@ KIRA’S CONDO
ติ๊ดดดด! ฉันเปิดประตูห้องเฮียคินเข้ามาเพราะรู้รหัสแล้ว ก่อนจะเงยหน้าไปสบตาเฮียคิน เฮียแม็คและพี่ไคยะที่มองมางงๆ เพราะมันไม่ใช่เวลาเลิกเรียน อันที่จริง...วันนี้ฉันยังไม่ได้เข้าเรียนด้วยซ้ำ “หวัดดีค่ะเฮียแม็ค พี่ไคยะ” “นายหญิงทำไม....” “เลิกเร็วกว่าปกติ?” พรึ่บ! ฉันไม่ได้ตอบคำถามทั้งพี่ไคยะและเฮียคิน แต่เลือกจะพุ่งเข้าไปกอดเฮียเพราะรู้สึกโหยหาอ้อมกอดของเขาอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ มันหนักจังเลยนะวันนี้... แม้นิลลาจะฟื้นคืนสติมาแล้วเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่เธอก็ยังส่งสายอาฆาตราวกับจ้องจะทำร้ายฉันซ้ำๆมาอยู่ดี จนเฮียพายต้องให้เฮียโยแยกฉันออกมาก่อนอย่างตอนนี้ “ฮึก... สองครั้งแล้วอ่ะเฮีย เหมือนหนูเป็นตัวปัญหา หนูทำให้คนอื่นเดือดร้อนตั้งสองครั้งแล้วอ่ะ ฮือออ” แค่ได้มุดหน้าเข้ากับแผงอกกว้างฉันก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครที่อยู่ในห้องนี้ทั้งนั้น เฮียคินเองพอเห็นแบบนี้เขาก็ส่งมือมาลูบหัวฉัน แต่ก็ถามกลับมาแบบงงๆ “สองครั้ง?” “ใครทำอะไรนายหญิงครับ ผมจะไปจัดการให้” พี่ไคยะพอเห็นท่าทางของฉันเขาก็รีบก้าวเข้ามา เฮียแม็คเองจากที่นั่งเล่นเกม เขาก็ละสายตาจากมันหันมาหาฉันที่ยังพูดอู้อี้ออกไปคนเดียวด้วยความอัดอั้น “ฮึก... เฮียขา หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูไม่เคยคิดเลยนะ ไม่เคยอยากเป็นต้นเหตุให้ใครถูกทำร้ายหรือเป็นอะไรไป” “ใจเย็น เกิดไรขึ้นบอกเฮีย” “ฮึก ฮือออ หนูก็ไม่รู้ หนูก็ไม่รู้ว่าทำไมชีวิตหนูช่วงนี้ถึงมีแต่คนจ้องจะทำร้าย” พรึ่บ! “ลิซ! ใครทำไรบอกเฮีย” พอฉันพูดไปแบบนั้น เฮียคินก็ดันตัวฉันออกจากแผงอกของเขาอย่างเป็นเดือดเป็นร้อนทันควัน แล้วเขาส่งเสียงเข้มมาคาดคั้น “คะ... ฮึก คือ....” แล้วฉันก็เริ่มเล่าทุกอย่างที่เจอวันนี้ให้เฮียฟัง ทั้งเฮียแม็คและพี่ไคยะก็ตั้งใจฟังโดยไม่มีใครสนใจอย่างอื่น พวกเขาดูจดจ่อกับเรื่องที่ฉันเล่ามากๆ แถมพอได้รู้ว่านิลลาท้องก็ยังไปมองหน้ากันในแบบที่ฉันไม่เข้าใจอย่างนั้น “ท้อง?” “ค่ะ นิลลาท้อง U_U แต่ก็หน้ามืดไปหลังจากจะพุ่งมาตบหนู ผู้หญิงคนนั้นง้างมือสูงมาก ฮึก... แต่เฮียโย... เฮียโยเข้ามากันให้เลยโดนไปหนักอยู่” “จะตบเมียกูเนี่ยนะ ไอ้ไคยะมึงไป....” “ไม่เอานะ ท้องค่ะ เธอคนนั้นกำลังท้องอยู่” เพราะดูจากท่าทางแล้ว เฮียคินต้องให้พี่ไคยะไปเอาเรื่องนิลลาแน่ๆ และนั่นหมายถึงเฮียพาย และอาจจะรวมถึง Nightshade คนอื่นต้องเดือดร้อนไปด้วย “ท้องแล้วจะตบใครก็ได้รึไง?!” พอโดนฉันห้าม เฮียคินก็หัวร้อนแล้วตะคอกใส่ แต่เขาก็ยังเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ “หนูขอนะ อย่าทำอะไรนิลลาเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเฮีย...” “แล้วไง ก็ยัยนั่นทำเราร้องไห้” “ฮึก... หนูไม่ร้องแล้วก็ได้ หนูก็แค่สงสัยว่าหนูไปทำอะไรใครไว้ ชีวิตช่วงนี้ถึงดูวุ่นวาย U_U” “……” ได้ฟังฉันพูดเฮียก็เงียบ เขาถอนหายใจออกมาและดูโกรธมาก เฮียแม็คเลยทำลายความเงียบนี้ด้วยการพูดขึ้นมาอย่างปลอบใจ “ลิซ เรื่องฟาร์ดาไม่ต้องเก็บไปคิด” ฟาร์ดาก็คือรุ่นพี่เฟรย่านั่นแหละ เมื่อเช้าฉันแอบถามพี่ไคยะมา แต่จะไม่ให้คิดเลยมันก็ไม่ได้มั้ยอ่ะ เหมือนคิดมาตลอดว่าเฮียบีทเป็นตัวกาลกิณี แต่ตอนนี้ดวงดาวคงโคจรผิดที่ มันเป็นฉันแล้วใช่มั้ย เป็นฉันที่กลายเป็นตัวโชคร้ายของใครต่อใครอ่ะ U_U “เงยหน้าดิ๊ ต่อไปถ้าใครตบมาต้องตบกลับ เข้าใจมั้ย?” มือหนาของเฮียที่ทำหน้าตาน่ากลัวถูกส่งมาเชยคางฉันที่นั่งสะอื้นอยู่ข้างเขา แล้วเฮียจ้องหน้าฉันอย่างรอคำตอบ แต่จะให้ไปทำรุนแรงกับคนอื่นแบบนั้น มันก็ไม่ใช่สั่งๆ แล้วทำได้เลยรึเปล่า U_U “เฮียก็รู้ว่าหนูไม่กล้า....” พรึ่บ! แล้วมือข้างเดียวของเฮียที่เชยคางฉันก็เลื่อนไปลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนที่เขาทำหน้าจริงจังขึ้นมา “พรุ่งนี้ไปเกาะ มีอะไรหลายอย่าง...ที่เราต้องเรียนรู้ได้แล้วล่ะ”วันต่อมา....
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! “กรี๊ดดดดดดดด >_<” เสียงลั่นไกดังสนั่นไปพร้อมกับเสียงกรี๊ดและมือที่สั่นสุดๆของฉัน ด้านหลังฉันเต็มไปด้วยประชากรบนเกาะ ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆที่ยืนมองกันอย่างลุ้นๆ และใช่... กระสุนที่ยิงสะเปะสะปะออกไป คือการลั่นไกของฉันที่ถูกกดดันจากเฮียคิน ร่างสูงในเสื้อฮาวายชิคๆกับแว่นกันแดดที่เกี่ยวคอเสื้อไว้ แถมเขายืนดูดน้ำมะพร้าวสดๆจากลูกหน้าตาเฉย โดยสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ “ยิงวนไป มันต้องโดนสักนัด” “แงงงง ไม่เอาแล้วได้มั้ย