วันต่อมา...
::: KIRA ::: ‘กดตรงนี้นะลาซา’ แชะ! ‘ใช่ๆ ตรงนี้แหละ รัวๆเลยนะแบตจะหมดพี่จะหมดแล้วจ้ะ โอเค๊ จะโพสท่าละน้าาา...’ แชะๆๆๆ! น้ำเสียงสดใสดังแว่วเข้ามาทางหน้าต่างหัวนอน ทำให้ผมค่อยๆลืมตาและควานหาร่างที่ควรต้องนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ข้างๆ เพราะกว่าเราจะได้นอนก็เล่นเอาฟ้าสว่าง แต่ดูเหมือนตอนนี้เจ้าตัวจะลุกไปวิ่งเล่นอยู่แถวหาดทรายหน้าบ้านซะงั้น ประเด็นคือ...ลุกไหวได้ไงวะ โดนรีดน้ำเกือบหมดตัวทั้งคู่ขนาดนั้น แถมเมื่อคืนก็ครั้งแรก.... ครืดดดด “อ้าวนาย ตื่นสายนะวันนี้ นายหญิงยังตื่นก่อนอีก” ลาซาหันมาทักผมที่ลุกจากที่นอนและเปิดประตูบ้านเดินออกไปดูลิซทันที แต่กลับกันยัยตัวเล็กที่ดูจะอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนั่น แค่หันมามองนิดหน่อย แล้วโพสท่าต่อแบบทุลักทุเลใช้ได้ ที่สำคัญ...เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มแต่โคตรรั้นไม่หือไม่อืออะไรสักคำ โกรธ...หรอวะ? ไม่มั้ง “มาทำไรแต่เช้า” “เช้าที่ไหนนี่มันจะบ่ายแล้วนาย” ผมหันไปถามลาซาแล้วก็ต้องงงในคำตอบ “บ่าย?” “ใช่ เมื่อคืนหลับสบายหรอ ทุกทีเห็นเช้ามืดก็ตื่นแล้ว...ครับ” หมับ! พอฟังลาซาพูดจบ ผมเลยคว้ามือถือลิซในมือซามันขึ้นมาดู - 12.12 PM – เออว่ะ คงเพราะทุกทีฝันไม่ค่อยดีเลยตาสว่าง แต่เที่ยงกว่าเลยหรอวะ หลับลึกฉิบหาย พรึ่บ! “นี่ เอาคืนมาก่อนสิคะ หนูถ่ายรูปอยู่นะ -3-” แล้วไม่ทันไรเจ้าของร่างเล็กในชุดเดรสปาดไหล่สีสดใสก็มาแย่งมือถือตัวเองในมือผมคืนไป “กินไรไปยัง” “นายหญิงเค้ากินไปสองมื้อแล้ว เหลือแต่นายนั่นแหละ” “สองมื้อ?” ฟังลาซาตอบแทน ผมเลยหันไปหาลิซที่ตั้งใจหันหนีไปชมวิว แล้วก้มหน้าเล่นมือถือไร้สัญญาณต่อแบบไม่รู้ไม่ชี้ เชี่ย เมื่อคืนกว่าจะหยุดก็ยันเช้า สองมื้อคือยังไม่ได้นอนเลยหรอวะ? มิน่า...อาบน้ำใส่ชุดใหม่เรียบร้อย แต่ตัวแค่เนี้ยทำไมถึกฉิบ! “ทำไมไม่นอ....” “นั่น! โทรศัพท์หนูแบตหมดจนได้ เพราะเฮียอ่ะ แล้วแบบนี้เค้าจะเอารูปสวยๆที่ไหนไปอวดโรสกันเล่า >[]<!” ผมยังพูดไม่จบ ลิซก็ทำเป็นเปลี่ยนเรื่องแผดเสียงตะโกนออกมาปาวๆ แต่สีหน้าก็นิ่งๆ ไม่ได้ดูเขินอะไร แม่ง...