- 11.42 AM –
@ Treatise Univ. “เฮ่อออออ งงอ่ะเฮีย -3-” ฉันบ่นๆใส่เฮียพายแล้วเอามือเท้าคางทำหน้าเซ็ง หลังจากใช้เวลาที่อาจารย์ยกคลาสคาบนี้มาขลุกอยู่กับเขาที่ตึก IST “แค่ code ง่ายๆ เทพแล้วซะเปล่า” เหอะ! ถามจริงค่ะเฮีย คนที่เทพจริงๆนั่นมันเขาต่างหากเล่า -*- “คือหนูไม่ค่อยมีสมาธิ -/////-” ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะมันกวนใจอยู่ตลอดเลยอ่ะ ไอ้เหตุการณ์เมื่อเช้า เหตุการณ์เมื่อวันก่อน เหตุการณ์ตอนนั้นตอนนี้ ก็แบบว่า คือแบบว่า ก็คือเฮียคินอ่ะ เขา.... >//////< “หน้าแดง ไข้เปล่า?” แกร๊กๆๆๆ “ปะ...เปล่าค่ะ ก็แค่คิดไม่ออกเฉยๆ นี่เฮีย ถามหน่อยสิคะ” “……” พอฉันพูดไปแบบนั้น เฮียพายก็หันหน้ามาทั้งที่มือยังพิมพ์ Code ที่แก้อยู่ในจอแบบไม่ต้องมองแป้นด้วยซ้ำ ง่าาา... เอาจริงหรอเนี่ย ถึงมีเรื่องจะถามมากมาย แต่จะถามออกไปได้จริงๆใช่มั้ย เพราะฉันกับเฮียพายน่ะ...ส่วนใหญ่แล้วเราจะคุยกันแต่เรื่องจริงจัง เช่นเรื่องการบ้าน เรื่องสาขาที่เรียน (ก็อย่างที่รู้ว่าฉันย้ายตามเขามาทั้งนั้น) เรื่องแก้ Code นู่นนี่นั่น แถมเขายังเป็นคนที่สนใจเรื่องส่วนตัวของฉันน้อยสุดเลยนะ แล้วก็ดุมากที่สุดเลยด้วยในบรรดาเฮียๆทั้งสาม ฮึ่ยยยย! แต่มันคาใจอ่ะ คาใจมาก คาใจสุดๆยังไงก็ต้องถาม!! “ผู้ชายบอกว่าจะมาขอ หมายความว่ายังไงหรอคะ?” แกร๊กๆๆๆ กึก! “.....” พอฉันยิงคำถามโต้งๆออกไป นิ้วมือเรียวสวยก็ชะงักไปนิดหน่อยแล้วเฮียก็ยังคงเงียบ ก่อนที่เขาเหลือบตามามองฉันที่จดจ่อรอฟังแค่แว๊บเดียว และรัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ดต่อไป “อ้าวเฮีย ที่เงียบคือไม่รู้ใช่ม้า” “...ใคร?” น้ำเสียงเข้มสุดถามออกมา แม้จะไม่ได้สบตาฉันก็สัมผัสได้ว่าโทนเสียงนี้มันดูต่างออกไป โอ้วม่ายยย ถ้าบอกความจริงว่าเป็นเฮียคิน พวกเฮียๆจะเอาไปซุบซิบกันมั้ย แล้วเฮียคินจะมีชีวิตรอดรึเปล่า?! เห็นแบบนี้จะบอกให้เลยว่าพวกเฮียๆของฉันหมัดหนักจะตาย ตอนอยู่เมกาเคยมีคนมาลวนลามโรส โดนกระทืบไส้เกือบทะลักอ่ะ ก็ลองคิดดูว่าโหดแค่ไหน ว๊ากกกก ลำพังแค่ศิษย์พี่ที่รัวคีย์บอร์ดของหนูตอนนี้ จังหวะกระทืบคนนี่คือฮาร์ดคอร์มาก เตะรัวไม่ยั้งหนูจำด้ายยยย =[]=! “หึ๊ยยย ไม่มีใครพูดนะ ไม่มีใครพูดกับหนูเลย ก็แบบว่า คือว่าหนู หนูหมายถึงว่า...” อ๊ากกกก =[]=! แก้ตัวก่อน จะไปทางไหนดี เอาทางนี้แล้วกันเฮียไม่น่าจะรู้หรอก ดูเขาจะสนใจ Code ตรงหน้ามากกว่าฉันซะอีก “คือว่าหนูจำจากซีรี่ย์มาอ่ะ พอพระเอกบอกว่าเดี๋ยวเคลียร์เรื่องที่บ้านเสร็จแล้วจะมาขอ นางเอกเซ่อบ๊องก็ดูงงๆ หนูก็งงตามเพราะว่าไม่เห็นผู้กำกับเค้าจะมีคำอธิบายเลยนี่นา ว่าอะไรกันน้าที่ผู้บ่าวคนนั้นเค้าจะมาขออ่ะ ^_^” ฉันไขว้นิ้วชี้กับนิ้วกลางไว้ข้างหลังแล้วโกหกคำโต ก่อนจะส่งยิ้มกว้าง จังหวะเดียวกันเฮียพายก็หันมามอง “แก้ปัญหาเบื้องต้น เลิกดูซีรี่ย์ดึกๆแล้วนอน” แกร๊กๆๆๆๆ ง่ะ ตอบแบบนี้นี่เสียชื่อคนที่พึ่งพาได้ที่สุดในเรื่องเป็นการเป็นงานนะเฮียบอกก่อน - -* “เชอะ ตอบหน่อยก็ไม่ได้ แล้วเฮียคิดจะไปขอ...แฟนเฮียมั้ย” “ก็ต้องคิด” พอฉันแกล้งแย๊บๆถามไป เฮียพายก็ตอบกลับมาแบบไม่ลังเลและไม่หยุดคิดสักนิด เนี่ย! ไอ้การขออะไรเนี่ย มันต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อลังการบานตะไทแน่นอน “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แปลว่าคนเป็นแฟนต้องขอ” “ถ้ามั่นใจว่าใช่ ก็ขอ” ...เอ๋??? “ใช่? ใช่อะไรหรอ? สรุปว่าจะขอได้ต้องใช่ก่อน แล้วขอนี่ขออะไรเนี่ย ใช่คืออันดับหนึ่ง ขอคืออันดับสอง o_O?” ฉันเรียงลำดับตามที่เฮียบอกแล้วก็ยิ่งงง ก็เฮียคินไม่ยอมขอเป็นแฟน บอกว่าแฟนไม่ต้องเป็นแล้ว แต่ว่าเดี๋ยวจะมาขอ โอ๊ะ...แต่เฮียพายบอกว่าเป็นแฟน แล้วถ้าใช่ก็ไปขอ แล้วเฮียคินเค้าบอกว่าจะมาขอเลยนะ แต่ไม่เห็นจะเคยบอกว่าใช่ก่อนอ่ะ อะไรกันล่ะเนี่ย =_=^ “เซ่อบ๊อง” ระหว่างที่ฉันหยุดคิดคำพูดซับซ้อนของคนสองอยู่พักนึง เฮียพายที่น่าจะมองอยู่ก็พูดออกมา อือ...เซ่อบ๊อง “ใช่ค่ะ บุคลิกนางเอกเรื่องนั้น” ฉันตอบกลับแบบขอไปทีแล้วคิดต่อ ก็คือว่าเฮียคินเค้าลัดขั้นตอนหรือว่ายังไงเนี่ย แล้วขอนี่มันต้องขออะไรล่ะเนี่ย ฉันจะมีสิ่งที่เขาต้องการให้มั้ย =3= “โคตรอ๊อง” “อ้าวนี่เฮีย -3-” แต่ถึงจะใช้ความคิดกับเรื่องซับซ้อนนี้อยู่ ไอ้คำว่าโคตรอ๊องของพวกเฮียๆมันต้องหมายถึงฉันแน่ ฉันเลยหันไปจิกตาแล้วเฮียพายก็ชี้มาที่จอแถมยังส่งเสียงขู่ยกใหญ่ “แก้!” “ม่ายยยย หนูหลอนไปหมดแล้ว ขอติดไว้ก่อนได้ม้ายยย >[]<” โว๊ะ ใครมันจะไปแก้ลง สมงสมองคิดแต่เรื่องขอๆใช่ๆ “เสร็จใน 5 นาทีจะบอก” เฮียพายพูดขึ้นแล้วเอนหลังไปพิงกับพนักพิงเก้าอี้แถมยังจ้องฉันตาไม่กะพริบเหมือนจับผิด แต่... “จะจริงหร๊ออออ?” “เคยหลอก?” อ่าฮะ ถ้าข้อเสนอจากศิษย์พี่จะแจ่มแมวขนาดนี้ เดี๋ยวหนูจัดให้ก็ได้! “เอาสิ๊! แต่เฮียต้องอธิบายอย่างละเอียดเลยนะ เรื่องขอๆใช่ๆอ่ะ ต้องอธิบายยาวๆเลยนะ ห้ามมาพูดสั้นๆห้วนๆโอเคมั้ยถ้าหนูแก้ได้?” “...2 นาทีผ่านไป” “เย้ยยยย หนูจะแก้เดี๋ยวนี้แหละศิษย์พี่!!!”ไม่กี่นาทีต่อมา...
“เย่! เสร็จแล้วค่ะ เนี่ย ตรงเป๊ะตามที่ต้องการเลยใช้ม้า หนูตั้งใจมากเลยนะเฮียขอบอกกกก ^_^ ว่าแต่....” Rrrrrrrrrr… ฉันแก้ Code และหันจอโน้ตบุ๊คไปให้เฮียพายดู แต่ยังไม่ทันจะทวงสัญญาที่เขาให้ไว้ เสียงเรียกเข้ามือถือฉันก็ดังขึ้นมาและใช่.... - คุณพระอาทิตย์ – หึ๊ยยย ลืมไปเลยอ่ะว่าเฮียคินบอกไว้ตอนที่มาส่งว่าจะรับตอนเที่ยงตรงไง แล้วนี่มันก็เที่ยงกว่าแล้วด้วย โอ่ยยย แล้วยังไม่ทันจะได้ฟังคำตอบยาวๆจากปากเฮียพายเลยอ่ะ งั้นไว้ก่อนละกัน - -* “เอ่อ... ถ้างั้นวันนี้หนูกลับก่อนนะคะ พอดีว่า...” ฉันไม่ได้รับสาย กดปิดเสียงและรีบเก็บกระเป๋า แล้วจังหวะที่กำลังจะก้าวขาเฮียพายก็ถามขึ้นมา “ไม่เอาคำตอบ?” งื้ออออ เอาสิ อยากฟัง แต่ไม่อยากให้เฮียคินรอเดี๋ยวจะมีคนขู่เค้าฟ่อๆ “ไว้ก่อนละกันค่ะเฮีย พอดีหนูมีนัด กว่าเฮียจะอธิบายจบคงไม่ทั....” “ขอแต่งงาน” กึก! “หาาา =[]=!” จังหวะที่ตอบเฮียและกำลังจะก้าวขาอีกครั้ง อยู่ๆเขาก็พูดออกมาสั้นๆ เล่นเอาฉันชะงักจนอ้างปากค้าง วะ...ว่าไงนะ ขอ...เอ่อคือ ขอ.... ได้ฟังเฮียพายพูดแบบนั้น เชื่อมั้ยใจฉันก็กระตุกวูบ หน้าทั้งหน้านี่ร้อนมาก ภาพเดียวในหัวที่แว๊บเข้ามาคือภาพคนที่น่าจะนั่งหน้าบูดตากแอร์รอฉันในรถอยู่ข้างล่าง แบบ...ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน -//////- “ตกใจไรวะ” “กะ...ก็ที่เฮียพูดเมื่อกี๊ ขะ...ขอ ขอคือ...ขอแต่งงานงั้นหรอ O[]O!” ฉันทวนคำพูดของเฮียออกไปเสียงสั่น บะ...บ้าหรอ บ้าไปแล้ว บ้าชัดๆ นี่เฮียคินเขา...