Share

MYZTERY HORO ::: EP.59

Author: Aliyah.P
last update Last Updated: 2025-08-14 18:54:46

1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

“ภัทรเดชา? นามสกุลนี้คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนเลยค่ะ”

ลิซ่าเดินตามท่านผู้นำที่ถูกเข้าใจว่าเป็นคุณปู่เจ้าที่แล้วท่านก็อมยิ้ม

“ก็นามสกุลมัน”

“หืม... อคิราห์ ภัทรเดชา หรอคะ? ไม่ใช่หรอกค่ะ มันมีชื่ออื่นที่ติดในหัวหนูแต่ยังนึกไม่ออก”

“ไว้ถ้านึกออกก็มาบอก”

“อื้อ แล้วเราจะไปไหนกันต่อหรอคะคุณปู่เจ้าที่”

คนเดินตามมองซ้ายมองขวาสงสัย เพราะตอนแรกท่านผู้นำบอกเธอว่าจะพาไปเดินเล่นรอบๆ แต่ตอนนี้ก็ยังวนไปวนมาใน Castle ส่วนกลางไม่ไปไหน

“ซ้ายยุ่ง ขวายุ่ง อยู่บ้านเราเองไม่ปวดหัวแถมยังสบายใจ”

แต่แม้จะบอกใบ้ให้เธอเป็นนัยๆหลายครั้งว่าพื้นที่ Castle ส่วนกลางเป็นของใคร ลิซ่าก็ดูจะไม่สนใจอะไรเท่าไหร่

“งั้นพาหนูไปดูขนนกได้มั้ยคะ หนูอดใจรอไม่ไหวแล้วค่าาา~”

ลิซ่าเดินขึ้นบันไดอย่างคล่องแคล่วเพราะเริ่มรู้ทาง สายตาก็สอดส่องไปเรื่อยจนเจอประตูบานหนึ่งซึ่งน่าสนใจตรงที่ประตูบานนี้ดูแตกต่างจากประตูทุกบาน

“นี่ห้องอะไรหรอคะ?”

“ท่านครับ!”

ยังไม่ทันที่ท่านผู้นำจะตอบ ลูกน้องคนสนิทก็เดินเข้ามา

“สายจากคุณโมเน่ต์ครับ”

ท่านผู้นำมองมือถือที่ถูกส่งมานิ่งๆ สลับกับหันมองลิซ่าที่กำลังมองมาพอดี

“เอ่อ...จะรับสายก่อนก็ได้นะคะ”

แม้จะดูงงๆว่าผีโทรหากันได้ด้วยหรอ แต่ก็...

“เข้าไปสิ”

“หืม? หมายถึงจะให้หนูเข้าไปคนเดียวหรอคะ o_O?”

พอถามไปแบบนั้นลิซ่าก็ถอยกรูดจากประตูทันที ไม่เอาหรอก... เกิดเข้าไปคนเดียวแล้วเจออะไรไม่ชอบมาพากลก็แย่กันพอดี

“มีขนนกจำลองในนึ้”

“ขนนกจำลอง?”

“อืม ของจริงตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่”

พูดจบท่านผู้นำก็รับมือถือที่ลูกน้องส่งมาแล้วยกมันขึ้นแนบหูพร้อมกับเดินแยกออกไปทันที ลิซ่าถึงแม้จะดูงงๆ แต่ก็โดนขนนกนำโชคที่อยากเห็นมากๆเบนความสนใจไปทันที

.

.

.

“เข้าได้จริงๆหรอเนี่ย”

ฉันพึมพำออกมาเบาๆหลังจากคุณปู่เจ้าที่เดินพ้นไป และค่อยๆเปิดประตูตรงหน้าเข้าไปอย่างเบามือ

แกร๊ก!

‘หวัดดี’

‘โหลๆนั่นใครอะ! เข้ามาทำไมที่นี่!’

‘ถามว่าใครฮะ! บอกมาเดี๋ยวนี้!’

‘คิกๆๆๆๆ’

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป อยู่ๆก็มีเสียงเด็กสามคนดังขึ้น เป็นเด็กผู้ชายสองคน ผู้หญิงหนึ่งคน และมีเสียงหัวเราะคิกคักจนฉันเลิ่กลั่กหันมองไปรอบห้องทันที

“หยึ๋ยยย คะ...ใครอ่ะ O_O”

“......”

แต่พอเอ่ยปากถามเสียงนั้นก็เงียบไป แล้วสายตาของฉันก็หันไปเห็นเครื่องตอบรับอัตโนมัติติดอยู่ข้างประตู หน้าตาเหมือนกับเครื่องที่ติดอยู่ทั่ว Castle และคอยพูดกับใครต่อใคร

เฮ่อ...ตกใจหมดเลยคิดว่าผี =_=^

พรึ่บ!

