ไม่กี่นาทีต่อมา...
‘อย่ามาพูดชื่อไอ้เวรนั่นที่นี่ ถ้าไม่อยากตะ....!’ เอ๋? ตะ... อะไรกันนะ ฉันคิดไม่ตกระหว่างที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างๆคุณป้า ซึ่งก็ตรงข้ามกับเฮียคินที่มองมานิ่งๆ เหมือนกำลังค้างคาเพราะก่อนหน้านี้โดนคุณป้ามาขัดไว้อ่ะ แต่ทำหน้าดุขนาดนั้นหรือเฮียคินกำลังจะพูดคำว่า ตะ...อะ...อาย หยึ๋ยยยย =[]=! ตาย! ตายงั้นหรอ?! มะ...ไม่จริงน่า แล้วพอไปนึกถึงคำพูดของลาซาประกอบกันเข้าไปก็... ‘เป็นเมียนายห้ามหว่านเสน่ห์ เดี๋ยวนายก็ฆ่าตายหรอก ไม่กลัวรึไง’ หาาาาา =[]=! ฉันไม่ได้โฟกัสคำว่าเมียนายหรอกนะ แต่โฟกัสคำว่าไม่กลัวนายฆ่าหรอมากกว่า ถะ...แถมเกาะนี้ถ้าเป็นอย่างที่เฮียคินบอก มันก็ลึกลับซับซ้อน ต้องร่ายคาถาแหวกน้ำถึงจะเจอถ้ำชาละวันอ่ะ แล้วคนรอบข้างก็มีแต่คนใส่ชุดดำเหมือนถุงขยะ เอ้ยนักฆ่าด้วยนะ!!! โว้ววว O[]O! แล้วยังมีแม่หมอที่คอย support เวลาต้องการกำจัดศัตรูด้วยวิธีเล่นของไปอีก นี่อย่าบอกนะว่า.... O_O “อ้าว คุณลิซ่า ทานน้อยจังเลย เพลียแดดรึเปล่าคะ” หยึ๋ยยยย คุณป้าผู้ใจดีหันมาพูดกับฉันอ่ะ หระ...หรือว่าเค้าจะไหวตัวทัน ที่ฉันดันไปรู้ความลับของพวกเขาซะก่อน แต่ว่า...ยังมีอีกคนนี่นา ที่เฮียคินบอกว่ายังมีคนนอกอีกคนที่มีโอกาสได้เข้ามาที่เกาะนี้อ่ะ อ่าฮะ รู้แล้วล่ะ! “อ๋อ ปะ..เปล่าค่ะคุณป้า คือลิซ... เอ่อ” ไม่เอาอย่าพูดชื่อ คุณป้าเค้ายังไม่รู้ว่าเราชื่ออะไร ถ้ารู้เดี๋ยวให้แม่หมอมาเล่นของใส่ ไม่ได้ๆ กันไว้ ยังไงก็กันไว้ก่อน ต้องเปลี่ยนสรรพนามใหม่! “คือ....หนู เอ่อคือ หนูว่าหนูไปช่วยพี่สาวคนนั้นเสิร์ฟของหวานดีกว่า ขอตัวนะคะ เชิญทุกท่านทานกันไปก่อน แหะๆ” ครืดดดด พูดจบฉันก็ลุกพรวดจากโต๊ะเดินลิ่วๆไปตั้งหลักในครัวที่มีแฟนเฮียแม็คกำลังหันหลังทำอะไรบางอย่างอย่างตั้งใจ แต่ก็ดูเลิ่กลั่กพิกล... หืม...ไอ้ผงขาวๆที่กำลังพี่สาวคนนั้นกำลังเทใส่แก้วน้ำปั่นนั่นมันอะไรกัน นะ แล้วทำไมถึงได้ลุกลี้ลุกลนเหมือนคนทำผิด “นั่นอะไรหรอคะ?!” “O_O” พรึ่บ! พอฉันปากไวถามไปอย่างที่คิด พี่สาวก็ถึงกับสะดุ้งโหยง ตาเบิกโพลงและหันมาหาฉันด้วยสีหน้าเหมือนเห็นผีตายโหง =[]=! อุ่ย -*- น่ากลัวไป ต่อไปไม่พูดแล้วดีกว่าแค่คิดก็สยอง ก็หนูเห็นคำพูดมันคล้องจอง ฮ่ะๆ “คะ...