แปลกๆรึเปล่า - -* “ของเฮียอยู่หัวเตียง ไปหยิบเอา” “เชอะ! ใครเค้าอยากจะใช้ของเฮีย -3-” อะไรวะ มีกอดอกทำปากจู๋เชิดหน้าใส่ซะด้วย -_-? “จะเอาไม่เอา” “ก็กำลังจะเข้าไปเอาไงเล่า -3-” เออ ต่อปากต่อคำเก่งเหมือนเดิม ก็คงไม่มีอะไรแปลกมั้ง จะแปลกก็แค่เรื่องเดียว... “ไม่ให้ละ” “เอ้า -3-” หึ.... ชอบหน้ามู่ทู่แบบนี้ฉิบหาย เห็นทีไรก็อยากแกล้ง “หิวข้าว” ผมพูดออกไปเสียงเรียบ แต่คนที่เคยไปเจ้ากี้เจ้าการเรื่องอาหารเช้าที่คอนโดให้กลับนิ่งเงียบ “นายหิวหรอ เดี๋ยวซาไปเอาข้าวให้ แต่ก่อนไปเดี๋ยวซาไปหยิบโทรศัพท์ให้นายหญิงด้วย ตกลงมั้ย” หมับ! “เด็กห้ามเข้า” พูดจบลาซาก็ทำท่าจะเดินเข้าบ้านไป ผมเลยคว้าไว้ ไม่งั้นได้เห็นร่องรอยอารยธรรมที่เด็กไม่ควรดูแน่ “โหย ตั้งแต่มีเมียแล้วหวงบ้านนะนาย ก็ได้ เชิญกุ๊กกิ๊กกันตามสบาย งั้นเดี๋ยวซาไปเอาข้าวให้ ไปนะครับนายหญิง!” “อ้าว เดี๋ยวสิลาซา แล้วใครจะถ่ายรูปให้พี่……” ผมมองตามขาสั้นๆของลาซาที่รีบวิ่งออกไปในขณะที่ลิซร้องห้ามและหันมาสบตากันนิดหน่อย แต่ก็ไม่พูดอะไร ...ไม่ใช่ละ แม่งมีอะไรแปลกไป “มองไม” “เปล่า” เป็นไง ถามคำตอบคำซะด้วย ทุกทีใช้โควต้าพูดล่วงหน้าไปสามชาติเศษ นอนน้อยเลยเพี้ยนหรอวะ “กินข้าวแล้ว?” “อือ ซาก็ตอบแทนแล้วไง” เออเว้ย ได้กันแล้วห่างเหินฉิบหาย - -* “ตื่นเมื่อไหร่?” “เมื่อเช้า” เชี่ย ไม่ชินเลยไอ้ห่า เย็นชาไปไหนวะ -_- “นอนไปกี่ชั่วโมง” “ละ...แล้วจะมายุ่งไรด้วยอ่ะ -////-” เอาวะ อย่างน้อยก็มีเขินแหละว่ะ ก็ยังดีที่จำเรื่องเมื่อคืนได้ “ระวังดับกลางอากาศ” “โอ๊ย ไม่ต้องมายุ่งกับเค้า -3-“ พอตะโกนแล้วทำหน้ามุ่ยใส่ผม ลิซก็เดินเข้าบ้านไปหยิบมือถือที่วางอยู่หัวเตียงด้วยท่าทางที่ใครก็มองออกว่าเมื่อคืน....โคตรหนัก ผมเลยเดินตาม “เจ็บอยู่ก็ไปพัก” “มะ...ไม่ -//////-” อะไรวะเนี่ย ดื้อฉิบหาย ท้าทายกันเห็นๆ -_- หมับ! “ถ่ายให้” ผมคว้ามือถือจากมือลิซแล้วปลดล็อคให้ เพราะเธอหยุดคิดและทำท่าจะถามรหัสอยู่แล้ว แต่... “หนูไม่อยากถ่ายแล้ว หนูจะไปเดินเล่น....” พรึ่บ! ตุ้บ! “โอ๊ย!” “อาการเป็นไง” เพราะมันมีบางอย่างแปลกไป ทำให้ผมกระชากข้อมือเล็กๆที่กำลังจะเดินหนีให้หมุนตัวกลับมาจนกระแทกเข้าที่อกผมอย่างแรง แล้วลิซก็เอาแต่หันไปชมนกชมไม้ “เป็นไรล่ะคะ หนูเปล่า...” “แน่ใจ?” คำตอบนั้นทำให้ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เล่นเอายัยตัวเล็กนี่กะพริบตาถี่ๆแบบโคตรมีพิรุธ “อะ...