ยนจากบอกโรสเป็นหนูบอกเฮียแทนได้มั้ยอ่ะ ยังไงเฮียก็เป็นพี่ชาย ช่วยเป็นผู้ปกครองให้หนูหนึ่งวันได้มั้ย นะๆ” ปิ๊งๆๆๆ “ไม่ได้” เย้ยยย! น้ำเสียงตัดรอนมากเว่อร์คนเค้าอุตส่าห์ทำตาปิ๊งๆ เอาใหม่! สงสัยต้องงัดไม้ตาย Level 260 มาใช้ พรึ่บ! คิดได้แบบนั้นฉันก็ก้าวหน้าตรงเข้าไปหาเฮียคินจนพี่ชายสองคนที่ยืนใกล้ๆเราถึงกับก้าวขาถอยหลังออกไปสามก้าว “งื้อออ -3- เฮียขาอีกที อย่าหาว่าซุบซิบเลยนะ แต่ถ้าโรสรู้คงเอาหนูตายแน่ๆเพราะหนีมาถึงภูเก็ต แถมยังมากับมนุษย์เจ่เจ้ที่ใจเป็นหญิงแต่มีเรือนร่างกำยำแบบผู้ชาย รู้แบบนี้แล้วเฮียคินจะใจร้าย ไม่ให้หนูไปด้วยทั้งที่....” “พอ -_- งั้นก็อยู่ใกล้ๆไว้” เฮียคินตัดบทพร้อมกับหันไปพยักหน้าไล่พี่ชายคนสองนั้นให้เดินออกไป ฉันเลยได้ทีโดดเกาะแขนเขาไว้แน่น หมับ! “อ๊ะๆ พูดแบบนี้แปลว่าเป็นห่วงหนูใช่มั้ย ^^ แต่สบายใจได้เลยค่า หนูจะเกาะติดเฮียตลอดเวลาจนกว่าเฮียแม็คจะมา แล้วจะเว้นระยะให้สวีทวี๊ดวิ้วกันนะคะ อิ๊อิ๊ >_<” แต่ทิ้งระยะไปแป๊บเดียว พี่ชายหนึ่งในสองคนที่เพิ่งเดินออกไปก็เดินกลับเข้ามาใหม่ “เอ่อ...ขอโทษนะครับ เราเตรียมของครบแล้วครับนาย” “แล้วหนังสือ?” เฮียคินหันไปมองและตอบกลับไป พี่ชายเค้าก็พยักหน้า “ครับ เรียบร้อยทั้งหมดแล้วครับ” “เอ๋? หนังสืออะไรหรอคะ แหะๆ =_=^” ฉันฉวยโอกาสที่เฮียคินยังไม่พูดอะไรพูดแทรกออกไป แล้วหันไปยิ้มกลบเกลื่อนใส่เขา “หนังสือเรียน ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก” “เด็ก?” “(- -)(_ _)” พอถามซ้ำ เฮียคินก็แค่พยักหน้าแต่ไม่ได้ขยายความอะไรให้ หืม... ก็ไหนตอนแรกบอกว่าจะมาบริจาคเสื้อผ้าไง แล้วทำไมมีหนังสือด้วย อ๋อรู้ละ! “จ๊ะเอ๋พี่ชาย!” พรึ่บ! หมับ! เพราะว่าฉันอยากรู้ แต่คิดว่าเฮียคินต้องดุแน่ๆถ้าถามเซ้าซี้ออกไป ฉันเลยพุ่งพรวดเข้าไปหาพี่ชายที่เอาแต่ก้มหน้าตอบมาอยู่ได้ “คะ...ครับ =[]=” “แป๊บนึงค่ะ แล้วจะมาดึงหนูไว้ทำไมคะเนี่ย -3-” ฉันพูดกับพี่ชายสลับกับหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เฮียคิน ก็แหม... พอฉันก้าวขาปุ๊บ เฮียก็คว้าแขนฉันปั๊บ เล่นเอากระชักกึกกักกันไปเลยแต่เฮียก็ไม่ได้ตอบอะไร “......” “หนังสือมีแบบไหนบ้างหรอคะ ขอหนูไปดูได้มั้ย” “ดะ...