แล้วคุณพระคุณเจ้า พอคิดแบบนั้นอยู่ๆไฟในห้องก็ติดขึ้นมาทันที ตะ...ต้องเป็นระบบอัตโนมัติไม่ก็เซ็นเซอร์อะไรอีกแน่ๆ จะล้ำสมัยเกินไปแล้วนะเนี่ย ปราสาทผีสิงนี่ - -*

พอไฟติดและเริ่มมองเห็นทุกอย่างได้ชัด ฉันก็ค่อยๆเดินสำรวจรอบห้องเพื่อตามหาขนนกที่คุณปู่เจ้าที่พูดถึง แต่หอมอะไรน่ะ... กลิ่นเหมือนชาอีกแล้ว และเมื่อหันมองซ้ายมองขวามันก็เป็นชาจริงๆ มีถ้วยชาเปปเปอร์มิ้นท์อยู่บนโต๊ะกลางโซฟาในห้องนี้ แถมชาถ้วยนี้ยังมีร่องรอยการกิน หรือว่าที่นี่... มีผีอีกตัวอ่ะ วี๊ดดดดด >[]<!

กึก!

คิดได้แบบนั้นฉันก็ถอยหลังหนีจนติดผนังทันที แถมมือยังปัดไปโดนกรอปรูปที่ชั้นวางของจนเกือบหล่นลงมาแตก

หมับ!

หยึ๋ยยยย ดีนะที่รับไว้ทัน ไม่งั้นโดนคุณปู่เจ้าที่หักคอแน่ แต่เอ๊ะ! นี่รูปใครกันเนี่ย เป็นผู้หญิงที่สวยและสง่างามมากจริงๆ

ฉันก้มมองกรอบรูปในมือแล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองรูปต่างๆบนชั้นวางของที่วางเรียงกันอีกที ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็นรูปเดี่ยวสมาชิกครอบครัวของคนมากหน้าหลายตา แล้วก็มีรูปรวมของ... หืม? นี่คุณปู่เจ้าที่นี่นา โอ๊ะหรือว่าคนข้างๆนี่เป็นจะเป็นแฟนคุณปู่กันนะ เป็นคนเดียวกันกับที่ฉันเกือบทำกรอบรูปตกแตกเมื่อกี๊เลยอ่ะ ถ้างั้นอีกสี่คนที่ยืนข้างๆก็เป็นบรรดาลูกๆของคุณปู่สินะ สวยหล่อกันทุกคนเลยนะเนี่ย น่ารักจังเลย ถ่ายรูปตอนที่ลูกสาวทั้งสองคนกำลังตั้งท้องมีเบบี๋ ส่วนอีกรูปก็...เป็นเด็กสามคนยืนอยู่ ผู้ชายสอง ผู้หญิงหนึ่ง หืม? อยะ...อย่าบอกนะว่า...

ว๊ากกก หรือว่าเด็กสามคนนี้คือเจ้าของเสียงเมื่อกี๊นี้ =[]=!

เพล้งงงง!

ด้วยความตกใจ ทำให้คราวนี้มือฉันปัดไปโดนรูปคู่เด็กผู้ชายสองคนที่วางอยู่ถัดออกไปจนตกแตกขึ้นมาจริงๆ พอเป็นแบบนั้นฉันเลยถอยกรูดมาทิ้งตัวลงบนโซฟาหน้าตาตื่น แถมยังหันมองไปรอบห้องเพราะเดาว่าที่นี่ต้องมีผี และผีไม่พอใจแน่ที่ฉันทำกรอบรูปตกแตกแบบนี้

“งื้ออออ หนะ...หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ >_<”

พอคิดว่าจะวิ่งหนีขาก็ดันก้าวไม่ออก ทำให้ฉันได้แต่นั่งหดขาขึ้นมาเหมือนตอนกลัวคุณปู่เจ้าที่ไม่มีผิด แล้วอยู่ๆท่ามกลางความเงียบก็มีเสียงหัวเราะเบาๆแว่วมา

“หึหึ...”

วี๊ดดดดดด

แล้วแค่นั้นแหละ! แค่นั้นฉันก็ทิ้งตัวลงนอนเอาหมอนปิดหน้าหดขาอยู่บนโซฟาแบบขนลุกสุดพลังเลยจริงๆ ก่อนจะเอื้อมมือคว้าผ้าอะไรสักอย่างคล้ายผ้าพันคอที่วางพาดบนโซฟามาคลุมทับร่างกายท่อนบนของตัวเองเพื่อบังตา และหลับตาปี๋ด้วยความกลัวอยู่เนิ่นนานจนเริ่มจะเคลิ้มหลับขึ้นมาจริงๆ

งื้อออ...ขนนกก็ยังไม่ได้ดู ผีก็จะโผล่มาตอนไหนไม่รู้ >_<

แล้วความรู้สึกสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งตื่นก็ทำให้ได้ยินเสียงเปิดประตูและมีเสียงหัวเราะเบาๆแว่วมาอีก

แกร๊ก...

