@ KIRA’S CONDO
- 6909 - ออดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉันกดออดห้องเฮียคินรัวๆเหมือนมีใครตาย ซึ่งคนๆนั้นก็คือฉันนี่แหละ ที่โดดเรียนคาบบ่ายเพราะรับไม่ได้กับคำตอบของรุ่นพี่ที่สุดแสนจะสะเทือนใจ กึก! แล้วไม่นานประตูก็เปิดออก ก่อนจะมีผู้ชายร่างสูงหน้าตาไม่คุ้นคนนึงจ้องหน้าฉันอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ “เอ๋? นะ...นี่ไม่ใช่ห้องเฮียคินหรอกหรอคะ =[]=” “คิน?” ผู้ชายตรงหน้าทวนคำพูดของฉัน และเหลือบมองเข้าไปในห้อง ฉันเลยพยักหน้ารัวๆให้ ก็... “ชะ...ใช่ค่ะ คือหนูมาหาเฮียคิน เอ่อหมายถึง...เฮียคิระน่ะค่ะ >_<” “มันหลับ” หืม? นี่เพิ่งจะบ่ายหน่อยๆเองนะ ไม่ยักรู้ว่าเฮียคินจะนอนกลางวันเหมือนเด็กอนุบาลด้วยอ่ะ แบบนี้คือเรามารบกวนเค้างั้นสินะ ถ้างั้นกลับก่อนแล้วกัน เอ๊ะ แต่ไม่ได้สิ! เพราะเดือดร้อนนี่นาฉันเลยมาหาพี่ชายที่ตัวเองผูกจิตเอาไว้อ่ะ! “อะ...เอ่อ แล้วพี่ชายเป็น....” “เพื่อน วันหลังค่อยมาใหม่” พูดจบพี่ชายคนนี้ก็ดันประตูจะปิดใส่หน้าฉันเลยอ่ะ แต่ดีที่ฉันคว้ามันไว้ทัน เลยดันกลับแล้วโพล่งออกไปด้วยน้ำเสียงของคนที่กำลังเดือดร้อนทางความรู้สึกอย่างจริงจัง TT^TT ตึง! “วันหลังไม่ได้ค่ะ!” “?” “เอ่อคือ...” อุ่ย... พ่อหนุ่มคนนี้มองหน้าเราเหมือนจะเอาเรื่องซะด้วย ไม่เป็นไรใจเย็นไว้ เค้าเป็นเพื่อนเฮียคินนะ ก็เหมือนเป็นเพื่อนที่เราต้องผูกจิตกันไว้บางๆ ทำความรู้จักกันแบบพอประมาณนั่นแหละนะ “จะอ้ำอึ้งอีกนานป่ะ -.-” “อ๋อคือ...หนูมีธุระสำคัญมากต้องคุยกับเฮียคินเค้าน่ะค่ะ ^_^” “ก็บอกว่ามันหลับ” หยึ๋ย =[]=! แววตาพี่แกนี่ดุจังแฮะ แล้วคนรอบตัวเฮียคินนี่ก็ชอบใส่ชุดดำกันซะจริงๆเลยนะ “ตะ...แต่มันสำคัญขนาดที่โลกจะถล่ม ดินจะทลาย กาแล็คซี่จะแตกเป็นเสี่ยงๆเลยนะคะพี่ชาย ถ้าหนูไม่ได้...อ๊ะ!” พรึ่บ! แล้วจังหวะที่ฉันกำลังสาธยายความเดือดร้อนของตัวเองออกไป อยู่ๆมือหนาของพี่คนนี้ก็เลื่อนมาจับเส้นผมของฉันและปัดมันออกนิดหน่อย ก่อนจะมองมาที่...น่าจะเป็นรอยมดกัดที่เฮียบีทพึ่งทักเมื่อวานแหละนะ น่าจะใช่อ่ะ “ของมัน?” หืม? อ๋อหมายถึงรอยนี่หรอ ก็...ใช่นะ รอยมดจากห้องของเฮียคินอ่ะ “อะ...อื้อ (- -)(_ _) แต่ว่า... เอ่อคือหนูคิดว่า บางทีครั้งหน้าหนูอาจจะเอาขนมฆ่ามดมาให้ แหะๆ” Whatttt?! แล้วทำไมฉันต้องประหม่าเวลาเจอพี่คนนี้ด้วยเนี่ย เอ่อๆอยู่ได้ พูดจาก็ไม่รู้ค่อยจะรู้เรื่อง หวังว่าพี่เค้าคงเข้าใจ -3- “อืม เข้ามาสิ...