ได้ครับ” แต่พี่ชายตรงหน้าก็แปลก คนอะไรคุยกันแล้วเอาแต่เดินถอยหลัง คนบนเกาะนี้มันชักจะยังไงๆนะเนี่ย แบบนี้ต้อง....ปั่นนนนน ฮ่ะๆ พรึ่บ! หมับ! “ดีเลย ได้ก็ไปค่ะ ที่นั่นเค้ามีคุณครูมั้ยคะ ถ้าไม่มีหนูเป็นให้ได้นะ หนูเรียนหนังสือเก่งมาก อยากเอา Transcript มาให้ดูแต่หนูยังเรียนไม่จบเลยค่ะ ฮ่ะๆๆ” ฉันอาศัยจังหวะที่เฮียคินตายใจโดดพรวดเข้าไปเกาะแขนพี่ชายชุดดำแล้วก้าวขาฉับๆกึ่งเดินกึ่งวิ่งลากเขาออกมา แล้วพี่ชายก็ทำหน้าเหวอเหมือนจะมีใครตาย ส่วนเฮียคินก็ก้าวขาตามหาด้วยสีหน้าหงุดหงิดใช้ได้ “=[]=!!! นะ..นาย นายหญิงครับ คือ…” “โอ๊ะ ลืมแนะนำตัวหนูชื่อลิซ่านะคะ นายหยงนายหญิงที่ไหนเรียกหนูว่าลิซก็ได้หนูไม่ถือ แล้วพี่ชายล่ะชื่ออะระ....” พรึ่บ! ตุ้บ! แล้วยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยค เฮียคินก็มาคว้าแขนอีกข้างแล้วกระชากฉันกลับไปกระแทกแผงอกอย่างแรง ก่อนจะตวาดออกมาชุดใหญ่ “ก็บอกให้อยู่ใกล้ๆไว้!” ในขณะที่พี่ชายคือเลิ่กลั่กมาก ทำไมเขาต้องกลัวการใกล้ฉันขนาดนั้นอ่าไม่เห็นจะเข้าใจเลยยย -3- “ขะ...ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆครับนาย” “จิ๊!” แล้วแค่เสียงจิ๊จ๊ะในลำคอคำเดียวของเฮียคิน อยู่ๆบรรยากาศโดยรอบก็เหมือนเปลี่ยนอุณหภูมิไปฉับพลันจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับชะงัก เหมือนมีใครมาหยุดเวลา และหยุดทุกคนในที่นี้ให้แข็งเป็นหินเอาไว้ ก่อนที่เฮียคินจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบจนฉันเองยังเสียวสันหลัง “....ไอ้ไคยะ” สิ้นสุดคำพูดนั้น พี่ชายชุดดำก็หน้าซีดจริงจัง พอเห็นท่าไม่ดีฉันเลยหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับเฮียคินแล้วเอามือข้างนึงไขว้หลังสะบัดๆเป็นสัญญาณให้เขาหนีไปก่อนที่เฮียคินจะแปลงร่าง “อ๋อ...พี่ชายเค้าชื่อไคยะใช่ม้า หนูรู้แล้วล่ะค่ะ ถ้างั้น...ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ....อ้าวทำไมพี่เค้ารีบเดินไปไม่รอหนูเลยล่ะคะ! แบบนี้ต้องตาม...” หมับ! พอฉันทำทีเป็นหันมาคุยกับพี่ชายที่เผ่นแน่บและแกล้งทำท่าจะเดินตาม เฮียคินก็คว้าเอาไว้ทันทีซึ่งก็ดีแล้วแหละ “ก็บอกว่า....” “ค่าๆ งั้นตัวเองก็พาหนูไปดูซะเองสิคะ ก็หนูอยากดูหนังสือนี่นา ...