ไม่กี่วันต่อมา...
@ VAYO’S CONDO [ตื๊ดดดด อือ อ๊อง ว่า...] “เฮียโย หนูผ่านมาแถวนี้เลยแวะเอาบัตรมาคืนค่าาา” ฉันกรอกเสียงที่แสนจะร่าเริงสดใสลงไปในโทรศัพท์ ในขณะที่เฮียโยน่าจะกำลังสะลึมสะลือยังไม่ลุกจากเตียง แต่นี่มันบ่ายโมงกว่าละนะ -*- [หาทางขึ้นมา] ตริ๊ด! พูดจบเฮียก็วางไปเลย แต่เดี๋ยวสิ หาทางขึ้นมาคืออออ... คียการ์ดก็ไม่มี ยิ่งกว่านั้นฉันยังไม่รู้เลขห้องเฮียเลยนี่สิ แค่รู้ว่าอยู่ที่นี่เพราะโทรไปถามเฮียบีทมาเมื่อกี๊ [ตื๊ดดดดดดดด] แล้วพอโทรไปอีกทีเฮียก็ไม่รับสายละ โอ๊ยตายเลยแบบนี้ นอนกินบ้านกินเมือง เป็นภาระเจ้าที่เจ้าทางต้องฟังเสียงกรนจนตะวันแยงก้นแบบนี้ ใช้ไม่ด้ายยย น้องว่ามันไม่ดี - -* แล้วจังหวะที่ฉันเดินงงๆมาหยุดอยู่หน้าประตูคอนโดเฮีย ก็มีชายชุดดำท่าทางดุๆสองคน กับคุณป้าท่าทางใจดีช่วยกันเดินยกกล่องที่ซ้อนกันสูงมากมาทางนี้พอดี และ... โครมมมม! เหมือนว่าคุณป้าคนนั้นจะแรงไม่เยอะเท่าพี่ชายสองคนน่ะสิ บวกกับเธอสะดุดก้อนหินที่ขวางทางอยู่พอดี ทำให้เสียหลักล้มลงก้นจำบ๊ะจนกล่องในมือร่วงลงพื้นหมดเลยแบบนี้ “เป็นไรมั้ยครับคุณมาร์ธา” เห็นแบบนั้นพี่ชายสองคนก็รีบเดินถอยหลังกลับมาหา แต่คุณป้าก็ยังอุตส่าห์ส่งยิ้มใจดีออกมาให้ “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ รีบขึ้นไปเถอะ คุณเค้ากำลังจะมานะ แล้วจัดของทั้งหมดให้ดีด้วยล่ะ” “งั้นคุณมาร์ธารอตรงนี้นะครับ เดี๋ยวพวกผมรีบลงมา” พูดจบพี่ชายสองคนก็รีบเดินลิ่วๆไปกดลิฟท์เลยล่ะ ส่วนฉัน...ลังเลสองจิตสองใจ ถ้าเดินตามพี่เค้าไปก็เข้าคอนโดเฮียโยได้ง่ายๆ แต่ท่าทางคุณป้าที่ทรุดอยู่กับพื้นและพยายามประคองตัวเองขึ้นมาก็เหมือนจะไม่ไหวอ่ะ “คุณป้าคะ หนูช่วยค่ะ” และด้วยศีลธรรมนำพา ความดีทั้งหมดที่สั่งสมมาก็ทำให้ฉันตรงเข้ามาประคองคุณป้าให้ลุงขึ้นจากพื้น และเก็บกล่องพวกนั้นขึ้นมา พรึ่บ! โอ้โห หนักจังแฮะ พี่ชายหน้าดุนั่นให้คุณป้ายกของหนักขนาดนี้เลยเนี่ยนะ ส่วนตัวเองนี่เดินตัวปลิวเลยอ่ะ “ขอบคุณมากนะจ๊ะหนู มา ป้าช่วย” “โอ๊ะๆๆ หนูยกเองค่ะ ว่าแต่คุณป้า...มีคียการ์ดมั้ยคะ ^^” “มีจ้ะ” พูดจบคุณป้าก็เดินตรงไปเปิดประตูทางเข้าให้ ก่อนจะเดินก้มๆเงยๆ หันซ้ายหันขวาตรวจสอบว่าฉันยกกล่องทั้งหมดมาครบมั้ย สงสัยจะเป็นของสำคัญใช้ได้ และในขณะเดียวกันคุณป้าก็ดูจะรีบและเดินกะเผลกๆเข้าลิฟท์ไป แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเดินเข้าลิฟท์ตาม ก็มีกลุ่มนักศึกษา ม.