เบาๆนะ” แล้วพอพูดไปแบบนั้น พี่เค้าก็หลบทางให้ฉันเลยล่ะ สงสัยจะสัมผัสได้ถึงเจตนาที่ดีเรื่องขนมฆ่ามดของฉันใช่ม้า ^_^ “อื้อ ขอบคุณนะคะ หนูมาแค่แป๊บเดียวเท่านั้นแล้วก็จะ...” “ท่านย่า! ท่านย่าช่วยคินด้วย...” ...หืม? แต่พอฉันก้าวขาเข้ามาและยังเอ่ยปากขอบคุณไม่ทันจบ ก็มีเสียงเฮียคินที่นอนอยู่บนโซฟาดังขึ้นมา ตึง! แล้วแค่พริบตาเดียวเท่านั้น พี่ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ปิดประตูเสียงดัง และเดินตรงเข้าไปหาเฮียคินที่ยังคงนอนหลับตา แต่มือของเฮียกำแน่น ใบหน้าก็มีเหงื่อแตกพลั่กออกมา “ไม่! ท่านพ่อ... ท่านแม่... ท่านย่าช่วยคินด้วย!” ฉันยืนมองท่าทางของเฮียคินแบบทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน มันเหมือนเฮียกำลังฝันร้ายมากๆ ส่วนพี่ชายอีกคน เขายืนจ้องเฮียคินอย่างพิจารณา ตาก็มองนาฬิกาข้อมือสลับกับเฮียไปมา และถ้าฉันมองไม่ผิดนะ แววตาเขาดูหงุดหงิดมากที่เห็นเฮียเป็นแบบนั้นอ่ะ “ทำอะไรสักอย่างสิคะพี่ชาย เฮียคินกำลังฝันร้าย เฮีย! เฮียคิน! เฮียคิระ!” ฉันตะโกนเรียกและก้าวขาจะตรงเข้าไป แต่พี่ชายคนนั้นก็ยกมือห้ามไว้ทั้งที่ตายังจ้องเฮียคินสลับกับนาฬิกาแบบเดิมอ่ะ “อย่า... อย่ายิงพ่อกับแม่กู! อย่ายิงดิวะ กูบอกให้หยุดไงวะ!” ยะ...ยิงงั้นหรอ? ยิงพ่อกับแม่ หมะ...หมายความว่าไงอ่ะ =[]=! แล้วสิ้นสุดคำพูดนั้น ฉันก็เห็นเฮียคินเหวี่ยงกำปั้นไปกลางอากาศด้วยท่าทางเลิ่กลั่กและหวาดกลัว สลับกับถอยมือนั้นกลับไปกอดตัวเองไว้แม้ว่าเขาจะกำลังหลับตา เห็นแบบนั้นเพื่อนเฮียเลยลดนาฬิกาข้อมือลงและตะคอกออกมา “ไอ้คิน!” เฮือก O_O เสียงเกรี้ยวกราดของพี่ชายคนนั้นทำฉันสะดุ้งเฮือกในขณะที่เขาพยายามส่งเสียงปลุกเฮียให้ตื่น แต่เฮียก็ยังไม่ได้สติ ไม่แม้แต่จะลืมตา “หยุด! กูบอกให้หยุด! ไม่เอา...อย่าทิ้งคินไว้ คินไม่เหลือใครอีกแล้ว” “เชี่ย! ตื่นดิวะ!” พอตะคอกออกไปเฉยๆ แล้วเฮียคินไม่ตอบสนองเลย พี่ชายตรงหน้าเลยตรงเข้าไปทำท่าจะกระชากคอเสื้อเฮียคินขึ้นมา แต่ใครจะยอมให้ทำแบบนั้นกันล่ะ หมับ! “มะ...ไม่เห็นต้องทำรุนแรงขนาดนั้นเลยนี่คะ!” เห็นแบบนั้นฉันก็ตรงเข้าไปขวางและคว้าแขนใหญ่ๆที่ดูแข็งแรงมากๆนั่นไว้ ในขณะที่เฮียคินก็ยังเพ้ออะไรคนเดียวออกมา “ไม่ ทะ...