พรึ่บบบบบ!
“กรี๊ดดดดดดดดดด >[]<!!! เฮียคินขาช่วยหนูด้วยยยยยย เฮียคิระะะะ! อย่าเข้ามาน้าาาาา กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!!!!” ฉันหวีดร้องพร้อมกับสะบัดผ้าในมือออกไป ทำให้ไอ้ตุ๊กแกอ้วนห้อยโตงเตงกลางอากาศและพยายามไต่ขึ้นมาบนผ้าเช็ดตัวที่แขวนกับตะปูไว้ แล้วมันก็หันมาจ้องตาฉันที่ถอยหลังกรูด ก่อนที่มันจะวิ่งไปแอบใต้ผ้าเพราะตกใจเสียงเฮียคินที่ดังขึ้นมาและทำเหมือนจะพังประตูเข้ามาให้ได้ ปังงงงง! “เป็นไร?!” “กรี๊ดดดดดด ม่ายยย! เฮียอย่าพังประตู! อย่า! เดี๋ยวมันกระโดดใส่หนู อย่ากดดันม๊านนนนน ฮือออ พาหนูออกไปจากที่นี่ที เฮียขาช่วยด้วย ช่วยทำยังไงก็ด้ายยยยย แงงงงง >[]<!!!!” ฉันแหกปากสุดเสียงแล้วไอ้ตุ๊กแกอ้วนนั่นที่เข้าไปแอบได้แป๊บเดียวก็โผล่หน้าออกมาใหม่ ว๊ากกก มันไต่ขึ้นมาอีกมาแล้ว มันไต่ขึ้นมาแบบโอนเอนเพราะเฮียคินที่อยู่ข้างนอกเอาแต่เขย่าประตูรัวๆอยู่ได้ “กรี๊ดดดดดดดดด มันจ้องหน้าหนูแล้วววว เฮียคินขามันจ้องหน้าหนู ออกป๊ายยยย >[]<!!!!” “ก็เปิดประตูดิวะ มีไร?!” “ม๊ายยยย! หนูเปิดไม่ได้! ตุ๊กแกยักษ์! เฮียคินขามีตุ๊กแกยักษ์อยู่ที่ประตู เฮียคินช่วยด้วยตุ๊กแกจะกินตับหนู กรี๊ดดดดดดดด หนูยังไม่อยากตายยยย แงงงง หนูจะมาตายที่เกาะกลางทะเลแบบนี้ม่ายด้ายยยย >[]<!!!” ‘แอะๆๆๆ แอ๊บแอ้!’ “กรี๊ดดดดดดดด” แต่ยิ่งฉันร้อง ไอ้ตุ๊กแกผีมันก็ยิ่งส่งเสียงตอบกลับมา แถมยังจ้องหน้าอาฆาตฉันอยู่ได้ แล้วในช่วงเวลาเฉียดตายก็มีเสียงฝีเท้าใครต่อใครนักไม่รู้วิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง เหมือนกำลังล้อมห้องน้ำนี้เอาไว้ “เกิดไรขึ้นครับนาย!” สะ..เสียงนั่น เสียงพี่ชายที่ชื่อไคยะนี่นา แต่... แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก! กะ...แกร๊กหรอ? แล้วแกร๊กๆนี่มันเสียงอะไรอ่ะ? ฉันเหลือบตามองขึ้นไปบนฟ้าเพราะห้องน้ำไม่มีหลังคาเลยได้ยินเสียงพวกนั้นชัดเจน แต่แค่เสี้ยวนาทีเดียวเท่านั้นพอก้มหน้ากลับลงมา ไอ้ตุ๊กแกบ้าก็มันก็ไต่มาที่ผนังห้องน้ำอยู่ห่างแค่หางตาของฉันเท่านั้น และมัน... และมันกำลังจะกระโดดใส่ฉัน วี๊ดดดดดด >[]<! ‘แอ๊บแอ้!!!!’ พรึ่บบบ! “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด >[]<!!!” แต่ก่อนที่ไอ้ตุ๊กแกนั่นจะถึงตัวฉัน ห้วงนาทีที่น่าหวาดเสียวเฮียคินก็โรยตัวลงมาจากหลังคา โดดมายืนบังข้างหน้าแล้วปัดไอ้ตุ๊กแกอ้วนนั่นลอยเฉียดหน้าฉันไปกระแทกประตูเสียงดัง! ตึงงงง! “เฮีย! เฮียขาช่วยหนูด้วย” เห็นแบบนั้นฉันเลยพุ่งเข้าไปกอดเขาแน่น แต่เฮียคินก็สะบัดออกทันที และไม่คิดจะหันมาสบตากัน และสิ่งที่ทำให้ฉันเสียสติไปยิ่งกว่านั้น คือมือของเฮียคินที่เอื้อมไปคว้าชุดคลุมอาบน้ำที่ประตูโยนมาคลุมร่างฉันที่ยืนสั่น พรึ่บ! ชะ...