อื่น เดินตรงเข้าไปก่อนจนลิฟท์เต็ม แถมยืนบังคุณป้าซะมิด “เอ่อ งั้นคุณป้าขึ้นไปก่อนก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องลงมาแล้วนะคะเดี๋ยวหนูยกตามขึ้นไปให้ ชั้นไหนหรอคะ?” ฉันเอียงคอตะโกนถามออกไปเพราะความสูงของกล่องมันบังสายตาจนเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมคุณป้าถึงมองไม่เห็นก้อนหินที่ทำให้สะดุดล้มได้ แต่คุณป้าก็ดูลังเลเหมือนหวงของและเกรงใจ ก่อนทำท่าจะเดินกะเผลกๆฝ่ากลุ่มคนพวกนั้นออกจากลิฟท์มา แต่ก็น่าจะไม่ไหว “มะ...ไม่เป็นไรหรอกจ้ะหนู” “ไม่เป็นไรจริงๆค่ะคุณป้า ชั้นไหนหรอคะ?” “โอ๊ยป้า! สักทีได้ป่ะ” พอเห็นคุณป้าอ้ำอึ้งนักศึกษาปากแดงแจ๋ที่เดินเข้าไปในลิฟท์คนนึงก็พูดขึ้น ก่อนที่เพื่อนๆของเธอจะเบ้ปากใส่แถมยังไม่เปิดทางให้คุณป้าและกดปิดลิฟท์ซ้ำๆด้วย โหยๆ ลิซโยนกล่องใส่ซะบ๊อออ! พูดจาไม่น่ารักเลย คุณป้าอายุเยอะกว่าอีกนะไม่เห็นหรอ -3- “งั้น 6.... 69 จ้ะ ห้อง 6909 นะ” เพราะประตูลิฟท์กำลังจะปิดลงพอดี คุณป้าเลยตะโกนออกมา ก่อนจะกำชับเสียงดัง “ฝากด้วยนะหนู!” “ได้เลยค่า สบายมาก ^_^” ว่าแต่ ชั้น 69 เลยหรอ โอ๊ะโอววว ป้าเค้าไม่กลัวความสูงเลยเนาะ เป็นเราขออยู่ชั้นใต้ดินก็พอ อยากลองคุยกับไส้เดือนดูอ่ะ จี๊ดๆๆๆ สอนเราพรวนดินใต้ตึกหน่อยสิ เอาแบบทำไงก็ได้ให้ตึกถล่มก็พอ ฮ่ะๆๆๆ ติ๊งงงง! ยืนรอได้สักพักลิฟท์อีกตัวก็มา ฉันเลยยกของที่ท่วมหัวอยู่ตอนนี้เดินเข้าไปซึ่งก็เป็นจังหวะที่มีใครอีกคนเดินตามเข้ามาด้วย “ขอโทษนะคะรบกวนกดชั้น...” “ชั้นไหนครับ?” ฉันยังพูดไม่ทันจบ คนที่เดินเข้ามาในลิฟท์ก็ถามขึ้นมาเหมือนกัน แต่เสียงนั่นมัน.... พรึ่บ! ฉันชะโงกหน้าออกไปดูแบบใจเต้นตึกตัก ไม่รู้ทำไมถึงเต้นแรงนัก รู้แค่ได้ยินเสียงนั้นแว๊บเดียวก็เหมือนมีอะไรมาสะกิดในใจอ่ะ หืม...ผู้ชายร่างสูง ผิวขาวเนียนในเสื้อผ้าสีสันสดใส รองเท้าหนังชิคๆกระชากใจ แฟชั่นมีสไตล์ต่างจากพี่ชายชุดดำสนิทสองคนเมื่อกี๊มากมาย มะ...ไม่ผิดแน่ แขนแกร่งกำยำ แผงอกขาวๆ สายตาดุๆกับริมฝีปากอมชมพูเป็นกระจับนั่น... กรี๊ดดดดด...นี่มันเฮียคินนี่นา มาได้ไงอ่ะ =[]=?! “เอ่อ คะ...คือ...ชั้น...” พูดไปฉันก็ถอยหลังเข้ามุมลิฟท์ไป หยึ๋ยยย บ้าบอ บ้าบอๆๆๆ ถึงเฮียโยจะบอกว่ารู้สึกดีก็จูบๆไป แต่พอมาเจอก็รู้สึกแปลกๆซะได้ ความกล้าที่จะมาจูบอีกตอนแรกหายไปไหนเนี่ย อร๊ายยยยย ตาลุงขโมยจูบบนซู้ปเปอร์คาร์มาโผล่อยู่ที่นี่ได้ยังง๊ายยยย >___< พรึ่บ! ตึง! และเพราะฉันคงจะสะดีดสะดิ้งเกินเบอร์มากไปหน่อย กล่องที่อยู่ในมือเลยหล่นลงไปพร้อมกับประตูลิฟท์ที่ปิดลงพอดี เฮียคินเห็นแบบนั้นเลยก้มลงเก็บมันขึ้นมาให้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาฉันที่หลบภัยอยู่หลังกล่องและทำหน้าเหวอออกไป “=[]=!” “เธอ...ยัยผีบ้า -_-” “กรี๊ดดดด เฮียไม่ต้องมายุ่งกับหนูเลยนะ =[]=!!!” พอสบตากันเท่านั้นแหละ ฉันก็หวีดเสียงออกไปจนลั่นลิฟท์ เล่นเอาเฮียทำหน้าเอือมออกมาทันที ตึงงงงง! “ยังไม่เลิกกรี๊ดอีกหรอวะ -.-” ได้ฟังเสียงกรี๊ดที่แสบแก้วหูของฉัน เฮียคินก็ส่งเสียงดุแบบเดิมๆออกมาอีกเหมือนกัน แถมยังโยนกล่องที่เก็บให้มาซ้อนด้านบนแบบไม่สนใจว่าฉันจะหนักแค่ไหน อีตาบร้าาาา แต่ที่ถามนี่มุกใช่มั้ย กับเสียงกรี๊ดนี่คบกันมาตั้งนาน จะให้เลิกง่ายๆได้ไง -*- “ชั้น?” “ไม่บอก! เดี๋ยวเฮียก็ตามมาจูบหนูอีกอ่ะ” ฉันโหวกเหวกออกไปแล้วยกกล่องสูงกว่าเดิมขึ้นมาบังหน้าตัวเอง แต่ก็เหลือบไปเห็นว่าเฮียคินเอื้อมมือจะกดลิฟท์ไปที่ชั้น 69 “อร๊ายยยย ไอ้เฮียบ้า ทำไมถึงรู้ว่าหนูจะไปชั้นนั้นอ่ะ!!!” “เพ้อไรวะ” คราวนี้เฮียคินไม่พูดเปล่า เพราะขายาวๆนั่นก้าวเข้ามาหาฉันก้าวนึงจนฉันเลิ่กลั่กถอยหนีทำให้กล่องที่ซ้อนกันในมือโคลงเคลงไปหมด “จะไปชั้น 69?” เอ๋...หมายความว่าไงกันนะ ไอ้หน้าตามีเลศนัยแบบนั้นอ่ะ o_O? “ชะ...ใช่ แต่ออกไปเลยอย่าเข้ามาใกล้หนูนะ ไม่งั้นหนูกรี๊ดคอแตกจริงๆด้วย หนูอุตส่าห์หนีข้ามจังหวัดแล้วก็ยังจะตามมา เฮียเป็นบ้าไรเนี่ยฮะ >_<” “ถุย ยัยติงต๊อง ใครเค้าตามเธอวะ -_-” โอ้โหไม่ต้องเลยนะ และคอเสื้อน่ะจะแหวกไปถึงไหน น้ำหอมก็กลิ่นเดิมด้วยหนูจำได้ “ก็เฮียนี่ไง เข้ามาอีกก้าวเดียวหนูแจ้งตำรวจจริงด้วย จะเอาไงล่ะ” “เออ ไปแจ้งให้ไวเลยป่ะ โดดให้ลิฟท์ตกลงไปเลยมั้ยไวดี เอามะ -.-” ว้ากกก ม่ายยยย =[]=!!! พูดจบเฮียแกก็ทำท่าจะโดดจริง บ้าไปแล้ว กฎการใช้ลิฟท์ไม่เคยอ่านเลยไง๊ ภูเก็ตไม่มีลิฟท์หรอ เวลาอยู่ในนี้เค้าโดดเล่นกันสุ่มสี่สุ่มห้าซะที่ไหน!!! “อะ..ไอ้บ้า คนผีทะเล ไอ้ปีศาจ ตายก็ไม่กลัว ตำรวจก็ไม่กลัวหรอ เป็นลูกหลานคนมีอิทธิพลในยมโลกรึไงห๊าาา =[]=!” แล้วก็เหมือนเดิม พอได้ฟังเฮียคินก็ยักไหล่กวนๆส่งมาให้ ก่อนจะเดินถอยไปกดลิฟท์ให้และเอนตัวพิงหมายเลขชั้นพวกนั้นไว้ เห๊อะ! จะทำเป็นหลบเข้ามุมเหมือนกันสินะ ขี้ลอกจริงๆเลย แต่ก็ดี ต่างคนต่างอยู่ไปเลยไป เอ๊ะ... ไม่ได้สิ “เออนี่เฮีย” “……” อ่ะ ไม่ตอบ สงสัยชอบเสียงแหลม “นี่เฮี๊ยยยยย” “ไร -.