ท่านย่า ท่านย่าพวกมันฆ่าพ่อกับแม่คินแล้ว มันฆ่าพ่อกับแม่คินฮะ” แล้วในประโยคล่าสุด สิ่งที่ทำให้ฉันอึ้งไปนิดหน่อยก็คือน้ำตา... ใช่ มันคือน้ำตา เฮียคินพูดออกมาเสียงสั่นแบบไม่รู้สึกตัวอย่างนั้น พร้อมกับปล่อยน้ำตามากมายไหลออกมาช้าๆ นั่นทำให้เพื่อนเขาสะบัดมือฉันออกอย่างแรง และตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อเฮียคิระยกร่างเขาขึ้นจากโซฟา ก่อนจะตะคอกเสียงดังกว่าเดิมออกมา “จิ๊! ไอ้คิระกูบอกให้มึงตื่นไงวะ!!!” พรึ่บ! เฮือกกก! พูดจบพี่ชายคนนั้นก็เหวี่ยงร่างเฮียคินลงบนโซฟาอย่างแรง การกระทำของเขาทำให้เฮียคินลืมตาขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและมึนงงในขณะเดียวกัน แต่ทั้งที่คิดว่าการตื่นขึ้นมาจะทำให้มือที่กำแน่นของเฮียคลายลงได้ มันกลับไม่ใช่แบบนั้น เพราะพอได้สติปุ๊บเฮียคินก็ลุกขึ้นมาเหมือนอารมณ์ค้างจากความฝัน และถีบโต๊ะกลางโซฟาจนกระเด็นออกไปอย่างบ้าคลั่ง จนฉันถึงกับโดดไปหลบข้างหลังพี่ชายที่เป็นเพื่อนเขาด้วยท่าทางหวาดหวั่น โครมมมมม! “ไอ้เหี้ยเอ๊ย! ไอ้เหี้ยติณณ์กูจะฆ่ามึง!!!” “……” พอเป็นแบบนั้นทั้งฉันและพี่ชายที่เอาเขาเป็นเกราะกำบังก็ยืนเงียบกริบ และดูเหมือนพี่ชายคนนี้จะถอนหายใจออกมานิดหน่อย แต่แววตาก็ยังคงหนักใจกับท่าทางของเฮียอยู่นิดๆเหมือนกัน หมับ! “หื้ม?” “มีคนมาหามึงอ่ะ” “ดะ...เดี๋ยวสิ =[]=!” แล้วไม่ทิ้งระยะให้เฮียคินลดเลเวลความอารมณ์ค้างนั่นลงเลย อยู่ๆพี่ชายคนนี้ก็คว้าแขนฉันเหวี่ยงไปหาเฮียคินที่กำลังทำหน้ายักษ์หน้ามารพอหันมาสบตากัน หยึ๋ยยยยย =[]=! ซึ่งแว๊บแรกที่ได้เข้าใกล้คนตรงหน้าที่กำลังเดือดจัดแบบนั้น บะ...บอกตรงๆเลยว่า แววตาของเฮียคินมันทำให้ฉันกลัวเขาจนใจสั่น “ฮะ...เฮีย ใจเย็นก่อนค่ะ ใจเย็นๆนะคะ” “มาทำไมอีก” แงงงงงง T[]T อย่าทำเสียงดุใส่น้องแบบนั้น น้องกลัว เค้าแค่มีเรื่องจะปรึกษา อย่าทำเสียงเหมือนตัวเองอยากจะฆ่าเค้า ขอร้องได้มั้ยอ่ะ TT^TT “ครั้งนี้มึงตื่นช้าไป 47 วิ หาหมอซะ” แล้วยังไม่ทันที่ฉันจะตอบอะไร เพื่อนเฮียก็พูดขึ้นมา และพอพูดจบพี่ชายที่ทำท่าไม่สบอารมณ์คนนั้นก็คว้าเสื้อคลุมที่พาดอยู่บนพนักพิงโซฟาขึ้นไปพาดบ่า และกำลังจะก้าวขา “ดะ...เดี๋ยวค่ะพี่ชาย” กึก! “……” เสียงเรียกของฉันทำให้พี่ชายคนนั้นหันกลับมา ถึงสีหน้าจะดุไม่ต่างจากเฮียคินเท่าไหร่ แต่เมื่อกี๊นี้เขาก็ทำไม่ถูกนี่นา “ว่า?” งื้ออออ >[]< มนุษย์เพศผู้สองคนนี้ทำไมต้องทำเสียงแข็งใส่ฉันทั้งคู่ด้วยอ่ะ กลัวนะเนี่ย แต่ฉันจะเสียสละตัวเองเพื่อความถูกต้องนะ >_<! “ถึงจะทำเพื่อช่วยก็เถอะค่ะ แต่ครั้งหน้าถ้าทำรุนแรงกับเฮียอีก รับรองจะโดนหนูตีมือแน่ๆเลยนะคะ >_<!!!” “หึ...” ฉันพูดออกไปแล้วพี่คนนั้นก็หลุดขำในลำคอออกมา เอ๋....? พี่เขาตลกอะไรน่ะ ฉันว่าฉันขู่เสียงเข้มสุดๆแล้วนะ แถมกอดอกทำมาดเท่ๆแบบนี้ด้วยอ่ะ - -* ฟุ้บ! “มาทำไมอีกวะ” หลังจากพี่ชายคนนั้นเดินพ้นไป เฮียคินที่น่าจะสงบสติอารมณ์ได้บ้าง...