‘หึ...สนุกใหญ่เลยนะคุณ’

หมะ...เหมือนได้ยินเสียงคุณปู่เจ้าที่เลย แล้วก็มีน้ำเสียงอบอุ่นจนรู้สึกได้ของใครไม่รู้ตอบกลับมา

‘ช่วยไม่ได้นี่คะ ก็มันตื่นเต้นที่ได้เจอหนึ่งสตรีตัวเป็นๆนี่นา :)’

กลับมาที่ปัจจุบัน

@ Phoenix Island

“อคิราห์ ภัทรเดชา คุณถูกจับกุมรอพิพากษาโดยสภากฎ ฐานก่อการกบฏต่อว่าที่ผู้บังคับบัญชา!”

สิ้นสุดเสียงของตัวแทนสภากฎ ทั้งคิระและทุกคนที่ร่วมกันคิดร้ายก็ถูกกักตัวไปรวมกันเอาไว้บนพื้นที่หนึ่งของเกาะเพื่อรอส่งกลับไปพิพากษาตามกระบวนความ

คิระหันมองโรเซ่ที่ปลอดภัยดีก็ไม่มีห่วงอะไร และยอมให้คนของสภาแยกตัวเขาออกมาแต่โดยดี แต่ความวุ่นวายของการเคลียร์พื้นที่ดำเนินการเป็นไปได้ไม่เท่าไหร่ เสียงใบพัดฮอที่ดังสนั่นของเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ก็ทำให้ทุกคนบนเกาะหันไปมอง

พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ~

ตราประทับของ Dark Shadow ที่มีลายเส้นเฉพาะตัว ทำให้คิระมองฮอที่คุ้นเคยแค่แว๊บเดียวก็รู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเลือกจะไม่หลบตา และจ้องคนที่เดินลงมานิ่งๆ ท่ามกลางชายชุดดำมากมายที่วิ่งวุ่นเข้าไปตั้งขบวนอารักขา

...ท่านผู้นำแห่ง Dark Shadow

ผู้มาเยือนคือท่านปู่ของเขาเอง

และไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าเหตุผลที่มา....

ถัดจากท่านผู้นำมีร่างเล็กของโมเน่ต์และ Nightshade’s Lady อีกคนคือเจด้าเดินตามมา รันเวย์เข้าไปหาเจด้า แต่เตโชถูกคนของสภากฎขวางไว้ตามเงื่อนไขยุติสถานการณ์ตามคำขอที่เปิดใช้มา

แต่แค่เห็นหลานรักโดนกักตัวไว้ ท่านผู้นำก็หันไปพยักหน้าให้เคนชิน อดีตมือขวาของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันเป็นมือขวาของเฟรย่าให้ตรงเข้าไปหาตัวแทนสภากฎเพื่อเจรจา

คิระสบตาคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปู่อย่างไม่มีทีท่าจะละสายตา เขาไม่ได้เกรงกลัว และไม่ได้ร้องขอให้คนตรงหน้ามาปรานีหรือปกป้อง ความรู้สึกข้างในมันเย็นยะเยือกไปหมดเลยจริงๆ คิระไม่ได้รู้สึกอะไร กับใครอีกแล้วในทุกวินาทีที่เขาเป็นฝ่ายจ้องมอง

และท่านปู่ก็ยังเป็นท่านปู่...ไม่ว่าเมื่อไหร่ เตโชหลานรักก็จะได้รับการปกป้องอยู่เสมอ เพราะทันทีที่เคนชินเดินเข้าไปเจรจาแค่ไม่กี่คำ แว๊บนึงตัวแทนสภากฎที่ได้ฟังก็ดูตกใจ ก่อนจะตัดสินใจประกาศกร้าวออกมาเสียงดัง

“มิณรฎา ภัทรเดชา คำขอ Emergency Privilege ของคุณ ได้รับการอนุมัติ!”

“มิณขออะไรไป!”

หึ...แบบนี้เองสินะ

เสียงเตโชโพล่งออกไปดังลั่น ละครน้ำเน่าฉากนึงถูกเล่นไปตามเรื่องราวของมันโดยคิระที่ได้ฟังไม่ได้รู้สึกยินดียินร้าย เขาไม่ตื่นเต้นเลยสักนิดหากว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้

เพราะคนอย่างท่านปู่...ยังไงก็ต้องปกป้องหลานรักอย่างสุดชีวิต อย่างที่พยายามปกป้องมาตลอดจนถึงตอนนี้ ซึ่งคำพูดที่ท่านเป็นคนพูดออกมาเองหลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ

“เพิกถอนอำนาจควบคุมหนึ่งเดียวของสภากฎ! ให้อำนาจการตัดสินใจทุกสิทธิ์ ทุกกฎ และทุกเงื่อนไขที่มีผลบังคับใช้กับ Dark Shadow ตกเป็นของ ‘ติณณวัชร์ ภัทรเดชา’ เพียงผู้เดียว.. นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!”

เสียงประกาศก้องน่าเกรงขามดังตามหลังตัวแทนสภากฎออกมาและชี้แจงรายละเอียดคำขอของโมเน่ต์ให้เหล่า Member ได้ฟังแบบชัดถ้อยชัดคำ! ก่อนที่ทุกคนจะขานรับและก้มหัวให้คำสั่งนั้นอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้นคิระที่ยืนโดดเด่นมองการกระทำของทุกคนตรงหน้า

“รับทราบ!”

พรึ่บบบ!

สิ้นสุดคำสั่งของท่านผู้นำ บรรดา Member ที่คิดร้ายก็ถูกลากและไล่ต้อนอย่างไร้ความปรานี เพื่อเอาตัวกลับไปรอพิพากษาทันที

ตัวแทนสภากฎหันมองคิระอย่างไม่รู้จะพูดอะไร และลังเลที่จะใช้กำลังกับเขา เพราะดูเหมือนจะคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ แถมอย่างที่รู้กันดีว่ายกเว้นส่วนที่มาอารักขาท่านผู้นำกับเตโช Member บนเกาะตอนนี้ก็ล้วนเป็น Member ของสภากฎเองทั้งสิ้น

แต่คิระกลับไม่คิดอะไรเลยสักนิด เขาเป็นฝ่ายเดินเข้าไปและยื่นแขนที่ตอนนี้ถูกล็อคไว้ด้วยกุญแจมือแน่นหนาให้ตัวแทนสภาเป็นผู้ลากตัวเองไปอย่างรู้ดีแก่ใจว่าทำผิด แต่ยังไม่ทันที่สภากฎจะเอื้อมมือมาด้วยซ้ำ เสียงเดิมของท่านผู้นำก็ดังขึ้นมาอีก

“อคิราห์จะกลับไปกับหน่วยอารักขาที่รัดกุมที่สุดบนเกาะนี้!”

พอท่านผู้นำพูดจบ เคนชินก็ถึงตัวคิระก่อนที่ตัวแทนสภาจะคว้ามือเขาซะอีก ในขณะเดียวกันก็กวาดสายตามองหาไคยะ เพราะตั้งแต่ที่มาก็ยังไม่มีวี่แววจะเจอน้องชายตัวเองเลยสักนิด

“มันอยู่ในคลังอาวุธ และไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”

คิระพูดออกไประหว่างที่เคนชินเดินนำทางเขากลับขึ้นฮอของท่านผู้นำอย่างให้เกียรติแม้เขาจะทำผิด ได้ฟังแค่นี้เคนชินก็พยักหน้าและพูดออกไปด้วยความซึ้งใจทันที

“เจ็บมากมั้ยครับนาย”

เคนชินมองร่องรอยการถูกทำร้ายหนึ่งเดียวบนเสื้อคิระ ที่ทะลุเป็นรอยกระสุนแบบนับไม่ถ้วนจากการลั่นไกของเตโชไม่ยั้ง คิระเองก็ก้มมองมันนิ่งๆ และเลือกจะหันมองเตโชที่ตอนนี้กอดโมเน่ต์แน่นท่ามกลาง Nightshade และท่านผู้นำที่ยืนยิ้ม ก่อนจะตอบคำถามนั้นด้วยการส่ายหน้า เพราะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่เลยจริงๆ

“ไม่... กูไม่เห็นรู้สึก... อะไรเลยสักนิด”

หลังจากนั้นทุกคนบนเกาะก็แยกย้าย คิระในสภาพที่ใส่กุญแจมือแน่นหนาถูกคุมตัวกลับมาที่ Castle ส่วนกลางโดยที่ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรกันอีก

พอมาถึง คิระก็ถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพังกับท่านผู้นำที่จ้องมาอย่างพิจารณาในห้องที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี...

ห้องที่เขาเคยขโมยปากกาขนนกของคนตรงหน้าไปเล่นคนแรก แล้วเตโชกับเฟรย่าก็มางอแงแย่งเขาเล่นจนเราทุกคนมี Quill เป็นของตัวเองจนทุกวันนี้...