อะไร ก็ปกติดี เฮียนั่นแหละสะลึมสะลืออยู่รึไง ปล่อยเลยอย่ามายุ่งกับเค้า เค้าจะไป....” พรึ่บ! “ไปได้ แต่ลืมไรมั้ย?” ยิ่งเห็นท่าทางเลิ่กลั่กน่าแกล้ง ผมเลยรวบเอวบางเข้ามาใกล้ๆแล้วถามออกไป แต่ยิ่งใกล้...แม่งยิ่งหอมชิบหาย “ลืม? ไม่หนิ หนูก็...ไม่ได้ลืมอะไร -////-” “Morning Kiss กันทุกเช้า...” ผมกลั้นขำพูดออกไป แล้วคนตรงหน้าก็เลิ่กลั่กใหญ่ แถมหน้าแดงแจ๋แต่พยายามทำเป็นไม่สนใจ “แต่ตอนนี้มันเที่ยงแล้ว...” “ก็พึ่งตื่น” “อะไร -////- เฮียตื่นสายเองจะมาโมเมแบบนี้ไม่ได้ บอกให้ปล่อยไง” “เป็นไรก็บอกดิวะ” เพราะแรงผลักมันมากขึ้นมหาศาลจนผมงงนิดหน่อยเลยคว้าแขนเธอไว้ แต่ลิซก็อ้ำอึ้ง “ปะ...เปล่า หนูไม่ได้...” “โกรธ?” “เปล่า” “ผีเข้า?” “เปล่า” “นอนไม่พอ?” “เปล่า” “จะพูดไม่พูด” “เปล่า เอ๊ย กะ...ก็แค่...” พูดไป มือเล็กๆของคนที่เอาแต่หันมองไปทางอื่นเหมือนตั้งใจหลบตาก็พยายามสะบัดมือผมออก ทำท่าเหมือนจะวิ่งหนีให้ได้ “แค่อะไร?” แล้วพอหยุดคิดไปแป๊บนึง อยู่ๆลิซก็เชิดหน้าใส่ผมแถมมองมาด้วยแววตาที่โคตรเย็นชาฉิบหาย - -* “ก็...เวลาพวกเฮียๆได้กันกับคนอื่น เค้าจะเลิกสนใจเพราะว่าได้ไปแล้ว ก็เลย...” “กลัวว่าเฮียจะเป็นแบบพวกมันรึเปล่า?” หึ...น่ารักฉิบหะ.... “เปล่า” “?” ตอนแรกก็เกือบจะหลุดยิ้ม แต่ฟังคำตอบนั้นผมเลยเลิกคิ้วออกไปด้วยสีหน้านิ่งๆ ลิซก็พูดต่อ “คือ...หนูว่าหนูจะทำแบบพวกเค้า นี่หนูกำลังใจแข็งอยู่นะ เฮียนั่นแหละปล่อยได้แล้วอย่ามายุ่งกับเค้า >[]<” พรึ่บ! ตุ้บ! “งื้อ” พูดจบลิซก็สะบัดมือผมออกอีก นั่นทำให้ผมกระชากเธอเข้ามาแล้วล็อคเอวไว้ให้ประชิดตัวด้วยความรู้สึกหงุดหงิด ...