ชุดคลุมงั้นหรอ? ถ้าชุดคลุมแขวนอยู่นั่น ผะ..ผ้าเช็ดตัวก็อยู่นั่น งั้นตอนนี้สภาพฉันก็.... ละ...โล่งโจ้ง O////O “กรี๊ดดดด เฮียเห็นอะไรบ้าง! เฮียมองเค้ารึเปล่า! เฮียแอบดูเรือนร่างของเค้าไปแค่ไหนก๊านนนน >[]< ..... อุ๊บ!” พรึ่บ! “อย่าร้องดิวะเดี๋ยวมันก็…. -///////-” ‘แอ๊บแอ้! ‘แอ๊บแอ้! ‘แอ๊บแอ้!’ ฉันร้องออกไปอย่างคนเสียสติอีกครั้งแล้วเฮียคินก็เอามือมาปิดปากพร้อมกับดันตัวฉันที่เป็นบ้าไปแล้วให้ออกห่างจากตุ๊กแกบ้าที่ร้องโหยหวนนั่น มะ...ไม่จริง ไม่จริงอ่ะ นี่เฮียคิน เฮียคินเห็นหมดล๊าววว เขาเห็นหมดล๊าววว เรือนร่างอันสุดแสนเซ็กซี่ของฉัน แล้วแบบนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนก๊านนน >/////< ฉันรีบสวมชุดคลุมปกปิดเรือนร่างของตัวเองด้วยใบหน้าร้อนผ่าว ในขณะที่เฮียคินแอบหน้าแดงหูแดงมากๆ ไอ้คนบ้าๆๆๆ! ถึงจะเป็นตุ๊ดตู่แต่อวัยวะในร่างกายชายชาตรีอย่างดวงตาเฮียก็ได้มาสำรวจเรือนร่างของฉันแล้วอ่าาา T[]T คิดแล้วมัน.... คิดแล้วมัน.....ทั้งเฮียคิน ทั้งตุ๊กแกผี.... “กรี๊ดดดดดดดดดด ฮืออออ หนูไว้ใจใครได้บ้าง พระเจ้าขาตุ๊กแกบ้ามันจะฆ่าหนู เฮียโย เฮียพาย เฮียบีทททท หนูจะไว้ใจได้บ้างบนเกาะนี้ กรี๊ดดดดด รุ่นพี่เตโชขา เนื้อคู่สุดที่รักช่วยเอามันออกไปทิ...... >[]<!” โครมมมมมม! เฮือกกกก O_O! ฉันยังพูดไม่ทันจบ อยู่ๆเฮียคินที่น่าจะเหลืออดกับเสียงตุ๊กแกก็ถีบประตูห้องน้ำจนมันกระเด็นออกไปเป็นเสี่ยงๆ ปรากฏให้เห็นกลุ่มชายชุดดำเกินสิบคนกระโดดหลบชิ้นส่วนประตูที่ปลิวออกไป แล้วเฮียก็หันมาหาฉันด้วยสีหน้าฉุนเฉียวทันที “...เนื้อคู่? แน่ใจว่าใช่ไอ้เวรนี่?!” “นายหญิงเป็นไรมั้ยครับ?!” กึก! พรึ่บ! “ขะ...ขอโทษครับนาย” พอเฮียคินพูดจบ พี่ชายที่ชื่อไคยะก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาทันที แต่พอเขาเห็นฉันในสภาพนี้ก็รีบก้มหน้าลง แล้วทุกคนรอบข้างที่เพิ่งโดดหลบประตูไปหมาดๆก็ก้มหน้าลงตามกันในขณะที่.... ‘แอะๆๆๆ แอ๊บแอ้! แอ๊บแอ้! แอ๊บแอ้!’ “งื้อออออ” พรึ่บ! ทั้งที่คิดว่าไอ้ตุ๊กแกผีนั่นมันปลิวไปกับซากประตูแล้ว แต่มันก็ยังร้องขึ้นมาอีก ที่สำคัญมันวิ่งเข้ามาหาฉันกับเฮียคินเร็วมาก O[]O! ชะ...