มั้ง ก็ส่งเสียงเข้มมาถามฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ “เฮีย....อารมณ์ดีขึ้นรึยังหรอคะ” “กลับไปซะ” เสียงไล่กับท่าทางเหนื่อยหน่ายพูดกับฉัน ก่อนจะใช้มือสองข้างลูบหน้าตัวเองอย่างหงุดหงิดแทนคำตอบของคำถาม ฉันเลยเปิดกระเป๋าตัวเองและหยิบผ้าเช็ดหน้าส่งไปให้ “นี่ค่ะ ซับเหงื่อหน่อยนะ อย่าถูหน้าแรงแบบนั้น ถ้าไม่ระวังแล้วโดนเล็บข่วนมันจะเป็นแผลเอาได้นะ” “.......” แต่จนแล้วจนเล่าเฮียคินก็ไม่ยอมรับผ้าเช็ดหน้าจากฉันไป เขาเอนตัวพิงโซฟาด้วยอารมณ์ที่ไม่คงที่เท่าไหร่ท่ามกลางข้าวของที่กระจัดกระจาย ฉันเลยเป็นฝ่ายใช่ผ้าเช็ดหน้าตัวเองซับเหงื่อกับคราบน้ำตาจางๆพวกนั้นให้ “เฮีย...ฝันร้ายแบบนี้บ่อยหรอคะ ที่ห้องหนูมี Dream catcher ด้วยนะ ไว้วันหลังหนูจะเอามาหะ...” พรึ่บ! “โอ๊ย!” “ไม่ต้องยุ่งได้มั้ยวะ! ก็บอกให้กลับไปไง!” แล้วอยู่ๆ เฮียคินก็ส่งมือใหญ่ๆนั่นมาคว้ามือฉันออก เขากำมือฉันแน่นมาก แน่นจนรู้สึกเหมือนแขนจะหักเป็นเสี่ยง เล่นเอาน้ำตาซึมเลยอ่ะ “งื้อ ฮะ...เฮียขาหนูเจ็บ T^T!” พรึ่บ! “ยัยบ้าเอ๊ย! ไสหัวกลับไปซะ!” พอฉันพูดแบบนั้นเฮียก็สะบัดมือฉันและตะคอกกลับมา โหยๆ นี่คนเค่หวังดีนะอีตาลุงบ้า -3- “ละ...แล้วทำไมต้องตะคอก แถมยังพูดจาไม่น่ารักแบบนั้นด้วยล่ะคะ >[]<!!!” ชิ! ไม่กงไม่กลัวมันละ คราวนี้ฉันหลับหูหลับตาตะคอกใส่เฮียคินให้หูชาหันไปข้างนึงบ้างล่ะ “…….” อ่ะ เงียบ ทีแบบนี้มาทำเป็นเงียบ -*- ขออีกสักทีเถอะ! “โธ่เอ๊ยไอ้คนบ้า! คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง ก็ตัวเองอาการไม่ค่อยจะดีเลยนี่นา -3-” “จิ๊!” พรึ่บ! แล้วพอฉันพูดประโยคที่สองออกไป เฮียคินก็ลุกหนีเลยอ่ะ อะไรกันเนี่ย อะไรๆ งอนหรอๆ คนอื่นเค้าพูดด้วยอยู่นะ >[]<! “ยังอีก ไม่ต้องทำเป็นเดินหนีเลย ไม่งั้นหนูจะว่าให้หูแตกเลยด้วย! เอ้า ก็บอกให้หยุดไงเล่า หยุดสิคะเฮียคิ....!” พลั่กกกก! ตึงงงง! “ลิซ่า!” เย้ยยยยย! สงสัยฉันจะเสียงดังไปหน่อย เฮียคินปวดหูก็เลยตรงเข้ามาผลักฉันจนถอยมาผนังห้องเลยอ่ะ แต่เรียกชื่อฉันด้วยนี่นา อุ๊ยโฟกัสผิดไปหน่อยต้องบอกว่า... มะ...มาแล้ว ความน่ากลัวของแววคู่นั้นเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งแล้วล่ะ =[]=! “ขะ...