คอลลาเจนน่ะ” ปากพี่สาวพูดไป มือก็แทบจะพันกันพยายามยัดซองนั่นใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองท่ามกลางสายตาของฉันที่กำลังจ้องมอง “หืม แล้วทำไมใส่แค่แก้วเดียวเองล่ะคะ ใส่ทุกแก้วเลยมั้ยคะมาหนูช่วย แก้วนี้ของ....” “เมล่อนปั่นของคุณคิระได้รึยังคะคุณฟาเดีย” แล้วจังหวะที่ฉันกำลังจะอาสาเทคอลลาเจนพวกนั้นใส่แก้วให้ คนของคุณป้าก็เดินเข้ามาถาม หืม...เมล่อนปั่นของเฮียคินหรอ อ๋อ...เมล่อน เฮียชอบเมล่อนนี่เอง “อื้ม เอาไปสิ” พี่สาวตรงหน้าหันมองฉันที่กำลังสนใจคอลลาเจนพวกนั้นแล้วรีบหยิบมันส่งให้คนของคุณป้าทันที ก่อนจะหันมาทำท่าเหมือนพยายามอธิบาย “หมอนั่นดูแลตัวเองมากก็เลย....” “มิน่า ผิวพรรณถึงได้ดูคุณหนูมากเว่อร์ ไม่รู้จะสวยรักงามไปไหน” “…..” “เอ่อ แหะๆ ไม่มีอะไรค่ะ มาค่ะหนูช่วย ของคนอื่นๆก็เมล่อนเหมือนกันมั้ยคะ” พอฉันบ่นอุบอิบพี่สาวก็เงียบไป ฉันเลยคว้าเครื่องปั่นตั้งท่าจะช่วยแต่ก็โดนขัดไว้ “ไม่หรอก มีแค่หมอนั่นคนเดียวที่พิเศษกว่าใครเค้าน่ะ” อ่าฮะ ท่าทางจะพิเศษมาก พี่สาวถึงพูดไปยิ้มไปอย่างพอใจอ่ะนะ แต่เรื่องเยอะกว่าใครเค้าตลอดเลยนะเนี่ยตาลุงนี่ อ้อ เกือบลืม... “หนู...ชื่อลิซ่านะคะ แล้วพี่สาวชื่อ...” “จะรู้ไปทำไมล่ะ” “คะ...คือว่า ดีกันเถอะนะคะ เมื่อเช้าหนูขอโทษค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆที่หนูไปชนเฮียแม็คเค้าน่ะค่ะ - -*” หยึ๋ยยย อุตส่าห์ถามดีๆแล้วนะเนี่ย จะหาเรื่องซวยอีกแล้วสิ - -* “ไปรู้จักกันได้ยังไง เธอกับหมอนั่น” แล้วท่าทางตกใจเมื่อกี๊ของพี่สาวก็หายไปเลย กลายเป็นหันมาคาดคั้นฉันแทนด้วยสีหน้าที่ดู...เย่อหยิ่ง โอ้....ไม่นะ เราพูดถึงคนอื่นแบบนั้นได้ยัง ไม่จริงงงง “เอ่อคือ...หมายถึงหนูกับเฮียแม็...” “กับคิระ” หืม...ถ้ากับลุงนั่นนี่เล่ายาวเลย ขอสรุปให้แล้วกันค่ะ “ถ้าเป็นเฮียคินเรารู้จักกันโดยบังเอิญค่ะ แล้วที่บอกว่าพี่สาวกุ๊กกิ๊กกับเฮียแม็คอยู่ เป็นเรื่องจริงหรอคะ” อะแฮ่ม! ขออนุญาตถามนิสสส เค้าจะหาว่าฉันสู่รู้มั้ยเนี่ย ก็ที่จริงมันแอบคาใจในความสัมพันธ์ประชดประชันของเฮียคินกับเฮียแม็คอ่ะ >_< “ก็ตามนั้น” “มิน่า ถึงไม่ค่อยลงรอยกับเฮียคินเท่าไหร่สินะคะ แต่พี่สาวก็ยังมีน้ำใจ ปั่นน้ำเมล่อนให้เฮียคินด้วยนี่นา ^_^” นี่แหละน้า... รักเฮียแม็คเหมือนกัน ก็เลยมีน้ำใจต่อกันใช่ม้า ^^ “หึ... นั่นสินะ ถ้ารู้เมื่อไหร่หมอนั่นคงซาบซึ้งใจน่าดูเลยล่ะ :)” “งั้นเดี๋ยวหนูไปบอกให้มั้ยคะ” ก็พอเห็นว่าเรื่องดีๆควรต้องเปิดเผย ฉันเลยเลิกสนใจเมล่อนกับเครื่องปั่นทำท่าจะเดินไปบอก แต่พี่สาวก็เข้ามาคว้าแขนไว้อย่างแรงเลย หมับ! “โอ๊ย!” “โทษที แต่ช่วยยกน้ำหวานถาดนี้ไปให้พวกเด็กๆหน่อยสิ ฉันจะไปห้องน้ำน่ะ” ง่าาา มันแรงจริงๆนะเนี่ย เล็บยาวๆนั่นจิกเข้ามาที่แขนฉัน แถมมือเรียวๆนั่นยังกำแขนฉันซะแน่นเลย T^T แต่เพิ่งสังเกตแฮะว่ามีแก้วน้ำหวานวางอยู่เต็มเลยนี่นา “อะ...อื้ม ได้ค่ะ งั้นหนูยกไปเลยแล้วกันนะคะ แต่ว่า...เราดีกันแล้วนะ นะคะพี่สาว ^_^” “อืม” ก็นะ... เจ็บนิดหน่อยแต่ได้เพื่อนเพิ่มมาคนก็โอเคนะ “มาแล้วจ้าเด็กๆ น้ำหวานเย็นๆชื่นใจน้า” เพราะหาเรื่องชิ่งจากโต๊ะอาหารอยู่แล้ว ฉันเลยเดินยกถาดน้ำหวานมาให้เด็กๆที่กำลังตื่นเต้นกับของบริจาคกองใหญ่ แล้วคนอื่นๆก็มาหยิบมันไปยกเว้น... “อ้าวลาซา ไม่เอาน้ำหวานหรอ” “.....” “ไม่เอาหรอกค่ะพี่ลิซ่า สงสัยจะรอกินน้ำปั่นหอมๆของพี่คิระค่ะ” ลาซายังไม่ทันตอบ สาวน้อยคนเดิมที่ฉันมโนว่าโตไปสองคนนี้ต้องกิ๊กกันแน่ก็ตอบมา “ก็รอกินกันทุกคน ยังจะมาว่า - -*” เอ๋...รอน้ำปั่นหอมๆของเฮียกันทุกคนหรอ หรือว่า… “เด็กๆชอบกินเมล่อนปั่นหรอ เดี๋ยวพี่ทำให้เอามะ ^_^” “อะ...” “ไม่เอาหรอกนายหญิง ทำเยอะมันเปลือง แม่เฒ่าบอกว่าเราต้องประหยัดนะ…...ครับ -*-” เด็กคนอื่นๆทำหน้าดีใจพอได้ฟัง แต่ลาซาที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกกลับมาดับฝันทุกคนซะงั้น แต่แม่เฒ่าที่ว่านี่.... “เออนี่ลาซา เฮียคินบอกพี่ว่าที่นี่มีคนที่ดูดวงแม่นมากๆ หน้าบ้านมี Dream Catcher เยอะๆ อยู่บ้านหลังสุดท้ายในป่า...” “อะไรเช้อๆเยอะๆนะนาย - -*” โอ๊ะ ลืมไป น้องยังเด็กมากๆ สงสัยจะไม่รู้จัก “Dream Catcher อ่ะ เอ่อหมายถึง ตาข่าย...” “อ๋อ! ตาข่ายดักปลา ถ้ามีเยอะๆหรือว่าพี่ลิซ่าจะหมายถึงบ้านแม่เฒ่าซิลวา” สาวน้อยคนเดิมที่ฉันยกให้เพื่อนสนิทของลาซาพูดขึ้นมา แม่เฒ่าซิลวางั้นหรอ... ชื่อดูคลังๆพิกล ถ้างั้นก็คง.... “น่าจะใช่นะ คนที่เค้า...มองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า” “จนได้สินะ” แล้วยังไม่ทันที่ลาซาหรือสาวน้อยคนนั้นจะตอบกลับมา เฮียคินที่มายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ก็พูดขึ้น ก่อนจะยื่นแก้วเมล่อนปั่นที่พี่ฟาเดียเป็นคนทำผ่านหน้าฉันไปให้เด็กพวกนั้น “เย่! น้ำเมล่อนมาแล้วววว” “แลกกันนะนาย” พอเพื่อนๆได้น้ำเมล่อนปั่นไป ลาซาก็ยื่นลูกมะพร้าวที่เตรียมไว้มาให้เฮียคิน แต่.... “อะไรจนได้หรอคะ?” ฉันหันไปพูดกับเขาที่มองมาเฉยๆแต่ไม่ตอบอะไร แถมยังตั้งท่าจะเดินหนี ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เอ้า.... “ง่าาา เฮียคินงอนหรอ หนูอยากไปบ้านแม่เฒ่าคนนั้นอ่ะ พาหนูไปหน่อยได้รึเปล่าาาา” โอ่ย! ฉันไม่ใช่หรอต้องเป็นคนโกรธ ก็เฮียมาคว้าแขนฉันตั้งแรง แต่เฮียก็เดินลิ่วๆ กินน้ำมะพร้าวชิลๆ โว๊ะ! “ตามใจ ถ้าเรื่องมากหนูจะไม่ง้อเล่า ให้ลาซาพาไปก็ได้ เล่นตัวเยอะนักเค้าโมโห -3-” พูดจบฉันก็ตั้งท่าจะเดินวนกลับมาหาเด็กเหมือนเดิม ก็ดีเหมือนกัน ฉันยังไม่รู้ว่าทุกคนที่นี่เป็นอะไรกันแน่ อยู่กับเด็กๆน่าจะปลอดภัยมากกว่า แล้วเฮียคินก็... หมับ! “อยากไปก็เล่ามา... เรื่องมัน” ฮะ? มันไหนอ่ะ มันที่ว่าคือรุ่นพี่เตโชอ่ะนะ แต่ว่าเมื่อกี๊.... “ไม่เล่าก็ไม่พาไป” “เล่าค่ะ เล่าหมดเลย ถ้าหมายถึงรุ่นพี่เตโช Nightshade ละก็... ป่ะ ไปหาที่นั่งเลยนะ มันยาวมาก คนอะไรเท่ระเบิดระเบ้อไปเลยค่าาา” โอ๊ยสบายมาก ถ้าให้เล่าเรื่องเนื้อคู่นี่พักยกเรื่องแปลกๆของทุกคนไปได้เลย จะบอกให้นะ ฉันน่ะ ใช้บุญบารมีของเฮียพายไปตามเก็บข้อมูลต่างๆของรุ่นพี่เตโชมาครบมาก ชนิดที่ว่า.... “เอาแต่สาระนะ ไม่ต้องอวยมันล่ะ” “ได้ค่าาา จะพยายามนะคะ ^_^” เพล้งงงงงง!!! แล้วจังหวะที่ฉันหันไปยืนคุยกับเฮียคิน ซึ่งก็ไม่ได้ห่างจากเด็กๆมาก อยู่ๆก็มีเสียงแก้วแตกดังขึ้นมาจนเราสองคนหันไปพร้อมกัน ภาพที่เห็นคือพี่ฟาเดียกำลังจะชากแขนข้างนึงของลาซา ซึ่งเป็นเหตุให้แก้วเมล่อนปั่นที่อยู่ในมือลาซาอีกข้างตกแตก ก่อนที่เธอจะหันมาหาเรา และเดินออกไปแบบไม่แคร์สายตาเด็กๆที่มองตามไปด้วยท่าทางเสียดาย นั่นทำให้เฮียคินถึงกับหัวเสีย จิ๊! “ยัยนั่น.....เป็นบ้าไปแล้วรึไง?!”หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X