-” นี่ไง! คือแบบ...นึกภาพตามนะ พี่แกจ้องฉันอยู่ตลอดเลยเนี่ย! แต่ไม่ตอบ พอตอบก็ตอบสั้น แต่ตานี่จ้องอยู่ได้ แบบนี้คือกวนประสาทช่ายม้ายยยย แล้วตอบแล้วอมยิ้มมุมปากแบบนั้นหมายความว่างายยย =[]=! “หนูพูดจริงนะเรื่องผูกจิตอ่ะ แม่บอกว่าถ้าเราผูกจิตกับใคร…” “ไม่เชื่อ” “เอ้า หนูยังไม่ได้พูดไรเลย” “ก็ไม่เชื่อ เรื่องดวงนั่นด้วย งมงาย” โอ้โห พูดเยอะพูดแยะ อย่ามาว่าแม่หมอ Myztery ของหนูนะ ก่อนออกจากบ้านหนูเช็คมา วันนี้ดวงดีมากจ้า แต่ตอนนี้ไม่ดีละอ่ะเจอตัวกาลกิณีแบบ Full HD ซะได้ ผีบ้า -*- “แล้วแต่! ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ! ไม่บอกละ!” “แม่บอกว่า?” เอ้า พ่อหนุ่มปากชมพูคนบร้าาา เมื่อกี๊จะบอกแล้วก็ไม่ฟัง แต่ตอนนี้จะฟังคืออารายห๊าาา? “No ค่ะ Brooo! ไม่บอก ไม่พูด จบนะ แล้วก็ไม่อยากผูกด้วยละ เอาจิตหนูขึ้นมา บายจ้า” ฉันจิกตาเบ้ปากใส่ แล้วใช้นิ้วสั้นๆที่เหลือกวักเรียกจิตตัวเองคืนมา ก่อนจะเงยหน้ามองตัวเลขบนแผงควบคุมว่าลิฟท์อยู่ชั้นไหน อ่าหะ... ชั้น 42 แล้วนี่นา อีกแป๊บก็ถึงละ “ถามว่าแม่บอกว่า?” แล้วท่ามกลางความเงียบที่ฉันไม่สนใจ เฮียคินที่จ้องฉันแบบไม่ละสายตาก็พูดขึ้นมา อ๊ะๆ จะง้อกันสินะ “ก็บอกว่าไม่บอกไงล่ะ ไม่เชื่อก็ไม่ต้องมาหลอกถามหรอก แม่บอกไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า -3-” “แปลกหน้าบ้าไร นี่ลูกเขยแม่ลืมป้ะ” พูดจบพี่แกก็ยักคิ้ว เห็นแล้วอยากจะเอากล่องปาจังเลยค่า สกิลยียวน 100% คือเฮียคิระะะ “หือออ -/////- ละ...ลูกเขยกำมะลอน่ะสิคะ เรียกหนูตั้งสามหมื่นทั้งที่ตัวเองก็รวยจะตาย ตอนนั้นทำเป็นงก แต่นี่! ดู! ซื้อคอนโดแพงขนาดนี้อยู่เลยเนี่ยนะ!!!” โถ๊ เอาจริงๆถ้าหนูรู้ว่ารวยขนาดนี้นะ จะโดดกัดคอตั้งแต่ที่สนามบิน สูบเลือดสูบเนื้อจนเหลือแต่กระดูกล่ะพ่อหนุ่มฮาวายสีคว้ากลิ่นหอมชื่นใจ ฮ่ะๆๆ! “ใครบอกว่าซื้อ แค่เล่นบิงโกชนะ” “อ่อหรอ บิงโกตาละห้าสิบล้านหรอคะ แล้วมีปาโป่งได้ไข่ไดโนเสาร์ด้วยมะ พาหนูไปบ้างสิ บนดาวพุธมีอะไรแบบนี้ด้วยหรอคะ” “เกินเยียวยาแล้วสินะ -_-” พอฉันพูดจาประชดประชันก็โดนเฮียคินบ่นงึมงำตอบกลับมา แบร่ๆๆ :P ตัวเองน่ะสิเกินเยียวยา “อะไรนะคะ เฮียอยากกินยาฆ่าหญ้า? ได้เล้ยยย ไว้วันหลังหนูซื้อมาให้นะ ยังไงพี่ชายหนูก็อยู่คอนโดนี้ตั้งสองคนแล้วนี่นา ฮ่ะๆๆๆ” “Nightshade?” นั่นแน่ รู้ด้วยยย >_< “ใช่ค่ะ เฮียวาโยคนนิสัยไม่ดีไงคะ ส่วนอีกคนก็...