นะ” จุ๊บ! พูดจบฉันก็เขย่งไปจุ๊บเฮียที่ทำหน้าบึ้งทีนึง แล้วการกระทำนี้ก็ทำให้คนรอบข้างก้มหน้าลงไปอีก ก่อนที่เฮียคินจะบ่นอุบอิบแล้วลากแขนฉันเดินบนหาดทราย ท่ามกลางใครต่อใครที่ยังนิ่งไม่ขยับไปไหน “เรื่องมาก” “โอ้ย รุนแรงตลอดเลยนะ แขนหนูจะขาดมั้ยเนี่ยคนบ้า =3=” ไม่นานเราก็มาถึงห้องๆหนึ่งที่เต็มไปด้วยหนังสือเยอะมาก แต่ก็มีบางส่วนที่มีชายชุดดำกำลังยกมันออกไปอย่างขะมักเขม้น ฮือออ ชอบจัง ฉันชอบเห็นคนช่วยเหลือกัน แต่.... “โอ้โห เราจะขนไปหมดนี่เลยหรอคะ มันไม่เยอะเกินปะ...” “เราไม่ได้ไปบ่อย พวกเค้ามีความจำเป็นต้องใช้มัน” เฮียคินตอบมาด้วยสีหน้าจริงจัง และบอกเลยเท่าที่ฉันแอบดูระหว่างทางที่เดินมา นี่มันไม่ใช่การบริจาคของแบบก๊องแก๊งนะ ทุกอย่างที่วางรอขึ้นเรือตรงท่าเรือของเกาะนี้ ที่จะลำเลียงไปยังเกาะเล็กๆที่เราจะไปมันมีเยอะมากกกก คือเยอะขนาดว่าคนเกาะนั้นน่าจะอยู่ได้เป็นปีๆโดยไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากใครแล้วก็ยังได้ จนภาพเฮียคินลูกหลานไฮโซ อยู่คอนโดหรู และชอบโยนของคนอื่นทิ้งขว้างในหัวฉันมันเปลี่ยนไปในทันทีเลยนะยูววว “อื้ม ใจบุญจังเลยนะคะ หนูเริ่มหลงเสน่ห์ความใจดีของเฮียเข้าแล้วล่ะ ^_^” ฉันพูดออกไปและกระชับอ้อมกอดที่กอดแขนเฮียไปแบบปลื้มปริ่มในใจ จุ๊ๆๆ สุดยอดไปเลยน้า เจ่เจ้คินนี่ของหนูอ่ะ เท่ระเบิดระเบ้อ เป็นความหวังของชาวเกาะเลยเด้อออ “……” “อ่าว...เงียบไปนี่เขินหรอคะ” “เปล่า -////-” เฮียคินทำเป็นมองซ้ายมองขวาดูหนังสือไปเรื่อย แต่บ้าแล้ววว... ชมกันจะๆขนาดนี้ไม่เขินก็ให้มันรู้ไปสิ “ใช่หร๊อออ ถ้าโกหกโดนหอมแก้มนะคะ ง่าาา หน้าหนู -3-” ฉันแกล้งเขย่งตัวยื่นหน้าเข้าไปใกล้เฮียอีกที แล้วไม่ทันไรมือหนาก็ถูกส่งมากดหน้าฉันลงทันที “….ห้ามใกล้ไอ้ไคยะ” ...