XVII is watching together with you.
(XVII กำลังรับชมร่วมกับคุณ) จังหวะที่กล้องแพลนเข้าไปที่ Nightshade ซึ่งมี Nightshade's Lady รวมถึงโรสนั่งอยู่ด้วย อยู่ๆก็มีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาที่มุมล่างขวาของจอ ...มีคนดูอยู่พร้อมกันกับฉันงั้นหรอ? ‘จำเลยตรงหน้าคือ อคิราห์ ภัทรเดชา มีความผิดฐานก่อกบฏต่อว่าที่ผู้บังคัญบัญชา ละเมิดกฎ อ้างอิงตาม Dark Shadow Commandment ดังนี้…’ ชื่อที่คุ้นเคยถูกเอ่ยขึ้นมา ทำให้ฉันเบนความสนใจการแจ้งเตือนนั้นหันไปทันที แล้วก็เห็นเฮียคินเงยหน้าขึ้นรับฟังแบบไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น แต่ Dark Shadow Commandment นี่มัน... ตำราแม่มดเล่มนั้นนี่ และสิ่งที่ใครบางคนพูดมาหลังจากนี้ ฉันก็จำมันได้ทุกอย่างเลย ‘หมวดที่ 3 ข้อที่ 1 Member must be treated leader's wife with respect.. Don't stare, Don't touch, Don't scare’ (สมาชิกต้องปฏิบัติต่อภรรยาของผู้นำด้วยความเคารพ.. ห้ามจ้องมอง, ห้ามสัมผัสตัว, ห้ามทำให้กลัว) ...ในความผิดนี้จำเลยมีข้อโต้แย้งใดหรือไม่?’ ภาพจากกล้องเห็นชัดว่าทุกคนจ้องตรงไปที่เฮียคิน หลังใครคนนั้นที่เหมือนจะทำหน้าที่เป็นผู้ไต่สวนตั้งคำถามมา แต่หมายความว่าไงกันนะ ที่บอกว่าเฮียคินละเมิดกฎที่ต้องปฏิบัติกับภรรยาผู้นำข้อนั้นน่ะ ‘ไม่ครับ’ ‘รับทราบ’ เฮียคินตอบคำถามอย่างหนักแน่น ผู้ไต่สวนก็พยักหน้าและหันไปหารุ่นพี่เตโชที่มองเฮียนิ่งๆ ก่อนจะพูดออกมา ‘ฟังคำพิพากษา!’ ‘จำเลยไม่มีความผิด’ ‘...หืม?’ เสียงฮือฮารอบข้างดังขึ้นจนทะลุไมค์กล้องเข้ามาหลังรุ่นพี่พูดแบบนั้น แล้วรุ่นพี่เตโชก็พูดต่อออกมาซะยาว แต่ผู้หญิงที่นั่งข้างรุ่นพี่น่ะ คือคนเดียวกันกับที่ฉันเคยเจอในห้องสมุดพร้อมเฮียบีทเลยนี่นา หรือว่า... ‘ทุกการกระทำของจำเลยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผมกับภรรยาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ หรือหากมีแล้วก็เป็นเพียงสถานะทางพฤตินัยที่ Commandment ไม่ครอบคลุม ซึ่งไม่นับว่าเป็นการละเมิด’ ภะ...ภรรยา O_O? หมายถึงผู้หญิงคนนั้นคือภรรยา ถ้างั้นรุ่นพี่เตโชก็คือ...ผู้นำ??? และสิ่งที่การันตีสถานะของเธอคนนั้นได้ดีก็คือผู้ไต่สวนที่หันไปถามเธอต่อทันที ‘มิณรฎา ภัทรเดชา ว่าที่ Leader’s Wife มีข้อโต้แย้งใดหรือไม่?’ “ไม่มีค่ะ” พอเธอตอบมาแบบนั้น ผู้ไต่สวนก็ประกาศออกมาเสียงดัง ‘รับทราบ คำร้องตกไป จำเลยไม่มีความผิด!’ นะ...นี่มันอะไรกัน เนื้อหาที่ไต่สวนไป หมายถึงเฮียคินไปยุ่งกับพี่สาวคนนั้นงั้นหรอ??? แต่ไม่เว้นช่วงให้ฉันหาคำตอบเลย ผู้ไต่สวนก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อทันที ‘หมวดที่ 1 ข้อที่ 3 Member don’t be spiteful. (สมาชิกห้ามมีเจตนาร้าย) ...ในความผิดนี้จำเลยมีข้อโต้แย้งใดหรือไม่?’ เจตนาร้าย O_O??? ‘ไม่ครับ’ ฉันจ้องมองเฮียคินตอบคำถามแบบหนักแน่นอีกครั้ง เขาดูเป็นจำเลยที่ไม่หวาดหวั่นอะไรทั้งนั้น และอย่างเฮียคินเนี่ยหรอจะมีเจตนาร้าย ฉันเห็นแต่เหตุการณ์ที่เขาโดนทำร้ายมากกว่า และใช่! อีตารุ่นพี่อดีตเนื้อคู่ที่นั่งเคียงข้างกับดาวยูเรนัสตรงนั้น คือคนที่กล้าแตะต้องคุณพระอาทิตย์ของฉัน! ‘ฟังคำพิพากษา!’ ผู้ไต่สวนหันไปหารุ่นพี่เตโช แล้วเขาก็พยักหน้าออกมา ก่อนจะพูดเสียงเข้ม ‘จำเลยไม่มีความผิด! ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความเข้าใจผิด ไม่ใช่เจตนาร้ายที่หมายจะเอาชีวิต’ เอาชีวิต? หมายถึงเฮียคินเนี่ยนะ ที่มีเจตนาร้ายถึงขั้นจะเอาชีวิตรุ่นพี่ได้! บ้าแล้ว! ฉันว่าเฮียดูกลัวการที่รุ่นพี่จะมาวุ่นวายกับฉันมากกว่าซะอีก มั่วซ้ำมั่วซ้อน! เสียแรงที่อุตส่าห์สถาปนาให้เป็นอดีตเนื้อคู่ เฟลจริง! แล้วพอรุ่นพี่เตโชพูดแบบนี้ ผู้ไต่สวนก็ส่งเสียงท้วงออกมาอย่างไม่พอใจทันที ‘คำแย้งตกไป! มีการตอบโต้กันต่อหน้าตัวแทนของสภากฎจนจำเลยบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ แต่รอดชีวิตมาได้เพราะเสื้อเกราะกันกระสุน’ และไม่ใช่แค่ผู้ไต่สวนเท่านั้น คนที่นั่งในหอประชุมเกินครึ่งต่างส่งเสียงท้วงไปตามๆกันราวกับกำลังไม่พอใจมากจริงๆแต่ถ้ารอดมาได้เพราะเสื้อเกราะกันกระสุนก็แปลว่า.... สภาพเฮียคินวันนั้นเป็นเพราะรุ่นพี่เตโชจริงๆด้วย! หืมมม... ทีนี้ล่ะก็นะ ได้เห็นดีกันแน่อ่ะ! หนูของขึ้นละนะ! แต่ทั้งที่โดนผู้ไต่สวนดุเอา รุ่นพี่เตโชก็กระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะประกาศกร้าวเสียงดังออกมาเหมือนกัน ‘คำแย้งยังคงอยู่! สถานะของสภากฎในตอนนี้ไม่มีอำนาจใด นอกจากไต่สวนเพื่อรับฟังความเห็นของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น!!!’ คนในหอประชุมพอได้ฟังก็ลังเลและหันไปซุบซิบกัน ต้องบอกว่าอึมครึมไปหมดจริงๆ พอสิ่งมีชีวิตชุดดำปี๋มาอยู่รวมกันบรรยากาศรอบข้างมันดูดุดันมากๆ ‘Member เงียบ! ว่าที่ Leader เชิญอธิบาย...’ ผู้ไต่สวนออกตัวสั่งทุกคนและหันมองรุ่นพี่เตโชด้วยสายตาที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ไม่รู้ทำไม แอบเห็นคุณปู่เจ้าที่จ้องเฮียคินที่ด้วยสายตานิ่งเรียบ สลับกับจ้องรุ่นพี่อย่างใช้ความคิด ท่านดูสุขุมต่างจากตอนที่พาฉันเดินเล่นรอบ Castle ซะอีกแล้วรุ่นพี่เตโชก็เอ่ยปากพูดต่อไป ‘การลั่นไกใส่จำเลยบนเกาะเป็นเพียงสัญชาตญาณป้องกันตัวที่ผมวิตกกังวลไปเองเท่านั้น ในช่วงเวลานั้นสถานการณ์วุ่นวายจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร และจำเลยเองก็มีอาวุธอยู่ในมือ หากมีเจตนาร้ายที่อยากจะฆ่ากันให้ตาย ป่านนี้ก็คงทำไปนานแล้ว’ เดี๋ยวนะ... เกาะ? อย่าบอกนะว่า... ฟีนิกซ์?! นี่ฉันพลาดอะไรไปบ้างเนี่ย คือเฮียคินทิ้งฉันไว้ที่ Castle แล้วไปมีเรื่องกันกับรุ่นพี่เตโช ถะ...ถึงขั้นมีอาวุธในมือ ใส่เสื้อเกราะและจะเอาชีวิตกัน O_O Oh my goshhh ที่นี่มันที่ไหน คนรอบตัวฉันเป็นอะไรกันไปหมด! โรส! โรสต้องรู้แน่ ถึงมาที่นี่! ‘รับทราบ คำร้องตกไป จำเลยไม่มีความผิด!’ ฉันเริ่มจดจ่อกับการฟังข้อกล่าวหาและคำพิพากษายิ่งกว่าเดิม แต่ก็แอบรู้สึกว่าผู้ไต่สวนคนนั้นดูไม่ค่อยเป็นกลางเท่าไหร่เลย ถ้าว่ากันตามจริง ‘หมวดที่ 1 ข้อที่ 2 Member don't cross the line. (สมาชิกห้ามล้ำเส้น) ...ในความผิดนี้จำเลยมีข้อโต้แย้งใดหรือไม่?’ ‘ไม่ครับ’ ครั้งนี้เฮียคินตอบแล้วจ้องหน้ารุ่นพี่เตโชด้วยความรู้สึกสงสัยบางอย่าง จะว่าไป... ข้อที่ผ่านมารุ่นพี่ก็ตัดสินให้เฮียไม่มีความผิดทุกทีเลยนี่นา ถ้าเป็นคนที่เกลียดกันถึงขั้นจะฆ่า... ‘ฟังคำพิพากษา!’ ‘จำเลยไม่มีความผิด!’ รุ่นพี่เตโชพูดต่อท้ายคำพูดของผู้ไต่สวนออกมาทันทีแบบไม่รีรอเลยสักนิด เรียกเสียงฮือฮาพร้อมเสียงโห่จากคนที่อยู่ในนั้นดังมากจนจับใจความไม่รู้เรื่อง ‘โห่~ #$?! €¥~%^?’ ตึงงง! แล้วเสียงกำปั้นที่ทุบลงบนโต๊ะของรุ่นพี่ก็ทำฉันสะดุ้งไปนิด เสียงโห่เงียบลงทันที ก่อนสิ่งที่รุ่นพี่เตโชพูดมา จะทำให้ฉันพยักหน้าออกไปแบบเห็นตรงกันกับเขาเลยว่ามันจริง ‘Don't cross the line เป็นเพียงประโยคเปรียบเทียบที่บังเอิญอยู่ใน Commandment โดยมีรายละเอียดคลุมเครือ... เมื่อไม่มีการขยายความหมายของคำว่า ‘Line’ เอาไว้ จำเลยจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองมีลิมิตที่จะทำอะไรได้แค่ไหน’ ‘…ติณณวัชร์!!!’ คงเพราะสายตาที่รุ่นพี่เตโชมองไปมันดูท้าทายยังไงชอบกล แถมน้ำเสียงยังปั่นประสาทผู้ไต่สวนใช้ได้ จนใครอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับคุณปู่เจ้าที่ถึงกับกัดฟันแน่น เรียกชื่อเขาออกมาอย่างอาฆาต แต่รุ่นพี่ก็ไม่สะทกสะท้าน ยิ่งไปกว่านั้น รุ่นพี่เตโชที่คงความนิ่งตลอดกาลก็หยิบปากกาขึ้นมาควงเล่นอย่างใช้ความคิด เขาหันมองเฮียคินสลับกับผู้ไต่สวน แล้วก็ต้องยอมรับ...ว่ารุ่นพี่พูดประโยคที่มีความหมายโดยนัยแฝงไว้ ราวกับจะเชือดใครผ่านคำพูดพวกนั้นไม่มีผิด ‘Maybe.. He didn't cross the line but you drew it in after he traversed it.’ (บางที.. เขาอาจไม่ได้ล้ำเส้น แต่พวกคุณวาดเส้นนั้นหลังจากที่เขาเดินข้ามไปแล้ว) น่าแปลกที่พอรุ่นพี่พูดไปประโยคเดียว ฉันกลับรู้สึกว่าฝั่งผู้ไต่สวนลุกลี้ลุกลนพิกล อย่างกับคนที่ทำอะไรผิด ‘รับทราบ! คำร้องตกไป จำเลยไม่มีความผิด!’ เสียงผู้ไต่สวนต้องยอมให้กับเหตุผลที่รุ่นพี่เตโชตอบไป แต่มันดูขัดแย้งกันแปลกๆแฮะ ทั้งที่รุ่นพี่เป็นคนทำร้ายเฮีย แต่ทำไมเขาไม่พิพากษาให้เฮียคินผิดสักข้อ แถมยังต้องหาเหตุผลมาแก้ต่างให้มากมาย และฉันว่าฉันไม่ได้คิดแบบนี้คนเดียวแน่ พอฉันเบนความสนใจไปหาเฮียคิน ก็เห็นว่าเขาจ้องหน้ารุ่นพี่เตโชด้วยแววตาที่บอกชัดว่าไม่เข้าใจ เฮียคินต้องมีคำถามในหัวเหมือนกัน ‘หมวดที่ 1 ข้อที่ 1 Member must respect Leader. (สมาชิกต้องเคารพผู้นำ) ...ในความผิดนี้จำเลยมีข้อโต้แย้งใดหรือไม่?’ ไม่ทันไรข้อกล่าวหาอีกข้อก็ถูกไต่สวนมา และในความยืดอกรับทุกอย่างน่ะ คำตอบของเฮียคิน ไม่ต้องเดาฉันก็รู้อยู่แล้วล่ะ ‘ไม่ครับ’ นี่ก็เป็นอีกเรื่องนะที่ฉันสงสัย เฮียคินทำผิดกฎทุกข้อจริงรึเปล่า? ถ้าทำ...