บ้าไปแล้วมั้ง -*- “อืม ผู้หญิงที่ไหนก็รู้ทั้งนั้น -_-” เฮียพายไม่พูดเปล่า เขาส่งสายตาตำหนิเล็กๆมาให้ฉัน “ตะ...แต่หนูไม่รู้นี่นา ไม่เคยรู้มาก่อน ขอแต่งงานก็คือขอแต่งงาน มาพูดย่อๆสั้นๆว่าขอเฉยๆทำไมกัน >//////<” “แล้วไมต้องเขินขนาดนั้น” เฮียพายที่นั่งเอนหลังชิลๆเลิกคิ้วเล็กๆแล้วหันมาถาม แต่เดี๋ยวนะ ถ้าขอคือขอแต่งงาน.... “งะ...งั้นคนที่ใช่ งั้น... งั้นคนที่ใช่ก็คือ...” ฉันหยุดคิดไปนิดหน่อยแล้วพูดออกมาแบบลิ้นพันกันพัลวัน มะ...มันก็มีแค่แบบดียวเท่านั้นที่จะต้องแต่งงานกัน หรือว่า... “คนที่ใช่ก็คือคู่ชีวิตกันแบบนิจนิรันดร์ >[]<!” คำพูดลิเก๊ลิเกที่จำมาจากละครหลังข่าวถูกโพล่งออกไปจากปากฉันเสียงดัง เฮียพายพอได้ฟังก็พยักหน้าและตอบกลับมาสั้นๆ “ทำนองนั้น” “งั้นถ้าผู้ชายบอกว่าจะมาขอ ก็คือเค้าแน่ใจว่าเราคือคู่ชีวิตของเค้าแล้วงั้นหรอ โอ้วมายก๊อดดดด นี่มันอะไรกัน O[]O!” ฉันรัวคำถามพร้อมกับคุยคนเดียวออกไป เฮียพายก็แค่พยักหน้าและมองมาเท่านั้น “อืม” แต่ในทางกลับกัน ยิ่งมีศิษย์พี่มาคอนเฟิร์มและ Translate คำพูดเฮียคินให้ หัวใจฉันมันก็พองโตมากกกก พองแบบใหญ่เบ้อเร่อ ข้างในไม่ใช่แก๊สนะ มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอะไรก็ไม่รู้ งื้ออออ ไปหาเฮียคินดีกว่ารอไม่ไหววว “วี๊ดดดดดดด >[]<” พรึ่บ! “ขอบคุณนะคะเฮีย ขอบคุณมากเลย หนูรักเฮียนะจุ๊บๆ อุ๊ยเฮียมีแฟนแล้วจุ๊บไม่ได้ ขอบคุณนะงุงิ ไปก่อนนะหนูไปก่อน วันหลังจะมาใหม่ ^_^” “บาย - -*” ฉันโดดไปเกาะแขนเฮียพาย นวดๆ บ่นๆไรให้เขาฟัง แล้วรีบวิ่งลงมาข้างล่าง ก่อนจะ... เอ๊??? สีอะไรน้าาา เมื่อเช้าเขาเอาสีแดงมา แต่ตอนนี้หน้าตึกไม่ยักกะมีรถสีแดงเลยสักคัน แล้วตอนเที่ยงเฮียก็ไม่ได้บอกว่าจะใช้รถสีอะไรมารับด้วยนี่นา ฟิ้วววว....เอี๊ยดดด! “เย้ยยยย” ครืดดดด หมับ! “ชักช้า” แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก อยู่ๆรถสปอร์ตสีม่วงแปลกตาก็แล่นมาจอดตรงหน้าฉันที่กำลังมองหารถเฮียคินอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเปิดกระจกและรวบชีท แฟ้ม และกระเป๋าจากมือฉันไปพร้อมกับส่งสายให้ฉันไปขึ้นรถ หึ...ดุสุดๆ แต่ก็น่ารักจัง >/////< ตึงงง! ...