ห้องที่เขาหนีเฟรย่ามาแอบใต้โต๊ะเพราะไม่อยากปั่นจักรยานกลางแดดร้อนๆหนีจาก Castle ไปซื้อขนมเป็นเพื่อนเธออีก...

ห้องที่เขาเอารถของเล่นเตโชมาซ่อนเพราะหมั่นไส้ที่ท่านย่าให้เรียกมันว่าเฮียติณณ์อยู่ได้ แล้วก็บอกว่าตัวเองเป็นน้องคินทุกทีทั้งที่มันเกิดก่อนแค่สามนาที...

การตกแต่งของที่นี่ถ้าไม่นับส่วนข้างบนของท่านผู้นำและท่านผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงและซ่อมแซมไปตามกาลเวลา ที่นี่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด เพราะแม้จะไม่ได้มาเหยียบนานแค่ไหน แต่ DS Castle ส่วนกลางนี้ ไม่มีใครเปลี่ยนมันได้ นอกจากเขาคนเดียวที่มีสิทธิ์

ในวันที่เลือก Castle ของตัวเอง คิระจำได้แม้แต่สิ่งที่เขาคิด... เพราะ Castle ส่วนกลางจะได้อยู่ท่ามกลางครอบครัวอบอุ่นที่สุดที่เขามี พี่ชายอยู่ฝั่งซ้าย พี่สาวอยู่ฝั่งขวา พ่อแม่ ท่านอา ท่านปู่ ท่านย่าอยู่ข้างบน ส่วนเขาจะอยู่ตรงกลาง ไม่มีอะไรลงตัวไปมากกว่านี้...

“...รวิษฎาชอบที่นี่”

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลิซ”

แล้วแค่คำพูดเดียวจากท่านผู้นำเท่านั้น ความทรงจำในหัวคิระก็เลือนลางไปทันที

“ทำไมไม่บอกเธอว่าจะไม่ได้กลับไปอีก”

คำถามนี้ทำคิระชะงัก และนิ่งเงียบอย่างไร้คำคอบ เขาจะบอกเธอยังไง บอกว่าตัวเองจะไปตายต้องบอกยังไง?

“...อยากฟังความจริงมั้ย?”

ท่านผู้นำจ้องหน้าหลานคนเล็กที่ไม่ยอมพูดอะไร ไม่ใช่แค่ไม่พูด เขาแทบไม่ได้ยินคำถามล่าสุดที่ถามไป คิระดูเขวไปเลยพอโดนย้ำว่าทั้งที่รอดมาได้และลิซ่าอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่เขาไม่สามารถจะกลับไป...

“...ลิซอยู่ไหน”

ยิ่งพอมีชีวิตรอดก็ยิ่งโหยหาน้องจนต้องเอ่ยปากถามออกไป คิระไม่ได้สนใจจะฟังสิ่งที่คนตรงหน้าอยากจะพูดเพราะตอนนี้เขามีแค่ลิซ่าคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

“แล้วตอนพามา ฝากไว้กับใคร”

ได้ฟังแบบนั้นคิระก็หันมองไปทาง Castle ฝั่งขวา แต่มันกลับยิ่งย้ำให้เขาฟึดฟัดออกมาว่าหงุดหงิดตัวเองตอนนี้แค่ไหน

“ถ้าบอกว่ารถที่ชนเข้าจากฝั่งน้องเป็นคนของสภาจะเชื่อมั้ย?”

ครั้งนี้มันได้ผล คำพูดของท่านผู้นำเบนความสนใจของคิระกลับมาได้

“สภาทำแบบเดียวกันกับเฮีย โมเน่ต์ก็โดนเหมือนกัน...”

“จะปกป้องมันไปถึงเมื่อไหร่”

คิระสวนไปเสียงเรียบ นอกจากจะไม่ตกใจ เขาก็ไม่อยากจะฟังอะไรอีกแล้ว ไม่อยากรับรู้ว่าใครจะเป็นตายร้ายดียังไง แต่ท่านผู้นำก็ยังเอาแต่พูดกรอกหูอยู่ได้...

“คนของรักษาการฆ่ามันกับมือ เคนชินอยู่ในเหตุการณ์ คนที่ชนบอกว่าเป็นคนของเรา แต่ตราประทับไม่ใช่”

“.......”

แม้คนตรงหน้าจะพูดมา แต่คิระก็ได้แต่ยืนฟังนิ่งๆ วันนี้ทั้งวันจนถึงตอนนี้ ยอมรับเลยว่าเขา...รู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ จนอยากปิดกั้นตัวเองจากทุกสิ่ง

“คิน คนที่ลอบทำร้ายเจ๊กับน้องไม่ใช่เฮีย ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิ...”