เขายอมรับผิดทุกอย่างโดยไม่แก้ต่างเลยงั้นหรอ? เขาจะไม่บอกเหตุผลที่ตัวเองทำลงไปหน่อยหรือไง ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าการพิพากษาอะไรครั้งนี้มีแต่ความคลุมเครือ ไร้เหตุแห่งการกระทำ มันดูเป็นการสารภาพผิดแบบไม่คาดหวังว่าจะพ้นโทษของจำเลย แต่ในขณะเดียวกัน...ผู้พิพากษาก็หาข้อแก้ต่างให้จำเลยทั้งหมดเช่นกัน ‘ฟังคำพิพากษา!’ ‘จำเลยไม่มีความผิด!’ ถึงตรงนี้รุ่นพี่เตโชพูดออกมาด้วยท่าทางน่ากลัวมาก มันไม่ใช่การขู่แยกเขี้ยวหรืออะไร แต่ความดุร้ายของรุ่นพี่ที่ฉันสัมผัสได้ มันปะทุออกมาจากแววตาเขา เรียกให้ผู้ไต่สวนที่ได้ฟังแบบนั้น อยู่ๆก็เกรี้ยวกราดขึ้นมา ‘มีพยานมากมายทำไมถึงไม่มีความผิด!!! นี่มันสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่ที่ที่จะให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างพวกแกมาล้อเล่นอะไรแบบนี้!’ เสียงตวาดของผู้ไต่สวนดังมากจนห้องที่ฉันนั่งอยู่ตอนนี้มีคลื่นเสียงวิ่งผ่านหูในเสี้ยวนาที เฮียคินมองหน้ารุ่นพี่เตโชสลับกับผู้ไต่สวนที่ฉุนเฉียวไม่เบาแล้วเขาก็นิ่ง นิ่งเหมือนคนรอดู เหมือนกำลังใช้ความคิด และยิ่งนิ่งเป็นพิเศษตอนเฮียคินสบตากับคุณปู่เจ้าที่ ตัดภาพมาที่รุ่นพี่เตโช เขากำมือแน่นเลย รุ่นพี่น่ากลัวมาก เห็นแบบนี้ฉันไม่กล้าเอาเรื่องเขาแล้ว เขาทำหน้าเหมือนจะฆ่าคนให้ได้ น่ากลัวจริงๆ ‘จำเลยรู้เท่าไม่ถึงการณ์..ไม่นับเป็นความผิด! แต่คนที่เสี้ยมสอนมาแบบผิดๆ มีความผิดเต็มๆ’ น้ำเสียงเย็นเฉียบกับสันกรามที่นูนขึ้นมาเพราะกัดฟันแน่น แถมแววตาก็ประทุจร้ายขนาดนั้น ทำเอาฉันละสายตาหรือเบนความสนใจจากสิ่งที่รุ่นพี่กำลังจะพูดหรือทำไม่ได้เลย แล้วอยู่ๆ รุ่นพี่เตโชก็ค่อยๆก้าวขาจากตำแหน่งที่เขาและ Nightsahde นั่งอยู่ เดินลงไปหาเฮียคินในสภาพที่ถูกล็อคกุญแจมือและยืนโดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางสายตาคนพวกนั้น เฮียคินเองก็จับตามองเขาในทุกก้าวเดิน ก่อนรุ่นพี่เตโชจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง และสิ่งที่เขาพูดนี่แหละทำให้ทุกอย่างที่คาใจฉันกระจ่างขึ้นมาทันที ‘อคิราห์ไม่ผิดในฐานะ Member แต่มันผิด..ในฐานะ Brother’ บะ...Brother! ใช่ด้วย! นี่มันคือความคิดแรกๆของฉันเลยด้วยซ้ำ ความคิดที่เฮียคินปิดบัง พี่ไคยะก็โกหก ทีนี้รุ่นพี่เป็นคนพูดออกมาเอง พวกเขาเป็นพี่น้องกัน เพราะงี้ตอนฉันเรียกรุ่นพี่ว่าเฮียติณณ์เขาถึงหยุดฟัง! ‘เกิดก่อนสามนาที นับยังไงกูก็เป็นพี่ จะเคารพกูตอนไหน..โทษที?’ =[]=!!! หมายความว่าไงเกิดก่อนสามนาที??? เดี๋ยวสิ... เดี๋ยวนะ... รุ่นพี่เตโชเกิดวันพุธ เฮียคินก็เกิดวันพุธ รุ่นพี่เตโชเกิดวันที่ 1 ดาวอาทิตย์ ลาซาก็บอกว่าเฮียคินเกิดดาวอาทิตย์ ใช่สิ! เฮียคินเคยพูด เขาเคยพูด ‘ไม่ใช่แค่มันที่เกิดวันนั้น ไม่ใช่...แค่มัน’ ก็คือเกิดวันเดียวกัน แต่ห่างกันสามนาทีงี้หรอ =[]=! ‘คำแย้งตกไป! ไม่ควรนับรวมเรื่องส่วนตัวใดๆ ในการพิพากษะ...’ ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ผู้ไต่สวนยังพูดไม่ทันจบ เสียงปิดประตูทุกบานก็ทำให้ฉันหันมองตามไปที่กล้องแต่ละตัวทั่วห้อง แล้วก็เห็นชายชุดดำหลายคนช่วยกันยกกล่องบางอย่างวิ่งเข้าไปหารุ่นพี่เตโชกับเฮียคินที่ยืนเคียงข้างกันอยู่ตรงกลาง ก่อนชายชุดดำจะปลดล็อคกุญแจมือให้เฮียคินอย่างรีบร้อน ท่ามกลางเสียงของรุ่นพี่เตโชที่ประกาศกร้าวออกมาอย่างทรงพลัง ‘สิ้นสุดการพิพากษา! อคิราห์ ภัทรเดชา ไม่มีความผิดใด! และสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป เป็นการพิพากษาคนผิดที่แท้จริง..แบบไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ!’ พรึ่บบบ! พอรุ่นพี่พูดจบ ชายชุดดำก็เปิดกล่องที่ยกเข้าไปทันที เผยให้เห็นอาวุธหลากหลายจนน่าตกใจ ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นของแบบนี้มันในหนังบู๊สนั่นที่เลิกดูไปตั้งหลายปี แต่เฮียคินกลับมองอาวุธพวกนั้นหน้าตาเฉยสลับกับหันไปมองรุ่นพี่ ทุกคนที่อยู่ในนั้นก็เช่นกัน ต่างจ้องมองกันเองและมองมาที่พวกเขา นี่...มีแค่ฉันคนเดียวหรือไง ที่ตกใจกับอาวุธพวกนี้ ‘หึ.. มีอำนาจในการตัดสินใจ แล้วจะทำอะไรก็ได้ใช่มั้ย?!’ น้ำเสียงห้วนๆของรุ่นพี่ที่เดินไปคว้าปืนกระบอกใหญ่ขึ้นมาด้วยแววตาเด็ดขาดไม่มีลังเลใดๆ แล้วเขาก็โยนปืนกระบอกนั้นให้เฮียคิน ที่แม้จะจ้องรุ่นพี่อย่างสงสัย แต่เฮียก็รับมันไว้ในทันทีอย่างว่องไว พรึ่บ! งื้อออ ปะ...ปืน! ปืนจะลั่นใส่เฮียมั้ย >_< ‘Dark Shadow มันเล่นกันซึ่งๆ หน้าไม่ได้ ถนัดแต่ลอบกัดใช่มั้ย?!’ น่าแปลกที่คำพูดนี้ของรุ่นพี่เตโช อยู่ๆก็ทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับผู้ไต่สวนออกอาการลุกลี้ลุกลนมากกว่าเดิม บางคนก็ถึงกับลุกขึ้นจะวิ่งหนีออกจากหอประชุมแต่ก็ชายชุดดำที่ยืนขวางประตูไว้ดันตัวกลับเข้ามาไม่ให้ออกไปไหน ตามมาด้วยน้ำเสียงรุ่นพี่ที่ดังขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก เขา...เหมือนกำลังข่มใจ ‘ไม่ต้องหนี! แค่ตอบมาให้หายสงสัย…’ มือของรุ่นพี่เตโชคว้าปืนอีกกระบอกขึ้นมา ภาพตรงหน้าฉันตอนนี้คือทั้งรุ่นพี่และเฮียคินถือปืนขนาดใหญ่มากๆคนละกระบอก ก่อนรุ่นพี่จะกระชับปืนในมือเล็งจ่อไปที่ฝั่งผู้ไต่สวน และตวาดลั่นออกมาอีกครั้ง จนเฮียคินถึงกับตาโตพอได้ฟังมัน ‘พวกมึงใช่มั้ยที่สั่งฆ่าพ่อแม่พวกกู?! พวกมึง! ใช่...มั้ย?!’ ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! “O_O!” พรึ่บ! แล้วอยู่ๆ ภาพวงจรปิดในจอของห้องนี้ที่ฉันดูอยู่ก็ถูกตัดไปทุกจอทันที ก่อนจะปรากฏข้อความสีขาวที่โดดเด่นบนพื้นหลังสีดำขึ้นมาเป็นคำว่า...Our sun is emitting the deadly radiation.
(พระอาทิตย์ของเรากำลังปล่อยรังสีที่ร้ายแรงถึงชีวิต) - XVII -และก็จริงตามนั้น... ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็น คือเฮียคินตาโตขึ้นมาและลั่นไกออกไปพร้อมกันกับรุ่นพี่เตโชราวกับคนฟิวส์ขาดในเสี้ยววินาที และขอยอมรับตามตรงเลยตอนนี้ ใจฉันสั่นจนตัวชา มือก็สั่น ภาพเมื่อกี๊ที่เห็นมัน... คือการฆ่ากันจริงๆ แต่...