ใช่ วิ่ง! เกิดมาเพิ่งเห็นตุ๊กแกวิ่งบนพื้นดินแบบพร้อมฟาดฉันมาก! กรี๊ดดดด >[]<! เล่นเอาฉันโดดเกาะเฮียคินด้วยท่าทางเลิ่กลั่กทันที และจากเดิมที่เฮียคินแอบหงุดหงิดพอประมาณ เขาก็ยิ่งออกอาการเซ็งมากขึ้นไปอีก “จิ๊! ไอ้เหี้ยนี่ก็ร้องไม่หยุด ...ไอ้ไคยะ!” “ครับนาย!” พรึ่บ! หมับ! พอเฮียคินเรียก พี่ชายที่ชื่อไคยะก็โยนอะไรสีดำๆบางอย่างไม่รู้มาให้ ที่มองไม่ชัดเพราะมือซ้ายของเฮียคินเอื้อมไปรับมันจากกลางอากาศเอาไว้ ในขณะมือขวา เขาคว้าตัวฉันไปกอด แล้วใช้มือนั้นปิดหูฉันพร้อมกับกดหน้าฉันแนบกับอกแน่นๆของตัวเอง ก่อนจะ.... ปังๆๆๆๆๆ! “กรี๊ดดดดดดดดดดด >_<” ฉันหลับตากรี๊ดออกไปสุดเสียงและดิ้นดุ๊กดิ๊กอย่างใจสั่นยิ่งกว่าเดิมเพราะความตกใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และมาลืมตาขึ้นอีกทีเพราะเฮียแม็ควิ่งหน้าตาตื่น ส่วนพี่ฟาเดียก็วิ่งตามมาทีหลัง แต่สะ...เสียงเมื่อกี๊นั่นมัน O_O? “มีไรกันวะ” พรึ่บ! “……” จากคำถามของเฮียแม็คไม่มีใครตอบอะไร ฉันเลยค่อยๆหันหน้ากลับไป และเห็นแว๊บๆว่าเฮียคินโยนบางอย่างไปคืนให้พี่ไคยะ แต่สิ่งที่เห็นอีกอย่างและเล่นเอาลมแทบจับ คือซากตุ๊กแกสะ...ไส้แตก เลือดสาด นอนตายแอ้งแม้งอยู่ใกล้ๆขาตัวเองที่ห่างไปไม่ถึงสองคืบอ่ะ ฮือออ =[]=! แต่เอ๊ะ? เมื่อกี๊ไอ้ตุ๊กแกนี่มันยังทำตัวเป็นนักเลงกล้ามใหญ่เสียงใสใส่ฉันอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงได้.... “แค่นี้เนี่ยนะ ร้องเหมือนเกาะจะถล่ม แอคติ้งเยอะไป” จังหวะที่ทุกคนเงียบกริบไม่พูดอะไร พี่ฟาเดียก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก็จริงแฮะ นี่มันก็ดึกแล้วด้วยแล้วฉันก็ดันไปโวยวายซะลั่น “ขะ...ขอโทษค่ะ หนูขอโทษจริงจริ...” “ร้องดังกว่านี้ก็ยังได้ พอดีเป็นเจ้าของ คนนอกมีปัญหาอะไร” แต่ไม่รอให้ฉันพูดจบ เฮียคินก็พูดสวนขึ้นมา และกระชับอ้อมแขนที่กอดฉัน แถมยังทำท่าจะหาเรื่องพี่ฟาเดียอีกทีจากอารมณ์ค้างที่มีก่อนหน้านั้น เฮียแม็คเลยชิงตัดบททันทีเพราะดูท่าพี่ฟาเดียก็จะไม่ยอมเหมือนกัน “พอ ไม่มีไรก็แยกย้าย” และแน่นอน เฮียแม็คที่ยืนหนึ่งเรื่องการห้ามทัพตั้งแต่เมื่อเช้าก็เดินนำพี่ฟาเดียออกไป ส่วนเฮียคินก็คว้าแขนฉันเดินลิ่วๆเข้ามาในบ้านพักที่ห่างออกมาไม่ไกล แต่ไส้แตกเลยหรอ...