คนผีทะเลที่ขี้เก๊กที่สุดในจักรวาลฮาวายทรายสีขาว เวลาคนโทรเข้าก็มีเสียงระเบิดตู้มต้ามจนคนข้างๆต๊กกะใจ อ๊ะๆๆ เดาไม่ออกล่ะสิ๊ว่าเป็นใคร อีตาบ้านั่นก็คือเฮียคิระคนนี้นี่ไง ฮ่าๆๆๆๆ” ติ๊งงงงงงง! แล้วพอฉันพูดจบ ลิฟท์ก็เปิดออกที่ชั้น 68 ก่อนที่เฮียคิระจะหลุดขำออกมาแบบไม่ปิดบัง และค่อยๆก้าวขาออกไป โฮ่ะๆๆ ยิ้มจนได้ สงสัยจะชอบฉายาที่ตั้งให้ “หึ....โชคดียัยผีบ้า” เอ๋? ตาลุงนั่นพูดจาอวยพรคนอื่นเป็นด้วยหรือไงนะ แต่ตอบกลับหน่อยแล้วกันจะได้ไม่เสียมารยาทอ่ะ - -* “ค่ะ บ๊ายบายนะตาลุงขี้เก๊ก ต่อไปคงไม่ต้องเจอแล้วเพราะหนูเอาจิตคืนมาละ :P” แล้วประตูลิฟท์ก็ปิดลง งั้นก็เหลืออีกแค่ชั้นเดียวสินะ ดีจัง เมื่อยแขนจะตายอยู่แล้วอ่ะ -3- หืม...แต่ประตูลิฟท์ปิดลงไปพักใหญ่ๆเลยนะ และใช้เวลานานมากๆกว่าจะเปิดออกอีกทีอะ ติ๊งงงง! แล้วทันทีที่ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ฉันก็รีบร้อนเดินออกมาเพราะกลัวคุณป้าจะรอ แต่จังหวะที่ฉันกำลังจะก้าวขาออก สายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายบอกชั้นหน้าลิฟท์ว่านี่มันชั้น 74 อ่ะ =_=? What?!.... ทำไม 68 แล้ว 74 อ่ะ? แล้วชั้น 69 ไปไหน.... เห็นแบบนั้นฉันเลยเดินถอยกลับเข้ามาในลิฟท์และมองดูแผงควบคุมด้านล่างแบบงงๆ แล้วก็ต้อง.... กรี๊ดดดดดดดดดดด อีตาบ้าเฮียคินนนนน พี่แกกดชั้น 68 แล้ว 74 75 76 ไล่ให้ลิฟท์เปิดทีละชั้นยกเว้นชั้นที่ฉันจะไปเนี่ยนะ ว๊ากกกกก ถามจริงโกรธที่ฉันเอาจิตคืนใช่ม้ายยย ทำแบบนี้มันหาเรื่องกันชัดๆ แล้วต่อให้ออกจากลิฟท์ชั้น 74 ฉันก็ต้องเดินลงบันไดหนีไฟอีก 5 ชั้นไม่ใช่รึงายยยยยย ไอ้.... ไอ้..... กรี๊ดดดดด ด่าไม่ออกต้องกรี๊ดดดดดด เจออีกทีมีเรื่องแน่ หนูจะเอาคืนให้สาสม สาบานต่อหน้ากล่องกับป้ายหน้าลิฟท์วงกลมๆนั่นเลยนะ!!!หลายชั่วโมงต่อมา..."กลับมาแล้วค่าาา U_U"ฉันยื่นซองเอกสารที่ใส่ทะเบียนสมรสเป็นหลักฐานให้เฮียติณณ์ดู แล้วก็เพิ่งสังเกตว่าในนี้มีทั้ง Nightshade และ Nightshade's Lady นั่งอยู่"เอ้าโรส! แล้วก็พวกเฮียๆด้วยนี่นา สวัสดีค่าทุกคน~ ^_^""ไง ได้ข่าวว่าไม่โสดแล้วหรอ ใช่ม้า~"โรสเอ่ยปากแซวฉันก็หันไปยิ้มกับเฮียโย แต่ไม่ได้การละ เฮียๆอยู่ที่นี่ทั้งที"หึ๊ยยย ฟ้องเฮียดีกว่า เฮียขะ...."กึก...แล้วพอก้าวขาจะไปโผล่ตรงกลางระหว่างเฮียโยกับเฮียพาย อยู่ๆขาฉันก็ชะงักไปเพราะสายตาผู้หญิงของเฮียพายที่มองมาพอดี"เอ่อคือ...""ขอโทษนะ...