อะไรของยัยนี่วะ -_-? “จะทำไรนะ พูดใหม่ดิ๊” แล้วท่าทางไม่สนโลกที่ไม่ควรแสดงในแววตาอ่อนโยนคู่นี้ แม่งก็ปรากฏขึ้นมาอีก “ก็ได้กันแล้วไม่สานต่อไง พวกเฮียๆบอกว่าโลกนี้มีคนเยอะแยะจะตาย ค่อยๆเปลี่ยนคนได้กันไปเรื่อยๆ เข้าใจอยากตรงไหน -3-” จิ๊! “แล้วจะทำไปเพื่อ?!” “เอ้า ก็ตามรอยศิษย์พี่ของหนูไง” เวร! เมื่อคืนกูไม่ได้คิดว่าต้องตื่นมารับมือกับเรื่องแบบนี้เลยนะเอาจริง คิดว่าตื่นมาต้องมีคนนอนปาดน้ำตาร้องไห้ เดินไม่ไหว เหี้ยไรก็ได้ไม่ใช่… “ได้แล้วทิ้งงี้?” เชี่ย หมดกัน ใครแม่งสอนวะเนี่ย อย่าให้กูเจอจะตบกะโหลกให้คว่ำ - -* “เอ๋? ได้แล้วทิ้งหรอ...อ๋อที่จริงก็ใช่ แต่ว่าไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะคือหนู....” “พอ! ไร้สาระฉิบ จะไปอาบน้ำ” ผมชิงตัดบทและผลักหัวลิซเบาๆ ทั้งที่ปกติถ้าเป็นคนอื่นกูจับทุ่มไปละเนี่ย แต่ลิซก็ทำหน้ามึนใส่ ตอบกลับมาด้วยสีหน้าชื่นชม เออดี - -* “เนี่ย พวกเฮียๆเค้าก็ร้ายๆแบบนี้ หนูอยากทำบ้างอ่ะมันเจ๋งดี ผลักอีกๆ” “เจ๋ง? -*-” ถุย ใครบอกกูทีมันเจ๋งตรงไหน โดนเปิดซิงแล้วมาทำหยิ่งใส่ แต่มองอีกมุมก็โคตรไร้เดียงสาฉิบหาย หึ... “อ้าวคุณ มาขำอะไร วันนี้หนูมาดเข้มไม่ติดเล่นนะ ใจหนูแข็งเป็นหิน -3-” พูดจบไอ้หน้าเล็กๆคอเล็กๆก็เชิดแล้วเชิดอีก แต่ปากจู๋นี่เป็นกิมมิคเลย ขัดกับเสียงเข้มๆนั่นฉิบ “เดินให้ไหวก่อน” ฟรืดดด “O////O ละ...แล้วจะมาหอมอะไรกันอีกเล่า!” เพราะหมันเขี้ยวแก้มป่องๆของคนอวดดีมั้ง รู้ตัวอีกทีผมเลยขโมยหอมแก้มยัยนี่แล้วเดินหนี “หิว จะไปอาบน้ำ หาไรให้กินที” หมับ! แต่คราวนี้เป็นลิซที่เข้ามาคว้าแขนผมไว้ แล้วโพล่งออกมาแบบหมดเปลือก “เดี๋ยวค่ะ คนเย็นชาเค้าไม่ Support เรื่องอาหารการกินกันแบบนี้ แล้วที่จริงก็คือ...หนูไม่กล้าไปเจอหน้าเฮียแม็ค เพราะเมื่อคืนหนูมีอะไรกับแฟนเค้าเนี่ยสิ >_<” “?” เออว่ะ ลืมไปซะสนิท ยัยตัวเล็กนี่ยังคิดว่าผมกับไอ้แม็คมีซัมติง - -* “แล้วก็แบบว่า...ไหนจะคุณเฟรย่ากิ๊กเฮียที่ Treatise อีก ตอนนั้นเฮียแม็คเค้าเสียใจมากถึงมากที่สุดเลยรู้รึเปล่า แล้วถ้าเค้ามารู้ว่าเมื่อคืนเราทำแบบนี้....” “...แฟนเก่า” ผมพูดออกไปสั้นๆ ทั้งที่ความจริงไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ แล้วลิซก็ทำมึนอยู่ดี “หืม...” “ก็เฟรย่าไง กับฟาเดียยัยนั่นเป็นพี่สาว กับไอ้แม็ค...