“งื้อออ ขับรถไปเลยนะคุณพระอาทิตย์ มัวแต่มาจ้องเค้าอยู่ได้ -/////-”
ฉันหันหน้าหนีและบ่นอุบอิบออกไป เพราะระหว่างทางตั้งแต่ออกจาก Treatise เฮียคินก็เอาแต่ขับรถแล้วก็หันมาเหล่ฉันวนไปวนมาอยู่ได้ “มองเมียไม่ได้ไง๊” ง่ะ แล้วทำไมต้องทำเสียงเข้มด้วยเนี่ย “ก็...ยังไม่ได้บอกสักคำเลยว่าไม่ได้ -3- หึ๊ยยยย ร้านนม นี่มันร้านนมเปิดใหม่“ ฉันแกล้งเปลี่ยนเรื่องไปเลยพอเขาทำท่าจะดุใส่ แต่งื้ออออ ร้านนมน่ารักจริง มีรูปน้องวัวตัวใหญ่อยู่บนป้ายร้านกำลังเอามือบีบหน่มน๊มทำท่าเซ็กซี่แล้วมีน้ำนมไหลย้อยลงไปในแก้วด้วยอ่ะ อิ๊อิ๊ อย่าบอกน้า...ว่าสโลแกนร้านคือเรามีนมสดๆจากเต้าใช่ป่าวอ่ะ คิกๆๆๆ “หึ...เมื่อเช้าก็ร้านโจ๊ก” เฮียคินแซวๆออกมาแล้วส่ายหัวหลุดขำ แต่มันน่ากินจัง ร้านนี้เพิ่งเปิดเมื่อวานหรอเนี่ย ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยอ่ะ “ง่าาา นมมมม เฮียขาหนูอยากกินนมจังงงง” ฉันหันไปทำตาปริบๆใส่เฮียคิน ถึงแม้จะว่าเราจะขับรถเลยร้านนั้นมาแล้ว แถมป้ายร้านยังบอกว่าเปิดตั้ง 5 โมงเย็นแต่นี่มันเพิ่งจะเที่ยงเอง แล้วเขาก็เงียบและมองมา “…….” “เฮีย เฮียขาาา หนูอยากกินนมมมม เข้าใจมั้ยเนี่ยฮะะะ -3-” “อยากด้วยได้มั้ยอ่ะ :)” นั่น! ที่แท้ที่เงียบก็คิดเหมือนกันสิท่า ว่าแล้วใครจะไปอดใจไหว เจอป้ายนมสดๆจากเต้าไปขนาดนั้นอ่ะ คิกๆ ^_^ “อื้อ เอาดิ งั้นเย็นนี้กินกัน” “กลางวันก็กินได้” “หืม? แต่ว่าร้านมันยังไม่เปิ....” “หึ....” โอ๊ะ o_O? เอาใหม่นะ งั้นเย็นนี้กินกัน... กลางวันก็กินได้แล้วหึ... พอความรู้สึกตะหงิดใจอย่างน่าประหลาดเกิดขึ้นมาในใจ ฉันก็ละสายตาจากถนนแอบเหล่ตาไปมองที่น่าจะจ้องกันอยู่ก่อนแล้วแถมยัง....ลดระดับสายตาลงต่ำมาที่...หน้าอกฉัน “อร๊ายยยย >[]<! หนูไม่ได้หมายถึง….กรี๊ดดดดดด” “ฮ่ะๆ พอแล้ว เสียงดังแสบหูจะตาย ^_^” โอ้โหหหห ร้ายมาก ร้ายที่สุด คุณพระอาทิตย์คนทะลึ่งตึงตัง นี่เขาคิดอะไรกันแน่ นี่เขา....อร๊ายยยยย “เค้าจะไม่พูดด้วยเล่า ขับรถไปเลย คนแผนสูงไว้ใจไม่ได้ >[]<!” “ก็กลางวันกินได้จริงๆ :)” ยังอี๊กกกกกก คนบ้า! “ไม่! หนูไม่หลงกลหรอกน่า อย่ามาร้าย -3-“ พูดจบฉันก็กอดอกแล้วพลิกตัวหันหนี ทำท่านอนตะแคงหันหลังใส่เฮียคินแล้วเนียนชมวิวข้างนอกเห็นภาพสะท้อนว่าตัวเองหน้าแดงแจ๋ แล้วก็รู้ด้วยว่านั่งแบบนี้มันอันตรายอ่ะแต่... ก็มันเขินนนนนอ่ะ! มันเขินให้ทำไงล่ะะะ อย่างน้อยเข็มขัดนิรภัยก็ยังรัดไหล่ที่นอนตะแคงอยู่ของฉันไว้แหละ -3-!!! “ไม่กินจริงหรอ เฮียเลี้ยงเลยนะ จะกินเท่าไหร่ก็ได้” “หึหึ.... ไม่ต้องมาอวดรวยแถวนี้เลยด้วยหนูไม่ไป >[]<!!!” ฉันหัวเราะในลำคอแล้วหวีดร้องออกไป เฮียก็ยิ่งขำแถมยังส่งเสียงกวนประสาทมาจากข้างหลังอยู่ได้ “อวดไร เมียคนเดียวเลี้ยงได้ จะจีบเมียมีไรมั้ย” “อะ...