ค่าาา อย่าดุหนูเลย หนูแค่อยากอยู่เป็นเพื่อนอ่ะ =_=” “วุ่นวายจังวะ” พูดจบเฮียคินที่ทำหน้าบึ้งตึงก็ผละออกจากฉัน ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป ฉันเองก็แฝงตัวเนียนๆตามเข้ามาด้วย และ... ว้าววว แปลกตาแต่เข้าท่าดีแฮะ ห้องนอนสีน้ำตาลตัดม่วงงั้นหรอ ดูเข้ากันอย่างน่าประหลาด นี่มันเหมาะกับเฮียสุดๆเลยอ่ะ แต่งห้องได้เอเลแก้นท์สมกับราคาคอนโดที่นี่ชะมัด แต่สีม่วงนี่สีของเพศที่สามไม่ใช่หรอ เอ๊ะหรือว่าเฮียกับพี่ชายคนนั้นมีซัมติงกิ๊งก๊องกิงก่องแก้วกัน โฮ่ะๆๆ >_< “เชอะ! วุ่นวายงั้นหรอ ก็คงงั้นมั้งคะ ดวงหนูมันผูกไว้ให้จุ้นจ้านกับคนเกิดวันพุธ ดาวพุธนี่นา คิกๆๆๆ” “เลิกพูดเรื่องปัญญาอ่อนนั่น แล้วกลับไปซะ!” ฟุ้บ! เฮียคินส่งเสียงดุฉันนิดหน่อยและทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงมองมาแบบเอือมๆ แต่ไม่มั้ง จะเอือมอะไร ฉันไม่ได้ไปกวนใจเขาซะหน่อยอ่ะ (...ช่างกล้า) “เชอะ! งั้นหนูกลับก็ได้ค่ะ แต่ว่า....” “แต่อีกละ -_-” แหะๆ ไหนๆก็มาแล้ว ขอคอนเฟิร์มบางอย่างให้แน่ใจหน่อยเถอะน่า -*- เพราะคนรอบตัวฉันที่เกิดดาวพุธก็มีแต่ตาลุงคนนี้นี่นา “กะ...ก็รู้ว่ามันไม่ใช่เวลา แต่ก่อนไปหนูขอถามความรู้สึกของเฮียที่มีต่อดาวเสาร์ เอ่อคือ...หนูกำลังทำวิจัยเกี่ยวกับอุปนิสัยของคนเรากับดวงดาวน่ะค่ะ ก็เลยอยากรู้ว่า...” “ทำไมต้องพุธกับเสาร์?” ....เอ๋? นี่ฉันพูดบ่อยเกินไปหรอ คำว่า ‘ดาวพุธ’ กับ ‘ดาวเสาร์’ เฮียคินถึงถามแบบนี้อ่ะ >_< “กะ...ก็ ก็ไม่เชิงว่าต้องพุธกับเสาร์หรอกค่ะ เอาใหม่นะคะ เอาใหม่ๆๆ ถ้าตอบจากสัญชาตญาณของคนไม่รู้อะไรเลย สำหรับเฮียที่เกิดวันพุธ ซึ่งก็คือดาวพุธ เฮียชอบดาวดวงไหนมากกว่ากันหรอคะ ระหว่างดาวยูเรนัสกับดาวเสาร์อ่ะ” อ่ะ เพิ่มตัวเลือกให้ซะหน่อย จะได้ไม่มีพิรุธ และขอบอกไว้ตรงนี้เลย ฉันว่าสภาพจิตใจรุ่นพี่เตโชตอนนี้ไม่ค่อยปกติ ก็เลยไปหลงมัวเมากับดาวยูเรนัสอ่ะ -*- เพราะฉะนั้น! ฉันจะขอคอนเฟิร์มด้วยตาลุงกาลกิณีดาวพุธอีกทีแล้วกัน และแน่นอนว่าดาวที่เฮียคินเลือกต้องเป็น.... “...ยูเรนัส” ว้ากกกกก %$^$#&$(@%$+@#*)@$*) !!!!! ทำไมพ่อเทพบุตรกับตาลุงกาลกิณีถึงเลือกเหมือนกัน!!! “ง่าาา ทำไมล่ะคะ ทั้งที่ดาวเสาร์ก็ออกจะน่ารักแสนดี เอ่อ...