“ถ้าจะขังกันก็เอาสักที”

คิระรวบรัดเพราะไม่อยากทำได้แค่ยืนมองทางเชื่อมไป Castle ฝั่งขวาจากตรงนี้ หากว่าเขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ก็อยากรบกวนให้คนตรงหน้าสั่งขังตัวเองให้จบๆกันไปสักที

“......”

ท่านผู้นำพอได้ฟังแบบนั้นก็เงียบไปชั่วครู่ เขาเว้นช่วงให้คิระได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูด ในสายตาของคนเป็นปู่ คิระตอนนี้ดูไม่ได้อยากจะได้ตำแหน่งอะไรเลยสักนิด แถมยังดูเพิกเฉย แทบจะไร้ความรู้สึกจนเห็นได้ชัดจริงๆ

“อย่าเสียเวลาอีกเลย...ท่านให้ทุกอย่างกับมันไปแล้ว จะเทิดทูนบูชากันยังไงก็ช่าง เพราะงั้นจะพาไปขังก็ไป จะทำอะไรก็ทำ เรื่องนี้ผมทำคนเดียว ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น”

คำพูดเรียบเฉยไม่ได้ดูสิ้นหวังอะไรเลย และในขณะเดียวก็ไม่ได้ประชดประชันอะไรทั้งนั้น แค่ดูจากสายตา คนเป็นปู่ก็มองออกในทันทีว่าคิระทนไม่ได้ที่จะยืนโหยหาลิซ่าจากตรงนี้

และมันมีไม่กี่ครั้งหรอก ที่เขามีโอกาสได้เห็นหลานชายคนเล็กแสดงอาการกร้านโลกออกมาแบบนี้

ครั้งแรกที่เห็นก็ที่สวีเดน ตอนพ่อแม่คิระถูกลอบฆ่าต่อหน้าต่อตา

ครั้งที่สองก็ตอนสูญเสียท่านผู้หญิงญาณิกา

และครั้งนี้...ก็เพราะคนที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างลิซ่า

ระดับความเพิกเฉยที่สะสมจนน่าหวั่นใจพวกนี้ คงหนีไม่พ้นสิ่งที่คิระต้องเผชิญอย่าง...

“อาการตอนนี้เป็นไงบ้าง ยาที่ Take เข้าไปพวกนั้น...”

“ท่านสนใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“คิระ...”

“อย่ามายุ่งกับผม”

เสียงแข็งที่ตอบกลับไปชวนให้คนถามนึกหงุดหงิดเลยเอ่ยปากตำหนิออกมาทันที

“ก็เพราะแกมันรั้นแบบนี้”

“ใครจะไปดีเท่าหลานรัก”

สายตาเพิกเฉยมองไปที่ท่านผู้นำซึ่งนั่งจ้องเขาบนโซฟาแบบฟึดฟัดเต็มที่

“ลองคิดให้ดีว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางไอ้สิ่งที่เรียกว่าความรักแค่ไหน?!”

“ก็ไม่เห็นมีอะไรให้คิด”

“ไอ้คิน! เจ๊มันจะระเบิด Castle Japan เพื่อช่วยแกอยู่แล้ว!”

“ยัยนั่นหัวรุนแรงเอง ยังไม่ชิน?”

ความนิ่งเฉยของคิระที่รับฟังทุกอย่างแต่ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรมากกว่านี้ ถูกส่งไปยั่วท่านผู้นำจนเขาต้องแพ้ให้หลานคนนี้ทุกที

“เฮียมันยอมทิ้งโมเน่ต์จนเมียมันเป็นลมเป็นแล้งไป แถมมารู้ทีหลังว่าท้องด้วย”

“...ก็อ่อนแอเอง จะโทษใคร”

“จิ๊! แล้วไหนจะย่าแก ที่ทำนี่คิดมั้ย! ว่าย่าแกจะเสียใจแค่ไหน?!”

โครมมมม!

แค่ท่านผู้นำพูดถึงท่านผู้หญิงญาณิกา คิระก็ออกแรงถีบโต๊ะกลางโซฟาจนกระเด็นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ทันที

“อย่าเอาท่านย่ามาเกี่ยวเรื่องนี้!”

แววตาเรียบเฉยกลายเป็นหงุดหงิดขึ้นมา ท่านผู้นำเลยลุกขึ้นอย่างไม่ถือสาและ...

พรึ่บ!

“งั้นอ่านซะ เผื่อจะฉลาดขึ้นบ้าง”

“IQ สามล้านก็ไม่เพอร์เฟ็คเท่าไอ้ติณณ์มั้ง”

“แกนี่มัน...”