เป็นแฟนเก่า” “พี่สาว? แฟนเก่า o_O? ” ได้ฟังแบบนั้นลิซก็ดูแปลกใจ แต่แม่งโคตรจะปกติสำหรับทุกคนบนเกาะตอนนี้ เพราะใช้โควต้างงเป็นไก่ตาแตกตั้งแต่ปีก่อนแล้วเนี่ยดิ “อืม เฟรย่าเป็นพี่ฟาเดีย” “นี่แปลว่าพวกเค้า....” “ถ้าเอาตรงๆก็แย่งไป ส่วนไอ้แม็คคนดี...มันนอกใจ” ยิ่งได้ฟังคำตอบจากผม ลิซก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ แล้วก็บ่นอะไรพึมพำคนเดียว “แย่ง...งั้นหรอ? มิน่า...ทำไมพี่ฟาเดียถึงหวงเฮียแม็คจัง ก็เพราะว่าตัวเองไปแย่งเขามาเหมือนกันหรอ โอ้โหเฮียแม็ค...เวรกรรม =3=” พูดจบมือจิ๋วก็ถึงกับเลื่อนไปกุมขมับ แล้วทำหน้ามุ่ยออกมาจนผมหลุดขำ “หึ... ธรรมะก็มาซะงั้น” “แต่คิดอีกนัยนึง พวกเค้าสองคนอาจจะเป็นคู่กัน ทำไมไม่ลองถามแม่เฒ่าซิลวาดูล่ะคะ ว่าพี่ฟาเดียกับเฮียแม็คเค้า…” “ข้อห้ามอีกอย่างนอกจากเดือนละคำถาม คือแม่เฒ่าซิลวาไม่ตอบคำถามซ้ำ” ผมพูดสวนออกไปเพราะเดาทางได้ว่าลิซจะพูดอะไร และแน่นอน...มีคนเคยถามไปแล้ว...เรื่องสามคนนั้น “แต่เวรกรรมมีจริงๆนะเฮีย ว่ากันว่าใครทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น -3-” ลิซทำปากจู๋บ่นอุบอิบแบบไม่เห็นด้วยกับเรื่องไอ้แม็คเท่าไหร่ ซึ่งก็นะ ช่างแม่ง ชีวิตมัน “อืม โดยทฤษฎีมันคือผลของการกระทำที่สะท้อนกลับอย่างเท่าเทียมกัน” แล้วพออยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มซีเรียสได้ไม่เท่าไหร่ เสน่ห์... และบุคลิกเฉพาะตัวของลิซ่า ก็ทำให้เธอเปลี่ยนเรื่องไปแบบง่ายดาย “แต่นอกจากเวรกรรมแล้ว เนื้อคู่ก็มีอยู่จริงด้วย งื้อออ >_< อยากกลับแล้วอ่ะ คิดถึงรุ่นพี่.....” “รีบมากก็วาร์ปกลับไปซะ รำคาญ!” ไม่ต้องรอให้ลิซพูดจบผมก็โพล่งสวนออกไปแล้วเดินหนี แอบเห็นยัยนั่นทำหน้าเหวอ ไม่รู้ทำไมอยู่กับผมชอบพูดถึงไอ้เวรนั่นทุกที! “นี่ เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนล่ะคะ เอ้อ... งั้นก็แล้วแต่เล้ย จะไปก็ไป ก็ช่าง เชอะ! -3-” ท่าทางเหมือนอยากคุยแต่ทำเป็นไม่อยากคุยตะโกนตามหลังผมที่เดินออกมา แต่ยัง...ประโยคหลังยังไม่จบเรื่องมันอีก “แต่แม่เฒ่าซิลวานี่แม่นจริงใช่มั้ยเนี่ย ไม่ใช่ว่าเดามั่วเรื่องเนื้อคู่หนูหรอกนะเฮียคินนนน >[]<” หึ... เนื้อคู่หรอวะ มั่วไม่มั่วไม่รู้ ก็รอดูอยู่ว่าจริงไม่จริงไม่กี่นาทีต่อมา