เอ๋? “ทำไมล่ะคะ พี่เค้าดูใจดีคล้ายๆเฮียแม็คเลยนี่ -*-” เฮียคินพูดออกมาเล่นเอาฉันเซ็งไปเลยดิ กำลังคิดว่าถ้าเจออีกจะแกล้งพี่ชายคนนั้นอีก เค้าดูชอบกระดึ๊บๆหนีฉัน ซึ่งมันตลกดี “ก็บอกว่าห้ามใกล้ไงวะ!” เย้ยยย... แล้วทำไมต้องพูดจากระโชกโฮกฮากด้วยล่ะคะซิสสส =[]=! “ค่าๆ แต่ถ้าเค้ามาคุยกับหนู หนูก็ต้องตอบ พอดีหนูเป็นคนมารยาทดี” ป๊อก! “โอ๊ย! เอะอะไรก็เขกหัวๆ >[]<!” ฉันโหวกเหวกออกไป พอกำปั้นนั่นโบ๊ะลงมาที่หัว แล้วผู้ก่อการร้ายอย่างเฮียคินก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “จะไปคุยกับมันเองมากกว่า” “อ๋อหรอ ก็คุยกับเฮียมันน่าเบื่อนี่ เชอะ! -3-” พูดจบฉันก็ก้าวขาเดินหนี แอบไปดูอาหารการกินที่ขนไปดีกว่า แอบเห็นแว๊บๆน้าว่าคุณป้าอยู่โซนนี้อ่ะ หมับ! “หืม?” แต่ก็เนี่ยแหละน้า ยังไม่ทันจะเดินพ้นประตูห้อง ก็สัมผัสได้ถึงรังสีเอาแต่ใจของอีตาลุงนี่ -*- “อะไรอีกแล้วคะซิสสส??” “สามรอบละ ก็บอกให้อยู่ใกล้ๆไว้งะ….” นั่นไง! เฮ่ออออ จุ๊บ! เพราะขี้เกียจจะฟังฉันเขย่งตัวกดจูบลงไปบนริมฝีปากที่เอาแต่ออกคำสั่งเรียกร้องให้เอาใจอยู่ได้ แล้วเฮียคินก็กลืนคำพูดนั้นลงคอไปเล้ย ในขณะที่ฉันตีมึนวิ่งหนีแต่ก็ตะโกนลอยๆพูดกับคนที่โดนจุ๊บกี่ทีก็ยังอึ้งอยู่ข้างหลัง “ชู่ววว... อย่าเสียงดังเดี๋ยวหนังสือตกใจค่ะ ถ้าอยากให้หนูใกล้ก็เดินตามมาสิคะ ใครเค้าอยากจะตัวติดเป็นปาท่องโก๋กับตัวเองตลอดเวลาล่ะ ฮ่าๆๆๆ” แล้วฉันก็ใช้วิชานินจาโดดหลบกองหนังสือแบบปุ๊บปั๊บ หนีเฮียคินที่ยังคงอึ้ง ไม่รู้จะอึ้งทำไม จูบกันมาตั้งหลายครั้ง แต่ก็ดีละอึ้งๆนานตัดกำลังคู่ต่อสู้จะได้ไม่ต้องมาเดินตาม ลัลล้า ลัลลาาา... ตุ้บ! “ว๊ายยย ขะ...ขอโทษค่ะ =/=” เย้ยยย แล้วไม่รู้เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไร พอฉันอุตส่าห์วิ่งหนีตาลุงพ้นประตูได้สักระยะก็ดันมาชนกับใครเข้าซะได้ “ไม่เป็นไร” เอ๊ะ เสียงคุ้นๆ o_O? “อ้าวเฮียแม็ค มาช้าจังเลยนะคะเนี่ย โหหนังสือเยอะเลย แต่หนูจะบอกให้ว่ามียืนคนหน้าบูดอยู่ข้างในค่ะ คิกๆๆ เชิญค่าาา ^_^” หวืดดดด “ว๊ายยยย O_O” พูดจบฉันก็เบี่ยงตัวหลบเฮียแม็ค แต่เพราะทางเดินตรงนี้คนเดินเยอะและค่อนข้างวุ่นวาย แถมยังมีหนังสือกองเกลื่อนทำให้ฉันเสียหลัก ขาไปเกี่ยวกับกองหนังสือจนหน้าเกือบคะมำ โชคดีที่เฮียแม็คทิ้งหนังสือในมือแล้วพุ่งพรวดเข้ามารับร่างฉันไว้ พรึ่บ! “โอ้วมายก้อดดดด =[]=! หนูคิดว่าจะตายคากองหนังสือแล้ว ขอบคุณเฮียแม็คมากจริงๆค่ะที่รักษาชีวิตหนูวะ…..” พลั่ก! “โอ๊ย!” แต่ยังไม่ทันที่เฮียแม็คจะซาบซึ้งในคำขอบคุณอะไรทั้งนั้น อยู่ๆก็มีผู้หญิงหน้าตาดุๆที่ไหนไม่รู้ตรงเข้ามากระชากแขนฉัน แถมยังตวาดออกมาดังลั่น “เฮีย! ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?!” วิ๊งๆๆ.... อุ๊ย เหมือนหูดับเลยอ่ะ เจ่เจ้คนนี้เค้าเสียงดังจัง แล้วเฮียแม็คก็คว้ามือผู้หญิงคนนั้นออกจากแขนฉัน “ของไอ้คิน” “อย่ามาโกหก!” เอ๋? เสียงอาจจะไม่ค่อยชัดเพราะหูดับนิดหน่อย แต่ว่า... แอบน่ากลัวเหมือนกันแฮะ พี่สาวคนนี้ที่หันมามองค้อนฉันด้วยอินเนอร์ตำหนิเวอร์ชั่นสามล้าน หาาา... หรือว่าพี่เค้าจะท้าฉันไปตบหลังโกดัง =[]=! “ไม่เชื่อก็ตามใจ” เฮียแม็คตอบกลับผู้หญิงตรงหน้าไปเสียงเรียบ เป็นความเงียบที่น่ากลัวแปลกๆ แต่เจ่เจ้คนนี้ก็ยังไม่หยุดซักไซ้ “แต่เมื่อกี๊เฮียกับมัน....” “ไม่มีอะไร” โอ้... ราบเรียบเหลือเกินพ่อหนุ่ม ยิ่งโทนเสียงเฮียแม็คเงียบขรึมเท่าไหร่ ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ่งเพิ่มเลเวลอาฆาตพยาบาทมาที่ฉัน ถึงขนาดมองกันตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกัน “ก็ได้ ไม่มีก็ไม่มี... ก็อย่าให้รู้แล้วกันว่ามันมาอ่อยเฮีย” พี่สาวท่าทางน่ากลัวก้าวขาเข้ามาประชิดตัวฉันช้าๆพร้อมกับโทนเสียงเยือกยะเยือก น่ากลัวชะมัด =[]=! ก่อนที่เธอทำท่าจะเบี่ยงตัวเดินออกไปอีกทางแต่ก็ไม่วายส่งมือเรียวนั่นมา ทำท่าจะกระชากฉันเข้าไป... พรึ่บ! หวืดดดด! แล้วอีกแค่ไม่ถึงสิบเซ็นที่เล็บสวยๆนั่นจะแตะแขนฉัน อยู่ๆเฮียคินก็โผล่มาแล้วคว้าตัวฉันเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนเขา พร้อมกันกับที่เฮียแม็คกระชากพี่สาวคนนั้นออกไปจนเกิดช่องว่างระหว่างเรา และสิ่งที่มันน่ากลัวกว่าพี่สาวในตอนนี้ คือสายตาเฮียคินที่จ้องเธอด้วยแววตาดุมาก มากที่สุดตั้งแต่ฉันรู้จักเขา ก่อนจะส่งคำพูดที่เหมือนกำลังตำหนิเธอที่เอาแต่จ้องมาที่เรา “….ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนเธอ! ที่ไม่สนว่าของใคร สนแค่ตัวเองอยากได้ อยาก...เอา!”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X