ซองจดหมายสีน้ำเงินเข้มที่ถูกปิดผนึกด้วยตราประทับครั่งสีทองถูกโยนไปให้คิระ ก่อนที่มันจะร่วงลงพื้นท่ามกลางสายตาของท่านผู้นำที่จ้องเขาตอนโน้มตัวก้มลงเก็บมัน

ทั้งที่ตอนแรกว่าจะปล่อยไปเฉยๆ แต่ที่คิระยอมเก็บ...เพราะสัญลักษณ์บนตราประทับเป็นลายเส้นของท่านผู้หญิงญาณิกาที่เขาคุ้นเคย และพอหยิบขึ้นมา คิระก็ไม่ลังเลที่จะเปิดมัน

‘น้องคิน...

เราสูญเสียมามากพอแล้วนะลูก

อะไรที่เกิดขึ้นที่สวีเดน

ย่าขอได้ไหม...ทิ้งมันไว้ที่นั่น’

คิระพอได้อ่านก็ถึงกับอึ้งไป เมื่อไหร่ที่เป็นท่านย่า ไม่จำเป็นต้องเป็นประโยคยืดยาว เขาก็เข้าใจความหมายที่ท่านต้องการสื่อสารได้ง่ายๆ แต่...

“จดหมายนี่...ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

คิระหันกลับไปหาท่านผู้นำที่มองเขาเฉยๆ แล้วก็เป็นฝ่ายโดนกวนกลับซะได้

“เมื่อกี๊มั้ง”

“ตลก ถ้าท่านย่าเขียนไว้นานแล้วทำไมเพิ่งให้”

“ก็เพิ่งค้นเจอ มีปัญหาอะไร”

“ท่าน...”

“จะปู่ก็ปู่ เรียกท่านผู้นำอยู่ได้”

ท่านผู้นำเห็นท่าทางเพิกเฉยที่ดูอ่อนลงตอนเห็นจดหมาย ก็กลายเป็นเขาที่ยียวนหลานชายกลับบ้าง แต่อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะยอมซะที่ไหน

“ไว้ท่านเป็นกลางเท่าท่านย่าเมื่อไหร่...”

“สภาไม่ใช่สังกัดที่ควรอยู่ ถ้ารอดจากการพิพากษา...จะกลับสังกัดเดิมได้มั้ย?”

“สังกัดผู้นำมันก็แย่พอกันไม่ใช่รึไง”

คำพูดต่อปากต่อคำถูกส่งไปมาทั้งที่ตาคิระยังจับจ้องที่ข้อความจากจดหมายในมือแล้วยิ่งชวนให้คิดถึงท่านย่าจับใจ...

“ตราประทับบนตัวแกมันชัดแล้วว่าแกอยู่สังกัดไหน”

“จะลบก็ลืมทุกที งั้นขอเวลาลบก่อนตายได้มั้ย”

“ไอ้คิน!”

“ครับท่านผู้นำ จะขังผมเมื่อไหร่”

ปากพูดยียวนแต่ใจพังเละ แค่เห็นตัวอักษรของท่านย่าในมือ น้ำตาคิระก็แทบจะไหลออกมาให้ได้

“แก...จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย?!”

ท่านผู้นำกัดฟันอย่างเริ่มโมโห คิระก็เฉยอยู่ดี เขาไม่...แม้แต่จะสนใจ

“ท่านเคยมีทางเลือกให้ผมด้วยรึไง”

“ได้... ไปเอาตัวลิซ่ามา!”

แล้วเสียงประกาศก้องของท่านผู้นำที่แว๊บนึงยอมอ่อนลงก็ทำให้ลูกน้องที่เฝ้าประตูอยู่ไกลๆตอบสนองกับคำสั่งนั้นทันที

“ก็บอกว่าอย่ายุ่งกับลิซไง!”

คิระได้ยินก็ฟิวส์ขาด พุ่งพรวดเข้าไปหาท่านผู้นำทั้งที่ยังถูกกุญแจมือล็อคแขน แต่คนของท่านก็รีบเข้ามาขวางไว้

“ไปเอาตัวมา!”