ไม่ใช่ๆ หนูหมายถึง ดาวเสาร์ต้องเป็นดาวที่ใจดีแน่เลยเพราะอยู่ใกล้ดาวศุกร์ก็เลยได้รับพลังแห่งความสุขอ่ะ -3-” ถึงจะทำปากจู๋แต่น้ำตานี่นองหน้าแล้วรู้ยัง TT^TT แงงงง อีตาบร้าาา เฮียคิระคือตัวกาลกิณีแห่งภาคพื้น ทำไมไม่เข้าข้างฉันนนน TT_TT “เสาร์ใกล้พฤหัสกับยูเรนัสก็พอ กลับไปได้แล้วมั้ง -_-” ฟุ้บ! พูดจบเฮียคิระก็ทิ้งตัวลงนอนเหมือนล้าๆ และหลับตาลงช้าๆทั้งที่เอ่ยปากไล่ฉัน “โอ๊ะ! นี่เฮียมีความรู้เรื่องดาราศาสตร์กับเค้าด้วยหรอคะเนี่ย แล้วดาวอะไรอยู่ใกล้กับดาวพุธที่หนูชื่นชอบล่ะคะ เล่าให้หนูฟังบ้างสิ นะๆ” ฟุ้บ! “แหะๆ ^_^” ฉันพูดแล้วโดดขึ้นเตียงมาทิ้งตัวนอนข้างๆเฮียและพูดกรอกหูไปเลย อุ๊ย ถ้านอนแนวขวางไม่มีหมอนมันไม่ค่อยชิน คว้าแขนเฮียมาหนุนซะหน่อย พอดี๊พอดี “ลุกไป ไม่ต้องมาเนียน แล้ววันหลังอย่ามาที่นี่ -_-” ....นั่นไงโดนดุอีกแล้ว -*- “ไม่เอาอ่ะ นะๆ บอกหน่อยเฮียขา ดาวพุธอยู่ใกล้กับดาวเนปจูนใช่ม้า คิกๆๆ ถูกต้องจ้า หนูเก่งล่ะสิ” “เพ้อ เนปจูบกับผีสิ -_-” ป๊อก! แล้วพอพูดจบ เฮียคิระก็ยกแขนขึ้นมาดีดนิ้วกลางอากาศไปที ก่อนที่อยู่ๆผนังและเพดานของห้องทั้งห้องจะปกคลุมไปด้วยโทนสีที่เข้ากันแบบพอดิบพอดี ปรากฏภาพกาแล็คซี่ที่มีดวงดาวและดาวเคราะห์ต่างๆที่เรากำลังพูดถึง แล้วเฮียก็ลืมตาขึ้นมาชี้ “ดู พุธอยู่ตรงกลางระหว่างศุกร์กับดวงอาทิตย์ เสาร์อยู่นั่น เนปจูนอยู่นี่” “โห =[]=! สวยจังเลย...ยังกับนอนอยู่ในกาแล็คซี่จริงๆอ่ะ แต่พุธอยู่ใกล้พระอาทิตย์แบบนี้ก็เซ็งดิ -3-” ฉันชื่นชมภาพจำลองเสมือนจริงแต่ก็อดติออกไปไม่ได้ ทำไมดาวพุธต้องไปอยู่ตรงนั้นเนี่ย หงุดหงิด! “จะหาเรื่องไรพระอาทิตย์อีก -_-” “ไม่ได้หาเรื่องสักหน่อยค่ะ หนูก็แค่พูดความจริง เฮียดูสิคะ ดาวพุธอยู่ใกล้พระอาทิตย์แบบนี้ก็ร้อนแย่ กาแล็คซี่ไม่มีครีมกันแดด SPF สองร้อยล้านบวกๆซะด้วย ถ้าโดนพลังทำลายล้างของพระอาทิตย์เข้าไป ดาวพุธนี่ทะลุทะลวงถึงตายแหงๆ” “ตอนเด็กไม่ตั้งใจเรียนใช่ป่ะถามจริง -_-” พอฉันพูดไปเฮียคินก็ทำหน้าเอือมๆแบบเดิมอยู่ได้ แต่ดูถูกกันเกินไปแล้วเนี่ย เห็นแบบนี้ฉันนั่งหน้าห้องเชียวนะ เฉพาะวิชาคอมพิวเตอร์อ่ะ คิกๆๆๆ “อ้าว ทำไมหรอคะ หรือว่ามันไม่จริง?” “ใช่ ไม่จริง ดาวพุธไม่เคยถูกแสงอาทิตย์โดยตรงเลย บรรยากาศของดาวพุธมีการสูญเสียและถูกทดแทนอยู่ตลอดเวลาโดยมีแหล่งที่มาจากหลายแหล่ง จากการสำรวจเผยให้เห็นแถบสะท้อนเรดาร์ขนาดใหญ่อยู่บริเวณขั้วของดาว ซึ่งน้ำแข็งเป็นหนึ่งในสารไม่กี่ชนิดที่สามารถสะท้อนเรดาร์ได้” “น้ำแข็ง?” อ๋อ... มิน่าล่ะ รุ่นพี่เตโชของฉันถึงเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง อรั๊ยยยยย เลิฟ เลิฟๆ เลิฟ เลิฟ >_< และในจังหวะที่ฉันสะดีดสะดิ้ง เฮียคินก็ยัง.... “อืม แต่ที่มาของน้ำแข็งยังไม่แน่ชัด และถ้าจะพูดให้ถูก เพราะดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากสุด และเป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุด เพราะงั้น...