ไอ้ตุ๊กแกนั่นน่ะ “ฮึก... นี่มันโศกนาฏกรรมชัดๆเลยอ่ะ หนูถามจริงนะฆาตกรคนนั้นคือเฮียหรอ เฮียเอาไม้ตีหรือว่าไง ไส้ทะลักแบบนั้นตกนรกไปมันจะห้อยโตงเตงแยกส่วนไปพบคุณยมบาลมั้ย ฮือออออ T^T” ใช่... พูดไปน้ำตาฉันก็ร่วงหยดติ๋งๆไป ก็แหม... ภาพตรงหน้าที่ติดตาคือการฆาตกรรมเย้ยหยันพระแม่ธรณีเลยนะ แม้ว่าพี่ชายทั้งหลายจะมีน้ำใจใส่ชุดดำมาไว้อาลัยให้มันอ่ะ T^T แล้วคิดดูสิ มันจะมีพ่อมีแม่ที่รอให้กลับบ้านอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้เจ้าอ้วนตัวนั้นน่ะ แล้วคิดต่อไปอีก ถ้าสุดท้ายมันคือพ่อหรือแม่ตุ๊กแกเบบี๋ที่ยังแบเบาะล่ะ โอ๊ยตาย นี่เราเป็นต้นเหตุแห่งการลาโลกของมัน T^T แล้วเฮียคินก็ปรายตามองฉัน “จะดราม่าเพื่อ - -*” “เอ้า ก็หนูสงสารมันนี่นา ฮึก… แล้วก็ มันเสียงอะไรหรอคะ เสียงที่หนูได้ยินปังๆๆตอนนั้น พวกเฮียๆก็น่าจะได้ยินเหมือนกันอ่ะ” ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอนแล้วปาดน้ำตาถามออกไป เฮียคินก็เงียบไปพักใหญ่ เขาจ้องหน้าฉันเหมือนกำลังคิดอะไรและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังออกมา “พูดยาก รู้แล้วอย่าไปบอกใคร รับปาก” หืม.... “หมะ...หมายถึงรู้อะไร ต้นตอของเสียงหรอคะ? ใช่มั้ย?” ได้ฟังคำตอบแบบนั้นฉันก็ยิ่งสนใจ ขยับตัวเข้าไปใกล้เฮียคินที่ยืนเปลือยท่อนบนอยู่ปลายเตียงไม่ใกล้ไม่ไกล แต่เสียงปังๆแบบนั้นอ่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นเสียงปื.... “....ที่จริงเกาะข้างๆเค้าแอบจุดบั้งไฟ” หาาาา =[]=! บะ...บั้งไฟงั้นหรอ??? “บ้าน่า หนูเคยดูข่าวมา นั่นมันผิดกฎหมายนะ!!” โอ้วววโห ขึ้นเลย! เพราะซื่อตรงในกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดมาก ทำให้ฉันเผลอยกมือเท้าเอวและทำหน้ายักษ์ออกไปอย่างไม่เห็นด้วยที่เกาะข้างๆลักลอบกระทำการผิดกฎหมาย! แล้วเฮียคินก็หลุดขำ “หึ...” เห๊อะ! อะไรกันเล่า! อีตาคุณพระอาทิตย์นี่ชอบติดเล่นทุกทีเวลาเป็นจริงเป็นจัง ไม่เคยรู้กาลเทศะเลยนะเรา “ขำไรคะ มันผิดกฎหมายจริงๆนะ แต่หนูจำไม่ได้ว่ามาตราที่เท่าไหร่ -3-” “ก็ใช่ เค้าคงไม่อยากปล่อยโคมในหาด มันเชย เลยจุดบั้งไฟ” “เหวยๆ ถ้าเจอจะจับมัดกับต้นมะพร้าวแล้วตีก้นสามทีซะเลย ทำผิดกฎหมายไม่พอ ยังเสียงดังข้ามมาถึงเกาะเราเลยด้วย -3-” “นั่นดิ ดังข้ามมาถึง...เกาะเราเลย” พูดจบเฮียคินก็เงียบ และไม่รู้อะไรยังไง ฉันก็ดันหันไปสบตาเขาที่กำลังมองมาพอดีด้วยแววตาอมยิ้มเล็กๆในใจแบบนั้นซะได้ รู้ตัวอีกทีก็เผลอจ้องไปซะนาน เรา...ต่างคนต่างจ้องกันซะนาน ก่อนที่ฉันจะวนกลับไปที่เรื่องสยองขวัญประจำค่ำคืนนี้ใหม่ “อะ...อื้ม แต่น่าสงสารจริงๆนะคะ ไอ้อ้วนนั่นที่ดับอนาถไป” “ยังไม่จบอีก ตายก็คือตาย จะโลกสวยทำไม” พอตอบคำถามของฉัน เจ้าของแววตาอมยิ้มในใจก็กลายเป็นลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป ใช่...