หนูปวดหูจะตายอ่ะ >[]<” บ้า! เฮียบ้าไปแล้ว เขาพาฉันมาที่นี่ไอ้เราก็คิดว่าจะมาเที่ยวพักสมองสักนิด แต่เปล่าเลย ปืนที่สั่นอยู่ตอนนี้ถูกยัดใส่มือฉันตั้งแต่ก้าวเท้าจากฮอลงบนหาดทราย “ยิงไป ไม่มีใครตายหรอก อย่างมากก็ปลาโลมา” “แต่ปลาโลมามันก็มีชีวิตนะคะ....” “ยิง!” “อร๊ายยย!” ปัง! เสียงตะคอกแบบฮาร์ดคอร์ไปไหนไม่รู้ของเฮียทำให้ปืนในมือฉันลั่นด้วยความตกใจ นะ...นี่มันเป็น.... นี่มันเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมากเกินไปแล้วนะ TT^TT “มะ...ไม่เอาแล้ว เฮียคินหนูกลัว ไม่เอาแล้วค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับง้างมือจะเขวี้ยงปืนทิ้ง แล้วเฮียก็ส่งลูกมะพร้าวให้พี่ไคยะ ก่อนจะเดินเข้ามาจับมือฉันนิ่งๆ หมับ! “เฮียขาพอแล้ว....หนูกลัว หนูกลัวจริงๆ >_<” ฉันพูดออกไปเสียงสั่น ถ้าให้เดาหน้าฉันตอนนี้มันต้องซีดมากเลย ฉันมีอาวุธที่ฆ่าคนได้อยู่ในมือ อาวุธที่เกิดมาไม่เคยจับเลยสักครั้งในชีวิต “อืม” แล้วเฮียก็แค่รับฟังแต่ไม่ใจอ่อนให้เลยสักนิด เขาพยักหน้าให้ก็จริงแต่ก็ตรงเข้ามายืนซ้อนตัวฉันจากข้างหลัง และคว้ามือฉันที่ถือปืนยกขึ้น เล็งตรงไปที่เป้าข้างหน้านิ่งๆ แบบไม่มีท่าทีหวาดหวั่น พรึ่บ! แล้วเฮียก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความจริงจังราวกับต้องการให้ฉันตั้งสติดูใหม่อีกครั้ง “สมาธิ...รวิษฎา มองตรงไปข้างหน้า มือสองข้างจับปืนให้มั่น แขนเหยียดตรง ความกว้างขาเสมอกับไหล่ รากฐานที่มั่นคงจะทำให้เราไม่เสียหลักง่ายๆ” ในทุกคำที่เขาพูดมา มือและขาของเฮียก็จัดท่าทางที่ถูกต้องให้ฉันด้วยความแผ่วเบาไปพร้อมกัน สองมือของฉันจับปืนแน่น แขนเหยียดตรงไปข้างหน้าตามที่เขาสั่ง โดยมีสองมือของเฮียวางทาบไว้บนมือของฉัน “เวลาลั่นไกถ้ามือไม่นิ่งปืนจะสะบัด ฟังเฮียนะลิซ... เฮียอยู่ตรงนี้ จะไม่ไปไหนทั้งนั้น ขจัดความกลัวทั้งหมดออกไปดูสักครั้ง แล้วค่อยๆเหนี่ยวไกช้าๆ อย่าไปตื่นเต้นกับมัน...” “ตะ...แต่หนูพยายามแล้ว มันก็ยังไม่ได้อยู่ดี” “เพราะเราใจร้อน การจะยิงให้แม่น เราต้องประณีตและใจเย็นเท่านั้น ถ้ายิงด้วยอารมณ์ไม่คงที่ ออกแรงเหนี่ยวไกตามอารมณ์หนักหน่วงที่มี ปืนในมือมันจะสั่นแบบนี้!” พรึ่บ! ปัง! พูดจบเฮียคินก็สอดนิ้วของเขาเข้ามาตรงไกปืนเร็วมาก แล้วลั่นไกอย่างแรงแบบไม่ทันให้ฉันตั้งตัว จนปืนในมือฉันมันลั่นขึ้นมาอีกครั้ง “อร๊ายยย >[]< เฮียขาหนูกลั.....!” “จำไว้! เมื่อไหร่ที่ปากกระบอกปืนสะบัดไปไม่รู้ทิศทางอย่างที่เราทำก่อนหน้านี้ เมื่อนั้นจะอันตรายกับคนรอบข้าง เฮียถึงไม่ให้ใคร...