XVII งั้นหรอ? ฉันเงยหน้าขึ้นโฟกัสชื่อลงท้ายเอาไว้แล้วนึกสงสัย User นี้คือคนที่รับชมภาพเหตุการณ์พร้อมกับกับฉันตลอดเวลาเลยนี่ ด้วยความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีดีพอควร แม้หน้าจอจะถูกล็อคไว้ ฉันก็หาทางเข้าไปดูข้อมูลของ XVII จนได้ และน่าแปลกที่ฐานข้อมูลของ XVII กลับว่างเปล่า ซึ่งต่างจากของฉัน ที่อย่างน้อยก็ยังมีชื่อ และมีสกิลพิเศษที่คุณปู่เจ้าที่เคยบันทึกให้ และที่ยิ่งใหญ่มากกว่านั้น ฉันก็ยังพบ User ของใครหลายคนอีกเป็นร้อยๆ แต่ทั้งหมดก็เป็น User ที่กำลังออฟไลน์ แถมในนี้ยังมีการจัดกลุ่ม User กันจริงจัง ตอนนี้ที่เห็นว่าออนไลน์มี 2 กลุ่ม คือกลุ่มของ... Acting Leader งั้นหรอ? แปลเป็นไทยก็คง รักษาการ ชื่อผู้ใช้ในกลุ่มนี้ที่ออนไลน์คือ Farida P. ฟะ...ฟาริดา?! หรือว่า...เจ๊เฟรย์สินะ เพราะเมื่อกี๊พี่เคนชินถือโน้ตบุ๊คเข้ามา และกลุ่มที่ User ฉันอยู่ตอนนี้ คือ Leader กลุ่มผู้นำงั้นหรอ? ในกลุ่มนี้ที่ออนไลน์อยู่ก็มีแค่ฉัน Ravissada P. และ XVII ที่ไม่ขึ้นสถานะออนไลน์ แต่ฉันก็ยังเห็นความเคลื่อนไหวของ XVII ผ่านข้อความบนหน้าจอที่โชว์หราอยู่ตอนนี้ไง! ครืดดด! เพื่อความแน่ใจว่าใช่หรือไม่ใช่ อันดับแรก ฉันเลยเลือกจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องควบคุมนี้ และตรงไปหาเจ๊เฟรย์ที่กำลังดูอะไรบางอย่างผ่านโน้ตบุ๊คกับพี่เคนชินอยู่จริงๆ ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! “สงสารแม่บ้านเลยนะครับเนี่ย” “อืม ถ้าเราไปแจมด้วยน่าจะมันส์” ฉันแอบได้ยินเจ๊เฟรย์กับพี่เคนชินคุยกันด้วยคำพูดน่ากลัวแบบนั้น แถมยังมีเสียงปืนที่หลอนหูเมื่อกี๊แว่วมา... ใช่แล้วล่ะต้องใช่แน่เลย Farida P. คือเจ๊เฟรย์ที่กำลังออนไลน์อยู่ตอนนี้ “ดูอะไรกันอยู่หรอคะ ขอหนูดูด้วยคนได้รึเปล่า” พรึ่บ! ตึง! ทันทีที่ฉันโผล่ไป หน้าจอโน้ตบุ๊คตรงหน้าเจ๊เฟรย์ก็ถูกปิดลงด้วยฝีมือของพี่เคนชินด้วยท่าทางมีพิรุธทันที “เอ่อ ดูคลิป…” “จิ้งจกกรี๊ดน่ะครับ” เจ๊เฟรย์อ้ำอึ้งเห็นได้ชัด พี่เคนชินก็ชิงพูดสวนขึ้นมา ฉันเลยตามน้ำไป แต่ก็มั่นใจแล้ว ว่าใครต่อรอบตัวตอนนี้.... “หาาาา =[]=!!! จิ้งจกกรี๊ดก็คือ... อร๊ายยย! แบบนี้หรอคะ =[]=! โอ้ววว ตาย โลกนี้มันโหดร้าย จิ้งจกธรรมดาหนูเจอยังต๊กกะใจ ถ้ามันมากรี๊ดใส่หนูต้องเป็นบ้าแน่ๆ ขอบายดีกว่า” ฉันตีมึนทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินออกจากห้องอย่างพยายามไม่ให้มีพิรุธที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเดินกลับเข้ามาในห้องควบคุม ก่อนจะพยายามตามหาตัวตนของคนที่ใช้ User XVII ที่ไม่รู้ว่าเป็นใครจริงๆ เพราะ Nightshade ก็อยู่ในนั้น รุ่นพี่เตโช เฮียคิน คุณปู่เจ้าที่ ไม่มีใครจำเป็นต้องนั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดเลยสักนิด ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! เฮือก O_O! แต่ไม่ทันไรฉันก็ต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นมาอีกขณะที่กำลังใช้ความคิด ภาพวงจรปิดตอนนี้กลับมาฉายขึ้นบนจอตามปกติ และทันได้ยินเสียงกระสุนชุดสุดท้าย ก่อนรุ่นพี่เตโชจะพูดออกมาด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สาอะไร ‘เวรจริงๆ สั่งสอนน้องกูยังไง ให้เหี้ยได้ขนาดนี้’ พรึ่บบบ!!! “O_O!” ไม่เว้นใจให้หายใจหายคอได้เลย ตัวฉันก็ต้องชาวาบขึ้นมาทันที เพราะรุ่นพี่เตโช... ระ...