ฉันโลกสวย แล้วไงล่ะ “เชอะ! ใครมันจะไปเลือดเย็นแบบเฮีย ที่ฆ่าชีวิตคนอื่นเป็นผักปลาได้” แล้วเฮียคินก็สวนกลับมาทันที... “ใครบอกว่าเป็นงั้นวะ” ถึงน้ำเสียงจะธรรมดาแต่พอฉันพูดแบบนั้น จากเดิมที่เคยลอยหน้าลอยตา ท่าทางเขาก็เริ่มดุขึ้นและจ้องมา “กะ...ก็ลาซา...” “มันบอกว่า?” หยึ๋ยยย เอาใหม่นะ ตอนนี้โทนเสียงคุณพระอาทิตย์เค้าเริ่มแข็งขึ้นแล้วล่ะ จะบอกสิ่งที่ลาซาพูดไว้ดีมั้ยนะ แต่จ้องหน้ากดดันกันขนาดนี้ก็คงต้องพูดแล้วล่ะ >_< “กะ...ก็ลาซาเคยบอกว่า...ถ้าเป็นผู้หญิงของเฮียห้ามหว่านเสน่ห์ ไม่งั้นจะถูก...” “ถูกอะไร” เย้ยยยย ละ...แล้วทำไมเฮียต้องโน้มตัวเข้ามาใกล้ฉันด้วยอ่ะ คนกำลังจะพูดให้จบอยู่นี่ไงเล่า >[]< “ถูกฆะ...ฆ่า >_<” “......” โอ้วม่ายยย พอหลับตาปี๋พูดคำสุดท้าย ทำไมอยู่ๆขนแขนฉันมันถึงสแตนอัพขึ้นมาอีกแล้วอ่ะ ขนขาก็เหมือนกัน อย่าบอกนะว่า...แท้จริงแล้วเฮียคิน... =[]=! “หึ....แล้วเราเป็นผู้หญิงของเฮียหรอวะ” เอ๋??? วะ...ว่าไงนะ? “……” คำพูดที่ถูกส่งมาทำให้ฉันค่อยๆลืมตาและเงยหน้าขึ้นมาไปเฮียคินที่กำลังโน้มตัวลงมา ละ...แล้ว พอได้สบตากับเขาที่เหมือนอมยิ้มในใจใกล้ๆอีกครั้งมันก็ยาก...ที่จะละสายตา ทำไมวันนี้เขาดู...มีเสน่ห์มากกว่าทุกวัน O////O ไหนจะ...ผู้หญิงของเฮียงั้นหรอ? เฮีย... ได้ยินเหมือนกันใช่มั้ย เขายอมแทนตัวเองว่าเฮียกับฉัน… แล้วไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า ที่ยิ่งจ้องนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นจมูกโด่งๆกับริมฝีปากอมชมพูเป็นกระจับยิ่งใกล้เข้ามา บวกกับเสียงลมหายใจเบาๆดังขึ้นเป็นระยะ นะ...นี่เรา...นี่เรากำลังจะจุ๊บกัน O////O และ.... จุ๊บ! “ฮ่ะๆ เฮียแพ้แล้วค่ะหนูจุ๊บเฮียก่อน เย่ๆสนุกจังเลย ห้ามแอบดูนะคะเดี๋ยวหนูไปเปลี่ยนเสื้อผะ....อ๊ะ!” พรึ่บบบ! ตุ้บ! แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก เป็นฉันที่โดดจุ๊บเขาก่อนเพราะทำอยู่แล้วเป็นประจำ แต่จังหวะที่ฉันหมุนตัวจะก้าวขา แขนแกร่งของเฮียคินก็เอื้อมมาคว้าตัวฉันดึงเข้าไปหา และกระซิบจากข้างหลังเบาๆด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “…เด็กบ้าเอ๊ย ทำไมดื้อจังวะ” นอกจากโทนเสียงแบบนั้นจะทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ จมูกโด่งๆของเฮียก็ยังค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ซอกคอฉันช้าๆ จนได้ยินเสียงลมหายใจรินรดข้างหูเบาๆจากข้างหลัง