ไอ้... ไอ้.... >_<” ฉันหลับตาปี๋และเอามือปิดปากพูดอู้อี้ออกไป แต่พูดไม่อ๊อกกกก ทำไมอยู่ๆถึงพูดไม่ออกซะได้ แล้วมันก็เขินมากจนจั๊กกะจี๋ไปทั้งตัว ไม่รู้จั๊กกะจี๋อะไร >/////< “ปล่อยหมัดน็อคก็คือช็อคไปเลยหรือว่าไง?” จึ๊กๆ เฮียคินพอเห็นท่าทางของฉันก็ยังจะมาแกล้งเอามือจิ้มไหล่ หึ๊ยยย ไม่ต้องมาวุ่นมาวายยยย >[]<! ”ไม่ต้อง! ไม่เล่น -3-” “หึ...ไม่ต้อง :)” แหน่ะ! มีล้อเลียน! “ไม่ต้องเลยนะเฮีย ไม่ต้องมามอง หนูจะชมนกชมไม้ >_<” ฉันปัดมือพาดไหล่ไปข้างหลังแบบไม่หันไปมอง แต่ดูเหมือนเฮียจะสนุกมากเป็นพิเศษ ทั้งที่ขับรถอยู่ก็ยังหาเรื่องให้ฉันปรายตาไปมองค้อน “ไหนนก? ไหนไม้? มีแต่ถนนคอนกรีต” “ก็ช่างหนูเถอะน่า นู่นไงนก” ฉันหลับหูหลับตาชี้อะไรบนฟ้าที่ขยับดุ๊กดิ๊กอยู่มั่วๆไป “นั่นเครื่องบิน” “งะ...งั้นนั่นต้นไม้!” เชอะ! งั้นเปลี่ยนเป็นชี้อะไรเขียวๆก็ได้ “มั่ว นั่นเสาไฟ” อะจึ๋ย -*- ใช่ด้วยแฮะ แต่ว่าเมื่อกี๊เห็นเหมือนอะไรเขียวๆไม่ใช่หร๊ออออ หรือว่าตาฝาดไป “โอ๊ย แล้วอยากโดนไฟช็อตตายมั้ย >[]<!” เพราะไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไปที่ไหนแล้วเนี่ย ฉันเลยแกล้งโวยวายออกไปซ้ำๆซะเลย “ไม่ค่ะ แล้วหนูอยากโดนอะไร” ชิชะ! อย่ามาทำเป็นพูดเพราะนะ!! “ไม่ต้องมาหนู ไม่ต้อง ไม่ต้องมาค่ะเลยนะ!” “นิดหน่อยก็เขินได้ว่ะ ^_^” หืมมมม ถึงจะหันหลังฟังแต่เสียง แต่เฮียคินนี่น่าใช้ความรุนแรงด้วยมากเลยนะ อยากจะเอามาหนังยางสิบเส้นมาดีดแขนให้สาสมใจเลยอ่ะ >[]<!!! “พอแล้ว! หนูไม่พูดด้วยแล้ว! ตั้งใจหน่อยสิคะเดี๋ยวรถก็ชนจนดะ....” ตึงงงงง! เฮือก O_O แล้วยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ ระ...รถ รถก็ชนจริงๆ มีแรงกระแทกพอประมาณดังขึ้นจากประตูฝั่งฉันอ่ะ ได้ยินแบบนั้นฉันก็รีบหมุนตัวกลับมานั่งแบบปกติทั้งที่ใจหวิวไปพอประมาณ ก่อนจะหันหน้าไปหาเฮียและพูดออกไปเสียงสั่น “ฮะ...เฮีย” แล้วเฮียคินที่น่าจะรู้ตัวเหมือนกันก็มองออกไปพร้อมกับฉันและเห็นรถเก๋งที่ติดฟิล์มดำมืดสนิทขับมาเทียบข้างเรา ก่อนจะ... ตึงงง! ตึงงง! “กรี๊ดดดดดด เฮียยย >_<” มะ...