รุ่นพี่เตโชกับเฮียคินตอนนี้กำลังเอาปืนจ่อเข้าหากันด้วยสีหน้านิ่งเรียบราวกับคนจะฆ่ากันไม่มีผิด ‘หึ...’ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเฮียคินที่มองรุ่นพี่ด้วยสายตานิ่งเรียบในตอนแรกก็แสยะยิ้มออกมา รุ่นพี่เองก็มองเฮียนิ่งๆ ‘สามนาทีแล้วไง กูจะเป็นพี่ใครจะทำไม?!’ ‘หึ..ก็ไม่สำนึก’ แล้ววินาทีที่ฉันโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ก็คงเป็นตอนที่รุ่นพี่เตโชและเฮียคินที่หลังจากพูดคำนั้นก็หลุดขำออกมาเบาๆพร้อมกัน ก่อนที่พวกเขาจะลดปืนในมือที่จ่อกันลง เล่นเอาฉันถอนหายใจไปตามๆกัน และไม่นานคุณปู่เจ้าที่ก็ลุกขึ้น พร้อมกับประกาศกร้าวออกมาท่ามกลางกลุ่มคนนับร้อยที่ลุกขึ้นยืนและก้มหน้ารับฟังอย่างพร้อมเพรียงกัน ‘Dark Shadow Member ทุกคนจงฟัง! ในนามของ Dark Shadow's Leader วาระปัจจุบัน ขอปรับเปลี่ยนอำนาจบังคับบัญชาให้ในวาระถัดไปนี้ Dark Shadow’s Leader คือ ติณณวัชร์ ภัทรเดชา!’ ‘รับทราบ!’ ฉันจ้องมองเหตุการณ์ในจออย่างพยายามโยงเรื่องราวทั้งหมดเข้าหากัน ท่านผู้นำไงล่ะ... ที่ Castle วันนั้น ชายชุดเรียกคุณปู่ว่าท่านผู้นำ คนที่เป็นผู้นำตอนนั้นคือเขาต่างหาก ส่วนคนที่เพิ่งเป็นหลังได้รับการแต่งตั้งเมื่อกี๊คือรุ่นพี่เตโช อ่าฮะ... แล้วคุณปู่ก็พูดต่อ ‘Leader's Wife.. คือ มิณรฎา ภัทรเดชา!’ พี่สาวที่นั่งข้างรุ่นพี่เตโชพอได้ฟังก็ลุกขึ้นมา แต่ทันทีที่เธอลุก คนนับร้อยรอบตัวก็ก้มหน้า และเอ่ยปากขานรับ ‘รับทราบ!’ เอ๊ะแต่ว่า พี่ๆชุดดำพวกนี้เค้าเหมือนจะไม่ค่อยกล้าสบตาผู้หญิงกันเลยแฮะ ตอนที่ฉันตื่นมาแล้วเจอกับคุณปู่เจ้าที่ ก็ไม่มีใครกล้าสบตาฉันเลยสักนิด ที่เห็นกล้าตอนนี้ก็มีแค่พี่ไคยะกับพี่เคนชิน ‘และเมื่อไม่มีสภากฎ ก็ไม่มีข้อกำหนดใดๆ...’ หืม...สภากฎหรอ? อ๋อคงหมายถึงพวกผู้ไต่สวนที่โชคดี...รัศมีกล้องตอนนี้ไม่แพลนเข้าไป แล้วอยู่ๆคุณปู่เจ้าที่ก็โพล่งออกมาเสียงดังจนฉันตกใจ ‘ประกาศแต่งตั้งตำแหน่งใหม่! ให้อคิราห์ ภัทรเดชา รักษาการเป็น Sub Leader ในวาระถัดไป! โดยมีอำนาจควบคุมเทียบเท่า Leader และ Leader's Wife แต่อำนาจการตัดสินใจให้ผ่านการพิจารณาจาก ติณณวัชร์ ภัทรเดชา ตามเงื่อนไข Emergency Privilege เพียงผู้เดียว...โดยไม่มีข้อแม้ใด!!!’ Sub Leader? รองผู้นำหรอ? ดะ..เดี๋ยวนะ เฮียคินคือรองผู้นำแก๊งค์มาเฟียหรอแล้วหรอตอนนี้ O_O! ม่ายยยยยยยยยยยย! พอได้ฟังฉันก็ถึงกับกุมขมับ ภาพในจอเฮียคินก็ดูตกใจไม่ต่างกัน คุณปู่เจ้าที่เค้าเล่นอะไรของเค้า ทำไมต้องเอาเฮียคินของหนูไปเสี่ยงตายกับแก๊งค์มืดบอดแบบนั้น >[]<! ‘ทุกการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมานี้ให้มีผลบังคับใช้ทันที นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!’ ‘รับทราบ!!!’ พรึ่บ! สิ้นสุดคำสั่งของคุณปู่เจ้าที่ หน้าจอตรงหน้าฉันตอนนี้ก็ดับลงอีกที ก่อนมันจะปรากฏข้อความตัวใหญ่ยิ่งกว่าเดิม และแน่นอน... ต้องเป็นฝีมือของคนที่ฉันคาใจอยู่ตอนนี้….XVII เท่านั้น!!!It's time to test the suitability of your position,