ลิซ ที่วันนั้นเข้าใจผิด"เอ๋??? รุ่นพี่เป็นฝ่ายขอโทษฉันงั้นหรอ เรื่องจริงหรอเนี่ย ฉันเลยหันไปมองหน้าเฮียพายสลับกับเฮียคิน นี่อย่าบอกนะว่ามีใครไปทำอะไรมาเนี่ย"อ๋อ เอ่อคือ...ไม่เป็นไรเลยค่ะเจ๊...นิลลา แหะๆ""ว่า?"จังหวะที่ฉันหันไปยิ้มแห้งๆ เฮียพายก็ถามมา โอ๊ะเกือบลืมแหนะฟุ้บ!"คือว่าเฮียขาาา~ อะแฮ่ม ลิซขอแทรกหน่อยน้า เฮียขา เฮียคินบังคับให้หนูไปจดทะเบียน โดยมีเฮียติณณ์! เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดค่าา... อะแฮ่มอีกที! เฮียช่วยกระทืบใครสักคนให้หน่อยได้มั้ยคะ หนูปวดร้าวหัวใจมากที่เค้ามาป
วันต่อมา..."ไม่สนค่ะ! ถ้าไม่ใช่รูปนกฟีนิกซ์ หนูจะไม่ยอมประทับตราเด็ดขาด >[]ฉันตะโกนออกไปแบบแน่วแน่สุดๆไปเลย ก็มีอย่างที่ไหนอ่ะ ตื่นเช้ามายังไม่ทันจะอาบน้ำแปรงฟัน เฮียคินก็มาขู่ให้คนอื่นเค้าเอาดาบไขว้มาประทับไว้บนตัว และให้เหตุผลว่าการประทับตราเป็นการบ่งบอกว่าเราคือ Dark Shadow แต่โหย! ตั้งมีดดาบเชียวนะ เกิดมันมีชีวิตแล้วแทงเข้าไปในเนื้อหนังอันละเอียดอ่อนของฉันจะว่าไงอ่ะ =[]="Dark Shadow ต้องประทับตราเดียวกัน -_-""ก็หนูไม่อยากเป็....""ถ้าพูดมันออกมาอีกครั้ง..."เสียงเข้มกับสายตาดุๆถูกส่งมาให้ฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมอ่อนลงนิดนึง เชอะ! "อะไรคะ ที่จริงหมายถึงไม่อยากให้ตราประทับเป็นรูปมีดดาบต่างหากล่ะ -3-""เลือกตำแหน่งที่อยากประทับไว้เลย"พรึ่บ!พูดจบเฮียคินก็ลุกขึ้นจากเตียงเฉย เดี๊ยะๆ ทำเป็นมาสั่งเนาะ"ไม่! หนูไม่เลือก ไม่สนใจ ไม่ประทับตราแน่ๆจะบอกให้"ฟุ้บ!ฉันทิ้งตัวนอนแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปงไปเลย ก็ไม่อยากได้มีดดาบ ไม่ชอบอ่ะมันคม กลัวมันแทงเข้าไปควักไส้ หยึ๋ยยยย =[]=! ซาหยองจาตายยย"จะดื้อจนนาทีสุดท้ายเลยรึไง""ไม่ดื้อ! หนูไม่ได้ดื้อ หนูแค่ไม่ชอบ...""อาบน้ำแต่งตัว เช้าบินไปจดทะเบียน
"แย่จริงๆ คุณเปิดตัวอลังการขนาดนี้ ลูกหลานได้หัวใจวายกันพอดี :)""ท่านย่า""ท่านแม่"กึก!สิ้นสุดคำพูดของท่านปู่ เฮียคินที่ยืนอึ้งก็พูดออกมาเสียงสั่น เขาก้าวขาจะเดินตรงเข้าไปหาท่านย่าเช่นเดียวกับเจ๊เฟรย์ที่น้ำตาคลอขึ้นมาแบบฉับพลัน แต่ทั้งเฮียและเจ๊ก็ต้องชะงัก คงเพราะเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังประคองร่างเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่อาการสาหัส ท่านย่าเลยหันมองทั้งคู่ และเงยหน้ามองรุ่นพี่เตโชที่สีหน้าเขาเองก็ทึ่งไม่จากพี่น้องคนอื่นเลยสักนิดกึก...กึก...กึก...