ไม่ใช่แล้ว นี่ไม่น่าจะใช่อุบัติเหตุ รถคันข้างๆตั้งใจชนเราแรงมากไม่รู้ทำไม ที่สำคัญฝั่งที่ชนมันคือฝั่งของฉัน แล้วแรงกระแทกอย่างแรงซ้ำๆก็ทำให้ประตูรถฝั่งที่ฉันนั่งเริ่มพังยับและบู้บี้เข้ามาจนฉันต้องยกขาขึ้น ขยับตัวเลิ่กลั่กแบบทั้งอึ้งทั้งช็อค ในใจหวีดร้องออกไปจ้าละหวั่น ตึง! ตึง! ตึง! “จิ๊! ปลดเข็มขัดลิซ! มานั่งกับเฮีย!” สีหน้าที่ร่าเริงของเฮียคินเปลี่ยนไปทันควัน พอเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีและท่าทางที่หวาดผวาของฉัน เขาส่งเสียงเข้มเอ่ยออกคำสั่งมา แล้วเฮียคินก็เร่งความเร็วรถจนเร็วมาก แต่รถคันนั้นก็ไม่ลดละความพยายาม เร่งความเร็วตามมาชนรถเราอีกหลายครั้ง ตึง! ตึง! ตึง! ยิ่งเป็นแบบนั้น ทั้งแรงกระแทกที่ทำให้ประตูบุบเข้ามาซ้ำๆและความเร็วรถของเฮียที่เร็วที่สุดในชีวิตที่ฉันเคยนั่ง บวกกับเสียงล้อรถของเราที่ส่ายจนลากไปบนถนนตามแรงกระแทก มันก็ทำให้แขนขาและมือไม้ฉันเริ่มสั่น เอี๊ยดดด เอี๊ยดดด เอี๊ยดดดด “มะ...ไม่ หนูไม่กละ... >_<” “ไว้ใจเฮีย” ฉันหลับตาพูดออกไปแล้วก็โดนแขนแกร่งของเฮียคินเอื้อมมาปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะคว้าร่างฉันขึ้นไปนั่งบนตักเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับคำพูดแน่วแน่ให้ฉันมั่นใจ นั่นทำให้ฉันรู้สึกเก้ๆกัง เพราะกลัวว่าเขาจะขับรถลำบาก แต่ไม่เลย... สองแขนที่โอบฉันไว้ในอ้อมกอดเขา กลับให้ความรู้สึกปลอดภัย “เฮียขาหนูกลัว ฮึก… เฮียคินหนูกลัว” ตึงงงง! เพล้งงงง! “กรี๊ดดดดดด” แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันยิ่งผวามากกว่าเดิม คือแรงกระแทกครั้งล่าสุดที่ทำให้กระจกประตูอีกฝั่งแตกละเอียด ยิ่งทำให้ฉันมุดหน้าเข้าไปหาเฮียคินที่เริ่มจะออกอาการฉุนเฉียวและกัดฟันแน่นเหมือนโมโหถึงขีดสุดแล้วแบบนั้น “รวิษฎา...” เฮียคินเรียกชื่อฉันออกมาเสียงเข้ม เขากำลังโกรธมาก โกรธจริงจัง แม้จะดูนิ่งเงียบ ตาก็เอาจ้องมองรถคันข้างๆและคิดอะไรบางอย่างเหมือนกำลังใช้สมาธิสูงแต่ฉันก็สัมผัสได้จากโทนเสียง และยังไม่ทันที่ฉันจะตอบ... “หลับตา! ห้ามลืมขึ้นมา! ห้ามตอบสนองต่อสิ่งเร้าใดๆทั้งนั้น!” พรึ่บ! พูดจบมือหนาข้างซ้ายที่กำลังโอบกอดฉันก็เลื่อนมาปิดตาฉันราวกับบังคับให้หลับตาลง ฉันเองก็ทำตามที่เขาสั่ง แล้วเฮียคินก็เอามือออก ก่อนที่ฉันจะรู้สึกได้ถึงความเร็วรถที่แรงขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง และเสียงก๊อกแก๊กที่มาพร้อมกับจังหวะโน้มตัวของเฮียทั้งที่ฉันยังกอดมุดตัวเข้าไปหาแผงอกแกร่งของเขาอยู่แบบนั้น และ..... ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! วิ๊งงงงงงงงง..... ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น เสียงดังสนั่นกึกก้องจนฉันหูดับก็แว๊บเข้ามาในประสาทสัมผัส แม้ว่าหูจะอื้อ แต่ความรู้สึกคาใจกลับชวนให้คิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง… ฉันเคยได้ยินนะ... ฉันเคยได้ยินเสียงนี้มาแล้วครั้งนึงที่เกาะ บะ...บั้งไฟหรอ บั้งไฟจะมาอยู่ในที่แบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำอ่ะ เอี๊ยดดดดดด! แล้วท่ามกลางความมืดสนิทของดวงตาที่ปิดอยู่ของฉัน ก็มีเสียงล้อรถลากยาวราวกับชะลอความเร็ว และแน่นอนนั่นไม่ใช่รถที่เรานั่ง ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานจะมีเสียงเครื่องยนต์ของรถคันเดิมเร่งความเร็วมาใกล้รถเราแว่วมาเบาๆอีกครั้ง ซึ่งก็.... ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! วิ๊งงงงงงงงง..... ครั้งนี้เสียงดังสนั่นจากอะไรบางอย่างตรงหน้าทำให้ฉันที่คาใจลืมตาขึ้นมาดูมันทั้งที่ยังหูดับอยู่ซ้ำๆ O_O!!! และสิ่งที่ทำให้ฉันตกใจทันทีที่ลืมตา ก็คือมือซ้ายของเฮียคินกำลังถือปืนกระบอกหนึ่งยิงรัวๆออกไปจนกระจกรถเก๋งฟิล์มดำที่ชนเราแตกละเอียด ยิ่งไปกว่านั้น กระสุนนัดสุดท้ายที่ฉันเห็นก็เจาะทะลุเข้าด้านข้างลำคอคนขับจนทรุดลงคาพวงมาลัย แล้วรถเก๋งฟิล์มดำก็ส่ายไปมาก่อนจะพุ่งลงข้างทางไปคาตา เอี๊ยดดดดด โครมมมม! O_O!!! ภาพตรงหน้าทำให้ฉันทั้งอึ้งและช็อคจนเผลอกำเสื้อเฮียคินแน่น แต่พอรู้สึกตัวก็สะบัดทุกอย่างออกแล้วถอยกรูดจนไปติดกับประตูฝั่งที่นั่งคนขับอย่างหวาดผวายิ่งกว่า นั่นทำให้เฮียคินที่น่าจะรู้ตัวและยังมีปืนในมือถึงกับโยนมันทิ้งไปหลังรถ ก่อนจะเหยียบเบรคอย่างแรงและหันหน้ามาหา เอี๊ยดดดด “ก็บอกว่าอย่าลืมตะ....” พรึ่บ! มือหนากำลังจะถูกส่งมาลูบหัวฉันที่นั่งสั่นบนตักเขา แต่ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างและความกลัวจากสิ่งที่เห็นทำให้ฉันเลือกจะเบี่ยงตัวหลบและใช้มือปัดมันก่อนจะพูดออกไปเสียงสั่น “ถะ...ถอยออกไปนะ! เฮียฆ่าคนตาย! ฮะ...เฮียคิน เฮียคิระ เฮียฆ่าคนตายอ่ะ ฮึก... O_O!”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X