“อาหารเรียบร้อยแล้วครับนาย” ไอ้ไคยะรินน้ำเปล่าใส่แก้วให้ ขณะที่ผมเดินเช็ดหัวชิลๆมานั่งที่โต๊ะกินข้าวหน้าบ้านและมองหา... “นายหญิงนั่งเล่นอยู่กับเด็กๆครับ” “แดดร้อน หาร่มไปกา...” “ครับ ครับบบ เรียบร้อยแล้วครับนาย ชาวบ้านนี่ช่วยกันกางเต๊นท์สร้างร่มเงาในทุกก้าวเดินให้นายหญิงเลยนะฮะ นายสบายใจด้ายยย ^_^” ผมยังพูดไม่ทันจบ ไอ้ไคยะมันก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “แล้วมึงจะลากเสียงทำเหี้ยไร -_-” “หึ...ผมเปล่าสักหน่อยนะนาย ^_^” “ไอ้ไคยะ…” ผมส่งเสียงเรียบตำหนิออกไปแล้วมันก็หลุดขำ ไม่รู้ป้ามาร์ธาคิดไรถึงเอาไอ้เวรนี่มาคอยตามติดผมทุกสถานการณ์ “อ้อ ‘ได้ข่าวว่าหลับลึก หมอนข้างดีสินะมึง...’ อันนี้คุณมาโครฝากมาฮะ ^_^” “ไอ้เวรนั่นขี้เสือก” “งั้นก็เป็นกันทั้งเกาะแหละครับนาย ปกติจิ้งจกตุ๊กแกนายฆ่าที่ไหน ฮ่ะๆ” “พวกมึงนี่มัน...” พูดไปไอ้ไคยะมันก็ขำไป ดี! ไอ้แม็คพาลูกน้องเหิมเกริมกันหมด ให้มันได้แบบนี้ แล้วจังหวะที่ผมกำลังจะตักข้าวเข้าปาก ไอ้ไคยะมันส่งสายตากวนส้นตีนมาอีก “ว่าแต่...แบบนี้คำทำนายที่แม่เฒ่าบอกท่านผู้หญิงไว้ก็เป็นจริงสิครับเนี่ย เป็นไงล่ะ ผมบอกแล้วว่าแม่เฒ่าแม่นจริง” “……” แล้วคำถามที่พาดพิงถึงท่านย่าก็ทำให้ผมหยุดคิดนิดหน่อย เพราะย้อนกลับไปหลายปีก่อนตอนท่านยังมีชีวิต เกาะนี้ถูกพบโดยบังเอิญจากการตามล่าคู่ค้าที่กล้าหักหลัง Dark Shadow และตั้งใจลำเลียงอาวุธเถื่อนมูลค่ามหาศาลออกนอกประเทศ การปะทะกันในทะเลบริเวณที่ใกล้เกาะมากทำให้เราค้นพบชาวบ้านที่ปลีกวิเวกมาอยู่กลางทะเลโดยบังเอิญ เมื่อท่านย่ารู้เรื่องจึงยื่นคำขอต่อท่านปู่ซึ่งเป็นผู้นำ Dark Shadow คนปัจจุบัน ให้ Dark Shadow ให้ความช่วยเหลือทุกคนบนเกาะตลอดมา และประกาศให้เกาะนี้เป็นสมบัติของ Dark Shadow ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้เรื่องนี้ถูกบันทึกไว้ใน Dark Shadow’s Phenomenon ทันทีแม้จะไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่สร้างมูลค่าอะไรให้กับแก๊งค์เราก็ตาม และตั้งแต่เกาะนี้เป็นสมบัติของ Dark Shadow