ไม่รอให้ใครพูดอะไร ท่านย่าปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเรียบ ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเฮียแม็คและรุ่นพี่เลโอที่ถูกประคองเอาไว้ เฮียแม็คพอเห็นแบบนั้น เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีขยับตัวให้หลุดจากการประคอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งคุกเข่าก้มหัวต่อหน้าท่านย่า และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก"ผมขอโทษครับท่าน ขอโทษ...สำหรับทุกเรื่องครับ"ภาพตรงหน้าทำให้ฉันหันมองเจ๊เฟรย์ที่ยืนนิ่งทันทีที่ได้ฟัง ท่านย่าเองก็มองไปที่เธอ และค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นวางบนบ่าเฮียแม็คที่ยังอยู่ในชุดเจ้าบ่าวที่ตนเองเป็นคนออกแบบ ก่อนจะตบบ่าเขาเบาๆ และพูดมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วันทดสอบหัวใจของรักษาการ...“โอเคมั้ย?”เฮียแม็คในชุดแปลกตาที่นั่งตรงข้ามกันพูดกับฉัน คงเพราะฉันเริ่มจะเลิ่กลั่ก ก็นี่มันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ฉันเลยส่ายหัวออกไปอย่างไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน“ใจเย็นๆลิซ"“หนูอาจไม่ใช่หนึ่งสตรีที่เค้าตามหากันก็ได้”นั่นสินะ... อย่าว่าแต่การเป็นหนึ่งสตรีเลย คนที่ร่ำลือว่าเป็นเนื้อคู่ตอนนี้ ฉันเห็นเขาแค่แว๊บเดียวเมื่อเช้าที่ห้องแต่งตัว แล้วเฮียคินก็เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ มีแค่คำสั่งที่กำชับพี่ไคยะเอาไว้ว่าให้ฉันอยู่แต่ในห้องนี้“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการเป็นหนึ่งสตรีตรงไหน”เฮียแม็คทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มือก็เอื้อมมาหยิบสมุดโน้ตฉันไปเปิดดูสิ่งที่ฉันพอจะนึกอะไรได้แล้วโน้ตเพิ่มลงไป“เกี่ยวสิคะ ก็แค่ทดสอบยังทำไม่ได้ แถมหนูตะคอกใส่เฮียคินกับท่านปู่เสียงดังมากด้วย กับเฮียคินน่ะ...เราคุยกันน้อยลงมาก ช่วงวันสองวันนี้ U_U"“ไอ้คินมันยุ่งๆ อย่าคิดมาก ส่วนเรื่องในห้องประชุม คนเรามันก็ตกใจกันได้”“...เฮียแม็ค”“?”ฉันส่งเสียงเรียกคนตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน เขาก็แค่เลิกคิ้วขึ้นนิดนึง แล้วก็นะ มันดูอ่อนแอมากเลยที่จะต้องพูดว่า...“หนูอยากกลับบ้านค่ะ"แล้วแค่นั้นเฮีย