จุ๊บ! “ขอโทษนะคะที่หนูมาช้า” ไม่รู้อะไรดลใจ รู้แค่มันมีความรู้สึกบางอย่างเอ่อล้นในใจ พอขึ้นรถมาฉันก็ขยับตัวไปจุ๊บแก้มเฮียคินและพูดออกไปแบบทั้งเขินทั้งอาย ส่วนเขา...ก็หันมามองนิดหน่อยด้วยสีหน้าแปลกใจ “…..” “อะไรคะ ก็อยากหอมไม่ได้รึไง แล้วทำไมไม่คาดเข็มขัดเนี่ย” พรึ่บ! หมับ! พูดจบฉันก็ยื่นแขนพร้อมกับโน้มไปดึงเข็มขัดนิรภัยฝั่งเฮียให้ จังหวะเดียวกันเขาก็คว้าร่างฉันดึงเข้าไปใกล้ จนคว้ากันท่าไหนไม่รู้ อยู่ๆฉันดันขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตักเฮียซะได้ “งื้อออ >/////<” แล้วพอนึกถึงคำพูดของเฮียพาย และได้มองหน้าเฮียคินใกล้ๆจนปลายจมูกกับริมฝีปากเราแทบจะแตะกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ใจฉันยิ่งเต้นแรงจนทำไรไม่ถูก เลยเลือกจะหลับตาปี๋ข่มความเขินเกินพิกัดของตัวเองเอาไว้ ตึกตักๆๆๆ “>_<” “หึ...ไปกินไรผิดมารึไง” ริมฝีปากของเฮียขยับแนบชิดอยู่กับริมฝีปากของฉันจนรู้สึกได้ มือหนาถูกส่งมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน ยิ่งทำใจฉันเตลิดเข้าไปใหญ่ ฟุ้บ! แล้วความเขินที่มีมากเกิน ก็ทำให้ฉันเลือกจะซุกหน้าลงบนบ่าเฮียคินก่อนจะกำเสื้อเขาแน่นแล้วส่งเสียงอู้อี้แบบลิ้นพันกันอย่างเดิมออกไป “งื้ออออ คนบ้า เฮียคินคนบ้า เค้ารู้แล้วนะ เค้ารู้แล้วด้วย เค้ารู้แล้วว่ามาขอแปลว่าอะไร >[]<” “….…..” แต่แล้วความเงียบที่เกิดขึ้นในหลังจากนั้น ก็กลับทำให้ฉันที่โพล่งออกไปเป็นฝ่ายเงยหน้า และพบว่าเฮียคินกำลังกลั้นยิ้ม เขา...กลั้นมันจนหน้าแดง แดงมาก แถมยังแกล้งทำเป็นหันไปมองอะไรนอกรถ แล้วยังมีหน้ามาทำเฉไฉ “ขอ? ขอไรหรอ เฮียจำไม่ได้ :)” “ก็....อื้อออ” แล้วพอฉันทำท่าจะตอบ ริมฝีปากของคนบางคนก็แอบมาขโมยจูบฉันไป เขาแทรกลิ้นเข้ามาไล่ต้อนลิ้นฉันแบบอมยิ้มตลอดเวลาจนฉันเขินตัวแทบแตก อยากสลบคาอกเฮียให้ได้ ไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน นะ...นี่เขา จะจูบฉันบนรถทุกคันเลยใช่มั้ย >[]< จะจุ๊บกันเช้าเย็น นี่เขา...นี่เขา... ไม่คิดว่าฉันจะเขินบ้างเลยรึไงงงงง “อื้ออออ” “กลับไปโดนชุดใหญ่ :)”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X