Sub Leader's Wife. (ได้เวลาทดสอบความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งของคุณแล้ว... Sub Leader's Wife)ฉันอ่านข้อความบนจอแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร ก็ถ้าเฮียคินเป็น Sub Leader แล้ว ไอ้คำเรียกที่ว่า...มันก็คงเป็นฉันนั่นแหละ แต่ว่าอยากจะเป็นซะที่ไหน ทุกคนรอบตัวดูหัวรุนแรงจะตาย -3-
“ถ้าแน่จริงก็เปิดเผยตัวตนออกมาเลยเซ่! หนูไม่เล่นด้วยหรอกนะคะ กับคนที่ปิดบังตัวตนแม้กระทั่งสถานะออนไลน์!” ฉันพูดออกไปเซ็งๆ เพราะรู้ว่าเบื้องหลังต้องมีแหละ คนที่อยู่หลังคีย์บอร์ด และทำเหมือนจะท้าทายให้ฉันทดสอบอะไร ที่สำคัญ ฉันเชื่อว่าอีกฝ่ายต้องได้ยินด้วย เพราะนอกจากหน้าจอ ทางนั้นก็แฮ็คเข้าระบบทั้งหมดของห้องนี้ตั้งแต่ที่ฉันเดินกลับเข้ามาแล้ว แค่เห็นว่าไม่ได้ทำอะไรวุ่นวาย ฉันเลยไม่ได้สนใจ แล้วข้อความบนหน้าจอตอนนี้ก็เปลี่ยนไปPlease don't be mad at me.
It's just a simple test... Sub Leader's Wife (ได้โปรดอย่าโกรธกันเลย... มันเป็นแค่บทสอบง่ายๆ Sub Leader's Wife)จิ๊!
ขอพูดตรงๆเลยได้มั้ย ว่าไอ้คำว่า Sub Leader's Wife อะไรนี่แหละ นี่ทำให้ฉันหงุดหงิดไม่รู้ทำไม แล้วข้อความบนหน้าจอของฉันก็เปลี่ยนไปอีกหลายครั้งต่อเนื่องกัน มันบอกชัดว่าอีกฝ่ายกำลังแฮปปี้กับการเล่นสนุกคนเดียวแค่ไหนWho am I? (ฉันเป็นใคร?)
Where am I? (ฉันอยู่ที่ไหน?)“เลิกเล่นอะไรบ้าๆสักที!”
เพราะคิดว่าอีกไม่นานจะได้เจอเฮียคินแล้ว ฉันเลยลุกขึ้นจากเก้าอี้และกำลังจะเดินออกจากห้องควบคุมทันที พรึ่บ!!! แต่อยู่ๆ ไฟในห้องทั้งห้องก็ดับลง ระบบล็อคอัตโนมัติถูกสั่งการแบบกระทันหัน ทำให้ฉันเปิดประตูออกไปไม่ได้ ราวกับกำลังถูกขังจนกว่าจะยินยอมรับคำท้าทายนั้น ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! แล้วเสียงเอฟเฟคที่ดังก้องก็มาพร้อมกับรูปของคนห้าคนคือเจ๊เฟรย์ รุ่นพี่เลโอ รุ่นพี่เตโช ผู้หญิงของเขา และเฮียคินปรากฏขึ้นบนจอตามลำดับ ก่อนจะมีภาพกราฟฟิคห่ากระสุนยิงสาดเข้าไปบนรูปของทั้งห้าคนอย่างไร้ความปรานี พร้อมกับเสียงรัวกระสุนดังก้องไปทั่วทั้งห้องเหมือนว่าฉันกำลังอยู่ท่ามกลางสงคราม ปังๆๆๆๆๆๆๆ! สิ่งที่เห็นและได้ยินทำให้ฉันตกใจถึงขั้นเอามือปิดหูและถอยหลังชิดกำแพงตามสัญชาตญาณ ก่อนที่ภาพของทั้งห้าคนจะถูกคาดด้วยตัวอักษรสีขาวพื้นแดงที่แสดงถึงความจริงจังFind me before I kill them!
…Three days left! (ตามหาฉันให้พบ ก่อนที่ฉันจะฆ่าพวกเขา! ...คุณมีเวลาแค่สามวันเท่านั้น!)นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกัน?!
หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X