อีกด้านหนึ่ง...
@ DARK SHADOW CASTLE (JAPAN) [ผู้หญิงของคิระงั้นหรอ?] น้ำเสียงดุดันถามออกไปด้วยความรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ ชายสูงวัยร่างใหญ่ที่ดำรงตำแหน่งสภาสูงสุดมองรูปในมืออย่างผิดคาด แต่ในขณะเดียวกันก็ผุดรอยยิ้มร้ายและมองไปที่ 'เฮย์โซ’ ลูกชายบุญธรรมอีกคนของเขาอย่างนึกขำในใจ “ใช่ค่ะ ถ้าตามรูปที่ท่านส่งมา เธอชื่อลิซ่า” ฟาเดียตอบกลับไปเสียงเรียบแม้ลึกๆจะนึกกังวลใจ [หึ...ลืมหน้าที่สำคัญกันไปแล้วสินะ ก็ไหนคนรักของเธอ...บอกว่าจะพาคิระไปล่าว่าที่ Leader นี่นา] “ค่ะ เฮียแม็คยังคงพยายามสุดความสามารถ คนที่นอกลู่นอกทาง เห็นจะมีแค่คิระเท่านั้น” เธอตอบออกไปอย่างไม่ลังเล เพราะหากต้องเลือกปกป้องระหว่างใครก็ตามบนโลกนี้กับมาโคร เธอเลือกจะปกป้องเขาแบบไม่อ้างอิงเหตุผลใดๆ [แล้วปฏิกิริยาของหนูทดลอง?] “กำลังรอผลระยะยาวค่ะท่าน” แต่ดูเหมือนคำตอบนั้นจะไม่ทำให้คนถามพอใจในคำตอบสักเท่าไหร่ [รอนานกว่านี้ไม่ได้! เพิ่มอัตราส่วนให้มากกว่าเดิม แล้วรีบรายงานผลว่าร่างกายคิระรับไหวแค่ไหน] “แต่มัน...” [หรือจะลองกับคนอื่น? จะว่าไปมือวางอันดับหนึ่งด้านการต่อสู้ของ Dark Shadow ก็น่าสนเหมือนกัน] น้ำเสียงเย็นเฉียบและไร้เยื่อใยพูดออกไปจนคนที่ได้รับฟังถึงกับนึกหวั่นในใจ ฟาเดียรู้ดีว่าสภาสูงสุดอย่างพ่อบุญธรรมของเธอทำอะไรก็ได้ ที่เป็นแบบนั้นเพราะสภาคือผู้คุมกฎของ Dark Shadow ทำให้แม้แต่ท่านผู้นำซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ของ Next Generation ยังต้องมีความเกรงใจกันอยู่ เพราะมันไม่เคยมีหลักฐานใดๆหลงเหลือ เมื่อเรื่องนั้นถูกสั่งการโดยปลายสาย แม้แต่เรื่องยานรก ยา... ที่จำเป็นต้องมีหนูทดลอง และผู้ที่ถูกเลือก...คือคิระไง “ไม่ค่ะ! เราจะทดลอง Madden Whiz กับคิระคนเดียวเท่านั้น!” แค่คิดว่ามาโครต้องเจ็บแม้เพียงเสี้ยวนาทีหลังจาก take ยาเข้าไป ใจเธอก็ไม่สามารถหันเหไปหาใครได้เลย รอบตัวเธอมีคนที่แข็งแกร่งเทียบเท่ามาโครแค่คนเดียวเท่านั้น และหมอนั่น... เป็นหนึ่งในคนที่แย่งครอบครัวคนสุดท้ายของเธอไป! [ก็ถ้าผลการทดลองของเธอมันช้า มาโครน่าจะตอบโจทย์กว่า ว่ามั้ย] น้ำเสียงที่แค่ได้ฟังก็รู้ว่าคนพูดกำลังยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่ในขณะเดียวกันก็เอาจริงจนดวงตาแวววาวขึ้นมา ทำให้ฟาเดียเลิ่กลั่ก ร้องขอเสียงสั่นเพื่อปกป้องคนที่เธอรักมากกว่าทุกสิ่ง “ขอร้องล่ะค่ะ อย่าเอาเฮียแม็ค...เข้ามายุ่งเรื่องนี้” [หึ...ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องรู้ แว่วๆมาว่ามันกำลังขุดคุ้ยอย่างจริงจังอยู่...เรื่องคืนนั้น] “คืนนั้น? ท่านพูดเรื่องอะไร...