เข้าใกล้เราตอนยิง เข้าใจมั้ย?!” ปัง! ....ปัง! ปัง! “กรี๊ดดดดดดดดดด” ฉันยังพูดไม่ทันจบเฮียคินก็ส่งเสียงเข้มออกมาแล้วลั่นไกนัดแรกก่อนจะเอามือออกอย่างรวดเร็ว ส่วนเสียงปืนอีกสองนัดมันถูกลั่นออกไปด้วยความตกใจของฉัน เพราะทันทีที่เฮียเอามือออก ปืนมันก็กลับมาสะบัดไม่รู้ทิศทางอีกครั้ง “มะ...ไม่! ไม่เอา! หนูไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้วจริงๆ อย่าแกล้งหนูแบบนี้ ฮึก... ฮือออ” เพราะความตกใจที่ตัวเองกำลังถืออาวุธอันตราย แถมมันยังลั่นออกไปในแบบที่ฉันไม่มีสติมากพอจะควบคุมได้ ทำให้ฉันนึกกลัวจนถึงกับร้องไห้ พรึ่บ! แต่แค่เสี้ยวนาทีเท่านั้น เฮียคินก็เข้ามาคว้ามือฉัน มือข้างนึงของเขาเลื่อนมาจับหัวฉันที่กำลังร้องไห้ไปแนบอกเบาๆ แต่ก็ยังไม่ยอมเอามันออกไปสักที ไอ้อาวุธร้ายที่ทำให้มือฉันสั่นไม่หยุดตอนนี้ “ชู่ววว Calm dowm my queen… ที่จริงมันก็ไม่ได้ยาก ถ้าเราจะลองตั้งใจอีกสักที” “ไม่ค่ะ หนูจะไม่จับมัน หนูสาบานว่าจะไม่แตะต้องมันอีก >_<” ถึงจะได้ฟังคำปลอบที่แสนอ่อนโยน แต่ฉันพยายามสะบัดมันออกไปให้ได้ ปืนในมือที่ถูกเฮียคินล็อคมันกับมือฉันไว้ “ไม่ได้จริงๆ มันเป็นอาวุธเบสิคที่เราทุกคนต้องมี” “...ทุกคน?” “ลองใหม่อีกที” แม้จะนึกแปลกใจนสิ่งที่เฮียพูดจนฉันเงยหน้าขึ้นไป แต่เฮียก็ตัดบทและกระชับปืนในมือฉันใหม่ หมับ! “งื้ออออ >_< ถ้าเฮียอยากยิงก็ยิงไปคนเดียวเลย ฮึก... หนูจะไม่มองอีกแล้ว จะหลับตาให้มืดสนิท >_<” “ลืมตาลิซ” “ไม่ หนูจะไม่....” “ลืมเดี๋ยวนี้!” “O_O” อึก.... น้ำเสียงเด็ดขาดของเฮียทำฉันสะดุ้งจนตาเบิกโพลงขึ้นมา และแอบหันไปมองหน้าเฮียที่ดูจริงจังมากๆ เขา...ดูเด็ดขาดกว่าเมื่อกี๊ “Just Locked and loaded honey….” เสียงเย็นเฉียบมาพร้อมกับใบหน้าของเฮียคินที่เลื่อนมาดันหน้าฉันให้ขยับไปมองเป้าจนได้มุมที่เหมาะกำลังดี ระดับสายตาของฉันมองเห็นเป้าที่อยู่ไกลๆแบบเลือนลาง แต่ก็พอมองออกว่าเป้านั้นอยู่ตรงศูนย์กลางของปืนพอดี แล้วก็เฮียคินก็แสยะยิ้ม “มองไปข้างหน้ารวิษฎา ศัตรูของเราอยู่ข้างหน้า