การอยู่ภายใต้แสงจ้าของดวงอาทิตย์ จะทำให้สังเกตเห็นดาวพุธได้ยากที่สุด” “อ๋อ... ก็เหมือนขยับตัวดุ๊กดิ๊ก ไปอยู่ภายใต้การคุ้มครองของพระอาทิตย์” เพราะเริ่มอินเรื่องกาแล็คซี่ รู้ตัวอีกทีฉันก็ขยับตัวดุ๊กดิ๊กเข้าไปหาเฮียคิน จนเฮียเหลือบมองนิดหน่อยแต่ไม่ได้พูดอะไร “อืม จะว่างั้นก็ได้” “ค่ะ แล้วววว...ทำไมเฮียถึงชอบดาวยูเรนัสมากกว่าดาวเสาร์ล่ะคะ อันนี้ซีเรียสเลยนะ หนูถามจริงๆอ่ะ -3-” อย่ามาตอบว่า ‘ก็ดาวที่ชอบ....ไง’ นะ ถ้าตอบแบบรุ่นพี่เตโช ฉันจะฆ่าตาลุงนี่หมกกาแล็คซี่เลย คอยดูสิ “แล้วจะกลับเมื่อไหร่อ่ะ นี่ก็ถามจริงๆ -_-” เอ๋าาา ดันเปลี่ยนเรื่องซะได้ -*- “ยังไม่รู้ค่ะ เอาเป็นว่าที่นี่สวยดีหนูชอบ ตอบก่อนเร็วนะๆ ไม่งั้นเดี๋ยวหนูจุ๊บให้กรี๊ดอีกหรอก ฮ่ะๆๆ” พูดจบฉันก็ลุกจากแขนเฮีย แล้วพลิกตัวนอนคว่ำจะหันไปแกล้งซะหน่อย แต่เฮียก็ชิงตอบกลับมา “เพราะเป็นบริวารของพระอาทิตย์” “หืม? แต่ดาวเคราะห์ทุกดวงก็เป็นบริวารนี่คะ” “ก็ไม่พิเศษเท่าดวงนี้” เฮียพูดแล้วหลับตาลงอีกที คนแก่นี่เอะอะอะไรก็จะนอนอย่างเดียวเลยแฮะ แล้วก็...ตอบคำถามได้แบบ ไม่เข้าหูสิ้นดี ฮืออออ T^T “ในใจดาวพุธนี่มีแต่ยูเรนัสจริงๆหรอคะ มันจะมีวันที่หันมาชอบดาวเสาร์บ้างมั้ยอ่ะช่วยคิดอีกที TT^TT” “ไม่มี” โอ้โห!!! นี่ก็คือตอบแบบไม่หยุดคิดเลยเหมือนกัน บ้าบอเกินไปแล้ววว ย้ายดาวทันมั้ยเนี่ยฉัน -*- “ใจร้ายกันจัง ดาวเสาร์มีวงแหวนใหญ่เบ้อเร่อเลยนะคะ หนูยังคิดว่ามันสวยเลย เฮียลองดูให้ชัดๆดิ ไหนตอบใหม่เปลี่ยนใจยังงง” “วงแหวนยูเรนัสก็มี” เฮีนคินตอบกลับมาสั้นๆด้วยน้ำเสียงแผ่วลง แต่ไหนอ่ะ? ไหนวงแหวนยูเรนัส? “เฮียมั่วแล้วค่ะ กลมดิ๊กไม่มีแง่งอะไรขึ้นมาเลยแบบนั้น แถมหน้าตาก็มู่ทู่ซะไม่มี เสียชื่อดาวเคราะห์ในกาแล็คซี่พอดีกัน เชอะ!” “เป็นไรกับดาวเสาร์ถึงเข้าข้างกันจัง -_-” หูยยย ให้พรรณนาความดีของดาวเสาร์สามล้านชาติก็ไม่หมดหรอกค่าาา แต่พูดมากก็จะหาว่าคุย “ก็... ไม่ได้เป็นไรนี่คะ หนูแค่ชอบดาวเสาร์ ความจริงก็มีแค่นั้น” “อืม ตอบแล้วก็กลับไปสักทีสิ” “คิกๆๆ เฮียนี่แปลกคนนะ ทั้งที่รู้ว่าหนูไม่ไปก็ขยันไล่หนูจัง แล้วนี่...