ท่านย่าก็แวะเวียนมาที่นี่จนกลายเป็นที่ประจำและได้พบกับแม่เฒ่าซิลวา ว่ากันว่าทุกคนบนเกาะตอนนั้นยกให้แม่เฒ่าซิลวาที่ตอนนั้นยังอายุน้อยกว่าท่านย่าด้วยซ้ำ เป็นผู้เลือกทิศทางชีวิตของคนบนเกาะเพราะแม่เฒ่าสามารถมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า และไม่รู้ท่านย่าคิดอะไร ถึงให้แม่เฒ่าซิลวาดูดวงชะตาภาพรวมของเกาะนี้ให้ตามที่ไอ้ไคยะพึ่งจะพูดไป และถึงมันออกจะดูงมงายไปมาก แต่ที่นี่ก็เป็นสมบัติชิ้นสำคัญที่ท่านย่าทิ้งไว้ “ไร้สาระ” ผมตอบกลับไปแบบส่งๆ ไอ้ไคยะก็ไม่วายกวนประสาทขึ้นมาอีก “ครับ ครับบบ เค้าลือกันไปทั่วแล้วครับ นายจะแก้ตัวกับทุกคนยังไง” “ลืออะไร” ทั้งที่รู้อยู่แล้วผมก็ยังทำเป็นไม่รู้ต่อไป เพราะเรื่องที่ไอ้ไคยะกำลังพูดแม่งก็ไม่พ้นเรื่องงมงาย แต่เหมือนทั้งเกาะจะมีแค่ผมคนเดียวล่ะมั้งที่ไม่ได้อินอะไร แต่ก็ไม่ได้ไปหลบหลู่ความเชื่อที่ทุกคนมีต่อแม่เฒ่าหรือแม้แต่คำทำนาย “โธ่นายอย่ามาทำเป็นไม่รู้ ก็นายหญิงไงครับ หนึ่งสตรีที่จะเปลี่ยนชีวิตคนบนเกาะตามที่แม่เฒ่าเคยทำนายเอาไว้” “.......” ผมฟังที่ไอ้ไคยะพูดแต่ไม่ได้ตอบอะไร ในขณะที่คนรอบตัว...ก็พอจะดูออกแหละว่ะ ว่าคาดหวังกับการมาของลิซ่าแค่ไหน แต่ถ้าให้เดามั่วๆเอาฮา หนึ่งสตรีที่ว่าน่าจะเป็นยัยแม่มดพันปีเฟรย่ามากกว่า -_- “ทำหน้าแบบนี้ท่าทางจะไม่เชื่อ เอางี้นะนายผมว่า...ถ้าคุณลิซ่าเธอไม่ใช่ โชคชะตาไม่ให้นายพามาหรอกฮะ เหมือนกับคุณเตโชที่ท่านผู้หญิงไม่เคยพามาที่นี่ไงครับ” กึก! คำพูดนั้นทำให้ผมวางแก้วน้ำในมือลงและตวัดสายตาขึ้นไปมองไอ้ไคยะแบบเรียบเฉย แต่ก็พอจะทำให้มันสะดุ้งได้ทั้งที่เมื่อกี๊ยังปากเก่งอยู่เลย “เอ่อ ผม...ขอโทษครับนาย” “มันมีคนรัก ไปสืบมาหน่อยว่าเป็นใคร” พอได้ยินชื่อไอ้ติณณ์รอบที่สองของวัน อยู่ๆผมก็นึกถึงคำพูดของลิซขึ้นมา ถึงมันออกจะเพ้อฝันไปหน่อยก็เถอะ ไอ้ดาวยูเรนัสมารความรักทางกาแล็คซี่ของยัยตัวเล็กที่พยายามเย็นชาใส่ผมอยู่ตอนนี้น่ะ แล้วไอ้ไคยะก็ทำหน้างง “คนรัก? นายหมายถึง….” “ว่าที่ Leader’s Wife... หัวใจและสมองของไอ้ติณณ์” ::: END KIRA :::หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X