กะระยะให้พอดี ถ้ามั่นใจแล้วก็ Check mate ทันที!” ปัง! “งื้ออออ >_<” อีกครั้งทีเฮียสอดนิ้วตัวเองเข้ามาลั่นไก ส่วนฉันได้ยินเสียงปืนกี่ทีมันก็ไม่ชินจนต้องหลับตาปี๋ แล้วเฮียก็ยอมดึงปืนออกจากมือฉันได้สักที “อ้าว ยิงได้นัดนึงแล้วนี่ เก่งจริงๆ :)” ฟรืดดดด พูดจบเฮียก็กดจมูกโด่งๆของตัวเองลงมาบนแก้มที่เปียกไปด้วยน้ำตาของฉัน แล้วเขาก็ยังมีหน้ามายิ้มอีก แต่พอหันไปมองเป้า ผลมันก็ออกมาดีจริงๆ กระสุนนัดนั้นทะลุไปตรงกลางเป้าอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่มันใช่ฝีมือฉันที่ไหนกัน นั่นมันฝีมือเขาไม่ใช่รึไงเล่า U_Uไม่กี่นาทีต่อมา...
“ซ้าย... ขาซ้ายก้าวไปข้างหน้า จับด้ามหรือปลายก็ได้ เหยียดแขนให้ตรง หัวไหล่กับข้อศอกอยู่ในแนวขนานกับพื้น ดึงแขนถอยกลับมา แล้วเขวี้ยงมีดออกไปข้างหน้า!” เสียงจริงจังแบบไม่มีใจอ่อนของเฮียคินดังขึ้นซ้ำๆในด่านใหม่ที่ฉันต้องฝึกปามีด หลังจากช่วงเช้าแทบจะฆ่าคนทั้งเกาะตาย คือฉันฟังเฮียพูดนะ แต่ว่า... “…….” “ไม่เขวี้ยงอ่ะ?” เฮียคินเลิกคิ้วนิดหน่อยพอเห็นว่าฉันยืนนิ่งและไม่มีทีท่าจะง้างมือปา ก็มันจะบอกยังไงดีล่ะ คือ.... “...ถามจริงๆนะคะ นี่เฮียไม่ได้ขโมยมีดทำกับข้าวของใครมาใช่ป่าว ทำไมคนมามุงดูหนูเยอะกว่าเมื่อกี๊อีกอ่ะ” ใช่... เรียกว่าน่าจะมากันทั้งเกาะแล้ว รอบข้างฉันมีแต่ใครนักไม่รู้ แล้วสายตาที่กดดันก็ทำให้ฉันประหม่าน่าดู - -* “หึ... กำลังใจทั้งนั้นน่า ท่องไว้ เพื่อปาโป่ง มีตุ๊กตาตัวใหญ่เป็นของรางวัล แถมไอ้นี่น่ะ...” หมับ! ฉึก! “สะ...สุดยอด O[]O” เฮียคินพูดขำๆแล้วหยิบมีดจากมือฉันไป ก่อนจะปากลับหลังโดยไม่หันไปมองด้วยซ้ำ แล้วมันก็เข้ากลางเป้าพอดีเป๊ะ ก่อนที่เขาจะพูดต่อ “มีด…เสียงมันไม่ดัง ถ้าเป็นอาวุธที่ไม่สะบัด มือเราไม่น่าจะสั่น” “อื้อ (- -)(_ _)” ก็จริงของเฮียนะ อย่างมากมันก็มีแค่เสียงตอนนี้มีดปักลงบนเป้า หรือวัตถุต่างๆเท่านั้น แล้วเฮียก็ส่งมีดเล่มใหม่มาให้ฉัน “เล็งให้ดี กะระยะให้พอดี ตรรกะเดียวกั....” ฉึก! “เฮ้!!!!” หืม??? เฮียคินยังไม่ทันพูดจบ ฉันก็ลองปามีดออกไปแบบงงๆ แล้วมันก็บังเอิญจนฉันอ้าปากหวอไปเลย “อุ๊ยมันโดนตรงกลางพอดีเลยหรอ =[]=!” “โหนายหญิง นี่ฟลุ๊คหรือแม่นจริง!” ลาซาที่ยืนอยู่ไม่ไกลตาค้างไม่ต่างจากฉันเลย คนรอบข้างก็ส่งเสียงเชียร์กันใหญ่ “เอาอีกๆ นายหญิงเอาอีกๆๆๆ” “นี่เฮียล็อคเป้าให้หนูรึป่าวคะเนี่ย o_O? หรือว่ามีดนี่มันมีแม่เหล็กอ่ะถามจริงๆ หรือว่าพี่ไคยะ พี่ไคยะไม่อยากให้เฮียดุหนูใช่มะ...” “ขออีกที” ระหว่างที่ฉันงงๆกับความสำเร็จแบบบังเอิญของตัวเอง เฮียคินก็ส่งมีดเล่มใหม่มาให้ เขาดูแปลกใจนิดๆที่ฉันทำได้ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรเท่าไหร่ “อื้อ” ฉันรับมีดจากเฮียและมองมันอย่างพิจารณา ต้องเป็นพี่ไคยะ พี่ไคยะแน่ๆที่ช่วยหนูอ่ะ เกิดมาทั้งชีวิตยังไม่เคยปาโป่งโดนสักที แล้วทำไมอยู่ถึงจะปามีด.... ฉึก! มีดเล่มใหม่ในมือฉันถูกปาออกไปด้วยความรู้สึกสงสัย และต้องยิ่งสงสัยหนักเข้าไปใหญ่ เพราะฉันไม่ได้พยายามอะไรเลย แค่ปาออกไปตามที่เฮียสอนเฉยๆ มีดมันก็ปักลงข้างกันกับมีดอันเดิมเฉยเลย! “เฮ้!!! เอาอีกๆๆ” “โอ๊ะ =[]=! โอ๊ะพี่ไคยะล็อคเป้าแหงๆ เป้านี้ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ” พรึ่บ! “อีกที” เพราะสงสัยว่าทำไมตัวเองปาเข้ากลางเป้าทุกที ฉันเลยจะเดินไปดูใกล้ๆ แต่ก็โดนเฮียยื่นมีดเล่มสุดท้ายในมือเขามาให้ แล้วเฮียก็เดินดุ่มๆไปยืนข้างเป้า ไม่ใช่ข้างสิ ครึ่งของตัวเขาบังเป้าไปครึ่งเป้า คอของเฮียอยู่ในระนาบที่ขนานกันกับมีดเล่มล่าสุดที่ฉันปาออกไปเมื่อกี๊ ระหว่างคอเฮียกับมีดเล่มนั้นมีระยะห่างประมาณคืบนึงพอดี “...เอาตรงนี้” นิ้วมือเรียวยาวของเฮียชี้ไปตรงที่ว่างข้างคอเขา ฉันเลยพยักหน้าและตั้งท่าพร้อมปามันออกไป แต่ก็ใช้สมาธิพอควรเพราะครั้งนี้คงไม่น่าจะฟลุ๊คแบบเมื่อกี๊ “นี่... เฮียก็ถอยออกไปสักทีสิคะ” พอเริ่มกะระยะได้ ฉันเลยพูดออกไปเพราะเฮียยังเอาแต่ยืนเฉยท่ามกลางความเงียบ ทุกๆคนจ้องมาที่ฉันและเฮียสลับกันอย่างลุ้นๆ “ไม่อ่ะ ตรงนี้อากาศดี” เอ๊??? “ตรงนั้นก็ดีเหมือนกันน่า เฮียไปยืนตรงนู้นสิ หนูจะได้ปาสักที” “ไม่ ปามาเลย จะยืนตรงนี้” บะ...บ้าหรอ นี่เขาพูดอะไรออกมาเนี่ย ขี้แกล้งซะจริงๆ แต่แววตาดูไม่แกล้งเลยแฮะ ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกว่า.... แววตาเฮียดู...เอาจริง “ไม่เอานะ... อันตราย” “ลิซ่า ปาเดี๋ยวนี้” นั่นไง! อะไรเข้าสิงเขาเนี่ย เขาจะมายืนขวางเป้าเพื่อ??? “ไม่! อยากให้หนูฆ่าเฮียรึไง” “รวิษฎา....เดี๋ยวนี้!” หยึ๋ยยย -*- เฮียขู่อีกแล้ว จะขู่กันไปถึงเมื่อไหร่ “กะ...