คะ?” ยิ่งได้ฟัง Keyword สำคัญที่เธอพยายามจะเพิกเฉยและลบมันทิ้งไป ฟาเดียก็ยิ่งอยู่ไม่สุข เธอรู้ดีแก่ใจว่าที่สภาสูงสุดพูดหมายถึงอะไร เธอรู้ดี... แต่ไม่คิดว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้.... [ไม่เอาน่าฟาเดีย แล้วลูกสาวพ่อไปทำอะไรมา...ในคืนวันแต่งงานของรักษาการ :)] ตริ๊ด! สิ้นสุดคำพูดนั้นปลายนิ้วก็ตัดสายไปโดยไม่รอดูปฏิกิริยาลูกสาวบุญธรรมของเขา แต่ก็พอจะคาดคะเนได้ว่าเธอหวั่นใจแค่ไหน ก่อนสภาสูงสุดจะเอ่ยชื่อลูกชายคนโปรดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถทุกด้าน แค่ไม่เคยเปิดเผยอย่างจริงจังต่อหน้า DS Member ทั้งหลาย เขาต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าเด็กหนุ่มที่อายุไล่เลี่ยกับ DS Member Generation ใหม่ๆ เป็นแค่คนอ่อนปวกเปียกที่คอยติดตามในฐานะลูกชาย “…เฮย์โซ” “ครับท่าน” “ดูเหมือนหุ่นเชิดของเรา...กำลังนอกลู่นอกทางไปไกล” “ท่านหมายถึง...คุณคิระ?” แม้จะเรียกขานด้วยการให้เกียรติ แต่สรรพนามที่ดูยกย่องไม่ได้แปลตรงตัวว่าเฮย์โซจะให้ค่ากับคนที่กำลังพูดถึงเท่าไหร่ ลึกๆแล้วเขาไม่ชอบหน้ามัน ไม่สิ...อันที่จริงหมายถึง พวกมัน! คงเพราะคิระและมาโครได้รับอภิสิทธิ์มากมายเกินหน้าเกินตา ทั้งที่สังกัดดั้งเดิมของพวกเขา...ไม่ใช่คนของสภาแต่กำเนิดด้วยซ้ำไป! หากเทียบกันอย่างจริงจัง ถ้าทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในสังกัดนี้ คนที่เฉิดฉายที่สุดจะเป็นเขา คนที่จะกุมอำนาจและทรัพย์สินมหาศาลของ Dark Shadow หลังสภาสูงสุดได้มันมาครอบครอง ต้องเป็นเขา เพราะตามแผนการที่วางเอาไว้ สภาสูงสุดแค่ใช้คิระเป็นหุ่นเชิดเท่านั้น ถึงเวลาเปล่าประโยชน์เมื่อไหร่ ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเก็บมันเอาไว้ เหมือนที่เขาสั่งลอบทำร้ายพ่อแม่คิระและพ่อแม่เตโช เพื่อสร้างข่าวลือว่า Next Generation รุ่นก่อนขัดผลประโยชน์ และลอบทำร้ายกันเองเพราะผิดใจ และเมื่อได้ฟังคำถามของลูกชายที่อยู่ใกล้ตัวราวกับเป็นมือขวาแบบลับๆ สภาสูงสุดก็พยักหน้าออกมา “ใช่... หรือที่คิระมันลีลาแบบนี้ อาจจะรอให้เรา...ตัดริบบิ้นให้” แววตาเด็ดขาดพูดไปอย่างใช้ความคิดและกระตุกยิ้มมุมปากตามแบบฉบับตัวร้าย จนเฮย์โซพอจะเดาทางออกว่าหลังจากนี้คงมีเรื่องสนุกๆให้เขาทำในต่างแดน เพราะอยู่ที่นี่ก็ชักน่าเบื่อจะตาย “ว่าความต้องการท่านมาเถอะครับ ผมพร้อมรับภารกิจทุกอย่างขอแค่ท่านสั่ง” ได้ยินแบบนั้น สภาสูงสุดก็หันไปยิ้มให้ลูกชายบุญธรรมของเขาอย่างถูกใจใน Energy ที่เอ่อล้นออกมามากมาย แต่แม้ลึกๆจะอยากลงโทษคิระที่หลงเป้าหมาย แต่สภาสูงสุดก็มั่นใจ ว่าเขาหล่อหลอมคิระให้โตมาด้วยความเข้าใจในแบบที่เขา...ต้องการให้เข้าใจ นั่นแปลว่าคิระจะไม่มีวันญาติดีกับเตโชแน่นอนไม่ว่ายังไง หากยังย้ำคิดว่าพ่อแม่ของเตโช และท่านปู่ที่ควรรักหลานอย่างเท่าเทียมเคยทำอะไรกับตัวเองเอาไว้ ก็อาจจะจริงที่เราไม่รู้หรอก...