ซึ่งมัน... “อื้อออ เฮียขา....” “ชู่ววว....” ไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูดอะไรต่อสักคำ เฮียคินก็กดจูบเบาๆลงบนบ่าของฉัน ในขณะที่แขนใหญ่ยังโอบเอวฉันไว้แบบนั้น มือหนาอีกข้างของเขาเลื่อนไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของชุดคลุมที่ฉันใส่ นั่นทำให้ขาฉันอ่อนยวบเพราะมันไม่ต่างจากถูกสัมผัสเนื้อตัวโดยตรง กะ...ก็ฉัน... ก็ข้างในนี้มัน… O////O พรึ่บ! และทันทีที่ฉันทิ้งตัวลงอย่างควบคุมไม่ได้ เฮียคินก็คว้าไว้และดันตัวฉันชิดกำแพงก่อนจะจ้องลึกเข้ามาในตาอย่างไม่พูดอะไร ส่วนฉัน...อยู่ๆก็หน้าร้อนผ่าว รู้สึกแปลกๆเมื่อเขาเริ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ฮะ...เฮียขาหนูจะไปเปลี่ยนเสื้อผะ....อื้อออ O_O” ฉันยังพูดไม่ทันจบเฮียคินก็กดจูบลงมาจนฉันตาโตเพราะไม่เคยเห็นเขาในโหมดนี้เท่าไหร่ แล้วเฮียคินก็แทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากฉันเร็วมาก ลิ้นเรียวเกี่ยวหวัดและไล่ต้อนลิ้นของฉันจนฉันเผลอใจสั่น หลับตาลงรับความรู้สึกวูบวาบนั้น ที่จากร้อนแรงก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลและเนิบนาบลงพอเห็นท่าทางของฉัน “อืมมม....” ความรู้สึกอธิบายไม่ถูกที่ได้รับมาทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มไปในห้วงนาทีสั้นๆ เสียงครางเบาๆอย่างพอใจข้างหูทำให้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะลืมตา มะ...ไม่กล้าจูบตอบ มันตกใจ...แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ดีจัง :) “อื้อออ O_O” แต่แล้วเฮียคินก็ทำให้ฉันสะดุ้งเฮือกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมือของเขาค่อยๆลูบไล้ขึ้นมาบนชุดคลุมจนเกือบจะถึงหน้าอกของฉัน และในขณะเดียวกันเขาก็ผละจูบออก ล็อคแขนฉันสองข้างตรึงกับผนังพร้อมกับโน้มตัวลงมาซุกไซร้ซอกคอของฉัน ก่อนความรู้สึกเจ็บจี๊ดเหมือนมดกัดจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง ไม่รู้ทำไม...ความเจ็บจี๊ดนี้มันดึงสติฉันให้หลุดลอย เงยหน้ารับสัมผัสนั้น “อ๊ะ...อ๊า” ความรู้สึกเสียวซ่านและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกแล่นวาบเข้ามาในตัวฉัน มันเกิดขึ้นซ้ำๆจนฉันเข่าอ่อนอยู่หลายที ก่อนจะได้ยินเสียงเฮียคินพึมพำ... “ทำไม...ไม่ห้าม” เขาพูดเบาๆและผละออกไป ก่อนจะเอื้อมมือหนามาลูบไล้ไปตามกรอบหน้าของฉันที่ยังคงหลับตาปี๋ และค่อยๆลืมตาขึ้นไปมองหน้าคนที่ยังตรึงแขนอีกข้างของฉันไว้กับผนัง แต่นั่นสินะ ทำไมไม่ห้าม ก็เขา.... >/////< “กะ...