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...- ห้องทำงานคิระ -แกร๊กๆๆๆ“จิ๊!”“อย่าเครียดนักสิ”“มันอีกแค่นิดเดียวเองค่ะ เหมือน XVII ตั้งใจปั่นประสาทหนูน่าดู ย้ายโลเคชั่นทุกครั้งที่ออนไลน์เลยมั้ง โรคจิต!”“.......”ฉันตอบกลับเฮียคินทั้งที่มือยังคาอยู่บนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คแบบนี้ แล้วเพราะโดนเฮียเงียบใส่นี่แหละ เลยทำให้ฉันหยิบมีดสั้นเล่มนึงใกล้ๆมือปาออกไปที่เป้าข้างหลังเขาแบบหงุดหงิดฉึก!หึ...มันดูแปลกใช่มั้ยล่ะ ที่มีเป้านิ่งให้ระบายอารมณ์ได้เต็มที่ แต่เป้านี้ยังถือเป็นอะไรที่เบสิคมากเลย เพราะในห้องเฮียคินไม่เหมือนห้องเจ๊เฟรย์เลยสักนิด เขาเอาอาวุธเยอะแยะมาวางเรียงเป็นของตกแต่งเหมือนที่ชอบเอาปืนซ่อนไว้ในทุกอาณาเขตของคอนโดไม่มีผิด“ยังปาแม่นเหมือนเดิมนี่ หนึ่งสตรี”“เฮียแม็ค~”เสียงที่คุ้นหูทำให้ฉันละสายตาจากเป้ามองคนที่เดินเข้ามาในห้องทันที แล้วเฮียคินนี่ออกตัวดุมาเชียว“ดีใจกว่าเจอหน้าผัวอีก -.-”ชิชะ! ไม่ต้องเลยนะ ทำมาเป็นพูดดี“เฮียแม็คไปไหนมาคะเนี่ย ไม่เจอตั้งหลายวันอ่ะ”“มันไล่”“อ้าว จับได้แล้วเจ้าตัวดี -3-”พอฟังเฮียแม็คตอบมา ฉันก็ส่งสายตาฟาดฟันไปให้เฮีย เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่ที่จริงเฮียคินก็บอกฉันแล้วล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา...“ลิซ...จะไม่พูดไรหน่อยเลยหรอ?”นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนั่งฟังความจริงว่าพวกเขาเป็นใคร? Dark Shadow คืออะไร? จากปากเฮียคินและเจ๊เฟรย์ ซึ่งพี่เคนชินและพี่ไคยะเองก็อยู่ที่นี่และทุกคนกำลังจ้องมาแต่เฮียคินกับเจ๊ก็พูดไม่หมด ทั้งสองคนพูดถึงการทำความผิดของสภาก็จริง แต่ก็ไม่ได้พูดถึงวิธีน่ากลัวที่ใช้จัดการกับสภาไปแล้ว น้่นก็คือความโหดร้ายที่เฮียคินกับรุ่นพี่เตโชทำ ซึ่งอย่างที่รู้กัน ฉันเห็นภาพเหตุการณ์ตอนพิพากษาพวกนั้นเมื่อกี๊ ถึงจะไม่มีช่วงที่รุนแรงเลือดสาดมันก็พอจะรู้อยู่ดีและที่เล่ามามันก็มีเรื่องใหม่ๆที่ฉันไม่ได้รู้ลึกอย่างความสัมพันธ์ที่เคยมีปัญหาของเฮียคินกับรุ่นพี่ แต่บอกตามตรงนะฉันก็ยังแอบโกรธรุ่นพี่เตโชอยู่ดี แล้วก็กำลังสนใจเรื่อง XVII มากกว่าด้วยตอนนี้“หนูเข้าใจทุกอย่างเลยค่ะ”ฉันเลือกจะตอบคำถามท่ามกลางความเงียบในห้องแบบขอไปที เฮียคินพอเห็นฉันนิ่งก็มองมาและทำท่าจะพูดอะไร ฉันเลยชิงพูดไปก่อน“เจ๊คะ หนูขอยืมได้มั้ย โน้ตบุ๊คเครื่องนี้”ได้ฟังแบบนั้นเจ๊เฟรย์ไม่ได้อิดออดอะไร แถมยังหันไปพยักหน้าให้พี่เคนชินหยิบมันมาทันทีและพอได้มา สิ่งแรกที่ฉันอยากจะมั่นใจก่อน คือ X