เพิ่งตื่นได้แป๊บเดียวเอง ทำไมถึงทำท่าเหมือนจะนอนอีก” “ปวดหัว” คราวนี้ฉันรู้สึกได้เลยแหละ ว่าเสียงเฮียคินแผ่วลงมากเหมือนหลับอยู่รอมร่อ อาจจะเพราะคิดมากและเกรี้ยวกราดจากฝันร้าย แถมโลกความจริงก็ยังขว้างปาข้าวของกระจาย “ถ้างั้น...” หมับ! พรึ่บ! ฉันที่นอนคว่ำและหันหน้าไปทางเฮียเลยเอื้อมไปคว้ามือเขา แล้วเฮียก็ดึงมือกลับไป “ไม่เล่นแล้ว” “อื้ม หนูก็ไม่ได้เล่นสักหน่อย เฮียห้ามลืมตาแล้วกัน ห้ามลืมเลยนะหนูขอสามนาทีเท่านั้น” “…..” แล้วเฮียก็เงียบ งั้นถือซะว่า...การไม่ตอบคือคำตอบก็แล้วกัน คิดได้แบบนั้นฉันเลยหยิบปากกาในกระเป๋าสะพายข้างของตัวเองออกมา ก่อนจะวาดบางอย่างลงมือหนาๆ แต่ทันทีที่ปลายปากกาถูกจิ้มลงบนฝ่ามือ เฮียคินก็ขยับหนีและส่งเสียงดุออกมา พรึ่บ! หมับ! “สกปรก” “ไม่ได้นะ ห้ามลืมเด็ดขาดเลยค่ะ ถ้าให้ดูก่อนเสร็จจะโชคร้าย หนูถือนะเรื่องนั้นอ่ะ” เพราะรู้ว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ฉันเลยคว้ามือเขาได้ทันอ่ะ แต่เฮียคินก็ยังยึกยัก ไม่ให้วาดทั้งที่หลับตาอยู่อย่างนั้น “ปล่อย เล่นไรเลอะเทอะ” “โห่ เฮียอ่ะ แป๊บเดียวนะคะ ใกล้เสร็จแล้วเนี่ย ทำไมดื้อจังอ่ะ -3-” มือเฮียดุ๊กดิ๊กไปมา และหาจังหวะสะบัดฉันออกตลอดเวลา นั่นทำให้ฉันต้องรีบจัดการบางอย่างตรงหน้าให้เสร็จไวๆ แม้จะทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ “อ่ะ เรียบร้อย ดูออกมั้ยคะว่านี่อะไร เอาแบบนี้ไปก่อนนะ ตาข่ายดักฝันร้าย แล้วเดี๋ยววันหลังหนูเอาของจริงมาให้ ^_^” “นี่ Dream catcher?” เฮียคินลืมตาขึ้นมาแล้วตั้งคำถามด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนไม่แน่ใจ เอ๊ะไม่หรอก ต้องแน่ใจสิ มันออกจะดูดีขนาดนี้ “อื้อ สวยล่ะสิ แต่ไม่ต้องขอบคุณหนูหรอกน้าาา หนูรู้ว่าเฮียเขินก็เลยไม่กล้าพูดคำนั้นออกมาใช่มั้ยล่าาา >_<” “เปล่า” “...เอ๋? เฮียต้องบอกว่า ใช่จ้า ขอบคุณมากนะลิซ ไม่ใช่หรอคะ -*-” ได้ฟังฉันพูดแบบนั้น เฮียก็หันมองมือตัวเองอีกทีแล้วพูดออกมา “หึ... แค่ถามเพื่อความชัวร์ ว่าไม่ได้กำลังดูรูปกิ้งกือกับไส้เดือนทะเลาะกันอ่ะ” โอ้วววโหววววว >[]<! “โหยยยยยย จะหลอกด่าว่าลายเส้นหนูยึกยืองั้นสินะ!!! เชอะ! ขอโทษด้วยค่ะที่หนูเรียน IT ไม่ได้เรียนศิลปกรรม ไอ้เฮียบ้า! ถ้ารู้ว่าจะมองข้ามความหวังดีกันแบบนี้ ต่อไปเค้าจะไม่วาดให้อีกแล้วน้าาา เชอะะะ เชอะๆๆๆๆ อีตาบร้าาา >[]<!” “หึ....” พรึ่บบบบบ! แล้วตาลุงนี่ก็ปล่อยให้ฉันโวยวายอยู่คนเดียวอ่ะ ส่วนตัวเองก็ขยับตัวดึงผ้าห่มคลุมโปง หนีนอนคนเดียวเงียบๆ แย่! แย่มากกกก เป็นการต้อนรับแขกที่แย่มากๆเลยนะ หนูอุตส่าห์มาหาถึงห้อง แถมยังแสดงความมีน้ำใจด้วยการอยู่เป็นเพื่อนแบบนี้ด้วยอ่ะ แย่!!! >[]<หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X