“ครับท่าน”

แค่นั้นแววตาเรียบเฉยของคิระก็เปลี่ยนเป็นประทุจร้ายไปทันควัน ก่อนจะกัดฟันแน่นและจ้องมองคนตรงหน้าทั้งที่โดนคนของท่านยืนขนาบข้างล็อคแขนเอาไว้อย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น

“ทำไม... ไหนๆก็จะตายอยู่แล้ว จะให้ลากันเป็นครั้งสุดท้าย หรือแกไม่ชอบสิทธิพิเศษที่จะมอบให้? มันออกจะซึ้งกินใจ”

ท่านผู้นำกระตุกยิ้มมุมปากยียวน ก่อนจะเปลี่ยนโทนเสียงเป็นจริงจังและเข้มขึ้น

“ลองคิดทบทวนให้ดี ว่าที่พูดไปสภามีเปอร์เซ็นต์จะปั่นพวกแกให้แตกคอกันจริงมั้ย”

“ทำไมต้องคิด”

แล้วเสียงเล็ดลอดไรฟันของคิระและท่าทางที่ไม่อ่อนให้เลยสักนิดทำให้ท่านผู้นำตวาดขึ้นมาอีก

“ก็เพราะอีกไม่กี่วันจะพิพากษา คิดว่าเฮียมันจะทำยังไงกับแกฮะ?!”

“นี่ก็ชัดแล้วมั้ย!”

คิระตะคอกกลับไปและก้มมองรอยกระสุนบนเสื้อหน้าตาย ท่านผู้นำยิ่งไม่พอใจที่เขาตั้งใจกวนประสาท

“ไอ้บ้าเอ๊ย! เตรียมตัวมาตาย ไม่คิดถึงเมียที่อยู่ข้างหลังรึไง!”

“แล้วท่านล่ะคิดยังไง! ตอนปล่อยให้ท่านย่าตายไปอย่างโดดเดี่ยว ท่านเองก็ไม่ต่างกันไม่ใช่!”

“อคิราห์!”

สงครามน้ำลายที่สาดใส่กันดังลั่นไปทั่วห้องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ก่อนคิระจะโพล่งประโยคสุดท้ายตอบกลับไปน้ำตาคลอจนท่านผู้นำพูดอะไรไม่ออก

“ถ้าแม่งจะฆ่าก็ช่างมันดิวะ! ท่านจะเสียเวลาพูดเพื่ออะไรในเมื่อสุดท้ายก็เข้าข้างแต่มัน! ผมตายไปคนท่านอาจจะพอใจที่สุดด้วยซ้ำ!”

“เฮียคิน!”

“……”

เสียงใสๆของลิซ่าดังขึ้นมาขัดจังหวะแล้วห้องทั้งห้องก็เงียบไปทันที คิระกลอกตามองเพดานและเบนความสนใจจากท่านผู้นำ ท่านเองก็เบนหน้าหนี บรรยากาศในห้องตอนนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของสงครามอารมณ์ทันที

“คะ...คุณปู่เจ้าที่ งื้ออออ เฮียขาบังให้หนูหน่อยสิ อ้าว ทำไมล็อคแขนเฮียแบบนี้ อะไรกันเนี่ยพวกพี่!”

ลิซ่าพอเดินเข้ามาและได้เห็นท่านผู้นำแบบเต็มตาก็พุ่งเข้ามาหลบหลังคิระแบบไม่รับรู้สถานการณ์ไม่สู้ดี แถมยังหันไปจะเอาเรื่องคนที่กำลังล็อคตัวคิระไม่ให้พุ่งเข้าไปหาท่านผู้นำอีก

“…มานี่ซิลิซ่า”

ท่ามกลางความเงียบที่ไม่มีใครตอบอะไร เสียงเข้มของท่านผู้นำก็พูดขึ้นมา คิระเลยออกตัวก้าวขาจะพุ่งเข้าไปขวางไว้ แต่เพราะโดนล็อคทั้งมือและแขนโดยคนของท่าน ทำให้ลิซ่าเดินเข้าไปแบบกล้าๆกลัวๆอย่างเชื่องช้า แล้วกุญแจดอกหนึ่งจากท่านผู้นำก็ถูกส่งมา

แกร๊ก!

“กะ...กุญแจอะไรหรอคะ?”

ได้ฟังคำถาม ท่านผู้นำก็จ้องไปที่คิระที่ดูจากสายตาก็เห็นชัดว่าเขาไม่ไว้ใจให้ใครใกล้ลิซ่า ก่อนจะเบนหน้าหนีและพูดเสียงเข้มออกมา...

“ปลดล็อคให้มันแล้วพากลับบ้านไปซะ เบื่อขี้หน้า!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • DarkZ [I] MYZTERY HORO   MYZTERY HORO ::: EP.68 (END)

    หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป

  • DarkZ [I] MYZTERY HORO   MYZTERY HORO ::: EP.67

    วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน

  • DarkZ [I] MYZTERY HORO   MYZTERY HORO ::: EP.66

    "แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

  • DarkZ [I] MYZTERY HORO   MYZTERY HORO ::: EP.65

    วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย

  • DarkZ [I] MYZTERY HORO   MYZTERY HORO ::: EP.64

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล

  • DarkZ [I] MYZTERY HORO   MYZTERY HORO ::: EP.63

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status