ก็ได้” ก็ได้บ้าอะไรเล่า ถ้าฉันพลาดขึ้นมาจะว่าไง ถ้าพลาดทำมีดปักคอเขา... “ต่อให้พลาดมันก็ไม่ตายหรอก ไอ้คินมันไวกว่าที่คิด” คงเพราะเห็นฉันลังเล เฮียแม็คที่ยืนอยู่ข้างหลังเลยพูดออกมาเบาๆ ฉันเลยพยักหน้าออกไปแม้จะหนักใจ และ.... ฉึก! “…...” แค่มีดหลุดจากมือ ฉันก็หลับตาปี๋ ในขณะที่ห้วงวินาทีนึงทุกคนเงียบมาก เงียบจนกลายเป็นฉันเองที่หวีดร้องออกไปดังลั่น! “กรี๊ดดดดด >_< เฮียเป็นไรมั้ย เฮียคิน เฮียเจ็บตรงไหนมั้ย ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลที >[]<” แปะๆๆๆ แล้วอยู่ๆรอบข้างก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นกันเกรียวกราว พอลืมตาขึ้นไปฉันก็เห็นเฮียคินยืนยิ้มแบบกว้างมาก มีดที่ฉันปาไปก็ปักอยู่ข้างๆคอเขา เฮียแม็คนี่ถึงกับอึ้งไปเลย “เชี่ย… นี่มันอานิสงส์แห่งการเข้าครัวของหนึ่งสตรี” หืม อะไรคือ หนึ่ง...สตรี? แล้วพี่ไคยะก็เดินเข้ามาหาฉัน แถมยังก้มหัวให้กันหน้าตาเฉย “โอ้โห นายหญิงสุดยอดไปเลย โปรดรับผมเป็นศิษย์ด้วยครับ!!!” อะ...อะไรกันเนี่ย “สุดยอดตรงไหนอ่ะคะ ก็พี่ไคยะล็อคเป้าให้หนูนี่” แล้วระหว่างที่ฉันกำลังสับสนกับคนรอบตัวที่มองมาอย่างภูมิใจแปลกๆ เฮียคินก็เดินมากอดคอ แล้วใช้มือยีผมฉันเบาๆอย่างกับกำลังเอ็นดูกันซะจริง ง่าาา ทำไมทุกคนดู...ผิดปกติ o_O??? “วันนี้พอแค่นี้ :)” “อ้าว เดี๋ยวสิคะ หนูเพิ่งจะปาไปได้แค่สามที” แต่เฮียคินยังไม่ทันจะตอบ เฮียแม็คก็เดินอมยิ้มมาตบบ่าเขาเบาๆสองที ตุ้บ! ตุ้บ! “RIP เลยมึง หนึ่งสตรีน่ากลัวจริงๆ ฮ่ะๆ” แล้วอยู่ๆทุกคนก็ลุกขึ้นแยกย้ายเลยอ่ะ เอ้า! “เดี๋ยวสิ แล้วทุกคนจะรีบไปไหนกันคะเนี่ย หนูอยากปาอีก -3-” “หึ....” ได้ฟังฉันพูดแบบนั้นเฮียคินก็เอาแต่ยืนขำ เขาโยกหัวฉันไปมา และมองมาแบบยิ้มๆอะไรคนเดียวไม่รู้ “โอ๊ะ! ขอลองอีกทีดิ” เพราะมันยังคาใจ ฉันเดินย้อนกลับไปดึงมีดบนเป้าและถอยกลับมาก่อนจะปามันออกไปอีก ฉึก! และแม่เจ้า มันเข้ากลางเป้าอีกแล้วแบบพอดี๊พอดี =_=^ “เนี่ย พี่ไคยะล็อคเป้าแน่ๆเลย ไหนหนูไปดูซิ -3-” แล้วระหว่างที่ฉันกำลังสาละวนกับการหาความผิดปกติของเป้าที่ถ้าให้เดาพี่ไคยะต้องติดแม่เหล็กให้มันดูดมีดมาปักตรงนี้แน่ๆ เฮียคินก็เอาแต่มองมายิ้มๆ เขายิ้มจนขำ ขำจนฉันคิดว่าเฮียน่าจะเป็นบ้าไปแล้วซะอีกอ่ะ - -*หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X