ว่าในหัวคนอื่นคิดอะไร แต่ในหัวคิระ เด็กนั่นต้องจำ สิ่งที่เขาย้ำให้จำเสมอ...ว่าควรเลือกข้างไหน? ด้วยสถานการณ์ และ Background ชีวิตที่เจ็บปวดเจียนตาย คิระเลยต้องจำ ต้องย้ำคิดย้ำทำซ้ำๆเอาไว้ จากการกระตุ้นของ Madden whiz ในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ ให้เกิดภาพหลอนรีรันในหัวเขาผ่านความฝันที่โหดร้ายที่สุดพวกนั้นไง :) และถึงแม้จะหล่อหลอมไอ้เด็กคนนี้ขึ้นมากับมือ เห็นการเติบโตของเขาไปพร้อมกับแย่งชิงเขาจากท่านผู้นำแห่ง Dark Shadow ที่เคยพยายามแทรกแซงเอาหลานชายที่ไม่เต็มใจกลับสังกัดแต่ก็สูญเปล่า คิระเลือกจะอยู่สังกัดสภา แม้ตราประทับสังกัดอื่นจะเด่นหราอยู่บนร่างกาย ที่ผ่านมาสภาสูงสุดยอมรับในตัวคิระทุกเรื่อง คุณสมบัติมากมายที่โดดเด่นทำให้คิระเป็นบุคคลที่เหมาะสมและน่าสนใจ แม้เพียงก้าวเดินแค่ก้าวเดียวก็เหมาะสมที่ก้าวไปสู่ตำแหน่งสูงสุดโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ ยิ่งไปกว่านั้น... แม้หนึ่งสตรีที่คิระเลือกมาอยู่ข้างกาย แววตาเธอยังละม้ายคล้ายคลึงกับหนึ่งสตรีที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจเขาไม่ว่านานเท่าไหร่ “…….” มือหนาหยิบรูปลิซ่าขึ้นมาดูอีกครั้งอย่างใจเย็น ดวงตาดุดันแต่ในขณะเดียวก็อ่อนโยนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนในรูปภาพอย่างพยายามห้ามใจว่าจะไม่สั่งทำอะไรเธอให้มากเกินกว่าที่มันควรต้องเป็นไป “….เอาแค่ถลอกๆละกัน ให้คิระมันพอเป็นบ้าได้” “รับทราบครับท่าน!” เสียงเข้มของเฮย์โซตอบกลับมาอย่างหนักแน่น แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมท่าทางของพ่อบุญธรรมของเขาถึงดูเปลี่ยนไปพอจ้องมองคนในรูปนั้น “แล้วระวังมือที่สามอย่างรักษาการให้ดี ไม่สิที่จริง... เล่นนังนั่นด้วยก็ดี” ริมฝีปากหนาสั่งออกไปทั้งที่ยังไม่ยอมละสายตาจากรูปลิซ่าที่สวมเสื้อผ้าน่ารักเดินเคียงข้างกอดแขนคิระอย่างตัวติดหนึบกับเขาแบบนั้น มันพอจะมองออก... ว่าคนที่ถือตัวอย่างคิระ หากยอมให้ใครแตะตัวได้อย่างสนิทสนมขนาดนี้ ยังไงเธอก็ต้อง ‘เป็นคนสำคัญที่คิดจะจริงจัง’ “จัดการเรื่องนี้ทันที แล้วอย่าทำกับเธอเกินกว่าที่สั่ง ที่สำคัญ! ความผิดทั้งหมด... ว่าที่ Leader จะเป็นผู้รับมัน” “รับทราบครับท่าน!” เมื่อได้รับคำสั่ง เฮย์โซก็รีบผลุนผลันออกจากห้องไปอย่างกระตือรือรันกับภารกิจนั้น แต่คล้อยหลังจากที่เฮย์โซเดินพ้นไป สภาสูงสุดก็ถึงกับหลุดปากพูดอะไรพึมพำออกมาคนเดียว ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและน้ำเสียงที่ยอมแพ้ให้คน...ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจ “เด็กคนนี้ดูคล้ายเธอมากเกินไปแล้ว... ...อดีตรักษาการ :)”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X