ก็ถ้ามันรู้สึกดี เฮียโยบอกว่า...มันทำได้นี่” ฉันตอบกลับเฮียคินด้วยคำพูดขัดแย้งกับความคิดในหัว มะ...ไม่รู้สิ ก็มันดีจริงๆนี่นา สัมผัส...พวกนั้น >/////< แล้วเฮียคินก็เอาแต่จ้องหน้าฉัน “เชื่อฟังมากเลยสินะ ไอ้พวกนั้น….” อะ...เอ่อ รู้สึกแปลกๆจัง เวลาที่เสียงของเขาแหบพร่าและพูดพึมพำเบาๆเหมือนค่อยๆกระซิบอยู่ข้างหูฉัน >_< “ขะ...ค่ะ หนูเชื่อฟังเฮียๆทุกคนอยู่แล้.....” “ก็ดี...งั้นหวังว่าเฮียจะเป็นหนึ่งในนั้น” หืม? ...นี่ไง นี่ไงเขาแทนตัวเองว่าเฮียอีกแล้ว แต่ที่แปลกคือท่าทางของเขา เพราะเฮียคินไม่พูดเปล่า เขา...คว้ามือฉันที่ตรึงกับผนังไว้ ไปคล้องคอตัวเองเบาๆ อะ...อะไรของคุณพระอาทิตย์กันเนี่ย ทำไมวันนี้เขา.... O/////O งื้อออ แล้วบ้าน่า! บ้าไปแล้ว แล้วทำไมฉันถึงไปหวั่นไหวกับสายตายัยเจ่เจ้ตรงหน้าได้เล่า สายตาดึงดูดที่ถ้าเผลอมองแบบนั้น มันกำลังทำให้ฉันเลิ่กลั่กรู้รึเปล่า O/////O “ก็...แน่นอนอยู่แล้วสิคะ เฮียคินเป็น...หนึ่ง...ใน เอ่อ...นั้น >/////<” ง่าาา อยู่ๆก็พูดติดขัดไปหมดเลยอ่ะ นี่มันอะไรกันเนี่ย แล้วเฮียคินก็หลุดยิ้มออกมานิดหน่อยแบบไม่ปิดบัง แต่ตาก็เอาจ้องมานิ่งๆ เหมือนกำลังสะกดจิตฉัน “หึ... ทำได้ถ้ารู้สึกดี แล้วถ้าทำมากกว่านี้?” “มะ...มากกว่านี้?” พอเฮียคินพูดจบฉันก็สวนกลับไปด้วยสีหน้างงๆ ยิ่งทำให้เฮียกระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ และรั้งตัวฉันเข้าไปใกล้เขาจนร่างเราแนบชิดกัน ก่อนที่เขาจะเลื่อนจมูกเฉี่ยวแก้มฉันผ่านไปกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาซ้ำๆ... “….เรื่องที่พวกมันไม่เคยสอน” “ดะ...ได้กัน O////O” แค่ได้ฟังว่าพวกเฮียๆไม่เคยสอน มันก็มีอยู่แค่เรื่องเดียว แค่เรื่องเดียวเท่านั้น ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ในขณะที่เฮียคินก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดของเขา ดึงฉันเข้าไปใกล้ช้าๆ... “Yep, and if it feels better, Are you gonna obey? ….Lisa” (ใช่ แล้วถ้ามันรู้สึกดีกว่า จะเชื่อฟังเฮียมั้ย...ลิซ่า) น้ำเสียงและแววตาที่เหมือนกำลังตั้งใจสะกดจิตฉันถูกถามออกมา และแน่นอน... ทุกครั้งที่เราเผลอจับจ้องบางอย่างที่ดึงดูดเรามากๆเข้าน่ะ ทุกคนก็จะตกอยู่ในห้วงการตัดสินใจที่ไร้เหตุผล...ราวกับคนที่ตกอยู่ในภวังค์อย่างฉันตอนนี้สินะ “Ye….Yes….”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X